(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 121

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 121 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ยามเช้าตรู่

เฮเลนาตื่นและลุกขึ้นจากที่นอนก่อนตะวันขึ้น

ในชั่วขณะที่ตื่นขึ้นมานั้นเธอรู้สึกสับสนเล็กน้อยเพราะเห็นทัศนียภาพที่ไม่คุ้นเคย ก่อนจะนึกออกว่าเธอได้ย้ายเตียงมานอนอยู่ตรงหน้าประตู และเมื่อทอดสายตาออกไปก็พบได้ว่าศิษย์ทั้งห้ากำลังนอนหลับสนิทเหมือนตายกันเลยทีเดียว

คนที่นอนดิ้นหนักที่สุดดูเหมือนจะเป็นชาร์ลอตเต ซึ่งกำลังนอนอยู่ในท่าที่ไม่สมเป็นกุลสตรีเท่าไหร่นัก ในทางกลับกันคนที่นอนนิ่งที่สุดเห็นจะเป็นคลาริสซากระมัง ‘เห็นใบหน้าตอนนอนแบบนี้ทุกคนก็น่าเอ็นดูนะ’ เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่ก็ส่ายหน้าห้ามปรามตนเองไว้

เฮเลนาเป็นครูฝึก

กับห้าคนนี้แล้ว เธอต้องปฏิบัติด้วยอย่างเข้มงวดอยู่เสมอ

 

“เอาล่ะ”

 

ถึงกระนั้นตอนนี้ก็นับว่ายังเช้าเกินไปอยู่ดี

เพราะเฮเลนาได้นอนหลับพักผ่อนไปพร้อมกับทั้งห้าคน จึงไม่มีความง่วงหลงเหลือแม้แต่น้อยแล้ว เธอจึงตัดสินใจฝึกฝนร่างกายในส่วนของตนเองบ้าง ซึ่งเมื่อวานเธอไม่ได้ทำเพราะมัวแต่ชี้แนะให้ทั้งห้าคนอยู่เป็นส่วนใหญ่นั่นเอง

อันดับแรกเฮเลนาเปลี่ยนไปสวมชุดที่เคลื่อนไหวง่าย แล้วก็เริ่มวิดพื้น ซิตอัป ตามด้วยสควอต ส่งเสียง ‘ฮึบ ฮึบ’ จนเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผาก และในระหว่างที่กำลังคิดว่า ‘พอเท่านี้ดีไหมนะ’ พลางซับหน้าผากเบา ๆ อยู่นั่นเอง ฟ้าข้างนอกก็เริ่มสว่างในที่สุด

การฝึกทหารใหม่ (บู้ตแคมป์) จากนรก—วันที่สองได้เปิดม่านขึ้นแล้ว

 

‘ซู้ดด’ เฮเลนาสูดลมหายใจลึก ๆ

เบื้องหน้าของเฮเลนาก็คือศิษย์ทั้งห้า—เหล่าบุตรีขุนนางที่กำลังนอนหลับเป็นตายพลางส่งเสียงกรนเบา ๆ

ยามเช้าของทหารนั้นมาถึงเร็วเสมอ และยิ่งเป็นทหารใหม่ก็ยิ่งต้องเร็วขึ้นไปอีก

 

“ทั้งหมด ตื่นนอน!!”

 

“ห้ะ!?”

 

“ฮี่ย์!?”

 

“เอ๋!?”

 

“หวา!?”

 

“ว้าย!?”

 

เสียงของเฮเลนานั้นดังยิ่ง โดยพื้นฐานผู้ที่จะนำทัพได้ก็ต้องรู้จักส่งเสียงดังอยู่แล้ว มิเช่นนั้นคงไม่สามารถสร้างขวัญกำลังใจให้เหล่าทหารได้

และเสียงนั้นของเฮเลนาก็ดังถึงขนาดทำให้เหล่าเด็กสาวที่หลับเป็นตายอยู่จนถึงเมื่อครู่ตื่นขึ้นมาได้ในพริบตาเลยทีเดียว

 

“อ อะไรกันเจ้าคะ……?”

 

“ง่วงอ่า……”

 

“ตื่นนอน! ทุกคนเปลี่ยนเป็นชุดฝึกซะ!”

 

“เอ๋……”

 

บรรดาศิษย์ที่ยังคงอยู่ในชุดนอนได้แสดงท่าทีงัวเงียให้เห็น

ทว่าเฮเลนาย่อมไม่ปล่อยให้นอนแบบนั้นอยู่ต่อไปได้

‘ป้าบ’ เธอฟาดพัดกระดาษใส่โซฟาเพื่อข่มขวัญ

 

“รีบเปลี่ยนชุดซะ!”

 

“ฮี่ย์! ค่ะ!!”

 

“โธ่ ไม่เอาแล้ว……”

 

“อุ……”

 

“เปลี่ยนเสร็จเมื่อไรก็มายืนเรียงแถว!”

