[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limitบทที่2 55

Now you are reading [นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit Chapter บทที่2 55 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 2 ตอนที่ 55

 

ผมมักจะคิดเสมอว่าแสงจากตะเกียงเวทมนตร์นั้นเย็น แสงที่สร้างด้วยวิทยาการเวทมนตร์ก็คงจะเย็นกว่าแสงที่สร้างขึ้นจากไฟธรรมชาติหรือเวทมนตร์ปกติอยู่แล้วละนะ

 

มันช่างน่าอัศจรรย์ที่แสงแบบนี้นั้นดูจะสะท้อนความงดงามจากดวงตาสีชาดของคุณหนูได้อย่างดีเยี่ยม

 

ผมเห็นตัวเองที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนสะท้อนอยู่ภายในตาของเธอ – หรืออย่างน้อยๆก็พยายามฝืนยิ้มอยู่

 

「หมายความว่ายังไง…?」

 

「อย่างที่ผมพูดไปครับคุณหนู ต่อจากนี้ไป เส้นทางของพวกเราจะต่างกันครับ ของผมจะมุ้งหน้าออกจากกำแพงนี้ ส่วนของคุณหนูก็คืออยู่ภายในกำแพงนี้—เหมือนเมื่อก่อน」

 

「ถ้าพูดเล่นละก็ไม่ตลกเลยนะ!」

 

「ไม่ได้พูดเล่น โกหกหรือหลอกลวงครับ ขอบคุณคุณหนูมากๆเลยครับที่มาส่งผมไกลขนาดนี้ ผมมีความรู้สึกว่าอนาคตของผมจะต้องสดใสแน่ๆแค่เพราะคุณหนูมาส่งผมเลยครับ」

 

「เรย์จิ ทำไมกัน… ทำไมนายถึงพูดเรื่องโหดร้ายแบบนั้นละ?」

 

การปฏิเสธคุณหนูที่กำลังหน้าซีดและตัวสั่นแบบนี้นั้น ก็แน่นอนละว่ามัน “โหดร้าย”

 

แต่ว่า มันเป็นสิ่งที่ผมตัดสินใจแล้วว่าต้องทำ

 

เพราะมันจะยิ่ง “โหดร้าย” มากกว่าที่จะให้คุณหนูเป็นคนตัดสินใจ

 

「คุณหนูครับ คุณกำลังกังวลและหันกลับไปมองมาสักพักแล้วใช่ไหมละครับ? กังวลถึงผู้คนที่คฤหาสน์และก็… เอิร์ล」

 

「…นั่นมัน…」

 

「ต่อให้ผมเข้าใจผิดไปก็ไม่เป็นไร แต่มันเป็นแบบนั้นสินะครับ และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงเป็นคนตัดสินใจแทนคุณหนูให้ “กลับบ้าน” ครับ」

 

「…………」

 

「…คุณหนูครับ คุณกับเอิร์ลนั้นเป็นเพียงครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของกันและกันนะครับ มีอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นในวันนี้… ไม่สิ มีอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นตั้งแต่ “งานเลี้ยงต้นกล้าแห่งคืนข้างขึ้น” แล้วครับ ดังนั้นจิดใจของคุณจึงไม่สามารถประมวลผลทุกอย่างและตัดสินใจอย่างมีเหตุผลได้ในทันทีครับ แน่นอนว่า ผมไม่ได้พูดแบบนี้เพราะคุณหนูเป็นเด็กหรอกนะครับ ขนาดผู้ใหญ่เองก็ยังมีปัญหากับการประมวลผลเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลยครับ…」

 

ผมคุกเข่าลงไปแล้วมองเข้าไปในตาของคุณหนูที่ก้มหัวของเธอลง

 

น้ำตากำลังร่วงหล่นไปตามแก้มของเธอ

 

ผมคิดว่าตัวคุณหนูเองก็อาจจะคิดเอาไว้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเอิร์ลถ้าเธอไม่ได้กลับไป – สิ่งที่มีแต่เธอเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเอิร์ลผู้ที่กำลังหวั่นไหวได้

 

「มันไม่เป็นไรหรอกครับ เอาละกลับไปหาเอิร์ลเถอะครับ เขาจะต้องดีใจแน่ๆ」

 

