[นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ 27 Queen of All Bugs

Now you are reading [นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ Chapter 27 Queen of All Bugs at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การเผชิญหน้ากับอาณาจักรอื่นโดยไม่ทันตั้งตัว และการสนทนาอย่างเป็นมิตรได้จบลงแล้ว

หลังจากที่เจรจาตกลงกับฟอว์นคาเวนแล้ว ทาคุโตะและผู้นำของไมน็อกกราห์คนอื่นๆ เริ่มหารือถึงมาตรการที่จะใช้และแผนการในอนาคต

“ข้าไม่คิดว่ามันจะคืบหน้าได้มากขนาดนี้ ถึงจะดีใจก็เถอะ แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องพิจารณากัน จากนี้คงจะยุ่งมากแน่ๆ คงต้องขอให้พวกท่านทำงานหนักหน่อยล่ะนะ ผู้เฒ่ามอลทาร์”

“แน่นอน แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังคงต้องเลือกอาหารและสินค้าที่จะนำไปแลกเปลี่ยน รวมไปถึงการติดต่อสื่อสารกันในอนาคตจากนี้ไป… ไม่สิ ข้าเกรงว่าสิ่งแรกที่เราต้องทำคงจะเป็นการเลือกกำลังรบที่จะส่งไปช่วยเหลือสินะ”

“ใช่แล้ว ดูจากสถานการณ์ นี่เป็นเรื่องเร่งด่วน การครอบครองหลุมชีพจรมังกรที่ผลิตมานาจากผืนดินสำคัญกับเรามาก หากสามารถครอบครองได้ นั่นหมายความว่าเราจะสามารถเพิ่มทรัพยากรด้านอาหารได้มากขึ้น ถ้าให้พูดก็คือ สถานการณ์มันจะต่างกันมากเลยระหว่างมีกับไม่มีมันน่ะ”

โดยที่มีผู้เฒ่ามอลทาร์ทำหน้าที่ให้คำแนะนำ ปัญหาต่างๆ ได้รับการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

อีกทั้ง หัวหน้านักรบไกอา และเอมัลต่างก็ถูกเรียกเข้ามาประชุมด้วยเช่นกัน

เอมัลได้รับการเลื่อนขั้นจากเลขานุการ กลายเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายใน

ก่อนหน้านี้ที่พูดคุยกับฟอว์นคาเวน ทาคุโตะและอาโทวเป็นผู้เจรจาอยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เข้าร่วมการประชุม

แต่การเจรจาตกลงครั้งนี้เป็นไปอย่างกะทันหัน ทำให้ไม่มีเวลามาคุยรายละเอียดยิบย่อยต่างๆกัน

“หืม ฟอว์นคาเวนเองก็ทำพลาดครั้งใหญ่เลยสินะ ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะมาหาเราและเจรจาราวกับเด็กแบบนี้”

“ใช่แล้ว อย่างที่ท่านโทนุคาโปลีบอกเลย เปเป้ซังนั้นค่อนข้าง…..ไม่สิ เขาเป็นคนแบบนั้นนี่นะ ข้าเกลียดเขาไม่ลงหรอก”

คนโง่มักจะไม่โดนคนอื่นเกลียดสักเท่าไหร่ เพราะเขายังเด็ก และชอบทำพลาดในทุกๆเรื่อง

แต่พวกเขาก็ไม่ใช่ภัยคุกคามของไมน็อกกราห์ ดังนั้น อาโทวจึงคิดว่านั่นแหละคือข้อดี

เธอเองก็รู้สึกแบบเดียวกับผู้เฒ่ามอลทาร์และดาร์คเอลฟ์คนอื่นๆ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไร แม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆก็ตาม

“แต่พระองค์ท่าน ข้าเองก็ไม่อาจก้าวล่วงการตัดสินใจของพระองค์ แต่ถึงกระนั้น ผู้ที่เจรจากับพระองค์ ท่านเปเป้ ดูเหมือนจะเป็นคนที่ไม่ค่อยระวังตัวสักเท่าไหร่ ด้วยผู้นำแบบนั้น พวกเขาจะไม่ทำพลาดเอาหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ผู้เฒ่ามอลทาร์ถามทาคุโตะเบาๆ

แทนที่จะเก็บความกังวลเอาไว้ เขากลับเอ่ยมันขึ้นมาทันที

ดังนั้นจึงไม่มีใครโทษที่เขาทำตัวหยาบคายกับกษัตริย์

ไกอา เอมัล และอาโทวชำเลืองไปยังทาคุโตะ ดูเหมือนพวกเขาเองก็มีความคิดแบบเดียวกัน

 

“หืมม”

(พวกเขาคิดเหมือนกันสินะ?)

ทาคุโตะครุ่นคิด

อันที่จริง ความกังวลของพวกเขานั้นถูกต้องแล้ว เปเป้เป็นคนโง่ และไม่อาจคาดเดาได้

โดยเฉพาะการโพล่งออกมาช่วงท้ายของการเจรจานั้น

นั่นทำให้ไมน็อกกราห์กุมความได้เปรียบของการเจรจา ทำให้เอื้อประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้น

และผลลัพธ์ก็คือ ถึงแม้จะต้องสกัดพลังออกมา แต่พวกเขาก็สามารถได้หลุมชีพจรมังกรที่หมายตาไว้ตั้งแต่แรกมาอย่างง่ายดาย

ดูจากสถานการณ์แล้ว พูดได้เลยว่านี่เป็นเรื่องดีสำหรับไมน็อกกราห์

ส่วนอีกฝั่ง ฟอว์นคาเวน

ดูเหมือนพวกเขาจะมีปัญหากับพวกคนเถื่อน และยังไม่สามารถจัดการเมืองมังกรได้ดีเท่าที่เขาคิดไว้

ความผิดพลาดของเปเป้นำไปสู่การตัดสินใจร่วมมือกันทางทหารขึ้น

ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะจำกัดการส่งต่อข้อมูลระหว่างกองทัพกันแน่ๆ

สรุปก็คือ พวกเขาเพิ่งจับมือเป็นพันธมิตรกัน แต่…ในขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายต่างต้องการเวลามากกว่านี้

ในกรณีนั้น ฟอว์นคาเวนจะยังมีพลังที่จะปกป้องเมืองมังกรไว้ได้อยู่หรอ?

(พอมาคิดดูแล้ว จังหวะเวลามันก็เหมาะเกินไปจนน่าแปลก…หืมม แต่เปเป้ก็โง่จริงๆนี่นะ)

ถึงอย่างนั้น ทาคุโตะก็คิดว่าการเป็นเพื่อนกับเขาก็ไม่ได้เสียหายอะไร

พิจารณาจากสถานการณ์ของอาณาจักร ไม่มีเหตุที่จะต้องตั้วตัวเป็นศัตรูกัน ไม่เหมือนกับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ควอเลีย เรื่องราวในครั้งนี้ดำเนินไปได้ด้วยดีไม่น้อยเลย

ถึงจะยังคงมีข้อขัดแย้งระหว่างวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอยู่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่จนถึงกับไม่สามารถแก้ไขได้

ที่จริงแล้ว ถ้ามองจากด้านบนลงมา มันไม่เกินจริงเลยถ้าจะบอกว่าพวกเขาได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างไม่คาดคิด

ทาคุโตะรู้สึกดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับเปเป้

ตอนแรกเขาเป็นแค่คนธรรมดาที่มีโรงพยาบาลเป็นบ้าน

เขาไม่มีเพื่อน สำหรับเขาแล้ว การมีเพื่อนก็เป็นได้แค่ความฝัน

ทันใดนั้นเขาก็ได้เพื่อนใหม่ แน่นอนเลยว่าเขาจะต้องรู้สึกดีใจมาก

(ถึงจะกังวลเรื่องพวกคนเถื่อนอยู่หน่อยๆ แต่คงดีไปเลยนะ ถ้าเรายังรักษาความสัมพันธ์กับฟอว์นคาเวนได้แบบนี้ต่อไป)

แต่ทุกสิ่งก็เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น

ใครบางคนกล่าวไว้ว่า ไม่มีมิตรภาพที่แท้จริงในการค้าขายแลกเปลี่ยน ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนไป บางทีฟอว์นคาเวนและเปเป้อาจจะหันอาวุธใส่ไมน็อกกราห์

อาณาจักรคู่ค้าที่เป็นมิตร เป็นสิ่งที่เขาต้องปกป้องเอาไว้

แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงเขาจะต้องเลือกฝั่งไหนกัน?

นั่นไม่จำเป็นต้องถามด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าทาคุโตะรู้ดีว่าจะต้องเลือกแบบไหน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปัจจุบันนั้นค่อนข้างสงบสุขดีแล้ว

สงบมาก

แม้ว่าจะยังจำกัดอยู่ที่ความร่วมมือกันระหว่างสองอาณาจักร แต่สิ่งที่ทาคุโตะต้องการได้กลายเป็นจริงแล้ว

ถึงพวกเขาจะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ยินดีไปกับมัน

ดังนั้น คำตอบก็คือ…

“ท่านทาคุโตะ?”

“นั่นสินะ เรื่องของเปเป้น่ะเอาไว้ก่อนแล้วกัน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

“รับบัญชา พ่ะย่ะค่ะ”

ทุกคนโค้งคำนับให้กับการตัดสินใจของทาคุโตะ

อิระ ทาคุโตะ กษัตริย์แห่งความพินาศ ผู้นำของไมน็อกกราห์ได้ตัดสินใจแล้ว

หากราชาตัดสินใจเช่นนั้น คำพูดของเขาถือเป็นที่สุด ไม่มีช่องว่างให้โต้แย้ง

ทาคุโตะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เมื่อได้เห็นถึงความจงรักภักดีที่พวกเขาแสดงออกมา

ลำดับขั้นของการบังคับบัญชาเป็นสิ่งที่จำเป็นในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างมาก

มือและเท้าจะต้องขยับไปตามที่สมองสั่งการ นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ที่เรียกว่าประเทศชาติ

มันไม่เหมือนกับในเกม ทาคุโตะกังวลเกี่ยวกับความผิดพลาดของผู้คน อย่างการสื่อสารและเข้าใจกันแบบผิดๆ คำแนะนำเหล่านี้จะต้องมีอยู่เสมอตราบเท่าที่พวกเขายังมีอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์อยู่ แต่สำหรับตอนนี้ ไมน็อกกราห์ได้บรรลุผลที่น่าพอใจแล้ว

นั่นคือเหตุผลที่ทาคุโตะได้คิดแผนการไว้มากมาย

ทีนี้ก็มารับมือกับปัญหาใกล้ตัวที่สุดกันก่อน

เรื่องการโจมตีของพวกคนเถื่อน

ภัยคุกคามที่ไม่ปกติ

(ศัตรูที่โผล่ออกมากะทันหัน อย่างกับ–)

จินตนาการที่น่าขันผุดขึ้นในหัวของเขา

ก่อนที่มันจะก่อตัวรูปเป็นร่าง ทาคุโตะก็สลัดมันออกไปจากหัว

 ◇   ◇   ◇

วันนั้น เป็นครั้งแรก ที่ทาคุโตะตื่นเต้นอย่างออกนอกหน้า จนคนอื่นรับรู้ได้

อาโทวเองก็ตื่นเต้นตามไปด้วยเมื่อเห็นเจ้านายของเธอดูมีชีวิตชีวาขนาดนี้

เหล่าดาร์คเอลฟ์ต่างก็เป็นกังวลเมื่อเห็นพวกเขา

“ในที่สุด เธอก็ถือกำเนิดขึ้นแล้ว! ฮีโร่คนใหม่! เรารอวันนี้กันมานานแค่ไหนแล้วนะ! เก็บสะสมทรัพยากรไว้ตั้งเท่าไหร่กัน?”

“จริงๆแล้วก็เยอะมากเลยค่ะ แต่ในที่สุดความพยามของเราก็ผลิดอกออกผลแล้ว”

ทาคุโตะและอาโทวตื่นเต้นกันมาก 

ทรัพยากรกองสุมกันอยู่ในลานพิธีกรรม – อาหารจากต้นเนื้อมนุษย์ ไม้ที่เก็บเกี่ยวมาจากป่ารอบๆ และหินล้ำค่าต่างๆ

ด้วยความช่วยเหลือของอาโทว และแมลงขายาว พวกเขาสามารถเข้าสู่ขั้นตอนการสร้างฮีโร่ แต่งานที่ต้องทำเพื่อไปให้ถึงจุดนั้นไม่สามารถทำแบบครึ่งๆกลางๆได้

ชาวดาร์คเอลฟ์ต่างก็อาสาทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อตอบแทนราชาที่ช่วยเผ่าของพวกเขาไว้ ฝาแฝดทั้งสอง ซีเรีย และมีเรีย ต่างก็เดินเคียงข้างไปพร้อมกับราชาของพวกเธอ

“ว้าว กินพวกนั้นไปจะต้องอิ่มมากแน่ๆเลย”

มีเรียผู้โง่เขลา แสดงความประหลาดใจออกมา ในขณะที่ดวงตาเซื่องซึมเบิกกว้าง

“ฝ่าบาทเพคะ ท่านจะอัญเชิญฮีโร่คนไหนหรอ?”

ซีเรีย ผู้ที่มีรอยไหม้เกรียม ที่ไม่สนใจอะไรนอกจากพี่สาวของเธอ มองด้วยความสงสัย

“ใช่แล้ว คอยดูได้เลย”

“พิธีอัญเชิญนี่แหละ น่าตื่นเต้นที่สุดแล้ว คุคุ”

ประโยคของทาคุโตะทำให้ดวงตาของทั้งคู่เปล่งประกาย

ถัดจากพวกเขาไปคืออาโทวที่ดวงตาเปล่งประกายราวกับเด็กๆ ทาคุโตะคุยกับเธอผ่านเทเลพาธีที่พวกเขาได้ยินกันแค่สองคน

(อาโทว…เธอคิดยังไงเกี่ยวกับอิสลา?)