 

ทุกคนลุกขึ้นมาอย่างเชื่องช้าก่อนจะเริ่มเปลี่ยนชุด

แองเจลิกานั้นช้าที่สุดและยังมีสีหน้าไม่พอใจด้วย คงเป็นเพราะในฐานะราชนิกุลแล้วเธอได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างไร้ซึ่งความลำบากใด ๆ กระมัง

เฮเลนาฟาดพัดกระดาษโดยไม่พูดไม่จา แล้วก็เขม่นใส่ด้วยความตั้งใจข่มขวัญยิ่งขึ้นไปอีก

เพียงแค่นั้นก็ทำให้แองเจลิการ้อง ‘อึ๋ย!’ แล้วก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว

 

เมื่อทุกคนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็มายืนเรียงแถว

อันที่จริง ในการฝึกทหารใหม่ตามปกติหลังจากตื่นนอนและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจะต้องมีการเก็บเตียงให้เรียบร้อยด้วย แต่เพราะโดนอเลกเซียบอกมาว่า “ได้โปรดอย่าแย่งงานพวกข้าไปเลยค่ะ” การเก็บเตียงก็เลยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบรรดานางกำนัลไป

 

“ขานเลข—!”

 

“หนึ่ง—!”

 

“สอง—!”

 

“สาม—!”

 

“สี่—!”

 

“ห้า—!”

 

“ดีมาก!”

 

แม้ใบหน้าจะยังดูมีความง่วงนอนหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ยังส่งเสียงได้ดีกว่าตอนเช้าของเมื่อวาน

คงจดจำการฝึกเมื่อวานทั้งวันกันได้อยู่สินะ ดังนั้นพวกเธอถึงได้เรียนรู้แล้วว่าจะแข็งข้อกับเฮเลนาไม่ได้

 

“เช่นนั้นก็มาเริ่มการฝึกกัน! ทุกคนไปรวมพลกันที่สวน!”

 

“ค่ะ!!”

 

เฮเลนาเคลื่อนย้ายเตียงของตนเองเพื่อเปิดทางเข้าออก

อย่างไรเสียก็คงต้องย้ายเตียงกลับที่เดิมในตอนกลางคืนอยู่ดี ดังนั้นเธอจึงแค่เลื่อนมันออกไปให้พ้นทางเท่านั้น ก่อนเดินประกบหลังของทั้งห้าคนและมุ่งหน้าไปยังสวนระหว่างอาคาร

แองเจลิกานั้นชำเลืองมองด้านหลังอยู่เป็นระยะ แต่พอสบตากับเฮเลนาก็หน้ายู่ไป

บางทีเธอคงตั้งใจไว้ว่าหนีไประหว่างทางกระมัง แน่นอนว่าเฮเลนาไม่ปล่อยให้มีโอกาสเช่นนั้นหรอก

และแล้วเมื่อมาถึงที่สวน ทั้งห้าก็ยืนเรียงแถวกันโดยไม่ต้องสั่ง

เฮเลนาเริ่มด้วยการไปยืนต่อหน้าห้าคนนั้น

 

“เอาล่ะ เริ่มกายบริหารยืดกล้ามเนื้อ! ขยับร่างกายตามข้า!”

 

“ค่ะ!!”

 

ต่อให้เป็นการฝึกทหารใหม่ แต่ในตอนแรกก็ต้องเริ่มจากการทำกายบริหารก่อน

ขยับร่างกายเบา ๆ เพื่อให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นที่จำเป็นต่อการฝึกหนักซึ่งกำลังจะตามมา

 

หลังจากกายบริหารยืดกล้ามเนื้อกันไปได้สักพักจนร่างกายเริ่มอุ่นขึ้นทั้งตัวแล้ว

 

“ต่อไปเราจะวิ่งเบา ๆ กัน! ให้ฟรองซัวส์เป็นหัวแถว วิ่งไปทางทิศใต้ของสวน!”

 

“ค่ะ!!”

 

“เริ่มได้!!”

 

ฟรองซัวส์ คลาริสซา มาริเอล ชาร์ลอตเต แองเจลิกา ตามลำดับ ออกวิ่งไปตามทางตัดผ่านสวนระหว่างอาคารวนรอบวังหลังซึ่งเพิ่งจะสร้างเสร็จหมาด ๆ เมื่อไม่กี่วันนี้เอง

มันเป็นเส้นทางวิ่งที่มีลักษณะเป็นรูปตัว U โดยที่ปลายทางแต่ละด้านมีการถางพื้นที่ไว้ให้กว้างกว่าปกติเล็กน้อย แม้จะน่าเสียดายที่ไม่ใช่ลู่วิ่งซึ่งวิ่งวนไปได้อย่างต่อเนื่อง แต่หากวิ่งไปถึงทางตันแล้วเลี้ยวกลับมาทั้งแบบนั้นก็คงพอทดแทนกันได้

เฮเลนาตามประกบไปด้านหลังของแองเจลิกาอีกทอดหนึ่ง พลางจับตามองทั้งห้าอย่างใกล้ชิด

อันที่จริงจะให้เฮเลนาวิ่งนำหน้าก็ได้ แต่คงไม่มีใครที่วิ่งตามความเร็วของเธอได้ทันกระมัง ความเร็วของเหล่าศิษย์ในตอนนี้หากมองจากมุมของเธอแล้วมันยังเหมือนการเดินเร็ว ๆ เท่านั้นเอง

 

“อย่าวิ่งอืดอาด! ออกแรงกันหน่อย!”

