[นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ 35 Conflict between Evils 3

Now you are reading [นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ Chapter 35 Conflict between Evils 3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“”โกววววววว!!”

เสียงคำรามที่ราวกับสัตว์ป่าดังไปทั่วสนามรบ

ไม่เหลือคราบนักรบผู้สูงส่งแบบก่อนหน้านี้ เขาเพียงคำรามออกมาเหมือนสัตว์ป่าที่กำลังทุกข์ทรมาน

เลือดสีแดงฉานไหลออกจากตา

มันคือท่าทีเจ็บปวดและสิ้นหวังของชายผู้ที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ และทำให้เขารู้ว่าตนเองเป็นเพียงแค่ตัวละครบนเวทีที่ไร้ซึ่งอิสระใดๆ

อาโทวดูยินดี และสนุกสนานไปกับท่าทีที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเศร้าโศกของศัตรู

เธอนั้นเชื่อในตัวของทาคุโตะจนหมดใจ จะบอกว่าเธอเป็นสาวกอันคลั่งไคล้เลยก็ว่าได้…

ถึงพวกเขาจะเป็นตัวละครในเกมเหมือนกัน แต่พวกเขาก็แตกต่างกันมาก

“นี่แหละ คือจุดเริ่มต้นที่แท้จริง! คือจุดเริ่มต้นของการพิชิตโลกใบนี้! ครั้งนี้ พวกเราจะต้องชนะ!”

อาโทวและไอซ์ร็อคเผชิญหน้ากันบนสนามรบ พร้อมกับเหรียญทองที่ส่องประกายอยู่บนพื้น

หนึ่งในราชาสวรรค์แห่งกองทัพจอมมาร ไอซ์ร็อค ปีศาจน้ำแข็ง ผู้ที่สูญเสียทหารไปเกือบทั้งหมด และกำลังจะสูญเสียเหตุผลในการมีตัวตนของตนเอง

แต่ก็เหมือนกับอาโทวที่มีทาคุโตะเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ไอซ์ร็อคเองก็มีของแบบนั้นอยู่เช่นกัน

“ถึงเวลาที่จะนำชัยชนะมาให้นายท่านของพวกเรา จอมมาร! ข้าคือไอซ์ร็อค ราชาสวรรค์น้ำแข็ง ผู้ที่จะบดขยี้ศัตรูให้สิ้น!”

ทันใดนั้นจิตวิญญาณของเขาก็ลุกโชน

ถ้าเกิดเป็นตอนอยู่ในเกม RPG มันก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากข้อมูลเดิม

อย่างไรก็ตาม มันคือความภาคภูมิใจของนักรบ และเหนือยิ่งกว่านั้น มันคือความปรารถนา

ในทางกลับกัน อาโทวหัวเราะเยาะให้กับคำตอบของไอซ์ร็อค การตัดสินใจที่เขาทำด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกตั้งแต่มายังโลกใบนี้

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ตลกจริงๆ! ตลกชะมัดเลย! ด้วยความมุ่งมั่นเพียงแค่นั้น! ปณิธานแค่นั้นน่ะหรอ? จะจัดการกับฉันด้วยพลังแค่นั้นเนี่ยนะ? นี่แกฝันอยู่รึไง?”

อาโทวหัวเราะไม่หยุด

เธอไม่สนใจเรื่องปณิธานอันสูงส่งอะไรนั่นของอีกฝ่ายอยู่แล้ว

ไอซ์ร็อคตัวสั่นที่อาโทวปฏิบัติราวกับว่าเขาเป็นแค่เศษสวะไร้ค่าที่หาได้ตามข้างถนนทั่วไป

หญิงสาวตนนั้นคือปีศาจ

เธอมองว่าคนอื่นที่นอกเหนือจากทาคุโตะและตัวเองเป็นพวกที่ไม่คู่ควร เธอไม่เข้าใจเจตนารมย์และความมุ่งมั่นของไอซ์ร็อค

 

ราวกับมนุษย์ที่ไม่พูดคุยกับสัตว์

ราวกับสัตว์ที่ไม่พูดคุยกับแมลง

ราวกับแมลงที่ไม่พูดคุยกับก้อนหิน

–อาโทวไม่สนใจคนอื่นนอกจากทาคุโตะ

“ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะปฏิเสธทุกสิ่งที่แกเชื่อซะ! ฉันจะทำลายทุกอย่างที่แกเชื่อมั่น! ฉันคืออาโทวแห่งโคลนเลน! โลกใบนี้มีราชาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือนายท่านของฉัน ท่านอิระ ทาคุโตะ!”

เธอคืออาโทวแห่งโคลนเลน

เธอคือฮีโร่ของไมน็อกกราห์

ดังนั้น การต่อสู้ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายจึงเริ่มต้นขึ้น

สำหรับไอซ์ร็อค นี่คือการต่อสู้เพื่อความภาคภูมิใจ และความเชื่อมั่นของเขา

ขวานศึกของเขาเหวี่ยงไปมาอย่างไร้ทิศทาง และพื้นดินก็สั่นสะเทือนเพราะพละกำลังมหาศาลนั้น

รยางค์ของอาโทวแกว่งไปมาราวกับแส้ และดาบศักดิ์สิทธิ์เองก็ถูกเหวี่ยงลงเบาๆ

เธอหลบการโจมตีอันรุนแรงของไอซ์ร็อค และโจมตีกลับอย่างดุดันด้วยดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับพรจากพระเจ้า

ไอซ์ร็อคกระทืบลงบนพื้นอย่างรุนแรงจนเศษดินแตกกระจายไปทั่ว ก้อนหินเหล่านั้นได้กลายเป็นน้ำแข็งและพุ่งเข้าใส่ร่างเล็กๆของอาโทว

อาโทวใช้รยางค์ของเธอแทงลงไปบนพื้นอย่างรวดเร็ว และดึงตัวเองกลับเพื่อหลบการโจมตีก่อนหน้านี้

จากนั้นเธอจึงเริ่มโจมตีอีกครั้ง

การต่อสู้กันด้วยความรวดเร็วระดับเทพที่กำลังดำเนินอยู่ ราวกับเป็นการต่อสู้ในตำนาน

การต่อสู้ส่งผลให้พื้นดินสึกหรอ และอากาศก็สั่นสะเทือนเพราะแรงปะทะ

ผลกระทบนี้ส่งไปถึงเมืองมังกร การต่อสู้เหนือมนุษย์นี้ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นต่างก็สั่นสะท้านไปจนถึงส่วนลึกของวิญญาณ

“มันจะไม่จบลงแบบนั้น! ข้าไม่ยอมหรอก! ต่อให้ข้าต้องตายลงที่นี่ ข้าก็จะบดขยี้เจ้าให้ได้!”

“อะฮะฮะฮะ! อะไรล่ะนั่น!? นั่นมันคำพูดในหนังสือไม่ใช่หรอ! นี่แกตั้งใจจะเล่นฉากจบให้ฉันดูหรือไงกัน?”

อาโทวหัวเราะออกมาเสียงดัง คำพูดของเธอเต็มไปด้วยเจตนาร้าย

ไมน็อกกราห์คืออารยธรรมที่ชั่วร้ายมากที่สุดใน Eternal Nations

เพราะแบบนี้ จึงทำให้ฮีโร่ของไมน็อกกราห์ต่างก็มีความสุขกับความทรมานของคนอื่น

“เฮ้! เฮ้! แล้วแกจะพลิกสถานการณ์นี้ยังไงล่ะ!? จะฆ่าฉันได้ยังไงล่ะ หืม? ต่อให้คิดจนหัวแทบแตกก็เถอะ มันเป็นไปไม่ได้หรอกนะ!”

ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนสถานการณ์จะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม เขาก็ไม่สามารถยืนอยู่เฉยๆได้ จึงได้แต่โจมตีต่อไป เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะฟังคำพูดยั่วยุพวกนั้นด้วยซ้ำ

แม้จะถูกต้อนจนมุมแล้ว แต่ไอซ์ร็อคก็พยายามทำหน้าที่ของเขาให้ดีที่สุด

แต่ความเป็นจริงช่างน่าเศร้า

มอนสเตอร์ในเกม RPG มักจะมีรูปแบบตายตัว

ก่อนอื่นเลย ในเกมจะมีรูปแบบการเคลื่อนไหวอยู่ไม่กี่อย่าง ซึ่งเพียงพอที่จะให้ผู้เล่นสนุกไปกับมัน ในทางกลับกัน ถ้ามันมีรูปแบบการเคลื่อนไหวที่มากเกินไป ไม่เพียงแต่มันจะทำให้เกิดบั๊กหรือเออเร่อร์ แต่มันจะทำให้เหล่าผู้เล่นสับสนและลดความสนุกของเกมไป

ท้ายที่สุดแล้ว การต่อสู้ของไอซ์ร็อคมีรูปแบบที่ซ้ำซากเกินไป จึงทำให้ง่ายต่อการคาดเดา

“ฉันอ่านการโจมตีของแกออกหมดแล้ว แกนี่มัน….ขยะจริงๆเลยนะ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

อาโทวพุ่งตัวเข้าใส่หน้าอกของไอซ์ร็อค ราวกับว่าเธอรู้ทิศทางที่เขาจะเหวี่ยงขวานมาอยู่แล้ว

เขารีบปล่อยขวานศึกและยิงกระสุนน้ำแข็ง แต่อาโทวก็เลียดตัวไปกับพื้นเหมือนงูและหลบพวกมันทั้งหมด เหมือนเธอรู้อยู่แล้วว่ามันจะมาจากทางไหน

ถ้านี่เป็นในเกม การโจมตีของไอซ์ร็อคคงจะมีข้อความขึ้นแล้วว่า “อาโทวได้รับความเสียหาย 0”

จากนั้นก็เปลี่ยนเทิร์น และในที่สุดการโจมตีของอาโทวก็โดนร่างกายของไอซ์ร็อค

“ติดคริติคอล! อ๊ะ! ฉันควรจะทำยังไงดี! แกได้รับความเสียหายเกินกว่าที่คาดไว้อีก! เป็นอะไรรึเปล่า? เหลือ HP เท่าไหร่แล้ว? ขอโทษทีนะ พอดีไม่ได้อ่านคู่มือมา เลยไม่รู้ว่าจะระดับต่ำขนาดนี้…..!”

ท่อนแขนอันใหญ่โตได้หล่นลงบนพื้น

แม้ว่าเขาจะป้องกันไม่ให้ถูกฟันเข้าที่ท้องได้ แต่เขากลับต้องเสียแขนไปหนึ่งข้าง

ขวานศึกของไอซ์ร็อคจะแสดงพลังที่แท้จริงได้ก็ต่อเมื่อเหวี่ยงมันด้วยมือทั้งสองข้างเท่านั้น ในเมื่อตอนนี้เขาใช้มือได้เพียงข้างเดียว จึงทำให้พลังโจมตีของมันตกลงไปต่ำกว่าครึ่ง

ต่อให้ใช้พลังทั้งหมดแล้ว เขาก็ยังไม่สามารถโจมตีโดนเธอได้ แล้วจะจัดการกับศัตรูด้วยแขนข้างเดียวได้ยังไง?

สีหน้าของไอซ์ร็อคเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

=======================================

สมดุลของการต่อสู้เริ่มเอนเอียงมาทางอาโทว

อย่างไรก็ตาม อาโทวถอยกลับอย่างเร่งรีบ

คำพูดพวกนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดความเสี่ยง แต่การโจมตีโดยประมาทอาจจะทำให้ศัตรูฉวยโอกาสสวนกลับเอาได้

ต่อให้เธอจะชื่นชอบการทรมานผู้ที่อ่อนแอกว่า แต่เธอยังคงสงบและไม่ประมาทอีกฝ่าย

เป็นเพราะสัญชาติญาณของฮีโร่ที่บอกให้เธอทำแบบนั้น?

หรือเป็นเพราะสัญชาติญาณของปีศาจที่ทำให้เธอไม่ประมาทคู่ต่อสู้กันแน่?

ความเป็นไปได้ที่จะคว้าชัยชนะของไอซ์ร็อคได้มลายหายไปราวกับทรายที่โดนลมพัด

อย่างไรก็ตาม ไอซ์ร็อคยังคงดิ้นรน

เขาตัดสินใจที่จะปลดปล่อยท่าไม้ตายลับ ก่อนที่มันจะสายเกินไป

“ฮึ่มม! ถ้างั้นก็รับนี่ไปซะ ท่าไม้ตายของข้า!”

อากาศเย็นยะเยือกแผ่ออกมาจากร่างของไอซ์ร็อค

มันแผ่กระจายออกมาโดยมีตัวเขาเป็นจุดศูนย์กลาง ทันใดนั้น พื้นที่รอบๆก็ถูกแช่แข็ง

ขวานศึกของเขาได้ส่งเสียงแหลมออกมา

พลังที่มากจนสามารถทำลายอาวุธของเขาได้ถูกบังคับใส่เข้าไปในนั้น และร่างกายของไอซ์ร็อคซึ่งโค้งงออย่างมากได้พองตัวขึ้นราวกับแสดงให้เห็นถึงพลังของเขา

อาโทวจ้องมองฉากนั้นอย่างเงียบๆ ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

วินาทีต่อมา รยางค์ที่ปรากฏออกมาด้านหลังเธอได้รวมตัวเข้ารอบๆดาบศักดิ์สิทธิ์ และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นหอกขนาดยักษ์

“มาเถอะ โจมตีฉันด้วยสกิลที่ดีที่สุดของแกได้เลย แล้วจากนั้นก็พ่ายแพ้อย่างน่าสมเพชไปซะ”

คำพูดและท่าทีของเธอไม่ได้ปิดบังเจตนาร้ายไว้แม้แต่น้อย

จิตสังหารได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากทั่วทั้งร่างของเธอ

ราวกับตอบสนองกับคำพูดนั้น หอกซึ่งทำจากรยางค์ของเธอได้เพิ่มความแข็งขึ้นไปอีก

–และก็เหมือนอย่างเคย

การดิ้นรนที่ถูกเรียกว่าท่าไม้ตายได้ถูกปลดปล่อยออกมา

“โอ้ววว! Glacier-busting slash!”

ทั้งคู่ต่างเข้าโจมตีและป้องกัน อย่างไรก็ตาม ชั่วขณะนั้นราวกับเวลาไหลช้าลงอย่างไม่มีสิ้นสุด

อากาศเย็นยะเยือกได้ระเบิดออกมาจากร่างกายของไอซ์ร็อค และโจมตีใส่อาโทวราวกับพายุหิมะและห่อหุ้มผิวของเธอด้วยชั้นน้ำแข็งบางๆ

พื้นดินค่อยๆถูกแช่แข็งและแผ่ขยายออกไปราวกับมีชีวิต ทำให้ข้อเท้าของเธอถูกแช่แข็งเอาไว้

ในอากาศเย็นยะเยือกนั้น คือความหนาวเหน็บที่ทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องหลับตาสั่นและถูกแช่แข็ง

อย่างไรก็ตาม อาโทวยังคงมองตรงไปข้างหน้า

ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังขวานศึกน้ำแข็งที่ฟันลงมา

ท่าสังหารของไอซ์ร็อคแค่ทำให้อาโทวรู้สึกเย็นมากกว่าปกติ

“ฮ่าฮ่าฮ่า! แกคิดว่าน้ำแข็งแค่นี้จะหยุดฉันได้งั้นหรอ? แกประเมินฉันต่ำไป–”

ทันใดนั้นเหตุการณ์แปลกๆได้เกิดขึ้น

ชั่วขณะที่ผู้ล่าและเหยื่อได้สบตากัน ภายในเสี้ยววินาทีนั้น

อาโทวพลาด…. ให้กับการโจมตีที่เธอน่าจะหลบได้

“อะไรกัน!?”

