(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 27 การต่อสู้ในสวน ครึ่งแรก

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 27 การต่อสู้ในสวน ครึ่งแรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“สนมฟ้าจันทรา” ชาร์ลอตเต เอียนส์เวิร์ธ

เครือญาติของมาร์ควิสอับราฮัม โนลด์ลุนด์ ศัตรูทางการเมืองของที่ปรึกษาหลวงแอนตัน เรลโนตบิดาของเฮเลนา และยังเป็นเด็กสาวที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นโฉมงามแห่งสังคมชั้นสูง

ใบหน้าได้รูปครบเครื่องนั้น แม้คำว่างดงามยังไม่เพียงพอที่จะใช้เป็นคำยกย่อง คงต้องใช้คำสวยหรูที่เกินขอบเขตของมนุษย์ไปอย่างเช่น ‘ราวกับเทพธิดา’ มาบรรยายแล้วกระมัง ผิวพรรณก็ขาวสะอาดราวกับเครื่องลายครามที่เจิดจรัส เมื่อประกอบกับวัยเพียงสิบหกปีก็ชวนให้รู้สึกเหมือนกำลังมองดูตุ๊กตาตัวหนึ่ง

สาวน้อยผู้งดงามราวกับว่าเทพเจ้าได้ทุ่มเทสรรค์สร้างขึ้นมา

ต่อหน้าความงดงามเช่นนั้น แม้แต่ “สนมฟ้าดารา” มาริเอลที่เรียกได้ว่าเป็นสาวน้อยผู้งดงามเช่นกันก็ยังดูด้อยไปเลย

 

“ห้ะ อ่า……แหม ๆ สวัสดีค่ะ พระสนมฟ้าจันทรา”

 

“สวัสดีเจ้าค่ะ พระสนมฟ้าสุริยา”

 

‘ฮุฮุ’ ริมฝีปากที่กำลังคงยิ้มเยาะเย้ยถูกปิดบังไว้ด้วยพัดที่ประดับขนนก

แม้ทุกอากัปกิริยานั้นจะมีความสูงส่งสง่างามแผ่ซ่านออกมา ก็คงปิดไปไม่ถึงสันดานเสีย ๆ นั่นสินะ

และพอมองดูให้ดีแล้ว รอบกายของ “สนมฟ้าจันทรา” ยังมีนางสนมคนอื่นอยู่อีกมากกว่าสิบคน

 

“มีธุระอะไรหรือคะพระสนมฟ้าจันทรา”

 

“ไม่ได้มีธุระอะไรกับท่านเป็นพิเศษหรอกเจ้าค่ะพระสนมฟ้าสุริยา ดิฉันคิดว่าจะจัดงานเลี้ยงน้ำชากับเหล่าคนสนิทที่นี่ในช่วงเช้าสักหน่อย แต่พอลองมาดูก็ได้เห็นพระสนมฟ้าสุริยากำลังแกว่งดาบอย่างหน้าดำคร่ำเครียดอยู่น่ะเจ้าค่ะ”

 

“โอ้งั้นหรือคะ แต่ข้าได้บอกกับหัวหน้านางกำนัลไว้แล้วนะคะว่าจะอยู่ที่นี่จนถึงเที่ยง”

 

“แหม อย่างพระสนมฟ้าสุริยาก็มีใจอยากจะชมดอกไม้ด้วยหรือเจ้าคะ? หรือว่าแค่ต้องการที่กว้าง ๆ ไว้ฟันดาบก็เลยมาที่นี่กันแน่เจ้าคะ?”

 

“แค่ต้องการที่กว้าง ๆ ไว้ฟันดาบ ตามที่ว่านั่นแหละค่ะ”

 

เฮเลนาข่มกันไปมากับชาร์ลอตเตโดยใช้เพียงวาจา

เหล่านางสนมที่ตามหลังมาก็พากันกระซิบกระซาบว่า “แหม ป่าเถื่อนจริงเชียว” “อดีตทหารก็เป็นกันซะแบบนี้” หรืออะไรทำนองนั้นให้เฮเลนาได้ยินอย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าพวกเธอทุกคนจะอยู่ภายใต้การดูแลของ “สนมฟ้าจันทรา” ชาร์ลอตเตกระมัง

ทำให้มันเงียบปากกันให้หมดเลยดีไหม—แม้จะมีความคิดอันตรายแบบนั้นผุดขึ้นมาแต่เธอก็ห้ามตัวเองไว้

ยังไงก็คงใช้กำลังรุนแรงกับนางสนมคนอื่น ๆ ไม่ได้จริง ๆ

 

“เช่นนั้นแล้ว เมื่อพระสนมฟ้าสุริยาไม่ได้สนใจดอกไม้ ก็คงจะยอมยกสถานที่ให้พวกดิฉันใช่ไหมเจ้าคะ?”