 

“ค่ะ!!”

 

“ถึงทางตันแล้วเลี้ยวกลับไปตามทางที่มา ไปทางสวนระหว่างอาคาร!”

 

“ค่ะ!!”

 

เมื่อฟรองซัวส์ไปถึงทางตันครั้งแรก เธอก็เลี้ยวกลับมาทั้งแบบนั้น

นี่คือทางวิ่งซึ่งเฮเลนาอยากได้มาตลอดตั้งแต่ตอนแรกที่ตัดสินใจจัดการฝึกอบรบให้ฟรองซัวส์ เธอมองดูคอร์สวิ่งนี้ที่สร้างขึ้นมาได้เพราะกองอัศวินหมาป่าเงินทุกคนแล้วก็ยิ้มเล็กน้อยในขณะที่วิ่งไปด้วย

จากนั้นขบวนที่มีฟรองซัวส์เป็นหัวแถวก็กลับมาถึงสวนระหว่างอาคารอีกครั้ง

 

“ต่อไป วิ่งคอร์สตรงกันข้าม!”

 

“ค่ะ!!”

 

วิ่ง

วิ่ง

วิ่ง

แล้วก็วิ่ง

 

เมื่อผ่านสวนระหว่างอาคารเป็นรอบที่ห้า หรือก็คือวิ่งไปถึงทางตันเป็นรอบที่สิบแล้ว ทุกคนก็เริ่มมีอาการเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด

ในชีวิตที่ผ่านมาพวกเธอแทบไม่เคยได้วิ่งกันเลย ดังนั้นจะเริ่มออกอาการหลังจากวิ่งเป็นระยะทางเท่านี้ก็ไม่แปลกอะไร

 

“แฮ่ก แฮ่ก……”

 

“ฮี่ย์……”

 

“ฮืด ฮาด……”

 

“เอาล่ะ!!”

 

ในตอนที่กำลังอยู่บนส่วนทางตรงที่ยาวที่สุด

เฮเลนาก็ได้ส่งเสียงขึ้น ซึ่งทำให้พวกเธอก็รู้สึกยินดีขึ้นมาเล็กน้อย

‘คงพอเท่านี้แล้วสินะ’ –ในชั่วขณะที่เหล่าบุตรีขุนนางกำลังนึกโล่งใจอยู่นั่นเอง

 

“แองเจลิกา! เร่งความเร็ว! แซงฟรองซัวส์ไปอยู่หัวแถวซะ!”

 

“เอ๋—!?”

 

“ห้ามปฏิเสธ! ไป!!”

 

“อึ๋ย!!”

 

เมื่อทำท่าจะฟาดพัดกระดาษ แองเจลิกาก็มีสีหน้าหวาดกลัวแล้วก็รีบวิ่งไปทันที

หากมองจากมุมของเฮเลนาแล้ว แน่นอนว่ามันเชื่องช้าเหลือเกิน ทว่าก็ยังเป็นความเร็วที่มากกว่าคนอื่นอยู่เล็กน้อย

แองเจลิกาวิ่งแซงฟรองซัวส์ขึ้นไปยังหัวแถว แล้วเธอก็กลายเป็นหัวแถวไปทั้งแบบนั้น

 

“ต่อไปชาร์ลอตเต! ไปหัวแถว!”

 

“อ อะไรกันเนี่ยเจ้าคะ—!”

 

“ไป—!!”

 

“ไม่เอาแล้วเจ้าค่ะ—!!”

 

แม้จะตะโกน ‘ม่ายยยยย’ ไปพลาง แต่ชาร์ลอตเตก็เร่งความเร็วขึ้นไปยังหัวแถว

จากนั้นเฮเลนาให้ทุกคนได้โอกาสทำแบบเดียวกัน

แทนที่จะวิ่งต่อเนื่องไปเฉย ๆ หากผสมผสานการเร่งความเร็วแบบนี้เข้าไปด้วยมันก็จะเป็นการฝึกที่ดียิ่งขึ้น

 

และแล้ว เมื่อวิ่งกลับมาถึงสวนระหว่างอาคารเป็นรอบที่สิบ เธอจึงให้หยุด

 

“เอาล่ะ!! พอแค่นั้น!!”

 

“ฮี่ย์……”

 

ฮืด ฮาด

ทั้งห้าหอบหายใจทรุดตัวลงไปโดยที่มีเฮเลนามองดูอยู่ห่าง ๆ

เอาเป็นว่าช่วงเช้าตรู่พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน

 

“ต่อไป พักเหนื่อยแล้วก็มากินอาหารเช้ากัน! อเลกเซีย!”