「แต่ว่า เรย์จิ… ก็จะต้องอยู่ตัวคนเดียว…」

 

「ผมเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคุณหนูนะครับ」

 

「ถึงพวกเราจะห่างกันแค่ 2 ปีนะหรอ…?」

 

「ครับ 2 ปีมันต่างกันมากเลยนะครับ」

 

แน่นอนว่าโกหก แต่มันคงจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ที่จะบอกคุณหนูว่าผมเป็นผู้มาเกิดใหม่ในตอนนี้

 

「คุณหนูครับ อย่างที่ผมบอกไป โลกใบนี้นั้นกว้างใหญ่กว่าที่คุณหนูจะสัมผัสได้หมดในชีวิตเดียวครับ แต่ในทางกลับกันนั้น ชั่วชีวิตก็ยังยาวนานมากอยู่ดีครับ คุณหนู คุณควรจะใช้เวลาร่วมกับเอิร์ลมากกว่านี้นะครับ และเมื่อคุณโตขึ้น ถ้าคุณยังอยากจะออกมา ก็ค่อยออกจากประเทศนี้ก็ได้ มันไม่ได้สายเกินไปหรอก ชั่วชีวิตนั้นยาวนานพอที่คุณจะสามารถไปเที่ยวได้หลายประเทศครับ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม อย่าร้องไห้เลยนะครับ คุณหนู… นี้ไม่ใช่การบอกลาครั้งสุดท้ายซะหน่อยครับ」

 

ผมลูบหัวของคุณหนูในขณะที่สุดท้ายเธอก็ร้องไห้ออกมา

 

ตอนนี้เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่เธอจะได้กลับไปหาเอิร์ล… ถ้าเธอไม่กลับไปตอนนี้ละก็ สายสัมพันธ์ครอบครัวระหว่างเธอกับเอิร์ลก็คงจะไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว

 

「…เรย์จิ ชั้น, ชั้น…. ชั้นอยากจะอยู่กับนายตลอดเวลา! ทำไมนายถึงต้องไปด้วย!?」

 

「มันเป็นความลับที่ผมบอกคุณไปครับ เอิร์ลพูดว่าเขาจะปกป้องผม แต่ผมคิดว่าเขาประเมินปัญหานี้ต่ำเกินไปครับ ดังนั้นผมจึงไม่อาจอยู่กับเอิร์ลได้อีกต่อแล้วครับ และก็คุณหนูของผม ผมไม่ได้ถูกขับไล่หรอกนะครับ ผมอาสาที่จะออกไปจากประเทศนี้เอง — ผมจะเล่าเหตุผลให้ฟังในครั้งหน้าที่เราได้พบกันนะครับ」

 

「ชั้นไม่ยอมรับ! ชั้นไม่อนุญาตให้นายไปคนเดียว!」

 

「ผมขอโทษครับ คุณหนู」

 

「อย่ามาขอโทษนะ!」

 

「…นั่นเป็นคำสั่งที่ยากที่สุดที่คุณหนูเคยสั่งมาเลยครับ ผมจะพยายามทำมันให้ดีที่สุดนะครับ –เอาละครับคุณหนู ดูเหมือนจะมีคนมารับแล้วนะครับ」

 

คุณหนูตกใจแล้วหันกลับไปมอง กัปตันแม็กซิมกำลังควบม้าตามพวกเรามา เมื่อเขาสังเกตเห็นพวกเรา – สังเกตเห็นสายตาของผมกับใบหน้าของคุณหนูที่กำลังร้องไห้ – เขาก็ลงมาจากม้าตรงที่ห่างออกไป

 

ถึงคนๆนั้นจะสมองกล้าม แต่ก็หัวดีอย่างน่าเหลือเชื่อ เอาเถอะ ถ้าไม่ใช่คนแบบนั้นละก็ คงทำงานรับใช้เอิร์ลซิวลิซส์ไม่ได้หรอก

 

「จริงๆนะ… นี้ไม่ใช่การจากลาครั้งสุดท้ายจริงๆนะ?」

 

「ครับ แน่นอนครับ」

 

