[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limitบทที่3 12

Now you are reading [นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit Chapter บทที่3 12 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 3 ตอนที่ 12

 

มูเกะซังกลับมารวมกลุ่มแล้ว – อักษรที่เขียนบนพนังดูจะเป็นบทกวีบางอย่าง ดังนั้นมันจึงยากที่จะเข้าใจได้ – และผมก็ได้อธิบายถึงสิ่งที่กวนใจผมตั้งแต่พวกเราเข้ามาในเขาวงกตนี้ให้ทุกคนฟังแล้ว (ผมเบิ๊ดกะโหลกเซอรี่ซังไปทีนึงเพราะดูเธอกำลังจะหลับในตอนที่ผมอธิบาย)

 

「ข้าก็เข้าใจที่พูดมา แต่ว่า เรย์จิ นายพูดอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนักผจญภัยกับปาร์ตี้ใช่ไหม… แล้วมันเกี่ยวกับดันเจี้ยนยังไงละ?」

 

「ครับ ก้อนอื่นเลย มาหยุดคิดว่า “อะไรก็เกิดขึ้นได้เพราะเป็นดันเจี้ยน” กันก่อนนะครับ เขาวงกตแห่งความหวาดกลัวแห่งนี้เป็นดันเจี้ยนเทียมที่ถูกสร้างขึ้นโดยคนที่ชื่อลา-ฟีซา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่จะต้องมีสาเหตุและลูกเล่นครับ」

 

「แล้วมันเกี่ยวอะไรกับปาร์ตี้ละ?」

 

「ผมสังเกตุเห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างออโตมาตรอนกับดันเจี้ยนครับ ออโตมาตรอนนั้นทำงานโดยเวทมนตร์ และในทางกลับกัน มานานั้นก็ไหลเวียนอยู่ในดันเจี้ยนครับ ดันเจี้ยนทั่วไปจะซ่อมแซมกำแพงที่เสียหายและอื่นๆด้วยใช่ไหมละครับ?」

 

「ใช่ แต่ข้าก็ไม่รู้ว่ามันทำงานยังไงหรอกนะ」

 

「ดังนั้นการไหลเวียนของมานาก็จะได้รับการฟื้นฟูใช่ไหมละครับ? มีความเป็นไปได้อีกอย่างนึงว่าตัว “ดันเจี้ยน” เองก็คือมอนสเตอร์ประเภทหนึ่งครับ」

 

「อ้า ทฤษฎีที่คิดโดยนักวิจัยดันเจี้ยนบางคนที่ถูกหาว่าเป็นพวกนอกรีตสินะ」มิมิโนะซังพูด

 

อย่างที่คิด มีคนที่คิดแบบนั้นอยู่จริงๆด้วย แต่ว่า “นอกรีต” งั้นหรอ

 

「เอาเถอะครับ ช่างเรื่องว่าใช่มอนสเตอร์ไหมไปก่อนเพราะมันไม่ได้สำคัญอะไรในตอนนี้ครับ ที่สำคัญก็คือคนที่สร้างดันเจี้ยนครับ ทั้งสร้างออโตมาตรอนขึ้นมา และทั้งคำนวนมานาที่ไหลเวียนในดันเจี้ยน ทั้งหมดนั้นเป็นคนๆเดียวกันครับ」

 

「อืม ใช่ เป็นคนเดียวกัน แต่ว่า… มันบอกอะไรรึ?」ดันเต้ซังถาม

 

「ผมพยายามมองในมุมมองของคนๆดูครับ ถ้าผมจะสร้างดันเจี้ยนขึ้นมา ผมจะต้องให้ออโตมาตรอนนั้นใช้มานาในดันเจี้ยนได้」

 

มานาที่กำแพงนั้นเล็กน้อยถ้ามองในจุดๆเดียว ทว่าถ้ามองทั้งดันเจี้ยนละก็ มันมากมายมหาศาลเลยละ และมันก็ยังไหลเวียนอยู่เรื่อยๆด้วย ขนาดในอากาศก็ยังเต็มไปด้วยมานา

 

จึงเป็นเหตุผลที่ดูจะมีมอนสเตอร์เกิดขึ้นเรื่อยๆด้วย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น

 

「ถ้าผมจะออกแบบดันเจี้ยนละก็ ผมจะซ่อนลูกเล่นเอาไว้ในดันเจี้ยนแล้วให้ออโตมาตรอนใช้งานได้อย่างอิสระครับ」