 

“ค่ะ”

 

เหล่านางกำนัลหกคนซึ่งเตรียมพร้อมรออยู่ใกล้สวนระหว่างอาคารได้ช่วยกันจัดโต๊ะและเก้าอี้โดยมีอเลกเซียเป็นผู้นำ

จากนั้นจานอาหารก็ได้รับการนำมาจัดวางราวกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา เป็นสำรับยามเช้าตามปกติทั่วไป

‘แฮ่ก แฮ่ก’ เหล่าเด็กสาวที่ยังหอบหายใจอยู่ได้พากันนั่งลงบนเก้าอี้เหล่านั้นทีละคน

และเมื่อได้เห็นสำรับเช้าที่เรียงรายอยู่นั้น ก็แสดงสีหน้าหม่นหมองออกมา

 

“เช่นนั้นก็เริ่มมื้อเช้าได้! กินเหลือหนึ่งคนวิดพื้นเพิ่มร้อยครั้ง!”

 

“อ๊า—!! ปัดโธ่—!!”

 

“ไม่น้า—!”

 

เหล่าศิษย์เริ่มกินอาหารเช้ากันอย่างสิ้นหวัง

ในการฝึกทหารใหม่ปกติแล้วจะต้องมีการกำหนดเวลาในการกินด้วย แต่ไปบังคับถึงขนาดนั้นก็คงจะไม่ดี เฮเลนาจึงให้พวกเธอได้กินกันตามอัธยาศัย

ส่วนฟรองซัวส์ก็ยังกินหง่ำ ๆ เช่นเคยอย่างไม่มีทีท่าว่าความอยากอาหารจะลดลงเลย ดูเหมือนเธอจะมีลักษณะนิสัยที่กินอาหารได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนก็ตาม

 

“เอ่อ ท่านเฮเลนาคะ……ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ?”

 

“มีอะไรรึคลาริสซา”

 

“ได้ยินมาว่าการฝึกนี้จะใช้เวลาหนึ่งเดือนน่ะค่ะ……”

 

“อื้ม”

 

“เมื่อผ่านหนึ่งเดือนไปได้……มันจะมีอะไรหรือคะ?”

 

“หืม?”

 

เมื่อได้ฟังคำถามของคลาริสซา เฮเลนาก็ขมวดคิ้ว

การฝึกทหารใหม่นั้น เมื่อจบลงก็จะได้เป็นทหารเต็มตัว และผู้ที่ผ่านการฝึกทหารใหม่ก็จะได้ไปประจำการตามกองทัพต่าง ๆ

ทว่า ที่แห่งนี้คือวังหลัง

ต่อให้จบหลักสูตรการฝึกทหารใหม่แล้ว พวกเธอก็ไม่มีที่ไหนให้ไปต่อเป็นพิเศษ

 

“อืม……”

 

“ม ไม่เป็นไรค่ะ ข้าแค่สงสัยเฉย ๆ น่ะค่ะ เอ่อ……!”

 

“ไม่หรอก ว่าไปแล้วข้าก็ไม่ได้คิดไว้จริง ๆ”

 

หากรู้ว่าก้าวข้ามไปได้แล้วมีอะไรรออยู่ คนเราก็จะมีความกระตือรือร้นมากขึ้น

หากยกเว้นฟรองซัวส์ซึ่งมีเป้าหมายในการเป็นภรรยาที่คู่ควรกับบาร์โตโลเมอยู่แล้ว อีกสี่คนก็ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษ

บางทีเฮเลนาอาจต้องช่วยคิดหาอะไรสักอย่าง

 

“เช่นนั้น……นั่นสินะ หากพวกเจ้าสามารถก้าวข้ามหนึ่งเดือนนี้ไปได้ ข้าจะเตรียมรางวัลอะไรสักอย่างไว้ให้แล้วกัน”

 

“รางวัล……หรือคะ?”

 

“อา อย่างเช่นคลาริสซา สำหรับเจ้า……จะหาโอกาสให้ได้เจอกับพี่ชายข้าเป็นไง”

 

“จะพยายามอย่างสุดชีวิตเลยค่ะ!!”

 

ดูเหมือนนั่นจะทำให้มีกำลังใจกว่าที่คิดไว้ซะอีกแฮะ

พลังใจของคลาริสซาพุ่งกระฉูดอย่างเห็นได้ชัด ราวกับมีไฟลุกพรึ่บขึ้นมาในดวงตาเลยทีเดียว

ถึงเฮเลนาจะไม่เข้าใจว่าไอ้ซิสค่อนคนนั้นมันมีอะไรให้หลงไหลถึงขนาดนั้นก็เถอะ

 

“ท ท่านเฮเลนาคะ! แล้วข้าล่ะ!”

 

“อ่า จะคิดเผื่อไว้ให้คนที่เหลือด้วย ตั้งตารอไว้ให้ดี แล้วก็ก้าวข้ามหนึ่งเดือนนี้ให้ดูซะสิ”

 

“ค่ะ!!”

 

การใช้ไม้อ่อนสลับไม้แข็งบ้างเป็นเรื่องสำคัญ

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม

 

“ร รางวัล……จากท่านพี่หญิง……!”