คุณหนูนั้นเป็นคนฉลาด เธอรู้ว่าเธอควรจะกลับไปจริงๆ มันก็แค่อารมณ์ของเธอที่ไม่ปล่อยให้เธอทำอย่างนั้น

 

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องพลักดันเธอ ผมดึงผ้าเช็ดหน้าของผม — ผืนเดียวกับที่ผมใช้เช็ดเหงื่อก่อนหน้านี้ แต่ทำไงได้ก็ผมมีแค่อันนี้นี่นา —  แล้วเช็ดน้ำตาของคุณหนู

 

「…เรย์จิ เหม็นอ่ะ」

 

「โชคร้ายหน่อยนะครับ ผมไม่มีอันอื่นแล้ว」

 

「นายจำสัญญาของเราได้ไหม้?」

 

「ครับ ที่คุณหนูสัญญาว่าจะมอบหินสกิลให้ผมใช่ไหมครับ?」

 

ผมจำมันได้

 

—ชั้นจะมอบหินสกิลที่เหมาะกับนายให้เอง! จงดีใจซะสิ!

 

นั่นไม่เหมือนกับน้ำเสียงของคนที่จะให้ของขวัญเลย และตอนนั้นผมก็ดีใจกับเรื่องแบบนั้น ตัวคุณหนูเองก็มีความสุขเช่นกัน มันรู้สึกราวกับผ่านมานานมากๆเลย

 

「ขั้นจะมอบมันให้นายอย่างแน่นอน ดังนั้นต้องกลับมาอยู่ตรงหน้าของชั้นให้ได้เลยนะ」

 

「ครับ」

 

ผมกำมือขวาของผมแล้วทุบไปที่หัวใจของผม

 

「ผมจะเหลือช่องสกิลของผมเอาไว้สำหรับหินสกิลของคุณแน่นอนครับ คุณหนู」

 

「…สัญญานะ」

 

「ครับ ผมสัญญา」

 

คุณหนูไขว้นี้วชี้กับนิ้วกลางของเธอเอาไว้แล้วยกขึ้นมา ผมเลื่อนมือขวาของผมจากอกของผมแล้วกุมนิ้วของเธอเอาไว้ มือของคุณหนูนั้นอุ่นมากๆ

 

ผมยืนขึ้น

 

คุณหนูก็มองขึ้นมาที่ผม

 

โอ้ ช่างเป็นคนที่งดงามอะไรขนาดนี้!

 

งดงามที่สุดที่ผมเคยเห็นมาเลย

 

เธอนั้นทั้งฉลาด, แข็งแกร่ง, สง่างาม, อ่อนโยน, และมีเสน่ห์หาใครเปรียบ

 

「…………」

 

「…………」

 

ผมหันหลังแล้วเริ่มเดินจากไปอย่างเงียบๆ คุณหนูยังคงยืนมองหลังของผมโดยไม่ขยับไปไหนเลย

 

หูของผมได้ยินเสียงน้ำหยดลงบนพื้น แถมยังมีเสียงสะอื้นอีกด้วย

 

(นี้ผม… ร้องไห้งั้นหรอ?)

 

ไม่จำเป็นต้องฝืนยิ้มอีกต่อไป เพราะคุณหนูมองไม่เห็นหน้าผมอีกต่อไปแล้ว

 

หลังจากที่น้ำตาหยดหนึ่งไหลไปตามแก้มของผม น้ำตาอีกมากมายก็เริ่มไหลลงมาเหมือนเขื่อนแตก ผมคิดว่าผมทำได้ดีมากเลยที่อดทนเอาไว้ไม่แสดงใบหน้าอันหน้าสมเพชนี้ให้คุณหนูได้เห็น

 

เหมือนกับที่คุณหนูต้องการ ผมเองก็เหมือนกัน อยากที่จะอยู่เคียงข้างคุณหนู

 

ผมอยากที่จะเฝ้ามองเธอเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ยอดเยี่ยมข้างๆเธอ

 

แต่นั่นแหล่ะถึงเป็นเหตุผลว่าทำไม

 

「ลาก่อนสำหรับตอนนี้นะครับ คุณหนู…」

 

พร้อมกับน้ำตาที่ร่วงหล่นอย่างไม่หยุดพัก ผมได้เดินไปตามเมืองอันเงียบสงบแห่งนี้

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limitบทที่2 55

Now you are reading [นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit Chapter บทที่2 55 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 2 ตอนที่ 55

