บัลลังก์หมอยาเซียน 1111 จับกุมหลินเซียว

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 1111 จับกุมหลินเซียว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สถานการณ์ภายนอกจะเป็นอย่างไร หยวนชิงหลิงไม่สนใจทั้งไม่คิดจะไถ่ถาม เจ้าห้าออกไปแต่เช้ากลับมาจนค่ำ สองคนสามีภรรยาได้คุยกันน้อยลง หยู่เหวินเห้าทุกวันนี้คือกลับมาถึง พอหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย พอเช้ามาฟ้ายังไม่ทันสว่างก็ต้องรีบออกไป ไม่มีเวลาพูดคุยกับหยวนชิงหลิงได้สักกี่ประโยคด้วยซ้ำ

สภาพของทังหยางดีขึ้นบ้างแล้ว สามารถจดจำหยวนชิงหลิงได้ แต่ปฏิกิริยานั้นเชื่องช้าและออกจะเฉื่อย ๆ เนือย ๆ ท่านชายหงเย่สั่งให้คนนำยามาให้ บอกว่ามันจะทำให้สติของทังหยางแจ่มชัดตื่นตัวได้เร็วขึ้น

หลังจากกินยาแล้ว วันรุ่งขึ้นเขาก็เริ่มดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก ไม่ว่าจะถามอะไรเขา ก็จะไม่ตอบแบบทื่อ ๆ เหมือนเมื่อก่อน แต่เริ่มมีการคิดวิเคราะห์บ้างแล้ว

ดู ๆ ไปแล้วเหมือนว่าถ้าค่อย ๆ รักษาตัวไปอีกสักสองสามวัน ก็คงจะไม่เป็นไรแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ราบรื่นกว่าที่คิดไว้เมื่อก่อนหน้านี้พอสมควรทีเดียว

เรื่องของโสวฝู่ฉู่ก็หมักหมมมาหลายวันแล้ว เสียงประณามจากบรรดาขุนนางกับประชาชนที่ต่อต้านอ๋องชินเฟิงอันกับอ๋องผิงหนานร้อนฉ่าไปจนถึงจุดเดือดแล้ว แต่หยู่เหวินเห้ากลับดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการควบคุมตัวพวกเขา ทั้งไม่อธิบายอะไรแทนอ๋องชินเฟิงอันกับอ๋องผิงหนานด้วย และยังไม่มีการเชิญอ๋องผิงหนานไปโรงเตี๊ยมอีก แต่ทุกวันจะเห็นเขาเข้าออกจวนฉู่วันละครั้ง จากนั้นก็จะกลับไปหารือกับเน่ย์เก๋อเกี่ยวกับการเมือง จนพลบค่ำถึงค่อยออกจากวังไป

เดิมที บรรดาลูกศิษย์ของโสวฝู่ฉู่ยังรอให้หยู่เหวินเห้าตัดสินใจ ยังไม่ไปเข้าร่วมก่อเรื่องก่อราวกับบรรดาขุนนางเฒ่าเหล่านั้น แต่เมื่อเห็นว่าหยู่เหวินเห้าไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย ก็เริ่มแอบกังวลใจกันขึ้นมาแล้ว เริ่มมีฎีกาไถ่ถามเรื่องให้หยู่เหวินเห้าทำการตรวจสอบเรื่องการวางยาพิษ

หยู่เหวินเห้ายังคงเมินเฉยไม่สนใจ ถึงขั้นให้ความรู้สึกว่า เขาจงใจปล่อยให้พวกนั้นทำให้เรื่องราวมันยิ่งใหญ่โตมากขึ้นเลยทีเดียว

ขุนนางเหล่านี้มีทั้งบุ๋นทั้งบู๊ ทั้งยังมีจำนวนค่อนข้างมาก ถ้าหากก่อปัญหาอะไรขึ้นมา สิ่งต่าง ๆ คงยากจะจัดการให้คลี่คลายลงได้เป็นแน่

ราชครูเหว่ยก็เคยเตือนหยู่เหวินเห้าแบบนี้เช่นกัน แต่หยู่เหวินเห้าก็ยังไม่สนใจอยู่ดี ยังคงปล่อยให้น้ำในสระนี้ขุ่นจนกลายเป็นตะกอนโคลนไปเรื่อย ๆ

