[นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ 43 Anger, sorrow, hatred, lamentation, –regret –

Now you are reading [นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ Chapter 43 Anger sorrow hatred lamentation --regret - at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

–ณ วันหนึ่ง ช่วงเวลาไหนสักแห่งก่อนหน้านี้

ตอนที่ปัญหาเรื่องคนเถื่อนยังไม่เลวร้าย ตอนที่ทุกคนในไมน็อกกราห์คิดว่ากำลังเสริมที่ส่งไปยังเมืองมังกรนั้นเพียงพอ

“พระจันทร์ใหญ่จัง”

“ไม่ได้เห็นพระจันทร์แบบนี้นานแล้วนะ”

เด็กหญิงสองคนกำลังมองไปบนฟ้าเหนือต้นไม้ขนาดยักษ์

ตอนนี้ป่าไม้ของไมน็อกกราห์คือดินแดนต้องสาปที่ส่งผลบวกต่อตัวละคร

ต้นไม้ที่บิดเบี้ยวอย่างผิดปกติ ทำให้ยากต่อการปีน

ถึงอย่างนั้น สำหรับเอลฟ์ที่อาศัยอยู่ในป่า และดาร์คเอลฟ์ที่คล้ายคลึงกันถือเป็นเรื่องง่ายๆ

การปีนต้นไม้ยักษ์ที่สูงที่สุดในเขตชานเมือง เป็นเหมือนการเดินเล่นในละแวกบ้านสำหรับพวกเขา

อย่างไรก็ตาม จากอายุและตำแหน่งของพวกเธอแล้ว จะเกิดปัญหาเอาได้ถ้าพวกเธอถูกคนพบเข้าในเวลาแบบนี้

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเธอจะโดนดุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอิสลาผู้ที่คอยปกป้องและเป็นห่วง ผู้ที่เป็นดั่งมารดาของทั้งคู่

นี่จึงเป็นการผจญภัยเล็กๆน้อยๆของทั้งคู่

ชีวิตที่สงบและมีความสุขทำให้ทั้งสองคนรู้สึกมีความกล้าขึ้นมา

ทิวทัศน์ที่เห็นได้จากที่สูงดูต่างออกไป

รอบๆต้นไม้ มีสีสันที่ราวกับพิษแผ่กระจายออกไปดั่งมหาสมุทร และในทางกลับกัน ท้องฟ้าที่ไร้เมฆกับดวงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับราวกับอัญมณี

และเหนืออื่นใด สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือดวงจันทร์ขนาดใหญ่….ที่กำลังส่องสว่างราวกับดวงอาทิตย์ และโอบกอดพวกเธอด้วยแสงอันอบอุ่นและอ่อนโยน

การไล่ตามแสงของดวงจันทร์มาจากพระราชวังที่เป็นจุดเริ่มต้น และมาบรรจบลงที่นี่ คือการผจญภัยเล็กๆของทั้งคู่

“พระจันทร์สวยจังเลยนะ”

ซีเรียผู้เป็นน้องที่กำลังมองดวงจันทร์ซึ่งไม่ได้เห็นมานานด้วยสายตาเป็นประกาย หันกลับมาหามีเรียผู้เป็นพี่

จริงอยู่ที่แสงของดวงจันทร์ส่องสว่างอย่างสวยงาม

ถึงอย่างนั้น แทนที่จะเป็นประโยคซึ่งพี่สาวของเธอพูดตามปกติ ประโยคพวกนี้เป็นเหมือนคำพูดที่ถูกจัดเตรียมไว้

“พระจันทร์สวยก็จริง แต่…คำพูดพวกนั้นมันอะไรน่ะ โอเน่จัง?”

“หืม? ฝ่าบาทบอกว่า พระจันทร์สวยจังเลย หมายความว่า ‘ฉันรักเธอ’ ยังไงล่ะ”

เมื่อน้องสาวของเธอถามมา เธอจึงตอบกลับด้วยรอยยิ้มและนึกย้อนกลับไปก่อนหน้านี้

มันมีอยู่ตอนหนึ่งที่ราชาของเธอมองไปบนท้องฟ้าอย่างเป็นปริศนา และพึมพำออกมาว่า ‘มีพระจันทร์อยู่ที่นี่ด้วยสินะ’

มีเรียที่ค่อนข้างสนิทกับราชา ถามถึงความหมายของประโยคเหล่านั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ตอนแรกเธอคิดว่าโดนราชาหลอกเข้าแล้ว แต่เรื่องที่เขาเล่าช่างน่าสนใจและน่าติดตาม เธอจึงรู้สึกประทับใจมากกว่า เพราะแบบนั้น เรื่องราวเหล่านั้นจึงสลักอยู่ในความทรงจำของเธอ

“ว้าว! เป็นครั้งแรกเลยที่หนูได้ยินเรื่องแบบนี้! ฝ่าบาทนี่รู้หลายอย่างเลยนะ!”

“ใช่แล้ว ฉันเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน ฝ่าบาทรู้ทุกเรื่องเลย”

ความลับระหว่างราชาคนพิเศษที่เธอแบ่งปันกับน้องสาวคนพิเศษ

เธอเห็นดวงตาของน้องสาวเปล่งประกายแบบเดียวกับตอนที่เธอได้ยินเรื่องเล่าเหล่านั้นเป็นครั้งแรก

มีเรียที่ไม่ปกติค่อยแสดงอารมณ์ ได้ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

…ก่อนที่จะกลายมาเป็นพลเมืองของไมน็อกกราห์ และก่อนที่จะกลายเป็นเมดของกษัตริย์…

บาดแผลในจิตใจของพวกเธอกำลังค่อยๆสมานตัว

ในอดีต ตอนที่เหล่าดาร์คเอลฟ์หลบหนีออกจากดินแดนบ้านเกิด พวกเธอต้องกินเนื้อแม่ของตัวเองเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้

มันคือความคิดของแม่พวกเธอ เป็นการอุทิศตนเพื่อช่วยเหล่าดาร์คเอลฟ์ผู้หิวโหย

แต่ในความเป็นจริง มันคือการตัดสินใจช่วยชีวิตลูกของเธอ เธอที่กำลังป่วย ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนอนรอความตายเพื่อกลายเป็นอาหารให้กับลูกสาว

นี่คือสิ่งสุดท้ายที่ทำได้เพื่อให้แน่ใจว่าลูกสาวของเธอจะรอด

 เด็กหญิงทั้งสองรู้เรื่องนี้เพราะพวกเธอโตพอที่จะเข้าใจอะไรแล้ว

ผลลัพธ์คือ พี่สาวคนโตได้ปิดกั้นอารมณ์ และน้องสาวก็แสดงรอยแผลเป็นจากโรคร้ายที่ได้รับการรักษาออกมา ราวกับเป็นการลงโทษตัวเองอยู่

ในตอนแรกที่พวกเขามองหาคนรับใช้ให้ทาคุโตะ ผู้เฒ่ามอลทาร์และคนอื่นๆไม่อยากแนะนำเด็กหญิงทั้งสองเท่าไหร่นัก

ฝาแฝดทั้งสองคือเครื่องยืนยันถึงบาปอันน่าสะอิดสะเอียนของดาร์คเอลฟ์ที่กลืนกินสหาย และพวกเขารู้สึกผิดอย่างแรงที่จะแนะนำพวกเธอให้กับกษัตริย์ของพวกเขา

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนั้นทั้งสองคนได้เสียสติไปแล้ว

ถึงอย่างนั้น เหตุการณืน่าเศร้าเหล่านั้นก็เป็นเพียงอดีต

ในที่สุด พวกเธอก็ได้รับความสงบสุขภายใต้ร่มเงาของกษัตริย์ ทั้งคู่ค่อยๆก้าวข้ามบาดแผลในอดีต และเริ่มใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน

แน่นอนเลยว่าทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณราชาอิระ ทาคุโตะ กับคนอื่นๆ

พวกเธอที่เคยอยากตายกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง บางทีเหตุผลหลักที่พวกเธอเปลี่ยนไปอาจจะมาจากฮีโร่ที่ชื่ออิสลา

“โอเน่จัง ฝ่าบาทสอนเรื่องพวกนี้ให้ตอนไหนงั้นหรอ?”

“หืม? เมื่อไหร่น่ะหรอ? ความลับ…”

“อ๊ะ! ไม่ยุติธรรมเลย!”

ขณะที่หัวเราะให้กับการประท้วงของน้องสาว สายตาของมีเรียจับจ้องไปยังดวงจันทร์ที่ลอยอยู่

ขณะที่เฝ้ามองดวงจันทร์อันงดงาม เธอก็นึกถึงคำพูดเหล่านั้น

พระจันทร์สวยจังเลย!

ราชาผู้ยิ่งใหญ่ ผู้แสนอ่อนโยนที่เล่าความลับเหล่านั้นให้เธอฟัง!

เพียงแค่เฝ้ามองดวงจันทร์ก็ทำให้พวกเธอรู้สึกมีพลัง ความสุขของพวกเธอเอ่อล้นออกมาอย่างรวดเร็ว

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ต่อจากนี้พวกเธอจะต้องใช้ชีวิตมีความสุขแน่ๆ

โลกทั้งใบจะส่งยิ้มให้กับพวกเธอที่พยายามอย่างหนัก

เพราะพระจันทร์ช่างสวยเหลือเกิน

นี่ต้องเป็นหลักฐานว่าโลกใบนี้รักพวกเธอแน่ๆ

จากนี้ไป พวกเธอจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับราชาผู้เป็นที่รัก อิสลาผู้เป็นที่รัก และเหล่าดาร์คเอลฟ์ที่พวกเธอรัก ภายในดินแดนของไมน็อกกราห์แห่งนี้

เพื่อผู้คนที่ตายไป เพื่อแม่ของพวกเธอที่ตายไป

พวกเธอถูกบอกให้มีชีวิตอยู่ และด้วยเจตนารมณ์เหล่านั้น…

พวกเธอจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป เหมือนในตอนจบของนิยาย

ด้วยความคิดนั้น ดูเหมือนจิตใจของมีเรียที่ถูกปิดกั้นในอดีต ค่อยๆหลอมละลายออกมามากขึ้น

มันทำให้เธอรู้สึกมีความสุขจนตัวลอย

“ซีเรีย พระจันทร์สวยจัง”

ทันใดนั้น มีเรียคว้ามือน้องสาว

ซีเรียประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นจึงยิ้มราวกับดอกไม้ที่ผลิบาน

แก้มของเธอแดงเปล่ง และจับมือพี่สาวของเธอเช่นกัน

“เฮะเฮะ โอเน่จัง พระจันทร์สวยจังเลย!”

“ฟุฟุฟุ”

“ฮิฮิฮิ”

ทั้งสองคนหัวเราะออกมา

ที่จริงแล้ว มันเป็นคำพูดที่เอาไว้ใช้ระหว่างชายหญิงที่ชอบพอกัน แต่ไม่มีทางที่เด็กอายุเพียงเท่านี้จะเข้าใจหรอก

อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือทาคุโตะที่รู้สึกอับอายเกินกว่าจะบอกความหมายที่แท้จริงเลยหลอกมีเรียต่างหาก

แม้จะใช้ผิดวิธีไปบ้าง แต่การถ่ายทอดความรักก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด

ดวงดาวบนท้องฟ้า และต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านออกไปราวกับมหาสมุทร

การเปรียบเทียบความงามของดวงจันทร์กับคำพูดที่แสดงถึงความรักเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

“นึกออกแล้ว!”

อาจเป็นเพราะสิ่งนั้น

ความอบอุ่นที่ดวงจันทร์มอบให้ ทำให้ซีเรียเกิดความคิดดีๆ

“ครั้งหน้า พาแม่จ๋ามาด้วยกันดีมั้ย แล้วพวกเราก็บอกแม่จ๋าว่าพระจันทร์สวยจังเลย!”

“โอ้…เอาสิ!”