 

ผมมักจะคิดเสมอว่าแสงจากตะเกียงเวทมนตร์นั้นเย็น แสงที่สร้างด้วยวิทยาการเวทมนตร์ก็คงจะเย็นกว่าแสงที่สร้างขึ้นจากไฟธรรมชาติหรือเวทมนตร์ปกติอยู่แล้วละนะ

 

มันช่างน่าอัศจรรย์ที่แสงแบบนี้นั้นดูจะสะท้อนความงดงามจากดวงตาสีชาดของคุณหนูได้อย่างดีเยี่ยม

 

ผมเห็นตัวเองที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนสะท้อนอยู่ภายในตาของเธอ – หรืออย่างน้อยๆก็พยายามฝืนยิ้มอยู่

 

「หมายความว่ายังไง…?」

 

「อย่างที่ผมพูดไปครับคุณหนู ต่อจากนี้ไป เส้นทางของพวกเราจะต่างกันครับ ของผมจะมุ้งหน้าออกจากกำแพงนี้ ส่วนของคุณหนูก็คืออยู่ภายในกำแพงนี้—เหมือนเมื่อก่อน」

 

「ถ้าพูดเล่นละก็ไม่ตลกเลยนะ!」

 

「ไม่ได้พูดเล่น โกหกหรือหลอกลวงครับ ขอบคุณคุณหนูมากๆเลยครับที่มาส่งผมไกลขนาดนี้ ผมมีความรู้สึกว่าอนาคตของผมจะต้องสดใสแน่ๆแค่เพราะคุณหนูมาส่งผมเลยครับ」

 

「เรย์จิ ทำไมกัน… ทำไมนายถึงพูดเรื่องโหดร้ายแบบนั้นละ?」

 

การปฏิเสธคุณหนูที่กำลังหน้าซีดและตัวสั่นแบบนี้นั้น ก็แน่นอนละว่ามัน “โหดร้าย”

 

แต่ว่า มันเป็นสิ่งที่ผมตัดสินใจแล้วว่าต้องทำ

 

เพราะมันจะยิ่ง “โหดร้าย” มากกว่าที่จะให้คุณหนูเป็นคนตัดสินใจ

 

「คุณหนูครับ คุณกำลังกังวลและหันกลับไปมองมาสักพักแล้วใช่ไหมละครับ? กังวลถึงผู้คนที่คฤหาสน์และก็… เอิร์ล」

 

「…นั่นมัน…」

 

「ต่อให้ผมเข้าใจผิดไปก็ไม่เป็นไร แต่มันเป็นแบบนั้นสินะครับ และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงเป็นคนตัดสินใจแทนคุณหนูให้ “กลับบ้าน” ครับ」

 

「…………」

 

「…คุณหนูครับ คุณกับเอิร์ลนั้นเป็นเพียงครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของกันและกันนะครับ มีอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นในวันนี้… ไม่สิ มีอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นตั้งแต่ “งานเลี้ยงต้นกล้าแห่งคืนข้างขึ้น” แล้วครับ ดังนั้นจิดใจของคุณจึงไม่สามารถประมวลผลทุกอย่างและตัดสินใจอย่างมีเหตุผลได้ในทันทีครับ แน่นอนว่า ผมไม่ได้พูดแบบนี้เพราะคุณหนูเป็นเด็กหรอกนะครับ ขนาดผู้ใหญ่เองก็ยังมีปัญหากับการประมวลผลเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลยครับ…」

 

ผมคุกเข่าลงไปแล้วมองเข้าไปในตาของคุณหนูที่ก้มหัวของเธอลง

 

น้ำตากำลังร่วงหล่นไปตามแก้มของเธอ

 

ผมคิดว่าตัวคุณหนูเองก็อาจจะคิดเอาไว้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเอิร์ลถ้าเธอไม่ได้กลับไป – สิ่งที่มีแต่เธอเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเอิร์ลผู้ที่กำลังหวั่นไหวได้

 

「มันไม่เป็นไรหรอกครับ เอาละกลับไปหาเอิร์ลเถอะครับ เขาจะต้องดีใจแน่ๆ」

 