(ท่านหมายถึงว่าเธอจะอยู่ฝั่งเดียวกับเราหรือเปล่าใช่ไหมคะ?)

มีเพียงเรื่องเดียวที่พวกเขากังวลกัน นั่นก็คืออิสลาจะจำทาคุโตะได้รึเปล่า

ก่อนหน้านี้ทาคุโตะเป็นเพียงแค่มนุษย์ ตอนนี้เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ขึ้นที่นี่ด้วยการตั้งค่าจากในเกม

นั่นก็คือ อิระ ทาคุโตะ ราชาแห่งความพินาศ

ตอนที่เป็นผู้เล่น ทาคุโตะมักจะเล่นกับอาโทวเสมอ เธอจดจำเขาได้เมื่อมายังโลกใบนี้ แต่ไม่มีอะไรมารับประกันว่าอิสลาจะเป็นเช่นเดียวกัน

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะจำได้ แต่ก็ยังมีเรื่องอื่นให้กังวลอยู่ดี

อย่างเช่น ถ้าหากฮีโร่มีความต้องการเป็นของตัวเอง มันก็มีโอกาสที่พวกเขาจะปฏิเสธ และทำการต่อต้านอิระ ทาคุโตะ

“Eternal Nations” เป็นสถานที่ซึ่งผู้นำของแต่ละอาณาจักร จะชี้นำอาณาจักรไปในแนวทางของตัวเอง

ผู้นำของพวกเขาสามารถเลือกได้ บางครั้งฮีโร่ก็สามารถเป็นผู้นำได้ หรือบางครั้งผู้นำเองก็กลายเป็นยูนิตทั่วไปได้เช่นกัน

และอิสลาคือตัวละครที่สามารถทำหน้าที่ได้ทั้งการเป็นผู้นำ และยูนิตทั่วไป

เมื่อเธอเป็นผู้นำของไมน็อกกราห์ เขามักจะชอบใช้กลยุทธ์ “แมลงบุก”

มันคือกลยุทธ์ที่ไม่สนเรื่องการเพิ่มเลเวล และมุ่งเน้นไปที่การสร้างยูนิตออกมาจำนวนมาก เพื่อรุกรานอาณาจักรข้างเคียงในช่วงต้นเกม ในบางพื้นที่ มันถือว่าเป็นตัวโกงที่ค่อนข้างนิยมใช้กัน

ความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุดคืออิสลาจะเข้ายึดไมน็อกกราห์

ที่จริงแล้ว ใน “Eternal Nations” เองก็มีระบบที่ผู้นำถูกยึดอำนาจได้เช่นกัน

พวกเขาทั้งคู่ต่างเป็นกังวล ในกรณีที่อิสลาไม่ยอมรับทาคุโตะ และหันเขี้ยวเข้าใส่ไมน็อกกราห์

(หากมีอะไรผิดพลาด ฉันจะจัดการเธอเองค่ะ ระดับพลังของอิสลาอยู่ที่ 8 พอๆกันกับฉันก็จริง แต่ตอนนี้ฉันได้เปรียบกว่า เพราะมีสกิลดาบศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย)

(ผมคิดว่าไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ก็ฝากด้วยนะ)

นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญ

อย่างแรกเลยก็คือ การอัญเชิญเป็นปรากฏการณ์ที่ลึกลับ ไม่ว่ามันจะอิงจากระบบเกมมากแค่ไหน พวกเขาก็ไม่อาจวางใจได้อยู่ดี

—ไม่สิ ยิ่งต้องเฝ้าระวัง เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็เป็นได้

ทาคุโตะคอยระมัดระวังทุกอย่างสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น และบางครั้งเขาก็เลือกที่จะทำอะไรเสี่ยงๆ

แต่สิ่งที่ทำให้ทางเลือกเหล่านั้นประสบผลสำเร็จก็คือหญิงสาวที่มีนามว่า อาโทว คนที่เขาเชื่อใจมากที่สุด

(ฉันจะปกป้องท่านเองค่ะ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม)

(ค่าใช้จ่ายในการอัญเชิญมันสูงมาก เพราะงั้นอย่าให้เป็นแบบนั้นจะดีกว่านะ)

และพิธีอัญเชิญได้เริ่มต้นขึ้น

บุคคลสำคัญของไมน็อกกราห์ต่างก็อยู่ที่นี่กันหมด

ถ้าอิสลาก่อกบฎ มันจะเป็นเรื่องอันตรายมาก

เพราะแบบนั้น ทาคุโตะจึงตัดสินใจที่จะอัญเชิญเธอในพื้นที่เปิด เพื่อในกรณีฉุกเฉิน เขาสามารถใช้ดาร์คเอลฟ์เป็นเหยื่อล่อ และจัดการกับอิสลาได้

เป้าหมายของทาคุโตะก็คือใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบ กับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเขา – อาโทว

สุดท้ายแล้ว มีแค่เธอเท่านั้นที่เขาต้องการ

เขาคงรู้สึกแย่ถ้าเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นกับคนอื่นๆ แต่เขาก็จะไม่ใส่ใจกับมันมากนัก

เหล่าดาร์คเอลฟ์ต่างก็งุนงงกับภาพที่อยู่ตรงหน้า พวกเขาไม่รู้ความคิดของทาคุโตะ

พวกเขาเคยเป็นพยานในพิธีอัญเชิญแมลงขายาวก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้ ขนาดของพิธีอัญเชิญฮีโร่มันต่างออกไป

“พิธีกำลังจะเริ่มแล้ว ตามที่คุยกันไว้ ทุกคนห้ามขยับไปจากจุดที่ยืนอยู่จนกว่าจะได้รับคำสั่ง…”

ดาร์คเอลฟ์พยักหน้ารับคำสั่งอาโทวอย่างเงียบๆ และกลั้นลมหายใจ

ท้องฟ้ากลายเป็นสีหม่น เมฆหมอกหมุนวนเป็นวงกลมทำให้ดูมืดมิดแบบแปลกๆ

พลังเวทย์อันลึกลับพวยพุ่งออกมาจากผืนดิน และแผ่ขยายออกมาปกคุลมพื้นที่

ตรงจุดศูนย์กลางของกองทรัพยากรต่างๆ พื้นที่บริเวณนั้นราวกับถูกบิดคว้านออก และทันใดนั้นมันก็ดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป

จากนั้น ไข่สีแดงดำที่มีพื้นผิวเป็นเนื้อหนังก็ได้ถือกำเนิด และเพิ่มขนาดขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับดูดซับทรัพยากรไปด้วย

“นี่-นี่มัน…”

ผู้เฒ่ามอลทาร์ ที่ปิดปากเงียบมาโดยตลอดเนื่องจากเกรงว่าจะไปรบกวนพิธีกรรมขององค์ราชา ส่งเสียงออกมาอย่างช่วยไม่ได้

หัวหน้านักรบไกอา ฝาแฝดทั้งสอง และผู้ติดตามคนอื่นๆต่างก็พยายามปิดปากให้สนิท แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังเผลอร้องออกมา

พวกเขาไม่ได้หวาดกลัว แต่มันเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในจิตใจของพวกเขา

ช่างงดงามเสียนี่กระไร!

เป็นบรรยากาศที่น่าเหลือเชื่อมาก

ปาฏิหาริย์ที่ถูกสร้างโดยกษัตริย์ของพวกเขา พลังของฮีโร่ที่ถือกำเนิดขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น พลังอันไร้สิ้นสุดที่องค์ราชาปลดปล่อยออกมา

เมื่อได้เห็นกับตาของตนเอง ทำให้พวกเขามีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของไมน็อกกราห์

อาโทวเองก็ประทับใจกับฉากนี้

เธอเองก็ร่วมมือกับทาคุโตะ วางแผนเตรียมรับมือในกรณีที่อิสลาอยู่เหนือการควบคุมไว้ด้วย แต่ถ้าว่ากันตามตรง เธอเองก็คิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้

เธอนั้นเคารพเจ้านายของเธออย่างถึงที่สุด เพราะว่าเธอยกย่องทาคุโตะขนาดนั้น เธอจึงรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติที่ฮีโร่ตนอื่นๆจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของทาคุโตะ

อีกเรื่องคือ ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอสัมผัสได้ว่า ‘มันจะไม่เป็นอะไรแน่นอน’

จิจิ กิกิ จิกิ–

เสียงแปลกๆดังออกมาจากก้อนเนื้อนั้น มันเป็นเสียงการเต้นของหัวใจของสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด

ก้อนเนื้อขนาดใหญ่ ในที่สุดก็เริ่มปริแตก

สิ่งที่อยู่ภายในทะลักออกมา และก้อนที่มีของเหลวเหนียวเหนอะขนาดใหญ่ก็ไหลออกมากอง

มันดูเหมือนผีเสื้อที่ออกมาจากรังไหม และเมื่อมันสยายปีก เสียงที่ส่งออกมาราวกับเต็มไปด้วยความยินดี

ถ้ามองเพียงแวบแรก มันดูเหมือนกับมด แต่ถึงอย่างนั้น มันก็มีเขี้ยวที่แหลมคม และเขาที่สามารถบดขยี้ได้ทุกสรรพสิ่ง

ร่างกายของมันเป็นแมลง แต่โครงสร้างของมันดูหนาราวกับมนุษย์ และไม่ได้มีรูปร่างเรียวบางเหมือนกับพวกสัตว์ขาปล้อง

สิ่งของที่คล้ายเต้านมของมนุษย์หลายชิ้นห้อยอยู่บริเวณหน้าอก ไม่ว่าใครที่ได้เห็นมันต่างก็รู้สึกอึดอัด

แขนขาที่ยืดยาวออกมาแต่ละข้างนั้นต่างก็เหมือนกัน แต่จากลักษณะแล้ว ดูเหมือนมันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อไว้ใช้ในการเดิน พวกมันทั้งหนา กรงเล็บอันดุร้ายที่ยืดยาวออกมา เห็นได้ชัดว่าเอาไว้เชือดเฉือนศัตรู

ปีกที่กระพือเป็นประกายระยิบระยับสีรุ้ง รวมกับผิวสีเขียวเข้มของมัน ทำให้มันกลายเป็นภาพอันยอดเยี่ยม

แมลงที่ตัวใหญ่เท่ากระท่อมหลังหนึ่งมองไปรอบๆ

จากนั้นก็ก้มหัวลง

เธอแสดงท่าทีน่าขัน ราวกับตั้งตัวไม่ทันอยู่บ้าง

จากนั้น เมื่อสายตาของเธอพบกับทาคุโตะ เธอจึงโค้งคำนับ และทักทายเขา

“อ๊ะ อ่าา ฝ่าบาทผู้ยิ่งใหญ่ ราชาของข้า เป็นเกียรตินักที่ได้พบท่านในที่แห่งนี้ อิสลาผู้นี้ ผู้ซึ่งบัญชาเหล่าแมลงทั้งปวง การที่ได้รับใช้ท่านอีกครั้ง ทำให้ข้ารู้สึกเป็นยินดีและซาบซึ้งจากก้นบึ้งของจิตใจยิ่งนัก”

เสียงที่ฟังดุเหมือนหญิงสาวดังออกมาจากปากของแมลงตนนี้

เหล่าดาร์คเอลฟ์ต่างตกตะลึงที่ได้ยินเสียงเหมือนมนุษย์ออกจากปากของสิ่งมีชีวิตตนนี้

อิสลาตระหนักได้ถึงท่าทีของพวกเขา แต่ดูเหมือนเธอไม่มีความตั้งใจที่จะทำอะไร และยังเอาแค่ก้มหัวรอคำสั่งจากทาคุโตะเพียงอย่างเดียว

ทาคุโตะที่เฝ้ามองสถานการณ์อยู่ พยักหน้าหลายครั้งด้วยความพึงพอใจ และก้าวออกไป

อาโทวรีบพุ่งตัวออกไปเพื่อหยุดการกระทำอันไม่ยั้งคิดของเจ้านายของเธอ แต่เขาก็ไม่สนใจ

ในที่สุด ทาคุโตะก็มายืนอยู่ด้านหน้าของของอิสลา และเงยหน้ามองขึ้นไปยังสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ตนนี้

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ยังจำฉันได้รึเปล่า?”

“…? โอ๊ะ ใช่ค่ะ! ใช่แล้ว ใช่ ใช่! ฉันจำได้แล้วค่ะ ท่านทาคุโตะ ราชาแห่งความพินาศผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ล่วงรู้ทุกสรรพสิ่ง และยังเป็นผู้เล่นระดับสูงใน Eternal Nations –ถูกไหมคะ?”

“ใช่แล้ว”

“ถึงฉันจะยังสับสนอยู่นิดหน่อย แต่ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ถูกอัญเชิญออกมาอีกครั้ง ท่านสามารถใช้พลังนี้ได้ตามต้องการเลยค่ะ”

อิสลาพยักหน้า และส่งเสียงออกมาด้วยความยินดี

เป็นเพราะใบหน้าแบบแมลงของเธอ จึงทำให้ไม่อาจอ่านสีหน้าได้

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทาคุโตะรู้สึกได้ถึงความยินดีที่ซ่อนอยู่ภายในดวงตาคู่นั้น

 

=ข้อความ=============

 ฮีโร่ อิสลา ราชินีแห่งเหล่าแมลงทั้งปวง ได้เข้าสู่กระดาน

พลังการต่อสู้ของยูนิตแมลงทั้งหมดในโลกจะเพิ่มขึ้น 2

~รวมพล! ท่านแม่อิสลาตื่นขึ้นแล้ว!

~จงร่ำร้อง! ท่านแม่อิสลาตื่นขึ้นแล้ว!

แมลงทั้งหมดจะต้องก้มหัวให้กับราชินีอิสลา และก้าวเข้าสู่ยุคใหม่!