 

เฮเลนาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสันหลังกับสายตาอันร้อนแรงที่มาริเอลส่งมาให้เธออยู่ดี

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 121

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 121 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ยามเช้าตรู่

เฮเลนาตื่นและลุกขึ้นจากที่นอนก่อนตะวันขึ้น

ในชั่วขณะที่ตื่นขึ้นมานั้นเธอรู้สึกสับสนเล็กน้อยเพราะเห็นทัศนียภาพที่ไม่คุ้นเคย ก่อนจะนึกออกว่าเธอได้ย้ายเตียงมานอนอยู่ตรงหน้าประตู และเมื่อทอดสายตาออกไปก็พบได้ว่าศิษย์ทั้งห้ากำลังนอนหลับสนิทเหมือนตายกันเลยทีเดียว

คนที่นอนดิ้นหนักที่สุดดูเหมือนจะเป็นชาร์ลอตเต ซึ่งกำลังนอนอยู่ในท่าที่ไม่สมเป็นกุลสตรีเท่าไหร่นัก ในทางกลับกันคนที่นอนนิ่งที่สุดเห็นจะเป็นคลาริสซากระมัง ‘เห็นใบหน้าตอนนอนแบบนี้ทุกคนก็น่าเอ็นดูนะ’ เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่ก็ส่ายหน้าห้ามปรามตนเองไว้

เฮเลนาเป็นครูฝึก

กับห้าคนนี้แล้ว เธอต้องปฏิบัติด้วยอย่างเข้มงวดอยู่เสมอ

 

“เอาล่ะ”

 

ถึงกระนั้นตอนนี้ก็นับว่ายังเช้าเกินไปอยู่ดี

เพราะเฮเลนาได้นอนหลับพักผ่อนไปพร้อมกับทั้งห้าคน จึงไม่มีความง่วงหลงเหลือแม้แต่น้อยแล้ว เธอจึงตัดสินใจฝึกฝนร่างกายในส่วนของตนเองบ้าง ซึ่งเมื่อวานเธอไม่ได้ทำเพราะมัวแต่ชี้แนะให้ทั้งห้าคนอยู่เป็นส่วนใหญ่นั่นเอง

อันดับแรกเฮเลนาเปลี่ยนไปสวมชุดที่เคลื่อนไหวง่าย แล้วก็เริ่มวิดพื้น ซิตอัป ตามด้วยสควอต ส่งเสียง ‘ฮึบ ฮึบ’ จนเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผาก และในระหว่างที่กำลังคิดว่า ‘พอเท่านี้ดีไหมนะ’ พลางซับหน้าผากเบา ๆ อยู่นั่นเอง ฟ้าข้างนอกก็เริ่มสว่างในที่สุด

การฝึกทหารใหม่ (บู้ตแคมป์) จากนรก—วันที่สองได้เปิดม่านขึ้นแล้ว

 

‘ซู้ดด’ เฮเลนาสูดลมหายใจลึก ๆ

เบื้องหน้าของเฮเลนาก็คือศิษย์ทั้งห้า—เหล่าบุตรีขุนนางที่กำลังนอนหลับเป็นตายพลางส่งเสียงกรนเบา ๆ

ยามเช้าของทหารนั้นมาถึงเร็วเสมอ และยิ่งเป็นทหารใหม่ก็ยิ่งต้องเร็วขึ้นไปอีก

 

“ทั้งหมด ตื่นนอน!!”

 

“ห้ะ!?”

 

“ฮี่ย์!?”

 

“เอ๋!?”

 

“หวา!?”

 

“ว้าย!?”

 

เสียงของเฮเลนานั้นดังยิ่ง โดยพื้นฐานผู้ที่จะนำทัพได้ก็ต้องรู้จักส่งเสียงดังอยู่แล้ว มิเช่นนั้นคงไม่สามารถสร้างขวัญกำลังใจให้เหล่าทหารได้

และเสียงนั้นของเฮเลนาก็ดังถึงขนาดทำให้เหล่าเด็กสาวที่หลับเป็นตายอยู่จนถึงเมื่อครู่ตื่นขึ้นมาได้ในพริบตาเลยทีเดียว

 

“อ อะไรกันเจ้าคะ……?”

 

“ง่วงอ่า……”

 

“ตื่นนอน! ทุกคนเปลี่ยนเป็นชุดฝึกซะ!”

 

“เอ๋……”

 

บรรดาศิษย์ที่ยังคงอยู่ในชุดนอนได้แสดงท่าทีงัวเงียให้เห็น

ทว่าเฮเลนาย่อมไม่ปล่อยให้นอนแบบนั้นอยู่ต่อไปได้

‘ป้าบ’ เธอฟาดพัดกระดาษใส่โซฟาเพื่อข่มขวัญ

 

“รีบเปลี่ยนชุดซะ!”

 

“ฮี่ย์! ค่ะ!!”

 

“โธ่ ไม่เอาแล้ว……”

 

“อุ……”

 

“เปลี่ยนเสร็จเมื่อไรก็มายืนเรียงแถว!”

