(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 96

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 96 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

“อ่า……นี่ข้าทำอะไรผิดไปงั้นรึ?”

 

“ไม่หรอกค่ะ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเป็นพิเศษ ทำใจให้สบายเถอะค่ะ”

 

“……งั้นรึ?”

 

หากพิจารณาจากสารรูปของพวกแคทลียาที่หนีไปแล้ว ก็คิดได้ว่าเฮเลนาอาจทำผิดอะไรลงไปรึเปล่านะ

ทว่า แม้เธอจะเคาะใส่ท้ายทอยไป แต่ก็ไม่ได้เคาะแรงอะไรมากมายขนาดนั้น อันที่จริงน่าจะเรียกว่าแค่ผลักเบา ๆ เองมากกว่า ทั้งที่เป็นเช่นนั้นแต่แคทลียากลับหวีดร้องแล้ววิ่งหนีไปแบบนั้น มันเป็นเพราะอะไรกันแน่หนอ

เอาเถอะ ถ้าอเลกเซียบอกว่าไม่มีปัญหาก็คงไม่มีปัญหาแหละ เฮเลนาชักเริ่มขี้เกียจคิดแล้ว ก็เลยสรุปเอาแบบนั้นเลย

 

“อืม เอาเถอะ”

 

ดูจากสภาพเมื่อครู่แล้ว ท่าทางเฮเลนาจะทำให้เธอกลัวไปพอสมควรเลยเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้แคทลียาเองก็คงไม่เข้ามายุ่งกับเฮเลนามากไปกว่านี้แล้วล่ะมั้ง

ถึงกระนั้น มันก็มีข้อยกเว้นคือใครบางคนซึ่งมีตำแหน่ง ‘สนมฟ้าดารา’ ที่โดนขู่เอาชีวิตไปซะเต็มเหนี่ยวในงานเลี้ยงน้ำชาแต่ดันกลายเป็นว่ามาติดใจเฮเลนาสุด ๆ แทนซะงั้น

 

อุตส่าห์นึกว่าจะได้สมาชิกมาร่วมฝึกฝนด้วยกันเพิ่มขึ้นซะอีก รู้สึกผิดหวังจังแฮะ

แต่อันที่จริง ถ้าเพิ่มมาสิบห้าคนแบบกะทันหันเลยก็คงลำบากเหมือนกัน ดังนั้นผลลัพธ์แบบนี้มันอาจดีแล้วก็เป็นได้

 

“จะกลับแล้วหรือยังคะ?”

 

“ไม่น่ะ ยังได้ขยับร่างกายไม่พอเลย ข้าจะฟันดาบต่ออีกสักหน่อย”

 

“ข้าคิดว่าคืนนี้ฝ่าบาทน่าจะเสด็จมา ดังนั้นกรุณาช่วยกลับห้องให้เร็วหน่อยนะคะ”

 

“……มุ”

 

เมื่อวานหลับไปทั้งที่เหนื่อยล้าจนถึงที่สุด แต่ถ้าจำไม่ผิดเมื่อวานฟาร์มาสก็บอกไว้เพียงแค่ว่า “คืนนี้เราไปไม่ได้” นี่นา

แปลว่า คืนนี้อาจจะมาก็ได้

การที่ฟาร์มาสมาเยือนนั้นเธอไม่ได้รังเกียจอะไรเป็นพิเศษ ทว่าการที่ต้องคอยจัดสรรเวลาในหลาย ๆ เรื่องมันก็ยุ่งยากน่ารำคาญอยู่เหมือนกัน

นอกจากนั้น ก่อนฟาร์มาสมาเยือน มันก็มีช่วงเวลาอันน่าอับอายที่ต้องโดนอเลกเซียจับอาบน้ำรออยู่ด้วย ชวนให้รู้สึกหดหู่ไม่น้อย

และซ้ำร้ายกว่านั้น

 

“……แบบว่านะ อเลกเซีย”

 

“ชุดก็ยังต้องเป็นชุดนั้นค่ะ”

 

“……”

 

“หรือว่าอยากจะให้เตรียมชุดที่น่าเอ็นดูยิ่งกว่านี้ให้ดีคะ?”

