[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limitบทที่3 16

Now you are reading [นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit Chapter บทที่3 16 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 3 ตอนที่ 16

 

ในตอนที่ผมรู้ตัวนั้นก็ไม่มีใครอยู่ที่แผนกต้อนรับแล้ว ชั้นที่ 1 นั้นไร้ผู้คน ผมอาจจะสามารถหาคนที่ทำงานในชั้นนี้เจอที่ประตูหลังเคาน์เตอร์ก็ได้ แต่พวกเขาดูจะกำลังซ่อนตัวกันอยู่

 

ในความเงียบสงัดอันน่าขนลุกนี้นั้น ได้มีชาวเลฟร่างอ้วนคนหนึ่งเข้ามาผ่านประตูทางเข้า

 

มิมิโนะซังยืนขึ้นอย่างรีบร้อน ทว่าผมก็ได้ยืนขวางหน้าเธอเอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะชักมีดของผมทุกเมื่อ

 

「หืมมม พวกเจ้าเป็นสมาชิกของซิวเวอร์บาลานซ์สินะ?」

 

ผิวสีเหลืองเข้มของชาวเลฟคนนั้นเปียกด้วยเหตุผลบางอย่าง และร่างกายที่อ้วยตุ้ยนุ้ยขนาดนั้นก็ทำให้ผมนึกถึงคางคก (toad) เลย – คางคกญี่ปุ่นด้วย (น่าจะหมายถึงกุมป้าในมาริโอ้มั้ง?)

 

เสื้อของเขานั้นไม่ได้จดกระดุมและยังไม่ได้สวมฮูดด้วย เขาหอบหายใจหนักๆ แถมยังมีแท่งไม้ที่เหมือนกับตะเกียบคาปากด้วย แต่จากนั้นเขาก็นำมันออกมาแล้วจุ่มลงในโถโลหะที่ห้อยอยู่ตรงเอวของเขาและนำอะไรบางอย่างเหนียวๆ – ตามที่【World Ruler】บอก มันคือ “น้ำเชื่อม” – ออกมาดูดเข้าปาก

 

「ชุปะ ข้าคืออับบา (Abba) รองผู้บริหารของสำนักการต่างประเทศ ข้าต้องการจะสอบถามเรื่องของหัวหน้าลูลูช่าหน่อย ข้าได้ยินมาว่าเจ้ากับพวกของเจ้าหลอกลวงบริษัทโรโรโระที่เป็นของลูกพี่ลูกน้องข้า ดังนั้น ถ้ามีอะไรจะแก้ตัวละก็ พูดออกมา ชุปะ」

 

「ดูเหมือนจะมีเรื่องเข้าใจผิดหลายเรื่องนะครับ ดังนั้นผมก็เลยไม่แน่ใจว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี ก่อนอื่นเลยก็ มาแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ก่อนแล้วกันนะครับ พวกเราไม่ได้หลอกลวงใครทั้งนั้นครับ」

 

「แต่ประธานบริษัทบอกว่าพวกเขาถูกหลอกเอาเงิน 1,000 เหรียญทองนะ? ชุปะ」

 

「หะ…? เป็นทางบริษัทเองไม่ใช่หรอครับที่บอกว่าพวกเขาจะซื้อออโตมาตรอนที่พวกเราจัดการได้ด้วยเงินจำนวนนั้นหน่ะ」

 

「ชุปะ งั้นรึ? งั้นนี้ก็ค่อนข้างจะมีปัญหาแล้วละ คดีความงั้นรึ」

 

ถึงชาวเลฟที่เหมือนกับคางคกนี้จะพูดเหมือนกับว่าเป็นเรื่องของคนอื่น แต่สำหรับพวกเรานั้นมันไม่ตลกเลย กลับกันผมเป็นห่วงมูเกะซังที่ไปยังบริษัทโรโรโระตัวคนเดียว เขาจะเป็นอะไรไหมนะ?