—————————————————————————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ 27 Queen of All Bugs

Now you are reading [นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ Chapter 27 Queen of All Bugs at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การเผชิญหน้ากับอาณาจักรอื่นโดยไม่ทันตั้งตัว และการสนทนาอย่างเป็นมิตรได้จบลงแล้ว

หลังจากที่เจรจาตกลงกับฟอว์นคาเวนแล้ว ทาคุโตะและผู้นำของไมน็อกกราห์คนอื่นๆ เริ่มหารือถึงมาตรการที่จะใช้และแผนการในอนาคต

“ข้าไม่คิดว่ามันจะคืบหน้าได้มากขนาดนี้ ถึงจะดีใจก็เถอะ แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องพิจารณากัน จากนี้คงจะยุ่งมากแน่ๆ คงต้องขอให้พวกท่านทำงานหนักหน่อยล่ะนะ ผู้เฒ่ามอลทาร์”

“แน่นอน แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังคงต้องเลือกอาหารและสินค้าที่จะนำไปแลกเปลี่ยน รวมไปถึงการติดต่อสื่อสารกันในอนาคตจากนี้ไป… ไม่สิ ข้าเกรงว่าสิ่งแรกที่เราต้องทำคงจะเป็นการเลือกกำลังรบที่จะส่งไปช่วยเหลือสินะ”

“ใช่แล้ว ดูจากสถานการณ์ นี่เป็นเรื่องเร่งด่วน การครอบครองหลุมชีพจรมังกรที่ผลิตมานาจากผืนดินสำคัญกับเรามาก หากสามารถครอบครองได้ นั่นหมายความว่าเราจะสามารถเพิ่มทรัพยากรด้านอาหารได้มากขึ้น ถ้าให้พูดก็คือ สถานการณ์มันจะต่างกันมากเลยระหว่างมีกับไม่มีมันน่ะ”

โดยที่มีผู้เฒ่ามอลทาร์ทำหน้าที่ให้คำแนะนำ ปัญหาต่างๆ ได้รับการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

อีกทั้ง หัวหน้านักรบไกอา และเอมัลต่างก็ถูกเรียกเข้ามาประชุมด้วยเช่นกัน

เอมัลได้รับการเลื่อนขั้นจากเลขานุการ กลายเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายใน

ก่อนหน้านี้ที่พูดคุยกับฟอว์นคาเวน ทาคุโตะและอาโทวเป็นผู้เจรจาอยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เข้าร่วมการประชุม

แต่การเจรจาตกลงครั้งนี้เป็นไปอย่างกะทันหัน ทำให้ไม่มีเวลามาคุยรายละเอียดยิบย่อยต่างๆกัน

“หืม ฟอว์นคาเวนเองก็ทำพลาดครั้งใหญ่เลยสินะ ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะมาหาเราและเจรจาราวกับเด็กแบบนี้”

“ใช่แล้ว อย่างที่ท่านโทนุคาโปลีบอกเลย เปเป้ซังนั้นค่อนข้าง…..ไม่สิ เขาเป็นคนแบบนั้นนี่นะ ข้าเกลียดเขาไม่ลงหรอก”

คนโง่มักจะไม่โดนคนอื่นเกลียดสักเท่าไหร่ เพราะเขายังเด็ก และชอบทำพลาดในทุกๆเรื่อง

แต่พวกเขาก็ไม่ใช่ภัยคุกคามของไมน็อกกราห์ ดังนั้น อาโทวจึงคิดว่านั่นแหละคือข้อดี

เธอเองก็รู้สึกแบบเดียวกับผู้เฒ่ามอลทาร์และดาร์คเอลฟ์คนอื่นๆ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไร แม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆก็ตาม

“แต่พระองค์ท่าน ข้าเองก็ไม่อาจก้าวล่วงการตัดสินใจของพระองค์ แต่ถึงกระนั้น ผู้ที่เจรจากับพระองค์ ท่านเปเป้ ดูเหมือนจะเป็นคนที่ไม่ค่อยระวังตัวสักเท่าไหร่ ด้วยผู้นำแบบนั้น พวกเขาจะไม่ทำพลาดเอาหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ผู้เฒ่ามอลทาร์ถามทาคุโตะเบาๆ

แทนที่จะเก็บความกังวลเอาไว้ เขากลับเอ่ยมันขึ้นมาทันที

ดังนั้นจึงไม่มีใครโทษที่เขาทำตัวหยาบคายกับกษัตริย์

ไกอา เอมัล และอาโทวชำเลืองไปยังทาคุโตะ ดูเหมือนพวกเขาเองก็มีความคิดแบบเดียวกัน

 

“หืมม”

(พวกเขาคิดเหมือนกันสินะ?)

ทาคุโตะครุ่นคิด

อันที่จริง ความกังวลของพวกเขานั้นถูกต้องแล้ว เปเป้เป็นคนโง่ และไม่อาจคาดเดาได้

โดยเฉพาะการโพล่งออกมาช่วงท้ายของการเจรจานั้น

นั่นทำให้ไมน็อกกราห์กุมความได้เปรียบของการเจรจา ทำให้เอื้อประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้น

และผลลัพธ์ก็คือ ถึงแม้จะต้องสกัดพลังออกมา แต่พวกเขาก็สามารถได้หลุมชีพจรมังกรที่หมายตาไว้ตั้งแต่แรกมาอย่างง่ายดาย

ดูจากสถานการณ์แล้ว พูดได้เลยว่านี่เป็นเรื่องดีสำหรับไมน็อกกราห์

ส่วนอีกฝั่ง ฟอว์นคาเวน

ดูเหมือนพวกเขาจะมีปัญหากับพวกคนเถื่อน และยังไม่สามารถจัดการเมืองมังกรได้ดีเท่าที่เขาคิดไว้

ความผิดพลาดของเปเป้นำไปสู่การตัดสินใจร่วมมือกันทางทหารขึ้น

ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะจำกัดการส่งต่อข้อมูลระหว่างกองทัพกันแน่ๆ

สรุปก็คือ พวกเขาเพิ่งจับมือเป็นพันธมิตรกัน แต่…ในขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายต่างต้องการเวลามากกว่านี้

ในกรณีนั้น ฟอว์นคาเวนจะยังมีพลังที่จะปกป้องเมืองมังกรไว้ได้อยู่หรอ?

(พอมาคิดดูแล้ว จังหวะเวลามันก็เหมาะเกินไปจนน่าแปลก…หืมม แต่เปเป้ก็โง่จริงๆนี่นะ)

ถึงอย่างนั้น ทาคุโตะก็คิดว่าการเป็นเพื่อนกับเขาก็ไม่ได้เสียหายอะไร

พิจารณาจากสถานการณ์ของอาณาจักร ไม่มีเหตุที่จะต้องตั้วตัวเป็นศัตรูกัน ไม่เหมือนกับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ควอเลีย เรื่องราวในครั้งนี้ดำเนินไปได้ด้วยดีไม่น้อยเลย

ถึงจะยังคงมีข้อขัดแย้งระหว่างวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอยู่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่จนถึงกับไม่สามารถแก้ไขได้

ที่จริงแล้ว ถ้ามองจากด้านบนลงมา มันไม่เกินจริงเลยถ้าจะบอกว่าพวกเขาได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างไม่คาดคิด

ทาคุโตะรู้สึกดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับเปเป้

ตอนแรกเขาเป็นแค่คนธรรมดาที่มีโรงพยาบาลเป็นบ้าน

เขาไม่มีเพื่อน สำหรับเขาแล้ว การมีเพื่อนก็เป็นได้แค่ความฝัน

ทันใดนั้นเขาก็ได้เพื่อนใหม่ แน่นอนเลยว่าเขาจะต้องรู้สึกดีใจมาก

(ถึงจะกังวลเรื่องพวกคนเถื่อนอยู่หน่อยๆ แต่คงดีไปเลยนะ ถ้าเรายังรักษาความสัมพันธ์กับฟอว์นคาเวนได้แบบนี้ต่อไป)

แต่ทุกสิ่งก็เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น

ใครบางคนกล่าวไว้ว่า ไม่มีมิตรภาพที่แท้จริงในการค้าขายแลกเปลี่ยน ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนไป บางทีฟอว์นคาเวนและเปเป้อาจจะหันอาวุธใส่ไมน็อกกราห์

อาณาจักรคู่ค้าที่เป็นมิตร เป็นสิ่งที่เขาต้องปกป้องเอาไว้

แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงเขาจะต้องเลือกฝั่งไหนกัน?

นั่นไม่จำเป็นต้องถามด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าทาคุโตะรู้ดีว่าจะต้องเลือกแบบไหน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปัจจุบันนั้นค่อนข้างสงบสุขดีแล้ว

สงบมาก

แม้ว่าจะยังจำกัดอยู่ที่ความร่วมมือกันระหว่างสองอาณาจักร แต่สิ่งที่ทาคุโตะต้องการได้กลายเป็นจริงแล้ว

ถึงพวกเขาจะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ยินดีไปกับมัน

ดังนั้น คำตอบก็คือ…

“ท่านทาคุโตะ?”

“นั่นสินะ เรื่องของเปเป้น่ะเอาไว้ก่อนแล้วกัน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

“รับบัญชา พ่ะย่ะค่ะ”

ทุกคนโค้งคำนับให้กับการตัดสินใจของทาคุโตะ

อิระ ทาคุโตะ กษัตริย์แห่งความพินาศ ผู้นำของไมน็อกกราห์ได้ตัดสินใจแล้ว

หากราชาตัดสินใจเช่นนั้น คำพูดของเขาถือเป็นที่สุด ไม่มีช่องว่างให้โต้แย้ง

ทาคุโตะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เมื่อได้เห็นถึงความจงรักภักดีที่พวกเขาแสดงออกมา

ลำดับขั้นของการบังคับบัญชาเป็นสิ่งที่จำเป็นในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างมาก

มือและเท้าจะต้องขยับไปตามที่สมองสั่งการ นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ที่เรียกว่าประเทศชาติ

มันไม่เหมือนกับในเกม ทาคุโตะกังวลเกี่ยวกับความผิดพลาดของผู้คน อย่างการสื่อสารและเข้าใจกันแบบผิดๆ คำแนะนำเหล่านี้จะต้องมีอยู่เสมอตราบเท่าที่พวกเขายังมีอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์อยู่ แต่สำหรับตอนนี้ ไมน็อกกราห์ได้บรรลุผลที่น่าพอใจแล้ว

นั่นคือเหตุผลที่ทาคุโตะได้คิดแผนการไว้มากมาย

ทีนี้ก็มารับมือกับปัญหาใกล้ตัวที่สุดกันก่อน

เรื่องการโจมตีของพวกคนเถื่อน

ภัยคุกคามที่ไม่ปกติ

(ศัตรูที่โผล่ออกมากะทันหัน อย่างกับ–)

จินตนาการที่น่าขันผุดขึ้นในหัวของเขา

ก่อนที่มันจะก่อตัวรูปเป็นร่าง ทาคุโตะก็สลัดมันออกไปจากหัว

 ◇   ◇   ◇

วันนั้น เป็นครั้งแรก ที่ทาคุโตะตื่นเต้นอย่างออกนอกหน้า จนคนอื่นรับรู้ได้

อาโทวเองก็ตื่นเต้นตามไปด้วยเมื่อเห็นเจ้านายของเธอดูมีชีวิตชีวาขนาดนี้

เหล่าดาร์คเอลฟ์ต่างก็เป็นกังวลเมื่อเห็นพวกเขา

“ในที่สุด เธอก็ถือกำเนิดขึ้นแล้ว! ฮีโร่คนใหม่! เรารอวันนี้กันมานานแค่ไหนแล้วนะ! เก็บสะสมทรัพยากรไว้ตั้งเท่าไหร่กัน?”

“จริงๆแล้วก็เยอะมากเลยค่ะ แต่ในที่สุดความพยามของเราก็ผลิดอกออกผลแล้ว”

ทาคุโตะและอาโทวตื่นเต้นกันมาก 

ทรัพยากรกองสุมกันอยู่ในลานพิธีกรรม – อาหารจากต้นเนื้อมนุษย์ ไม้ที่เก็บเกี่ยวมาจากป่ารอบๆ และหินล้ำค่าต่างๆ

ด้วยความช่วยเหลือของอาโทว และแมลงขายาว พวกเขาสามารถเข้าสู่ขั้นตอนการสร้างฮีโร่ แต่งานที่ต้องทำเพื่อไปให้ถึงจุดนั้นไม่สามารถทำแบบครึ่งๆกลางๆได้

ชาวดาร์คเอลฟ์ต่างก็อาสาทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อตอบแทนราชาที่ช่วยเผ่าของพวกเขาไว้ ฝาแฝดทั้งสอง ซีเรีย และมีเรีย ต่างก็เดินเคียงข้างไปพร้อมกับราชาของพวกเธอ

“ว้าว กินพวกนั้นไปจะต้องอิ่มมากแน่ๆเลย”

มีเรียผู้โง่เขลา แสดงความประหลาดใจออกมา ในขณะที่ดวงตาเซื่องซึมเบิกกว้าง

“ฝ่าบาทเพคะ ท่านจะอัญเชิญฮีโร่คนไหนหรอ?”

ซีเรีย ผู้ที่มีรอยไหม้เกรียม ที่ไม่สนใจอะไรนอกจากพี่สาวของเธอ มองด้วยความสงสัย

“ใช่แล้ว คอยดูได้เลย”

“พิธีอัญเชิญนี่แหละ น่าตื่นเต้นที่สุดแล้ว คุคุ”

ประโยคของทาคุโตะทำให้ดวงตาของทั้งคู่เปล่งประกาย

ถัดจากพวกเขาไปคืออาโทวที่ดวงตาเปล่งประกายราวกับเด็กๆ ทาคุโตะคุยกับเธอผ่านเทเลพาธีที่พวกเขาได้ยินกันแค่สองคน

(อาโทว…เธอคิดยังไงเกี่ยวกับอิสลา?)