 

「อ้า!」มิมิโนะซังกึ่งลุกกึ่งยืน「เป็นการใช้กับดักเพื่อชักจูง “ความกลัว”!?」

 

「ถูกต้องครับ」

 

「กับดักงั้นหรอ!?」มูเกะซังส่งเสียงราวกับเขาตกใจออกมา「แต่ไม่ใช่ว่าออโตมาตรอนมันใช้เวทมนตร์บางอย่างหรอกหรอ?」

 

「ผมก็บอกไม่ได้เหมือนกันครับว่ามันไม่ใช่เวทมนตร์ แต่ว่าออโตมาตรอนที่คุณตรวจสอบมาจนถึงตอนนี้ คุณพบอะไรอย่างเวทมนตร์หรือเวทย์จากอุปกรณ์เวทมนตร์ที่สร้างผลชักจูงอะไรแบบนั้นหรือเปล่าละครับ?」

 

เมื่อผมถามกลับ มูเกะซังก็เกาหัวอย่างงุนงง

 

「ไม่… แต่ว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ข้าได้ยินว่าออโตมาตรอนสามารถชักจูงอารมณ์ได้」

 

「มันก็จริงครับ แต่มันจะง่ายดายมากขึ้นครับถ้าใช้ดันเจี้ยนด้วย」

 

「ง่ายดาย?」

 

「แค่หายใจเข้าหายใจออก มานาในดันเจี้ยนก็จะเข้าสู่ตัวเราครับ มันใช้สิ่งนี้เพื่อควบคุมอารมณ์ของผู้คนในดันเจี้ยน เนื่องจากมานานั้นอยู่ในร่างกายแล้วตั้งแต่แรก มันจึงง่ายกว่าการร่ายเวทมนตร์ใส่จากภายนอกครับ」

 

ขนาดในหมู่หินสกิลเอง มันก็ยังมีประเภทที่เรียกว่า “ประเภทลึกลับ” เลย มันเป็นประเภทที่แตกต่างออกไปจากเวทมนตร์ปกติ อย่างเช่น【เวทย์รักษา】กับ【เวทย์ซัพพอร์ต】

 

อย่างไรก็ตาม มันเองก็มีสกิลที่ส่งผลเฉพาะอย่างเช่น【เวทย์วิญญาณ】และ【เวทย์มนุษย์】ตัว【เวทย์มนุษย์】นั้นสามารถ “มีอิทธิพลต่ออารมณ์ของผู้อื่น” ได้จริงๆ ผมได้ยินมาแบบนั้น

 

อนึ่ง ผมเองก็ไม่เคยเห็นหินสกิลสองอันนั้นหรือคนที่ใช้มันหรอก

 

อย่างไรก็ตาม ถ้ามันมีจริงในฐานะเวทมนตร์ละก็ ก็เป็นไปได้ที่จะสร้างมันขึ้นด้วยอุปกรณ์เวทมนตร์ได้

 

「พอมองจากมุมกลับดูแล้ว ออโตมาตรอนพวกนั้นสามารถชักจูง “ความกลัว” ได้แค่เฉพาะที่ที่มีกับดักเตรียมเอาไว้ครับ」

 

สถานที่อย่างเวทีที่พวกเราผ่านมา กับดักนั้นดูจะติดตั้งเอาไว้ในที่ที่สามารถเห็นได้ง่ายๆ ตอนแรกนึกว่า “ระยะห่าง” จากออโตมาตรอนนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ทว่าการมีอยู่ของกับดักเองก็สำคัญเหมือนกัน

 

「ผมไม่คิดว่าออโตมาตรอนจะสามารถควบคุมอารมณ์ของพวกเราได้ถ้าไม่มีกับดักครับ เอาเถอะ จุดนี้มันก็แค่การคาดเดานะครับ」

 

「มั่นใจว่ามันจะเป็นแบบนั้นแค่ไหนละ?」

 

「ประมาณ 80% มั้งครับ?」

 

「ก็เกือบจะชัวร์แล้วนี้!」ดันเต้ซังพูดพร้อมกับยิ้มอย่างขมขื่น

 