 

“โฮ่ เหตุใดจึงคิดเช่นนั้นล่ะคะ?”

 

“หากต้องการที่กว้าง ๆ ก็แค่ไปทำตรงพุ่มไม้แถวโน้นเป็นไงเจ้าคะ? ถ้าพระสนมฟ้าสุริยาไปฟันดาบก็จะได้ไม่ต้องตัดหญ้าด้วยไงล่ะ”

 

‘ปึด’ เฮเลนาขมวดคิ้ว

ชาร์ลอตเตกำลังยิ้มเยาะอย่างโจ่งแจ้ง และเพราะวาจาเสียดสีนั้นค่อนข้างตรงไปตรงมาแม้แต่เฮเลนาผู้มีหัวสมองอันน่าเสียดายก็ยังเข้าใจได้ง่าย

ท่าทางซึ่งมองว่าระบำดาบของเฮเลนามีค่าเท่ากับการตัดหญ้านั้น มันกระตุกต่อมของเฮเลนาสุด ๆ

 

“ขอปฏิเสธค่ะ ทางท่านเป็นฝ่ายมาถึงทีหลังนี่นา ยังไงการใช้สวนระหว่างอาคารก็ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตอยู่แล้ว ขอแค่เป็นจุดที่ดาบของข้าไปไม่ถึงพวกท่านก็เชิญจัดงานเลี้ยงน้ำชากันได้ตามสะดวกเลย”

 

“อุ๊ยแหม ถ้างั้นช่วยบอกได้หรือไม่เจ้าคะว่าดาบของพระสนมฟ้าสุริยามันไปถึงตรงไหนกัน?”

 

“ในวังหลังนี้ไม่มีที่ใดที่ไปไม่ถึงหรอกค่ะ ข้าก็แค่แกว่งดาบเพื่อฝึกฝนเท่านั้น ยังไงก็โปรดระวังอุบัติเหตุไว้ให้ดีนะคะ”

 

สิ่งที่เฮเลนามีเหนือกว่า “สนมฟ้าดารา” มาริเอล และ “สนมฟ้าจันทรา” ชาร์ลอตเต

นั่นก็คือฝีมือการต่อสู้

หากได้รับคำสั่งจากฟาร์มาสว่าให้สังหารนางสนมสักคน เฮเลนาก็คงลงมือฆ่าได้ในพริบตาอย่างไม่ลังเลอะไรทั้งสิ้น ต่อให้ลงกลอนห้องไว้เธอก็สามารถพังประตูเข้าไปสำเร็จโทษได้

ดังนั้นจึงใช้เรื่องนั้นมาเป็นประโยคข่มขู่

 

“แหม ๆ พูดจาน่ากลัวเชียวนะเจ้าคะ พระสนมฟ้าสุริยา”

 

“โอ้ หมายถึงเรื่องใดหรือคะ?”

 

“เช่นนั้นดิฉันจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็แล้วกัน มันเกะกะเจ้าค่ะ ช่วยไปไกล ๆ จากที่นี่ได้ไหม?”

 

ชาร์ลอตเตยิ้มอยู่ แต่แววตาของเธอมิได้ยิ้มด้วยเลย

ดูเหมือนจะดูแคลนพลังบู๊ของเฮเลนาอยู่สินะ ทั้งที่กลุ่มของ “สนมฟ้าดารา” ที่ลองข่มขู่ไปเมื่อวันก่อนยังยอมถอยอย่างง่ายดายแท้ ๆ

งั้นข่มขู่อีกสักหน่อยดีมั้ย—เฮเลนามองถามไปทางอเลกเซีย

ทว่าอเลกเซียก็ส่ายหน้า

 

“โฮ่ ๆ พระสนมฟ้าจันทรา นี่คิดว่าทุกคนจะต้องเชื่อฟังท่านหมดอย่างนั้นหรือคะ?”