 

「และ เหตุผลที่พวกเราถูกล้อมด้วยคนขนาดนี้นั้น เกี่ยวข้องกับลูลูช่าซังสินะครับ?」

 

「ชุปะ」

 

เขาดึงไม้ออกแล้วจิ้มน้ำเชื่อมกินอีกแล้ว

 

「ใช่ เหตุผลหลักเลยละ เธอนั้นถูกสงสัยว่าจะทรยศชาติ พวกเราเลยอยากจะพูดคุยกับพวกเจ้าเรื่องนั้นแหล่ะ ดังนั้นขอให้ตามพวกเรามาโดยไม่ขัดขืนด้วย」อับบาพูดและดูดน้ำเชื่อมจากแท่งไม้อีกครั้งพร้อมกับกับเสียง “ชุปะ”

 

ถึงผมจะเป็นห่วงมูเกะซังก็เถอะ แต่การปฏิเสธไม่ตามไปก็รังแต่จะสร้างความน่าสงสัยมากขึ้น ดังนั้นพวกเราเลยตามเขาแล้วมุ่งหน้าสู่สำนักการต่างประเทศที่อยู่ห่างออกไป 2 บล็อก

 

แน่นอนว่า มีคนคุ้มกันติดอาวุธมากกว่า 100 นายอยู่ด้านนอกอาคาร มีคนมุงดูอยู่ห่างๆ ดูจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันราวกับว่าพวกเราเป็นผู้ก่อการร้ายจริงๆเลย

 

ต่างจากสำนักจัดการเขาวงกต ตัวสำนักการต่างประเทศนั้นมีสไตล์ด้วยกระเบื้องที่พนัง, ที่นั่งตรงระเบียง, และประติมากรรมบนเสาที่ค้ำยันเพดานเอาไว้

 

บางทีคงเพราะพวกเราไม่ได้พูดอะไร อับบาก็เลยไม่พูดอะไรตลอดทางมาที่สำนักการต่างประเทศนี้

 

คนคุ้มกันไม่ได้ตามพวกเราเข้ามาข้างใน พวกเราผ่านล็อบบี้กว่างขวางและเข้ามายังห้องที่ดูเหมือนกับห้องรับแขก

 

พวกเรานั่งลงบนโซฟาหวาย และอับบาก้นั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม

 

「พวกเจ้ามีความสัมพันธ์อะไรกับลูลูช่ารึ?」

 

「ผมรู้จักกับแม่ของลูลูช่าซังครับ」ผมพูด

 

「แต่เจ้าค่อนข้างหนุมเลยนะ?」

 

「สายใยระหว่างผู้รอดชีวิตของราชอาณาจักรฟอร์ชานั้นเหนียวแน่นนะครับ」

 

สัญชาตญาณของผมบอกผมว่าไม่ควรเปิดเผยความสัมพันธ์ของผมกับตาแก่จะเป็นการดีกว้า เขาได้พูดอะไรบางอย่างประมาณว่าเขาทำบาปเอาไว้เลยต้องมาที่เหมืองที่ 6… และนักบวชเอลเองก็อธิบายตาแก่แค่ว่าเป็น “นักวิจัยที่ยอดเยี่อม” เท่านั้นเอง

 

「ยิ่งไปกว่านั้นนะครับ ทำไมลูลูช่าซังถึงถูกตั้งข้อหาทรยศชาติหรอครับ? แล้วทำไมสำนักการต่างประเทศ – แผนกที่มีไว้ต่อรองกับต่างประเทศที่ผมเดาเอาจากชื่อ ถึงจับพวกเราเอาไว้ที่นี่ละครับ?」

 

「เห้ย ระวังปากหน่อย พวกเจ้าหน่ะ ชุปะ ถ้าไม่ได้ข้าช่วยต่อรองละก็ พวกเจ้าคงถูกจับโดยหน่อยรักษาความปลอดภัยไปแล้ว รู้ไหม?」