อาโทวไม่สามารถขยับขาของเธอได้

เป็นเพราะข้อเท้าของเธอถูกแช่แข็งไว้กับพื้น

อย่างไรก็ตาม อาโทวไม่ได้อ่อนแอจนจะถูกหยุดไว้ด้วยน้ำแข็งระดับนี้ได้

มันไม่ใช่

เท้าของเธอถูกยึดไว้เพราะอย่างอื่น บางอย่างที่ผิดปกติ

พลาดแล้–

ร่างกายของเธอพยายามต่อต้านการโจมตีของไอซ์ร็อค

“อั่ก!!”

ผลจากการโจมตีและป้องกัน เป็นอาโทวที่ล้มลง

เธอน่าจะเอาชนะศัตรูได้อย่างท่วมท้น

การโจมตีที่อาโทวปลดปล่อยออกไปเหนือกว่าคู่ต่อสู้อย่างมาก และจังหวะเวลานั้นก็สมบูรณ์แบบ

ถ้าเป็นตามปกติ เธอน่าจะสามารถรับมือกับการโจมตีของอีกฝ่าย และสวนกลับอย่างรุนแรงได้

แต่เธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้ และนั่นทำให้ศัตรูของเธอมีโอกาสสวนกลับ

ดวงตาของอาโทวเบิกกว้าง และกลอกไปมาอย่างสับสน เธอพยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ตรงหน้า

ไอซ์ร็อคหยุดเคลื่อนไหวราวกับถูกพันธนาการอยู่ บางทีนั่นอาจจะเป็นผลกระทบจากท่าพิเศษที่เขาใช้

น้ำแข็งที่ปกคลุมร่างของอาโทวแตกเป็นชิ้นๆ

ร่างของเธอเริ่มขยับ สติของเธอยังคงแจ่มชัด ไม่มีผลกระทบจากการโจมตีทางจิตใจ

บางสิ่งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนได้เกิดขึ้น

สัญชาตญาณต่อสู้ในฐานะฮีโร่ของไมน็อกกราห์ได้บอกกับเธอว่า เธอได้รับการโจมตี

(–เป็น! เป็นไปไม่ได้! นี่เราโดนโจมตีหรอ!)

อาโทวตกตะลึง

ความสับสนทำให้ความคิดที่รวดเร็วของเธอหยุดทำงาน และข้อสรุปเหล่านั้นก็คือร่องรอยการโจมตีที่เหลืออยู่บนร่าง

ฮีโร่ของไมน็อกกราห์เป็นยูนิตต่อสู้ที่มีความสามารถเทียบเท่ากับกองทัพ

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย

ยิ่งกว่านั้น การโจมตีก่อนหน้าเกินกว่าที่เธอคาดเอาไว้ และความเสียหายก็ค่อนข้างรุนแรง

คงจะแย่กว่านี้ถ้าเธอไม่ได้ดูดกลืนสกิลป้องกันจากโกเลมหินเอาไว้

อาโทวขอบคุณในความโชคดีของเธอ เธอเริ่มประเมินสถานการณ์ขณะที่ก่นด่าให้กับความประมาทของตัวเอง

(นี่มัน ‘การโจมตีที่ไม่อนุญาตให้หลบหลีกหรือสวนกลับ’ งั้นหรอ!? ฉันอยู่ภายใต้เงื่อนไขของเกมจำลองสถานการณ์ ส่วนอีกฝ่ายก็อยู่ภายใต้เงื่อนไขของเกม RPG สินะ? การโจมตีที่หลบไม่ได้นี่มันจะโกงเกินไปแล้ว!)

อวัยวะภายในได้ทะลักออกมาจากบาดแผลที่ฉีกกว้างตั้งแต่บ่าลงไปจนถึงช่วงอก

ในที่สุด หลังจากผลกระทบของการใช้ท่าพิเศษได้หมดลง ไอซ์ร็อคก็เบนสายตามายังอาโทว และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

ไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่จะรอดไปได้หลังจากอวัยวะภายในทะลักออกมาแบบนั้น

ต่อให้เป็นปีศาจอย่างไอซ์ร็อคก็คงจะทุกข์ทรมานกับอาการบาดเจ็บสาหัส

ไอซ์ร็อคมีหวังขึ้นมา เมื่อพบว่าการโจมตีของเขาประสบผลสำเร็จ ก่อนหน้านี้เขาไม่คิดว่ามันจะได้ผลด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม อวัยวะภายในที่ไหลออกมาจากร่างของหญิงสาวคนนั้นมีการเปลี่ยนแปลง

อวัยวะภายในที่ไหลออกมาจากช่วงอกพร้อมๆกับเลือดที่ทะลักออกมา ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำ

จนในที่สุด มันก็กลายเป็นโคลนไหลลงมากองอยู่ที่เท้าของเธอ และถูกดูดซึมกลับเข้าไปในร่าง

ไม่มีบาดแผลหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย…

อาโทวแห่งโคลนเลนยังคงยืนอยู่ตรงนั้น

“อย่ามาดูถูกอาโทวผู้นี้นะ”

“แ- แม้แต่สิ่งนี้ก็ยังจัดการเจ้าไม่ได้งั้นรึ…”

อาโทวจ้องกลับไปที่ไอซ์ร็อค

ถึงตาของเธอแล้ว

ตามปกติแล้ว ในเกม RPG เมื่อเทิร์นของผู้เล่นคนหนึ่งจบ ต่อไปจะเป็นเทิร์นของอีกฝ่ายเพื่อสวนกลับ

บางทีอาจจะมีบางอย่างแปลกไป เพราะอีกฝ่ายตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขของเกมจำลองสถานการณ์ แต่หลังจากที่ปลดปล่อยท่าพิเศษไปแล้ว จะไม่สามารถทำการโต้ตอบด้วยท่าโจมตีใหญ่ๆแบบนั้นได้อีก

ดังนั้น อาโทวจึงใส่พลังลงไปในรยางค์ของเธออีกครั้ง

รยางค์ของเธอเริ่มเปลี่ยนรูปร่างและส่งเสียงแปลกประหลาด เธอใส่พลังลงไปราวกับว่ามันเป็นการโจมตีครั้งสุดท้าย

เหมือนธนูที่ถูกน้าวจนสุดสาย….

“ตายซะ! ตายอย่างพวกตัวประกอบในเกม RPG ไปเลย!!”

อาโทวปลดปล่อยการโจมตีที่ดีที่สุดของเธอ

“อ่า จอมมาร…ขอให้ท่านจ–”

ไอซ์ร็อคสลายกลายเป็นแสง

เหรียญทองจำนวนมากได้ปรากฎออกมา

อาโทวหัวเราะเสียงดังในขณะที่ก้มลงมองเหรียญทองด้วยความเย้ยหยัน

“มีราชาในโลกได้เพียงคนเดียวเท่านั้น คือท่านอิระ ทาคุโตะ! ศัตรูทั้งหมดจะต้องถูกทำลาย! ใครที่ไม่ยอมก้มหัวให้ราชาของฉัน ไม่ว่าจะดีหรือเลว จะไม่ได้รับการไว้ชีวิต! ฮ่าฮ่าฮ่า! ฮ่าฮ่าฮ่า!”

พร้อมกันนั้น รยางค์ของเธอก็ยืดยาวออกไปทุกทิศทาง

รยางค์ของเธอเข้าโจมตีใส่มอนสเตอร์ที่เหลืออยู่ในสนามรบ

ระยะของมันเท่ากับธนู ส่วนการโจมตีก็หนักหน่วงราวกับยักษ์ภูเขา

และยิ่งไปกว่านั้น ความโหดเหี้ยมที่ไร้ซึ่งความปราณี

รยางค์เหล่านั้นยังเข้าจู่โจมใส่พวกมอนสเตอร์ที่เป็นลูกน้องของไอซ์ร็อคซึ่งคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ในระยะไกลอีกด้วย

 ………

 ……

 …

“เรากำจัดกองทัพปีศาจเรียบร้อยแล้ว” 

หลังจากนั้นสักพัก

ปีศาจที่สูญเสียการควบคุมเนื่องจากการตายของไอซ์ร็อคเริ่มที่จะวิ่งหนี ไม่ว่าจะเป็นเพราะพวกมันตระหนักได้ว่าสถานการณ์ย่ำแย่ หรือเพราะไม่อาจขัดขืนสัญชาตญาณได้ก็ตาม

หน่วยคุ้มกันเมืองมังกร และกองทัพของไมน็อกกราห์ยังคงอยู่ดี ถึงจะมีความเสียหายบ้างก็ตาม

ในขณะเดียวกัน อาโทวที่เป็นฮีโร่ของไมน็อกกราห์เองก็ยังสบายดี  ไม่ว่ามอนสเตอร์จะพุ่งเข้าใส่เธอมากแค่ไหน เธอก็รับมือพวกมันได้อย่างง่ายดาย

อาโทวรู้สึกโล่งอก เธอได้เตรียมตัวถึงความเป็นไปได้ที่แย่ที่สุดเอาไว้ อย่างพวกความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเมือง

“พวกมอนสเตอร์ถอยทัพไปแล้วงั้นหรอ…..? เป็นเพราะเสียผู้นำไปสินะ แต่โชคดีที่พวกมันไม่ได้แตกตื่นพุ่งเข้าใส่เมือง”

อาโทวเอามือกุมท้องโดยที่ไม่ให้ใครเห็น

ความเจ็บปวดที่คอยกัดกินความภาคภูมิใจของเธอ

ฮีโร่ที่เกิดมาเพื่อการต่อสู้ไม่ได้สนใจความเจ็บปวดพวกนั้น แต่ความจริงที่ว่าเธอได้รับบาดเจ็บอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้เธอรู้สึกอัปยศอย่างถึงที่สุด เธอโกรธมากจนทำให้ความเจ็บปวดยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก

 

“ถึงจะได้รับคำเตือนทั้งหมดนั้นมาแล้ว แต่ก็ยังล้มเหลว ช่างไร้ค่า….ไม่คู่ควร! ฉันมันไม่คู่ควรจะเป็นฮีโร่ของไมน็อกกราห์ ไม่คู่ควรจะเป็นฮีโร่ของท่านทาคุโตะ!”

อาโทวกัดฟันและมองไปข้างหน้า

จุดหมายของเหล่ามอนสเตอร์ที่หนีไป กองทัพจากเกม RPG ทัพหลักของพวกมันรออยู่ข้างหน้านั้น

“แต่การต่อสู้กับพวกที่มาจากเกมอื่นค่อนข้างยุ่งยาก มันคาดเดาไม่ได้ เพราะพวกนั้นอยู่ภายใต้กฎที่แตกต่างจากเรา”

อาโทวใช้สมองเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันอย่างรวดเร็ว

ตอนแรกเธอคิดว่าโลกนี้ถูกควบคุมด้วยกฎของเกมจำลองสถานการณ์แบบเดียวกับเธอ

อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีพวกนั้นเปลี่ยนไปเมื่อพวกจากเกม RPG เข้ามา

ที่จริง อาโทวคิดว่ามันอันตรายกว่าหากเธอทำการตัดสินใจต่างๆ โดยอิงจากสติปัญญาอันตื้นเขินของเธอ

ภาพของราชาผู้เป็นที่รักยิ่งได้ปรากฎขึ้นมาในหัว

เธอจะอธิบายสถานการณ์นี้ยังไง และยิ่งไปกว่านั้น เขาจะผิดหวังหรือเปล่าที่เห็นเธอได้รับบาดเจ็บ

แน่นอน เธอเข้าใจดีว่าราชาของเธอไม่ใช่คนใจแคบอะไรแบบนั้น

อย่างไรก็ตาม เธออยากจะรายงานว่าทำภารกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อที่จะได้รับคำชม

ความคิดมากมายตีกันอยู่ในหัว

“อ๊าา! บ้าจริง!”

ในที่สุด เธอก็ส่งเสียงดังและสะบัดศรีษะไปมา

ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ เธอจะมามัวสับสนอยู่ว่าต้องทำอะไรไม่ได้

เมื่อเธอรู้สึกตัวก็พบว่าแมลงขายาวได้รออยู่รอบๆตัวแล้ว

เพื่อตอบสนองกับศัตรูที่หนีไป พวกมันจึงมาขอคำแนะนำ

“แมลงขายาว! จัดการกับกองทัพศัตรูที่หนีไปเพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์ซะ! เดี๋ยวฉันจะให้ท่านทาคุโตะอัพเกรดให้พวกนายทีหลัง”

“กิกิกี้”

แมลงขายาวมุ่งไปยังทิศทางที่มอนสเตอร์หนีไปด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง

เพราะในศึกป้องกันนี้ให้ค่าประสบการณ์ที่สูงมาก มันจึงเป็นไปได้ที่จะได้รับการพัฒนา หรือกลายเป็นยูนิตที่แข็งแกร่งมากขึ้นจากการอัพเกรด

ผู้แพ้สูญเสียทุกสิ่ง และผู้ชนะก็ได้ทุกอย่าง

การที่ได้ยูนิตที่ทรงพลังขึ้นในช่วงนี้จะเป็นประโยชน์ต่อไมน็อกกราห์อย่างมาก

“ฉันอยากจะไปไล่ล่าด้วยเหมือนกัน แต่ว่า…จะทำอะไรก่อนดี? –ไม่สิ ฉันต้องรายงานท่านทาคุโตะ”

เธอยังต้องคอยออกคำสั่งทหารของไมน็อกกราห์ รวมไปถึงผู้เฒ่ามอลทาร์ด้วย

ยิ่งกว่านั้น พวกเขาต้องรยางานไปยังทาคุโตะ

ถ้าเธอพุ่งเข้าไปร่วมการไล่ล่าพวกนั้น เธอต้องยอมแพ้เรื่องการบัญชาการ หรือแม้แต่ฐานะฮีโร่ของเธอ

ด้วยพึงระลึกถึงสิ่งนั้น อาโทวสูดลมหายใจลึก และตั้งสมาธิเพื่อส่งเทเลพาธีไปหาทาคุโตะ

ในเทเลพาธีนั้น เธอพูดราวกับเด็กสาวผู้น่ารัก ไม่เหมือนตอนที่สู้กับไอซ์ร็อคก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย

(ท่านทาคุโตะคะ! ภารกิจคุ้มกันเมืองมังกรเสร็จสิ้นเรียบร้อยค่ะ

กองทัพของราชาสวรรค์ได้รุกรานเข้ามา แต่พวกมันถูกตีพ่ายไปแล้ว ตราบเท่าที่มีอาโทวผู้นี้ การจัดการพวกมันก็เป็นเรื่องง่ายๆค่ะ

อย่างไรก็ตาม คือว่า…ฉันประมาทไปหน่อย… ยังมีรายงานเรื่องอื่นๆ แต่ก่อนหน้านั้น ได้โปรดชื่นชมอาโทวคนนี้ที่ทำงานอย่างหนัก….)

อาโทวเริ่มบทสนทนาด้วยความเขินอายเล็กน้อย

เมื่อเธอพูดคุยกับทาคุโตะ เธอมักจะก้มหน้าลงหลายครั้ง อาจจะเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากลักษณะนิสัยแบบคนญี่ปุ่นของทาคุโตะ…

อย่างไรก็ตาม น้ำเสียงสดใสและรอยยิ้มอย่างมีความสุขของเธอก็หม่นหมองลงในทันที

(…..เอ๋?)

ทันใดนั้น ใบหน้าของหญิงสาวก็เปลี่ยนจากเด็กสาวธรรมดาทั่วไป กลายเป็นใบหน้าของปีศาจ

–กองทัพของศัตรูได้บุกโจมตีฐานของไมน็อกกราห์

ข้อความที่ทาคุโตะส่งมาเพียงพอที่จะทำให้จิตใจและวิญญาณของอาโทวสั่นสะเทือน

 

มาแล้ว สวัสดีปีใหม่แจ้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ 35 Conflict between Evils 3

Now you are reading [นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ Chapter 35 Conflict between Evils 3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“”โกววววววว!!”