(ท่านหมายถึงว่าเธอจะอยู่ฝั่งเดียวกับเราหรือเปล่าใช่ไหมคะ?)

มีเพียงเรื่องเดียวที่พวกเขากังวลกัน นั่นก็คืออิสลาจะจำทาคุโตะได้รึเปล่า

ก่อนหน้านี้ทาคุโตะเป็นเพียงแค่มนุษย์ ตอนนี้เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ขึ้นที่นี่ด้วยการตั้งค่าจากในเกม

นั่นก็คือ อิระ ทาคุโตะ ราชาแห่งความพินาศ

ตอนที่เป็นผู้เล่น ทาคุโตะมักจะเล่นกับอาโทวเสมอ เธอจดจำเขาได้เมื่อมายังโลกใบนี้ แต่ไม่มีอะไรมารับประกันว่าอิสลาจะเป็นเช่นเดียวกัน

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะจำได้ แต่ก็ยังมีเรื่องอื่นให้กังวลอยู่ดี

อย่างเช่น ถ้าหากฮีโร่มีความต้องการเป็นของตัวเอง มันก็มีโอกาสที่พวกเขาจะปฏิเสธ และทำการต่อต้านอิระ ทาคุโตะ

“Eternal Nations” เป็นสถานที่ซึ่งผู้นำของแต่ละอาณาจักร จะชี้นำอาณาจักรไปในแนวทางของตัวเอง

ผู้นำของพวกเขาสามารถเลือกได้ บางครั้งฮีโร่ก็สามารถเป็นผู้นำได้ หรือบางครั้งผู้นำเองก็กลายเป็นยูนิตทั่วไปได้เช่นกัน

และอิสลาคือตัวละครที่สามารถทำหน้าที่ได้ทั้งการเป็นผู้นำ และยูนิตทั่วไป

เมื่อเธอเป็นผู้นำของไมน็อกกราห์ เขามักจะชอบใช้กลยุทธ์ “แมลงบุก”

มันคือกลยุทธ์ที่ไม่สนเรื่องการเพิ่มเลเวล และมุ่งเน้นไปที่การสร้างยูนิตออกมาจำนวนมาก เพื่อรุกรานอาณาจักรข้างเคียงในช่วงต้นเกม ในบางพื้นที่ มันถือว่าเป็นตัวโกงที่ค่อนข้างนิยมใช้กัน

ความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุดคืออิสลาจะเข้ายึดไมน็อกกราห์

ที่จริงแล้ว ใน “Eternal Nations” เองก็มีระบบที่ผู้นำถูกยึดอำนาจได้เช่นกัน

พวกเขาทั้งคู่ต่างเป็นกังวล ในกรณีที่อิสลาไม่ยอมรับทาคุโตะ และหันเขี้ยวเข้าใส่ไมน็อกกราห์

(หากมีอะไรผิดพลาด ฉันจะจัดการเธอเองค่ะ ระดับพลังของอิสลาอยู่ที่ 8 พอๆกันกับฉันก็จริง แต่ตอนนี้ฉันได้เปรียบกว่า เพราะมีสกิลดาบศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย)

(ผมคิดว่าไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ก็ฝากด้วยนะ)

นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญ

อย่างแรกเลยก็คือ การอัญเชิญเป็นปรากฏการณ์ที่ลึกลับ ไม่ว่ามันจะอิงจากระบบเกมมากแค่ไหน พวกเขาก็ไม่อาจวางใจได้อยู่ดี

—ไม่สิ ยิ่งต้องเฝ้าระวัง เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็เป็นได้

ทาคุโตะคอยระมัดระวังทุกอย่างสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น และบางครั้งเขาก็เลือกที่จะทำอะไรเสี่ยงๆ

แต่สิ่งที่ทำให้ทางเลือกเหล่านั้นประสบผลสำเร็จก็คือหญิงสาวที่มีนามว่า อาโทว คนที่เขาเชื่อใจมากที่สุด

(ฉันจะปกป้องท่านเองค่ะ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม)

(ค่าใช้จ่ายในการอัญเชิญมันสูงมาก เพราะงั้นอย่าให้เป็นแบบนั้นจะดีกว่านะ)

และพิธีอัญเชิญได้เริ่มต้นขึ้น

บุคคลสำคัญของไมน็อกกราห์ต่างก็อยู่ที่นี่กันหมด

ถ้าอิสลาก่อกบฎ มันจะเป็นเรื่องอันตรายมาก

เพราะแบบนั้น ทาคุโตะจึงตัดสินใจที่จะอัญเชิญเธอในพื้นที่เปิด เพื่อในกรณีฉุกเฉิน เขาสามารถใช้ดาร์คเอลฟ์เป็นเหยื่อล่อ และจัดการกับอิสลาได้

เป้าหมายของทาคุโตะก็คือใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบ กับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเขา – อาโทว

สุดท้ายแล้ว มีแค่เธอเท่านั้นที่เขาต้องการ

เขาคงรู้สึกแย่ถ้าเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นกับคนอื่นๆ แต่เขาก็จะไม่ใส่ใจกับมันมากนัก

เหล่าดาร์คเอลฟ์ต่างก็งุนงงกับภาพที่อยู่ตรงหน้า พวกเขาไม่รู้ความคิดของทาคุโตะ

พวกเขาเคยเป็นพยานในพิธีอัญเชิญแมลงขายาวก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้ ขนาดของพิธีอัญเชิญฮีโร่มันต่างออกไป

“พิธีกำลังจะเริ่มแล้ว ตามที่คุยกันไว้ ทุกคนห้ามขยับไปจากจุดที่ยืนอยู่จนกว่าจะได้รับคำสั่ง…”

ดาร์คเอลฟ์พยักหน้ารับคำสั่งอาโทวอย่างเงียบๆ และกลั้นลมหายใจ

ท้องฟ้ากลายเป็นสีหม่น เมฆหมอกหมุนวนเป็นวงกลมทำให้ดูมืดมิดแบบแปลกๆ

พลังเวทย์อันลึกลับพวยพุ่งออกมาจากผืนดิน และแผ่ขยายออกมาปกคุลมพื้นที่

ตรงจุดศูนย์กลางของกองทรัพยากรต่างๆ พื้นที่บริเวณนั้นราวกับถูกบิดคว้านออก และทันใดนั้นมันก็ดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป

จากนั้น ไข่สีแดงดำที่มีพื้นผิวเป็นเนื้อหนังก็ได้ถือกำเนิด และเพิ่มขนาดขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับดูดซับทรัพยากรไปด้วย

“นี่-นี่มัน…”

ผู้เฒ่ามอลทาร์ ที่ปิดปากเงียบมาโดยตลอดเนื่องจากเกรงว่าจะไปรบกวนพิธีกรรมขององค์ราชา ส่งเสียงออกมาอย่างช่วยไม่ได้

หัวหน้านักรบไกอา ฝาแฝดทั้งสอง และผู้ติดตามคนอื่นๆต่างก็พยายามปิดปากให้สนิท แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังเผลอร้องออกมา

พวกเขาไม่ได้หวาดกลัว แต่มันเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในจิตใจของพวกเขา

ช่างงดงามเสียนี่กระไร!

เป็นบรรยากาศที่น่าเหลือเชื่อมาก

ปาฏิหาริย์ที่ถูกสร้างโดยกษัตริย์ของพวกเขา พลังของฮีโร่ที่ถือกำเนิดขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น พลังอันไร้สิ้นสุดที่องค์ราชาปลดปล่อยออกมา

เมื่อได้เห็นกับตาของตนเอง ทำให้พวกเขามีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของไมน็อกกราห์

อาโทวเองก็ประทับใจกับฉากนี้

เธอเองก็ร่วมมือกับทาคุโตะ วางแผนเตรียมรับมือในกรณีที่อิสลาอยู่เหนือการควบคุมไว้ด้วย แต่ถ้าว่ากันตามตรง เธอเองก็คิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้

เธอนั้นเคารพเจ้านายของเธออย่างถึงที่สุด เพราะว่าเธอยกย่องทาคุโตะขนาดนั้น เธอจึงรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติที่ฮีโร่ตนอื่นๆจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของทาคุโตะ

อีกเรื่องคือ ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอสัมผัสได้ว่า ‘มันจะไม่เป็นอะไรแน่นอน’

จิจิ กิกิ จิกิ–

เสียงแปลกๆดังออกมาจากก้อนเนื้อนั้น มันเป็นเสียงการเต้นของหัวใจของสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด

ก้อนเนื้อขนาดใหญ่ ในที่สุดก็เริ่มปริแตก

สิ่งที่อยู่ภายในทะลักออกมา และก้อนที่มีของเหลวเหนียวเหนอะขนาดใหญ่ก็ไหลออกมากอง

มันดูเหมือนผีเสื้อที่ออกมาจากรังไหม และเมื่อมันสยายปีก เสียงที่ส่งออกมาราวกับเต็มไปด้วยความยินดี

ถ้ามองเพียงแวบแรก มันดูเหมือนกับมด แต่ถึงอย่างนั้น มันก็มีเขี้ยวที่แหลมคม และเขาที่สามารถบดขยี้ได้ทุกสรรพสิ่ง

ร่างกายของมันเป็นแมลง แต่โครงสร้างของมันดูหนาราวกับมนุษย์ และไม่ได้มีรูปร่างเรียวบางเหมือนกับพวกสัตว์ขาปล้อง

สิ่งของที่คล้ายเต้านมของมนุษย์หลายชิ้นห้อยอยู่บริเวณหน้าอก ไม่ว่าใครที่ได้เห็นมันต่างก็รู้สึกอึดอัด

แขนขาที่ยืดยาวออกมาแต่ละข้างนั้นต่างก็เหมือนกัน แต่จากลักษณะแล้ว ดูเหมือนมันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อไว้ใช้ในการเดิน พวกมันทั้งหนา กรงเล็บอันดุร้ายที่ยืดยาวออกมา เห็นได้ชัดว่าเอาไว้เชือดเฉือนศัตรู

ปีกที่กระพือเป็นประกายระยิบระยับสีรุ้ง รวมกับผิวสีเขียวเข้มของมัน ทำให้มันกลายเป็นภาพอันยอดเยี่ยม

แมลงที่ตัวใหญ่เท่ากระท่อมหลังหนึ่งมองไปรอบๆ

จากนั้นก็ก้มหัวลง

เธอแสดงท่าทีน่าขัน ราวกับตั้งตัวไม่ทันอยู่บ้าง

จากนั้น เมื่อสายตาของเธอพบกับทาคุโตะ เธอจึงโค้งคำนับ และทักทายเขา

“อ๊ะ อ่าา ฝ่าบาทผู้ยิ่งใหญ่ ราชาของข้า เป็นเกียรตินักที่ได้พบท่านในที่แห่งนี้ อิสลาผู้นี้ ผู้ซึ่งบัญชาเหล่าแมลงทั้งปวง การที่ได้รับใช้ท่านอีกครั้ง ทำให้ข้ารู้สึกเป็นยินดีและซาบซึ้งจากก้นบึ้งของจิตใจยิ่งนัก”

เสียงที่ฟังดุเหมือนหญิงสาวดังออกมาจากปากของแมลงตนนี้

เหล่าดาร์คเอลฟ์ต่างตกตะลึงที่ได้ยินเสียงเหมือนมนุษย์ออกจากปากของสิ่งมีชีวิตตนนี้

อิสลาตระหนักได้ถึงท่าทีของพวกเขา แต่ดูเหมือนเธอไม่มีความตั้งใจที่จะทำอะไร และยังเอาแค่ก้มหัวรอคำสั่งจากทาคุโตะเพียงอย่างเดียว

ทาคุโตะที่เฝ้ามองสถานการณ์อยู่ พยักหน้าหลายครั้งด้วยความพึงพอใจ และก้าวออกไป

อาโทวรีบพุ่งตัวออกไปเพื่อหยุดการกระทำอันไม่ยั้งคิดของเจ้านายของเธอ แต่เขาก็ไม่สนใจ

ในที่สุด ทาคุโตะก็มายืนอยู่ด้านหน้าของของอิสลา และเงยหน้ามองขึ้นไปยังสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ตนนี้

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ยังจำฉันได้รึเปล่า?”

“…? โอ๊ะ ใช่ค่ะ! ใช่แล้ว ใช่ ใช่! ฉันจำได้แล้วค่ะ ท่านทาคุโตะ ราชาแห่งความพินาศผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ล่วงรู้ทุกสรรพสิ่ง และยังเป็นผู้เล่นระดับสูงใน Eternal Nations –ถูกไหมคะ?”

“ใช่แล้ว”

“ถึงฉันจะยังสับสนอยู่นิดหน่อย แต่ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ถูกอัญเชิญออกมาอีกครั้ง ท่านสามารถใช้พลังนี้ได้ตามต้องการเลยค่ะ”

อิสลาพยักหน้า และส่งเสียงออกมาด้วยความยินดี

เป็นเพราะใบหน้าแบบแมลงของเธอ จึงทำให้ไม่อาจอ่านสีหน้าได้

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทาคุโตะรู้สึกได้ถึงความยินดีที่ซ่อนอยู่ภายในดวงตาคู่นั้น

 

=ข้อความ=============

 ฮีโร่ อิสลา ราชินีแห่งเหล่าแมลงทั้งปวง ได้เข้าสู่กระดาน

พลังการต่อสู้ของยูนิตแมลงทั้งหมดในโลกจะเพิ่มขึ้น 2

~รวมพล! ท่านแม่อิสลาตื่นขึ้นแล้ว!

~จงร่ำร้อง! ท่านแม่อิสลาตื่นขึ้นแล้ว!

แมลงทั้งหมดจะต้องก้มหัวให้กับราชินีอิสลา และก้าวเข้าสู่ยุคใหม่!