 

ทุกคนลุกขึ้นมาอย่างเชื่องช้าก่อนจะเริ่มเปลี่ยนชุด

แองเจลิกานั้นช้าที่สุดและยังมีสีหน้าไม่พอใจด้วย คงเป็นเพราะในฐานะราชนิกุลแล้วเธอได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างไร้ซึ่งความลำบากใด ๆ กระมัง

เฮเลนาฟาดพัดกระดาษโดยไม่พูดไม่จา แล้วก็เขม่นใส่ด้วยความตั้งใจข่มขวัญยิ่งขึ้นไปอีก

เพียงแค่นั้นก็ทำให้แองเจลิการ้อง ‘อึ๋ย!’ แล้วก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว

 

เมื่อทุกคนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็มายืนเรียงแถว

อันที่จริง ในการฝึกทหารใหม่ตามปกติหลังจากตื่นนอนและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจะต้องมีการเก็บเตียงให้เรียบร้อยด้วย แต่เพราะโดนอเลกเซียบอกมาว่า “ได้โปรดอย่าแย่งงานพวกข้าไปเลยค่ะ” การเก็บเตียงก็เลยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบรรดานางกำนัลไป

 

“ขานเลข—!”

 

“หนึ่ง—!”

 

“สอง—!”

 

“สาม—!”

 

“สี่—!”

 

“ห้า—!”

 

“ดีมาก!”

 

แม้ใบหน้าจะยังดูมีความง่วงนอนหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ยังส่งเสียงได้ดีกว่าตอนเช้าของเมื่อวาน

คงจดจำการฝึกเมื่อวานทั้งวันกันได้อยู่สินะ ดังนั้นพวกเธอถึงได้เรียนรู้แล้วว่าจะแข็งข้อกับเฮเลนาไม่ได้

 

“เช่นนั้นก็มาเริ่มการฝึกกัน! ทุกคนไปรวมพลกันที่สวน!”

 

“ค่ะ!!”

 

เฮเลนาเคลื่อนย้ายเตียงของตนเองเพื่อเปิดทางเข้าออก

อย่างไรเสียก็คงต้องย้ายเตียงกลับที่เดิมในตอนกลางคืนอยู่ดี ดังนั้นเธอจึงแค่เลื่อนมันออกไปให้พ้นทางเท่านั้น ก่อนเดินประกบหลังของทั้งห้าคนและมุ่งหน้าไปยังสวนระหว่างอาคาร

แองเจลิกานั้นชำเลืองมองด้านหลังอยู่เป็นระยะ แต่พอสบตากับเฮเลนาก็หน้ายู่ไป

บางทีเธอคงตั้งใจไว้ว่าหนีไประหว่างทางกระมัง แน่นอนว่าเฮเลนาไม่ปล่อยให้มีโอกาสเช่นนั้นหรอก

และแล้วเมื่อมาถึงที่สวน ทั้งห้าก็ยืนเรียงแถวกันโดยไม่ต้องสั่ง

เฮเลนาเริ่มด้วยการไปยืนต่อหน้าห้าคนนั้น

 

“เอาล่ะ เริ่มกายบริหารยืดกล้ามเนื้อ! ขยับร่างกายตามข้า!”

 

“ค่ะ!!”

 

ต่อให้เป็นการฝึกทหารใหม่ แต่ในตอนแรกก็ต้องเริ่มจากการทำกายบริหารก่อน

ขยับร่างกายเบา ๆ เพื่อให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นที่จำเป็นต่อการฝึกหนักซึ่งกำลังจะตามมา

 

หลังจากกายบริหารยืดกล้ามเนื้อกันไปได้สักพักจนร่างกายเริ่มอุ่นขึ้นทั้งตัวแล้ว

 

“ต่อไปเราจะวิ่งเบา ๆ กัน! ให้ฟรองซัวส์เป็นหัวแถว วิ่งไปทางทิศใต้ของสวน!”

 

“ค่ะ!!”

 

“เริ่มได้!!”

 

ฟรองซัวส์ คลาริสซา มาริเอล ชาร์ลอตเต แองเจลิกา ตามลำดับ ออกวิ่งไปตามทางตัดผ่านสวนระหว่างอาคารวนรอบวังหลังซึ่งเพิ่งจะสร้างเสร็จหมาด ๆ เมื่อไม่กี่วันนี้เอง

มันเป็นเส้นทางวิ่งที่มีลักษณะเป็นรูปตัว U โดยที่ปลายทางแต่ละด้านมีการถางพื้นที่ไว้ให้กว้างกว่าปกติเล็กน้อย แม้จะน่าเสียดายที่ไม่ใช่ลู่วิ่งซึ่งวิ่งวนไปได้อย่างต่อเนื่อง แต่หากวิ่งไปถึงทางตันแล้วเลี้ยวกลับมาทั้งแบบนั้นก็คงพอทดแทนกันได้

เฮเลนาตามประกบไปด้านหลังของแองเจลิกาอีกทอดหนึ่ง พลางจับตามองทั้งห้าอย่างใกล้ชิด

อันที่จริงจะให้เฮเลนาวิ่งนำหน้าก็ได้ แต่คงไม่มีใครที่วิ่งตามความเร็วของเธอได้ทันกระมัง ความเร็วของเหล่าศิษย์ในตอนนี้หากมองจากมุมของเธอแล้วมันยังเหมือนการเดินเร็ว ๆ เท่านั้นเอง

 

“อย่าวิ่งอืดอาด! ออกแรงกันหน่อย!”