 

“……ไม่ล่ะ”

 

เมื่อเจอกับคำพูดของนางกำนัลรับใช้ที่มีแรงกดดันอย่างน่าประหลาด เธอก็ได้แต่ถอนใจ

ทั้งสามคนขาประจำ ลูเครเซีย รวมทั้งทิฟฟานีก็ได้เห็นสารรูปนี้ไปเรียบร้อยแล้ว นี่ก็แค่เพิ่มฟาร์มาสเข้าไปอีกคนเท่านั้นเอง คิดซะแบบนั้นก็ได้มั้ง

ขอแค่อดทนเพียงวันนี้วันเดียวเท่านั้น

 

“เอาล่ะ”

 

ช่างเรื่องที่ฟาร์มาสจะมาเยือนไปก่อน ตอนนี้สิ่งที่ควรทำคือฝึกฝนวิชา

เมื่อก่อนหน้านี้ แม้จะเป็นแค่จินตนาการแต่มารดาผู้แข็งแกร่งที่สุดก็ยังเป็นมารดาผู้แข็งแกร่งที่สุดอยู่วันยังค่ำ เธอไม่คิดว่าจะเทียบเคียงได้แม้กระทั่งฝ่าเท้าด้วยซ้ำ

แม้มันจะจริงอยู่ที่การต่อสู้จริงมีความข้องเกี่ยวกับการฝึกฝนขัดเกลาตนอันไม่มีสิ้นสุด แต่หากละเลยพื้นฐานไปมันก็เหมือนกับวางเกวียนไว้หน้าม้า ก่อนอื่นเธอควรเริ่มจากทบทวนกระบวนท่าพื้นฐานก่อนสินะ

ว่าแล้วเฮเลนาก็ยกดาบใหญ่ขึ้น

 

“……หืม?”

 

จังหวะนั้นเอง—เธอก็เห็นเงาร่างเล็ก ๆ อยู่ตรงโถงทางเดินตัดผ่าน

พอลองชำเลืองตาตรวจสอบดูสักหน่อย ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นชาร์ลอตเตแฮะ เมื่อครู่จากไปแบบไม่พูดไม่จา แต่คราวนี้เหมือนจะมาดูอยู่ห่าง ๆ สินะ

แต่การฝึกของเธอมันก็ไม่ใช่ของที่ดูแล้วเพลิดเพลินซะหน่อยนะ

 

ทว่าที่เป็นปริศนากว่านั้น ก็คือไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอันใดชาร์ลอตเตถึงได้กำลังถือไม้กระบองที่มีความยาวพอ ๆ กับส่วนสูงของตัวเธอเองอยู่ด้วย

 

เอาเถอะ

เฮเลนาโยนความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไป แล้วก็เริ่มทบทวนกระบวนท่าพื้นฐาน

 

กระบวนท่าของดาบใหญ่นั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรจากดาบยาวเป็นพิเศษ เว้นเสียแต่ขนาดของมันที่ต่างกันคนละชั้น และยังมีน้ำหนักมากกว่าหลายเท่า จึงจำเป็นต้องใช้งานโดยพึ่งพาแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ไปด้วย

ดังนั้น การเคลื่อนไหวของมันจึงไม่ได้มีอิสระมากเท่าดาบธรรมดา

เพราะเป็นดาบใบกว้างจึงไม่นิยมเอามาใช้แทง แต่ในทางกลับกันดาบใหญ่ที่มีความหนักเป็นอาวุธนั้นก็เหมาะสมที่สุดในการใช้ฟันแกว่งไปรอบ ๆ

 

กระบวนท่าแรก การฟันจากบนลงล่าง

ในสนามรบนั้นการใช้อาวุธซึ่งเคลื่อนไหวได้ลื่นไหลไม่ติดขัดและต่อสู้ต่อเนื่องไปได้เรื่อย ๆ คงเป็นวิธีที่เหมาะสมกว่า

ทว่านี่คือสถานที่แห่งการฝึกฝน ดาบใหญ่นั้นแค่เคลื่อนไหวเพื่อยกมันขึ้นมาก็เป็นการสร้างกล้ามเนื้อได้แล้ว ดังนั้นเฮเลนาจึงจงใจไม่พึ่งพาแรงเหวี่ยง และเงื้อดาบใหญ่ขึ้นด้วยกำลังของตนเองเท่านั้น จากนั้นก็ฟันลงด้านล่าง รู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อกำลังส่งเสียงเปรี้ยะ ๆ อย่างเจ็บปวดแต่มันก็ทำให้รู้สึกดีด้วยเหมือนกัน