 

“แล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ? ดิฉันคือ ‘สนมฟ้าจันทรา’ ตำแหน่งที่เป็นรองเพียงพระชายาเอกเจ้าค่ะ”

 

“งั้นหรือคะ ส่วนข้าคือ ‘สนมฟ้าสุริยา’ ในทางฐานะเราก็น่าจะเท่ากันนี่คะ”

 

“อุ๊ยแหม แต่ท่านมีแค่คนเดียวมิใช่หรือ? ดิฉันพาเพื่อน ๆ มาด้วยนะเจ้าคะ แม้พระสนมฟ้าสุริยาจะได้ชื่อว่าเป็นนักรบ แต่คงไม่หันดาบเข้าใส่ดิฉันกับเพื่อน ๆ ของดิฉันหรอกใช่ไหม?”

 

น่าหงุดหงิดจริง ๆ

ถึงขั้นคิดว่าอยากจะใช้ดาบกวาดมันให้ล้มลงไปทุกคนไปเลยแหละ

แต่จะอาละวาดมั่วซั่วตอนนี้ก็ไม่ได้ จะอย่างไรแผนการของฟาร์มาสคือการรักษาสมดุลทางการเมือง หากเกิดเรื่องว่าเฮเลนาใช้กำลังกับชาร์ลอตเต นั่นอาจทำให้แอนตันสูญเสียจุดยืนไปได้เลย

เพราะแบบนั้นเมื่อกี้อเลกเซียถึงได้ส่ายหน้าล่ะมั้ง

 

“แน่นอนค่ะ อย่างไรเสียข้าก็เป็นนักรบ พลังยุทธ์นี้มีไว้เพื่อเป็นกำลังให้ฝ่าบาทและเพื่อเป็นทหารแนวหน้าของจักรวรรดิ คงมิจำเป็นต้องหันมันเข้าใส่กุลธิดาเช่นพวกท่านหรอกค่ะ”

 

“เช่นนั้นดิฉันก็วางใจ ผู้แข็งแกร่งอย่างพระสนมฟ้าสุริยาบอกว่าจะปกป้องคุ้มครองพวกเราสินะเจ้าคะ”

 

“ใช่ แต่หากจะเป็นศัตรูกับข้านั่นก็อีกเรื่องนะคะ”

 

สายตาของเฮเลนากับชาร์ลอตเตเข้าปะทะกัน

หากสายตากับสายตาชนกันแล้วเกิดประกายไฟขึ้นมาได้มันก็คงจะระเบิดไปแล้ว

แม้เฮเลนาจะไม่ถนัดกับสมรภูมิเช่นนี้ แต่จะยอมถอยก็ไม่ได้

 

“อ๊ะ จะว่าไปแล้ว……ไม่ใช่ว่าวังหลังห้ามนำอาวุธเข้ามาหรือเจ้าคะ?”

 

ชาร์ลอตเตทำท่าเหมือนเพิ่งจะรู้สึกตัวเมื่อกี้ และถามไปยังนางสนมที่อยู่รอบ ๆ

แม้จะคิดไว้ว่าอาจโดนพูดเรื่องนี้แล้วก็เตรียมคำตอบไว้แล้วก็เถอะ

 

“ตายแล้ว นำอาวุธเข้ามาในวังหลังซึ่งปลอดภัยเพราะอยู่ใต้ความคุ้มครองของฝ่าบาทเนี่ยนะ”

 

“ป่าเถื่อนเหลือเกิน เป็นกุลสตรีก็ไม่ควรจะจับอาวุธสิ”

 

เหล่านางสนมรอบ ๆ ต่างพากันส่งเสริม และพูดเช่นนั้นใส่ดาบของเฮเลนา

รู้สึกรำคาญชะมัด

นางสนมเหล่านั้นทำหน้าเหมือน ๆ กันไปหมด ไม่มีจุดเด่นอะไรเลย ถ้าถามว่าสวยไหมก็คงตอบว่าสวย แต่ความสวยแค่นั้นเมื่อเทียบกับ “สนมฟ้าจันทรา” ชาร์ลอตเตแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับเศษผง

ทำไมพวกที่เรียกว่าลิ่วล้อมันถึงได้อึดอัดน่ารำคาญขนาดนี้นะ

 

“ดิฉันเองก็มีคนคุ้มกัน……แต่ที่ให้ถืออยู่คือดาบไม้เท่านั้นเจ้าค่ะ เอาดาบใหญ่แบบนั้นเข้ามาเนี่ย ไม่รู้ถึงกฎของวังหลังหรือไงกันเจ้าคะ?”