「ไม่ครับ ไม่จนกว่าผมจะยืนยันมันได้ แต่มันก็มีหลักฐานอยู่ว่าตัวดันเจี้ยนเองก็คือกับดักครับ จนถึงตอนนี้ พวกเราไม่เจอคนอื่นๆเลยนอกจากโกลเด้นบริเกด แถมยังตามพวกเขาไปไม่ทันด้วยซ้ำ ในทางกลับกัน มันไม่แม้แต่จะมีร่องรอยของแผนกยึดครองเขาวงกตหรือโกลเด้นบริเกดที่ควรจะนำหน้าเราเลยครับ」

 

「พอนายพูดแล้วก็จริงนะ」

 

「เซอรี่ซัง คุณพูดก่อนหน้านี้ว่าอากาศมันเปลี่ยนไปใช่ไหมครับ?」

 

「โอ๊ะจริงด้วย เค้าพูดแบบนั้นนี้นะ แต่เค้าอาจจะคิดไปเองก็ได้」

 

「ผมไม่คิดยังนั้นครับ บางทีเส้นทางที่โกลเด้นบริเกดไปอาจจะต่างจากที่เรามาก็ได้ครับ」

 

ขณะที่ผมพูดแบบนั้น ดันเต้ซังก็เอียงคอ

 

「เห้ย… มันไม่แปลกไปหน่อยหรอ? มันเป็นแค่ทางตรงยาวๆเองนะ」

 

「ครับ ดังนั้นบางทีดันเจี้ยนอาจจะมีเส้นทางเตรียมเอาไว้ และเมื่อไม่มีผู้บุกรุกมอง มันก็จะแอบสับเปลี่ยนเส้นทางอย่างลับๆครับ」

 

「ว่าไงนะ!?」

 

「มองที่ทางไร้รอยต่อนี้สิครับ」

 

ผมแตะพื้น กำแพงในห้องเล็กๆนี้แตกต่างออกไปก็จริง แต่พื้นดินกลับรู้สึกเหมือนพื้นปูนหรือซีเมนต์เลย

 

「ถ้าเราใช้กระเบื้องหรือหินละก็ กระเบื้องอาจจะไม่สมมาตรกันในตอนที่สลับเส้นทางได้ แต่ด้วยวัสดุเรียบที่มีพื้นผิวคงที่แบบนี้ เราจะสามารถต่อมันเข้าได้กันหรือไม่ก็ได้ ผมเดาว่ามันอาจจะเป็นวัสดุบางอย่างที่จะกลายเป็นของเหลวเมื่ออยู่ในเงื่อนไขบางอย่างครับ」

 

「มะ-มีวัสดุอะไรแบบนั้นด้วยหรอ?」มิมิโนะแปลกใจ

 

「ดูเหมือนว่าจะมีครับ พื้นตรงนี้ดูจะละลายเหมือนน้ำได้ถ้ามีมานาแบบหนึ่งใส่เข้าไปครับ」

 

เมื่อผมถามกับ【World Ruler】มันก็ให้คำตอบแบบนั้นกลับมา แค่มองผ่านๆก็จะไม่ได้คำตอบ ดังนั้นผมจะต้องคิดด้วยเช่นกัน

 

ทว่าด้วยการที่มันต้องใช้มานารูปแบบเฉพาะ ผมเลยไม่สามารถทำให้พื้นทำงานได้

 

「ในกรณีนั้น ดูเหมือนที่ว่าดันเจี้ยนคือกับดักจะเป็นความจริงครับ และก็ยังมีอีกหลายอย่างเช่นกันครับ ตัวใบมีดที่ยิงมาตรงทางลาดลงแล้วถูกเก็บกลับไป มันไม่แปลกไปหน่อยหรอครับ? ที่กับดักกายภาพแบบนั้นจะยังทำงานได้ดีเยี่ยมในสถานที่ที่มีอายุมากกว่า 100 ปีแบบนี้นะครับ」

 

「นั่นก็เป็นเพราะว่าน้ำมัน… ไม่สิ ต่อให้เป็นน้ำมันก็เสื่อมสภาพในไม่กี่ปีหรืออย่างมากสุดก็ไม่กี่สิบปี」

 

「ใช่ครับ ดันเต้ซัง ถึงมันจะเก่าแล้ว แต่ก็ดูจะยังใช้น้ำมันอยู่ บางทีอาจจะมีคนมาดูแลมันก็ได้นะครับ?」

 