เมื่อทั้งคู่คิดแบบนั้น ดวงตาของพวกเธอส่องประกาย

เห็นได้ชัดจากท่าทีของพวกเธอเลยว่าเรื่องนี้มีความหมายต่อพวกเธอมากขนาดไหน

สำหรับทั้งสองคน อิสลาคือแม่คนที่สอง

แน่นอนว่าพวกเธอไม่เคยลืมแม่ที่แท้จริง

ที่พวกเธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกวันนี้ได้เพราะแม่ตัวจริงของพวกเธอมอบชีวิตให้

พวกเธอไม่เคยลืมความอบอุ่นของผู้หญิงที่โอบกอดพวกเธอไว้ในอ้อมแขน

ในขณะเดียวกัน พวกเธอก็ไม่ลืมความเอาใจใส่ที่อิสลามอบให้เช่นกัน

พวกเธอไม่รู้ว่าทำไมคนที่เป็นถึงฮีโร่อย่างอิสลาต้องเอาใจใส่พวกเธอขนาดนี้

ถึงอย่างนั้น อิสลาผู้ที่ควรจะรู้จักเพียงการสังหารและทำลาย ได้โอบกอดพวกเธออย่างอ่อนโยน ความอบอุ่นที่ได้จากอ้อมกอดนั้นเป็นของจริง

“ฟุฟุฟุ มันต้องสนุกมากแน่ๆ”

พระจันทร์เต็มดวงอีกทีวันไหนกันนะ?

พวกเธอแทบจะรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหวแล้ว

พระจันทร์จะสวยแค่ไหนถ้าพวกเธอทั้งสามคนนั่งดูมันด้วยกัน?

แค่คิดก็ทำให้ซีเรียตื่นเต้นจนลุกขึ้นยืน

“เก็บไว้เป็นความลับนะ?”

“ได้เลย โอเน่จัง!”

“…ฟุฟุฟุ”

“…ฮิฮิ”

เด็กหญิงทั้งสองหัวเราะออกมา

พระจันทร์เต็มดวงครั้งต่อไป พวกเธอจะพาแม่คนใหม่มาที่นี่ด้วย

บางทีอิสลาอาจจะดุที่พวกเธอเข้านอนดึก แต่พวกเธอคิดว่าเธอน่าจะยกโทษให้แน่ๆ

ทั้งสามคนจะนั่งดูพระจันทร์ด้วยกัน

แล้วพวกเธอจะมอบคำพูดเหล่านั้นแก่มารดาผู้เป็นที่รัก

หนูรักแม่ค่ะ

พวกเธอเชื่อว่าวันนั้นจะต้องเป็นวันที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างแน่นอน

 

 ◇   ◇   ◇

“ม่ายยยยย!!”

“แม่จ๋า!!”

การทำลายตัวเองของเฟรไมน์ได้ระเบิดใส่ทุกสิ่งที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้

ฝาแฝดทั้งสองและแม่ของพวกเธอยังมีชีวิตอยู่

ไม่สิ-แค่แม่ของพวกเธอยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นปาฏิหาริย์แล้ว

ผิวหนังที่แข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้า ตอนนี้กลับหลอมละลายไปหมดแล้ว ร่างกายที่ใหญ่โตของเธอหายไปครึ่งหนึ่ง

สภาพของเธอนั้นยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ แต่โชคดีที่ศรีษะของเธอไม่ได้รับความเสียหาย และมีเสียงแผ่วเบาส่งออกมา

อาจจะเป็นเพราะเธอได้สติแล้ว อิสลาค่อยๆยกหัวของเธอขึ้นมา และหันหน้าไปหาฝาแฝดทั้งสองที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอ และทำการยืนยันความปลอดภัยของทั้งคู่

“เป็นอะไร…รึเปล่า?”

ที่ตอบกลับมาคือเสียงสะอื้นของทั้งคู่

ใบหน้าของพวกเธอปกคลุมไปด้วยเขม่า สีหน้าที่บิดเบี้ยวและน้ำตาที่ไหลออกมา แต่เธอยืนยันแล้วว่าทั้งคู่ยังคงปลอดภัยดี

 

อิสลารู้สึกโล่งอก

อิสลาคิดว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเธอทั้งคู่จะต้องรอด

เพราะ…ทั้งสองคน คือลูกสาวที่แท้จริงของเธอ

ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? อิสลาไม่เคยมีลูกมาก่อน

อิสลาคือตัวตนที่อยู่ในเกม Eternal Nations 

แมลงเด็กที่เธอสร้างออกมาก็คือลูกๆของเธอ แต่นั่นคือการตั้งค่าของเกม ความจริงที่ว่ามันเป็นข้อมูลที่ระบบใส่เอาไว้เป็นอีกเรื่อง

แมลงเด็กที่เธอสร้างขึ้นหลังจากถูกอัญเชิญมายังโลกใบนี้ดูเหมือนหุ่นยนต์ที่ทำตามคำสั่งมากกว่าเด็กจริงๆ

ที่จริงแล้ว ความสามารถในการคิดของแมลงเด็กดูเหมือนเอไอมากกว่าสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกซะอีก

จากมุมมองของมนุษย์แล้ว พวกมันไม่ใช่เด็กจริงๆ

…อิสลารู้ตัวดีว่าเธอเป็นเพียงข้อมูลที่อยู่ภายในเกม

แม้ว่าเธอจะได้รับการเรียกขานว่าเป็นราชินีแห่งแมลงทั้งปวง แต่เธอก็ยังคงเป็นแค่ตัวเลขที่อยู่ระหว่าง 0 และ 1 เท่านั้น

นั่นคือเหตุผลว่าทำไม เธอที่มีคุณสมบัติเป็นราชินี จึงมองหาสิ่งที่เธอจะแสดงความเป็นแม่ให้ ตั้งแต่ตอนที่ถูกอัญเชิญมายังโลกใบนี้

มอบให้ แล้วเธอจักได้รับ ตัวตนอ่อนแอที่ควรจะได้รับความรักและการปกป้อง

ฝาแฝดทั้งสองที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ คือสมบัติล้ำค่าที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาทดแทน

ใช่แล้ว เธอต้องการปกป้องทั้งคู่ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม

“พวกเธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? ขอบคุณพระเจ้า…เอาล่ะ ทีนี้ ฉันต้องการให้พวกหนูฟังให้ดีๆ”

“ก่อนหน้านั้น…อาการบาดเจ็–!”

“ใช่แล้ว ต้องขอให้ฝ่าบาททำการรักษา!”

“ฉัน…ไม่เป็นไร”

ขณะที่สัมผัสได้ความตายซึ่งย่างกรายเข้ามา อิสลาเค้นแรงเฮือกสุดท้ายออกมาเพื่อพูดกับพวกเธอ

ที่จริงแล้ว อิสลาสามารถเอาชีวิตรอดได้ ถ้าเธอเสียสละเด็กหญิงทั้งสอง

ด้วยความสามารถอันเหนือล้นของเธอ เธอสามารถถอยออกไปให้ไกลๆ

ไม่ว่าพลังของเฟรไมน์จะรุนแรงแค่ไหน ไม่ว่าพลังของเหตุการณ์บังคับจะเลวร้ายแค่ไหน เธอก็จะได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่จะมีแม่คนไหนที่ยอมเสียสละลูกของตัวเองได้กันล่ะ

สายเลือดคือสิ่งที่พิสูจน์ความเป็นแม่ลูกอย่างนั้นหรอ?

เวลาที่ใช้ร่วมคือเครื่องพิสูจน์ถึงสายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก?

ไม่ใช่เลย แต่ให้พวกเขาจะไม่ได้ผูกพันธ์กันทางสายเลือด แต่ให้พวกเขาใช้เวลาด้วยกันเพียงน้อยนิด…

ทั้งคู่ก็ยังเป็นลูกของอิสลา และพวกเธอก็คิดว่าอิสลาเป็นแม่ของตัวเองเช่นกัน

“ฉันคิดว่าพวกหนูน่าจะรู้อยู่แล้ว ว่าฉันคงไม่รอด เพราะแบบนั้นฉันจึงมีเรื่องอยากฝากฝังพวกหนู…”

เวลาที่เหลือช่างน้อยนิด และเธอไม่สามารถทำอะไรกับมันได้

อิสลาระงับความรู้สึกที่อยากตะโกนออกไปว่ามันไม่ควรเป็นแบบนี้

“ไม่นะ! น-หนูจะเป็นเด็กดี! เพราะงั้น…เพราะงั้น—!” 

“มัน-มันต้องมีทางไหนที่จะ…”

“ขอโทษทีนะ ฉันไม่มีเวลาแล้ว”

“เป็นเพราะซีเรียอ่อนแอหรอ เพราะซีเรียพยายามมีความสุขใช่มั้ย!? พวกเราแค่พยายามใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เลยได้รับการลงโทษแบบนี้อีกแล้วงั้นหรอ?!”

“ทำไมล่ะ? ทำไมทุกคนต้องตายด้วย? หนูแค่อยากอยู่กับแม่จ๋า แค่นี้มันแย่นักหรือไง? พวกเราทำอะไรผิดกัน?”

อิสลาอยากตะโกนบอกพวกเธอเหลือเกินว่า ‘นั่นมันไม่จริงสักหน่อย’

แต่เธอไม่มีแรงเหลือแล้ว

ชีวิตของเธอราวกับเปลวเทียนที่กำลังมอดดับ มีเรื่องที่เธอต้องทำก่อนสิ้นลม

“แม่จ๋า ให้หนูตายพร้อมกับแม่เถอะ หนูไม่อยาก..ไม่อยากเสียใจอีกต่อไปแล้ว…”

“หนูใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ได้ การมีชีวิตอยู่ไม่มีอะไรดีเลย”

“ช่วยฟังคำขอสุดท้ายของฉัน….”

“……….”

เธอต้องการให้ทั้งคู่มีชีวิตต่อไป

เธอจะต้องส่งทั้งคู่ออกจากสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ ทำให้พวกเธอปลอดภัย ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม

สถานที่แห่งนี้ คือจุดที่อิสลาและคนอื่นๆ ถือว่าเป็นแนวหน้าของการเข้าต่อสู้กันระหว่างกองทัพจอมมารและกองทัพของไมน็อกกราห์

ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะโดนเฟรไมน์ระเบิดทิ้งไปแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าหน่วยช่วยเหลือของไมน็อกกราห์จะมาทันเวลา

มีความเป็นไปได้ที่หน่วยสอดแนมจาก Brave Quest จะมาตรวจสอบที่นี่

ดังนั้นนี่จึงเป็นหนทางเดียว

“ทั้งสองคน ฉันอยากจะขออะไรหน่อย—”

“ฮึก!!”

ทั้งคู่กรีดร้องออกมาพร้อมกัน

แม่ของพวกเธอ ทันใดนั้นได้ทำการแทงไปยังหน้าอกของตนเอง แล้วทำการดึงหัวใจของเธอออกมา

พร้อมกันนั้น ทั้งคู่ก็เข้าใจเจตนารมณ์ของอิสลา

“โอ้กกกกกก!!”

“ฮึก ฮึก ฮึก—”

ซีเรียอาเจียนออกมา และมีเรียรู้สึกอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก

มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่สุดของพวกเธอ และมันยังทำให้พวกเธอนึกถึงความทรงจำอันเลวร้ายที่เคยประสบมาอีกด้วย

ในหมู่สกิลที่อิสลามี เธอมีความสามารถในการส่งมอบพลังให้แก่ยูนิตอื่น

แต่ผู้ที่สืบทอดพลังนั้นจะต้องกินหัวใจของอิสลา…

ใน Eternal Nations มันเป็นสกิลพิเศษที่สามารถอัพเกรดยูนิตอื่นๆให้กลายเป็นฮีโร่ได้ เมื่ออิสลาถูกกำจัด

ถึงอย่างนั้น เมื่อมันกลายเป็นเรื่องจริง ผลกระทบที่ผู้สืบทอดจะได้รับนั้นช่างน่าสะพรึง

ยิ่งรักมากเท่าไหร่ ก็ยิ่ง…….

“ได้โปรดยกโทษให้แม่คนนี้ที่จากไปก่อนด้วยนะ…และ….คำขอสุดท้ายของฉัน……ได้โปรด…..กินฉัน….และมีชีวิตต่อไป”

“ไม่นะ ไม่ ไม่!”

“ทำไมล่ะ? ฮึก ฮึก ฮึก ทำไม….?”