—————————————————————————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ 27 Queen of All Bugs

Now you are reading [นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ Chapter 27 Queen of All Bugs at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การเผชิญหน้ากับอาณาจักรอื่นโดยไม่ทันตั้งตัว และการสนทนาอย่างเป็นมิตรได้จบลงแล้ว

หลังจากที่เจรจาตกลงกับฟอว์นคาเวนแล้ว ทาคุโตะและผู้นำของไมน็อกกราห์คนอื่นๆ เริ่มหารือถึงมาตรการที่จะใช้และแผนการในอนาคต

“ข้าไม่คิดว่ามันจะคืบหน้าได้มากขนาดนี้ ถึงจะดีใจก็เถอะ แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องพิจารณากัน จากนี้คงจะยุ่งมากแน่ๆ คงต้องขอให้พวกท่านทำงานหนักหน่อยล่ะนะ ผู้เฒ่ามอลทาร์”

“แน่นอน แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังคงต้องเลือกอาหารและสินค้าที่จะนำไปแลกเปลี่ยน รวมไปถึงการติดต่อสื่อสารกันในอนาคตจากนี้ไป… ไม่สิ ข้าเกรงว่าสิ่งแรกที่เราต้องทำคงจะเป็นการเลือกกำลังรบที่จะส่งไปช่วยเหลือสินะ”

“ใช่แล้ว ดูจากสถานการณ์ นี่เป็นเรื่องเร่งด่วน การครอบครองหลุมชีพจรมังกรที่ผลิตมานาจากผืนดินสำคัญกับเรามาก หากสามารถครอบครองได้ นั่นหมายความว่าเราจะสามารถเพิ่มทรัพยากรด้านอาหารได้มากขึ้น ถ้าให้พูดก็คือ สถานการณ์มันจะต่างกันมากเลยระหว่างมีกับไม่มีมันน่ะ”

โดยที่มีผู้เฒ่ามอลทาร์ทำหน้าที่ให้คำแนะนำ ปัญหาต่างๆ ได้รับการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

อีกทั้ง หัวหน้านักรบไกอา และเอมัลต่างก็ถูกเรียกเข้ามาประชุมด้วยเช่นกัน

เอมัลได้รับการเลื่อนขั้นจากเลขานุการ กลายเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายใน

ก่อนหน้านี้ที่พูดคุยกับฟอว์นคาเวน ทาคุโตะและอาโทวเป็นผู้เจรจาอยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เข้าร่วมการประชุม

แต่การเจรจาตกลงครั้งนี้เป็นไปอย่างกะทันหัน ทำให้ไม่มีเวลามาคุยรายละเอียดยิบย่อยต่างๆกัน

“หืม ฟอว์นคาเวนเองก็ทำพลาดครั้งใหญ่เลยสินะ ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะมาหาเราและเจรจาราวกับเด็กแบบนี้”

“ใช่แล้ว อย่างที่ท่านโทนุคาโปลีบอกเลย เปเป้ซังนั้นค่อนข้าง…..ไม่สิ เขาเป็นคนแบบนั้นนี่นะ ข้าเกลียดเขาไม่ลงหรอก”

คนโง่มักจะไม่โดนคนอื่นเกลียดสักเท่าไหร่ เพราะเขายังเด็ก และชอบทำพลาดในทุกๆเรื่อง

แต่พวกเขาก็ไม่ใช่ภัยคุกคามของไมน็อกกราห์ ดังนั้น อาโทวจึงคิดว่านั่นแหละคือข้อดี

เธอเองก็รู้สึกแบบเดียวกับผู้เฒ่ามอลทาร์และดาร์คเอลฟ์คนอื่นๆ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไร แม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆก็ตาม

“แต่พระองค์ท่าน ข้าเองก็ไม่อาจก้าวล่วงการตัดสินใจของพระองค์ แต่ถึงกระนั้น ผู้ที่เจรจากับพระองค์ ท่านเปเป้ ดูเหมือนจะเป็นคนที่ไม่ค่อยระวังตัวสักเท่าไหร่ ด้วยผู้นำแบบนั้น พวกเขาจะไม่ทำพลาดเอาหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ผู้เฒ่ามอลทาร์ถามทาคุโตะเบาๆ

แทนที่จะเก็บความกังวลเอาไว้ เขากลับเอ่ยมันขึ้นมาทันที

ดังนั้นจึงไม่มีใครโทษที่เขาทำตัวหยาบคายกับกษัตริย์

ไกอา เอมัล และอาโทวชำเลืองไปยังทาคุโตะ ดูเหมือนพวกเขาเองก็มีความคิดแบบเดียวกัน

 

“หืมม”

(พวกเขาคิดเหมือนกันสินะ?)

ทาคุโตะครุ่นคิด

อันที่จริง ความกังวลของพวกเขานั้นถูกต้องแล้ว เปเป้เป็นคนโง่ และไม่อาจคาดเดาได้

โดยเฉพาะการโพล่งออกมาช่วงท้ายของการเจรจานั้น

นั่นทำให้ไมน็อกกราห์กุมความได้เปรียบของการเจรจา ทำให้เอื้อประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้น

และผลลัพธ์ก็คือ ถึงแม้จะต้องสกัดพลังออกมา แต่พวกเขาก็สามารถได้หลุมชีพจรมังกรที่หมายตาไว้ตั้งแต่แรกมาอย่างง่ายดาย

ดูจากสถานการณ์แล้ว พูดได้เลยว่านี่เป็นเรื่องดีสำหรับไมน็อกกราห์

ส่วนอีกฝั่ง ฟอว์นคาเวน

ดูเหมือนพวกเขาจะมีปัญหากับพวกคนเถื่อน และยังไม่สามารถจัดการเมืองมังกรได้ดีเท่าที่เขาคิดไว้

ความผิดพลาดของเปเป้นำไปสู่การตัดสินใจร่วมมือกันทางทหารขึ้น

ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะจำกัดการส่งต่อข้อมูลระหว่างกองทัพกันแน่ๆ

สรุปก็คือ พวกเขาเพิ่งจับมือเป็นพันธมิตรกัน แต่…ในขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายต่างต้องการเวลามากกว่านี้

ในกรณีนั้น ฟอว์นคาเวนจะยังมีพลังที่จะปกป้องเมืองมังกรไว้ได้อยู่หรอ?

(พอมาคิดดูแล้ว จังหวะเวลามันก็เหมาะเกินไปจนน่าแปลก…หืมม แต่เปเป้ก็โง่จริงๆนี่นะ)

ถึงอย่างนั้น ทาคุโตะก็คิดว่าการเป็นเพื่อนกับเขาก็ไม่ได้เสียหายอะไร

พิจารณาจากสถานการณ์ของอาณาจักร ไม่มีเหตุที่จะต้องตั้วตัวเป็นศัตรูกัน ไม่เหมือนกับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ควอเลีย เรื่องราวในครั้งนี้ดำเนินไปได้ด้วยดีไม่น้อยเลย

ถึงจะยังคงมีข้อขัดแย้งระหว่างวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอยู่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่จนถึงกับไม่สามารถแก้ไขได้

ที่จริงแล้ว ถ้ามองจากด้านบนลงมา มันไม่เกินจริงเลยถ้าจะบอกว่าพวกเขาได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างไม่คาดคิด

ทาคุโตะรู้สึกดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับเปเป้

ตอนแรกเขาเป็นแค่คนธรรมดาที่มีโรงพยาบาลเป็นบ้าน

เขาไม่มีเพื่อน สำหรับเขาแล้ว การมีเพื่อนก็เป็นได้แค่ความฝัน

ทันใดนั้นเขาก็ได้เพื่อนใหม่ แน่นอนเลยว่าเขาจะต้องรู้สึกดีใจมาก

(ถึงจะกังวลเรื่องพวกคนเถื่อนอยู่หน่อยๆ แต่คงดีไปเลยนะ ถ้าเรายังรักษาความสัมพันธ์กับฟอว์นคาเวนได้แบบนี้ต่อไป)

แต่ทุกสิ่งก็เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น

ใครบางคนกล่าวไว้ว่า ไม่มีมิตรภาพที่แท้จริงในการค้าขายแลกเปลี่ยน ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนไป บางทีฟอว์นคาเวนและเปเป้อาจจะหันอาวุธใส่ไมน็อกกราห์

อาณาจักรคู่ค้าที่เป็นมิตร เป็นสิ่งที่เขาต้องปกป้องเอาไว้

แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงเขาจะต้องเลือกฝั่งไหนกัน?

นั่นไม่จำเป็นต้องถามด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าทาคุโตะรู้ดีว่าจะต้องเลือกแบบไหน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปัจจุบันนั้นค่อนข้างสงบสุขดีแล้ว

สงบมาก

แม้ว่าจะยังจำกัดอยู่ที่ความร่วมมือกันระหว่างสองอาณาจักร แต่สิ่งที่ทาคุโตะต้องการได้กลายเป็นจริงแล้ว

ถึงพวกเขาจะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ยินดีไปกับมัน

ดังนั้น คำตอบก็คือ…

“ท่านทาคุโตะ?”

“นั่นสินะ เรื่องของเปเป้น่ะเอาไว้ก่อนแล้วกัน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

“รับบัญชา พ่ะย่ะค่ะ”

ทุกคนโค้งคำนับให้กับการตัดสินใจของทาคุโตะ

อิระ ทาคุโตะ กษัตริย์แห่งความพินาศ ผู้นำของไมน็อกกราห์ได้ตัดสินใจแล้ว

หากราชาตัดสินใจเช่นนั้น คำพูดของเขาถือเป็นที่สุด ไม่มีช่องว่างให้โต้แย้ง

ทาคุโตะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เมื่อได้เห็นถึงความจงรักภักดีที่พวกเขาแสดงออกมา

ลำดับขั้นของการบังคับบัญชาเป็นสิ่งที่จำเป็นในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างมาก

มือและเท้าจะต้องขยับไปตามที่สมองสั่งการ นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ที่เรียกว่าประเทศชาติ

มันไม่เหมือนกับในเกม ทาคุโตะกังวลเกี่ยวกับความผิดพลาดของผู้คน อย่างการสื่อสารและเข้าใจกันแบบผิดๆ คำแนะนำเหล่านี้จะต้องมีอยู่เสมอตราบเท่าที่พวกเขายังมีอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์อยู่ แต่สำหรับตอนนี้ ไมน็อกกราห์ได้บรรลุผลที่น่าพอใจแล้ว

นั่นคือเหตุผลที่ทาคุโตะได้คิดแผนการไว้มากมาย

ทีนี้ก็มารับมือกับปัญหาใกล้ตัวที่สุดกันก่อน

เรื่องการโจมตีของพวกคนเถื่อน

ภัยคุกคามที่ไม่ปกติ

(ศัตรูที่โผล่ออกมากะทันหัน อย่างกับ–)

จินตนาการที่น่าขันผุดขึ้นในหัวของเขา

ก่อนที่มันจะก่อตัวรูปเป็นร่าง ทาคุโตะก็สลัดมันออกไปจากหัว

 ◇   ◇   ◇

วันนั้น เป็นครั้งแรก ที่ทาคุโตะตื่นเต้นอย่างออกนอกหน้า จนคนอื่นรับรู้ได้

อาโทวเองก็ตื่นเต้นตามไปด้วยเมื่อเห็นเจ้านายของเธอดูมีชีวิตชีวาขนาดนี้

เหล่าดาร์คเอลฟ์ต่างก็เป็นกังวลเมื่อเห็นพวกเขา

“ในที่สุด เธอก็ถือกำเนิดขึ้นแล้ว! ฮีโร่คนใหม่! เรารอวันนี้กันมานานแค่ไหนแล้วนะ! เก็บสะสมทรัพยากรไว้ตั้งเท่าไหร่กัน?”

“จริงๆแล้วก็เยอะมากเลยค่ะ แต่ในที่สุดความพยามของเราก็ผลิดอกออกผลแล้ว”

ทาคุโตะและอาโทวตื่นเต้นกันมาก 

ทรัพยากรกองสุมกันอยู่ในลานพิธีกรรม – อาหารจากต้นเนื้อมนุษย์ ไม้ที่เก็บเกี่ยวมาจากป่ารอบๆ และหินล้ำค่าต่างๆ

ด้วยความช่วยเหลือของอาโทว และแมลงขายาว พวกเขาสามารถเข้าสู่ขั้นตอนการสร้างฮีโร่ แต่งานที่ต้องทำเพื่อไปให้ถึงจุดนั้นไม่สามารถทำแบบครึ่งๆกลางๆได้

ชาวดาร์คเอลฟ์ต่างก็อาสาทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อตอบแทนราชาที่ช่วยเผ่าของพวกเขาไว้ ฝาแฝดทั้งสอง ซีเรีย และมีเรีย ต่างก็เดินเคียงข้างไปพร้อมกับราชาของพวกเธอ

“ว้าว กินพวกนั้นไปจะต้องอิ่มมากแน่ๆเลย”

มีเรียผู้โง่เขลา แสดงความประหลาดใจออกมา ในขณะที่ดวงตาเซื่องซึมเบิกกว้าง

“ฝ่าบาทเพคะ ท่านจะอัญเชิญฮีโร่คนไหนหรอ?”

ซีเรีย ผู้ที่มีรอยไหม้เกรียม ที่ไม่สนใจอะไรนอกจากพี่สาวของเธอ มองด้วยความสงสัย

“ใช่แล้ว คอยดูได้เลย”

“พิธีอัญเชิญนี่แหละ น่าตื่นเต้นที่สุดแล้ว คุคุ”

ประโยคของทาคุโตะทำให้ดวงตาของทั้งคู่เปล่งประกาย

ถัดจากพวกเขาไปคืออาโทวที่ดวงตาเปล่งประกายราวกับเด็กๆ ทาคุโตะคุยกับเธอผ่านเทเลพาธีที่พวกเขาได้ยินกันแค่สองคน

(อาโทว…เธอคิดยังไงเกี่ยวกับอิสลา?)