 

「ครับ ต้องขอบคุณจริงๆครับ」

 

ถึงผมจะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกจับได้ง่ายๆก็เถอะ

 

「ดังนั้นแล้วทำไมคุณถึงตัดสินใจช่วยละครับ?」

 

ผมถามออกไปอย่างสงสัย เขาเกี่ยวข้องกับบริษัทโรโรโระที่มีความเป็นไปได้สูงที่พยายามจะวางกับดักมูเกะซังนี้นา

 

「ชุปะ เธอถูกตั้งข้อหาในการใช้ทีมยึดครองที่ถูกจัดตั้งโดยประเทศเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน หลังจากที่เข้าไปในเขาวงกตแล้ว เธอไม่คอยส่งรายงานผลประจำเลยสักครั้ง แถมยังสูญเสียคนไปมากมายด้วย」

 

「เธอดูไม่เหมือนคนที่จะทำอะไรอย่างนั้นเลยนะครับ」

 

「แค่เพราะว่าเจ้ารู้จักเธอ ใช่ไหมละ?」

 

「…………」

 

「ถ้าเจ้าได้รับกองทหารมาแล้ว แต่กลับไม่รายงานสถานการณ์เลย มันก็แน่อยู่แล้วที่มันจะสร้างข้อสงสัยขึ้นมา」

 

ผมรู้สึกไม่ดีเลย

 

ในที่สุดผมก็ได้พบกับลูลูช่าซัง—แน่นอนว่า มีเรื่องที่เธอเป็นหลานสาวของตาแก่ฮินกาอยู่ แต่ว่า ลูลูช่าซังนั้นพยายามยึดครองเขาวงกตอย่างจริงจัง และมันก็ไม่สมเหตุสมผลเลยที่เธอจะเข้าไปในเขาวงกตเพื่อก่อกบฏต่อประเทศแบบนี้ แถมเธอยังให้ความสำคัญกับการรักษาลูกน้องของเธอสูงสุดด้วย

 

(การยึดครองครั้งนี้เป็นอุบายเพื่อกำจัดลูลูช่าซังตั้งแต่แรกแล้วงั้นหรอ? ไม่สิ แบบนั้นมันก็ลำบากเกินไป… งั้นมีใครสักคนวางแผนที่จะใส่ร้ายเธองั้นหรอ?)

 

อย่างหลังมีความเป็นไปได้สูง ทว่า นี้ไม่ใช่เวลามามัวคิดทฤษฎีอะไรแบบนั้นแล้ว ผมจะต้องช่วยลูลูช่า

 

「อับบาซัง… สินะครับ? มีอะไรที่พอจะช่วยลูลูช่าซังให้หลุดพ้นข้อสงสัยได้บ้างครับ?」

 

「ฮึมมมม…… ชุปะ」

 

เขาดีงไม้ออกจากปาก

 

「เธอบอกว่าเธอไม่เคยพลาดส่งรายงานประจำสักครั้ง ทว่าคนที่ได้รับมอบหมายให้นำรายงานไปส่งกลับหายตัวไป ไม่ใช่แค่ 1 แต่ถึง 7 คนเลยด้วย ถ้ามีใครสักคนพบพวกเขาละก็ สถานการณ์อาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ แต่ว่า… มีเวลาเหลือไม่มากแล้ว คือเคสทรยศชาติหน่ะจะถูกส่งตัดสินเร็ว สั้นสุดก็ 5 วัน และคำตัดสินจะแล้วเสร็จมากสุด 10 วัน」

 

ไม่มีน้ำเชื่อมเหลืออยู่ที่แท่งไม้อีกแล้ว

 

「โทษประหารหน่ะ」

 

ลิ้นสั้นๆของอับบาที่เขาเลียริมฝีปากนั้นช่างน่าขนลุก

 