ในตอนที่สถานการณ์ทางการเมืองวุ่นวายถึงขีดสุด ข่าวลือจากชาวบ้านแพร่กระจายไปทั่วสารทิศ มีคนบอกว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของอ๋องชินเฟิงอัน แต่เป็นฝีมือของหงเล่ผู้ปกครองแคว้นซู่ที่ยังไม่ตาย แล้วแอบลอบแทรกซึมเข้ามาในราชวงศ์เป่ยถัง ทำการสมรู้ร่วมคิดกับขุนนางชั่วบางคนในราชวงศ์เป่ยถัง คิดล้มล้างระบอบการปกครองของราชวงศ์เป่ยถัง อีกทั้งเวลานี้หงเล่ได้ร่วมมือกับเป่ยโม่ วางตัวสายลับจำนวนมากเอาไว้ในเมืองหลวง โดยมีเป้าหมายคือการยึดครองเป่ยถัง

เดิมทีข่าวนี้ฟังดูไร้สาระสิ้นดี ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่มีใครเชื่อ ในเมื่อหงเล่ผู้ปกครองแคว้นซู่ได้ตายไปแล้ว คนตายจะฟื้นคืนชีพได้อย่างไรกัน? แต่เรื่องของอ๋องชินเฟิงอันกับอ๋องผิงหนาน เป็นขี้ปากของประชาชนในเมืองหลวงมานานหลายวันแล้ว จนตอนนี้กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อไม่มีอะไรน่าสนใจอีก แล้วจู่ ๆ ก็มีข่าวที่น่าตกใจกว่าโผล่ขึ้นมา ไม่ว่าทุกคนจะเชื่อหรือไม่ อย่างไรก็ต้องจุดประเด็นให้ผู้คนเกิดการถกเถียงกันขึ้นอย่างแน่นอน

ไม่เกินสามวัน ข่าวลือที่ว่าหงเล่ยังไม่ตาย แล้วไปร่วมมือกับเป่ยโม่ วางสายลับแทรกซึมเข้ามาซ่อนเร้นอยู่ในราชวงศ์เป่ยถัง ก็ได้เข้ามาแทนที่ข่าวลือเดิมที่ว่า อ๋องผิงหนานวางแผนฆ่าโสวฝู่ฉู่ไปโดยสิ้นเชิง

เดิมทีพวกขุนนางที่อยากให้คุมขังอ๋องผิงหนานในตอนแรก มีหลายคนที่เปลี่ยนมารอดูท่าที แต่ก็ยังมีพวกสุนัขจนตรอกที่ยิ่งร้อนรนจนอยู่ไม่สุข อยากให้หยู่เหวินเห้ารีบคุมตัวอ๋องผิงหนานให้ได้โดยเร็ว

และในเวลานี้เอง  มีรางวัลให้คนที่มาแจ้งเบาะแสของสายลับได้ อีกทั้งเงินรางวัลสูงสุดอาจสูงถึงหนึ่งพันตำลึง หากใครพบเห็นบุคคลน่าสงสัย พวกเขาสามารถมาแจ้งได้ที่กรมการพระนคร หรือที่ทำการปกครองได้ทันที

หลังจากออกประกาศคำสั่งนี้ไปแล้ว กู้ซือรองหัวหน้ากองทหารรักษาพระองค์ ก็ได้นำคนตรงไปยังที่ต่าง ๆ ในเมืองหลวง ไปจัดการรวบตัวเถ้าแก่ซุนกับหลินเซียวด้วยความเร็วสูง ชนิดที่ไม่ปล่อยให้มีเวลาตั้งตัว นอกจากสองคนนี้แล้ว ยังสามารถจับกุมสายลับได้อีกนับสิบ  ไม่มีใครที่ขัดขืนได้แม้แต่คนเดียว

ส่วนทางราชสำนัก จู่ ๆ หยู่เหวินเห้าก็ออกคำสั่งให้คุมตัวขุนนางทั้งหมดที่ยังสนับสนุนให้จับกุมอ๋องผิงหนาน สั่งให้ขังพวกนั้นไว้ในคุกของกรมอาญา แล้วทำการสอบสวนอย่างช้า ๆ

ราชโองการทั้งสามฉบับ ออกมาเกือบจะพร้อม ๆ กัน เรียกได้ว่าก่อนจะออกมาทุกอย่างล้วนเงียบสงบอย่างยิ่ง

หลังจากที่หลินเซียวถูกควบคุมตัว หยู่เหวินเห้าก็ได้สอบสวนด้วยตัวเอง

หลินเซียวถูกขังอยู่ในคุกของกรมการพระนคร เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าจะถูกกู้ซือจับตัวได้

ดังนั้น ทันทีที่เห็นหยู่เหวินเห้าในคุก เขาก็พูดเย้ยหยันปรามาสออกไปว่า “เป็นถึงรัชทายาทผู้สง่างามแห่งราชวงศ์เป่ยถัง ถึงกับสั่งให้คนวางยา ไม่รู้สึกว่าต่ำช้าไร้ยางอายไปหน่อยรึ?”