(ท่านหมายถึงว่าเธอจะอยู่ฝั่งเดียวกับเราหรือเปล่าใช่ไหมคะ?)

มีเพียงเรื่องเดียวที่พวกเขากังวลกัน นั่นก็คืออิสลาจะจำทาคุโตะได้รึเปล่า

ก่อนหน้านี้ทาคุโตะเป็นเพียงแค่มนุษย์ ตอนนี้เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ขึ้นที่นี่ด้วยการตั้งค่าจากในเกม

นั่นก็คือ อิระ ทาคุโตะ ราชาแห่งความพินาศ

ตอนที่เป็นผู้เล่น ทาคุโตะมักจะเล่นกับอาโทวเสมอ เธอจดจำเขาได้เมื่อมายังโลกใบนี้ แต่ไม่มีอะไรมารับประกันว่าอิสลาจะเป็นเช่นเดียวกัน

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะจำได้ แต่ก็ยังมีเรื่องอื่นให้กังวลอยู่ดี

อย่างเช่น ถ้าหากฮีโร่มีความต้องการเป็นของตัวเอง มันก็มีโอกาสที่พวกเขาจะปฏิเสธ และทำการต่อต้านอิระ ทาคุโตะ

“Eternal Nations” เป็นสถานที่ซึ่งผู้นำของแต่ละอาณาจักร จะชี้นำอาณาจักรไปในแนวทางของตัวเอง

ผู้นำของพวกเขาสามารถเลือกได้ บางครั้งฮีโร่ก็สามารถเป็นผู้นำได้ หรือบางครั้งผู้นำเองก็กลายเป็นยูนิตทั่วไปได้เช่นกัน

และอิสลาคือตัวละครที่สามารถทำหน้าที่ได้ทั้งการเป็นผู้นำ และยูนิตทั่วไป

เมื่อเธอเป็นผู้นำของไมน็อกกราห์ เขามักจะชอบใช้กลยุทธ์ “แมลงบุก”

มันคือกลยุทธ์ที่ไม่สนเรื่องการเพิ่มเลเวล และมุ่งเน้นไปที่การสร้างยูนิตออกมาจำนวนมาก เพื่อรุกรานอาณาจักรข้างเคียงในช่วงต้นเกม ในบางพื้นที่ มันถือว่าเป็นตัวโกงที่ค่อนข้างนิยมใช้กัน

ความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุดคืออิสลาจะเข้ายึดไมน็อกกราห์

ที่จริงแล้ว ใน “Eternal Nations” เองก็มีระบบที่ผู้นำถูกยึดอำนาจได้เช่นกัน

พวกเขาทั้งคู่ต่างเป็นกังวล ในกรณีที่อิสลาไม่ยอมรับทาคุโตะ และหันเขี้ยวเข้าใส่ไมน็อกกราห์

(หากมีอะไรผิดพลาด ฉันจะจัดการเธอเองค่ะ ระดับพลังของอิสลาอยู่ที่ 8 พอๆกันกับฉันก็จริง แต่ตอนนี้ฉันได้เปรียบกว่า เพราะมีสกิลดาบศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย)

(ผมคิดว่าไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ก็ฝากด้วยนะ)

นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญ

อย่างแรกเลยก็คือ การอัญเชิญเป็นปรากฏการณ์ที่ลึกลับ ไม่ว่ามันจะอิงจากระบบเกมมากแค่ไหน พวกเขาก็ไม่อาจวางใจได้อยู่ดี

—ไม่สิ ยิ่งต้องเฝ้าระวัง เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็เป็นได้

ทาคุโตะคอยระมัดระวังทุกอย่างสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น และบางครั้งเขาก็เลือกที่จะทำอะไรเสี่ยงๆ

แต่สิ่งที่ทำให้ทางเลือกเหล่านั้นประสบผลสำเร็จก็คือหญิงสาวที่มีนามว่า อาโทว คนที่เขาเชื่อใจมากที่สุด

(ฉันจะปกป้องท่านเองค่ะ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม)

(ค่าใช้จ่ายในการอัญเชิญมันสูงมาก เพราะงั้นอย่าให้เป็นแบบนั้นจะดีกว่านะ)

และพิธีอัญเชิญได้เริ่มต้นขึ้น

บุคคลสำคัญของไมน็อกกราห์ต่างก็อยู่ที่นี่กันหมด

ถ้าอิสลาก่อกบฎ มันจะเป็นเรื่องอันตรายมาก

เพราะแบบนั้น ทาคุโตะจึงตัดสินใจที่จะอัญเชิญเธอในพื้นที่เปิด เพื่อในกรณีฉุกเฉิน เขาสามารถใช้ดาร์คเอลฟ์เป็นเหยื่อล่อ และจัดการกับอิสลาได้

เป้าหมายของทาคุโตะก็คือใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบ กับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเขา – อาโทว

สุดท้ายแล้ว มีแค่เธอเท่านั้นที่เขาต้องการ

เขาคงรู้สึกแย่ถ้าเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นกับคนอื่นๆ แต่เขาก็จะไม่ใส่ใจกับมันมากนัก

เหล่าดาร์คเอลฟ์ต่างก็งุนงงกับภาพที่อยู่ตรงหน้า พวกเขาไม่รู้ความคิดของทาคุโตะ

พวกเขาเคยเป็นพยานในพิธีอัญเชิญแมลงขายาวก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้ ขนาดของพิธีอัญเชิญฮีโร่มันต่างออกไป

“พิธีกำลังจะเริ่มแล้ว ตามที่คุยกันไว้ ทุกคนห้ามขยับไปจากจุดที่ยืนอยู่จนกว่าจะได้รับคำสั่ง…”

ดาร์คเอลฟ์พยักหน้ารับคำสั่งอาโทวอย่างเงียบๆ และกลั้นลมหายใจ

ท้องฟ้ากลายเป็นสีหม่น เมฆหมอกหมุนวนเป็นวงกลมทำให้ดูมืดมิดแบบแปลกๆ

พลังเวทย์อันลึกลับพวยพุ่งออกมาจากผืนดิน และแผ่ขยายออกมาปกคุลมพื้นที่

ตรงจุดศูนย์กลางของกองทรัพยากรต่างๆ พื้นที่บริเวณนั้นราวกับถูกบิดคว้านออก และทันใดนั้นมันก็ดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป

จากนั้น ไข่สีแดงดำที่มีพื้นผิวเป็นเนื้อหนังก็ได้ถือกำเนิด และเพิ่มขนาดขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับดูดซับทรัพยากรไปด้วย

“นี่-นี่มัน…”

ผู้เฒ่ามอลทาร์ ที่ปิดปากเงียบมาโดยตลอดเนื่องจากเกรงว่าจะไปรบกวนพิธีกรรมขององค์ราชา ส่งเสียงออกมาอย่างช่วยไม่ได้

หัวหน้านักรบไกอา ฝาแฝดทั้งสอง และผู้ติดตามคนอื่นๆต่างก็พยายามปิดปากให้สนิท แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังเผลอร้องออกมา

พวกเขาไม่ได้หวาดกลัว แต่มันเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในจิตใจของพวกเขา

ช่างงดงามเสียนี่กระไร!

เป็นบรรยากาศที่น่าเหลือเชื่อมาก

ปาฏิหาริย์ที่ถูกสร้างโดยกษัตริย์ของพวกเขา พลังของฮีโร่ที่ถือกำเนิดขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น พลังอันไร้สิ้นสุดที่องค์ราชาปลดปล่อยออกมา

เมื่อได้เห็นกับตาของตนเอง ทำให้พวกเขามีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของไมน็อกกราห์

อาโทวเองก็ประทับใจกับฉากนี้

เธอเองก็ร่วมมือกับทาคุโตะ วางแผนเตรียมรับมือในกรณีที่อิสลาอยู่เหนือการควบคุมไว้ด้วย แต่ถ้าว่ากันตามตรง เธอเองก็คิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้

เธอนั้นเคารพเจ้านายของเธออย่างถึงที่สุด เพราะว่าเธอยกย่องทาคุโตะขนาดนั้น เธอจึงรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติที่ฮีโร่ตนอื่นๆจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของทาคุโตะ

อีกเรื่องคือ ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอสัมผัสได้ว่า ‘มันจะไม่เป็นอะไรแน่นอน’

จิจิ กิกิ จิกิ–

เสียงแปลกๆดังออกมาจากก้อนเนื้อนั้น มันเป็นเสียงการเต้นของหัวใจของสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด

ก้อนเนื้อขนาดใหญ่ ในที่สุดก็เริ่มปริแตก

สิ่งที่อยู่ภายในทะลักออกมา และก้อนที่มีของเหลวเหนียวเหนอะขนาดใหญ่ก็ไหลออกมากอง

มันดูเหมือนผีเสื้อที่ออกมาจากรังไหม และเมื่อมันสยายปีก เสียงที่ส่งออกมาราวกับเต็มไปด้วยความยินดี

ถ้ามองเพียงแวบแรก มันดูเหมือนกับมด แต่ถึงอย่างนั้น มันก็มีเขี้ยวที่แหลมคม และเขาที่สามารถบดขยี้ได้ทุกสรรพสิ่ง

ร่างกายของมันเป็นแมลง แต่โครงสร้างของมันดูหนาราวกับมนุษย์ และไม่ได้มีรูปร่างเรียวบางเหมือนกับพวกสัตว์ขาปล้อง

สิ่งของที่คล้ายเต้านมของมนุษย์หลายชิ้นห้อยอยู่บริเวณหน้าอก ไม่ว่าใครที่ได้เห็นมันต่างก็รู้สึกอึดอัด

แขนขาที่ยืดยาวออกมาแต่ละข้างนั้นต่างก็เหมือนกัน แต่จากลักษณะแล้ว ดูเหมือนมันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อไว้ใช้ในการเดิน พวกมันทั้งหนา กรงเล็บอันดุร้ายที่ยืดยาวออกมา เห็นได้ชัดว่าเอาไว้เชือดเฉือนศัตรู

ปีกที่กระพือเป็นประกายระยิบระยับสีรุ้ง รวมกับผิวสีเขียวเข้มของมัน ทำให้มันกลายเป็นภาพอันยอดเยี่ยม

แมลงที่ตัวใหญ่เท่ากระท่อมหลังหนึ่งมองไปรอบๆ

จากนั้นก็ก้มหัวลง

เธอแสดงท่าทีน่าขัน ราวกับตั้งตัวไม่ทันอยู่บ้าง

จากนั้น เมื่อสายตาของเธอพบกับทาคุโตะ เธอจึงโค้งคำนับ และทักทายเขา

“อ๊ะ อ่าา ฝ่าบาทผู้ยิ่งใหญ่ ราชาของข้า เป็นเกียรตินักที่ได้พบท่านในที่แห่งนี้ อิสลาผู้นี้ ผู้ซึ่งบัญชาเหล่าแมลงทั้งปวง การที่ได้รับใช้ท่านอีกครั้ง ทำให้ข้ารู้สึกเป็นยินดีและซาบซึ้งจากก้นบึ้งของจิตใจยิ่งนัก”

เสียงที่ฟังดุเหมือนหญิงสาวดังออกมาจากปากของแมลงตนนี้

เหล่าดาร์คเอลฟ์ต่างตกตะลึงที่ได้ยินเสียงเหมือนมนุษย์ออกจากปากของสิ่งมีชีวิตตนนี้

อิสลาตระหนักได้ถึงท่าทีของพวกเขา แต่ดูเหมือนเธอไม่มีความตั้งใจที่จะทำอะไร และยังเอาแค่ก้มหัวรอคำสั่งจากทาคุโตะเพียงอย่างเดียว

ทาคุโตะที่เฝ้ามองสถานการณ์อยู่ พยักหน้าหลายครั้งด้วยความพึงพอใจ และก้าวออกไป

อาโทวรีบพุ่งตัวออกไปเพื่อหยุดการกระทำอันไม่ยั้งคิดของเจ้านายของเธอ แต่เขาก็ไม่สนใจ

ในที่สุด ทาคุโตะก็มายืนอยู่ด้านหน้าของของอิสลา และเงยหน้ามองขึ้นไปยังสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ตนนี้

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ยังจำฉันได้รึเปล่า?”

“…? โอ๊ะ ใช่ค่ะ! ใช่แล้ว ใช่ ใช่! ฉันจำได้แล้วค่ะ ท่านทาคุโตะ ราชาแห่งความพินาศผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ล่วงรู้ทุกสรรพสิ่ง และยังเป็นผู้เล่นระดับสูงใน Eternal Nations –ถูกไหมคะ?”

“ใช่แล้ว”

“ถึงฉันจะยังสับสนอยู่นิดหน่อย แต่ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ถูกอัญเชิญออกมาอีกครั้ง ท่านสามารถใช้พลังนี้ได้ตามต้องการเลยค่ะ”

อิสลาพยักหน้า และส่งเสียงออกมาด้วยความยินดี

เป็นเพราะใบหน้าแบบแมลงของเธอ จึงทำให้ไม่อาจอ่านสีหน้าได้

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทาคุโตะรู้สึกได้ถึงความยินดีที่ซ่อนอยู่ภายในดวงตาคู่นั้น

 

=ข้อความ=============

 ฮีโร่ อิสลา ราชินีแห่งเหล่าแมลงทั้งปวง ได้เข้าสู่กระดาน

พลังการต่อสู้ของยูนิตแมลงทั้งหมดในโลกจะเพิ่มขึ้น 2

~รวมพล! ท่านแม่อิสลาตื่นขึ้นแล้ว!

~จงร่ำร้อง! ท่านแม่อิสลาตื่นขึ้นแล้ว!

แมลงทั้งหมดจะต้องก้มหัวให้กับราชินีอิสลา และก้าวเข้าสู่ยุคใหม่!