========================================================

TL: ขออภัยที่หายไปนานครับ

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limitบทที่3 16

Now you are reading [นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit Chapter บทที่3 16 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 3 ตอนที่ 16

 

ในตอนที่ผมรู้ตัวนั้นก็ไม่มีใครอยู่ที่แผนกต้อนรับแล้ว ชั้นที่ 1 นั้นไร้ผู้คน ผมอาจจะสามารถหาคนที่ทำงานในชั้นนี้เจอที่ประตูหลังเคาน์เตอร์ก็ได้ แต่พวกเขาดูจะกำลังซ่อนตัวกันอยู่

 

ในความเงียบสงัดอันน่าขนลุกนี้นั้น ได้มีชาวเลฟร่างอ้วนคนหนึ่งเข้ามาผ่านประตูทางเข้า

 

มิมิโนะซังยืนขึ้นอย่างรีบร้อน ทว่าผมก็ได้ยืนขวางหน้าเธอเอาไว้ เตรียมพร้อมที่จะชักมีดของผมทุกเมื่อ

 

「หืมมม พวกเจ้าเป็นสมาชิกของซิวเวอร์บาลานซ์สินะ?」

 

ผิวสีเหลืองเข้มของชาวเลฟคนนั้นเปียกด้วยเหตุผลบางอย่าง และร่างกายที่อ้วยตุ้ยนุ้ยขนาดนั้นก็ทำให้ผมนึกถึงคางคก (toad) เลย – คางคกญี่ปุ่นด้วย (น่าจะหมายถึงกุมป้าในมาริโอ้มั้ง?)

 

เสื้อของเขานั้นไม่ได้จดกระดุมและยังไม่ได้สวมฮูดด้วย เขาหอบหายใจหนักๆ แถมยังมีแท่งไม้ที่เหมือนกับตะเกียบคาปากด้วย แต่จากนั้นเขาก็นำมันออกมาแล้วจุ่มลงในโถโลหะที่ห้อยอยู่ตรงเอวของเขาและนำอะไรบางอย่างเหนียวๆ – ตามที่【World Ruler】บอก มันคือ “น้ำเชื่อม” – ออกมาดูดเข้าปาก

 

「ชุปะ ข้าคืออับบา (Abba) รองผู้บริหารของสำนักการต่างประเทศ ข้าต้องการจะสอบถามเรื่องของหัวหน้าลูลูช่าหน่อย ข้าได้ยินมาว่าเจ้ากับพวกของเจ้าหลอกลวงบริษัทโรโรโระที่เป็นของลูกพี่ลูกน้องข้า ดังนั้น ถ้ามีอะไรจะแก้ตัวละก็ พูดออกมา ชุปะ」

 

「ดูเหมือนจะมีเรื่องเข้าใจผิดหลายเรื่องนะครับ ดังนั้นผมก็เลยไม่แน่ใจว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี ก่อนอื่นเลยก็ มาแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ก่อนแล้วกันนะครับ พวกเราไม่ได้หลอกลวงใครทั้งนั้นครับ」

 

「แต่ประธานบริษัทบอกว่าพวกเขาถูกหลอกเอาเงิน 1,000 เหรียญทองนะ? ชุปะ」

 

「หะ…? เป็นทางบริษัทเองไม่ใช่หรอครับที่บอกว่าพวกเขาจะซื้อออโตมาตรอนที่พวกเราจัดการได้ด้วยเงินจำนวนนั้นหน่ะ」

 

「ชุปะ งั้นรึ? งั้นนี้ก็ค่อนข้างจะมีปัญหาแล้วละ คดีความงั้นรึ」

 

ถึงชาวเลฟที่เหมือนกับคางคกนี้จะพูดเหมือนกับว่าเป็นเรื่องของคนอื่น แต่สำหรับพวกเรานั้นมันไม่ตลกเลย กลับกันผมเป็นห่วงมูเกะซังที่ไปยังบริษัทโรโรโระตัวคนเดียว เขาจะเป็นอะไรไหมนะ?