 

“รู้สิคะ ดาบนี้ลบคมไปแล้ว”

 

“แหม คิดว่านั่นเป็นข้อแก้ตัวได้หรือเจ้าคะ? น่าสงสัยในสติสัมปชัญญะจริง ๆ ทุกคนได้ยินไหมเจ้าคะ? ต่อให้ลบคมไปแล้วแต่อาวุธก็ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้ามาหรอกนะเจ้าคะ แน่ใจหรือว่าไม่ได้คิดปองร้ายพวกดิฉันอยู่น่ะ?”

 

ชาร์ลอตเตกล่าวเช่นนั้นด้วยท่าทีตกใจ

ทว่าเมื่อได้ยินวาจาเช่นนั้นของชาร์ลอตเต

เฮเลนาก็ยิ้มออกมา

 

“โฮ่ ท่านกำลังกล่าวว่า การนำดาบที่ลบคมแล้วเข้ามายังวังหลัง ทำให้สงสัยในสติสัมปชัญญะของคนผู้นั้นหรือคะ”

 

“อ้าว มิใช่หรือเจ้าคะ? หากปล่อยให้เรื่องเช่นนี้ลอยนวลไปได้ จะเกิดสงครามขึ้นในวังหลังของฝ่าบาทก็ไม่น่าแปลกใจเลย”

 

“งั้นหากได้ยลดาบเล่มนี้แล้วจะยังคิดเช่นนั้นได้อยู่หรือไม่คะ?”

 

“พูดอะไรของท่าน……”

 

เฮเลนาได้ยกดาบที่ถืออยู่ในมือขวาขึ้นมาตรงหน้า

เพื่อให้มองเห็นได้

 

ถึงตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์ที่สลักอยู่บนโกร่งดาบนั้น

 

“—!?”

 

“อย่างที่ได้เห็น นี่คือดาบเล่มหนึ่งที่ฝ่าบาทรุ่นก่อน ๆ ได้สะสมเอาไว้ค่ะ เข้าใจใช่ไหมว่าทำไมข้าจึงมีของเช่นนี้อยู่?”

 

“อ อย่าบอกนะว่า……!”

 

“ใช่ค่ะ มันคือของขวัญจากฝ่าบาท เอาล่ะ……”

 

เฮเลนาหันปลายดาบไปยังชาร์ลอตเตที่กำลังหน้าซีด

ในตำแหน่งที่ฟันเพียงครั้งเดียวก็สามารถเฉือนเอาชีวิตของเธอไปได้ทันที—และถามเพื่อพิสูจน์ความผิด

 

“สิ่งที่กล่าวมาเมื่อครู่มิได้โป้ปดใช่ไหมคะ? ที่ว่า ‘การนำดาบที่ลบคมแล้วเข้ามายังวังหลัง ทำให้สงสัยในสติสัมปชัญญะของคนผู้นั้น’ น่ะ เช่นนั้นแล้วก็ดูเหมือนพระสนมฟ้าจันทรากำลังสงสัยในสติสัมปชัญญะของฝ่าบาทอยู่สินะคะ ถึงกับสงสัยในสติสัมปชัญญะของท่านผู้นั้นที่แบกรับจักรวรรดิเอาไว้เนี่ย……กำลังวางแผนจะแย่งชิงบัลลังก์จักรพรรดิอยู่หรือไม่?”

 

“ด ดิฉัน ไม่ได้……!”

 

“ดูเหมือนกำลังสนทนากันอย่างสนุกสนานอยู่เชียวนะคะ”

 

ทันใดนั้นเองก็ได้มีผู้แทรกเข้ามากะทันหัน

“สนมฟ้าจันทรา” ชาร์ลอตเต กับ “สนมฟ้าสุริยา” เฮเลนา

บุคคลที่สามารถแทรกเข้ามาในการสนทนาของทั้งสองได้นั้น ย่อมเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงส่งพอสมควร หรือไม่ก็เป็นจักรพรรดิเองเท่านั้น

ดังนั้นเฮเลนาจึงรู้ได้โดยไม่ต้องมองไปยังร่างนั้น

 

“ขอดิฉันร่วมวงด้วยคนได้ไหมคะ?”