อิสลารู้ดีว่าความต้องการของเธอจะทำร้ายจิตใจทั้งคู่ขนาดไหน

ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น

ต่อให้เธอรู้ดีว่าทั้งสองจะต้องเจ็บปวด แต่เธอก็ยังหวังให้ทั้งคู่มีชีวิตต่อไป

“ไม่เป็นไร ลูกสาวที่น่ารักของแม่…” 

(นายท่าน….โปรดอภัยให้กับความเห็นแก่ตัวของฉันด้วย)

อิสลาได้ทำการเลือกสกิลโดยไม่ขออนุญาตจากราชาของเธอ สกิลนั้นก็คือ << สืบทอดบัลลังก์ >>

เมื่อยูนิตฮีโร่ถูกกำจัด มันสามารถมอบสกิล 《ฮีโร่》ให้แก่ยูนิตอื่นที่อยู่ฝ่ายเดียวกันได้

ของขวัญชิ้นสุดท้ายจากผู้ล่วงลับ

“สืบทอดพลังของฉันซะ-เด็กน้อย มีเรีย ซีเรีย….แม่คนนี้จะมอบพลังทั้งหมดให้กับพวกหนู”

อิสลายื่นหัวใจที่ยังเต้นอยู่ออกไป

หัวใจของเธอเต็มไปด้วยพลังเวทย์ และเมื่อมันสัมผัสกับมือของเด็กหญิงทั้งสอง มันได้ส่งแสงออกมาอย่างเจิดจ้า

แสงนั้นเปล่งประกายขึ้นมาและดับไป

“–จงใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ ลูกสาวผู้น่ารักของฉัน”

ฮีโร่อิสลาได้จบชีวิตลง

“—แม่รักหนูนะ”

“ม่ายยยยยย!!!”

ทั้งคู่รู้ดีว่ามันยากและเจ็บปวดแค่ไหนในการใช้ชีวิตอยู่โดยปราศจากแม่ของพวกเธอ

พวกเธอเคยทุกข์ทรมานมาแล้วครั้งหนึ่ง และตอนนี้ก็เป็นอีกครั้งที่พวกเธอต้องฟันฝ่าเรื่องเดิม

แต่ทั้งสองคนได้ยินคำพูดสุดท้ายของเธอ

มารดาผู้เป็นที่รักได้บอกกับพวกเธอว่า ‘รัก’ และ ‘มีชีวิตต่อไป’

ดังนั้น เด็กหญิงทั้งสองจึง———–ของแม่—–

 

………

……

 

…… เหตุการณ์ของ Brave Quest ยังดำเนินต่อไป

เฟรไมน์ที่ถูกกำจัดและหายไปไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเรื่องราวยังคงดำเนินต่อ

ในเรื่องราวนั้น คือเรื่องราวของผู้ที่เป็นอาจารย์และเป็นทั้งผู้ที่ทำหน้าที่แทนบิดาของผู้กล้าได้ตายลงด้วยแผนของเฟรไมน์

ในตอนเริ่มต้นการผจญภัย เขาทั้งกล้าหาญและน่าภาคภูมิใจ เขาเป็นคนที่เข้าร่วมการต่อสู้มามากมาย บางครั้งก็นำพาชัยชนะด้วยพลังที่แข็งแกร่งของเขา

เขาเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องผู้กล้าและตายไป

ผู้กล้าเศร้าโศกเสียใจกับการตายของเขา และตกอยู่ในความสิ้นหวัง

ถึงอย่างนั้น ผู้กล้าก็กลับมายืนหยัดได้อีกครั้งเพราะคำพูดของเขา

ผู้กล้าสืบทอดเจตนารมณ์ พลัง และกลายมาเป็นคนที่ช่วยโลกเอาไว้

พลังที่สืบทอดไปได้กลายมาเป็นอาวุธสังหาร และถูกนำไปใช้ในการทำลายล้างเหล่าจอมมาร และนำพาโลกไปสู่ความสงบสุข

เรื่องราวการผจญภัยของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความรัก และความกล้าหาญ

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากเปลี่ยนมาเป็นพวกปีศาจล่ะ?

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าในที่สุดความสงบสุขที่พวกเขาตามหามาอย่างยาวนานได้ถูกพรากออกไป?

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าในเมฆหมอกแห่งความสิ้นหวังนั้น พวกเขาจำเป็นต้องกลืนกินมารดาของตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอดล่ะ?

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเด็กสาวผู้เกลียดชังทุกสิ่ง ได้รับพรจากราชาแห่งความพินาศ และสืบทอดเจตนารมณ์ของปีศาจร้ายล่ะ?

ไม่มีทางหยุดยั้งเหตุการณ์นี้

หากไม่การช่วยชีวิตใครบางคนนั้นเป็นไปไม่ได้

เช่นนั้นแล้ว การถือกำเนิดของบางสิ่งที่ชั่วร้ายก็ไม่อาจหยุดยั้งได้เช่นกัน

ความโกลาหลที่รวมตัวกันได้เข้ากลืนกินและเติมเต็มโลกใบนี้

 

 

= ระบบ =============

* พลังที่แท้จริงของฮีโร่ -ข้อผิดพลาด- ได้ตื่นขึ้นแล้ว!!!

ยกระดับคุณสมบัติของเป้าหมาย

………

ข้อมูลโปรไฟล์ของเป้าหมายผิดปกติ

ยกเลิกการยกระดับ….

■■■■ เข้าแทรกแซงการประมวลผลและเสียชีวิต

ดำเนินการยกระดับคุณสมบัติเป้าหมายต่อ

《สืบทอดบัลลังก์》

สกิล “ฮีโร่” ถูกมอบให้แก่เป้าหมาย

-พบข้อผิดพลาด-

ทำซ้ำกระบวนการยกระดับ

-พบข้อผิดพลาด-

ไม่สามารถประมวลผลได้ตามปกติ

-พบข้อผิดพล—————

{{การปลุกพลัง การปลุกพลัง}} {{ เสร็จสิ้น เสร็จสิ้น }}

―――――――――――――――――

 

ต่อให้มีคนที่ล่วงรู้ทุกสรรพสิ่ง ก็ไม่อาจสร้างผลลัพธ์นี้ได้

ต่อให้เป็นพระเจ้า ก็ไม่อาจคาดการณ์เรื่องนี้ได้

ทุกๆเหตุการณ์ร้อยเรียงเข้าด้วยกันเป็นทอดๆ จนสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อนกำลังจะถือกำเนิดขึ้น

–ไข่แห่งความเกลียดชังได้ฟักตัวออกมา

เป็นเพราะความรักจากแม่ของพวกเขาหรือเปล่า?

หรือเป็นเพราะความบ้าคลั่งจากแม่ของพวกเขากันแน่?

ปรากฏการณ์ที่ผิดปกติยังดำเนินต่อไป ส่งผลให้โลกใบนี้บิดเบี้ยว และทำการร้องเตือน

เพราะมันเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ มันจึงไม่อาจหยุดยั้งได้

โลกใบนี้ช่างโหดร้าย

มันเกลียดชังพวกเขา และปรารถนาให้พวกเขาพบกับความโชคร้ายและสิ้นหวัง

แต่ในขณะเดียวกัน โลกใบนี้ก็มีความเท่าเทียม

มันจึงมอบพลังที่จะนำพาทุกอย่างไปสู่นรกให้แก่พวกเขา…..

 

………

……

 

เมื่อทุกอย่างจบลง มีเงาเล็กๆสองร่างปรากฏขึ้น

ทั้งคู่ลุกขึ้นยืน และมองไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน

ราวกับเป็นการอวยพรแก่การถือกำเนิดของชีวิตใหม่

ก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นแค่สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่แสนอ่อนแอ และต้องการการปกป้อง

ตอนนี้เด็กหญิงทั้สองได้ถือกำเนิดใหม่ในฐานะตัวตนซึ่งอยู่เหนือเจตจำนงของตนเอง และทำการเผยแพร่ความเกลียดชังให้แก่โลกใบนี้

เด็กหญิงทั้งสองที่จิตใจแตกสลายจากความสิ้นหวังในครั้งแรก

จากนั้น ในครั้งที่สอง พวกเธอ…..

ในท้องฟ้าอันมืดมิดยามค่ำคืน มีดวงจันทร์ขนาดใหญ่ส่องประกายอยู่อย่างเงียบงัน

 

 

=ข้อความ =============

 *แจ้งเตือนฉุกเฉิน*

ภัยพิบัติใหม่กำเนิดขึ้นบนโลกแล้ว

[พี่น้องเอลเฟอร์ แม่มดแห่งความโศกเศร้า]

-เพราะโลกใบนี้เกลียดพวกเรา–

—เราจึงเกลียดชังโลกใบนี้~

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ 43 Anger, sorrow, hatred, lamentation, –regret –

Now you are reading [นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ Chapter 43 Anger sorrow hatred lamentation --regret - at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

–ณ วันหนึ่ง ช่วงเวลาไหนสักแห่งก่อนหน้านี้

ตอนที่ปัญหาเรื่องคนเถื่อนยังไม่เลวร้าย ตอนที่ทุกคนในไมน็อกกราห์คิดว่ากำลังเสริมที่ส่งไปยังเมืองมังกรนั้นเพียงพอ

“พระจันทร์ใหญ่จัง”

“ไม่ได้เห็นพระจันทร์แบบนี้นานแล้วนะ”

เด็กหญิงสองคนกำลังมองไปบนฟ้าเหนือต้นไม้ขนาดยักษ์

ตอนนี้ป่าไม้ของไมน็อกกราห์คือดินแดนต้องสาปที่ส่งผลบวกต่อตัวละคร

ต้นไม้ที่บิดเบี้ยวอย่างผิดปกติ ทำให้ยากต่อการปีน

ถึงอย่างนั้น สำหรับเอลฟ์ที่อาศัยอยู่ในป่า และดาร์คเอลฟ์ที่คล้ายคลึงกันถือเป็นเรื่องง่ายๆ

การปีนต้นไม้ยักษ์ที่สูงที่สุดในเขตชานเมือง เป็นเหมือนการเดินเล่นในละแวกบ้านสำหรับพวกเขา

อย่างไรก็ตาม จากอายุและตำแหน่งของพวกเธอแล้ว จะเกิดปัญหาเอาได้ถ้าพวกเธอถูกคนพบเข้าในเวลาแบบนี้

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเธอจะโดนดุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอิสลาผู้ที่คอยปกป้องและเป็นห่วง ผู้ที่เป็นดั่งมารดาของทั้งคู่

นี่จึงเป็นการผจญภัยเล็กๆน้อยๆของทั้งคู่

ชีวิตที่สงบและมีความสุขทำให้ทั้งสองคนรู้สึกมีความกล้าขึ้นมา

ทิวทัศน์ที่เห็นได้จากที่สูงดูต่างออกไป

รอบๆต้นไม้ มีสีสันที่ราวกับพิษแผ่กระจายออกไปดั่งมหาสมุทร และในทางกลับกัน ท้องฟ้าที่ไร้เมฆกับดวงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับราวกับอัญมณี

และเหนืออื่นใด สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือดวงจันทร์ขนาดใหญ่….ที่กำลังส่องสว่างราวกับดวงอาทิตย์ และโอบกอดพวกเธอด้วยแสงอันอบอุ่นและอ่อนโยน

การไล่ตามแสงของดวงจันทร์มาจากพระราชวังที่เป็นจุดเริ่มต้น และมาบรรจบลงที่นี่ คือการผจญภัยเล็กๆของทั้งคู่

“พระจันทร์สวยจังเลยนะ”

ซีเรียผู้เป็นน้องที่กำลังมองดวงจันทร์ซึ่งไม่ได้เห็นมานานด้วยสายตาเป็นประกาย หันกลับมาหามีเรียผู้เป็นพี่

จริงอยู่ที่แสงของดวงจันทร์ส่องสว่างอย่างสวยงาม

ถึงอย่างนั้น แทนที่จะเป็นประโยคซึ่งพี่สาวของเธอพูดตามปกติ ประโยคพวกนี้เป็นเหมือนคำพูดที่ถูกจัดเตรียมไว้

“พระจันทร์สวยก็จริง แต่…คำพูดพวกนั้นมันอะไรน่ะ โอเน่จัง?”