เสียงคำรามที่ราวกับสัตว์ป่าดังไปทั่วสนามรบ

ไม่เหลือคราบนักรบผู้สูงส่งแบบก่อนหน้านี้ เขาเพียงคำรามออกมาเหมือนสัตว์ป่าที่กำลังทุกข์ทรมาน

เลือดสีแดงฉานไหลออกจากตา

มันคือท่าทีเจ็บปวดและสิ้นหวังของชายผู้ที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ และทำให้เขารู้ว่าตนเองเป็นเพียงแค่ตัวละครบนเวทีที่ไร้ซึ่งอิสระใดๆ

อาโทวดูยินดี และสนุกสนานไปกับท่าทีที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเศร้าโศกของศัตรู

เธอนั้นเชื่อในตัวของทาคุโตะจนหมดใจ จะบอกว่าเธอเป็นสาวกอันคลั่งไคล้เลยก็ว่าได้…

ถึงพวกเขาจะเป็นตัวละครในเกมเหมือนกัน แต่พวกเขาก็แตกต่างกันมาก

“นี่แหละ คือจุดเริ่มต้นที่แท้จริง! คือจุดเริ่มต้นของการพิชิตโลกใบนี้! ครั้งนี้ พวกเราจะต้องชนะ!”

อาโทวและไอซ์ร็อคเผชิญหน้ากันบนสนามรบ พร้อมกับเหรียญทองที่ส่องประกายอยู่บนพื้น

หนึ่งในราชาสวรรค์แห่งกองทัพจอมมาร ไอซ์ร็อค ปีศาจน้ำแข็ง ผู้ที่สูญเสียทหารไปเกือบทั้งหมด และกำลังจะสูญเสียเหตุผลในการมีตัวตนของตนเอง

แต่ก็เหมือนกับอาโทวที่มีทาคุโตะเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ไอซ์ร็อคเองก็มีของแบบนั้นอยู่เช่นกัน

“ถึงเวลาที่จะนำชัยชนะมาให้นายท่านของพวกเรา จอมมาร! ข้าคือไอซ์ร็อค ราชาสวรรค์น้ำแข็ง ผู้ที่จะบดขยี้ศัตรูให้สิ้น!”

ทันใดนั้นจิตวิญญาณของเขาก็ลุกโชน

ถ้าเกิดเป็นตอนอยู่ในเกม RPG มันก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากข้อมูลเดิม

อย่างไรก็ตาม มันคือความภาคภูมิใจของนักรบ และเหนือยิ่งกว่านั้น มันคือความปรารถนา

ในทางกลับกัน อาโทวหัวเราะเยาะให้กับคำตอบของไอซ์ร็อค การตัดสินใจที่เขาทำด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกตั้งแต่มายังโลกใบนี้

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ตลกจริงๆ! ตลกชะมัดเลย! ด้วยความมุ่งมั่นเพียงแค่นั้น! ปณิธานแค่นั้นน่ะหรอ? จะจัดการกับฉันด้วยพลังแค่นั้นเนี่ยนะ? นี่แกฝันอยู่รึไง?”

อาโทวหัวเราะไม่หยุด

เธอไม่สนใจเรื่องปณิธานอันสูงส่งอะไรนั่นของอีกฝ่ายอยู่แล้ว

ไอซ์ร็อคตัวสั่นที่อาโทวปฏิบัติราวกับว่าเขาเป็นแค่เศษสวะไร้ค่าที่หาได้ตามข้างถนนทั่วไป

หญิงสาวตนนั้นคือปีศาจ

เธอมองว่าคนอื่นที่นอกเหนือจากทาคุโตะและตัวเองเป็นพวกที่ไม่คู่ควร เธอไม่เข้าใจเจตนารมย์และความมุ่งมั่นของไอซ์ร็อค

 

ราวกับมนุษย์ที่ไม่พูดคุยกับสัตว์

ราวกับสัตว์ที่ไม่พูดคุยกับแมลง

ราวกับแมลงที่ไม่พูดคุยกับก้อนหิน

–อาโทวไม่สนใจคนอื่นนอกจากทาคุโตะ

“ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะปฏิเสธทุกสิ่งที่แกเชื่อซะ! ฉันจะทำลายทุกอย่างที่แกเชื่อมั่น! ฉันคืออาโทวแห่งโคลนเลน! โลกใบนี้มีราชาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือนายท่านของฉัน ท่านอิระ ทาคุโตะ!”

เธอคืออาโทวแห่งโคลนเลน

เธอคือฮีโร่ของไมน็อกกราห์

ดังนั้น การต่อสู้ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายจึงเริ่มต้นขึ้น

สำหรับไอซ์ร็อค นี่คือการต่อสู้เพื่อความภาคภูมิใจ และความเชื่อมั่นของเขา

ขวานศึกของเขาเหวี่ยงไปมาอย่างไร้ทิศทาง และพื้นดินก็สั่นสะเทือนเพราะพละกำลังมหาศาลนั้น

รยางค์ของอาโทวแกว่งไปมาราวกับแส้ และดาบศักดิ์สิทธิ์เองก็ถูกเหวี่ยงลงเบาๆ

เธอหลบการโจมตีอันรุนแรงของไอซ์ร็อค และโจมตีกลับอย่างดุดันด้วยดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับพรจากพระเจ้า

ไอซ์ร็อคกระทืบลงบนพื้นอย่างรุนแรงจนเศษดินแตกกระจายไปทั่ว ก้อนหินเหล่านั้นได้กลายเป็นน้ำแข็งและพุ่งเข้าใส่ร่างเล็กๆของอาโทว

อาโทวใช้รยางค์ของเธอแทงลงไปบนพื้นอย่างรวดเร็ว และดึงตัวเองกลับเพื่อหลบการโจมตีก่อนหน้านี้

จากนั้นเธอจึงเริ่มโจมตีอีกครั้ง

การต่อสู้กันด้วยความรวดเร็วระดับเทพที่กำลังดำเนินอยู่ ราวกับเป็นการต่อสู้ในตำนาน

การต่อสู้ส่งผลให้พื้นดินสึกหรอ และอากาศก็สั่นสะเทือนเพราะแรงปะทะ

ผลกระทบนี้ส่งไปถึงเมืองมังกร การต่อสู้เหนือมนุษย์นี้ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นต่างก็สั่นสะท้านไปจนถึงส่วนลึกของวิญญาณ

“มันจะไม่จบลงแบบนั้น! ข้าไม่ยอมหรอก! ต่อให้ข้าต้องตายลงที่นี่ ข้าก็จะบดขยี้เจ้าให้ได้!”

“อะฮะฮะฮะ! อะไรล่ะนั่น!? นั่นมันคำพูดในหนังสือไม่ใช่หรอ! นี่แกตั้งใจจะเล่นฉากจบให้ฉันดูหรือไงกัน?”

อาโทวหัวเราะออกมาเสียงดัง คำพูดของเธอเต็มไปด้วยเจตนาร้าย

ไมน็อกกราห์คืออารยธรรมที่ชั่วร้ายมากที่สุดใน Eternal Nations

เพราะแบบนี้ จึงทำให้ฮีโร่ของไมน็อกกราห์ต่างก็มีความสุขกับความทรมานของคนอื่น

“เฮ้! เฮ้! แล้วแกจะพลิกสถานการณ์นี้ยังไงล่ะ!? จะฆ่าฉันได้ยังไงล่ะ หืม? ต่อให้คิดจนหัวแทบแตกก็เถอะ มันเป็นไปไม่ได้หรอกนะ!”

ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนสถานการณ์จะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม เขาก็ไม่สามารถยืนอยู่เฉยๆได้ จึงได้แต่โจมตีต่อไป เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะฟังคำพูดยั่วยุพวกนั้นด้วยซ้ำ

แม้จะถูกต้อนจนมุมแล้ว แต่ไอซ์ร็อคก็พยายามทำหน้าที่ของเขาให้ดีที่สุด

แต่ความเป็นจริงช่างน่าเศร้า

มอนสเตอร์ในเกม RPG มักจะมีรูปแบบตายตัว

ก่อนอื่นเลย ในเกมจะมีรูปแบบการเคลื่อนไหวอยู่ไม่กี่อย่าง ซึ่งเพียงพอที่จะให้ผู้เล่นสนุกไปกับมัน ในทางกลับกัน ถ้ามันมีรูปแบบการเคลื่อนไหวที่มากเกินไป ไม่เพียงแต่มันจะทำให้เกิดบั๊กหรือเออเร่อร์ แต่มันจะทำให้เหล่าผู้เล่นสับสนและลดความสนุกของเกมไป

ท้ายที่สุดแล้ว การต่อสู้ของไอซ์ร็อคมีรูปแบบที่ซ้ำซากเกินไป จึงทำให้ง่ายต่อการคาดเดา

“ฉันอ่านการโจมตีของแกออกหมดแล้ว แกนี่มัน….ขยะจริงๆเลยนะ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

อาโทวพุ่งตัวเข้าใส่หน้าอกของไอซ์ร็อค ราวกับว่าเธอรู้ทิศทางที่เขาจะเหวี่ยงขวานมาอยู่แล้ว

เขารีบปล่อยขวานศึกและยิงกระสุนน้ำแข็ง แต่อาโทวก็เลียดตัวไปกับพื้นเหมือนงูและหลบพวกมันทั้งหมด เหมือนเธอรู้อยู่แล้วว่ามันจะมาจากทางไหน

ถ้านี่เป็นในเกม การโจมตีของไอซ์ร็อคคงจะมีข้อความขึ้นแล้วว่า “อาโทวได้รับความเสียหาย 0”

จากนั้นก็เปลี่ยนเทิร์น และในที่สุดการโจมตีของอาโทวก็โดนร่างกายของไอซ์ร็อค

“ติดคริติคอล! อ๊ะ! ฉันควรจะทำยังไงดี! แกได้รับความเสียหายเกินกว่าที่คาดไว้อีก! เป็นอะไรรึเปล่า? เหลือ HP เท่าไหร่แล้ว? ขอโทษทีนะ พอดีไม่ได้อ่านคู่มือมา เลยไม่รู้ว่าจะระดับต่ำขนาดนี้…..!”

ท่อนแขนอันใหญ่โตได้หล่นลงบนพื้น

แม้ว่าเขาจะป้องกันไม่ให้ถูกฟันเข้าที่ท้องได้ แต่เขากลับต้องเสียแขนไปหนึ่งข้าง

ขวานศึกของไอซ์ร็อคจะแสดงพลังที่แท้จริงได้ก็ต่อเมื่อเหวี่ยงมันด้วยมือทั้งสองข้างเท่านั้น ในเมื่อตอนนี้เขาใช้มือได้เพียงข้างเดียว จึงทำให้พลังโจมตีของมันตกลงไปต่ำกว่าครึ่ง

ต่อให้ใช้พลังทั้งหมดแล้ว เขาก็ยังไม่สามารถโจมตีโดนเธอได้ แล้วจะจัดการกับศัตรูด้วยแขนข้างเดียวได้ยังไง?

สีหน้าของไอซ์ร็อคเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

=======================================

สมดุลของการต่อสู้เริ่มเอนเอียงมาทางอาโทว

อย่างไรก็ตาม อาโทวถอยกลับอย่างเร่งรีบ

คำพูดพวกนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดความเสี่ยง แต่การโจมตีโดยประมาทอาจจะทำให้ศัตรูฉวยโอกาสสวนกลับเอาได้

ต่อให้เธอจะชื่นชอบการทรมานผู้ที่อ่อนแอกว่า แต่เธอยังคงสงบและไม่ประมาทอีกฝ่าย

เป็นเพราะสัญชาติญาณของฮีโร่ที่บอกให้เธอทำแบบนั้น?

หรือเป็นเพราะสัญชาติญาณของปีศาจที่ทำให้เธอไม่ประมาทคู่ต่อสู้กันแน่?

ความเป็นไปได้ที่จะคว้าชัยชนะของไอซ์ร็อคได้มลายหายไปราวกับทรายที่โดนลมพัด

อย่างไรก็ตาม ไอซ์ร็อคยังคงดิ้นรน

เขาตัดสินใจที่จะปลดปล่อยท่าไม้ตายลับ ก่อนที่มันจะสายเกินไป

“ฮึ่มม! ถ้างั้นก็รับนี่ไปซะ ท่าไม้ตายของข้า!”

อากาศเย็นยะเยือกแผ่ออกมาจากร่างของไอซ์ร็อค

มันแผ่กระจายออกมาโดยมีตัวเขาเป็นจุดศูนย์กลาง ทันใดนั้น พื้นที่รอบๆก็ถูกแช่แข็ง

ขวานศึกของเขาได้ส่งเสียงแหลมออกมา

พลังที่มากจนสามารถทำลายอาวุธของเขาได้ถูกบังคับใส่เข้าไปในนั้น และร่างกายของไอซ์ร็อคซึ่งโค้งงออย่างมากได้พองตัวขึ้นราวกับแสดงให้เห็นถึงพลังของเขา

อาโทวจ้องมองฉากนั้นอย่างเงียบๆ ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

วินาทีต่อมา รยางค์ที่ปรากฏออกมาด้านหลังเธอได้รวมตัวเข้ารอบๆดาบศักดิ์สิทธิ์ และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นหอกขนาดยักษ์

“มาเถอะ โจมตีฉันด้วยสกิลที่ดีที่สุดของแกได้เลย แล้วจากนั้นก็พ่ายแพ้อย่างน่าสมเพชไปซะ”

คำพูดและท่าทีของเธอไม่ได้ปิดบังเจตนาร้ายไว้แม้แต่น้อย

จิตสังหารได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากทั่วทั้งร่างของเธอ

ราวกับตอบสนองกับคำพูดนั้น หอกซึ่งทำจากรยางค์ของเธอได้เพิ่มความแข็งขึ้นไปอีก

–และก็เหมือนอย่างเคย

การดิ้นรนที่ถูกเรียกว่าท่าไม้ตายได้ถูกปลดปล่อยออกมา

“โอ้ววว! Glacier-busting slash!”

ทั้งคู่ต่างเข้าโจมตีและป้องกัน อย่างไรก็ตาม ชั่วขณะนั้นราวกับเวลาไหลช้าลงอย่างไม่มีสิ้นสุด

อากาศเย็นยะเยือกได้ระเบิดออกมาจากร่างกายของไอซ์ร็อค และโจมตีใส่อาโทวราวกับพายุหิมะและห่อหุ้มผิวของเธอด้วยชั้นน้ำแข็งบางๆ

พื้นดินค่อยๆถูกแช่แข็งและแผ่ขยายออกไปราวกับมีชีวิต ทำให้ข้อเท้าของเธอถูกแช่แข็งเอาไว้

ในอากาศเย็นยะเยือกนั้น คือความหนาวเหน็บที่ทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องหลับตาสั่นและถูกแช่แข็ง

อย่างไรก็ตาม อาโทวยังคงมองตรงไปข้างหน้า

ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังขวานศึกน้ำแข็งที่ฟันลงมา

ท่าสังหารของไอซ์ร็อคแค่ทำให้อาโทวรู้สึกเย็นมากกว่าปกติ

“ฮ่าฮ่าฮ่า! แกคิดว่าน้ำแข็งแค่นี้จะหยุดฉันได้งั้นหรอ? แกประเมินฉันต่ำไป–”

ทันใดนั้นเหตุการณ์แปลกๆได้เกิดขึ้น

ชั่วขณะที่ผู้ล่าและเหยื่อได้สบตากัน ภายในเสี้ยววินาทีนั้น

อาโทวพลาด…. ให้กับการโจมตีที่เธอน่าจะหลบได้

“อะไรกัน!?”