ผมเองก็คิดถึงความเป็นไปได้ที่ทายาทของลา-ฟีซาผู้สร้างเขาวงกตอาจจะอยู่ในจักรวรรดิก็ได้

 

「ถึงพวกเราจะฟันธงเรื่องนั้นไม่ได้ แต่ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะสามารถทำอะไรแบบนั้นมากว่า 100 ปีได้ในจักรวรรดิโดยไม่มีใครรู้ได้หรอกครับ แทนที่กันนั้น ผมคิดว่ามันเป็นกลไกบางอย่างที่จะใช้เวทมนตร์ที่สามารถเติมน้ำมันและรักษามันเอาไว้เป็น 100 ปีได้ครับ เหมือนกันกับใบมีดที่ถูกเก็บกลับไปครับ มันมีระบบหมุนเวียนที่จะเอากับดักที่ใช้ไปแล้วกลับมาใช้ใหม่ครับ」

 

「อะไรแบบนั้น… มันเป็นไปได้ด้วยหรอ?」ดันเต้ซังถาม

 

「คนแบบนั้นเป็นคนที่สร้างเขาวงกตพวกนี้ขึ้นมาเองเลยนะครับ ผมคิดว่าถ้ามันถูกสร้างขึ้นด้วยความปัญญา งั้นมันเองก็ควรจะแก้ได้ด้วยปัญญาครับ ดังนั้น เนื่องจากตัวดันเจี้ยนมีโครงสร้างการออกแบบที่สูง ผมจึงสรุปว่าออโตมาตรอนเองก็คงใช้งานดันเจี้ยนได้อย่างเต็มที่ครับ นี้ก็ต้องขอบคุณคำใบ้จากน็อนซังนะครับ」

 

「ชั้นหรอ?」

 

เธอบอกผมว่าผมเองก็เป็นสมาชิกของปาร์ตี้

 

เธอบอกผมว่าความกังวลของผมเองก็เป็นความกังวลของเธอ

 

นั่นคือคำใบ้—ออโตมาตรอนเองก็เป็นส่วนเสริมของดันเจี้ยน

 

ถึงผมจะไม่ได้พูดสิ่งที่น็อนซังพูดออกมาเพราะมันน่าอายนิดหน่อยก็เถอะ

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limitบทที่3 12

Now you are reading [นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit Chapter บทที่3 12 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 3 ตอนที่ 12

 

มูเกะซังกลับมารวมกลุ่มแล้ว – อักษรที่เขียนบนพนังดูจะเป็นบทกวีบางอย่าง ดังนั้นมันจึงยากที่จะเข้าใจได้ – และผมก็ได้อธิบายถึงสิ่งที่กวนใจผมตั้งแต่พวกเราเข้ามาในเขาวงกตนี้ให้ทุกคนฟังแล้ว (ผมเบิ๊ดกะโหลกเซอรี่ซังไปทีนึงเพราะดูเธอกำลังจะหลับในตอนที่ผมอธิบาย)

 

「ข้าก็เข้าใจที่พูดมา แต่ว่า เรย์จิ นายพูดอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนักผจญภัยกับปาร์ตี้ใช่ไหม… แล้วมันเกี่ยวกับดันเจี้ยนยังไงละ?」

 

「ครับ ก้อนอื่นเลย มาหยุดคิดว่า “อะไรก็เกิดขึ้นได้เพราะเป็นดันเจี้ยน” กันก่อนนะครับ เขาวงกตแห่งความหวาดกลัวแห่งนี้เป็นดันเจี้ยนเทียมที่ถูกสร้างขึ้นโดยคนที่ชื่อลา-ฟีซา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่จะต้องมีสาเหตุและลูกเล่นครับ」

 

「แล้วมันเกี่ยวอะไรกับปาร์ตี้ละ?」

 

「ผมสังเกตุเห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างออโตมาตรอนกับดันเจี้ยนครับ ออโตมาตรอนนั้นทำงานโดยเวทมนตร์ และในทางกลับกัน มานานั้นก็ไหลเวียนอยู่ในดันเจี้ยนครับ ดันเจี้ยนทั่วไปจะซ่อมแซมกำแพงที่เสียหายและอื่นๆด้วยใช่ไหมละครับ?」

 

「ใช่ แต่ข้าก็ไม่รู้ว่ามันทำงานยังไงหรอกนะ」

 