“หืม? ฝ่าบาทบอกว่า พระจันทร์สวยจังเลย หมายความว่า ‘ฉันรักเธอ’ ยังไงล่ะ”

เมื่อน้องสาวของเธอถามมา เธอจึงตอบกลับด้วยรอยยิ้มและนึกย้อนกลับไปก่อนหน้านี้

มันมีอยู่ตอนหนึ่งที่ราชาของเธอมองไปบนท้องฟ้าอย่างเป็นปริศนา และพึมพำออกมาว่า ‘มีพระจันทร์อยู่ที่นี่ด้วยสินะ’

มีเรียที่ค่อนข้างสนิทกับราชา ถามถึงความหมายของประโยคเหล่านั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ตอนแรกเธอคิดว่าโดนราชาหลอกเข้าแล้ว แต่เรื่องที่เขาเล่าช่างน่าสนใจและน่าติดตาม เธอจึงรู้สึกประทับใจมากกว่า เพราะแบบนั้น เรื่องราวเหล่านั้นจึงสลักอยู่ในความทรงจำของเธอ

“ว้าว! เป็นครั้งแรกเลยที่หนูได้ยินเรื่องแบบนี้! ฝ่าบาทนี่รู้หลายอย่างเลยนะ!”

“ใช่แล้ว ฉันเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน ฝ่าบาทรู้ทุกเรื่องเลย”

ความลับระหว่างราชาคนพิเศษที่เธอแบ่งปันกับน้องสาวคนพิเศษ

เธอเห็นดวงตาของน้องสาวเปล่งประกายแบบเดียวกับตอนที่เธอได้ยินเรื่องเล่าเหล่านั้นเป็นครั้งแรก

มีเรียที่ไม่ปกติค่อยแสดงอารมณ์ ได้ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

…ก่อนที่จะกลายมาเป็นพลเมืองของไมน็อกกราห์ และก่อนที่จะกลายเป็นเมดของกษัตริย์…

บาดแผลในจิตใจของพวกเธอกำลังค่อยๆสมานตัว

ในอดีต ตอนที่เหล่าดาร์คเอลฟ์หลบหนีออกจากดินแดนบ้านเกิด พวกเธอต้องกินเนื้อแม่ของตัวเองเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้

มันคือความคิดของแม่พวกเธอ เป็นการอุทิศตนเพื่อช่วยเหล่าดาร์คเอลฟ์ผู้หิวโหย

แต่ในความเป็นจริง มันคือการตัดสินใจช่วยชีวิตลูกของเธอ เธอที่กำลังป่วย ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนอนรอความตายเพื่อกลายเป็นอาหารให้กับลูกสาว

นี่คือสิ่งสุดท้ายที่ทำได้เพื่อให้แน่ใจว่าลูกสาวของเธอจะรอด

 เด็กหญิงทั้งสองรู้เรื่องนี้เพราะพวกเธอโตพอที่จะเข้าใจอะไรแล้ว

ผลลัพธ์คือ พี่สาวคนโตได้ปิดกั้นอารมณ์ และน้องสาวก็แสดงรอยแผลเป็นจากโรคร้ายที่ได้รับการรักษาออกมา ราวกับเป็นการลงโทษตัวเองอยู่

ในตอนแรกที่พวกเขามองหาคนรับใช้ให้ทาคุโตะ ผู้เฒ่ามอลทาร์และคนอื่นๆไม่อยากแนะนำเด็กหญิงทั้งสองเท่าไหร่นัก

ฝาแฝดทั้งสองคือเครื่องยืนยันถึงบาปอันน่าสะอิดสะเอียนของดาร์คเอลฟ์ที่กลืนกินสหาย และพวกเขารู้สึกผิดอย่างแรงที่จะแนะนำพวกเธอให้กับกษัตริย์ของพวกเขา

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนั้นทั้งสองคนได้เสียสติไปแล้ว

ถึงอย่างนั้น เหตุการณืน่าเศร้าเหล่านั้นก็เป็นเพียงอดีต

ในที่สุด พวกเธอก็ได้รับความสงบสุขภายใต้ร่มเงาของกษัตริย์ ทั้งคู่ค่อยๆก้าวข้ามบาดแผลในอดีต และเริ่มใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน

แน่นอนเลยว่าทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณราชาอิระ ทาคุโตะ กับคนอื่นๆ

พวกเธอที่เคยอยากตายกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง บางทีเหตุผลหลักที่พวกเธอเปลี่ยนไปอาจจะมาจากฮีโร่ที่ชื่ออิสลา

“โอเน่จัง ฝ่าบาทสอนเรื่องพวกนี้ให้ตอนไหนงั้นหรอ?”

“หืม? เมื่อไหร่น่ะหรอ? ความลับ…”

“อ๊ะ! ไม่ยุติธรรมเลย!”

ขณะที่หัวเราะให้กับการประท้วงของน้องสาว สายตาของมีเรียจับจ้องไปยังดวงจันทร์ที่ลอยอยู่

ขณะที่เฝ้ามองดวงจันทร์อันงดงาม เธอก็นึกถึงคำพูดเหล่านั้น

พระจันทร์สวยจังเลย!

ราชาผู้ยิ่งใหญ่ ผู้แสนอ่อนโยนที่เล่าความลับเหล่านั้นให้เธอฟัง!

เพียงแค่เฝ้ามองดวงจันทร์ก็ทำให้พวกเธอรู้สึกมีพลัง ความสุขของพวกเธอเอ่อล้นออกมาอย่างรวดเร็ว

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ต่อจากนี้พวกเธอจะต้องใช้ชีวิตมีความสุขแน่ๆ

โลกทั้งใบจะส่งยิ้มให้กับพวกเธอที่พยายามอย่างหนัก

เพราะพระจันทร์ช่างสวยเหลือเกิน

นี่ต้องเป็นหลักฐานว่าโลกใบนี้รักพวกเธอแน่ๆ

จากนี้ไป พวกเธอจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับราชาผู้เป็นที่รัก อิสลาผู้เป็นที่รัก และเหล่าดาร์คเอลฟ์ที่พวกเธอรัก ภายในดินแดนของไมน็อกกราห์แห่งนี้

เพื่อผู้คนที่ตายไป เพื่อแม่ของพวกเธอที่ตายไป

พวกเธอถูกบอกให้มีชีวิตอยู่ และด้วยเจตนารมณ์เหล่านั้น…

พวกเธอจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป เหมือนในตอนจบของนิยาย

ด้วยความคิดนั้น ดูเหมือนจิตใจของมีเรียที่ถูกปิดกั้นในอดีต ค่อยๆหลอมละลายออกมามากขึ้น

มันทำให้เธอรู้สึกมีความสุขจนตัวลอย

“ซีเรีย พระจันทร์สวยจัง”

ทันใดนั้น มีเรียคว้ามือน้องสาว

ซีเรียประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นจึงยิ้มราวกับดอกไม้ที่ผลิบาน

แก้มของเธอแดงเปล่ง และจับมือพี่สาวของเธอเช่นกัน

“เฮะเฮะ โอเน่จัง พระจันทร์สวยจังเลย!”

“ฟุฟุฟุ”

“ฮิฮิฮิ”

ทั้งสองคนหัวเราะออกมา

ที่จริงแล้ว มันเป็นคำพูดที่เอาไว้ใช้ระหว่างชายหญิงที่ชอบพอกัน แต่ไม่มีทางที่เด็กอายุเพียงเท่านี้จะเข้าใจหรอก

อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือทาคุโตะที่รู้สึกอับอายเกินกว่าจะบอกความหมายที่แท้จริงเลยหลอกมีเรียต่างหาก

แม้จะใช้ผิดวิธีไปบ้าง แต่การถ่ายทอดความรักก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด

ดวงดาวบนท้องฟ้า และต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านออกไปราวกับมหาสมุทร

การเปรียบเทียบความงามของดวงจันทร์กับคำพูดที่แสดงถึงความรักเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

“นึกออกแล้ว!”

อาจเป็นเพราะสิ่งนั้น

ความอบอุ่นที่ดวงจันทร์มอบให้ ทำให้ซีเรียเกิดความคิดดีๆ

“ครั้งหน้า พาแม่จ๋ามาด้วยกันดีมั้ย แล้วพวกเราก็บอกแม่จ๋าว่าพระจันทร์สวยจังเลย!”

“โอ้…เอาสิ!”

เมื่อทั้งคู่คิดแบบนั้น ดวงตาของพวกเธอส่องประกาย

เห็นได้ชัดจากท่าทีของพวกเธอเลยว่าเรื่องนี้มีความหมายต่อพวกเธอมากขนาดไหน

สำหรับทั้งสองคน อิสลาคือแม่คนที่สอง

แน่นอนว่าพวกเธอไม่เคยลืมแม่ที่แท้จริง

ที่พวกเธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกวันนี้ได้เพราะแม่ตัวจริงของพวกเธอมอบชีวิตให้

พวกเธอไม่เคยลืมความอบอุ่นของผู้หญิงที่โอบกอดพวกเธอไว้ในอ้อมแขน

ในขณะเดียวกัน พวกเธอก็ไม่ลืมความเอาใจใส่ที่อิสลามอบให้เช่นกัน

พวกเธอไม่รู้ว่าทำไมคนที่เป็นถึงฮีโร่อย่างอิสลาต้องเอาใจใส่พวกเธอขนาดนี้

ถึงอย่างนั้น อิสลาผู้ที่ควรจะรู้จักเพียงการสังหารและทำลาย ได้โอบกอดพวกเธออย่างอ่อนโยน ความอบอุ่นที่ได้จากอ้อมกอดนั้นเป็นของจริง

“ฟุฟุฟุ มันต้องสนุกมากแน่ๆ”

พระจันทร์เต็มดวงอีกทีวันไหนกันนะ?

พวกเธอแทบจะรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหวแล้ว

พระจันทร์จะสวยแค่ไหนถ้าพวกเธอทั้งสามคนนั่งดูมันด้วยกัน?

แค่คิดก็ทำให้ซีเรียตื่นเต้นจนลุกขึ้นยืน

“เก็บไว้เป็นความลับนะ?”

“ได้เลย โอเน่จัง!”

“…ฟุฟุฟุ”

“…ฮิฮิ”

เด็กหญิงทั้งสองหัวเราะออกมา

พระจันทร์เต็มดวงครั้งต่อไป พวกเธอจะพาแม่คนใหม่มาที่นี่ด้วย

บางทีอิสลาอาจจะดุที่พวกเธอเข้านอนดึก แต่พวกเธอคิดว่าเธอน่าจะยกโทษให้แน่ๆ

ทั้งสามคนจะนั่งดูพระจันทร์ด้วยกัน

แล้วพวกเธอจะมอบคำพูดเหล่านั้นแก่มารดาผู้เป็นที่รัก

หนูรักแม่ค่ะ

พวกเธอเชื่อว่าวันนั้นจะต้องเป็นวันที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างแน่นอน

 

 ◇   ◇   ◇

“ม่ายยยยย!!”

“แม่จ๋า!!”

การทำลายตัวเองของเฟรไมน์ได้ระเบิดใส่ทุกสิ่งที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้

ฝาแฝดทั้งสองและแม่ของพวกเธอยังมีชีวิตอยู่

ไม่สิ-แค่แม่ของพวกเธอยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นปาฏิหาริย์แล้ว

ผิวหนังที่แข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้า ตอนนี้กลับหลอมละลายไปหมดแล้ว ร่างกายที่ใหญ่โตของเธอหายไปครึ่งหนึ่ง

สภาพของเธอนั้นยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ แต่โชคดีที่ศรีษะของเธอไม่ได้รับความเสียหาย และมีเสียงแผ่วเบาส่งออกมา

อาจจะเป็นเพราะเธอได้สติแล้ว อิสลาค่อยๆยกหัวของเธอขึ้นมา และหันหน้าไปหาฝาแฝดทั้งสองที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอ และทำการยืนยันความปลอดภัยของทั้งคู่

“เป็นอะไร…รึเปล่า?”