 

ผู้ที่มีศักดิ์เท่ากันในฐานะสามสนมฟ้า

“สนมฟ้าดารา” มาริเอล รีเวียร์ ซึ่งได้นำพาบรรดาลิ่วล้อมาด้วยกำลังยืนอยู่ที่นั่น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 27 การต่อสู้ในสวน ครึ่งแรก

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 27 การต่อสู้ในสวน ครึ่งแรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“สนมฟ้าจันทรา” ชาร์ลอตเต เอียนส์เวิร์ธ

เครือญาติของมาร์ควิสอับราฮัม โนลด์ลุนด์ ศัตรูทางการเมืองของที่ปรึกษาหลวงแอนตัน เรลโนตบิดาของเฮเลนา และยังเป็นเด็กสาวที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นโฉมงามแห่งสังคมชั้นสูง

ใบหน้าได้รูปครบเครื่องนั้น แม้คำว่างดงามยังไม่เพียงพอที่จะใช้เป็นคำยกย่อง คงต้องใช้คำสวยหรูที่เกินขอบเขตของมนุษย์ไปอย่างเช่น ‘ราวกับเทพธิดา’ มาบรรยายแล้วกระมัง ผิวพรรณก็ขาวสะอาดราวกับเครื่องลายครามที่เจิดจรัส เมื่อประกอบกับวัยเพียงสิบหกปีก็ชวนให้รู้สึกเหมือนกำลังมองดูตุ๊กตาตัวหนึ่ง

สาวน้อยผู้งดงามราวกับว่าเทพเจ้าได้ทุ่มเทสรรค์สร้างขึ้นมา

ต่อหน้าความงดงามเช่นนั้น แม้แต่ “สนมฟ้าดารา” มาริเอลที่เรียกได้ว่าเป็นสาวน้อยผู้งดงามเช่นกันก็ยังดูด้อยไปเลย

 

“ห้ะ อ่า……แหม ๆ สวัสดีค่ะ พระสนมฟ้าจันทรา”

 

“สวัสดีเจ้าค่ะ พระสนมฟ้าสุริยา”

 

‘ฮุฮุ’ ริมฝีปากที่กำลังคงยิ้มเยาะเย้ยถูกปิดบังไว้ด้วยพัดที่ประดับขนนก

แม้ทุกอากัปกิริยานั้นจะมีความสูงส่งสง่างามแผ่ซ่านออกมา ก็คงปิดไปไม่ถึงสันดานเสีย ๆ นั่นสินะ

และพอมองดูให้ดีแล้ว รอบกายของ “สนมฟ้าจันทรา” ยังมีนางสนมคนอื่นอยู่อีกมากกว่าสิบคน

 

“มีธุระอะไรหรือคะพระสนมฟ้าจันทรา”

 

“ไม่ได้มีธุระอะไรกับท่านเป็นพิเศษหรอกเจ้าค่ะพระสนมฟ้าสุริยา ดิฉันคิดว่าจะจัดงานเลี้ยงน้ำชากับเหล่าคนสนิทที่นี่ในช่วงเช้าสักหน่อย แต่พอลองมาดูก็ได้เห็นพระสนมฟ้าสุริยากำลังแกว่งดาบอย่างหน้าดำคร่ำเครียดอยู่น่ะเจ้าค่ะ”

 

“โอ้งั้นหรือคะ แต่ข้าได้บอกกับหัวหน้านางกำนัลไว้แล้วนะคะว่าจะอยู่ที่นี่จนถึงเที่ยง”

 

“แหม อย่างพระสนมฟ้าสุริยาก็มีใจอยากจะชมดอกไม้ด้วยหรือเจ้าคะ? หรือว่าแค่ต้องการที่กว้าง ๆ ไว้ฟันดาบก็เลยมาที่นี่กันแน่เจ้าคะ?”

 

“แค่ต้องการที่กว้าง ๆ ไว้ฟันดาบ ตามที่ว่านั่นแหละค่ะ”

 

เฮเลนาข่มกันไปมากับชาร์ลอตเตโดยใช้เพียงวาจา

เหล่านางสนมที่ตามหลังมาก็พากันกระซิบกระซาบว่า “แหม ป่าเถื่อนจริงเชียว” “อดีตทหารก็เป็นกันซะแบบนี้” หรืออะไรทำนองนั้นให้เฮเลนาได้ยินอย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าพวกเธอทุกคนจะอยู่ภายใต้การดูแลของ “สนมฟ้าจันทรา” ชาร์ลอตเตกระมัง

ทำให้มันเงียบปากกันให้หมดเลยดีไหม—แม้จะมีความคิดอันตรายแบบนั้นผุดขึ้นมาแต่เธอก็ห้ามตัวเองไว้

ยังไงก็คงใช้กำลังรุนแรงกับนางสนมคนอื่น ๆ ไม่ได้จริง ๆ

 

“เช่นนั้นแล้ว เมื่อพระสนมฟ้าสุริยาไม่ได้สนใจดอกไม้ ก็คงจะยอมยกสถานที่ให้พวกดิฉันใช่ไหมเจ้าคะ?”