「ดังนั้นการไหลเวียนของมานาก็จะได้รับการฟื้นฟูใช่ไหมละครับ? มีความเป็นไปได้อีกอย่างนึงว่าตัว “ดันเจี้ยน” เองก็คือมอนสเตอร์ประเภทหนึ่งครับ」

 

「อ้า ทฤษฎีที่คิดโดยนักวิจัยดันเจี้ยนบางคนที่ถูกหาว่าเป็นพวกนอกรีตสินะ」มิมิโนะซังพูด

 

อย่างที่คิด มีคนที่คิดแบบนั้นอยู่จริงๆด้วย แต่ว่า “นอกรีต” งั้นหรอ

 

「เอาเถอะครับ ช่างเรื่องว่าใช่มอนสเตอร์ไหมไปก่อนเพราะมันไม่ได้สำคัญอะไรในตอนนี้ครับ ที่สำคัญก็คือคนที่สร้างดันเจี้ยนครับ ทั้งสร้างออโตมาตรอนขึ้นมา และทั้งคำนวนมานาที่ไหลเวียนในดันเจี้ยน ทั้งหมดนั้นเป็นคนๆเดียวกันครับ」

 

「อืม ใช่ เป็นคนเดียวกัน แต่ว่า… มันบอกอะไรรึ?」ดันเต้ซังถาม

 

「ผมพยายามมองในมุมมองของคนๆดูครับ ถ้าผมจะสร้างดันเจี้ยนขึ้นมา ผมจะต้องให้ออโตมาตรอนนั้นใช้มานาในดันเจี้ยนได้」

 

มานาที่กำแพงนั้นเล็กน้อยถ้ามองในจุดๆเดียว ทว่าถ้ามองทั้งดันเจี้ยนละก็ มันมากมายมหาศาลเลยละ และมันก็ยังไหลเวียนอยู่เรื่อยๆด้วย ขนาดในอากาศก็ยังเต็มไปด้วยมานา

 

จึงเป็นเหตุผลที่ดูจะมีมอนสเตอร์เกิดขึ้นเรื่อยๆด้วย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น

 

「ถ้าผมจะออกแบบดันเจี้ยนละก็ ผมจะซ่อนลูกเล่นเอาไว้ในดันเจี้ยนแล้วให้ออโตมาตรอนใช้งานได้อย่างอิสระครับ」

 

「อ้า!」มิมิโนะซังกึ่งลุกกึ่งยืน「เป็นการใช้กับดักเพื่อชักจูง “ความกลัว”!?」

 

「ถูกต้องครับ」

 

「กับดักงั้นหรอ!?」มูเกะซังส่งเสียงราวกับเขาตกใจออกมา「แต่ไม่ใช่ว่าออโตมาตรอนมันใช้เวทมนตร์บางอย่างหรอกหรอ?」

 

「ผมก็บอกไม่ได้เหมือนกันครับว่ามันไม่ใช่เวทมนตร์ แต่ว่าออโตมาตรอนที่คุณตรวจสอบมาจนถึงตอนนี้ คุณพบอะไรอย่างเวทมนตร์หรือเวทย์จากอุปกรณ์เวทมนตร์ที่สร้างผลชักจูงอะไรแบบนั้นหรือเปล่าละครับ?」

 

เมื่อผมถามกลับ มูเกะซังก็เกาหัวอย่างงุนงง

 

「ไม่… แต่ว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ข้าได้ยินว่าออโตมาตรอนสามารถชักจูงอารมณ์ได้」

 

「มันก็จริงครับ แต่มันจะง่ายดายมากขึ้นครับถ้าใช้ดันเจี้ยนด้วย」

 

「ง่ายดาย?」

 

「แค่หายใจเข้าหายใจออก มานาในดันเจี้ยนก็จะเข้าสู่ตัวเราครับ มันใช้สิ่งนี้เพื่อควบคุมอารมณ์ของผู้คนในดันเจี้ยน เนื่องจากมานานั้นอยู่ในร่างกายแล้วตั้งแต่แรก มันจึงง่ายกว่าการร่ายเวทมนตร์ใส่จากภายนอกครับ」

 

ขนาดในหมู่หินสกิลเอง มันก็ยังมีประเภทที่เรียกว่า “ประเภทลึกลับ” เลย มันเป็นประเภทที่แตกต่างออกไปจากเวทมนตร์ปกติ อย่างเช่น【เวทย์รักษา】กับ【เวทย์ซัพพอร์ต】