ที่ตอบกลับมาคือเสียงสะอื้นของทั้งคู่

ใบหน้าของพวกเธอปกคลุมไปด้วยเขม่า สีหน้าที่บิดเบี้ยวและน้ำตาที่ไหลออกมา แต่เธอยืนยันแล้วว่าทั้งคู่ยังคงปลอดภัยดี

 

อิสลารู้สึกโล่งอก

อิสลาคิดว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเธอทั้งคู่จะต้องรอด

เพราะ…ทั้งสองคน คือลูกสาวที่แท้จริงของเธอ

ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? อิสลาไม่เคยมีลูกมาก่อน

อิสลาคือตัวตนที่อยู่ในเกม Eternal Nations 

แมลงเด็กที่เธอสร้างออกมาก็คือลูกๆของเธอ แต่นั่นคือการตั้งค่าของเกม ความจริงที่ว่ามันเป็นข้อมูลที่ระบบใส่เอาไว้เป็นอีกเรื่อง

แมลงเด็กที่เธอสร้างขึ้นหลังจากถูกอัญเชิญมายังโลกใบนี้ดูเหมือนหุ่นยนต์ที่ทำตามคำสั่งมากกว่าเด็กจริงๆ

ที่จริงแล้ว ความสามารถในการคิดของแมลงเด็กดูเหมือนเอไอมากกว่าสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกซะอีก

จากมุมมองของมนุษย์แล้ว พวกมันไม่ใช่เด็กจริงๆ

…อิสลารู้ตัวดีว่าเธอเป็นเพียงข้อมูลที่อยู่ภายในเกม

แม้ว่าเธอจะได้รับการเรียกขานว่าเป็นราชินีแห่งแมลงทั้งปวง แต่เธอก็ยังคงเป็นแค่ตัวเลขที่อยู่ระหว่าง 0 และ 1 เท่านั้น

นั่นคือเหตุผลว่าทำไม เธอที่มีคุณสมบัติเป็นราชินี จึงมองหาสิ่งที่เธอจะแสดงความเป็นแม่ให้ ตั้งแต่ตอนที่ถูกอัญเชิญมายังโลกใบนี้

มอบให้ แล้วเธอจักได้รับ ตัวตนอ่อนแอที่ควรจะได้รับความรักและการปกป้อง

ฝาแฝดทั้งสองที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ คือสมบัติล้ำค่าที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาทดแทน

ใช่แล้ว เธอต้องการปกป้องทั้งคู่ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม

“พวกเธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? ขอบคุณพระเจ้า…เอาล่ะ ทีนี้ ฉันต้องการให้พวกหนูฟังให้ดีๆ”

“ก่อนหน้านั้น…อาการบาดเจ็–!”

“ใช่แล้ว ต้องขอให้ฝ่าบาททำการรักษา!”

“ฉัน…ไม่เป็นไร”

ขณะที่สัมผัสได้ความตายซึ่งย่างกรายเข้ามา อิสลาเค้นแรงเฮือกสุดท้ายออกมาเพื่อพูดกับพวกเธอ

ที่จริงแล้ว อิสลาสามารถเอาชีวิตรอดได้ ถ้าเธอเสียสละเด็กหญิงทั้งสอง

ด้วยความสามารถอันเหนือล้นของเธอ เธอสามารถถอยออกไปให้ไกลๆ

ไม่ว่าพลังของเฟรไมน์จะรุนแรงแค่ไหน ไม่ว่าพลังของเหตุการณ์บังคับจะเลวร้ายแค่ไหน เธอก็จะได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่จะมีแม่คนไหนที่ยอมเสียสละลูกของตัวเองได้กันล่ะ

สายเลือดคือสิ่งที่พิสูจน์ความเป็นแม่ลูกอย่างนั้นหรอ?

เวลาที่ใช้ร่วมคือเครื่องพิสูจน์ถึงสายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก?

ไม่ใช่เลย แต่ให้พวกเขาจะไม่ได้ผูกพันธ์กันทางสายเลือด แต่ให้พวกเขาใช้เวลาด้วยกันเพียงน้อยนิด…

ทั้งคู่ก็ยังเป็นลูกของอิสลา และพวกเธอก็คิดว่าอิสลาเป็นแม่ของตัวเองเช่นกัน

“ฉันคิดว่าพวกหนูน่าจะรู้อยู่แล้ว ว่าฉันคงไม่รอด เพราะแบบนั้นฉันจึงมีเรื่องอยากฝากฝังพวกหนู…”

เวลาที่เหลือช่างน้อยนิด และเธอไม่สามารถทำอะไรกับมันได้

อิสลาระงับความรู้สึกที่อยากตะโกนออกไปว่ามันไม่ควรเป็นแบบนี้

“ไม่นะ! น-หนูจะเป็นเด็กดี! เพราะงั้น…เพราะงั้น—!” 

“มัน-มันต้องมีทางไหนที่จะ…”

“ขอโทษทีนะ ฉันไม่มีเวลาแล้ว”

“เป็นเพราะซีเรียอ่อนแอหรอ เพราะซีเรียพยายามมีความสุขใช่มั้ย!? พวกเราแค่พยายามใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เลยได้รับการลงโทษแบบนี้อีกแล้วงั้นหรอ?!”

“ทำไมล่ะ? ทำไมทุกคนต้องตายด้วย? หนูแค่อยากอยู่กับแม่จ๋า แค่นี้มันแย่นักหรือไง? พวกเราทำอะไรผิดกัน?”

อิสลาอยากตะโกนบอกพวกเธอเหลือเกินว่า ‘นั่นมันไม่จริงสักหน่อย’

แต่เธอไม่มีแรงเหลือแล้ว

ชีวิตของเธอราวกับเปลวเทียนที่กำลังมอดดับ มีเรื่องที่เธอต้องทำก่อนสิ้นลม

“แม่จ๋า ให้หนูตายพร้อมกับแม่เถอะ หนูไม่อยาก..ไม่อยากเสียใจอีกต่อไปแล้ว…”

“หนูใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ได้ การมีชีวิตอยู่ไม่มีอะไรดีเลย”

“ช่วยฟังคำขอสุดท้ายของฉัน….”

“……….”

เธอต้องการให้ทั้งคู่มีชีวิตต่อไป

เธอจะต้องส่งทั้งคู่ออกจากสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ ทำให้พวกเธอปลอดภัย ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม

สถานที่แห่งนี้ คือจุดที่อิสลาและคนอื่นๆ ถือว่าเป็นแนวหน้าของการเข้าต่อสู้กันระหว่างกองทัพจอมมารและกองทัพของไมน็อกกราห์

ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะโดนเฟรไมน์ระเบิดทิ้งไปแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าหน่วยช่วยเหลือของไมน็อกกราห์จะมาทันเวลา

มีความเป็นไปได้ที่หน่วยสอดแนมจาก Brave Quest จะมาตรวจสอบที่นี่

ดังนั้นนี่จึงเป็นหนทางเดียว

“ทั้งสองคน ฉันอยากจะขออะไรหน่อย—”

“ฮึก!!”

ทั้งคู่กรีดร้องออกมาพร้อมกัน

แม่ของพวกเธอ ทันใดนั้นได้ทำการแทงไปยังหน้าอกของตนเอง แล้วทำการดึงหัวใจของเธอออกมา

พร้อมกันนั้น ทั้งคู่ก็เข้าใจเจตนารมณ์ของอิสลา

“โอ้กกกกกก!!”

“ฮึก ฮึก ฮึก—”

ซีเรียอาเจียนออกมา และมีเรียรู้สึกอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก

มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่สุดของพวกเธอ และมันยังทำให้พวกเธอนึกถึงความทรงจำอันเลวร้ายที่เคยประสบมาอีกด้วย

ในหมู่สกิลที่อิสลามี เธอมีความสามารถในการส่งมอบพลังให้แก่ยูนิตอื่น

แต่ผู้ที่สืบทอดพลังนั้นจะต้องกินหัวใจของอิสลา…

ใน Eternal Nations มันเป็นสกิลพิเศษที่สามารถอัพเกรดยูนิตอื่นๆให้กลายเป็นฮีโร่ได้ เมื่ออิสลาถูกกำจัด

ถึงอย่างนั้น เมื่อมันกลายเป็นเรื่องจริง ผลกระทบที่ผู้สืบทอดจะได้รับนั้นช่างน่าสะพรึง

ยิ่งรักมากเท่าไหร่ ก็ยิ่ง…….

“ได้โปรดยกโทษให้แม่คนนี้ที่จากไปก่อนด้วยนะ…และ….คำขอสุดท้ายของฉัน……ได้โปรด…..กินฉัน….และมีชีวิตต่อไป”

“ไม่นะ ไม่ ไม่!”

“ทำไมล่ะ? ฮึก ฮึก ฮึก ทำไม….?”

อิสลารู้ดีว่าความต้องการของเธอจะทำร้ายจิตใจทั้งคู่ขนาดไหน

ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น

ต่อให้เธอรู้ดีว่าทั้งสองจะต้องเจ็บปวด แต่เธอก็ยังหวังให้ทั้งคู่มีชีวิตต่อไป

“ไม่เป็นไร ลูกสาวที่น่ารักของแม่…” 

(นายท่าน….โปรดอภัยให้กับความเห็นแก่ตัวของฉันด้วย)

อิสลาได้ทำการเลือกสกิลโดยไม่ขออนุญาตจากราชาของเธอ สกิลนั้นก็คือ << สืบทอดบัลลังก์ >>

เมื่อยูนิตฮีโร่ถูกกำจัด มันสามารถมอบสกิล 《ฮีโร่》ให้แก่ยูนิตอื่นที่อยู่ฝ่ายเดียวกันได้

ของขวัญชิ้นสุดท้ายจากผู้ล่วงลับ

“สืบทอดพลังของฉันซะ-เด็กน้อย มีเรีย ซีเรีย….แม่คนนี้จะมอบพลังทั้งหมดให้กับพวกหนู”

อิสลายื่นหัวใจที่ยังเต้นอยู่ออกไป

หัวใจของเธอเต็มไปด้วยพลังเวทย์ และเมื่อมันสัมผัสกับมือของเด็กหญิงทั้งสอง มันได้ส่งแสงออกมาอย่างเจิดจ้า

แสงนั้นเปล่งประกายขึ้นมาและดับไป

“–จงใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ ลูกสาวผู้น่ารักของฉัน”

ฮีโร่อิสลาได้จบชีวิตลง

“—แม่รักหนูนะ”

“ม่ายยยยยย!!!”

ทั้งคู่รู้ดีว่ามันยากและเจ็บปวดแค่ไหนในการใช้ชีวิตอยู่โดยปราศจากแม่ของพวกเธอ

พวกเธอเคยทุกข์ทรมานมาแล้วครั้งหนึ่ง และตอนนี้ก็เป็นอีกครั้งที่พวกเธอต้องฟันฝ่าเรื่องเดิม

แต่ทั้งสองคนได้ยินคำพูดสุดท้ายของเธอ

มารดาผู้เป็นที่รักได้บอกกับพวกเธอว่า ‘รัก’ และ ‘มีชีวิตต่อไป’

ดังนั้น เด็กหญิงทั้งสองจึง———–ของแม่—–

 

………

……

 

…… เหตุการณ์ของ Brave Quest ยังดำเนินต่อไป

เฟรไมน์ที่ถูกกำจัดและหายไปไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเรื่องราวยังคงดำเนินต่อ

ในเรื่องราวนั้น คือเรื่องราวของผู้ที่เป็นอาจารย์และเป็นทั้งผู้ที่ทำหน้าที่แทนบิดาของผู้กล้าได้ตายลงด้วยแผนของเฟรไมน์

ในตอนเริ่มต้นการผจญภัย เขาทั้งกล้าหาญและน่าภาคภูมิใจ เขาเป็นคนที่เข้าร่วมการต่อสู้มามากมาย บางครั้งก็นำพาชัยชนะด้วยพลังที่แข็งแกร่งของเขา

เขาเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องผู้กล้าและตายไป

ผู้กล้าเศร้าโศกเสียใจกับการตายของเขา และตกอยู่ในความสิ้นหวัง

ถึงอย่างนั้น ผู้กล้าก็กลับมายืนหยัดได้อีกครั้งเพราะคำพูดของเขา

ผู้กล้าสืบทอดเจตนารมณ์ พลัง และกลายมาเป็นคนที่ช่วยโลกเอาไว้

พลังที่สืบทอดไปได้กลายมาเป็นอาวุธสังหาร และถูกนำไปใช้ในการทำลายล้างเหล่าจอมมาร และนำพาโลกไปสู่ความสงบสุข

เรื่องราวการผจญภัยของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความรัก และความกล้าหาญ

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากเปลี่ยนมาเป็นพวกปีศาจล่ะ?

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าในที่สุดความสงบสุขที่พวกเขาตามหามาอย่างยาวนานได้ถูกพรากออกไป?

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าในเมฆหมอกแห่งความสิ้นหวังนั้น พวกเขาจำเป็นต้องกลืนกินมารดาของตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอดล่ะ?

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเด็กสาวผู้เกลียดชังทุกสิ่ง ได้รับพรจากราชาแห่งความพินาศ และสืบทอดเจตนารมณ์ของปีศาจร้ายล่ะ?