 

“ค่ะ!!”

 

“ถึงทางตันแล้วเลี้ยวกลับไปตามทางที่มา ไปทางสวนระหว่างอาคาร!”

 

“ค่ะ!!”

 

เมื่อฟรองซัวส์ไปถึงทางตันครั้งแรก เธอก็เลี้ยวกลับมาทั้งแบบนั้น

นี่คือทางวิ่งซึ่งเฮเลนาอยากได้มาตลอดตั้งแต่ตอนแรกที่ตัดสินใจจัดการฝึกอบรบให้ฟรองซัวส์ เธอมองดูคอร์สวิ่งนี้ที่สร้างขึ้นมาได้เพราะกองอัศวินหมาป่าเงินทุกคนแล้วก็ยิ้มเล็กน้อยในขณะที่วิ่งไปด้วย

จากนั้นขบวนที่มีฟรองซัวส์เป็นหัวแถวก็กลับมาถึงสวนระหว่างอาคารอีกครั้ง

 

“ต่อไป วิ่งคอร์สตรงกันข้าม!”

 

“ค่ะ!!”

 

วิ่ง

วิ่ง

วิ่ง

แล้วก็วิ่ง

 

เมื่อผ่านสวนระหว่างอาคารเป็นรอบที่ห้า หรือก็คือวิ่งไปถึงทางตันเป็นรอบที่สิบแล้ว ทุกคนก็เริ่มมีอาการเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด

ในชีวิตที่ผ่านมาพวกเธอแทบไม่เคยได้วิ่งกันเลย ดังนั้นจะเริ่มออกอาการหลังจากวิ่งเป็นระยะทางเท่านี้ก็ไม่แปลกอะไร

 

“แฮ่ก แฮ่ก……”

 

“ฮี่ย์……”

 

“ฮืด ฮาด……”

 

“เอาล่ะ!!”

 

ในตอนที่กำลังอยู่บนส่วนทางตรงที่ยาวที่สุด

เฮเลนาก็ได้ส่งเสียงขึ้น ซึ่งทำให้พวกเธอก็รู้สึกยินดีขึ้นมาเล็กน้อย

‘คงพอเท่านี้แล้วสินะ’ –ในชั่วขณะที่เหล่าบุตรีขุนนางกำลังนึกโล่งใจอยู่นั่นเอง

 

“แองเจลิกา! เร่งความเร็ว! แซงฟรองซัวส์ไปอยู่หัวแถวซะ!”

 

“เอ๋—!?”

 

“ห้ามปฏิเสธ! ไป!!”

 

“อึ๋ย!!”

 

เมื่อทำท่าจะฟาดพัดกระดาษ แองเจลิกาก็มีสีหน้าหวาดกลัวแล้วก็รีบวิ่งไปทันที

หากมองจากมุมของเฮเลนาแล้ว แน่นอนว่ามันเชื่องช้าเหลือเกิน ทว่าก็ยังเป็นความเร็วที่มากกว่าคนอื่นอยู่เล็กน้อย

แองเจลิกาวิ่งแซงฟรองซัวส์ขึ้นไปยังหัวแถว แล้วเธอก็กลายเป็นหัวแถวไปทั้งแบบนั้น

 

“ต่อไปชาร์ลอตเต! ไปหัวแถว!”

 

“อ อะไรกันเนี่ยเจ้าคะ—!”

 

“ไป—!!”

 

“ไม่เอาแล้วเจ้าค่ะ—!!”

 

แม้จะตะโกน ‘ม่ายยยยย’ ไปพลาง แต่ชาร์ลอตเตก็เร่งความเร็วขึ้นไปยังหัวแถว

จากนั้นเฮเลนาให้ทุกคนได้โอกาสทำแบบเดียวกัน

แทนที่จะวิ่งต่อเนื่องไปเฉย ๆ หากผสมผสานการเร่งความเร็วแบบนี้เข้าไปด้วยมันก็จะเป็นการฝึกที่ดียิ่งขึ้น

 

และแล้ว เมื่อวิ่งกลับมาถึงสวนระหว่างอาคารเป็นรอบที่สิบ เธอจึงให้หยุด

 

“เอาล่ะ!! พอแค่นั้น!!”

 

“ฮี่ย์……”

 

ฮืด ฮาด

ทั้งห้าหอบหายใจทรุดตัวลงไปโดยที่มีเฮเลนามองดูอยู่ห่าง ๆ

เอาเป็นว่าช่วงเช้าตรู่พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน

 

“ต่อไป พักเหนื่อยแล้วก็มากินอาหารเช้ากัน! อเลกเซีย!”