 

ที่โถงทางเดินตัดผ่าน ชาร์ลอตเตเองก็กำลังเงื้อไม้กระบองขึ้นแล้วก็ฟาดลงล่างเช่นเดียวกัน

ดูเหมือนว่าเธอจะกำลังเลียนแบบเฮเลนาอยู่แฮะ ถึงท่าทางการยืนจะมั่วซั่วไปหมดเลยก็เถอะ

 

ก่อนอื่นเฮเลนาก็ฟันจากบนลงล่างซ้ำ ๆ

เงื้อดาบขึ้นอย่างสุดกำลัง ฟันลงอย่างสุดกำลัง แล้วก็หยุดดาบก่อนที่จะสัมผัสกับพื้นดิน ดาบใหญ่ที่ได้แรงดึงดูดช่วยส่งเสริมนั้นย่อมไม่อาจยับยั้งได้โดยง่าย อันที่จริงการจะหยุดมันนี่แหละที่ต้องใช้กำลังทั้งหมดอย่างแท้จริง

‘ฮึบ ฮึบ’ เธอออกเสียงแค่ในใจเพื่อใส่แรง แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาทำซ้ำไปเรื่อย ๆ

 

ชาร์ลอตเตเองก็กำลังฟาดกระบองลงล่างซ้ำ ๆ อยู่ตรงโถงทางเดินตัดผ่านเช่นเดียวกัน

ระหว่างทำไปก็มีครั้งหนึ่งที่กระบองไปกระแทกเข้ากับพื้นเสียเต็มแรงจนเธอดิ้นทุรนทุราย เกรงว่ามือทั้งสองคงชาไปหมดแล้วกระมัง

 

“เอ่อ ท่านเฮเลนาคะ”

 

“ไม่เป็นไร ข้าเห็นแล้วล่ะ”

 

“เช่นนั้นแล้ว……”

 

“ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะช่วยฝึกสอนให้ แต่ทางนั้นดันมองข้าเป็นศัตรูอยู่นี่นา หากอยากจะดูนักก็เชิญดูให้พอใจเลยก็ได้ จนกว่าเธอจะพูดออกมาเองว่าอยากให้ฝึกสอนก็ปล่อยไว้แบบนั้นเถอะ”

 

“รับทราบแล้วค่ะ”

 

อเลกเซียคำนับรับคำ

แม้จะติดใจเรื่องชาร์ลอตเต แต่ตอนนี้ไปสนใจก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ขืนเข้าไปทักมั่วซั่วตอนนี้เธอก็คงหนีไปหรือไม่ก็โมโหใส่อย่างใดอย่างหนึ่งแน่ ๆ

ถ้างั้นปล่อยให้ทำตามใจไปก็น่าจะดีที่สุด

 

ดูเหมือนว่าจะเริ่มหายชาแล้ว แต่ชาร์ลอตเตก็ยังลูบมือทั้งสองเหมือนกำลังเจ็บอยู่

ฟาดใส่พื้นไปซะเต็มแรงแบบนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ

 

จากนั้นเฮเลนาก็เปลี่ยนไปฝึกกระบวนท่าต่อไป

อันดับต่อไปคือการฟันแนวขวาง ข้อได้เปรียบใหญ่ที่สุดของดาบใหญ่ก็คือระยะของมันนั่นเอง

การใช้ดาบยาวฟันกวาดในแนวขวางก็จะนำไปสู่การกดดันควบคุมคู่ต่อสู้เป็นวงกว้างได้ หากเป็นสนามรบที่ไม่มีฝ่ายมิตรอยู่ใกล้ ๆ ขอแค่ฟันกวาดไปเรื่อย ๆ ก็สามารถป้องกันไม่ให้ศัตรูเข้ามาประชิดได้แล้ว แต่หากเป็นศึกตะลุมบอนที่มีทั้งมิตรและศัตรูปะปนกันอยู่ก็มีความเสี่ยงที่จะฟันโดนพวกเดียวกันเองไปด้วย ดังนั้นต้องคอยระวังรอบ ๆ ตัวเองเอาไว้ให้ดี