ไม่มีทางหยุดยั้งเหตุการณ์นี้

หากไม่การช่วยชีวิตใครบางคนนั้นเป็นไปไม่ได้

เช่นนั้นแล้ว การถือกำเนิดของบางสิ่งที่ชั่วร้ายก็ไม่อาจหยุดยั้งได้เช่นกัน

ความโกลาหลที่รวมตัวกันได้เข้ากลืนกินและเติมเต็มโลกใบนี้

 

 

= ระบบ =============

* พลังที่แท้จริงของฮีโร่ -ข้อผิดพลาด- ได้ตื่นขึ้นแล้ว!!!

ยกระดับคุณสมบัติของเป้าหมาย

………

ข้อมูลโปรไฟล์ของเป้าหมายผิดปกติ

ยกเลิกการยกระดับ….

■■■■ เข้าแทรกแซงการประมวลผลและเสียชีวิต

ดำเนินการยกระดับคุณสมบัติเป้าหมายต่อ

《สืบทอดบัลลังก์》

สกิล “ฮีโร่” ถูกมอบให้แก่เป้าหมาย

-พบข้อผิดพลาด-

ทำซ้ำกระบวนการยกระดับ

-พบข้อผิดพลาด-

ไม่สามารถประมวลผลได้ตามปกติ

-พบข้อผิดพล—————

{{การปลุกพลัง การปลุกพลัง}} {{ เสร็จสิ้น เสร็จสิ้น }}

―――――――――――――――――

 

ต่อให้มีคนที่ล่วงรู้ทุกสรรพสิ่ง ก็ไม่อาจสร้างผลลัพธ์นี้ได้

ต่อให้เป็นพระเจ้า ก็ไม่อาจคาดการณ์เรื่องนี้ได้

ทุกๆเหตุการณ์ร้อยเรียงเข้าด้วยกันเป็นทอดๆ จนสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อนกำลังจะถือกำเนิดขึ้น

–ไข่แห่งความเกลียดชังได้ฟักตัวออกมา

เป็นเพราะความรักจากแม่ของพวกเขาหรือเปล่า?

หรือเป็นเพราะความบ้าคลั่งจากแม่ของพวกเขากันแน่?

ปรากฏการณ์ที่ผิดปกติยังดำเนินต่อไป ส่งผลให้โลกใบนี้บิดเบี้ยว และทำการร้องเตือน

เพราะมันเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ มันจึงไม่อาจหยุดยั้งได้

โลกใบนี้ช่างโหดร้าย

มันเกลียดชังพวกเขา และปรารถนาให้พวกเขาพบกับความโชคร้ายและสิ้นหวัง

แต่ในขณะเดียวกัน โลกใบนี้ก็มีความเท่าเทียม

มันจึงมอบพลังที่จะนำพาทุกอย่างไปสู่นรกให้แก่พวกเขา…..

 

………

……

 

เมื่อทุกอย่างจบลง มีเงาเล็กๆสองร่างปรากฏขึ้น

ทั้งคู่ลุกขึ้นยืน และมองไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน

ราวกับเป็นการอวยพรแก่การถือกำเนิดของชีวิตใหม่

ก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นแค่สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่แสนอ่อนแอ และต้องการการปกป้อง

ตอนนี้เด็กหญิงทั้สองได้ถือกำเนิดใหม่ในฐานะตัวตนซึ่งอยู่เหนือเจตจำนงของตนเอง และทำการเผยแพร่ความเกลียดชังให้แก่โลกใบนี้

เด็กหญิงทั้งสองที่จิตใจแตกสลายจากความสิ้นหวังในครั้งแรก

จากนั้น ในครั้งที่สอง พวกเธอ…..

ในท้องฟ้าอันมืดมิดยามค่ำคืน มีดวงจันทร์ขนาดใหญ่ส่องประกายอยู่อย่างเงียบงัน

 

 

=ข้อความ =============

 *แจ้งเตือนฉุกเฉิน*

ภัยพิบัติใหม่กำเนิดขึ้นบนโลกแล้ว

[พี่น้องเอลเฟอร์ แม่มดแห่งความโศกเศร้า]

-เพราะโลกใบนี้เกลียดพวกเรา–

—เราจึงเกลียดชังโลกใบนี้~

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ 43 Anger, sorrow, hatred, lamentation, –regret –

Now you are reading [นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ Chapter 43 Anger sorrow hatred lamentation --regret - at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

–ณ วันหนึ่ง ช่วงเวลาไหนสักแห่งก่อนหน้านี้

ตอนที่ปัญหาเรื่องคนเถื่อนยังไม่เลวร้าย ตอนที่ทุกคนในไมน็อกกราห์คิดว่ากำลังเสริมที่ส่งไปยังเมืองมังกรนั้นเพียงพอ

“พระจันทร์ใหญ่จัง”

“ไม่ได้เห็นพระจันทร์แบบนี้นานแล้วนะ”

เด็กหญิงสองคนกำลังมองไปบนฟ้าเหนือต้นไม้ขนาดยักษ์

ตอนนี้ป่าไม้ของไมน็อกกราห์คือดินแดนต้องสาปที่ส่งผลบวกต่อตัวละคร

ต้นไม้ที่บิดเบี้ยวอย่างผิดปกติ ทำให้ยากต่อการปีน

ถึงอย่างนั้น สำหรับเอลฟ์ที่อาศัยอยู่ในป่า และดาร์คเอลฟ์ที่คล้ายคลึงกันถือเป็นเรื่องง่ายๆ

การปีนต้นไม้ยักษ์ที่สูงที่สุดในเขตชานเมือง เป็นเหมือนการเดินเล่นในละแวกบ้านสำหรับพวกเขา

อย่างไรก็ตาม จากอายุและตำแหน่งของพวกเธอแล้ว จะเกิดปัญหาเอาได้ถ้าพวกเธอถูกคนพบเข้าในเวลาแบบนี้

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเธอจะโดนดุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอิสลาผู้ที่คอยปกป้องและเป็นห่วง ผู้ที่เป็นดั่งมารดาของทั้งคู่

นี่จึงเป็นการผจญภัยเล็กๆน้อยๆของทั้งคู่

ชีวิตที่สงบและมีความสุขทำให้ทั้งสองคนรู้สึกมีความกล้าขึ้นมา

ทิวทัศน์ที่เห็นได้จากที่สูงดูต่างออกไป

รอบๆต้นไม้ มีสีสันที่ราวกับพิษแผ่กระจายออกไปดั่งมหาสมุทร และในทางกลับกัน ท้องฟ้าที่ไร้เมฆกับดวงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับราวกับอัญมณี

และเหนืออื่นใด สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือดวงจันทร์ขนาดใหญ่….ที่กำลังส่องสว่างราวกับดวงอาทิตย์ และโอบกอดพวกเธอด้วยแสงอันอบอุ่นและอ่อนโยน

การไล่ตามแสงของดวงจันทร์มาจากพระราชวังที่เป็นจุดเริ่มต้น และมาบรรจบลงที่นี่ คือการผจญภัยเล็กๆของทั้งคู่

“พระจันทร์สวยจังเลยนะ”

ซีเรียผู้เป็นน้องที่กำลังมองดวงจันทร์ซึ่งไม่ได้เห็นมานานด้วยสายตาเป็นประกาย หันกลับมาหามีเรียผู้เป็นพี่

จริงอยู่ที่แสงของดวงจันทร์ส่องสว่างอย่างสวยงาม

ถึงอย่างนั้น แทนที่จะเป็นประโยคซึ่งพี่สาวของเธอพูดตามปกติ ประโยคพวกนี้เป็นเหมือนคำพูดที่ถูกจัดเตรียมไว้

“พระจันทร์สวยก็จริง แต่…คำพูดพวกนั้นมันอะไรน่ะ โอเน่จัง?”

“หืม? ฝ่าบาทบอกว่า พระจันทร์สวยจังเลย หมายความว่า ‘ฉันรักเธอ’ ยังไงล่ะ”

เมื่อน้องสาวของเธอถามมา เธอจึงตอบกลับด้วยรอยยิ้มและนึกย้อนกลับไปก่อนหน้านี้

มันมีอยู่ตอนหนึ่งที่ราชาของเธอมองไปบนท้องฟ้าอย่างเป็นปริศนา และพึมพำออกมาว่า ‘มีพระจันทร์อยู่ที่นี่ด้วยสินะ’

มีเรียที่ค่อนข้างสนิทกับราชา ถามถึงความหมายของประโยคเหล่านั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ตอนแรกเธอคิดว่าโดนราชาหลอกเข้าแล้ว แต่เรื่องที่เขาเล่าช่างน่าสนใจและน่าติดตาม เธอจึงรู้สึกประทับใจมากกว่า เพราะแบบนั้น เรื่องราวเหล่านั้นจึงสลักอยู่ในความทรงจำของเธอ

“ว้าว! เป็นครั้งแรกเลยที่หนูได้ยินเรื่องแบบนี้! ฝ่าบาทนี่รู้หลายอย่างเลยนะ!”

“ใช่แล้ว ฉันเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน ฝ่าบาทรู้ทุกเรื่องเลย”

ความลับระหว่างราชาคนพิเศษที่เธอแบ่งปันกับน้องสาวคนพิเศษ

เธอเห็นดวงตาของน้องสาวเปล่งประกายแบบเดียวกับตอนที่เธอได้ยินเรื่องเล่าเหล่านั้นเป็นครั้งแรก

มีเรียที่ไม่ปกติค่อยแสดงอารมณ์ ได้ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

…ก่อนที่จะกลายมาเป็นพลเมืองของไมน็อกกราห์ และก่อนที่จะกลายเป็นเมดของกษัตริย์…

บาดแผลในจิตใจของพวกเธอกำลังค่อยๆสมานตัว

ในอดีต ตอนที่เหล่าดาร์คเอลฟ์หลบหนีออกจากดินแดนบ้านเกิด พวกเธอต้องกินเนื้อแม่ของตัวเองเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้

มันคือความคิดของแม่พวกเธอ เป็นการอุทิศตนเพื่อช่วยเหล่าดาร์คเอลฟ์ผู้หิวโหย

แต่ในความเป็นจริง มันคือการตัดสินใจช่วยชีวิตลูกของเธอ เธอที่กำลังป่วย ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนอนรอความตายเพื่อกลายเป็นอาหารให้กับลูกสาว

นี่คือสิ่งสุดท้ายที่ทำได้เพื่อให้แน่ใจว่าลูกสาวของเธอจะรอด

 เด็กหญิงทั้งสองรู้เรื่องนี้เพราะพวกเธอโตพอที่จะเข้าใจอะไรแล้ว

ผลลัพธ์คือ พี่สาวคนโตได้ปิดกั้นอารมณ์ และน้องสาวก็แสดงรอยแผลเป็นจากโรคร้ายที่ได้รับการรักษาออกมา ราวกับเป็นการลงโทษตัวเองอยู่

ในตอนแรกที่พวกเขามองหาคนรับใช้ให้ทาคุโตะ ผู้เฒ่ามอลทาร์และคนอื่นๆไม่อยากแนะนำเด็กหญิงทั้งสองเท่าไหร่นัก

ฝาแฝดทั้งสองคือเครื่องยืนยันถึงบาปอันน่าสะอิดสะเอียนของดาร์คเอลฟ์ที่กลืนกินสหาย และพวกเขารู้สึกผิดอย่างแรงที่จะแนะนำพวกเธอให้กับกษัตริย์ของพวกเขา

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนั้นทั้งสองคนได้เสียสติไปแล้ว

ถึงอย่างนั้น เหตุการณืน่าเศร้าเหล่านั้นก็เป็นเพียงอดีต

ในที่สุด พวกเธอก็ได้รับความสงบสุขภายใต้ร่มเงาของกษัตริย์ ทั้งคู่ค่อยๆก้าวข้ามบาดแผลในอดีต และเริ่มใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน

แน่นอนเลยว่าทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณราชาอิระ ทาคุโตะ กับคนอื่นๆ

พวกเธอที่เคยอยากตายกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง บางทีเหตุผลหลักที่พวกเธอเปลี่ยนไปอาจจะมาจากฮีโร่ที่ชื่ออิสลา

“โอเน่จัง ฝ่าบาทสอนเรื่องพวกนี้ให้ตอนไหนงั้นหรอ?”

“หืม? เมื่อไหร่น่ะหรอ? ความลับ…”

“อ๊ะ! ไม่ยุติธรรมเลย!”