 

อย่างไรก็ตาม มันเองก็มีสกิลที่ส่งผลเฉพาะอย่างเช่น【เวทย์วิญญาณ】และ【เวทย์มนุษย์】ตัว【เวทย์มนุษย์】นั้นสามารถ “มีอิทธิพลต่ออารมณ์ของผู้อื่น” ได้จริงๆ ผมได้ยินมาแบบนั้น

 

อนึ่ง ผมเองก็ไม่เคยเห็นหินสกิลสองอันนั้นหรือคนที่ใช้มันหรอก

 

อย่างไรก็ตาม ถ้ามันมีจริงในฐานะเวทมนตร์ละก็ ก็เป็นไปได้ที่จะสร้างมันขึ้นด้วยอุปกรณ์เวทมนตร์ได้

 

「พอมองจากมุมกลับดูแล้ว ออโตมาตรอนพวกนั้นสามารถชักจูง “ความกลัว” ได้แค่เฉพาะที่ที่มีกับดักเตรียมเอาไว้ครับ」

 

สถานที่อย่างเวทีที่พวกเราผ่านมา กับดักนั้นดูจะติดตั้งเอาไว้ในที่ที่สามารถเห็นได้ง่ายๆ ตอนแรกนึกว่า “ระยะห่าง” จากออโตมาตรอนนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ทว่าการมีอยู่ของกับดักเองก็สำคัญเหมือนกัน

 

「ผมไม่คิดว่าออโตมาตรอนจะสามารถควบคุมอารมณ์ของพวกเราได้ถ้าไม่มีกับดักครับ เอาเถอะ จุดนี้มันก็แค่การคาดเดานะครับ」

 

「มั่นใจว่ามันจะเป็นแบบนั้นแค่ไหนละ?」

 

「ประมาณ 80% มั้งครับ?」

 

「ก็เกือบจะชัวร์แล้วนี้!」ดันเต้ซังพูดพร้อมกับยิ้มอย่างขมขื่น

 

「ไม่ครับ ไม่จนกว่าผมจะยืนยันมันได้ แต่มันก็มีหลักฐานอยู่ว่าตัวดันเจี้ยนเองก็คือกับดักครับ จนถึงตอนนี้ พวกเราไม่เจอคนอื่นๆเลยนอกจากโกลเด้นบริเกด แถมยังตามพวกเขาไปไม่ทันด้วยซ้ำ ในทางกลับกัน มันไม่แม้แต่จะมีร่องรอยของแผนกยึดครองเขาวงกตหรือโกลเด้นบริเกดที่ควรจะนำหน้าเราเลยครับ」

 

「พอนายพูดแล้วก็จริงนะ」

 

「เซอรี่ซัง คุณพูดก่อนหน้านี้ว่าอากาศมันเปลี่ยนไปใช่ไหมครับ?」

 

「โอ๊ะจริงด้วย เค้าพูดแบบนั้นนี้นะ แต่เค้าอาจจะคิดไปเองก็ได้」

 

「ผมไม่คิดยังนั้นครับ บางทีเส้นทางที่โกลเด้นบริเกดไปอาจจะต่างจากที่เรามาก็ได้ครับ」

 

ขณะที่ผมพูดแบบนั้น ดันเต้ซังก็เอียงคอ

 

「เห้ย… มันไม่แปลกไปหน่อยหรอ? มันเป็นแค่ทางตรงยาวๆเองนะ」

 

「ครับ ดังนั้นบางทีดันเจี้ยนอาจจะมีเส้นทางเตรียมเอาไว้ และเมื่อไม่มีผู้บุกรุกมอง มันก็จะแอบสับเปลี่ยนเส้นทางอย่างลับๆครับ」

 

「ว่าไงนะ!?」

 

「มองที่ทางไร้รอยต่อนี้สิครับ」

 

ผมแตะพื้น กำแพงในห้องเล็กๆนี้แตกต่างออกไปก็จริง แต่พื้นดินกลับรู้สึกเหมือนพื้นปูนหรือซีเมนต์เลย

 

「ถ้าเราใช้กระเบื้องหรือหินละก็ กระเบื้องอาจจะไม่สมมาตรกันในตอนที่สลับเส้นทางได้ แต่ด้วยวัสดุเรียบที่มีพื้นผิวคงที่แบบนี้ เราจะสามารถต่อมันเข้าได้กันหรือไม่ก็ได้ ผมเดาว่ามันอาจจะเป็นวัสดุบางอย่างที่จะกลายเป็นของเหลวเมื่ออยู่ในเงื่อนไขบางอย่างครับ」