 

“โฮ่ เหตุใดจึงคิดเช่นนั้นล่ะคะ?”

 

“หากต้องการที่กว้าง ๆ ก็แค่ไปทำตรงพุ่มไม้แถวโน้นเป็นไงเจ้าคะ? ถ้าพระสนมฟ้าสุริยาไปฟันดาบก็จะได้ไม่ต้องตัดหญ้าด้วยไงล่ะ”

 

‘ปึด’ เฮเลนาขมวดคิ้ว

ชาร์ลอตเตกำลังยิ้มเยาะอย่างโจ่งแจ้ง และเพราะวาจาเสียดสีนั้นค่อนข้างตรงไปตรงมาแม้แต่เฮเลนาผู้มีหัวสมองอันน่าเสียดายก็ยังเข้าใจได้ง่าย

ท่าทางซึ่งมองว่าระบำดาบของเฮเลนามีค่าเท่ากับการตัดหญ้านั้น มันกระตุกต่อมของเฮเลนาสุด ๆ

 

“ขอปฏิเสธค่ะ ทางท่านเป็นฝ่ายมาถึงทีหลังนี่นา ยังไงการใช้สวนระหว่างอาคารก็ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตอยู่แล้ว ขอแค่เป็นจุดที่ดาบของข้าไปไม่ถึงพวกท่านก็เชิญจัดงานเลี้ยงน้ำชากันได้ตามสะดวกเลย”

 

“อุ๊ยแหม ถ้างั้นช่วยบอกได้หรือไม่เจ้าคะว่าดาบของพระสนมฟ้าสุริยามันไปถึงตรงไหนกัน?”

 

“ในวังหลังนี้ไม่มีที่ใดที่ไปไม่ถึงหรอกค่ะ ข้าก็แค่แกว่งดาบเพื่อฝึกฝนเท่านั้น ยังไงก็โปรดระวังอุบัติเหตุไว้ให้ดีนะคะ”

 

สิ่งที่เฮเลนามีเหนือกว่า “สนมฟ้าดารา” มาริเอล และ “สนมฟ้าจันทรา” ชาร์ลอตเต

นั่นก็คือฝีมือการต่อสู้

หากได้รับคำสั่งจากฟาร์มาสว่าให้สังหารนางสนมสักคน เฮเลนาก็คงลงมือฆ่าได้ในพริบตาอย่างไม่ลังเลอะไรทั้งสิ้น ต่อให้ลงกลอนห้องไว้เธอก็สามารถพังประตูเข้าไปสำเร็จโทษได้

ดังนั้นจึงใช้เรื่องนั้นมาเป็นประโยคข่มขู่

 

“แหม ๆ พูดจาน่ากลัวเชียวนะเจ้าคะ พระสนมฟ้าสุริยา”

 

“โอ้ หมายถึงเรื่องใดหรือคะ?”

 

“เช่นนั้นดิฉันจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็แล้วกัน มันเกะกะเจ้าค่ะ ช่วยไปไกล ๆ จากที่นี่ได้ไหม?”

 

ชาร์ลอตเตยิ้มอยู่ แต่แววตาของเธอมิได้ยิ้มด้วยเลย

ดูเหมือนจะดูแคลนพลังบู๊ของเฮเลนาอยู่สินะ ทั้งที่กลุ่มของ “สนมฟ้าดารา” ที่ลองข่มขู่ไปเมื่อวันก่อนยังยอมถอยอย่างง่ายดายแท้ ๆ

งั้นข่มขู่อีกสักหน่อยดีมั้ย—เฮเลนามองถามไปทางอเลกเซีย

ทว่าอเลกเซียก็ส่ายหน้า

 

“โฮ่ ๆ พระสนมฟ้าจันทรา นี่คิดว่าทุกคนจะต้องเชื่อฟังท่านหมดอย่างนั้นหรือคะ?”