หยู่เหวินเห้านั่งลงบนเก้าอี้ มองหลินเซียวที่คุกเข่าอยู่กับพื้นห้องขังอย่างเย็นชา เลิกดวงตาขึ้นสูงเล็กน้อย “ดูเหมือนว่า เจ้าจะเข้าใจได้สักทีแล้วสินะ”

เกี่ยวกับที่กบดานของหลินเซียว เขาได้กำหนดเป้าหมายไว้เรียบร้อยแล้ว แต่แค่ยังไม่สั่งให้กำลังทหารเคลื่อนไหว ปล่อยให้ข่าวลือภายนอกรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพียงเพื่อจะใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายเหล่านี้ สั่งคนบุกเข้าไปในภายในฐานหลักของหลินเซียว กลุ่มคนที่หลินเซียวพาติดตัวมา ล้วนเป็นพวกยอดฝีมือ เมื่อไหร่ที่พวกเขาลงมือ มีความเป็นไปได้ถึงแปดเก้าส่วนเลยว่า พวกนั้นจะสามารถหลบหนีไปได้ ที่หลินเซียนมั่นอกมั่นใจไร้ความหวาดกลัวขนาดนี้ เพราะเขามีวรยุทธ์ที่สูงส่งและแข็งแกร่งมาก เมื่อไหร่ที่เกิดเรื่อง เขาจะสามารถหลบหนีออกไปได้อย่างง่ายดาย

การจะรวบตัวพวกนั้นทั้งหมดให้ได้ในคราวเดียว จะต้องมีวิธีการที่ครอบคลุมรัดกุมมาก

ปล่อยให้ความคิดเห็นของประชาชนหมักหมมจนตกตะกอน ให้ชี้ตรงไปที่อ๋องผิงหนานกับอ๋องชินเฟิงอัน จุดนี้คือสิ่งที่พวกนั้นปรารถนา พวกนั้นจะต้องมีความสุขมาก พร้อมจะก้าวสู่แผนการในขั้นต่อไป จากนั้นก็จะสั่งคนของตัวเองเข้าสู่เมืองหลวง แต่ในเวลานี้เอง กลับมีข่าวลือที่ว่าหงเล่ยังไม่ตายปรากฏขึ้นมา เดิมทีพวกนั้นต้องกำลังเตรียมการสำหรับก้าวต่อไป ในช่วงเวลาที่กำลังลำพองใจมากที่สุด ก็มีข่าวนี้ออกมาอย่างประจวบเหมาะ เรียกได้ว่าเท่ากับตกจากจุดสูงสุดลงสู่ก้นเหวลึกเลยทีเดียว ย่อมทำให้เกิดความตื่นตระหนกแน่ ความคิดแรกต้องเป็นการโต้กลับ แน่นอนว่า พวกนั้นจะเรียกสายลับเข้ามา และเริ่มปฏิบัติการแทรกซึมอีกครั้ง

และในเวลานี้เอง แค่วางยาในบ่อน้ำ ก็สามารถจับพวกนั้นได้หมดในคราวเดียวแล้ว

อย่างน้อย การจับกุมครั้งนี้ ต้องจับพวกหัวหน้าของหน่วยสายลับจากทุกสารทิศได้แน่ หลินเซียวที่ลื่นเป็นปลาไหลจอมเจ้าเล่ห์ ก่อนหน้านี้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จับเขาไม่ได้ง่าย ๆ เพราะวรยุทธ์ของเขาสูงเกินไป อีกทั้งจะทำอะไรก็ระมัดระวังและละเอียดรอบคอบ ถ้าเป็นเมื่อก่อน การวางยาพิษก็ยังไม่แน่ว่าจะสำเร็จ แต่ครั้งนี้ เพราะความลำพองกับความตื่นตระหนก ย่อมทำให้เขาเกิดรู้สึกสับสนทำอะไรไม่ถูก จนตกหลุมพรางนี้ได้ในที่สุด

หลินเซียวพูดอย่างเย็นชา: “ขุนนางมากมายลงชื่อร่วมกันถวายฎีกา ความคิดเห็นของประชาชนต่างก็เดือดดาลเหมือนไฟลามทุ่ง รัชทายาทกลับไม่สนใจ เจ้าไม่กลัวเลยหรือว่าตัวเองจะถูกดึงลงมาจากตำแหน่งรัชทายาทอย่างรวดเร็วน่ะ?”