「แต่ว่า เรย์จิ… ก็จะต้องอยู่ตัวคนเดียว…」

 

「ผมเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคุณหนูนะครับ」

 

「ถึงพวกเราจะห่างกันแค่ 2 ปีนะหรอ…?」

 

「ครับ 2 ปีมันต่างกันมากเลยนะครับ」

 

แน่นอนว่าโกหก แต่มันคงจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ที่จะบอกคุณหนูว่าผมเป็นผู้มาเกิดใหม่ในตอนนี้

 

「คุณหนูครับ อย่างที่ผมบอกไป โลกใบนี้นั้นกว้างใหญ่กว่าที่คุณหนูจะสัมผัสได้หมดในชีวิตเดียวครับ แต่ในทางกลับกันนั้น ชั่วชีวิตก็ยังยาวนานมากอยู่ดีครับ คุณหนู คุณควรจะใช้เวลาร่วมกับเอิร์ลมากกว่านี้นะครับ และเมื่อคุณโตขึ้น ถ้าคุณยังอยากจะออกมา ก็ค่อยออกจากประเทศนี้ก็ได้ มันไม่ได้สายเกินไปหรอก ชั่วชีวิตนั้นยาวนานพอที่คุณจะสามารถไปเที่ยวได้หลายประเทศครับ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม อย่าร้องไห้เลยนะครับ คุณหนู… นี้ไม่ใช่การบอกลาครั้งสุดท้ายซะหน่อยครับ」

 

ผมลูบหัวของคุณหนูในขณะที่สุดท้ายเธอก็ร้องไห้ออกมา

 

ตอนนี้เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่เธอจะได้กลับไปหาเอิร์ล… ถ้าเธอไม่กลับไปตอนนี้ละก็ สายสัมพันธ์ครอบครัวระหว่างเธอกับเอิร์ลก็คงจะไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว

 

「…เรย์จิ ชั้น, ชั้น…. ชั้นอยากจะอยู่กับนายตลอดเวลา! ทำไมนายถึงต้องไปด้วย!?」

 

「มันเป็นความลับที่ผมบอกคุณไปครับ เอิร์ลพูดว่าเขาจะปกป้องผม แต่ผมคิดว่าเขาประเมินปัญหานี้ต่ำเกินไปครับ ดังนั้นผมจึงไม่อาจอยู่กับเอิร์ลได้อีกต่อแล้วครับ และก็คุณหนูของผม ผมไม่ได้ถูกขับไล่หรอกนะครับ ผมอาสาที่จะออกไปจากประเทศนี้เอง — ผมจะเล่าเหตุผลให้ฟังในครั้งหน้าที่เราได้พบกันนะครับ」

 

「ชั้นไม่ยอมรับ! ชั้นไม่อนุญาตให้นายไปคนเดียว!」

 

「ผมขอโทษครับ คุณหนู」

 

「อย่ามาขอโทษนะ!」

 

「…นั่นเป็นคำสั่งที่ยากที่สุดที่คุณหนูเคยสั่งมาเลยครับ ผมจะพยายามทำมันให้ดีที่สุดนะครับ –เอาละครับคุณหนู ดูเหมือนจะมีคนมารับแล้วนะครับ」

 

คุณหนูตกใจแล้วหันกลับไปมอง กัปตันแม็กซิมกำลังควบม้าตามพวกเรามา เมื่อเขาสังเกตเห็นพวกเรา – สังเกตเห็นสายตาของผมกับใบหน้าของคุณหนูที่กำลังร้องไห้ – เขาก็ลงมาจากม้าตรงที่ห่างออกไป

 

ถึงคนๆนั้นจะสมองกล้าม แต่ก็หัวดีอย่างน่าเหลือเชื่อ เอาเถอะ ถ้าไม่ใช่คนแบบนั้นละก็ คงทำงานรับใช้เอิร์ลซิวลิซส์ไม่ได้หรอก

 

「จริงๆนะ… นี้ไม่ใช่การจากลาครั้งสุดท้ายจริงๆนะ?」

 

「ครับ แน่นอนครับ」

 