 

“แล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ? ดิฉันคือ ‘สนมฟ้าจันทรา’ ตำแหน่งที่เป็นรองเพียงพระชายาเอกเจ้าค่ะ”

 

“งั้นหรือคะ ส่วนข้าคือ ‘สนมฟ้าสุริยา’ ในทางฐานะเราก็น่าจะเท่ากันนี่คะ”

 

“อุ๊ยแหม แต่ท่านมีแค่คนเดียวมิใช่หรือ? ดิฉันพาเพื่อน ๆ มาด้วยนะเจ้าคะ แม้พระสนมฟ้าสุริยาจะได้ชื่อว่าเป็นนักรบ แต่คงไม่หันดาบเข้าใส่ดิฉันกับเพื่อน ๆ ของดิฉันหรอกใช่ไหม?”

 

น่าหงุดหงิดจริง ๆ

ถึงขั้นคิดว่าอยากจะใช้ดาบกวาดมันให้ล้มลงไปทุกคนไปเลยแหละ

แต่จะอาละวาดมั่วซั่วตอนนี้ก็ไม่ได้ จะอย่างไรแผนการของฟาร์มาสคือการรักษาสมดุลทางการเมือง หากเกิดเรื่องว่าเฮเลนาใช้กำลังกับชาร์ลอตเต นั่นอาจทำให้แอนตันสูญเสียจุดยืนไปได้เลย

เพราะแบบนั้นเมื่อกี้อเลกเซียถึงได้ส่ายหน้าล่ะมั้ง

 

“แน่นอนค่ะ อย่างไรเสียข้าก็เป็นนักรบ พลังยุทธ์นี้มีไว้เพื่อเป็นกำลังให้ฝ่าบาทและเพื่อเป็นทหารแนวหน้าของจักรวรรดิ คงมิจำเป็นต้องหันมันเข้าใส่กุลธิดาเช่นพวกท่านหรอกค่ะ”

 

“เช่นนั้นดิฉันก็วางใจ ผู้แข็งแกร่งอย่างพระสนมฟ้าสุริยาบอกว่าจะปกป้องคุ้มครองพวกเราสินะเจ้าคะ”

 

“ใช่ แต่หากจะเป็นศัตรูกับข้านั่นก็อีกเรื่องนะคะ”

 

สายตาของเฮเลนากับชาร์ลอตเตเข้าปะทะกัน

หากสายตากับสายตาชนกันแล้วเกิดประกายไฟขึ้นมาได้มันก็คงจะระเบิดไปแล้ว

แม้เฮเลนาจะไม่ถนัดกับสมรภูมิเช่นนี้ แต่จะยอมถอยก็ไม่ได้

 

“อ๊ะ จะว่าไปแล้ว……ไม่ใช่ว่าวังหลังห้ามนำอาวุธเข้ามาหรือเจ้าคะ?”

 

ชาร์ลอตเตทำท่าเหมือนเพิ่งจะรู้สึกตัวเมื่อกี้ และถามไปยังนางสนมที่อยู่รอบ ๆ

แม้จะคิดไว้ว่าอาจโดนพูดเรื่องนี้แล้วก็เตรียมคำตอบไว้แล้วก็เถอะ

 

“ตายแล้ว นำอาวุธเข้ามาในวังหลังซึ่งปลอดภัยเพราะอยู่ใต้ความคุ้มครองของฝ่าบาทเนี่ยนะ”

 

“ป่าเถื่อนเหลือเกิน เป็นกุลสตรีก็ไม่ควรจะจับอาวุธสิ”

 

เหล่านางสนมรอบ ๆ ต่างพากันส่งเสริม และพูดเช่นนั้นใส่ดาบของเฮเลนา

รู้สึกรำคาญชะมัด

นางสนมเหล่านั้นทำหน้าเหมือน ๆ กันไปหมด ไม่มีจุดเด่นอะไรเลย ถ้าถามว่าสวยไหมก็คงตอบว่าสวย แต่ความสวยแค่นั้นเมื่อเทียบกับ “สนมฟ้าจันทรา” ชาร์ลอตเตแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับเศษผง

ทำไมพวกที่เรียกว่าลิ่วล้อมันถึงได้อึดอัดน่ารำคาญขนาดนี้นะ

 

“ดิฉันเองก็มีคนคุ้มกัน……แต่ที่ให้ถืออยู่คือดาบไม้เท่านั้นเจ้าค่ะ เอาดาบใหญ่แบบนั้นเข้ามาเนี่ย ไม่รู้ถึงกฎของวังหลังหรือไงกันเจ้าคะ?”