ระหว่างที่คิดเช่นนั้นเฮเลนาก็คำนึงระยะของดาบใหญ่ แล้วก็เว้นระยะห่างออกมาเพื่อไม่ให้อเลกเซียโดนลูกหลง จากนั้นก็เริ่มฟันกวาดแนวขวางซ้ำไปมา

 

ทันใดนั้น ชาร์ลอตเตเองก็ฟาดกระบองเป็นแนวขวางซ้ำไปมาเช่นเดียวกัน

ถึงกระนั้น บุตรีขุนนางปกติย่อมไม่เคยได้กวัดแกว่งสิ่งของไปมาอยู่แล้ว ดังนั้นแข้งขาของเธอจึงพันกัน

อ๊ะ สะดุดล้มไปแล้ว

น้ำตาเล็ดออกมานิดหน่อยด้วย

 

“……เฮ้อ ให้ตายสิ”

 

เพื่อให้แม้แต่คนที่มองอยู่ไกล ๆ ก็ยังเข้าใจ เฮเลนาจึงออกท่าเท้าอย่างตั้งใจกว่าปกติเล็กน้อย

ท่าเท้ากับการยืนนั่นเป็นเรื่องสำคัญมาก หากฟาดกระบองไปมาโดยที่ไม่รู้พื้นฐานเลย มันก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะหกล้มเหมือนชาร์ลอตเต

ยืดสันหลังให้ตรง อ้าขาออกให้กว้างเพื่อให้มีฐานรองรับน้ำหนักที่เพียงพอ เพียงแค่นั้นก็น่าจะไม่หกล้มแล้วล่ะ

 

ชาร์ลอตเตดูเหมือนจะสังเกตเห็นถึงเรื่องนั้นแล้ว แม้จะเชื่องช้าแต่เธอก็ปรับท่าทางการยืนของตนเอง แล้วก็เริ่มฟาดกระบองอีกครั้ง

ไม่รู้ว่าทำแล้วร่างกายมันมั่นคงกว่าที่คิดไว้หรืออย่างไร เธอจึงมีท่าทีเหมือนตกใจเล็กน้อย

 

การฟาดจากบนลงล่าง การฟันเฉือน การฟาดกวาดแนวขวาง การปัดดาบในแนวเฉียง เฮเลนาวาดดาบซ้ำไปมาจากมุมต่าง ๆ ที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง

ชาร์ลอตเตเองแม้จะเคลื่อนไหวแบบงู ๆ ปลา ๆ แต่ก็เลียนแบบเฮเลนาพลางฟาดกระบองซ้ำไปมาอย่างต่อเนื่อง

แม้จะมีระยะห่างเป็นสวนระหว่างอาคารกับโถงทางเดินกั้นพวกเธอเอาไว้ แต่ในชั่วขณะนี้ก็กล่าวไว้ว่าพวกเธอนั้น คืออาจารย์และศิษย์

 

“ท่านเฮเลนาคะ ใกล้จะได้เวลาแล้วค่ะ”

 

“……อืม งั้นรึ”

 

ตะวันใกล้จะตกดินแล้ว

กลับไปห้องทั้งแบบนี้ แล้วก็อาบน้ำ รับประทานทานอาหารเย็น จากนั้นก็รอฟาร์มาสมาเยือนก็น่าจะกำลังดี

เธอเช็ดเหงื่อด้วยผ้าเช็ดหน้า แล้วก็มองไปทางโถงทางเดิน

 

ตอนนั้นเอง เธอก็สบตาเข้ากับชาร์ลอตเต

 

“—!”

 

“……”

 

‘กึก’ ชาร์ลอตเตจ้องเขม่นใส่เฮเลนา

ทว่าการทำเป็นเก่งกาจเช่นนั้นดูไปแล้วก็เหมือนสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่กำลังพยายามข่มขวัญคู่ต่อสู้ ชักรู้สึกว่ามันน่าเอ็นดูขึ้นมาเหมือนกัน

ดังนั้น เฮเลนาจึงได้โบกมือแล้วก็ส่งยิ้มกลับคืนไป

 

“……”

 

เมื่อเฮเลนายิ้มแย้มแบบนั้นแล้ว ชาร์ลอตเตก็หน้าแดงก่ำ

ก่อนจะคว้ากระบองขึ้นมาอย่างรุนแรงแล้วก็จากไปจากที่แห่งนั้น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 96

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 96 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

“อ่า……นี่ข้าทำอะไรผิดไปงั้นรึ?”