ขณะที่หัวเราะให้กับการประท้วงของน้องสาว สายตาของมีเรียจับจ้องไปยังดวงจันทร์ที่ลอยอยู่

ขณะที่เฝ้ามองดวงจันทร์อันงดงาม เธอก็นึกถึงคำพูดเหล่านั้น

พระจันทร์สวยจังเลย!

ราชาผู้ยิ่งใหญ่ ผู้แสนอ่อนโยนที่เล่าความลับเหล่านั้นให้เธอฟัง!

เพียงแค่เฝ้ามองดวงจันทร์ก็ทำให้พวกเธอรู้สึกมีพลัง ความสุขของพวกเธอเอ่อล้นออกมาอย่างรวดเร็ว

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ต่อจากนี้พวกเธอจะต้องใช้ชีวิตมีความสุขแน่ๆ

โลกทั้งใบจะส่งยิ้มให้กับพวกเธอที่พยายามอย่างหนัก

เพราะพระจันทร์ช่างสวยเหลือเกิน

นี่ต้องเป็นหลักฐานว่าโลกใบนี้รักพวกเธอแน่ๆ

จากนี้ไป พวกเธอจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับราชาผู้เป็นที่รัก อิสลาผู้เป็นที่รัก และเหล่าดาร์คเอลฟ์ที่พวกเธอรัก ภายในดินแดนของไมน็อกกราห์แห่งนี้

เพื่อผู้คนที่ตายไป เพื่อแม่ของพวกเธอที่ตายไป

พวกเธอถูกบอกให้มีชีวิตอยู่ และด้วยเจตนารมณ์เหล่านั้น…

พวกเธอจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป เหมือนในตอนจบของนิยาย

ด้วยความคิดนั้น ดูเหมือนจิตใจของมีเรียที่ถูกปิดกั้นในอดีต ค่อยๆหลอมละลายออกมามากขึ้น

มันทำให้เธอรู้สึกมีความสุขจนตัวลอย

“ซีเรีย พระจันทร์สวยจัง”

ทันใดนั้น มีเรียคว้ามือน้องสาว

ซีเรียประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นจึงยิ้มราวกับดอกไม้ที่ผลิบาน

แก้มของเธอแดงเปล่ง และจับมือพี่สาวของเธอเช่นกัน

“เฮะเฮะ โอเน่จัง พระจันทร์สวยจังเลย!”

“ฟุฟุฟุ”

“ฮิฮิฮิ”

ทั้งสองคนหัวเราะออกมา

ที่จริงแล้ว มันเป็นคำพูดที่เอาไว้ใช้ระหว่างชายหญิงที่ชอบพอกัน แต่ไม่มีทางที่เด็กอายุเพียงเท่านี้จะเข้าใจหรอก

อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือทาคุโตะที่รู้สึกอับอายเกินกว่าจะบอกความหมายที่แท้จริงเลยหลอกมีเรียต่างหาก

แม้จะใช้ผิดวิธีไปบ้าง แต่การถ่ายทอดความรักก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด

ดวงดาวบนท้องฟ้า และต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านออกไปราวกับมหาสมุทร

การเปรียบเทียบความงามของดวงจันทร์กับคำพูดที่แสดงถึงความรักเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

“นึกออกแล้ว!”

อาจเป็นเพราะสิ่งนั้น

ความอบอุ่นที่ดวงจันทร์มอบให้ ทำให้ซีเรียเกิดความคิดดีๆ

“ครั้งหน้า พาแม่จ๋ามาด้วยกันดีมั้ย แล้วพวกเราก็บอกแม่จ๋าว่าพระจันทร์สวยจังเลย!”

“โอ้…เอาสิ!”

เมื่อทั้งคู่คิดแบบนั้น ดวงตาของพวกเธอส่องประกาย

เห็นได้ชัดจากท่าทีของพวกเธอเลยว่าเรื่องนี้มีความหมายต่อพวกเธอมากขนาดไหน

สำหรับทั้งสองคน อิสลาคือแม่คนที่สอง

แน่นอนว่าพวกเธอไม่เคยลืมแม่ที่แท้จริง

ที่พวกเธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกวันนี้ได้เพราะแม่ตัวจริงของพวกเธอมอบชีวิตให้

พวกเธอไม่เคยลืมความอบอุ่นของผู้หญิงที่โอบกอดพวกเธอไว้ในอ้อมแขน

ในขณะเดียวกัน พวกเธอก็ไม่ลืมความเอาใจใส่ที่อิสลามอบให้เช่นกัน

พวกเธอไม่รู้ว่าทำไมคนที่เป็นถึงฮีโร่อย่างอิสลาต้องเอาใจใส่พวกเธอขนาดนี้

ถึงอย่างนั้น อิสลาผู้ที่ควรจะรู้จักเพียงการสังหารและทำลาย ได้โอบกอดพวกเธออย่างอ่อนโยน ความอบอุ่นที่ได้จากอ้อมกอดนั้นเป็นของจริง

“ฟุฟุฟุ มันต้องสนุกมากแน่ๆ”

พระจันทร์เต็มดวงอีกทีวันไหนกันนะ?

พวกเธอแทบจะรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหวแล้ว

พระจันทร์จะสวยแค่ไหนถ้าพวกเธอทั้งสามคนนั่งดูมันด้วยกัน?

แค่คิดก็ทำให้ซีเรียตื่นเต้นจนลุกขึ้นยืน

“เก็บไว้เป็นความลับนะ?”

“ได้เลย โอเน่จัง!”

“…ฟุฟุฟุ”

“…ฮิฮิ”

เด็กหญิงทั้งสองหัวเราะออกมา

พระจันทร์เต็มดวงครั้งต่อไป พวกเธอจะพาแม่คนใหม่มาที่นี่ด้วย

บางทีอิสลาอาจจะดุที่พวกเธอเข้านอนดึก แต่พวกเธอคิดว่าเธอน่าจะยกโทษให้แน่ๆ

ทั้งสามคนจะนั่งดูพระจันทร์ด้วยกัน

แล้วพวกเธอจะมอบคำพูดเหล่านั้นแก่มารดาผู้เป็นที่รัก

หนูรักแม่ค่ะ

พวกเธอเชื่อว่าวันนั้นจะต้องเป็นวันที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างแน่นอน

 

 ◇   ◇   ◇

“ม่ายยยยย!!”

“แม่จ๋า!!”

การทำลายตัวเองของเฟรไมน์ได้ระเบิดใส่ทุกสิ่งที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้

ฝาแฝดทั้งสองและแม่ของพวกเธอยังมีชีวิตอยู่

ไม่สิ-แค่แม่ของพวกเธอยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นปาฏิหาริย์แล้ว

ผิวหนังที่แข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้า ตอนนี้กลับหลอมละลายไปหมดแล้ว ร่างกายที่ใหญ่โตของเธอหายไปครึ่งหนึ่ง

สภาพของเธอนั้นยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ แต่โชคดีที่ศรีษะของเธอไม่ได้รับความเสียหาย และมีเสียงแผ่วเบาส่งออกมา

อาจจะเป็นเพราะเธอได้สติแล้ว อิสลาค่อยๆยกหัวของเธอขึ้นมา และหันหน้าไปหาฝาแฝดทั้งสองที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอ และทำการยืนยันความปลอดภัยของทั้งคู่

“เป็นอะไร…รึเปล่า?”

ที่ตอบกลับมาคือเสียงสะอื้นของทั้งคู่

ใบหน้าของพวกเธอปกคลุมไปด้วยเขม่า สีหน้าที่บิดเบี้ยวและน้ำตาที่ไหลออกมา แต่เธอยืนยันแล้วว่าทั้งคู่ยังคงปลอดภัยดี

 

อิสลารู้สึกโล่งอก

อิสลาคิดว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเธอทั้งคู่จะต้องรอด

เพราะ…ทั้งสองคน คือลูกสาวที่แท้จริงของเธอ

ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? อิสลาไม่เคยมีลูกมาก่อน

อิสลาคือตัวตนที่อยู่ในเกม Eternal Nations 

แมลงเด็กที่เธอสร้างออกมาก็คือลูกๆของเธอ แต่นั่นคือการตั้งค่าของเกม ความจริงที่ว่ามันเป็นข้อมูลที่ระบบใส่เอาไว้เป็นอีกเรื่อง

แมลงเด็กที่เธอสร้างขึ้นหลังจากถูกอัญเชิญมายังโลกใบนี้ดูเหมือนหุ่นยนต์ที่ทำตามคำสั่งมากกว่าเด็กจริงๆ

ที่จริงแล้ว ความสามารถในการคิดของแมลงเด็กดูเหมือนเอไอมากกว่าสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกซะอีก

จากมุมมองของมนุษย์แล้ว พวกมันไม่ใช่เด็กจริงๆ

…อิสลารู้ตัวดีว่าเธอเป็นเพียงข้อมูลที่อยู่ภายในเกม

แม้ว่าเธอจะได้รับการเรียกขานว่าเป็นราชินีแห่งแมลงทั้งปวง แต่เธอก็ยังคงเป็นแค่ตัวเลขที่อยู่ระหว่าง 0 และ 1 เท่านั้น

นั่นคือเหตุผลว่าทำไม เธอที่มีคุณสมบัติเป็นราชินี จึงมองหาสิ่งที่เธอจะแสดงความเป็นแม่ให้ ตั้งแต่ตอนที่ถูกอัญเชิญมายังโลกใบนี้

มอบให้ แล้วเธอจักได้รับ ตัวตนอ่อนแอที่ควรจะได้รับความรักและการปกป้อง

ฝาแฝดทั้งสองที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ คือสมบัติล้ำค่าที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาทดแทน

ใช่แล้ว เธอต้องการปกป้องทั้งคู่ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม

“พวกเธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? ขอบคุณพระเจ้า…เอาล่ะ ทีนี้ ฉันต้องการให้พวกหนูฟังให้ดีๆ”

“ก่อนหน้านั้น…อาการบาดเจ็–!”

“ใช่แล้ว ต้องขอให้ฝ่าบาททำการรักษา!”

“ฉัน…ไม่เป็นไร”

ขณะที่สัมผัสได้ความตายซึ่งย่างกรายเข้ามา อิสลาเค้นแรงเฮือกสุดท้ายออกมาเพื่อพูดกับพวกเธอ

ที่จริงแล้ว อิสลาสามารถเอาชีวิตรอดได้ ถ้าเธอเสียสละเด็กหญิงทั้งสอง

ด้วยความสามารถอันเหนือล้นของเธอ เธอสามารถถอยออกไปให้ไกลๆ

ไม่ว่าพลังของเฟรไมน์จะรุนแรงแค่ไหน ไม่ว่าพลังของเหตุการณ์บังคับจะเลวร้ายแค่ไหน เธอก็จะได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่จะมีแม่คนไหนที่ยอมเสียสละลูกของตัวเองได้กันล่ะ

สายเลือดคือสิ่งที่พิสูจน์ความเป็นแม่ลูกอย่างนั้นหรอ?

เวลาที่ใช้ร่วมคือเครื่องพิสูจน์ถึงสายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก?

ไม่ใช่เลย แต่ให้พวกเขาจะไม่ได้ผูกพันธ์กันทางสายเลือด แต่ให้พวกเขาใช้เวลาด้วยกันเพียงน้อยนิด…

ทั้งคู่ก็ยังเป็นลูกของอิสลา และพวกเธอก็คิดว่าอิสลาเป็นแม่ของตัวเองเช่นกัน

“ฉันคิดว่าพวกหนูน่าจะรู้อยู่แล้ว ว่าฉันคงไม่รอด เพราะแบบนั้นฉันจึงมีเรื่องอยากฝากฝังพวกหนู…”

เวลาที่เหลือช่างน้อยนิด และเธอไม่สามารถทำอะไรกับมันได้

อิสลาระงับความรู้สึกที่อยากตะโกนออกไปว่ามันไม่ควรเป็นแบบนี้

“ไม่นะ! น-หนูจะเป็นเด็กดี! เพราะงั้น…เพราะงั้น—!” 

“มัน-มันต้องมีทางไหนที่จะ…”

“ขอโทษทีนะ ฉันไม่มีเวลาแล้ว”

“เป็นเพราะซีเรียอ่อนแอหรอ เพราะซีเรียพยายามมีความสุขใช่มั้ย!? พวกเราแค่พยายามใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เลยได้รับการลงโทษแบบนี้อีกแล้วงั้นหรอ?!”