อาโทวไม่สามารถขยับขาของเธอได้

เป็นเพราะข้อเท้าของเธอถูกแช่แข็งไว้กับพื้น

อย่างไรก็ตาม อาโทวไม่ได้อ่อนแอจนจะถูกหยุดไว้ด้วยน้ำแข็งระดับนี้ได้

มันไม่ใช่

เท้าของเธอถูกยึดไว้เพราะอย่างอื่น บางอย่างที่ผิดปกติ

พลาดแล้–

ร่างกายของเธอพยายามต่อต้านการโจมตีของไอซ์ร็อค

“อั่ก!!”

ผลจากการโจมตีและป้องกัน เป็นอาโทวที่ล้มลง

เธอน่าจะเอาชนะศัตรูได้อย่างท่วมท้น

การโจมตีที่อาโทวปลดปล่อยออกไปเหนือกว่าคู่ต่อสู้อย่างมาก และจังหวะเวลานั้นก็สมบูรณ์แบบ

ถ้าเป็นตามปกติ เธอน่าจะสามารถรับมือกับการโจมตีของอีกฝ่าย และสวนกลับอย่างรุนแรงได้

แต่เธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้ และนั่นทำให้ศัตรูของเธอมีโอกาสสวนกลับ

ดวงตาของอาโทวเบิกกว้าง และกลอกไปมาอย่างสับสน เธอพยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ตรงหน้า

ไอซ์ร็อคหยุดเคลื่อนไหวราวกับถูกพันธนาการอยู่ บางทีนั่นอาจจะเป็นผลกระทบจากท่าพิเศษที่เขาใช้

น้ำแข็งที่ปกคลุมร่างของอาโทวแตกเป็นชิ้นๆ

ร่างของเธอเริ่มขยับ สติของเธอยังคงแจ่มชัด ไม่มีผลกระทบจากการโจมตีทางจิตใจ

บางสิ่งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนได้เกิดขึ้น

สัญชาตญาณต่อสู้ในฐานะฮีโร่ของไมน็อกกราห์ได้บอกกับเธอว่า เธอได้รับการโจมตี

(–เป็น! เป็นไปไม่ได้! นี่เราโดนโจมตีหรอ!)

อาโทวตกตะลึง

ความสับสนทำให้ความคิดที่รวดเร็วของเธอหยุดทำงาน และข้อสรุปเหล่านั้นก็คือร่องรอยการโจมตีที่เหลืออยู่บนร่าง

ฮีโร่ของไมน็อกกราห์เป็นยูนิตต่อสู้ที่มีความสามารถเทียบเท่ากับกองทัพ

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย

ยิ่งกว่านั้น การโจมตีก่อนหน้าเกินกว่าที่เธอคาดเอาไว้ และความเสียหายก็ค่อนข้างรุนแรง

คงจะแย่กว่านี้ถ้าเธอไม่ได้ดูดกลืนสกิลป้องกันจากโกเลมหินเอาไว้

อาโทวขอบคุณในความโชคดีของเธอ เธอเริ่มประเมินสถานการณ์ขณะที่ก่นด่าให้กับความประมาทของตัวเอง

(นี่มัน ‘การโจมตีที่ไม่อนุญาตให้หลบหลีกหรือสวนกลับ’ งั้นหรอ!? ฉันอยู่ภายใต้เงื่อนไขของเกมจำลองสถานการณ์ ส่วนอีกฝ่ายก็อยู่ภายใต้เงื่อนไขของเกม RPG สินะ? การโจมตีที่หลบไม่ได้นี่มันจะโกงเกินไปแล้ว!)

อวัยวะภายในได้ทะลักออกมาจากบาดแผลที่ฉีกกว้างตั้งแต่บ่าลงไปจนถึงช่วงอก

ในที่สุด หลังจากผลกระทบของการใช้ท่าพิเศษได้หมดลง ไอซ์ร็อคก็เบนสายตามายังอาโทว และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

ไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่จะรอดไปได้หลังจากอวัยวะภายในทะลักออกมาแบบนั้น

ต่อให้เป็นปีศาจอย่างไอซ์ร็อคก็คงจะทุกข์ทรมานกับอาการบาดเจ็บสาหัส

ไอซ์ร็อคมีหวังขึ้นมา เมื่อพบว่าการโจมตีของเขาประสบผลสำเร็จ ก่อนหน้านี้เขาไม่คิดว่ามันจะได้ผลด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม อวัยวะภายในที่ไหลออกมาจากร่างของหญิงสาวคนนั้นมีการเปลี่ยนแปลง

อวัยวะภายในที่ไหลออกมาจากช่วงอกพร้อมๆกับเลือดที่ทะลักออกมา ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำ

จนในที่สุด มันก็กลายเป็นโคลนไหลลงมากองอยู่ที่เท้าของเธอ และถูกดูดซึมกลับเข้าไปในร่าง

ไม่มีบาดแผลหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย…

อาโทวแห่งโคลนเลนยังคงยืนอยู่ตรงนั้น

“อย่ามาดูถูกอาโทวผู้นี้นะ”

“แ- แม้แต่สิ่งนี้ก็ยังจัดการเจ้าไม่ได้งั้นรึ…”

อาโทวจ้องกลับไปที่ไอซ์ร็อค

ถึงตาของเธอแล้ว

ตามปกติแล้ว ในเกม RPG เมื่อเทิร์นของผู้เล่นคนหนึ่งจบ ต่อไปจะเป็นเทิร์นของอีกฝ่ายเพื่อสวนกลับ

บางทีอาจจะมีบางอย่างแปลกไป เพราะอีกฝ่ายตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขของเกมจำลองสถานการณ์ แต่หลังจากที่ปลดปล่อยท่าพิเศษไปแล้ว จะไม่สามารถทำการโต้ตอบด้วยท่าโจมตีใหญ่ๆแบบนั้นได้อีก

ดังนั้น อาโทวจึงใส่พลังลงไปในรยางค์ของเธออีกครั้ง

รยางค์ของเธอเริ่มเปลี่ยนรูปร่างและส่งเสียงแปลกประหลาด เธอใส่พลังลงไปราวกับว่ามันเป็นการโจมตีครั้งสุดท้าย

เหมือนธนูที่ถูกน้าวจนสุดสาย….

“ตายซะ! ตายอย่างพวกตัวประกอบในเกม RPG ไปเลย!!”

อาโทวปลดปล่อยการโจมตีที่ดีที่สุดของเธอ

“อ่า จอมมาร…ขอให้ท่านจ–”

ไอซ์ร็อคสลายกลายเป็นแสง

เหรียญทองจำนวนมากได้ปรากฎออกมา

อาโทวหัวเราะเสียงดังในขณะที่ก้มลงมองเหรียญทองด้วยความเย้ยหยัน

“มีราชาในโลกได้เพียงคนเดียวเท่านั้น คือท่านอิระ ทาคุโตะ! ศัตรูทั้งหมดจะต้องถูกทำลาย! ใครที่ไม่ยอมก้มหัวให้ราชาของฉัน ไม่ว่าจะดีหรือเลว จะไม่ได้รับการไว้ชีวิต! ฮ่าฮ่าฮ่า! ฮ่าฮ่าฮ่า!”

พร้อมกันนั้น รยางค์ของเธอก็ยืดยาวออกไปทุกทิศทาง

รยางค์ของเธอเข้าโจมตีใส่มอนสเตอร์ที่เหลืออยู่ในสนามรบ

ระยะของมันเท่ากับธนู ส่วนการโจมตีก็หนักหน่วงราวกับยักษ์ภูเขา

และยิ่งไปกว่านั้น ความโหดเหี้ยมที่ไร้ซึ่งความปราณี

รยางค์เหล่านั้นยังเข้าจู่โจมใส่พวกมอนสเตอร์ที่เป็นลูกน้องของไอซ์ร็อคซึ่งคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ในระยะไกลอีกด้วย

 ………

 ……

 …

“เรากำจัดกองทัพปีศาจเรียบร้อยแล้ว” 

หลังจากนั้นสักพัก

ปีศาจที่สูญเสียการควบคุมเนื่องจากการตายของไอซ์ร็อคเริ่มที่จะวิ่งหนี ไม่ว่าจะเป็นเพราะพวกมันตระหนักได้ว่าสถานการณ์ย่ำแย่ หรือเพราะไม่อาจขัดขืนสัญชาตญาณได้ก็ตาม

หน่วยคุ้มกันเมืองมังกร และกองทัพของไมน็อกกราห์ยังคงอยู่ดี ถึงจะมีความเสียหายบ้างก็ตาม

ในขณะเดียวกัน อาโทวที่เป็นฮีโร่ของไมน็อกกราห์เองก็ยังสบายดี  ไม่ว่ามอนสเตอร์จะพุ่งเข้าใส่เธอมากแค่ไหน เธอก็รับมือพวกมันได้อย่างง่ายดาย

อาโทวรู้สึกโล่งอก เธอได้เตรียมตัวถึงความเป็นไปได้ที่แย่ที่สุดเอาไว้ อย่างพวกความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเมือง

“พวกมอนสเตอร์ถอยทัพไปแล้วงั้นหรอ…..? เป็นเพราะเสียผู้นำไปสินะ แต่โชคดีที่พวกมันไม่ได้แตกตื่นพุ่งเข้าใส่เมือง”

อาโทวเอามือกุมท้องโดยที่ไม่ให้ใครเห็น

ความเจ็บปวดที่คอยกัดกินความภาคภูมิใจของเธอ

ฮีโร่ที่เกิดมาเพื่อการต่อสู้ไม่ได้สนใจความเจ็บปวดพวกนั้น แต่ความจริงที่ว่าเธอได้รับบาดเจ็บอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้เธอรู้สึกอัปยศอย่างถึงที่สุด เธอโกรธมากจนทำให้ความเจ็บปวดยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก

 

“ถึงจะได้รับคำเตือนทั้งหมดนั้นมาแล้ว แต่ก็ยังล้มเหลว ช่างไร้ค่า….ไม่คู่ควร! ฉันมันไม่คู่ควรจะเป็นฮีโร่ของไมน็อกกราห์ ไม่คู่ควรจะเป็นฮีโร่ของท่านทาคุโตะ!”

อาโทวกัดฟันและมองไปข้างหน้า

จุดหมายของเหล่ามอนสเตอร์ที่หนีไป กองทัพจากเกม RPG ทัพหลักของพวกมันรออยู่ข้างหน้านั้น

“แต่การต่อสู้กับพวกที่มาจากเกมอื่นค่อนข้างยุ่งยาก มันคาดเดาไม่ได้ เพราะพวกนั้นอยู่ภายใต้กฎที่แตกต่างจากเรา”

อาโทวใช้สมองเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันอย่างรวดเร็ว

ตอนแรกเธอคิดว่าโลกนี้ถูกควบคุมด้วยกฎของเกมจำลองสถานการณ์แบบเดียวกับเธอ

อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีพวกนั้นเปลี่ยนไปเมื่อพวกจากเกม RPG เข้ามา

ที่จริง อาโทวคิดว่ามันอันตรายกว่าหากเธอทำการตัดสินใจต่างๆ โดยอิงจากสติปัญญาอันตื้นเขินของเธอ

ภาพของราชาผู้เป็นที่รักยิ่งได้ปรากฎขึ้นมาในหัว

เธอจะอธิบายสถานการณ์นี้ยังไง และยิ่งไปกว่านั้น เขาจะผิดหวังหรือเปล่าที่เห็นเธอได้รับบาดเจ็บ

แน่นอน เธอเข้าใจดีว่าราชาของเธอไม่ใช่คนใจแคบอะไรแบบนั้น

อย่างไรก็ตาม เธออยากจะรายงานว่าทำภารกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อที่จะได้รับคำชม

ความคิดมากมายตีกันอยู่ในหัว

“อ๊าา! บ้าจริง!”

ในที่สุด เธอก็ส่งเสียงดังและสะบัดศรีษะไปมา

ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ เธอจะมามัวสับสนอยู่ว่าต้องทำอะไรไม่ได้

เมื่อเธอรู้สึกตัวก็พบว่าแมลงขายาวได้รออยู่รอบๆตัวแล้ว

เพื่อตอบสนองกับศัตรูที่หนีไป พวกมันจึงมาขอคำแนะนำ

“แมลงขายาว! จัดการกับกองทัพศัตรูที่หนีไปเพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์ซะ! เดี๋ยวฉันจะให้ท่านทาคุโตะอัพเกรดให้พวกนายทีหลัง”

“กิกิกี้”

แมลงขายาวมุ่งไปยังทิศทางที่มอนสเตอร์หนีไปด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง

เพราะในศึกป้องกันนี้ให้ค่าประสบการณ์ที่สูงมาก มันจึงเป็นไปได้ที่จะได้รับการพัฒนา หรือกลายเป็นยูนิตที่แข็งแกร่งมากขึ้นจากการอัพเกรด

ผู้แพ้สูญเสียทุกสิ่ง และผู้ชนะก็ได้ทุกอย่าง

การที่ได้ยูนิตที่ทรงพลังขึ้นในช่วงนี้จะเป็นประโยชน์ต่อไมน็อกกราห์อย่างมาก

“ฉันอยากจะไปไล่ล่าด้วยเหมือนกัน แต่ว่า…จะทำอะไรก่อนดี? –ไม่สิ ฉันต้องรายงานท่านทาคุโตะ”

เธอยังต้องคอยออกคำสั่งทหารของไมน็อกกราห์ รวมไปถึงผู้เฒ่ามอลทาร์ด้วย

ยิ่งกว่านั้น พวกเขาต้องรยางานไปยังทาคุโตะ

ถ้าเธอพุ่งเข้าไปร่วมการไล่ล่าพวกนั้น เธอต้องยอมแพ้เรื่องการบัญชาการ หรือแม้แต่ฐานะฮีโร่ของเธอ

ด้วยพึงระลึกถึงสิ่งนั้น อาโทวสูดลมหายใจลึก และตั้งสมาธิเพื่อส่งเทเลพาธีไปหาทาคุโตะ

ในเทเลพาธีนั้น เธอพูดราวกับเด็กสาวผู้น่ารัก ไม่เหมือนตอนที่สู้กับไอซ์ร็อคก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย

(ท่านทาคุโตะคะ! ภารกิจคุ้มกันเมืองมังกรเสร็จสิ้นเรียบร้อยค่ะ

กองทัพของราชาสวรรค์ได้รุกรานเข้ามา แต่พวกมันถูกตีพ่ายไปแล้ว ตราบเท่าที่มีอาโทวผู้นี้ การจัดการพวกมันก็เป็นเรื่องง่ายๆค่ะ

อย่างไรก็ตาม คือว่า…ฉันประมาทไปหน่อย… ยังมีรายงานเรื่องอื่นๆ แต่ก่อนหน้านั้น ได้โปรดชื่นชมอาโทวคนนี้ที่ทำงานอย่างหนัก….)

อาโทวเริ่มบทสนทนาด้วยความเขินอายเล็กน้อย

เมื่อเธอพูดคุยกับทาคุโตะ เธอมักจะก้มหน้าลงหลายครั้ง อาจจะเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากลักษณะนิสัยแบบคนญี่ปุ่นของทาคุโตะ…

อย่างไรก็ตาม น้ำเสียงสดใสและรอยยิ้มอย่างมีความสุขของเธอก็หม่นหมองลงในทันที

(…..เอ๋?)

ทันใดนั้น ใบหน้าของหญิงสาวก็เปลี่ยนจากเด็กสาวธรรมดาทั่วไป กลายเป็นใบหน้าของปีศาจ

–กองทัพของศัตรูได้บุกโจมตีฐานของไมน็อกกราห์

ข้อความที่ทาคุโตะส่งมาเพียงพอที่จะทำให้จิตใจและวิญญาณของอาโทวสั่นสะเทือน

 

มาแล้ว สวัสดีปีใหม่แจ้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ 35 Conflict between Evils 3

Now you are reading [นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ Chapter 35 Conflict between Evils 3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“”โกววววววว!!”