 

「และ เหตุผลที่พวกเราถูกล้อมด้วยคนขนาดนี้นั้น เกี่ยวข้องกับลูลูช่าซังสินะครับ?」

 

「ชุปะ」

 

เขาดึงไม้ออกแล้วจิ้มน้ำเชื่อมกินอีกแล้ว

 

「ใช่ เหตุผลหลักเลยละ เธอนั้นถูกสงสัยว่าจะทรยศชาติ พวกเราเลยอยากจะพูดคุยกับพวกเจ้าเรื่องนั้นแหล่ะ ดังนั้นขอให้ตามพวกเรามาโดยไม่ขัดขืนด้วย」อับบาพูดและดูดน้ำเชื่อมจากแท่งไม้อีกครั้งพร้อมกับกับเสียง “ชุปะ”

 

ถึงผมจะเป็นห่วงมูเกะซังก็เถอะ แต่การปฏิเสธไม่ตามไปก็รังแต่จะสร้างความน่าสงสัยมากขึ้น ดังนั้นพวกเราเลยตามเขาแล้วมุ่งหน้าสู่สำนักการต่างประเทศที่อยู่ห่างออกไป 2 บล็อก

 

แน่นอนว่า มีคนคุ้มกันติดอาวุธมากกว่า 100 นายอยู่ด้านนอกอาคาร มีคนมุงดูอยู่ห่างๆ ดูจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันราวกับว่าพวกเราเป็นผู้ก่อการร้ายจริงๆเลย

 

ต่างจากสำนักจัดการเขาวงกต ตัวสำนักการต่างประเทศนั้นมีสไตล์ด้วยกระเบื้องที่พนัง, ที่นั่งตรงระเบียง, และประติมากรรมบนเสาที่ค้ำยันเพดานเอาไว้

 

บางทีคงเพราะพวกเราไม่ได้พูดอะไร อับบาก็เลยไม่พูดอะไรตลอดทางมาที่สำนักการต่างประเทศนี้

 

คนคุ้มกันไม่ได้ตามพวกเราเข้ามาข้างใน พวกเราผ่านล็อบบี้กว่างขวางและเข้ามายังห้องที่ดูเหมือนกับห้องรับแขก

 

พวกเรานั่งลงบนโซฟาหวาย และอับบาก้นั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม

 

「พวกเจ้ามีความสัมพันธ์อะไรกับลูลูช่ารึ?」

 

「ผมรู้จักกับแม่ของลูลูช่าซังครับ」ผมพูด

 

「แต่เจ้าค่อนข้างหนุมเลยนะ?」

 

「สายใยระหว่างผู้รอดชีวิตของราชอาณาจักรฟอร์ชานั้นเหนียวแน่นนะครับ」

 

สัญชาตญาณของผมบอกผมว่าไม่ควรเปิดเผยความสัมพันธ์ของผมกับตาแก่จะเป็นการดีกว้า เขาได้พูดอะไรบางอย่างประมาณว่าเขาทำบาปเอาไว้เลยต้องมาที่เหมืองที่ 6… และนักบวชเอลเองก็อธิบายตาแก่แค่ว่าเป็น “นักวิจัยที่ยอดเยี่อม” เท่านั้นเอง

 

「ยิ่งไปกว่านั้นนะครับ ทำไมลูลูช่าซังถึงถูกตั้งข้อหาทรยศชาติหรอครับ? แล้วทำไมสำนักการต่างประเทศ – แผนกที่มีไว้ต่อรองกับต่างประเทศที่ผมเดาเอาจากชื่อ ถึงจับพวกเราเอาไว้ที่นี่ละครับ?」

 

「เห้ย ระวังปากหน่อย พวกเจ้าหน่ะ ชุปะ ถ้าไม่ได้ข้าช่วยต่อรองละก็ พวกเจ้าคงถูกจับโดยหน่อยรักษาความปลอดภัยไปแล้ว รู้ไหม?」