—————————————————————————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ 27 Queen of All Bugs

Now you are reading [นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ Chapter 27 Queen of All Bugs at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การเผชิญหน้ากับอาณาจักรอื่นโดยไม่ทันตั้งตัว และการสนทนาอย่างเป็นมิตรได้จบลงแล้ว

หลังจากที่เจรจาตกลงกับฟอว์นคาเวนแล้ว ทาคุโตะและผู้นำของไมน็อกกราห์คนอื่นๆ เริ่มหารือถึงมาตรการที่จะใช้และแผนการในอนาคต

“ข้าไม่คิดว่ามันจะคืบหน้าได้มากขนาดนี้ ถึงจะดีใจก็เถอะ แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องพิจารณากัน จากนี้คงจะยุ่งมากแน่ๆ คงต้องขอให้พวกท่านทำงานหนักหน่อยล่ะนะ ผู้เฒ่ามอลทาร์”

“แน่นอน แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังคงต้องเลือกอาหารและสินค้าที่จะนำไปแลกเปลี่ยน รวมไปถึงการติดต่อสื่อสารกันในอนาคตจากนี้ไป… ไม่สิ ข้าเกรงว่าสิ่งแรกที่เราต้องทำคงจะเป็นการเลือกกำลังรบที่จะส่งไปช่วยเหลือสินะ”

“ใช่แล้ว ดูจากสถานการณ์ นี่เป็นเรื่องเร่งด่วน การครอบครองหลุมชีพจรมังกรที่ผลิตมานาจากผืนดินสำคัญกับเรามาก หากสามารถครอบครองได้ นั่นหมายความว่าเราจะสามารถเพิ่มทรัพยากรด้านอาหารได้มากขึ้น ถ้าให้พูดก็คือ สถานการณ์มันจะต่างกันมากเลยระหว่างมีกับไม่มีมันน่ะ”

โดยที่มีผู้เฒ่ามอลทาร์ทำหน้าที่ให้คำแนะนำ ปัญหาต่างๆ ได้รับการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

อีกทั้ง หัวหน้านักรบไกอา และเอมัลต่างก็ถูกเรียกเข้ามาประชุมด้วยเช่นกัน

เอมัลได้รับการเลื่อนขั้นจากเลขานุการ กลายเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายใน

ก่อนหน้านี้ที่พูดคุยกับฟอว์นคาเวน ทาคุโตะและอาโทวเป็นผู้เจรจาอยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เข้าร่วมการประชุม

แต่การเจรจาตกลงครั้งนี้เป็นไปอย่างกะทันหัน ทำให้ไม่มีเวลามาคุยรายละเอียดยิบย่อยต่างๆกัน

“หืม ฟอว์นคาเวนเองก็ทำพลาดครั้งใหญ่เลยสินะ ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะมาหาเราและเจรจาราวกับเด็กแบบนี้”

“ใช่แล้ว อย่างที่ท่านโทนุคาโปลีบอกเลย เปเป้ซังนั้นค่อนข้าง…..ไม่สิ เขาเป็นคนแบบนั้นนี่นะ ข้าเกลียดเขาไม่ลงหรอก”

คนโง่มักจะไม่โดนคนอื่นเกลียดสักเท่าไหร่ เพราะเขายังเด็ก และชอบทำพลาดในทุกๆเรื่อง

แต่พวกเขาก็ไม่ใช่ภัยคุกคามของไมน็อกกราห์ ดังนั้น อาโทวจึงคิดว่านั่นแหละคือข้อดี

เธอเองก็รู้สึกแบบเดียวกับผู้เฒ่ามอลทาร์และดาร์คเอลฟ์คนอื่นๆ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไร แม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆก็ตาม

“แต่พระองค์ท่าน ข้าเองก็ไม่อาจก้าวล่วงการตัดสินใจของพระองค์ แต่ถึงกระนั้น ผู้ที่เจรจากับพระองค์ ท่านเปเป้ ดูเหมือนจะเป็นคนที่ไม่ค่อยระวังตัวสักเท่าไหร่ ด้วยผู้นำแบบนั้น พวกเขาจะไม่ทำพลาดเอาหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ผู้เฒ่ามอลทาร์ถามทาคุโตะเบาๆ

แทนที่จะเก็บความกังวลเอาไว้ เขากลับเอ่ยมันขึ้นมาทันที

ดังนั้นจึงไม่มีใครโทษที่เขาทำตัวหยาบคายกับกษัตริย์

ไกอา เอมัล และอาโทวชำเลืองไปยังทาคุโตะ ดูเหมือนพวกเขาเองก็มีความคิดแบบเดียวกัน

 

“หืมม”

(พวกเขาคิดเหมือนกันสินะ?)

ทาคุโตะครุ่นคิด

อันที่จริง ความกังวลของพวกเขานั้นถูกต้องแล้ว เปเป้เป็นคนโง่ และไม่อาจคาดเดาได้

โดยเฉพาะการโพล่งออกมาช่วงท้ายของการเจรจานั้น

นั่นทำให้ไมน็อกกราห์กุมความได้เปรียบของการเจรจา ทำให้เอื้อประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้น

และผลลัพธ์ก็คือ ถึงแม้จะต้องสกัดพลังออกมา แต่พวกเขาก็สามารถได้หลุมชีพจรมังกรที่หมายตาไว้ตั้งแต่แรกมาอย่างง่ายดาย

ดูจากสถานการณ์แล้ว พูดได้เลยว่านี่เป็นเรื่องดีสำหรับไมน็อกกราห์

ส่วนอีกฝั่ง ฟอว์นคาเวน

ดูเหมือนพวกเขาจะมีปัญหากับพวกคนเถื่อน และยังไม่สามารถจัดการเมืองมังกรได้ดีเท่าที่เขาคิดไว้

ความผิดพลาดของเปเป้นำไปสู่การตัดสินใจร่วมมือกันทางทหารขึ้น

ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะจำกัดการส่งต่อข้อมูลระหว่างกองทัพกันแน่ๆ

สรุปก็คือ พวกเขาเพิ่งจับมือเป็นพันธมิตรกัน แต่…ในขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายต่างต้องการเวลามากกว่านี้

ในกรณีนั้น ฟอว์นคาเวนจะยังมีพลังที่จะปกป้องเมืองมังกรไว้ได้อยู่หรอ?

(พอมาคิดดูแล้ว จังหวะเวลามันก็เหมาะเกินไปจนน่าแปลก…หืมม แต่เปเป้ก็โง่จริงๆนี่นะ)

ถึงอย่างนั้น ทาคุโตะก็คิดว่าการเป็นเพื่อนกับเขาก็ไม่ได้เสียหายอะไร

พิจารณาจากสถานการณ์ของอาณาจักร ไม่มีเหตุที่จะต้องตั้วตัวเป็นศัตรูกัน ไม่เหมือนกับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ควอเลีย เรื่องราวในครั้งนี้ดำเนินไปได้ด้วยดีไม่น้อยเลย

ถึงจะยังคงมีข้อขัดแย้งระหว่างวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอยู่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่จนถึงกับไม่สามารถแก้ไขได้

ที่จริงแล้ว ถ้ามองจากด้านบนลงมา มันไม่เกินจริงเลยถ้าจะบอกว่าพวกเขาได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างไม่คาดคิด

ทาคุโตะรู้สึกดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับเปเป้

ตอนแรกเขาเป็นแค่คนธรรมดาที่มีโรงพยาบาลเป็นบ้าน

เขาไม่มีเพื่อน สำหรับเขาแล้ว การมีเพื่อนก็เป็นได้แค่ความฝัน

ทันใดนั้นเขาก็ได้เพื่อนใหม่ แน่นอนเลยว่าเขาจะต้องรู้สึกดีใจมาก

(ถึงจะกังวลเรื่องพวกคนเถื่อนอยู่หน่อยๆ แต่คงดีไปเลยนะ ถ้าเรายังรักษาความสัมพันธ์กับฟอว์นคาเวนได้แบบนี้ต่อไป)

แต่ทุกสิ่งก็เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น

ใครบางคนกล่าวไว้ว่า ไม่มีมิตรภาพที่แท้จริงในการค้าขายแลกเปลี่ยน ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนไป บางทีฟอว์นคาเวนและเปเป้อาจจะหันอาวุธใส่ไมน็อกกราห์

อาณาจักรคู่ค้าที่เป็นมิตร เป็นสิ่งที่เขาต้องปกป้องเอาไว้

แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงเขาจะต้องเลือกฝั่งไหนกัน?

นั่นไม่จำเป็นต้องถามด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าทาคุโตะรู้ดีว่าจะต้องเลือกแบบไหน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปัจจุบันนั้นค่อนข้างสงบสุขดีแล้ว

สงบมาก

แม้ว่าจะยังจำกัดอยู่ที่ความร่วมมือกันระหว่างสองอาณาจักร แต่สิ่งที่ทาคุโตะต้องการได้กลายเป็นจริงแล้ว

ถึงพวกเขาจะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ยินดีไปกับมัน

ดังนั้น คำตอบก็คือ…

“ท่านทาคุโตะ?”

“นั่นสินะ เรื่องของเปเป้น่ะเอาไว้ก่อนแล้วกัน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

“รับบัญชา พ่ะย่ะค่ะ”

ทุกคนโค้งคำนับให้กับการตัดสินใจของทาคุโตะ

อิระ ทาคุโตะ กษัตริย์แห่งความพินาศ ผู้นำของไมน็อกกราห์ได้ตัดสินใจแล้ว

หากราชาตัดสินใจเช่นนั้น คำพูดของเขาถือเป็นที่สุด ไม่มีช่องว่างให้โต้แย้ง

ทาคุโตะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เมื่อได้เห็นถึงความจงรักภักดีที่พวกเขาแสดงออกมา

ลำดับขั้นของการบังคับบัญชาเป็นสิ่งที่จำเป็นในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างมาก

มือและเท้าจะต้องขยับไปตามที่สมองสั่งการ นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ที่เรียกว่าประเทศชาติ

มันไม่เหมือนกับในเกม ทาคุโตะกังวลเกี่ยวกับความผิดพลาดของผู้คน อย่างการสื่อสารและเข้าใจกันแบบผิดๆ คำแนะนำเหล่านี้จะต้องมีอยู่เสมอตราบเท่าที่พวกเขายังมีอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์อยู่ แต่สำหรับตอนนี้ ไมน็อกกราห์ได้บรรลุผลที่น่าพอใจแล้ว

นั่นคือเหตุผลที่ทาคุโตะได้คิดแผนการไว้มากมาย

ทีนี้ก็มารับมือกับปัญหาใกล้ตัวที่สุดกันก่อน

เรื่องการโจมตีของพวกคนเถื่อน

ภัยคุกคามที่ไม่ปกติ

(ศัตรูที่โผล่ออกมากะทันหัน อย่างกับ–)

จินตนาการที่น่าขันผุดขึ้นในหัวของเขา

ก่อนที่มันจะก่อตัวรูปเป็นร่าง ทาคุโตะก็สลัดมันออกไปจากหัว

 ◇   ◇   ◇

วันนั้น เป็นครั้งแรก ที่ทาคุโตะตื่นเต้นอย่างออกนอกหน้า จนคนอื่นรับรู้ได้

อาโทวเองก็ตื่นเต้นตามไปด้วยเมื่อเห็นเจ้านายของเธอดูมีชีวิตชีวาขนาดนี้

เหล่าดาร์คเอลฟ์ต่างก็เป็นกังวลเมื่อเห็นพวกเขา

“ในที่สุด เธอก็ถือกำเนิดขึ้นแล้ว! ฮีโร่คนใหม่! เรารอวันนี้กันมานานแค่ไหนแล้วนะ! เก็บสะสมทรัพยากรไว้ตั้งเท่าไหร่กัน?”

“จริงๆแล้วก็เยอะมากเลยค่ะ แต่ในที่สุดความพยามของเราก็ผลิดอกออกผลแล้ว”

ทาคุโตะและอาโทวตื่นเต้นกันมาก 

ทรัพยากรกองสุมกันอยู่ในลานพิธีกรรม – อาหารจากต้นเนื้อมนุษย์ ไม้ที่เก็บเกี่ยวมาจากป่ารอบๆ และหินล้ำค่าต่างๆ

ด้วยความช่วยเหลือของอาโทว และแมลงขายาว พวกเขาสามารถเข้าสู่ขั้นตอนการสร้างฮีโร่ แต่งานที่ต้องทำเพื่อไปให้ถึงจุดนั้นไม่สามารถทำแบบครึ่งๆกลางๆได้

ชาวดาร์คเอลฟ์ต่างก็อาสาทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อตอบแทนราชาที่ช่วยเผ่าของพวกเขาไว้ ฝาแฝดทั้งสอง ซีเรีย และมีเรีย ต่างก็เดินเคียงข้างไปพร้อมกับราชาของพวกเธอ

“ว้าว กินพวกนั้นไปจะต้องอิ่มมากแน่ๆเลย”

มีเรียผู้โง่เขลา แสดงความประหลาดใจออกมา ในขณะที่ดวงตาเซื่องซึมเบิกกว้าง

“ฝ่าบาทเพคะ ท่านจะอัญเชิญฮีโร่คนไหนหรอ?”

ซีเรีย ผู้ที่มีรอยไหม้เกรียม ที่ไม่สนใจอะไรนอกจากพี่สาวของเธอ มองด้วยความสงสัย

“ใช่แล้ว คอยดูได้เลย”

“พิธีอัญเชิญนี่แหละ น่าตื่นเต้นที่สุดแล้ว คุคุ”

ประโยคของทาคุโตะทำให้ดวงตาของทั้งคู่เปล่งประกาย

ถัดจากพวกเขาไปคืออาโทวที่ดวงตาเปล่งประกายราวกับเด็กๆ ทาคุโตะคุยกับเธอผ่านเทเลพาธีที่พวกเขาได้ยินกันแค่สองคน

(อาโทว…เธอคิดยังไงเกี่ยวกับอิสลา?)