เสียงคำรามที่ราวกับสัตว์ป่าดังไปทั่วสนามรบ

ไม่เหลือคราบนักรบผู้สูงส่งแบบก่อนหน้านี้ เขาเพียงคำรามออกมาเหมือนสัตว์ป่าที่กำลังทุกข์ทรมาน

เลือดสีแดงฉานไหลออกจากตา

มันคือท่าทีเจ็บปวดและสิ้นหวังของชายผู้ที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ และทำให้เขารู้ว่าตนเองเป็นเพียงแค่ตัวละครบนเวทีที่ไร้ซึ่งอิสระใดๆ

อาโทวดูยินดี และสนุกสนานไปกับท่าทีที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเศร้าโศกของศัตรู

เธอนั้นเชื่อในตัวของทาคุโตะจนหมดใจ จะบอกว่าเธอเป็นสาวกอันคลั่งไคล้เลยก็ว่าได้…

ถึงพวกเขาจะเป็นตัวละครในเกมเหมือนกัน แต่พวกเขาก็แตกต่างกันมาก

“นี่แหละ คือจุดเริ่มต้นที่แท้จริง! คือจุดเริ่มต้นของการพิชิตโลกใบนี้! ครั้งนี้ พวกเราจะต้องชนะ!”

อาโทวและไอซ์ร็อคเผชิญหน้ากันบนสนามรบ พร้อมกับเหรียญทองที่ส่องประกายอยู่บนพื้น

หนึ่งในราชาสวรรค์แห่งกองทัพจอมมาร ไอซ์ร็อค ปีศาจน้ำแข็ง ผู้ที่สูญเสียทหารไปเกือบทั้งหมด และกำลังจะสูญเสียเหตุผลในการมีตัวตนของตนเอง

แต่ก็เหมือนกับอาโทวที่มีทาคุโตะเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ไอซ์ร็อคเองก็มีของแบบนั้นอยู่เช่นกัน

“ถึงเวลาที่จะนำชัยชนะมาให้นายท่านของพวกเรา จอมมาร! ข้าคือไอซ์ร็อค ราชาสวรรค์น้ำแข็ง ผู้ที่จะบดขยี้ศัตรูให้สิ้น!”

ทันใดนั้นจิตวิญญาณของเขาก็ลุกโชน

ถ้าเกิดเป็นตอนอยู่ในเกม RPG มันก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากข้อมูลเดิม

อย่างไรก็ตาม มันคือความภาคภูมิใจของนักรบ และเหนือยิ่งกว่านั้น มันคือความปรารถนา

ในทางกลับกัน อาโทวหัวเราะเยาะให้กับคำตอบของไอซ์ร็อค การตัดสินใจที่เขาทำด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกตั้งแต่มายังโลกใบนี้

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ตลกจริงๆ! ตลกชะมัดเลย! ด้วยความมุ่งมั่นเพียงแค่นั้น! ปณิธานแค่นั้นน่ะหรอ? จะจัดการกับฉันด้วยพลังแค่นั้นเนี่ยนะ? นี่แกฝันอยู่รึไง?”

อาโทวหัวเราะไม่หยุด

เธอไม่สนใจเรื่องปณิธานอันสูงส่งอะไรนั่นของอีกฝ่ายอยู่แล้ว

ไอซ์ร็อคตัวสั่นที่อาโทวปฏิบัติราวกับว่าเขาเป็นแค่เศษสวะไร้ค่าที่หาได้ตามข้างถนนทั่วไป

หญิงสาวตนนั้นคือปีศาจ

เธอมองว่าคนอื่นที่นอกเหนือจากทาคุโตะและตัวเองเป็นพวกที่ไม่คู่ควร เธอไม่เข้าใจเจตนารมย์และความมุ่งมั่นของไอซ์ร็อค

 

ราวกับมนุษย์ที่ไม่พูดคุยกับสัตว์

ราวกับสัตว์ที่ไม่พูดคุยกับแมลง

ราวกับแมลงที่ไม่พูดคุยกับก้อนหิน

–อาโทวไม่สนใจคนอื่นนอกจากทาคุโตะ

“ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะปฏิเสธทุกสิ่งที่แกเชื่อซะ! ฉันจะทำลายทุกอย่างที่แกเชื่อมั่น! ฉันคืออาโทวแห่งโคลนเลน! โลกใบนี้มีราชาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือนายท่านของฉัน ท่านอิระ ทาคุโตะ!”

เธอคืออาโทวแห่งโคลนเลน

เธอคือฮีโร่ของไมน็อกกราห์

ดังนั้น การต่อสู้ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายจึงเริ่มต้นขึ้น

สำหรับไอซ์ร็อค นี่คือการต่อสู้เพื่อความภาคภูมิใจ และความเชื่อมั่นของเขา

ขวานศึกของเขาเหวี่ยงไปมาอย่างไร้ทิศทาง และพื้นดินก็สั่นสะเทือนเพราะพละกำลังมหาศาลนั้น

รยางค์ของอาโทวแกว่งไปมาราวกับแส้ และดาบศักดิ์สิทธิ์เองก็ถูกเหวี่ยงลงเบาๆ

เธอหลบการโจมตีอันรุนแรงของไอซ์ร็อค และโจมตีกลับอย่างดุดันด้วยดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับพรจากพระเจ้า

ไอซ์ร็อคกระทืบลงบนพื้นอย่างรุนแรงจนเศษดินแตกกระจายไปทั่ว ก้อนหินเหล่านั้นได้กลายเป็นน้ำแข็งและพุ่งเข้าใส่ร่างเล็กๆของอาโทว

อาโทวใช้รยางค์ของเธอแทงลงไปบนพื้นอย่างรวดเร็ว และดึงตัวเองกลับเพื่อหลบการโจมตีก่อนหน้านี้

จากนั้นเธอจึงเริ่มโจมตีอีกครั้ง

การต่อสู้กันด้วยความรวดเร็วระดับเทพที่กำลังดำเนินอยู่ ราวกับเป็นการต่อสู้ในตำนาน

การต่อสู้ส่งผลให้พื้นดินสึกหรอ และอากาศก็สั่นสะเทือนเพราะแรงปะทะ

ผลกระทบนี้ส่งไปถึงเมืองมังกร การต่อสู้เหนือมนุษย์นี้ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นต่างก็สั่นสะท้านไปจนถึงส่วนลึกของวิญญาณ

“มันจะไม่จบลงแบบนั้น! ข้าไม่ยอมหรอก! ต่อให้ข้าต้องตายลงที่นี่ ข้าก็จะบดขยี้เจ้าให้ได้!”

“อะฮะฮะฮะ! อะไรล่ะนั่น!? นั่นมันคำพูดในหนังสือไม่ใช่หรอ! นี่แกตั้งใจจะเล่นฉากจบให้ฉันดูหรือไงกัน?”

อาโทวหัวเราะออกมาเสียงดัง คำพูดของเธอเต็มไปด้วยเจตนาร้าย

ไมน็อกกราห์คืออารยธรรมที่ชั่วร้ายมากที่สุดใน Eternal Nations

เพราะแบบนี้ จึงทำให้ฮีโร่ของไมน็อกกราห์ต่างก็มีความสุขกับความทรมานของคนอื่น

“เฮ้! เฮ้! แล้วแกจะพลิกสถานการณ์นี้ยังไงล่ะ!? จะฆ่าฉันได้ยังไงล่ะ หืม? ต่อให้คิดจนหัวแทบแตกก็เถอะ มันเป็นไปไม่ได้หรอกนะ!”

ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนสถานการณ์จะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม เขาก็ไม่สามารถยืนอยู่เฉยๆได้ จึงได้แต่โจมตีต่อไป เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะฟังคำพูดยั่วยุพวกนั้นด้วยซ้ำ

แม้จะถูกต้อนจนมุมแล้ว แต่ไอซ์ร็อคก็พยายามทำหน้าที่ของเขาให้ดีที่สุด

แต่ความเป็นจริงช่างน่าเศร้า

มอนสเตอร์ในเกม RPG มักจะมีรูปแบบตายตัว

ก่อนอื่นเลย ในเกมจะมีรูปแบบการเคลื่อนไหวอยู่ไม่กี่อย่าง ซึ่งเพียงพอที่จะให้ผู้เล่นสนุกไปกับมัน ในทางกลับกัน ถ้ามันมีรูปแบบการเคลื่อนไหวที่มากเกินไป ไม่เพียงแต่มันจะทำให้เกิดบั๊กหรือเออเร่อร์ แต่มันจะทำให้เหล่าผู้เล่นสับสนและลดความสนุกของเกมไป

ท้ายที่สุดแล้ว การต่อสู้ของไอซ์ร็อคมีรูปแบบที่ซ้ำซากเกินไป จึงทำให้ง่ายต่อการคาดเดา

“ฉันอ่านการโจมตีของแกออกหมดแล้ว แกนี่มัน….ขยะจริงๆเลยนะ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

อาโทวพุ่งตัวเข้าใส่หน้าอกของไอซ์ร็อค ราวกับว่าเธอรู้ทิศทางที่เขาจะเหวี่ยงขวานมาอยู่แล้ว

เขารีบปล่อยขวานศึกและยิงกระสุนน้ำแข็ง แต่อาโทวก็เลียดตัวไปกับพื้นเหมือนงูและหลบพวกมันทั้งหมด เหมือนเธอรู้อยู่แล้วว่ามันจะมาจากทางไหน

ถ้านี่เป็นในเกม การโจมตีของไอซ์ร็อคคงจะมีข้อความขึ้นแล้วว่า “อาโทวได้รับความเสียหาย 0”

จากนั้นก็เปลี่ยนเทิร์น และในที่สุดการโจมตีของอาโทวก็โดนร่างกายของไอซ์ร็อค

“ติดคริติคอล! อ๊ะ! ฉันควรจะทำยังไงดี! แกได้รับความเสียหายเกินกว่าที่คาดไว้อีก! เป็นอะไรรึเปล่า? เหลือ HP เท่าไหร่แล้ว? ขอโทษทีนะ พอดีไม่ได้อ่านคู่มือมา เลยไม่รู้ว่าจะระดับต่ำขนาดนี้…..!”

ท่อนแขนอันใหญ่โตได้หล่นลงบนพื้น

แม้ว่าเขาจะป้องกันไม่ให้ถูกฟันเข้าที่ท้องได้ แต่เขากลับต้องเสียแขนไปหนึ่งข้าง

ขวานศึกของไอซ์ร็อคจะแสดงพลังที่แท้จริงได้ก็ต่อเมื่อเหวี่ยงมันด้วยมือทั้งสองข้างเท่านั้น ในเมื่อตอนนี้เขาใช้มือได้เพียงข้างเดียว จึงทำให้พลังโจมตีของมันตกลงไปต่ำกว่าครึ่ง

ต่อให้ใช้พลังทั้งหมดแล้ว เขาก็ยังไม่สามารถโจมตีโดนเธอได้ แล้วจะจัดการกับศัตรูด้วยแขนข้างเดียวได้ยังไง?

สีหน้าของไอซ์ร็อคเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

=======================================

สมดุลของการต่อสู้เริ่มเอนเอียงมาทางอาโทว

อย่างไรก็ตาม อาโทวถอยกลับอย่างเร่งรีบ

คำพูดพวกนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดความเสี่ยง แต่การโจมตีโดยประมาทอาจจะทำให้ศัตรูฉวยโอกาสสวนกลับเอาได้

ต่อให้เธอจะชื่นชอบการทรมานผู้ที่อ่อนแอกว่า แต่เธอยังคงสงบและไม่ประมาทอีกฝ่าย

เป็นเพราะสัญชาติญาณของฮีโร่ที่บอกให้เธอทำแบบนั้น?

หรือเป็นเพราะสัญชาติญาณของปีศาจที่ทำให้เธอไม่ประมาทคู่ต่อสู้กันแน่?

ความเป็นไปได้ที่จะคว้าชัยชนะของไอซ์ร็อคได้มลายหายไปราวกับทรายที่โดนลมพัด

อย่างไรก็ตาม ไอซ์ร็อคยังคงดิ้นรน

เขาตัดสินใจที่จะปลดปล่อยท่าไม้ตายลับ ก่อนที่มันจะสายเกินไป

“ฮึ่มม! ถ้างั้นก็รับนี่ไปซะ ท่าไม้ตายของข้า!”

อากาศเย็นยะเยือกแผ่ออกมาจากร่างของไอซ์ร็อค

มันแผ่กระจายออกมาโดยมีตัวเขาเป็นจุดศูนย์กลาง ทันใดนั้น พื้นที่รอบๆก็ถูกแช่แข็ง

ขวานศึกของเขาได้ส่งเสียงแหลมออกมา

พลังที่มากจนสามารถทำลายอาวุธของเขาได้ถูกบังคับใส่เข้าไปในนั้น และร่างกายของไอซ์ร็อคซึ่งโค้งงออย่างมากได้พองตัวขึ้นราวกับแสดงให้เห็นถึงพลังของเขา

อาโทวจ้องมองฉากนั้นอย่างเงียบๆ ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

วินาทีต่อมา รยางค์ที่ปรากฏออกมาด้านหลังเธอได้รวมตัวเข้ารอบๆดาบศักดิ์สิทธิ์ และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นหอกขนาดยักษ์

“มาเถอะ โจมตีฉันด้วยสกิลที่ดีที่สุดของแกได้เลย แล้วจากนั้นก็พ่ายแพ้อย่างน่าสมเพชไปซะ”

คำพูดและท่าทีของเธอไม่ได้ปิดบังเจตนาร้ายไว้แม้แต่น้อย

จิตสังหารได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากทั่วทั้งร่างของเธอ

ราวกับตอบสนองกับคำพูดนั้น หอกซึ่งทำจากรยางค์ของเธอได้เพิ่มความแข็งขึ้นไปอีก

–และก็เหมือนอย่างเคย

การดิ้นรนที่ถูกเรียกว่าท่าไม้ตายได้ถูกปลดปล่อยออกมา

“โอ้ววว! Glacier-busting slash!”

ทั้งคู่ต่างเข้าโจมตีและป้องกัน อย่างไรก็ตาม ชั่วขณะนั้นราวกับเวลาไหลช้าลงอย่างไม่มีสิ้นสุด

อากาศเย็นยะเยือกได้ระเบิดออกมาจากร่างกายของไอซ์ร็อค และโจมตีใส่อาโทวราวกับพายุหิมะและห่อหุ้มผิวของเธอด้วยชั้นน้ำแข็งบางๆ

พื้นดินค่อยๆถูกแช่แข็งและแผ่ขยายออกไปราวกับมีชีวิต ทำให้ข้อเท้าของเธอถูกแช่แข็งเอาไว้

ในอากาศเย็นยะเยือกนั้น คือความหนาวเหน็บที่ทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องหลับตาสั่นและถูกแช่แข็ง

อย่างไรก็ตาม อาโทวยังคงมองตรงไปข้างหน้า

ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังขวานศึกน้ำแข็งที่ฟันลงมา

ท่าสังหารของไอซ์ร็อคแค่ทำให้อาโทวรู้สึกเย็นมากกว่าปกติ

“ฮ่าฮ่าฮ่า! แกคิดว่าน้ำแข็งแค่นี้จะหยุดฉันได้งั้นหรอ? แกประเมินฉันต่ำไป–”

ทันใดนั้นเหตุการณ์แปลกๆได้เกิดขึ้น

ชั่วขณะที่ผู้ล่าและเหยื่อได้สบตากัน ภายในเสี้ยววินาทีนั้น

อาโทวพลาด…. ให้กับการโจมตีที่เธอน่าจะหลบได้

“อะไรกัน!?”