 

「ครับ ต้องขอบคุณจริงๆครับ」

 

ถึงผมจะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกจับได้ง่ายๆก็เถอะ

 

「ดังนั้นแล้วทำไมคุณถึงตัดสินใจช่วยละครับ?」

 

ผมถามออกไปอย่างสงสัย เขาเกี่ยวข้องกับบริษัทโรโรโระที่มีความเป็นไปได้สูงที่พยายามจะวางกับดักมูเกะซังนี้นา

 

「ชุปะ เธอถูกตั้งข้อหาในการใช้ทีมยึดครองที่ถูกจัดตั้งโดยประเทศเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน หลังจากที่เข้าไปในเขาวงกตแล้ว เธอไม่คอยส่งรายงานผลประจำเลยสักครั้ง แถมยังสูญเสียคนไปมากมายด้วย」

 

「เธอดูไม่เหมือนคนที่จะทำอะไรอย่างนั้นเลยนะครับ」

 

「แค่เพราะว่าเจ้ารู้จักเธอ ใช่ไหมละ?」

 

「…………」

 

「ถ้าเจ้าได้รับกองทหารมาแล้ว แต่กลับไม่รายงานสถานการณ์เลย มันก็แน่อยู่แล้วที่มันจะสร้างข้อสงสัยขึ้นมา」

 

ผมรู้สึกไม่ดีเลย

 

ในที่สุดผมก็ได้พบกับลูลูช่าซัง—แน่นอนว่า มีเรื่องที่เธอเป็นหลานสาวของตาแก่ฮินกาอยู่ แต่ว่า ลูลูช่าซังนั้นพยายามยึดครองเขาวงกตอย่างจริงจัง และมันก็ไม่สมเหตุสมผลเลยที่เธอจะเข้าไปในเขาวงกตเพื่อก่อกบฏต่อประเทศแบบนี้ แถมเธอยังให้ความสำคัญกับการรักษาลูกน้องของเธอสูงสุดด้วย

 

(การยึดครองครั้งนี้เป็นอุบายเพื่อกำจัดลูลูช่าซังตั้งแต่แรกแล้วงั้นหรอ? ไม่สิ แบบนั้นมันก็ลำบากเกินไป… งั้นมีใครสักคนวางแผนที่จะใส่ร้ายเธองั้นหรอ?)

 

อย่างหลังมีความเป็นไปได้สูง ทว่า นี้ไม่ใช่เวลามามัวคิดทฤษฎีอะไรแบบนั้นแล้ว ผมจะต้องช่วยลูลูช่า

 

「อับบาซัง… สินะครับ? มีอะไรที่พอจะช่วยลูลูช่าซังให้หลุดพ้นข้อสงสัยได้บ้างครับ?」

 

「ฮึมมมม…… ชุปะ」

 

เขาดีงไม้ออกจากปาก

 

「เธอบอกว่าเธอไม่เคยพลาดส่งรายงานประจำสักครั้ง ทว่าคนที่ได้รับมอบหมายให้นำรายงานไปส่งกลับหายตัวไป ไม่ใช่แค่ 1 แต่ถึง 7 คนเลยด้วย ถ้ามีใครสักคนพบพวกเขาละก็ สถานการณ์อาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ แต่ว่า… มีเวลาเหลือไม่มากแล้ว คือเคสทรยศชาติหน่ะจะถูกส่งตัดสินเร็ว สั้นสุดก็ 5 วัน และคำตัดสินจะแล้วเสร็จมากสุด 10 วัน」

 

ไม่มีน้ำเชื่อมเหลืออยู่ที่แท่งไม้อีกแล้ว

 

「โทษประหารหน่ะ」

 

ลิ้นสั้นๆของอับบาที่เขาเลียริมฝีปากนั้นช่างน่าขนลุก

 

========================================================

TL: ขออภัยที่หายไปนานครับ

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+