หยู่เหวินเห้าดูสงบและผ่อนคลายมาก “ถ้าข้ากลัวล่ะก็ จะไม่ตกหลุมพรางของพวกเจ้าหรอกรึ? วางยาพิษโสวฝู่ฉู่ บีบบังคับให้ข้าคุมตัวอ๋องผิงหนาน เจ้ารู้ว่าอ๋องชินเฟิงอันคู่สามีภรรยามีองครักษ์ลับกับกำลังทหารสองกอง อีกทั้งแต่ไหนแต่ไรมา อ๋องชินเฟิงอันคู่สามีภรรยาเป็นห่วงและใส่ใจอ๋องผิงหนานที่สุด เมื่อไหร่ที่ข้าจับตัวอ๋องผิงหนาน ย่อมสร้างความขุ่นเคืองใจต่อพวกเขาอย่างแน่นอน สิ่งที่พวกเขาสองคนจะทำนั้น ข้าไม่อาจคาดเดาได้ แต่มันจะต้องเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่แน่นอน เมื่อทุกอย่างสับสนปนเปเข้าด้วยกัน พวกเจ้าก็แค่นั่งรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากช่วงชุลมุนนี้ ทำไมจะไม่เป็นแผนการที่สมบูรณ์แบบล่ะ?”

หลินเซียวจ้องเขาเขม็ง “ข้าแค่ไม่เข้าใจ ตำแหน่งรัชทายาทของเจ้าได้มาเพราะโชคช่วยแท้ ๆ ถ้าเป็นคนอื่น จะต้องเอาใจประชาชนกับขุนนางเพื่อรักษาตำแหน่งให้มั่น โสวฝู่ฉู่ทั้งมีตำแหน่งชื่อเสียงทั้งยังสำคัญมาก มีลูกศิษย์ลูกหาทั่วแผ่นดิน เขาถูกวางยาพิษ มีคนตั้งเท่าไหร่ที่เป็นเดือดเป็นแค้น เจ้ากลับไม่สนใจความโกรธของคนเหล่านี้ ยังปล่อยให้ความโกรธโหมกระพือไปจนถึงขีดสุด เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าถ้าเจ้าเกิดทำอะไรผิดพลาด หรือทำไม่ได้ตามความคาดหวังของทุกคน พวกคนที่กู่ร้องให้กักขังอ๋องผิงหนาน จะกลายเป็นเรียกร้องให้มีการปลดเจ้าจากตำแหน่งรัชทายาทแน่ เจ้าไม่กลัวเลยอย่างนั้นรึ?”

หยู่เหวินเห้าเองที่จริงก็รับแรงกดดันอยู่ระดับหนึ่งเช่นกัน ใบหน้าอ่อนล้าอิดโรย แต่ดวงตากลับเย็นเยียบและเฉียบคมมาก “แน่นอนว่าข้าย่อมกำหนดขอบเขตได้เป็นธรรมดา เจ้าคิดว่านี่คือกับดักที่เจ้าตั้งไว้ แต่คงคิดไม่ถึงสินะว่า ข้าจะใช้วิธียืมแรงมาตอบโต้กลับ หากไม่สามารถควบคุมได้จริง ๆ โสวฝู่ฉู่จะเป็นคนลุกขึ้นมา แล้วบอกกับคนทั่วหล้าว่าคนที่วางยาพิษ ทำตามคำสั่งการของเจ้า หลินเซียว!”