 

“รู้สิคะ ดาบนี้ลบคมไปแล้ว”

 

“แหม คิดว่านั่นเป็นข้อแก้ตัวได้หรือเจ้าคะ? น่าสงสัยในสติสัมปชัญญะจริง ๆ ทุกคนได้ยินไหมเจ้าคะ? ต่อให้ลบคมไปแล้วแต่อาวุธก็ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้ามาหรอกนะเจ้าคะ แน่ใจหรือว่าไม่ได้คิดปองร้ายพวกดิฉันอยู่น่ะ?”

 

ชาร์ลอตเตกล่าวเช่นนั้นด้วยท่าทีตกใจ

ทว่าเมื่อได้ยินวาจาเช่นนั้นของชาร์ลอตเต

เฮเลนาก็ยิ้มออกมา

 

“โฮ่ ท่านกำลังกล่าวว่า การนำดาบที่ลบคมแล้วเข้ามายังวังหลัง ทำให้สงสัยในสติสัมปชัญญะของคนผู้นั้นหรือคะ”

 

“อ้าว มิใช่หรือเจ้าคะ? หากปล่อยให้เรื่องเช่นนี้ลอยนวลไปได้ จะเกิดสงครามขึ้นในวังหลังของฝ่าบาทก็ไม่น่าแปลกใจเลย”

 

“งั้นหากได้ยลดาบเล่มนี้แล้วจะยังคิดเช่นนั้นได้อยู่หรือไม่คะ?”

 

“พูดอะไรของท่าน……”

 

เฮเลนาได้ยกดาบที่ถืออยู่ในมือขวาขึ้นมาตรงหน้า

เพื่อให้มองเห็นได้

 

ถึงตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์ที่สลักอยู่บนโกร่งดาบนั้น

 

“—!?”

 

“อย่างที่ได้เห็น นี่คือดาบเล่มหนึ่งที่ฝ่าบาทรุ่นก่อน ๆ ได้สะสมเอาไว้ค่ะ เข้าใจใช่ไหมว่าทำไมข้าจึงมีของเช่นนี้อยู่?”

 

“อ อย่าบอกนะว่า……!”

 

“ใช่ค่ะ มันคือของขวัญจากฝ่าบาท เอาล่ะ……”

 

เฮเลนาหันปลายดาบไปยังชาร์ลอตเตที่กำลังหน้าซีด

ในตำแหน่งที่ฟันเพียงครั้งเดียวก็สามารถเฉือนเอาชีวิตของเธอไปได้ทันที—และถามเพื่อพิสูจน์ความผิด

 

“สิ่งที่กล่าวมาเมื่อครู่มิได้โป้ปดใช่ไหมคะ? ที่ว่า ‘การนำดาบที่ลบคมแล้วเข้ามายังวังหลัง ทำให้สงสัยในสติสัมปชัญญะของคนผู้นั้น’ น่ะ เช่นนั้นแล้วก็ดูเหมือนพระสนมฟ้าจันทรากำลังสงสัยในสติสัมปชัญญะของฝ่าบาทอยู่สินะคะ ถึงกับสงสัยในสติสัมปชัญญะของท่านผู้นั้นที่แบกรับจักรวรรดิเอาไว้เนี่ย……กำลังวางแผนจะแย่งชิงบัลลังก์จักรพรรดิอยู่หรือไม่?”

 

“ด ดิฉัน ไม่ได้……!”

 

“ดูเหมือนกำลังสนทนากันอย่างสนุกสนานอยู่เชียวนะคะ”

 

ทันใดนั้นเองก็ได้มีผู้แทรกเข้ามากะทันหัน

“สนมฟ้าจันทรา” ชาร์ลอตเต กับ “สนมฟ้าสุริยา” เฮเลนา

บุคคลที่สามารถแทรกเข้ามาในการสนทนาของทั้งสองได้นั้น ย่อมเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงส่งพอสมควร หรือไม่ก็เป็นจักรพรรดิเองเท่านั้น

ดังนั้นเฮเลนาจึงรู้ได้โดยไม่ต้องมองไปยังร่างนั้น

 

“ขอดิฉันร่วมวงด้วยคนได้ไหมคะ?”

 

ผู้ที่มีศักดิ์เท่ากันในฐานะสามสนมฟ้า

“สนมฟ้าดารา” มาริเอล รีเวียร์ ซึ่งได้นำพาบรรดาลิ่วล้อมาด้วยกำลังยืนอยู่ที่นั่น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+