อาโทวไม่สามารถขยับขาของเธอได้

เป็นเพราะข้อเท้าของเธอถูกแช่แข็งไว้กับพื้น

อย่างไรก็ตาม อาโทวไม่ได้อ่อนแอจนจะถูกหยุดไว้ด้วยน้ำแข็งระดับนี้ได้

มันไม่ใช่

เท้าของเธอถูกยึดไว้เพราะอย่างอื่น บางอย่างที่ผิดปกติ

พลาดแล้–

ร่างกายของเธอพยายามต่อต้านการโจมตีของไอซ์ร็อค

“อั่ก!!”

ผลจากการโจมตีและป้องกัน เป็นอาโทวที่ล้มลง

เธอน่าจะเอาชนะศัตรูได้อย่างท่วมท้น

การโจมตีที่อาโทวปลดปล่อยออกไปเหนือกว่าคู่ต่อสู้อย่างมาก และจังหวะเวลานั้นก็สมบูรณ์แบบ

ถ้าเป็นตามปกติ เธอน่าจะสามารถรับมือกับการโจมตีของอีกฝ่าย และสวนกลับอย่างรุนแรงได้

แต่เธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้ และนั่นทำให้ศัตรูของเธอมีโอกาสสวนกลับ

ดวงตาของอาโทวเบิกกว้าง และกลอกไปมาอย่างสับสน เธอพยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ตรงหน้า

ไอซ์ร็อคหยุดเคลื่อนไหวราวกับถูกพันธนาการอยู่ บางทีนั่นอาจจะเป็นผลกระทบจากท่าพิเศษที่เขาใช้

น้ำแข็งที่ปกคลุมร่างของอาโทวแตกเป็นชิ้นๆ

ร่างของเธอเริ่มขยับ สติของเธอยังคงแจ่มชัด ไม่มีผลกระทบจากการโจมตีทางจิตใจ

บางสิ่งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนได้เกิดขึ้น

สัญชาตญาณต่อสู้ในฐานะฮีโร่ของไมน็อกกราห์ได้บอกกับเธอว่า เธอได้รับการโจมตี

(–เป็น! เป็นไปไม่ได้! นี่เราโดนโจมตีหรอ!)

อาโทวตกตะลึง

ความสับสนทำให้ความคิดที่รวดเร็วของเธอหยุดทำงาน และข้อสรุปเหล่านั้นก็คือร่องรอยการโจมตีที่เหลืออยู่บนร่าง

ฮีโร่ของไมน็อกกราห์เป็นยูนิตต่อสู้ที่มีความสามารถเทียบเท่ากับกองทัพ

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย

ยิ่งกว่านั้น การโจมตีก่อนหน้าเกินกว่าที่เธอคาดเอาไว้ และความเสียหายก็ค่อนข้างรุนแรง

คงจะแย่กว่านี้ถ้าเธอไม่ได้ดูดกลืนสกิลป้องกันจากโกเลมหินเอาไว้

อาโทวขอบคุณในความโชคดีของเธอ เธอเริ่มประเมินสถานการณ์ขณะที่ก่นด่าให้กับความประมาทของตัวเอง

(นี่มัน ‘การโจมตีที่ไม่อนุญาตให้หลบหลีกหรือสวนกลับ’ งั้นหรอ!? ฉันอยู่ภายใต้เงื่อนไขของเกมจำลองสถานการณ์ ส่วนอีกฝ่ายก็อยู่ภายใต้เงื่อนไขของเกม RPG สินะ? การโจมตีที่หลบไม่ได้นี่มันจะโกงเกินไปแล้ว!)

อวัยวะภายในได้ทะลักออกมาจากบาดแผลที่ฉีกกว้างตั้งแต่บ่าลงไปจนถึงช่วงอก

ในที่สุด หลังจากผลกระทบของการใช้ท่าพิเศษได้หมดลง ไอซ์ร็อคก็เบนสายตามายังอาโทว และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

ไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่จะรอดไปได้หลังจากอวัยวะภายในทะลักออกมาแบบนั้น

ต่อให้เป็นปีศาจอย่างไอซ์ร็อคก็คงจะทุกข์ทรมานกับอาการบาดเจ็บสาหัส

ไอซ์ร็อคมีหวังขึ้นมา เมื่อพบว่าการโจมตีของเขาประสบผลสำเร็จ ก่อนหน้านี้เขาไม่คิดว่ามันจะได้ผลด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม อวัยวะภายในที่ไหลออกมาจากร่างของหญิงสาวคนนั้นมีการเปลี่ยนแปลง

อวัยวะภายในที่ไหลออกมาจากช่วงอกพร้อมๆกับเลือดที่ทะลักออกมา ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำ

จนในที่สุด มันก็กลายเป็นโคลนไหลลงมากองอยู่ที่เท้าของเธอ และถูกดูดซึมกลับเข้าไปในร่าง

ไม่มีบาดแผลหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย…

อาโทวแห่งโคลนเลนยังคงยืนอยู่ตรงนั้น

“อย่ามาดูถูกอาโทวผู้นี้นะ”

“แ- แม้แต่สิ่งนี้ก็ยังจัดการเจ้าไม่ได้งั้นรึ…”

อาโทวจ้องกลับไปที่ไอซ์ร็อค

ถึงตาของเธอแล้ว

ตามปกติแล้ว ในเกม RPG เมื่อเทิร์นของผู้เล่นคนหนึ่งจบ ต่อไปจะเป็นเทิร์นของอีกฝ่ายเพื่อสวนกลับ

บางทีอาจจะมีบางอย่างแปลกไป เพราะอีกฝ่ายตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขของเกมจำลองสถานการณ์ แต่หลังจากที่ปลดปล่อยท่าพิเศษไปแล้ว จะไม่สามารถทำการโต้ตอบด้วยท่าโจมตีใหญ่ๆแบบนั้นได้อีก

ดังนั้น อาโทวจึงใส่พลังลงไปในรยางค์ของเธออีกครั้ง

รยางค์ของเธอเริ่มเปลี่ยนรูปร่างและส่งเสียงแปลกประหลาด เธอใส่พลังลงไปราวกับว่ามันเป็นการโจมตีครั้งสุดท้าย

เหมือนธนูที่ถูกน้าวจนสุดสาย….

“ตายซะ! ตายอย่างพวกตัวประกอบในเกม RPG ไปเลย!!”

อาโทวปลดปล่อยการโจมตีที่ดีที่สุดของเธอ

“อ่า จอมมาร…ขอให้ท่านจ–”

ไอซ์ร็อคสลายกลายเป็นแสง

เหรียญทองจำนวนมากได้ปรากฎออกมา

อาโทวหัวเราะเสียงดังในขณะที่ก้มลงมองเหรียญทองด้วยความเย้ยหยัน

“มีราชาในโลกได้เพียงคนเดียวเท่านั้น คือท่านอิระ ทาคุโตะ! ศัตรูทั้งหมดจะต้องถูกทำลาย! ใครที่ไม่ยอมก้มหัวให้ราชาของฉัน ไม่ว่าจะดีหรือเลว จะไม่ได้รับการไว้ชีวิต! ฮ่าฮ่าฮ่า! ฮ่าฮ่าฮ่า!”

พร้อมกันนั้น รยางค์ของเธอก็ยืดยาวออกไปทุกทิศทาง

รยางค์ของเธอเข้าโจมตีใส่มอนสเตอร์ที่เหลืออยู่ในสนามรบ

ระยะของมันเท่ากับธนู ส่วนการโจมตีก็หนักหน่วงราวกับยักษ์ภูเขา

และยิ่งไปกว่านั้น ความโหดเหี้ยมที่ไร้ซึ่งความปราณี

รยางค์เหล่านั้นยังเข้าจู่โจมใส่พวกมอนสเตอร์ที่เป็นลูกน้องของไอซ์ร็อคซึ่งคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ในระยะไกลอีกด้วย

 ………

 ……

 …

“เรากำจัดกองทัพปีศาจเรียบร้อยแล้ว” 

หลังจากนั้นสักพัก

ปีศาจที่สูญเสียการควบคุมเนื่องจากการตายของไอซ์ร็อคเริ่มที่จะวิ่งหนี ไม่ว่าจะเป็นเพราะพวกมันตระหนักได้ว่าสถานการณ์ย่ำแย่ หรือเพราะไม่อาจขัดขืนสัญชาตญาณได้ก็ตาม

หน่วยคุ้มกันเมืองมังกร และกองทัพของไมน็อกกราห์ยังคงอยู่ดี ถึงจะมีความเสียหายบ้างก็ตาม

ในขณะเดียวกัน อาโทวที่เป็นฮีโร่ของไมน็อกกราห์เองก็ยังสบายดี  ไม่ว่ามอนสเตอร์จะพุ่งเข้าใส่เธอมากแค่ไหน เธอก็รับมือพวกมันได้อย่างง่ายดาย

อาโทวรู้สึกโล่งอก เธอได้เตรียมตัวถึงความเป็นไปได้ที่แย่ที่สุดเอาไว้ อย่างพวกความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเมือง

“พวกมอนสเตอร์ถอยทัพไปแล้วงั้นหรอ…..? เป็นเพราะเสียผู้นำไปสินะ แต่โชคดีที่พวกมันไม่ได้แตกตื่นพุ่งเข้าใส่เมือง”

อาโทวเอามือกุมท้องโดยที่ไม่ให้ใครเห็น

ความเจ็บปวดที่คอยกัดกินความภาคภูมิใจของเธอ

ฮีโร่ที่เกิดมาเพื่อการต่อสู้ไม่ได้สนใจความเจ็บปวดพวกนั้น แต่ความจริงที่ว่าเธอได้รับบาดเจ็บอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้เธอรู้สึกอัปยศอย่างถึงที่สุด เธอโกรธมากจนทำให้ความเจ็บปวดยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก

 

“ถึงจะได้รับคำเตือนทั้งหมดนั้นมาแล้ว แต่ก็ยังล้มเหลว ช่างไร้ค่า….ไม่คู่ควร! ฉันมันไม่คู่ควรจะเป็นฮีโร่ของไมน็อกกราห์ ไม่คู่ควรจะเป็นฮีโร่ของท่านทาคุโตะ!”

อาโทวกัดฟันและมองไปข้างหน้า

จุดหมายของเหล่ามอนสเตอร์ที่หนีไป กองทัพจากเกม RPG ทัพหลักของพวกมันรออยู่ข้างหน้านั้น

“แต่การต่อสู้กับพวกที่มาจากเกมอื่นค่อนข้างยุ่งยาก มันคาดเดาไม่ได้ เพราะพวกนั้นอยู่ภายใต้กฎที่แตกต่างจากเรา”

อาโทวใช้สมองเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันอย่างรวดเร็ว

ตอนแรกเธอคิดว่าโลกนี้ถูกควบคุมด้วยกฎของเกมจำลองสถานการณ์แบบเดียวกับเธอ

อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีพวกนั้นเปลี่ยนไปเมื่อพวกจากเกม RPG เข้ามา

ที่จริง อาโทวคิดว่ามันอันตรายกว่าหากเธอทำการตัดสินใจต่างๆ โดยอิงจากสติปัญญาอันตื้นเขินของเธอ

ภาพของราชาผู้เป็นที่รักยิ่งได้ปรากฎขึ้นมาในหัว

เธอจะอธิบายสถานการณ์นี้ยังไง และยิ่งไปกว่านั้น เขาจะผิดหวังหรือเปล่าที่เห็นเธอได้รับบาดเจ็บ

แน่นอน เธอเข้าใจดีว่าราชาของเธอไม่ใช่คนใจแคบอะไรแบบนั้น

อย่างไรก็ตาม เธออยากจะรายงานว่าทำภารกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อที่จะได้รับคำชม

ความคิดมากมายตีกันอยู่ในหัว

“อ๊าา! บ้าจริง!”

ในที่สุด เธอก็ส่งเสียงดังและสะบัดศรีษะไปมา

ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ เธอจะมามัวสับสนอยู่ว่าต้องทำอะไรไม่ได้

เมื่อเธอรู้สึกตัวก็พบว่าแมลงขายาวได้รออยู่รอบๆตัวแล้ว

เพื่อตอบสนองกับศัตรูที่หนีไป พวกมันจึงมาขอคำแนะนำ

“แมลงขายาว! จัดการกับกองทัพศัตรูที่หนีไปเพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์ซะ! เดี๋ยวฉันจะให้ท่านทาคุโตะอัพเกรดให้พวกนายทีหลัง”

“กิกิกี้”

แมลงขายาวมุ่งไปยังทิศทางที่มอนสเตอร์หนีไปด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง

เพราะในศึกป้องกันนี้ให้ค่าประสบการณ์ที่สูงมาก มันจึงเป็นไปได้ที่จะได้รับการพัฒนา หรือกลายเป็นยูนิตที่แข็งแกร่งมากขึ้นจากการอัพเกรด

ผู้แพ้สูญเสียทุกสิ่ง และผู้ชนะก็ได้ทุกอย่าง

การที่ได้ยูนิตที่ทรงพลังขึ้นในช่วงนี้จะเป็นประโยชน์ต่อไมน็อกกราห์อย่างมาก

“ฉันอยากจะไปไล่ล่าด้วยเหมือนกัน แต่ว่า…จะทำอะไรก่อนดี? –ไม่สิ ฉันต้องรายงานท่านทาคุโตะ”

เธอยังต้องคอยออกคำสั่งทหารของไมน็อกกราห์ รวมไปถึงผู้เฒ่ามอลทาร์ด้วย

ยิ่งกว่านั้น พวกเขาต้องรยางานไปยังทาคุโตะ

ถ้าเธอพุ่งเข้าไปร่วมการไล่ล่าพวกนั้น เธอต้องยอมแพ้เรื่องการบัญชาการ หรือแม้แต่ฐานะฮีโร่ของเธอ

ด้วยพึงระลึกถึงสิ่งนั้น อาโทวสูดลมหายใจลึก และตั้งสมาธิเพื่อส่งเทเลพาธีไปหาทาคุโตะ

ในเทเลพาธีนั้น เธอพูดราวกับเด็กสาวผู้น่ารัก ไม่เหมือนตอนที่สู้กับไอซ์ร็อคก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย

(ท่านทาคุโตะคะ! ภารกิจคุ้มกันเมืองมังกรเสร็จสิ้นเรียบร้อยค่ะ

กองทัพของราชาสวรรค์ได้รุกรานเข้ามา แต่พวกมันถูกตีพ่ายไปแล้ว ตราบเท่าที่มีอาโทวผู้นี้ การจัดการพวกมันก็เป็นเรื่องง่ายๆค่ะ

อย่างไรก็ตาม คือว่า…ฉันประมาทไปหน่อย… ยังมีรายงานเรื่องอื่นๆ แต่ก่อนหน้านั้น ได้โปรดชื่นชมอาโทวคนนี้ที่ทำงานอย่างหนัก….)

อาโทวเริ่มบทสนทนาด้วยความเขินอายเล็กน้อย

เมื่อเธอพูดคุยกับทาคุโตะ เธอมักจะก้มหน้าลงหลายครั้ง อาจจะเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากลักษณะนิสัยแบบคนญี่ปุ่นของทาคุโตะ…

อย่างไรก็ตาม น้ำเสียงสดใสและรอยยิ้มอย่างมีความสุขของเธอก็หม่นหมองลงในทันที

(…..เอ๋?)

ทันใดนั้น ใบหน้าของหญิงสาวก็เปลี่ยนจากเด็กสาวธรรมดาทั่วไป กลายเป็นใบหน้าของปีศาจ

–กองทัพของศัตรูได้บุกโจมตีฐานของไมน็อกกราห์

ข้อความที่ทาคุโตะส่งมาเพียงพอที่จะทำให้จิตใจและวิญญาณของอาโทวสั่นสะเทือน

 

มาแล้ว สวัสดีปีใหม่แจ้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ 35 Conflict between Evils 3

Now you are reading [นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ Chapter 35 Conflict between Evils 3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“”โกววววววว!!”