หลินเซียวตกใจจนผงะ หรี่ตามองเขาเขม็ง บนหน้าผากปรากฏเส้นเลือดสีเขียวปูดโปนขึ้นมา “โสวฝู่ฉู่ไม่ได้ถูกวางยาพิษหรอกรึ? เป็นไปไม่ได้ วันที่โดนยาพิษ กลุ่มหมอที่ถูกเชิญไป สองคนในนั้นเป็นคนของพวกเรา มีการยืนยันแล้วว่าโสวฝู่ฉู่ถูกยาพิษแน่นอน ”

“แน่นอนสิว่าเขาถูกยาพิษ ถ้าเขาไม่ถูกยาพิษ คนของเจ้าจะส่งข้อความถึงหงเล่ ให้เขามาที่เมืองหลวงได้อย่างไรล่ะ? ข้ารอเขาอยู่ตั้งนานเชียวนะ” หยู่เหวินเห้าพูดอย่างเย็นชา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บัลลังก์หมอยาเซียน 1111 จับกุมหลินเซียว

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 1111 จับกุมหลินเซียว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สถานการณ์ภายนอกจะเป็นอย่างไร หยวนชิงหลิงไม่สนใจทั้งไม่คิดจะไถ่ถาม เจ้าห้าออกไปแต่เช้ากลับมาจนค่ำ สองคนสามีภรรยาได้คุยกันน้อยลง หยู่เหวินเห้าทุกวันนี้คือกลับมาถึง พอหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย พอเช้ามาฟ้ายังไม่ทันสว่างก็ต้องรีบออกไป ไม่มีเวลาพูดคุยกับหยวนชิงหลิงได้สักกี่ประโยคด้วยซ้ำ

สภาพของทังหยางดีขึ้นบ้างแล้ว สามารถจดจำหยวนชิงหลิงได้ แต่ปฏิกิริยานั้นเชื่องช้าและออกจะเฉื่อย ๆ เนือย ๆ ท่านชายหงเย่สั่งให้คนนำยามาให้ บอกว่ามันจะทำให้สติของทังหยางแจ่มชัดตื่นตัวได้เร็วขึ้น

หลังจากกินยาแล้ว วันรุ่งขึ้นเขาก็เริ่มดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก ไม่ว่าจะถามอะไรเขา ก็จะไม่ตอบแบบทื่อ ๆ เหมือนเมื่อก่อน แต่เริ่มมีการคิดวิเคราะห์บ้างแล้ว

ดู ๆ ไปแล้วเหมือนว่าถ้าค่อย ๆ รักษาตัวไปอีกสักสองสามวัน ก็คงจะไม่เป็นไรแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ราบรื่นกว่าที่คิดไว้เมื่อก่อนหน้านี้พอสมควรทีเดียว

เรื่องของโสวฝู่ฉู่ก็หมักหมมมาหลายวันแล้ว เสียงประณามจากบรรดาขุนนางกับประชาชนที่ต่อต้านอ๋องชินเฟิงอันกับอ๋องผิงหนานร้อนฉ่าไปจนถึงจุดเดือดแล้ว แต่หยู่เหวินเห้ากลับดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการควบคุมตัวพวกเขา ทั้งไม่อธิบายอะไรแทนอ๋องชินเฟิงอันกับอ๋องผิงหนานด้วย และยังไม่มีการเชิญอ๋องผิงหนานไปโรงเตี๊ยมอีก แต่ทุกวันจะเห็นเขาเข้าออกจวนฉู่วันละครั้ง จากนั้นก็จะกลับไปหารือกับเน่ย์เก๋อเกี่ยวกับการเมือง จนพลบค่ำถึงค่อยออกจากวังไป

เดิมที บรรดาลูกศิษย์ของโสวฝู่ฉู่ยังรอให้หยู่เหวินเห้าตัดสินใจ ยังไม่ไปเข้าร่วมก่อเรื่องก่อราวกับบรรดาขุนนางเฒ่าเหล่านั้น แต่เมื่อเห็นว่าหยู่เหวินเห้าไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย ก็เริ่มแอบกังวลใจกันขึ้นมาแล้ว เริ่มมีฎีกาไถ่ถามเรื่องให้หยู่เหวินเห้าทำการตรวจสอบเรื่องการวางยาพิษ

หยู่เหวินเห้ายังคงเมินเฉยไม่สนใจ ถึงขั้นให้ความรู้สึกว่า เขาจงใจปล่อยให้พวกนั้นทำให้เรื่องราวมันยิ่งใหญ่โตมากขึ้นเลยทีเดียว