 

“ไม่หรอกค่ะ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเป็นพิเศษ ทำใจให้สบายเถอะค่ะ”

 

“……งั้นรึ?”

 

หากพิจารณาจากสารรูปของพวกแคทลียาที่หนีไปแล้ว ก็คิดได้ว่าเฮเลนาอาจทำผิดอะไรลงไปรึเปล่านะ

ทว่า แม้เธอจะเคาะใส่ท้ายทอยไป แต่ก็ไม่ได้เคาะแรงอะไรมากมายขนาดนั้น อันที่จริงน่าจะเรียกว่าแค่ผลักเบา ๆ เองมากกว่า ทั้งที่เป็นเช่นนั้นแต่แคทลียากลับหวีดร้องแล้ววิ่งหนีไปแบบนั้น มันเป็นเพราะอะไรกันแน่หนอ

เอาเถอะ ถ้าอเลกเซียบอกว่าไม่มีปัญหาก็คงไม่มีปัญหาแหละ เฮเลนาชักเริ่มขี้เกียจคิดแล้ว ก็เลยสรุปเอาแบบนั้นเลย

 

“อืม เอาเถอะ”

 

ดูจากสภาพเมื่อครู่แล้ว ท่าทางเฮเลนาจะทำให้เธอกลัวไปพอสมควรเลยเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้แคทลียาเองก็คงไม่เข้ามายุ่งกับเฮเลนามากไปกว่านี้แล้วล่ะมั้ง

ถึงกระนั้น มันก็มีข้อยกเว้นคือใครบางคนซึ่งมีตำแหน่ง ‘สนมฟ้าดารา’ ที่โดนขู่เอาชีวิตไปซะเต็มเหนี่ยวในงานเลี้ยงน้ำชาแต่ดันกลายเป็นว่ามาติดใจเฮเลนาสุด ๆ แทนซะงั้น

 

อุตส่าห์นึกว่าจะได้สมาชิกมาร่วมฝึกฝนด้วยกันเพิ่มขึ้นซะอีก รู้สึกผิดหวังจังแฮะ

แต่อันที่จริง ถ้าเพิ่มมาสิบห้าคนแบบกะทันหันเลยก็คงลำบากเหมือนกัน ดังนั้นผลลัพธ์แบบนี้มันอาจดีแล้วก็เป็นได้

 

“จะกลับแล้วหรือยังคะ?”

 

“ไม่น่ะ ยังได้ขยับร่างกายไม่พอเลย ข้าจะฟันดาบต่ออีกสักหน่อย”

 

“ข้าคิดว่าคืนนี้ฝ่าบาทน่าจะเสด็จมา ดังนั้นกรุณาช่วยกลับห้องให้เร็วหน่อยนะคะ”

 

“……มุ”

 

เมื่อวานหลับไปทั้งที่เหนื่อยล้าจนถึงที่สุด แต่ถ้าจำไม่ผิดเมื่อวานฟาร์มาสก็บอกไว้เพียงแค่ว่า “คืนนี้เราไปไม่ได้” นี่นา

แปลว่า คืนนี้อาจจะมาก็ได้

การที่ฟาร์มาสมาเยือนนั้นเธอไม่ได้รังเกียจอะไรเป็นพิเศษ ทว่าการที่ต้องคอยจัดสรรเวลาในหลาย ๆ เรื่องมันก็ยุ่งยากน่ารำคาญอยู่เหมือนกัน

นอกจากนั้น ก่อนฟาร์มาสมาเยือน มันก็มีช่วงเวลาอันน่าอับอายที่ต้องโดนอเลกเซียจับอาบน้ำรออยู่ด้วย ชวนให้รู้สึกหดหู่ไม่น้อย

และซ้ำร้ายกว่านั้น

 

“……แบบว่านะ อเลกเซีย”

 

“ชุดก็ยังต้องเป็นชุดนั้นค่ะ”

 

“……”

 

“หรือว่าอยากจะให้เตรียมชุดที่น่าเอ็นดูยิ่งกว่านี้ให้ดีคะ?”