เสียงคำรามที่ราวกับสัตว์ป่าดังไปทั่วสนามรบ

ไม่เหลือคราบนักรบผู้สูงส่งแบบก่อนหน้านี้ เขาเพียงคำรามออกมาเหมือนสัตว์ป่าที่กำลังทุกข์ทรมาน

เลือดสีแดงฉานไหลออกจากตา

มันคือท่าทีเจ็บปวดและสิ้นหวังของชายผู้ที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ และทำให้เขารู้ว่าตนเองเป็นเพียงแค่ตัวละครบนเวทีที่ไร้ซึ่งอิสระใดๆ

อาโทวดูยินดี และสนุกสนานไปกับท่าทีที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเศร้าโศกของศัตรู

เธอนั้นเชื่อในตัวของทาคุโตะจนหมดใจ จะบอกว่าเธอเป็นสาวกอันคลั่งไคล้เลยก็ว่าได้…

ถึงพวกเขาจะเป็นตัวละครในเกมเหมือนกัน แต่พวกเขาก็แตกต่างกันมาก

“นี่แหละ คือจุดเริ่มต้นที่แท้จริง! คือจุดเริ่มต้นของการพิชิตโลกใบนี้! ครั้งนี้ พวกเราจะต้องชนะ!”

อาโทวและไอซ์ร็อคเผชิญหน้ากันบนสนามรบ พร้อมกับเหรียญทองที่ส่องประกายอยู่บนพื้น

หนึ่งในราชาสวรรค์แห่งกองทัพจอมมาร ไอซ์ร็อค ปีศาจน้ำแข็ง ผู้ที่สูญเสียทหารไปเกือบทั้งหมด และกำลังจะสูญเสียเหตุผลในการมีตัวตนของตนเอง

แต่ก็เหมือนกับอาโทวที่มีทาคุโตะเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ไอซ์ร็อคเองก็มีของแบบนั้นอยู่เช่นกัน

“ถึงเวลาที่จะนำชัยชนะมาให้นายท่านของพวกเรา จอมมาร! ข้าคือไอซ์ร็อค ราชาสวรรค์น้ำแข็ง ผู้ที่จะบดขยี้ศัตรูให้สิ้น!”

ทันใดนั้นจิตวิญญาณของเขาก็ลุกโชน

ถ้าเกิดเป็นตอนอยู่ในเกม RPG มันก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากข้อมูลเดิม

อย่างไรก็ตาม มันคือความภาคภูมิใจของนักรบ และเหนือยิ่งกว่านั้น มันคือความปรารถนา

ในทางกลับกัน อาโทวหัวเราะเยาะให้กับคำตอบของไอซ์ร็อค การตัดสินใจที่เขาทำด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกตั้งแต่มายังโลกใบนี้

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ตลกจริงๆ! ตลกชะมัดเลย! ด้วยความมุ่งมั่นเพียงแค่นั้น! ปณิธานแค่นั้นน่ะหรอ? จะจัดการกับฉันด้วยพลังแค่นั้นเนี่ยนะ? นี่แกฝันอยู่รึไง?”

อาโทวหัวเราะไม่หยุด

เธอไม่สนใจเรื่องปณิธานอันสูงส่งอะไรนั่นของอีกฝ่ายอยู่แล้ว

ไอซ์ร็อคตัวสั่นที่อาโทวปฏิบัติราวกับว่าเขาเป็นแค่เศษสวะไร้ค่าที่หาได้ตามข้างถนนทั่วไป

หญิงสาวตนนั้นคือปีศาจ

เธอมองว่าคนอื่นที่นอกเหนือจากทาคุโตะและตัวเองเป็นพวกที่ไม่คู่ควร เธอไม่เข้าใจเจตนารมย์และความมุ่งมั่นของไอซ์ร็อค

 

ราวกับมนุษย์ที่ไม่พูดคุยกับสัตว์

ราวกับสัตว์ที่ไม่พูดคุยกับแมลง

ราวกับแมลงที่ไม่พูดคุยกับก้อนหิน

–อาโทวไม่สนใจคนอื่นนอกจากทาคุโตะ

“ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะปฏิเสธทุกสิ่งที่แกเชื่อซะ! ฉันจะทำลายทุกอย่างที่แกเชื่อมั่น! ฉันคืออาโทวแห่งโคลนเลน! โลกใบนี้มีราชาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือนายท่านของฉัน ท่านอิระ ทาคุโตะ!”

เธอคืออาโทวแห่งโคลนเลน

เธอคือฮีโร่ของไมน็อกกราห์

ดังนั้น การต่อสู้ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายจึงเริ่มต้นขึ้น

สำหรับไอซ์ร็อค นี่คือการต่อสู้เพื่อความภาคภูมิใจ และความเชื่อมั่นของเขา

ขวานศึกของเขาเหวี่ยงไปมาอย่างไร้ทิศทาง และพื้นดินก็สั่นสะเทือนเพราะพละกำลังมหาศาลนั้น

รยางค์ของอาโทวแกว่งไปมาราวกับแส้ และดาบศักดิ์สิทธิ์เองก็ถูกเหวี่ยงลงเบาๆ

เธอหลบการโจมตีอันรุนแรงของไอซ์ร็อค และโจมตีกลับอย่างดุดันด้วยดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับพรจากพระเจ้า

ไอซ์ร็อคกระทืบลงบนพื้นอย่างรุนแรงจนเศษดินแตกกระจายไปทั่ว ก้อนหินเหล่านั้นได้กลายเป็นน้ำแข็งและพุ่งเข้าใส่ร่างเล็กๆของอาโทว

อาโทวใช้รยางค์ของเธอแทงลงไปบนพื้นอย่างรวดเร็ว และดึงตัวเองกลับเพื่อหลบการโจมตีก่อนหน้านี้

จากนั้นเธอจึงเริ่มโจมตีอีกครั้ง

การต่อสู้กันด้วยความรวดเร็วระดับเทพที่กำลังดำเนินอยู่ ราวกับเป็นการต่อสู้ในตำนาน

การต่อสู้ส่งผลให้พื้นดินสึกหรอ และอากาศก็สั่นสะเทือนเพราะแรงปะทะ

ผลกระทบนี้ส่งไปถึงเมืองมังกร การต่อสู้เหนือมนุษย์นี้ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นต่างก็สั่นสะท้านไปจนถึงส่วนลึกของวิญญาณ

“มันจะไม่จบลงแบบนั้น! ข้าไม่ยอมหรอก! ต่อให้ข้าต้องตายลงที่นี่ ข้าก็จะบดขยี้เจ้าให้ได้!”

“อะฮะฮะฮะ! อะไรล่ะนั่น!? นั่นมันคำพูดในหนังสือไม่ใช่หรอ! นี่แกตั้งใจจะเล่นฉากจบให้ฉันดูหรือไงกัน?”

อาโทวหัวเราะออกมาเสียงดัง คำพูดของเธอเต็มไปด้วยเจตนาร้าย

ไมน็อกกราห์คืออารยธรรมที่ชั่วร้ายมากที่สุดใน Eternal Nations

เพราะแบบนี้ จึงทำให้ฮีโร่ของไมน็อกกราห์ต่างก็มีความสุขกับความทรมานของคนอื่น

“เฮ้! เฮ้! แล้วแกจะพลิกสถานการณ์นี้ยังไงล่ะ!? จะฆ่าฉันได้ยังไงล่ะ หืม? ต่อให้คิดจนหัวแทบแตกก็เถอะ มันเป็นไปไม่ได้หรอกนะ!”

ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนสถานการณ์จะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม เขาก็ไม่สามารถยืนอยู่เฉยๆได้ จึงได้แต่โจมตีต่อไป เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะฟังคำพูดยั่วยุพวกนั้นด้วยซ้ำ

แม้จะถูกต้อนจนมุมแล้ว แต่ไอซ์ร็อคก็พยายามทำหน้าที่ของเขาให้ดีที่สุด

แต่ความเป็นจริงช่างน่าเศร้า

มอนสเตอร์ในเกม RPG มักจะมีรูปแบบตายตัว

ก่อนอื่นเลย ในเกมจะมีรูปแบบการเคลื่อนไหวอยู่ไม่กี่อย่าง ซึ่งเพียงพอที่จะให้ผู้เล่นสนุกไปกับมัน ในทางกลับกัน ถ้ามันมีรูปแบบการเคลื่อนไหวที่มากเกินไป ไม่เพียงแต่มันจะทำให้เกิดบั๊กหรือเออเร่อร์ แต่มันจะทำให้เหล่าผู้เล่นสับสนและลดความสนุกของเกมไป

ท้ายที่สุดแล้ว การต่อสู้ของไอซ์ร็อคมีรูปแบบที่ซ้ำซากเกินไป จึงทำให้ง่ายต่อการคาดเดา

“ฉันอ่านการโจมตีของแกออกหมดแล้ว แกนี่มัน….ขยะจริงๆเลยนะ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

อาโทวพุ่งตัวเข้าใส่หน้าอกของไอซ์ร็อค ราวกับว่าเธอรู้ทิศทางที่เขาจะเหวี่ยงขวานมาอยู่แล้ว

เขารีบปล่อยขวานศึกและยิงกระสุนน้ำแข็ง แต่อาโทวก็เลียดตัวไปกับพื้นเหมือนงูและหลบพวกมันทั้งหมด เหมือนเธอรู้อยู่แล้วว่ามันจะมาจากทางไหน

ถ้านี่เป็นในเกม การโจมตีของไอซ์ร็อคคงจะมีข้อความขึ้นแล้วว่า “อาโทวได้รับความเสียหาย 0”

จากนั้นก็เปลี่ยนเทิร์น และในที่สุดการโจมตีของอาโทวก็โดนร่างกายของไอซ์ร็อค

“ติดคริติคอล! อ๊ะ! ฉันควรจะทำยังไงดี! แกได้รับความเสียหายเกินกว่าที่คาดไว้อีก! เป็นอะไรรึเปล่า? เหลือ HP เท่าไหร่แล้ว? ขอโทษทีนะ พอดีไม่ได้อ่านคู่มือมา เลยไม่รู้ว่าจะระดับต่ำขนาดนี้…..!”

ท่อนแขนอันใหญ่โตได้หล่นลงบนพื้น

แม้ว่าเขาจะป้องกันไม่ให้ถูกฟันเข้าที่ท้องได้ แต่เขากลับต้องเสียแขนไปหนึ่งข้าง

ขวานศึกของไอซ์ร็อคจะแสดงพลังที่แท้จริงได้ก็ต่อเมื่อเหวี่ยงมันด้วยมือทั้งสองข้างเท่านั้น ในเมื่อตอนนี้เขาใช้มือได้เพียงข้างเดียว จึงทำให้พลังโจมตีของมันตกลงไปต่ำกว่าครึ่ง

ต่อให้ใช้พลังทั้งหมดแล้ว เขาก็ยังไม่สามารถโจมตีโดนเธอได้ แล้วจะจัดการกับศัตรูด้วยแขนข้างเดียวได้ยังไง?

สีหน้าของไอซ์ร็อคเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

=======================================

สมดุลของการต่อสู้เริ่มเอนเอียงมาทางอาโทว

อย่างไรก็ตาม อาโทวถอยกลับอย่างเร่งรีบ

คำพูดพวกนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดความเสี่ยง แต่การโจมตีโดยประมาทอาจจะทำให้ศัตรูฉวยโอกาสสวนกลับเอาได้

ต่อให้เธอจะชื่นชอบการทรมานผู้ที่อ่อนแอกว่า แต่เธอยังคงสงบและไม่ประมาทอีกฝ่าย

เป็นเพราะสัญชาติญาณของฮีโร่ที่บอกให้เธอทำแบบนั้น?

หรือเป็นเพราะสัญชาติญาณของปีศาจที่ทำให้เธอไม่ประมาทคู่ต่อสู้กันแน่?

ความเป็นไปได้ที่จะคว้าชัยชนะของไอซ์ร็อคได้มลายหายไปราวกับทรายที่โดนลมพัด

อย่างไรก็ตาม ไอซ์ร็อคยังคงดิ้นรน

เขาตัดสินใจที่จะปลดปล่อยท่าไม้ตายลับ ก่อนที่มันจะสายเกินไป

“ฮึ่มม! ถ้างั้นก็รับนี่ไปซะ ท่าไม้ตายของข้า!”

อากาศเย็นยะเยือกแผ่ออกมาจากร่างของไอซ์ร็อค

มันแผ่กระจายออกมาโดยมีตัวเขาเป็นจุดศูนย์กลาง ทันใดนั้น พื้นที่รอบๆก็ถูกแช่แข็ง

ขวานศึกของเขาได้ส่งเสียงแหลมออกมา

พลังที่มากจนสามารถทำลายอาวุธของเขาได้ถูกบังคับใส่เข้าไปในนั้น และร่างกายของไอซ์ร็อคซึ่งโค้งงออย่างมากได้พองตัวขึ้นราวกับแสดงให้เห็นถึงพลังของเขา

อาโทวจ้องมองฉากนั้นอย่างเงียบๆ ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

วินาทีต่อมา รยางค์ที่ปรากฏออกมาด้านหลังเธอได้รวมตัวเข้ารอบๆดาบศักดิ์สิทธิ์ และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นหอกขนาดยักษ์

“มาเถอะ โจมตีฉันด้วยสกิลที่ดีที่สุดของแกได้เลย แล้วจากนั้นก็พ่ายแพ้อย่างน่าสมเพชไปซะ”

คำพูดและท่าทีของเธอไม่ได้ปิดบังเจตนาร้ายไว้แม้แต่น้อย

จิตสังหารได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากทั่วทั้งร่างของเธอ

ราวกับตอบสนองกับคำพูดนั้น หอกซึ่งทำจากรยางค์ของเธอได้เพิ่มความแข็งขึ้นไปอีก

–และก็เหมือนอย่างเคย

การดิ้นรนที่ถูกเรียกว่าท่าไม้ตายได้ถูกปลดปล่อยออกมา

“โอ้ววว! Glacier-busting slash!”

ทั้งคู่ต่างเข้าโจมตีและป้องกัน อย่างไรก็ตาม ชั่วขณะนั้นราวกับเวลาไหลช้าลงอย่างไม่มีสิ้นสุด

อากาศเย็นยะเยือกได้ระเบิดออกมาจากร่างกายของไอซ์ร็อค และโจมตีใส่อาโทวราวกับพายุหิมะและห่อหุ้มผิวของเธอด้วยชั้นน้ำแข็งบางๆ

พื้นดินค่อยๆถูกแช่แข็งและแผ่ขยายออกไปราวกับมีชีวิต ทำให้ข้อเท้าของเธอถูกแช่แข็งเอาไว้

ในอากาศเย็นยะเยือกนั้น คือความหนาวเหน็บที่ทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องหลับตาสั่นและถูกแช่แข็ง

อย่างไรก็ตาม อาโทวยังคงมองตรงไปข้างหน้า

ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังขวานศึกน้ำแข็งที่ฟันลงมา

ท่าสังหารของไอซ์ร็อคแค่ทำให้อาโทวรู้สึกเย็นมากกว่าปกติ

“ฮ่าฮ่าฮ่า! แกคิดว่าน้ำแข็งแค่นี้จะหยุดฉันได้งั้นหรอ? แกประเมินฉันต่ำไป–”

ทันใดนั้นเหตุการณ์แปลกๆได้เกิดขึ้น

ชั่วขณะที่ผู้ล่าและเหยื่อได้สบตากัน ภายในเสี้ยววินาทีนั้น

อาโทวพลาด…. ให้กับการโจมตีที่เธอน่าจะหลบได้

“อะไรกัน!?”