 

“ค่ะ”

 

เหล่านางกำนัลหกคนซึ่งเตรียมพร้อมรออยู่ใกล้สวนระหว่างอาคารได้ช่วยกันจัดโต๊ะและเก้าอี้โดยมีอเลกเซียเป็นผู้นำ

จากนั้นจานอาหารก็ได้รับการนำมาจัดวางราวกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา เป็นสำรับยามเช้าตามปกติทั่วไป

‘แฮ่ก แฮ่ก’ เหล่าเด็กสาวที่ยังหอบหายใจอยู่ได้พากันนั่งลงบนเก้าอี้เหล่านั้นทีละคน

และเมื่อได้เห็นสำรับเช้าที่เรียงรายอยู่นั้น ก็แสดงสีหน้าหม่นหมองออกมา

 

“เช่นนั้นก็เริ่มมื้อเช้าได้! กินเหลือหนึ่งคนวิดพื้นเพิ่มร้อยครั้ง!”

 

“อ๊า—!! ปัดโธ่—!!”

 

“ไม่น้า—!”

 

เหล่าศิษย์เริ่มกินอาหารเช้ากันอย่างสิ้นหวัง

ในการฝึกทหารใหม่ปกติแล้วจะต้องมีการกำหนดเวลาในการกินด้วย แต่ไปบังคับถึงขนาดนั้นก็คงจะไม่ดี เฮเลนาจึงให้พวกเธอได้กินกันตามอัธยาศัย

ส่วนฟรองซัวส์ก็ยังกินหง่ำ ๆ เช่นเคยอย่างไม่มีทีท่าว่าความอยากอาหารจะลดลงเลย ดูเหมือนเธอจะมีลักษณะนิสัยที่กินอาหารได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนก็ตาม

 

“เอ่อ ท่านเฮเลนาคะ……ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ?”

 

“มีอะไรรึคลาริสซา”

 

“ได้ยินมาว่าการฝึกนี้จะใช้เวลาหนึ่งเดือนน่ะค่ะ……”

 

“อื้ม”

 

“เมื่อผ่านหนึ่งเดือนไปได้……มันจะมีอะไรหรือคะ?”

 

“หืม?”

 

เมื่อได้ฟังคำถามของคลาริสซา เฮเลนาก็ขมวดคิ้ว

การฝึกทหารใหม่นั้น เมื่อจบลงก็จะได้เป็นทหารเต็มตัว และผู้ที่ผ่านการฝึกทหารใหม่ก็จะได้ไปประจำการตามกองทัพต่าง ๆ

ทว่า ที่แห่งนี้คือวังหลัง

ต่อให้จบหลักสูตรการฝึกทหารใหม่แล้ว พวกเธอก็ไม่มีที่ไหนให้ไปต่อเป็นพิเศษ

 

“อืม……”

 

“ม ไม่เป็นไรค่ะ ข้าแค่สงสัยเฉย ๆ น่ะค่ะ เอ่อ……!”

 

“ไม่หรอก ว่าไปแล้วข้าก็ไม่ได้คิดไว้จริง ๆ”

 

หากรู้ว่าก้าวข้ามไปได้แล้วมีอะไรรออยู่ คนเราก็จะมีความกระตือรือร้นมากขึ้น

หากยกเว้นฟรองซัวส์ซึ่งมีเป้าหมายในการเป็นภรรยาที่คู่ควรกับบาร์โตโลเมอยู่แล้ว อีกสี่คนก็ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษ

บางทีเฮเลนาอาจต้องช่วยคิดหาอะไรสักอย่าง

 

“เช่นนั้น……นั่นสินะ หากพวกเจ้าสามารถก้าวข้ามหนึ่งเดือนนี้ไปได้ ข้าจะเตรียมรางวัลอะไรสักอย่างไว้ให้แล้วกัน”

 

“รางวัล……หรือคะ?”

 

“อา อย่างเช่นคลาริสซา สำหรับเจ้า……จะหาโอกาสให้ได้เจอกับพี่ชายข้าเป็นไง”

 

“จะพยายามอย่างสุดชีวิตเลยค่ะ!!”

 

ดูเหมือนนั่นจะทำให้มีกำลังใจกว่าที่คิดไว้ซะอีกแฮะ

พลังใจของคลาริสซาพุ่งกระฉูดอย่างเห็นได้ชัด ราวกับมีไฟลุกพรึ่บขึ้นมาในดวงตาเลยทีเดียว

ถึงเฮเลนาจะไม่เข้าใจว่าไอ้ซิสค่อนคนนั้นมันมีอะไรให้หลงไหลถึงขนาดนั้นก็เถอะ

 

“ท ท่านเฮเลนาคะ! แล้วข้าล่ะ!”

 

“อ่า จะคิดเผื่อไว้ให้คนที่เหลือด้วย ตั้งตารอไว้ให้ดี แล้วก็ก้าวข้ามหนึ่งเดือนนี้ให้ดูซะสิ”

 

“ค่ะ!!”

 

การใช้ไม้อ่อนสลับไม้แข็งบ้างเป็นเรื่องสำคัญ

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม

 

“ร รางวัล……จากท่านพี่หญิง……!”

 

เฮเลนาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสันหลังกับสายตาอันร้อนแรงที่มาริเอลส่งมาให้เธออยู่ดี

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+