 

“……ไม่ล่ะ”

 

เมื่อเจอกับคำพูดของนางกำนัลรับใช้ที่มีแรงกดดันอย่างน่าประหลาด เธอก็ได้แต่ถอนใจ

ทั้งสามคนขาประจำ ลูเครเซีย รวมทั้งทิฟฟานีก็ได้เห็นสารรูปนี้ไปเรียบร้อยแล้ว นี่ก็แค่เพิ่มฟาร์มาสเข้าไปอีกคนเท่านั้นเอง คิดซะแบบนั้นก็ได้มั้ง

ขอแค่อดทนเพียงวันนี้วันเดียวเท่านั้น

 

“เอาล่ะ”

 

ช่างเรื่องที่ฟาร์มาสจะมาเยือนไปก่อน ตอนนี้สิ่งที่ควรทำคือฝึกฝนวิชา

เมื่อก่อนหน้านี้ แม้จะเป็นแค่จินตนาการแต่มารดาผู้แข็งแกร่งที่สุดก็ยังเป็นมารดาผู้แข็งแกร่งที่สุดอยู่วันยังค่ำ เธอไม่คิดว่าจะเทียบเคียงได้แม้กระทั่งฝ่าเท้าด้วยซ้ำ

แม้มันจะจริงอยู่ที่การต่อสู้จริงมีความข้องเกี่ยวกับการฝึกฝนขัดเกลาตนอันไม่มีสิ้นสุด แต่หากละเลยพื้นฐานไปมันก็เหมือนกับวางเกวียนไว้หน้าม้า ก่อนอื่นเธอควรเริ่มจากทบทวนกระบวนท่าพื้นฐานก่อนสินะ

ว่าแล้วเฮเลนาก็ยกดาบใหญ่ขึ้น

 

“……หืม?”

 

จังหวะนั้นเอง—เธอก็เห็นเงาร่างเล็ก ๆ อยู่ตรงโถงทางเดินตัดผ่าน

พอลองชำเลืองตาตรวจสอบดูสักหน่อย ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นชาร์ลอตเตแฮะ เมื่อครู่จากไปแบบไม่พูดไม่จา แต่คราวนี้เหมือนจะมาดูอยู่ห่าง ๆ สินะ

แต่การฝึกของเธอมันก็ไม่ใช่ของที่ดูแล้วเพลิดเพลินซะหน่อยนะ

 

ทว่าที่เป็นปริศนากว่านั้น ก็คือไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอันใดชาร์ลอตเตถึงได้กำลังถือไม้กระบองที่มีความยาวพอ ๆ กับส่วนสูงของตัวเธอเองอยู่ด้วย

 

เอาเถอะ

เฮเลนาโยนความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไป แล้วก็เริ่มทบทวนกระบวนท่าพื้นฐาน

 

กระบวนท่าของดาบใหญ่นั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรจากดาบยาวเป็นพิเศษ เว้นเสียแต่ขนาดของมันที่ต่างกันคนละชั้น และยังมีน้ำหนักมากกว่าหลายเท่า จึงจำเป็นต้องใช้งานโดยพึ่งพาแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ไปด้วย

ดังนั้น การเคลื่อนไหวของมันจึงไม่ได้มีอิสระมากเท่าดาบธรรมดา

เพราะเป็นดาบใบกว้างจึงไม่นิยมเอามาใช้แทง แต่ในทางกลับกันดาบใหญ่ที่มีความหนักเป็นอาวุธนั้นก็เหมาะสมที่สุดในการใช้ฟันแกว่งไปรอบ ๆ

 

กระบวนท่าแรก การฟันจากบนลงล่าง

ในสนามรบนั้นการใช้อาวุธซึ่งเคลื่อนไหวได้ลื่นไหลไม่ติดขัดและต่อสู้ต่อเนื่องไปได้เรื่อย ๆ คงเป็นวิธีที่เหมาะสมกว่า

ทว่านี่คือสถานที่แห่งการฝึกฝน ดาบใหญ่นั้นแค่เคลื่อนไหวเพื่อยกมันขึ้นมาก็เป็นการสร้างกล้ามเนื้อได้แล้ว ดังนั้นเฮเลนาจึงจงใจไม่พึ่งพาแรงเหวี่ยง และเงื้อดาบใหญ่ขึ้นด้วยกำลังของตนเองเท่านั้น จากนั้นก็ฟันลงด้านล่าง รู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อกำลังส่งเสียงเปรี้ยะ ๆ อย่างเจ็บปวดแต่มันก็ทำให้รู้สึกดีด้วยเหมือนกัน