อาโทวไม่สามารถขยับขาของเธอได้

เป็นเพราะข้อเท้าของเธอถูกแช่แข็งไว้กับพื้น

อย่างไรก็ตาม อาโทวไม่ได้อ่อนแอจนจะถูกหยุดไว้ด้วยน้ำแข็งระดับนี้ได้

มันไม่ใช่

เท้าของเธอถูกยึดไว้เพราะอย่างอื่น บางอย่างที่ผิดปกติ

พลาดแล้–

ร่างกายของเธอพยายามต่อต้านการโจมตีของไอซ์ร็อค

“อั่ก!!”

ผลจากการโจมตีและป้องกัน เป็นอาโทวที่ล้มลง

เธอน่าจะเอาชนะศัตรูได้อย่างท่วมท้น

การโจมตีที่อาโทวปลดปล่อยออกไปเหนือกว่าคู่ต่อสู้อย่างมาก และจังหวะเวลานั้นก็สมบูรณ์แบบ

ถ้าเป็นตามปกติ เธอน่าจะสามารถรับมือกับการโจมตีของอีกฝ่าย และสวนกลับอย่างรุนแรงได้

แต่เธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้ และนั่นทำให้ศัตรูของเธอมีโอกาสสวนกลับ

ดวงตาของอาโทวเบิกกว้าง และกลอกไปมาอย่างสับสน เธอพยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ตรงหน้า

ไอซ์ร็อคหยุดเคลื่อนไหวราวกับถูกพันธนาการอยู่ บางทีนั่นอาจจะเป็นผลกระทบจากท่าพิเศษที่เขาใช้

น้ำแข็งที่ปกคลุมร่างของอาโทวแตกเป็นชิ้นๆ

ร่างของเธอเริ่มขยับ สติของเธอยังคงแจ่มชัด ไม่มีผลกระทบจากการโจมตีทางจิตใจ

บางสิ่งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนได้เกิดขึ้น

สัญชาตญาณต่อสู้ในฐานะฮีโร่ของไมน็อกกราห์ได้บอกกับเธอว่า เธอได้รับการโจมตี

(–เป็น! เป็นไปไม่ได้! นี่เราโดนโจมตีหรอ!)

อาโทวตกตะลึง

ความสับสนทำให้ความคิดที่รวดเร็วของเธอหยุดทำงาน และข้อสรุปเหล่านั้นก็คือร่องรอยการโจมตีที่เหลืออยู่บนร่าง

ฮีโร่ของไมน็อกกราห์เป็นยูนิตต่อสู้ที่มีความสามารถเทียบเท่ากับกองทัพ

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย

ยิ่งกว่านั้น การโจมตีก่อนหน้าเกินกว่าที่เธอคาดเอาไว้ และความเสียหายก็ค่อนข้างรุนแรง

คงจะแย่กว่านี้ถ้าเธอไม่ได้ดูดกลืนสกิลป้องกันจากโกเลมหินเอาไว้

อาโทวขอบคุณในความโชคดีของเธอ เธอเริ่มประเมินสถานการณ์ขณะที่ก่นด่าให้กับความประมาทของตัวเอง

(นี่มัน ‘การโจมตีที่ไม่อนุญาตให้หลบหลีกหรือสวนกลับ’ งั้นหรอ!? ฉันอยู่ภายใต้เงื่อนไขของเกมจำลองสถานการณ์ ส่วนอีกฝ่ายก็อยู่ภายใต้เงื่อนไขของเกม RPG สินะ? การโจมตีที่หลบไม่ได้นี่มันจะโกงเกินไปแล้ว!)

อวัยวะภายในได้ทะลักออกมาจากบาดแผลที่ฉีกกว้างตั้งแต่บ่าลงไปจนถึงช่วงอก

ในที่สุด หลังจากผลกระทบของการใช้ท่าพิเศษได้หมดลง ไอซ์ร็อคก็เบนสายตามายังอาโทว และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

ไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่จะรอดไปได้หลังจากอวัยวะภายในทะลักออกมาแบบนั้น

ต่อให้เป็นปีศาจอย่างไอซ์ร็อคก็คงจะทุกข์ทรมานกับอาการบาดเจ็บสาหัส

ไอซ์ร็อคมีหวังขึ้นมา เมื่อพบว่าการโจมตีของเขาประสบผลสำเร็จ ก่อนหน้านี้เขาไม่คิดว่ามันจะได้ผลด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม อวัยวะภายในที่ไหลออกมาจากร่างของหญิงสาวคนนั้นมีการเปลี่ยนแปลง

อวัยวะภายในที่ไหลออกมาจากช่วงอกพร้อมๆกับเลือดที่ทะลักออกมา ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำ

จนในที่สุด มันก็กลายเป็นโคลนไหลลงมากองอยู่ที่เท้าของเธอ และถูกดูดซึมกลับเข้าไปในร่าง

ไม่มีบาดแผลหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย…

อาโทวแห่งโคลนเลนยังคงยืนอยู่ตรงนั้น

“อย่ามาดูถูกอาโทวผู้นี้นะ”

“แ- แม้แต่สิ่งนี้ก็ยังจัดการเจ้าไม่ได้งั้นรึ…”

อาโทวจ้องกลับไปที่ไอซ์ร็อค

ถึงตาของเธอแล้ว

ตามปกติแล้ว ในเกม RPG เมื่อเทิร์นของผู้เล่นคนหนึ่งจบ ต่อไปจะเป็นเทิร์นของอีกฝ่ายเพื่อสวนกลับ

บางทีอาจจะมีบางอย่างแปลกไป เพราะอีกฝ่ายตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขของเกมจำลองสถานการณ์ แต่หลังจากที่ปลดปล่อยท่าพิเศษไปแล้ว จะไม่สามารถทำการโต้ตอบด้วยท่าโจมตีใหญ่ๆแบบนั้นได้อีก

ดังนั้น อาโทวจึงใส่พลังลงไปในรยางค์ของเธออีกครั้ง

รยางค์ของเธอเริ่มเปลี่ยนรูปร่างและส่งเสียงแปลกประหลาด เธอใส่พลังลงไปราวกับว่ามันเป็นการโจมตีครั้งสุดท้าย

เหมือนธนูที่ถูกน้าวจนสุดสาย….

“ตายซะ! ตายอย่างพวกตัวประกอบในเกม RPG ไปเลย!!”

อาโทวปลดปล่อยการโจมตีที่ดีที่สุดของเธอ

“อ่า จอมมาร…ขอให้ท่านจ–”

ไอซ์ร็อคสลายกลายเป็นแสง

เหรียญทองจำนวนมากได้ปรากฎออกมา

อาโทวหัวเราะเสียงดังในขณะที่ก้มลงมองเหรียญทองด้วยความเย้ยหยัน

“มีราชาในโลกได้เพียงคนเดียวเท่านั้น คือท่านอิระ ทาคุโตะ! ศัตรูทั้งหมดจะต้องถูกทำลาย! ใครที่ไม่ยอมก้มหัวให้ราชาของฉัน ไม่ว่าจะดีหรือเลว จะไม่ได้รับการไว้ชีวิต! ฮ่าฮ่าฮ่า! ฮ่าฮ่าฮ่า!”

พร้อมกันนั้น รยางค์ของเธอก็ยืดยาวออกไปทุกทิศทาง

รยางค์ของเธอเข้าโจมตีใส่มอนสเตอร์ที่เหลืออยู่ในสนามรบ

ระยะของมันเท่ากับธนู ส่วนการโจมตีก็หนักหน่วงราวกับยักษ์ภูเขา

และยิ่งไปกว่านั้น ความโหดเหี้ยมที่ไร้ซึ่งความปราณี

รยางค์เหล่านั้นยังเข้าจู่โจมใส่พวกมอนสเตอร์ที่เป็นลูกน้องของไอซ์ร็อคซึ่งคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ในระยะไกลอีกด้วย

 ………

 ……

 …

“เรากำจัดกองทัพปีศาจเรียบร้อยแล้ว” 

หลังจากนั้นสักพัก

ปีศาจที่สูญเสียการควบคุมเนื่องจากการตายของไอซ์ร็อคเริ่มที่จะวิ่งหนี ไม่ว่าจะเป็นเพราะพวกมันตระหนักได้ว่าสถานการณ์ย่ำแย่ หรือเพราะไม่อาจขัดขืนสัญชาตญาณได้ก็ตาม

หน่วยคุ้มกันเมืองมังกร และกองทัพของไมน็อกกราห์ยังคงอยู่ดี ถึงจะมีความเสียหายบ้างก็ตาม

ในขณะเดียวกัน อาโทวที่เป็นฮีโร่ของไมน็อกกราห์เองก็ยังสบายดี  ไม่ว่ามอนสเตอร์จะพุ่งเข้าใส่เธอมากแค่ไหน เธอก็รับมือพวกมันได้อย่างง่ายดาย

อาโทวรู้สึกโล่งอก เธอได้เตรียมตัวถึงความเป็นไปได้ที่แย่ที่สุดเอาไว้ อย่างพวกความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเมือง

“พวกมอนสเตอร์ถอยทัพไปแล้วงั้นหรอ…..? เป็นเพราะเสียผู้นำไปสินะ แต่โชคดีที่พวกมันไม่ได้แตกตื่นพุ่งเข้าใส่เมือง”

อาโทวเอามือกุมท้องโดยที่ไม่ให้ใครเห็น

ความเจ็บปวดที่คอยกัดกินความภาคภูมิใจของเธอ

ฮีโร่ที่เกิดมาเพื่อการต่อสู้ไม่ได้สนใจความเจ็บปวดพวกนั้น แต่ความจริงที่ว่าเธอได้รับบาดเจ็บอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้เธอรู้สึกอัปยศอย่างถึงที่สุด เธอโกรธมากจนทำให้ความเจ็บปวดยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก

 

“ถึงจะได้รับคำเตือนทั้งหมดนั้นมาแล้ว แต่ก็ยังล้มเหลว ช่างไร้ค่า….ไม่คู่ควร! ฉันมันไม่คู่ควรจะเป็นฮีโร่ของไมน็อกกราห์ ไม่คู่ควรจะเป็นฮีโร่ของท่านทาคุโตะ!”

อาโทวกัดฟันและมองไปข้างหน้า

จุดหมายของเหล่ามอนสเตอร์ที่หนีไป กองทัพจากเกม RPG ทัพหลักของพวกมันรออยู่ข้างหน้านั้น

“แต่การต่อสู้กับพวกที่มาจากเกมอื่นค่อนข้างยุ่งยาก มันคาดเดาไม่ได้ เพราะพวกนั้นอยู่ภายใต้กฎที่แตกต่างจากเรา”

อาโทวใช้สมองเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันอย่างรวดเร็ว

ตอนแรกเธอคิดว่าโลกนี้ถูกควบคุมด้วยกฎของเกมจำลองสถานการณ์แบบเดียวกับเธอ

อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีพวกนั้นเปลี่ยนไปเมื่อพวกจากเกม RPG เข้ามา

ที่จริง อาโทวคิดว่ามันอันตรายกว่าหากเธอทำการตัดสินใจต่างๆ โดยอิงจากสติปัญญาอันตื้นเขินของเธอ

ภาพของราชาผู้เป็นที่รักยิ่งได้ปรากฎขึ้นมาในหัว

เธอจะอธิบายสถานการณ์นี้ยังไง และยิ่งไปกว่านั้น เขาจะผิดหวังหรือเปล่าที่เห็นเธอได้รับบาดเจ็บ

แน่นอน เธอเข้าใจดีว่าราชาของเธอไม่ใช่คนใจแคบอะไรแบบนั้น

อย่างไรก็ตาม เธออยากจะรายงานว่าทำภารกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อที่จะได้รับคำชม

ความคิดมากมายตีกันอยู่ในหัว

“อ๊าา! บ้าจริง!”

ในที่สุด เธอก็ส่งเสียงดังและสะบัดศรีษะไปมา

ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ เธอจะมามัวสับสนอยู่ว่าต้องทำอะไรไม่ได้

เมื่อเธอรู้สึกตัวก็พบว่าแมลงขายาวได้รออยู่รอบๆตัวแล้ว

เพื่อตอบสนองกับศัตรูที่หนีไป พวกมันจึงมาขอคำแนะนำ

“แมลงขายาว! จัดการกับกองทัพศัตรูที่หนีไปเพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์ซะ! เดี๋ยวฉันจะให้ท่านทาคุโตะอัพเกรดให้พวกนายทีหลัง”

“กิกิกี้”

แมลงขายาวมุ่งไปยังทิศทางที่มอนสเตอร์หนีไปด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง

เพราะในศึกป้องกันนี้ให้ค่าประสบการณ์ที่สูงมาก มันจึงเป็นไปได้ที่จะได้รับการพัฒนา หรือกลายเป็นยูนิตที่แข็งแกร่งมากขึ้นจากการอัพเกรด

ผู้แพ้สูญเสียทุกสิ่ง และผู้ชนะก็ได้ทุกอย่าง

การที่ได้ยูนิตที่ทรงพลังขึ้นในช่วงนี้จะเป็นประโยชน์ต่อไมน็อกกราห์อย่างมาก

“ฉันอยากจะไปไล่ล่าด้วยเหมือนกัน แต่ว่า…จะทำอะไรก่อนดี? –ไม่สิ ฉันต้องรายงานท่านทาคุโตะ”

เธอยังต้องคอยออกคำสั่งทหารของไมน็อกกราห์ รวมไปถึงผู้เฒ่ามอลทาร์ด้วย

ยิ่งกว่านั้น พวกเขาต้องรยางานไปยังทาคุโตะ

ถ้าเธอพุ่งเข้าไปร่วมการไล่ล่าพวกนั้น เธอต้องยอมแพ้เรื่องการบัญชาการ หรือแม้แต่ฐานะฮีโร่ของเธอ

ด้วยพึงระลึกถึงสิ่งนั้น อาโทวสูดลมหายใจลึก และตั้งสมาธิเพื่อส่งเทเลพาธีไปหาทาคุโตะ

ในเทเลพาธีนั้น เธอพูดราวกับเด็กสาวผู้น่ารัก ไม่เหมือนตอนที่สู้กับไอซ์ร็อคก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย

(ท่านทาคุโตะคะ! ภารกิจคุ้มกันเมืองมังกรเสร็จสิ้นเรียบร้อยค่ะ

กองทัพของราชาสวรรค์ได้รุกรานเข้ามา แต่พวกมันถูกตีพ่ายไปแล้ว ตราบเท่าที่มีอาโทวผู้นี้ การจัดการพวกมันก็เป็นเรื่องง่ายๆค่ะ

อย่างไรก็ตาม คือว่า…ฉันประมาทไปหน่อย… ยังมีรายงานเรื่องอื่นๆ แต่ก่อนหน้านั้น ได้โปรดชื่นชมอาโทวคนนี้ที่ทำงานอย่างหนัก….)

อาโทวเริ่มบทสนทนาด้วยความเขินอายเล็กน้อย

เมื่อเธอพูดคุยกับทาคุโตะ เธอมักจะก้มหน้าลงหลายครั้ง อาจจะเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากลักษณะนิสัยแบบคนญี่ปุ่นของทาคุโตะ…

อย่างไรก็ตาม น้ำเสียงสดใสและรอยยิ้มอย่างมีความสุขของเธอก็หม่นหมองลงในทันที

(…..เอ๋?)

ทันใดนั้น ใบหน้าของหญิงสาวก็เปลี่ยนจากเด็กสาวธรรมดาทั่วไป กลายเป็นใบหน้าของปีศาจ

–กองทัพของศัตรูได้บุกโจมตีฐานของไมน็อกกราห์

ข้อความที่ทาคุโตะส่งมาเพียงพอที่จะทำให้จิตใจและวิญญาณของอาโทวสั่นสะเทือน

 

มาแล้ว สวัสดีปีใหม่แจ้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+