ขุนนางเหล่านี้มีทั้งบุ๋นทั้งบู๊ ทั้งยังมีจำนวนค่อนข้างมาก ถ้าหากก่อปัญหาอะไรขึ้นมา สิ่งต่าง ๆ คงยากจะจัดการให้คลี่คลายลงได้เป็นแน่

ราชครูเหว่ยก็เคยเตือนหยู่เหวินเห้าแบบนี้เช่นกัน แต่หยู่เหวินเห้าก็ยังไม่สนใจอยู่ดี ยังคงปล่อยให้น้ำในสระนี้ขุ่นจนกลายเป็นตะกอนโคลนไปเรื่อย ๆ

ในตอนที่สถานการณ์ทางการเมืองวุ่นวายถึงขีดสุด ข่าวลือจากชาวบ้านแพร่กระจายไปทั่วสารทิศ มีคนบอกว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของอ๋องชินเฟิงอัน แต่เป็นฝีมือของหงเล่ผู้ปกครองแคว้นซู่ที่ยังไม่ตาย แล้วแอบลอบแทรกซึมเข้ามาในราชวงศ์เป่ยถัง ทำการสมรู้ร่วมคิดกับขุนนางชั่วบางคนในราชวงศ์เป่ยถัง คิดล้มล้างระบอบการปกครองของราชวงศ์เป่ยถัง อีกทั้งเวลานี้หงเล่ได้ร่วมมือกับเป่ยโม่ วางตัวสายลับจำนวนมากเอาไว้ในเมืองหลวง โดยมีเป้าหมายคือการยึดครองเป่ยถัง

เดิมทีข่าวนี้ฟังดูไร้สาระสิ้นดี ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่มีใครเชื่อ ในเมื่อหงเล่ผู้ปกครองแคว้นซู่ได้ตายไปแล้ว คนตายจะฟื้นคืนชีพได้อย่างไรกัน? แต่เรื่องของอ๋องชินเฟิงอันกับอ๋องผิงหนาน เป็นขี้ปากของประชาชนในเมืองหลวงมานานหลายวันแล้ว จนตอนนี้กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อไม่มีอะไรน่าสนใจอีก แล้วจู่ ๆ ก็มีข่าวที่น่าตกใจกว่าโผล่ขึ้นมา ไม่ว่าทุกคนจะเชื่อหรือไม่ อย่างไรก็ต้องจุดประเด็นให้ผู้คนเกิดการถกเถียงกันขึ้นอย่างแน่นอน

ไม่เกินสามวัน ข่าวลือที่ว่าหงเล่ยังไม่ตาย แล้วไปร่วมมือกับเป่ยโม่ วางสายลับแทรกซึมเข้ามาซ่อนเร้นอยู่ในราชวงศ์เป่ยถัง ก็ได้เข้ามาแทนที่ข่าวลือเดิมที่ว่า อ๋องผิงหนานวางแผนฆ่าโสวฝู่ฉู่ไปโดยสิ้นเชิง

เดิมทีพวกขุนนางที่อยากให้คุมขังอ๋องผิงหนานในตอนแรก มีหลายคนที่เปลี่ยนมารอดูท่าที แต่ก็ยังมีพวกสุนัขจนตรอกที่ยิ่งร้อนรนจนอยู่ไม่สุข อยากให้หยู่เหวินเห้ารีบคุมตัวอ๋องผิงหนานให้ได้โดยเร็ว

และในเวลานี้เอง  มีรางวัลให้คนที่มาแจ้งเบาะแสของสายลับได้ อีกทั้งเงินรางวัลสูงสุดอาจสูงถึงหนึ่งพันตำลึง หากใครพบเห็นบุคคลน่าสงสัย พวกเขาสามารถมาแจ้งได้ที่กรมการพระนคร หรือที่ทำการปกครองได้ทันที

หลังจากออกประกาศคำสั่งนี้ไปแล้ว กู้ซือรองหัวหน้ากองทหารรักษาพระองค์ ก็ได้นำคนตรงไปยังที่ต่าง ๆ ในเมืองหลวง ไปจัดการรวบตัวเถ้าแก่ซุนกับหลินเซียวด้วยความเร็วสูง ชนิดที่ไม่ปล่อยให้มีเวลาตั้งตัว นอกจากสองคนนี้แล้ว ยังสามารถจับกุมสายลับได้อีกนับสิบ  ไม่มีใครที่ขัดขืนได้แม้แต่คนเดียว