 

「มะ-มีวัสดุอะไรแบบนั้นด้วยหรอ?」มิมิโนะแปลกใจ

 

「ดูเหมือนว่าจะมีครับ พื้นตรงนี้ดูจะละลายเหมือนน้ำได้ถ้ามีมานาแบบหนึ่งใส่เข้าไปครับ」

 

เมื่อผมถามกับ【World Ruler】มันก็ให้คำตอบแบบนั้นกลับมา แค่มองผ่านๆก็จะไม่ได้คำตอบ ดังนั้นผมจะต้องคิดด้วยเช่นกัน

 

ทว่าด้วยการที่มันต้องใช้มานารูปแบบเฉพาะ ผมเลยไม่สามารถทำให้พื้นทำงานได้

 

「ในกรณีนั้น ดูเหมือนที่ว่าดันเจี้ยนคือกับดักจะเป็นความจริงครับ และก็ยังมีอีกหลายอย่างเช่นกันครับ ตัวใบมีดที่ยิงมาตรงทางลาดลงแล้วถูกเก็บกลับไป มันไม่แปลกไปหน่อยหรอครับ? ที่กับดักกายภาพแบบนั้นจะยังทำงานได้ดีเยี่ยมในสถานที่ที่มีอายุมากกว่า 100 ปีแบบนี้นะครับ」

 

「นั่นก็เป็นเพราะว่าน้ำมัน… ไม่สิ ต่อให้เป็นน้ำมันก็เสื่อมสภาพในไม่กี่ปีหรืออย่างมากสุดก็ไม่กี่สิบปี」

 

「ใช่ครับ ดันเต้ซัง ถึงมันจะเก่าแล้ว แต่ก็ดูจะยังใช้น้ำมันอยู่ บางทีอาจจะมีคนมาดูแลมันก็ได้นะครับ?」

 

ผมเองก็คิดถึงความเป็นไปได้ที่ทายาทของลา-ฟีซาผู้สร้างเขาวงกตอาจจะอยู่ในจักรวรรดิก็ได้

 

「ถึงพวกเราจะฟันธงเรื่องนั้นไม่ได้ แต่ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะสามารถทำอะไรแบบนั้นมากว่า 100 ปีได้ในจักรวรรดิโดยไม่มีใครรู้ได้หรอกครับ แทนที่กันนั้น ผมคิดว่ามันเป็นกลไกบางอย่างที่จะใช้เวทมนตร์ที่สามารถเติมน้ำมันและรักษามันเอาไว้เป็น 100 ปีได้ครับ เหมือนกันกับใบมีดที่ถูกเก็บกลับไปครับ มันมีระบบหมุนเวียนที่จะเอากับดักที่ใช้ไปแล้วกลับมาใช้ใหม่ครับ」

 

「อะไรแบบนั้น… มันเป็นไปได้ด้วยหรอ?」ดันเต้ซังถาม

 

「คนแบบนั้นเป็นคนที่สร้างเขาวงกตพวกนี้ขึ้นมาเองเลยนะครับ ผมคิดว่าถ้ามันถูกสร้างขึ้นด้วยความปัญญา งั้นมันเองก็ควรจะแก้ได้ด้วยปัญญาครับ ดังนั้น เนื่องจากตัวดันเจี้ยนมีโครงสร้างการออกแบบที่สูง ผมจึงสรุปว่าออโตมาตรอนเองก็คงใช้งานดันเจี้ยนได้อย่างเต็มที่ครับ นี้ก็ต้องขอบคุณคำใบ้จากน็อนซังนะครับ」

 

「ชั้นหรอ?」

 

เธอบอกผมว่าผมเองก็เป็นสมาชิกของปาร์ตี้

 

เธอบอกผมว่าความกังวลของผมเองก็เป็นความกังวลของเธอ

 

นั่นคือคำใบ้—ออโตมาตรอนเองก็เป็นส่วนเสริมของดันเจี้ยน

 

ถึงผมจะไม่ได้พูดสิ่งที่น็อนซังพูดออกมาเพราะมันน่าอายนิดหน่อยก็เถอะ

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+