(ท่านหมายถึงว่าเธอจะอยู่ฝั่งเดียวกับเราหรือเปล่าใช่ไหมคะ?)

มีเพียงเรื่องเดียวที่พวกเขากังวลกัน นั่นก็คืออิสลาจะจำทาคุโตะได้รึเปล่า

ก่อนหน้านี้ทาคุโตะเป็นเพียงแค่มนุษย์ ตอนนี้เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ขึ้นที่นี่ด้วยการตั้งค่าจากในเกม

นั่นก็คือ อิระ ทาคุโตะ ราชาแห่งความพินาศ

ตอนที่เป็นผู้เล่น ทาคุโตะมักจะเล่นกับอาโทวเสมอ เธอจดจำเขาได้เมื่อมายังโลกใบนี้ แต่ไม่มีอะไรมารับประกันว่าอิสลาจะเป็นเช่นเดียวกัน

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะจำได้ แต่ก็ยังมีเรื่องอื่นให้กังวลอยู่ดี

อย่างเช่น ถ้าหากฮีโร่มีความต้องการเป็นของตัวเอง มันก็มีโอกาสที่พวกเขาจะปฏิเสธ และทำการต่อต้านอิระ ทาคุโตะ

“Eternal Nations” เป็นสถานที่ซึ่งผู้นำของแต่ละอาณาจักร จะชี้นำอาณาจักรไปในแนวทางของตัวเอง

ผู้นำของพวกเขาสามารถเลือกได้ บางครั้งฮีโร่ก็สามารถเป็นผู้นำได้ หรือบางครั้งผู้นำเองก็กลายเป็นยูนิตทั่วไปได้เช่นกัน

และอิสลาคือตัวละครที่สามารถทำหน้าที่ได้ทั้งการเป็นผู้นำ และยูนิตทั่วไป

เมื่อเธอเป็นผู้นำของไมน็อกกราห์ เขามักจะชอบใช้กลยุทธ์ “แมลงบุก”

มันคือกลยุทธ์ที่ไม่สนเรื่องการเพิ่มเลเวล และมุ่งเน้นไปที่การสร้างยูนิตออกมาจำนวนมาก เพื่อรุกรานอาณาจักรข้างเคียงในช่วงต้นเกม ในบางพื้นที่ มันถือว่าเป็นตัวโกงที่ค่อนข้างนิยมใช้กัน

ความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุดคืออิสลาจะเข้ายึดไมน็อกกราห์

ที่จริงแล้ว ใน “Eternal Nations” เองก็มีระบบที่ผู้นำถูกยึดอำนาจได้เช่นกัน

พวกเขาทั้งคู่ต่างเป็นกังวล ในกรณีที่อิสลาไม่ยอมรับทาคุโตะ และหันเขี้ยวเข้าใส่ไมน็อกกราห์

(หากมีอะไรผิดพลาด ฉันจะจัดการเธอเองค่ะ ระดับพลังของอิสลาอยู่ที่ 8 พอๆกันกับฉันก็จริง แต่ตอนนี้ฉันได้เปรียบกว่า เพราะมีสกิลดาบศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย)

(ผมคิดว่าไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ก็ฝากด้วยนะ)

นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญ

อย่างแรกเลยก็คือ การอัญเชิญเป็นปรากฏการณ์ที่ลึกลับ ไม่ว่ามันจะอิงจากระบบเกมมากแค่ไหน พวกเขาก็ไม่อาจวางใจได้อยู่ดี

—ไม่สิ ยิ่งต้องเฝ้าระวัง เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็เป็นได้

ทาคุโตะคอยระมัดระวังทุกอย่างสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น และบางครั้งเขาก็เลือกที่จะทำอะไรเสี่ยงๆ

แต่สิ่งที่ทำให้ทางเลือกเหล่านั้นประสบผลสำเร็จก็คือหญิงสาวที่มีนามว่า อาโทว คนที่เขาเชื่อใจมากที่สุด

(ฉันจะปกป้องท่านเองค่ะ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม)

(ค่าใช้จ่ายในการอัญเชิญมันสูงมาก เพราะงั้นอย่าให้เป็นแบบนั้นจะดีกว่านะ)

และพิธีอัญเชิญได้เริ่มต้นขึ้น

บุคคลสำคัญของไมน็อกกราห์ต่างก็อยู่ที่นี่กันหมด

ถ้าอิสลาก่อกบฎ มันจะเป็นเรื่องอันตรายมาก

เพราะแบบนั้น ทาคุโตะจึงตัดสินใจที่จะอัญเชิญเธอในพื้นที่เปิด เพื่อในกรณีฉุกเฉิน เขาสามารถใช้ดาร์คเอลฟ์เป็นเหยื่อล่อ และจัดการกับอิสลาได้

เป้าหมายของทาคุโตะก็คือใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบ กับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเขา – อาโทว

สุดท้ายแล้ว มีแค่เธอเท่านั้นที่เขาต้องการ

เขาคงรู้สึกแย่ถ้าเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นกับคนอื่นๆ แต่เขาก็จะไม่ใส่ใจกับมันมากนัก

เหล่าดาร์คเอลฟ์ต่างก็งุนงงกับภาพที่อยู่ตรงหน้า พวกเขาไม่รู้ความคิดของทาคุโตะ

พวกเขาเคยเป็นพยานในพิธีอัญเชิญแมลงขายาวก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้ ขนาดของพิธีอัญเชิญฮีโร่มันต่างออกไป

“พิธีกำลังจะเริ่มแล้ว ตามที่คุยกันไว้ ทุกคนห้ามขยับไปจากจุดที่ยืนอยู่จนกว่าจะได้รับคำสั่ง…”

ดาร์คเอลฟ์พยักหน้ารับคำสั่งอาโทวอย่างเงียบๆ และกลั้นลมหายใจ

ท้องฟ้ากลายเป็นสีหม่น เมฆหมอกหมุนวนเป็นวงกลมทำให้ดูมืดมิดแบบแปลกๆ

พลังเวทย์อันลึกลับพวยพุ่งออกมาจากผืนดิน และแผ่ขยายออกมาปกคุลมพื้นที่

ตรงจุดศูนย์กลางของกองทรัพยากรต่างๆ พื้นที่บริเวณนั้นราวกับถูกบิดคว้านออก และทันใดนั้นมันก็ดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป

จากนั้น ไข่สีแดงดำที่มีพื้นผิวเป็นเนื้อหนังก็ได้ถือกำเนิด และเพิ่มขนาดขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับดูดซับทรัพยากรไปด้วย

“นี่-นี่มัน…”

ผู้เฒ่ามอลทาร์ ที่ปิดปากเงียบมาโดยตลอดเนื่องจากเกรงว่าจะไปรบกวนพิธีกรรมขององค์ราชา ส่งเสียงออกมาอย่างช่วยไม่ได้

หัวหน้านักรบไกอา ฝาแฝดทั้งสอง และผู้ติดตามคนอื่นๆต่างก็พยายามปิดปากให้สนิท แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังเผลอร้องออกมา

พวกเขาไม่ได้หวาดกลัว แต่มันเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในจิตใจของพวกเขา

ช่างงดงามเสียนี่กระไร!

เป็นบรรยากาศที่น่าเหลือเชื่อมาก

ปาฏิหาริย์ที่ถูกสร้างโดยกษัตริย์ของพวกเขา พลังของฮีโร่ที่ถือกำเนิดขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น พลังอันไร้สิ้นสุดที่องค์ราชาปลดปล่อยออกมา

เมื่อได้เห็นกับตาของตนเอง ทำให้พวกเขามีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของไมน็อกกราห์

อาโทวเองก็ประทับใจกับฉากนี้

เธอเองก็ร่วมมือกับทาคุโตะ วางแผนเตรียมรับมือในกรณีที่อิสลาอยู่เหนือการควบคุมไว้ด้วย แต่ถ้าว่ากันตามตรง เธอเองก็คิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้

เธอนั้นเคารพเจ้านายของเธออย่างถึงที่สุด เพราะว่าเธอยกย่องทาคุโตะขนาดนั้น เธอจึงรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติที่ฮีโร่ตนอื่นๆจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของทาคุโตะ

อีกเรื่องคือ ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอสัมผัสได้ว่า ‘มันจะไม่เป็นอะไรแน่นอน’

จิจิ กิกิ จิกิ–

เสียงแปลกๆดังออกมาจากก้อนเนื้อนั้น มันเป็นเสียงการเต้นของหัวใจของสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด

ก้อนเนื้อขนาดใหญ่ ในที่สุดก็เริ่มปริแตก

สิ่งที่อยู่ภายในทะลักออกมา และก้อนที่มีของเหลวเหนียวเหนอะขนาดใหญ่ก็ไหลออกมากอง

มันดูเหมือนผีเสื้อที่ออกมาจากรังไหม และเมื่อมันสยายปีก เสียงที่ส่งออกมาราวกับเต็มไปด้วยความยินดี

ถ้ามองเพียงแวบแรก มันดูเหมือนกับมด แต่ถึงอย่างนั้น มันก็มีเขี้ยวที่แหลมคม และเขาที่สามารถบดขยี้ได้ทุกสรรพสิ่ง

ร่างกายของมันเป็นแมลง แต่โครงสร้างของมันดูหนาราวกับมนุษย์ และไม่ได้มีรูปร่างเรียวบางเหมือนกับพวกสัตว์ขาปล้อง

สิ่งของที่คล้ายเต้านมของมนุษย์หลายชิ้นห้อยอยู่บริเวณหน้าอก ไม่ว่าใครที่ได้เห็นมันต่างก็รู้สึกอึดอัด

แขนขาที่ยืดยาวออกมาแต่ละข้างนั้นต่างก็เหมือนกัน แต่จากลักษณะแล้ว ดูเหมือนมันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อไว้ใช้ในการเดิน พวกมันทั้งหนา กรงเล็บอันดุร้ายที่ยืดยาวออกมา เห็นได้ชัดว่าเอาไว้เชือดเฉือนศัตรู

ปีกที่กระพือเป็นประกายระยิบระยับสีรุ้ง รวมกับผิวสีเขียวเข้มของมัน ทำให้มันกลายเป็นภาพอันยอดเยี่ยม

แมลงที่ตัวใหญ่เท่ากระท่อมหลังหนึ่งมองไปรอบๆ

จากนั้นก็ก้มหัวลง

เธอแสดงท่าทีน่าขัน ราวกับตั้งตัวไม่ทันอยู่บ้าง

จากนั้น เมื่อสายตาของเธอพบกับทาคุโตะ เธอจึงโค้งคำนับ และทักทายเขา

“อ๊ะ อ่าา ฝ่าบาทผู้ยิ่งใหญ่ ราชาของข้า เป็นเกียรตินักที่ได้พบท่านในที่แห่งนี้ อิสลาผู้นี้ ผู้ซึ่งบัญชาเหล่าแมลงทั้งปวง การที่ได้รับใช้ท่านอีกครั้ง ทำให้ข้ารู้สึกเป็นยินดีและซาบซึ้งจากก้นบึ้งของจิตใจยิ่งนัก”

เสียงที่ฟังดุเหมือนหญิงสาวดังออกมาจากปากของแมลงตนนี้

เหล่าดาร์คเอลฟ์ต่างตกตะลึงที่ได้ยินเสียงเหมือนมนุษย์ออกจากปากของสิ่งมีชีวิตตนนี้

อิสลาตระหนักได้ถึงท่าทีของพวกเขา แต่ดูเหมือนเธอไม่มีความตั้งใจที่จะทำอะไร และยังเอาแค่ก้มหัวรอคำสั่งจากทาคุโตะเพียงอย่างเดียว

ทาคุโตะที่เฝ้ามองสถานการณ์อยู่ พยักหน้าหลายครั้งด้วยความพึงพอใจ และก้าวออกไป

อาโทวรีบพุ่งตัวออกไปเพื่อหยุดการกระทำอันไม่ยั้งคิดของเจ้านายของเธอ แต่เขาก็ไม่สนใจ

ในที่สุด ทาคุโตะก็มายืนอยู่ด้านหน้าของของอิสลา และเงยหน้ามองขึ้นไปยังสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ตนนี้

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ยังจำฉันได้รึเปล่า?”

“…? โอ๊ะ ใช่ค่ะ! ใช่แล้ว ใช่ ใช่! ฉันจำได้แล้วค่ะ ท่านทาคุโตะ ราชาแห่งความพินาศผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ล่วงรู้ทุกสรรพสิ่ง และยังเป็นผู้เล่นระดับสูงใน Eternal Nations –ถูกไหมคะ?”

“ใช่แล้ว”

“ถึงฉันจะยังสับสนอยู่นิดหน่อย แต่ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ถูกอัญเชิญออกมาอีกครั้ง ท่านสามารถใช้พลังนี้ได้ตามต้องการเลยค่ะ”

อิสลาพยักหน้า และส่งเสียงออกมาด้วยความยินดี

เป็นเพราะใบหน้าแบบแมลงของเธอ จึงทำให้ไม่อาจอ่านสีหน้าได้

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทาคุโตะรู้สึกได้ถึงความยินดีที่ซ่อนอยู่ภายในดวงตาคู่นั้น

 

=ข้อความ=============

 ฮีโร่ อิสลา ราชินีแห่งเหล่าแมลงทั้งปวง ได้เข้าสู่กระดาน

พลังการต่อสู้ของยูนิตแมลงทั้งหมดในโลกจะเพิ่มขึ้น 2

~รวมพล! ท่านแม่อิสลาตื่นขึ้นแล้ว!

~จงร่ำร้อง! ท่านแม่อิสลาตื่นขึ้นแล้ว!

แมลงทั้งหมดจะต้องก้มหัวให้กับราชินีอิสลา และก้าวเข้าสู่ยุคใหม่!

—————————————————————————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+