คุณหนูนั้นเป็นคนฉลาด เธอรู้ว่าเธอควรจะกลับไปจริงๆ มันก็แค่อารมณ์ของเธอที่ไม่ปล่อยให้เธอทำอย่างนั้น

 

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องพลักดันเธอ ผมดึงผ้าเช็ดหน้าของผม — ผืนเดียวกับที่ผมใช้เช็ดเหงื่อก่อนหน้านี้ แต่ทำไงได้ก็ผมมีแค่อันนี้นี่นา —  แล้วเช็ดน้ำตาของคุณหนู

 

「…เรย์จิ เหม็นอ่ะ」

 

「โชคร้ายหน่อยนะครับ ผมไม่มีอันอื่นแล้ว」

 

「นายจำสัญญาของเราได้ไหม้?」

 

「ครับ ที่คุณหนูสัญญาว่าจะมอบหินสกิลให้ผมใช่ไหมครับ?」

 

ผมจำมันได้

 

—ชั้นจะมอบหินสกิลที่เหมาะกับนายให้เอง! จงดีใจซะสิ!

 

นั่นไม่เหมือนกับน้ำเสียงของคนที่จะให้ของขวัญเลย และตอนนั้นผมก็ดีใจกับเรื่องแบบนั้น ตัวคุณหนูเองก็มีความสุขเช่นกัน มันรู้สึกราวกับผ่านมานานมากๆเลย

 

「ขั้นจะมอบมันให้นายอย่างแน่นอน ดังนั้นต้องกลับมาอยู่ตรงหน้าของชั้นให้ได้เลยนะ」

 

「ครับ」

 

ผมกำมือขวาของผมแล้วทุบไปที่หัวใจของผม

 

「ผมจะเหลือช่องสกิลของผมเอาไว้สำหรับหินสกิลของคุณแน่นอนครับ คุณหนู」

 

「…สัญญานะ」

 

「ครับ ผมสัญญา」

 

คุณหนูไขว้นี้วชี้กับนิ้วกลางของเธอเอาไว้แล้วยกขึ้นมา ผมเลื่อนมือขวาของผมจากอกของผมแล้วกุมนิ้วของเธอเอาไว้ มือของคุณหนูนั้นอุ่นมากๆ

 

ผมยืนขึ้น

 

คุณหนูก็มองขึ้นมาที่ผม

 

โอ้ ช่างเป็นคนที่งดงามอะไรขนาดนี้!

 

งดงามที่สุดที่ผมเคยเห็นมาเลย

 

เธอนั้นทั้งฉลาด, แข็งแกร่ง, สง่างาม, อ่อนโยน, และมีเสน่ห์หาใครเปรียบ

 

「…………」

 

「…………」

 

ผมหันหลังแล้วเริ่มเดินจากไปอย่างเงียบๆ คุณหนูยังคงยืนมองหลังของผมโดยไม่ขยับไปไหนเลย

 

หูของผมได้ยินเสียงน้ำหยดลงบนพื้น แถมยังมีเสียงสะอื้นอีกด้วย

 

(นี้ผม… ร้องไห้งั้นหรอ?)

 

ไม่จำเป็นต้องฝืนยิ้มอีกต่อไป เพราะคุณหนูมองไม่เห็นหน้าผมอีกต่อไปแล้ว

 

หลังจากที่น้ำตาหยดหนึ่งไหลไปตามแก้มของผม น้ำตาอีกมากมายก็เริ่มไหลลงมาเหมือนเขื่อนแตก ผมคิดว่าผมทำได้ดีมากเลยที่อดทนเอาไว้ไม่แสดงใบหน้าอันหน้าสมเพชนี้ให้คุณหนูได้เห็น

 

เหมือนกับที่คุณหนูต้องการ ผมเองก็เหมือนกัน อยากที่จะอยู่เคียงข้างคุณหนู

 

ผมอยากที่จะเฝ้ามองเธอเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ยอดเยี่ยมข้างๆเธอ

 

แต่นั่นแหล่ะถึงเป็นเหตุผลว่าทำไม

 

「ลาก่อนสำหรับตอนนี้นะครับ คุณหนู…」

 

พร้อมกับน้ำตาที่ร่วงหล่นอย่างไม่หยุดพัก ผมได้เดินไปตามเมืองอันเงียบสงบแห่งนี้

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+