 

ที่โถงทางเดินตัดผ่าน ชาร์ลอตเตเองก็กำลังเงื้อไม้กระบองขึ้นแล้วก็ฟาดลงล่างเช่นเดียวกัน

ดูเหมือนว่าเธอจะกำลังเลียนแบบเฮเลนาอยู่แฮะ ถึงท่าทางการยืนจะมั่วซั่วไปหมดเลยก็เถอะ

 

ก่อนอื่นเฮเลนาก็ฟันจากบนลงล่างซ้ำ ๆ

เงื้อดาบขึ้นอย่างสุดกำลัง ฟันลงอย่างสุดกำลัง แล้วก็หยุดดาบก่อนที่จะสัมผัสกับพื้นดิน ดาบใหญ่ที่ได้แรงดึงดูดช่วยส่งเสริมนั้นย่อมไม่อาจยับยั้งได้โดยง่าย อันที่จริงการจะหยุดมันนี่แหละที่ต้องใช้กำลังทั้งหมดอย่างแท้จริง

‘ฮึบ ฮึบ’ เธอออกเสียงแค่ในใจเพื่อใส่แรง แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาทำซ้ำไปเรื่อย ๆ

 

ชาร์ลอตเตเองก็กำลังฟาดกระบองลงล่างซ้ำ ๆ อยู่ตรงโถงทางเดินตัดผ่านเช่นเดียวกัน

ระหว่างทำไปก็มีครั้งหนึ่งที่กระบองไปกระแทกเข้ากับพื้นเสียเต็มแรงจนเธอดิ้นทุรนทุราย เกรงว่ามือทั้งสองคงชาไปหมดแล้วกระมัง

 

“เอ่อ ท่านเฮเลนาคะ”

 

“ไม่เป็นไร ข้าเห็นแล้วล่ะ”

 

“เช่นนั้นแล้ว……”

 

“ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะช่วยฝึกสอนให้ แต่ทางนั้นดันมองข้าเป็นศัตรูอยู่นี่นา หากอยากจะดูนักก็เชิญดูให้พอใจเลยก็ได้ จนกว่าเธอจะพูดออกมาเองว่าอยากให้ฝึกสอนก็ปล่อยไว้แบบนั้นเถอะ”

 

“รับทราบแล้วค่ะ”

 

อเลกเซียคำนับรับคำ

แม้จะติดใจเรื่องชาร์ลอตเต แต่ตอนนี้ไปสนใจก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ขืนเข้าไปทักมั่วซั่วตอนนี้เธอก็คงหนีไปหรือไม่ก็โมโหใส่อย่างใดอย่างหนึ่งแน่ ๆ

ถ้างั้นปล่อยให้ทำตามใจไปก็น่าจะดีที่สุด

 

ดูเหมือนว่าจะเริ่มหายชาแล้ว แต่ชาร์ลอตเตก็ยังลูบมือทั้งสองเหมือนกำลังเจ็บอยู่

ฟาดใส่พื้นไปซะเต็มแรงแบบนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ

 

จากนั้นเฮเลนาก็เปลี่ยนไปฝึกกระบวนท่าต่อไป

อันดับต่อไปคือการฟันแนวขวาง ข้อได้เปรียบใหญ่ที่สุดของดาบใหญ่ก็คือระยะของมันนั่นเอง

การใช้ดาบยาวฟันกวาดในแนวขวางก็จะนำไปสู่การกดดันควบคุมคู่ต่อสู้เป็นวงกว้างได้ หากเป็นสนามรบที่ไม่มีฝ่ายมิตรอยู่ใกล้ ๆ ขอแค่ฟันกวาดไปเรื่อย ๆ ก็สามารถป้องกันไม่ให้ศัตรูเข้ามาประชิดได้แล้ว แต่หากเป็นศึกตะลุมบอนที่มีทั้งมิตรและศัตรูปะปนกันอยู่ก็มีความเสี่ยงที่จะฟันโดนพวกเดียวกันเองไปด้วย ดังนั้นต้องคอยระวังรอบ ๆ ตัวเองเอาไว้ให้ดี