“ทำไมล่ะ? ทำไมทุกคนต้องตายด้วย? หนูแค่อยากอยู่กับแม่จ๋า แค่นี้มันแย่นักหรือไง? พวกเราทำอะไรผิดกัน?”

อิสลาอยากตะโกนบอกพวกเธอเหลือเกินว่า ‘นั่นมันไม่จริงสักหน่อย’

แต่เธอไม่มีแรงเหลือแล้ว

ชีวิตของเธอราวกับเปลวเทียนที่กำลังมอดดับ มีเรื่องที่เธอต้องทำก่อนสิ้นลม

“แม่จ๋า ให้หนูตายพร้อมกับแม่เถอะ หนูไม่อยาก..ไม่อยากเสียใจอีกต่อไปแล้ว…”

“หนูใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ได้ การมีชีวิตอยู่ไม่มีอะไรดีเลย”

“ช่วยฟังคำขอสุดท้ายของฉัน….”

“……….”

เธอต้องการให้ทั้งคู่มีชีวิตต่อไป

เธอจะต้องส่งทั้งคู่ออกจากสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ ทำให้พวกเธอปลอดภัย ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม

สถานที่แห่งนี้ คือจุดที่อิสลาและคนอื่นๆ ถือว่าเป็นแนวหน้าของการเข้าต่อสู้กันระหว่างกองทัพจอมมารและกองทัพของไมน็อกกราห์

ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะโดนเฟรไมน์ระเบิดทิ้งไปแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าหน่วยช่วยเหลือของไมน็อกกราห์จะมาทันเวลา

มีความเป็นไปได้ที่หน่วยสอดแนมจาก Brave Quest จะมาตรวจสอบที่นี่

ดังนั้นนี่จึงเป็นหนทางเดียว

“ทั้งสองคน ฉันอยากจะขออะไรหน่อย—”

“ฮึก!!”

ทั้งคู่กรีดร้องออกมาพร้อมกัน

แม่ของพวกเธอ ทันใดนั้นได้ทำการแทงไปยังหน้าอกของตนเอง แล้วทำการดึงหัวใจของเธอออกมา

พร้อมกันนั้น ทั้งคู่ก็เข้าใจเจตนารมณ์ของอิสลา

“โอ้กกกกกก!!”

“ฮึก ฮึก ฮึก—”

ซีเรียอาเจียนออกมา และมีเรียรู้สึกอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก

มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่สุดของพวกเธอ และมันยังทำให้พวกเธอนึกถึงความทรงจำอันเลวร้ายที่เคยประสบมาอีกด้วย

ในหมู่สกิลที่อิสลามี เธอมีความสามารถในการส่งมอบพลังให้แก่ยูนิตอื่น

แต่ผู้ที่สืบทอดพลังนั้นจะต้องกินหัวใจของอิสลา…

ใน Eternal Nations มันเป็นสกิลพิเศษที่สามารถอัพเกรดยูนิตอื่นๆให้กลายเป็นฮีโร่ได้ เมื่ออิสลาถูกกำจัด

ถึงอย่างนั้น เมื่อมันกลายเป็นเรื่องจริง ผลกระทบที่ผู้สืบทอดจะได้รับนั้นช่างน่าสะพรึง

ยิ่งรักมากเท่าไหร่ ก็ยิ่ง…….

“ได้โปรดยกโทษให้แม่คนนี้ที่จากไปก่อนด้วยนะ…และ….คำขอสุดท้ายของฉัน……ได้โปรด…..กินฉัน….และมีชีวิตต่อไป”

“ไม่นะ ไม่ ไม่!”

“ทำไมล่ะ? ฮึก ฮึก ฮึก ทำไม….?”

อิสลารู้ดีว่าความต้องการของเธอจะทำร้ายจิตใจทั้งคู่ขนาดไหน

ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น

ต่อให้เธอรู้ดีว่าทั้งสองจะต้องเจ็บปวด แต่เธอก็ยังหวังให้ทั้งคู่มีชีวิตต่อไป

“ไม่เป็นไร ลูกสาวที่น่ารักของแม่…” 

(นายท่าน….โปรดอภัยให้กับความเห็นแก่ตัวของฉันด้วย)

อิสลาได้ทำการเลือกสกิลโดยไม่ขออนุญาตจากราชาของเธอ สกิลนั้นก็คือ << สืบทอดบัลลังก์ >>

เมื่อยูนิตฮีโร่ถูกกำจัด มันสามารถมอบสกิล 《ฮีโร่》ให้แก่ยูนิตอื่นที่อยู่ฝ่ายเดียวกันได้

ของขวัญชิ้นสุดท้ายจากผู้ล่วงลับ

“สืบทอดพลังของฉันซะ-เด็กน้อย มีเรีย ซีเรีย….แม่คนนี้จะมอบพลังทั้งหมดให้กับพวกหนู”

อิสลายื่นหัวใจที่ยังเต้นอยู่ออกไป

หัวใจของเธอเต็มไปด้วยพลังเวทย์ และเมื่อมันสัมผัสกับมือของเด็กหญิงทั้งสอง มันได้ส่งแสงออกมาอย่างเจิดจ้า

แสงนั้นเปล่งประกายขึ้นมาและดับไป

“–จงใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ ลูกสาวผู้น่ารักของฉัน”

ฮีโร่อิสลาได้จบชีวิตลง

“—แม่รักหนูนะ”

“ม่ายยยยยย!!!”

ทั้งคู่รู้ดีว่ามันยากและเจ็บปวดแค่ไหนในการใช้ชีวิตอยู่โดยปราศจากแม่ของพวกเธอ

พวกเธอเคยทุกข์ทรมานมาแล้วครั้งหนึ่ง และตอนนี้ก็เป็นอีกครั้งที่พวกเธอต้องฟันฝ่าเรื่องเดิม

แต่ทั้งสองคนได้ยินคำพูดสุดท้ายของเธอ

มารดาผู้เป็นที่รักได้บอกกับพวกเธอว่า ‘รัก’ และ ‘มีชีวิตต่อไป’

ดังนั้น เด็กหญิงทั้งสองจึง———–ของแม่—–

 

………

……

 

…… เหตุการณ์ของ Brave Quest ยังดำเนินต่อไป

เฟรไมน์ที่ถูกกำจัดและหายไปไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเรื่องราวยังคงดำเนินต่อ

ในเรื่องราวนั้น คือเรื่องราวของผู้ที่เป็นอาจารย์และเป็นทั้งผู้ที่ทำหน้าที่แทนบิดาของผู้กล้าได้ตายลงด้วยแผนของเฟรไมน์

ในตอนเริ่มต้นการผจญภัย เขาทั้งกล้าหาญและน่าภาคภูมิใจ เขาเป็นคนที่เข้าร่วมการต่อสู้มามากมาย บางครั้งก็นำพาชัยชนะด้วยพลังที่แข็งแกร่งของเขา

เขาเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องผู้กล้าและตายไป

ผู้กล้าเศร้าโศกเสียใจกับการตายของเขา และตกอยู่ในความสิ้นหวัง

ถึงอย่างนั้น ผู้กล้าก็กลับมายืนหยัดได้อีกครั้งเพราะคำพูดของเขา

ผู้กล้าสืบทอดเจตนารมณ์ พลัง และกลายมาเป็นคนที่ช่วยโลกเอาไว้

พลังที่สืบทอดไปได้กลายมาเป็นอาวุธสังหาร และถูกนำไปใช้ในการทำลายล้างเหล่าจอมมาร และนำพาโลกไปสู่ความสงบสุข

เรื่องราวการผจญภัยของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความรัก และความกล้าหาญ

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากเปลี่ยนมาเป็นพวกปีศาจล่ะ?

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าในที่สุดความสงบสุขที่พวกเขาตามหามาอย่างยาวนานได้ถูกพรากออกไป?

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าในเมฆหมอกแห่งความสิ้นหวังนั้น พวกเขาจำเป็นต้องกลืนกินมารดาของตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอดล่ะ?

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเด็กสาวผู้เกลียดชังทุกสิ่ง ได้รับพรจากราชาแห่งความพินาศ และสืบทอดเจตนารมณ์ของปีศาจร้ายล่ะ?

ไม่มีทางหยุดยั้งเหตุการณ์นี้

หากไม่การช่วยชีวิตใครบางคนนั้นเป็นไปไม่ได้

เช่นนั้นแล้ว การถือกำเนิดของบางสิ่งที่ชั่วร้ายก็ไม่อาจหยุดยั้งได้เช่นกัน

ความโกลาหลที่รวมตัวกันได้เข้ากลืนกินและเติมเต็มโลกใบนี้

 

 

= ระบบ =============

* พลังที่แท้จริงของฮีโร่ -ข้อผิดพลาด- ได้ตื่นขึ้นแล้ว!!!

ยกระดับคุณสมบัติของเป้าหมาย

………

ข้อมูลโปรไฟล์ของเป้าหมายผิดปกติ

ยกเลิกการยกระดับ….

■■■■ เข้าแทรกแซงการประมวลผลและเสียชีวิต

ดำเนินการยกระดับคุณสมบัติเป้าหมายต่อ

《สืบทอดบัลลังก์》

สกิล “ฮีโร่” ถูกมอบให้แก่เป้าหมาย

-พบข้อผิดพลาด-

ทำซ้ำกระบวนการยกระดับ

-พบข้อผิดพลาด-

ไม่สามารถประมวลผลได้ตามปกติ

-พบข้อผิดพล—————

{{การปลุกพลัง การปลุกพลัง}} {{ เสร็จสิ้น เสร็จสิ้น }}

―――――――――――――――――

 

ต่อให้มีคนที่ล่วงรู้ทุกสรรพสิ่ง ก็ไม่อาจสร้างผลลัพธ์นี้ได้

ต่อให้เป็นพระเจ้า ก็ไม่อาจคาดการณ์เรื่องนี้ได้

ทุกๆเหตุการณ์ร้อยเรียงเข้าด้วยกันเป็นทอดๆ จนสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อนกำลังจะถือกำเนิดขึ้น

–ไข่แห่งความเกลียดชังได้ฟักตัวออกมา

เป็นเพราะความรักจากแม่ของพวกเขาหรือเปล่า?

หรือเป็นเพราะความบ้าคลั่งจากแม่ของพวกเขากันแน่?

ปรากฏการณ์ที่ผิดปกติยังดำเนินต่อไป ส่งผลให้โลกใบนี้บิดเบี้ยว และทำการร้องเตือน

เพราะมันเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ มันจึงไม่อาจหยุดยั้งได้

โลกใบนี้ช่างโหดร้าย

มันเกลียดชังพวกเขา และปรารถนาให้พวกเขาพบกับความโชคร้ายและสิ้นหวัง

แต่ในขณะเดียวกัน โลกใบนี้ก็มีความเท่าเทียม

มันจึงมอบพลังที่จะนำพาทุกอย่างไปสู่นรกให้แก่พวกเขา…..

 

………

……

 

เมื่อทุกอย่างจบลง มีเงาเล็กๆสองร่างปรากฏขึ้น

ทั้งคู่ลุกขึ้นยืน และมองไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน

ราวกับเป็นการอวยพรแก่การถือกำเนิดของชีวิตใหม่

ก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นแค่สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่แสนอ่อนแอ และต้องการการปกป้อง

ตอนนี้เด็กหญิงทั้สองได้ถือกำเนิดใหม่ในฐานะตัวตนซึ่งอยู่เหนือเจตจำนงของตนเอง และทำการเผยแพร่ความเกลียดชังให้แก่โลกใบนี้

เด็กหญิงทั้งสองที่จิตใจแตกสลายจากความสิ้นหวังในครั้งแรก

จากนั้น ในครั้งที่สอง พวกเธอ…..

ในท้องฟ้าอันมืดมิดยามค่ำคืน มีดวงจันทร์ขนาดใหญ่ส่องประกายอยู่อย่างเงียบงัน

 

 

=ข้อความ =============

 *แจ้งเตือนฉุกเฉิน*

ภัยพิบัติใหม่กำเนิดขึ้นบนโลกแล้ว

[พี่น้องเอลเฟอร์ แม่มดแห่งความโศกเศร้า]

-เพราะโลกใบนี้เกลียดพวกเรา–

—เราจึงเกลียดชังโลกใบนี้~

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+