ระหว่างที่คิดเช่นนั้นเฮเลนาก็คำนึงระยะของดาบใหญ่ แล้วก็เว้นระยะห่างออกมาเพื่อไม่ให้อเลกเซียโดนลูกหลง จากนั้นก็เริ่มฟันกวาดแนวขวางซ้ำไปมา

 

ทันใดนั้น ชาร์ลอตเตเองก็ฟาดกระบองเป็นแนวขวางซ้ำไปมาเช่นเดียวกัน

ถึงกระนั้น บุตรีขุนนางปกติย่อมไม่เคยได้กวัดแกว่งสิ่งของไปมาอยู่แล้ว ดังนั้นแข้งขาของเธอจึงพันกัน

อ๊ะ สะดุดล้มไปแล้ว

น้ำตาเล็ดออกมานิดหน่อยด้วย

 

“……เฮ้อ ให้ตายสิ”

 

เพื่อให้แม้แต่คนที่มองอยู่ไกล ๆ ก็ยังเข้าใจ เฮเลนาจึงออกท่าเท้าอย่างตั้งใจกว่าปกติเล็กน้อย

ท่าเท้ากับการยืนนั่นเป็นเรื่องสำคัญมาก หากฟาดกระบองไปมาโดยที่ไม่รู้พื้นฐานเลย มันก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะหกล้มเหมือนชาร์ลอตเต

ยืดสันหลังให้ตรง อ้าขาออกให้กว้างเพื่อให้มีฐานรองรับน้ำหนักที่เพียงพอ เพียงแค่นั้นก็น่าจะไม่หกล้มแล้วล่ะ

 

ชาร์ลอตเตดูเหมือนจะสังเกตเห็นถึงเรื่องนั้นแล้ว แม้จะเชื่องช้าแต่เธอก็ปรับท่าทางการยืนของตนเอง แล้วก็เริ่มฟาดกระบองอีกครั้ง

ไม่รู้ว่าทำแล้วร่างกายมันมั่นคงกว่าที่คิดไว้หรืออย่างไร เธอจึงมีท่าทีเหมือนตกใจเล็กน้อย

 

การฟาดจากบนลงล่าง การฟันเฉือน การฟาดกวาดแนวขวาง การปัดดาบในแนวเฉียง เฮเลนาวาดดาบซ้ำไปมาจากมุมต่าง ๆ ที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง

ชาร์ลอตเตเองแม้จะเคลื่อนไหวแบบงู ๆ ปลา ๆ แต่ก็เลียนแบบเฮเลนาพลางฟาดกระบองซ้ำไปมาอย่างต่อเนื่อง

แม้จะมีระยะห่างเป็นสวนระหว่างอาคารกับโถงทางเดินกั้นพวกเธอเอาไว้ แต่ในชั่วขณะนี้ก็กล่าวไว้ว่าพวกเธอนั้น คืออาจารย์และศิษย์

 

“ท่านเฮเลนาคะ ใกล้จะได้เวลาแล้วค่ะ”

 

“……อืม งั้นรึ”

 

ตะวันใกล้จะตกดินแล้ว

กลับไปห้องทั้งแบบนี้ แล้วก็อาบน้ำ รับประทานทานอาหารเย็น จากนั้นก็รอฟาร์มาสมาเยือนก็น่าจะกำลังดี

เธอเช็ดเหงื่อด้วยผ้าเช็ดหน้า แล้วก็มองไปทางโถงทางเดิน

 

ตอนนั้นเอง เธอก็สบตาเข้ากับชาร์ลอตเต

 

“—!”

 

“……”

 

‘กึก’ ชาร์ลอตเตจ้องเขม่นใส่เฮเลนา

ทว่าการทำเป็นเก่งกาจเช่นนั้นดูไปแล้วก็เหมือนสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่กำลังพยายามข่มขวัญคู่ต่อสู้ ชักรู้สึกว่ามันน่าเอ็นดูขึ้นมาเหมือนกัน

ดังนั้น เฮเลนาจึงได้โบกมือแล้วก็ส่งยิ้มกลับคืนไป

 

“……”

 

เมื่อเฮเลนายิ้มแย้มแบบนั้นแล้ว ชาร์ลอตเตก็หน้าแดงก่ำ

ก่อนจะคว้ากระบองขึ้นมาอย่างรุนแรงแล้วก็จากไปจากที่แห่งนั้น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+