ส่วนทางราชสำนัก จู่ ๆ หยู่เหวินเห้าก็ออกคำสั่งให้คุมตัวขุนนางทั้งหมดที่ยังสนับสนุนให้จับกุมอ๋องผิงหนาน สั่งให้ขังพวกนั้นไว้ในคุกของกรมอาญา แล้วทำการสอบสวนอย่างช้า ๆ

ราชโองการทั้งสามฉบับ ออกมาเกือบจะพร้อม ๆ กัน เรียกได้ว่าก่อนจะออกมาทุกอย่างล้วนเงียบสงบอย่างยิ่ง

หลังจากที่หลินเซียวถูกควบคุมตัว หยู่เหวินเห้าก็ได้สอบสวนด้วยตัวเอง

หลินเซียวถูกขังอยู่ในคุกของกรมการพระนคร เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าจะถูกกู้ซือจับตัวได้

ดังนั้น ทันทีที่เห็นหยู่เหวินเห้าในคุก เขาก็พูดเย้ยหยันปรามาสออกไปว่า “เป็นถึงรัชทายาทผู้สง่างามแห่งราชวงศ์เป่ยถัง ถึงกับสั่งให้คนวางยา ไม่รู้สึกว่าต่ำช้าไร้ยางอายไปหน่อยรึ?”

หยู่เหวินเห้านั่งลงบนเก้าอี้ มองหลินเซียวที่คุกเข่าอยู่กับพื้นห้องขังอย่างเย็นชา เลิกดวงตาขึ้นสูงเล็กน้อย “ดูเหมือนว่า เจ้าจะเข้าใจได้สักทีแล้วสินะ”

เกี่ยวกับที่กบดานของหลินเซียว เขาได้กำหนดเป้าหมายไว้เรียบร้อยแล้ว แต่แค่ยังไม่สั่งให้กำลังทหารเคลื่อนไหว ปล่อยให้ข่าวลือภายนอกรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพียงเพื่อจะใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายเหล่านี้ สั่งคนบุกเข้าไปในภายในฐานหลักของหลินเซียว กลุ่มคนที่หลินเซียวพาติดตัวมา ล้วนเป็นพวกยอดฝีมือ เมื่อไหร่ที่พวกเขาลงมือ มีความเป็นไปได้ถึงแปดเก้าส่วนเลยว่า พวกนั้นจะสามารถหลบหนีไปได้ ที่หลินเซียนมั่นอกมั่นใจไร้ความหวาดกลัวขนาดนี้ เพราะเขามีวรยุทธ์ที่สูงส่งและแข็งแกร่งมาก เมื่อไหร่ที่เกิดเรื่อง เขาจะสามารถหลบหนีออกไปได้อย่างง่ายดาย

การจะรวบตัวพวกนั้นทั้งหมดให้ได้ในคราวเดียว จะต้องมีวิธีการที่ครอบคลุมรัดกุมมาก

ปล่อยให้ความคิดเห็นของประชาชนหมักหมมจนตกตะกอน ให้ชี้ตรงไปที่อ๋องผิงหนานกับอ๋องชินเฟิงอัน จุดนี้คือสิ่งที่พวกนั้นปรารถนา พวกนั้นจะต้องมีความสุขมาก พร้อมจะก้าวสู่แผนการในขั้นต่อไป จากนั้นก็จะสั่งคนของตัวเองเข้าสู่เมืองหลวง แต่ในเวลานี้เอง กลับมีข่าวลือที่ว่าหงเล่ยังไม่ตายปรากฏขึ้นมา เดิมทีพวกนั้นต้องกำลังเตรียมการสำหรับก้าวต่อไป ในช่วงเวลาที่กำลังลำพองใจมากที่สุด ก็มีข่าวนี้ออกมาอย่างประจวบเหมาะ เรียกได้ว่าเท่ากับตกจากจุดสูงสุดลงสู่ก้นเหวลึกเลยทีเดียว ย่อมทำให้เกิดความตื่นตระหนกแน่ ความคิดแรกต้องเป็นการโต้กลับ แน่นอนว่า พวกนั้นจะเรียกสายลับเข้ามา และเริ่มปฏิบัติการแทรกซึมอีกครั้ง

และในเวลานี้เอง แค่วางยาในบ่อน้ำ ก็สามารถจับพวกนั้นได้หมดในคราวเดียวแล้ว

อย่างน้อย การจับกุมครั้งนี้ ต้องจับพวกหัวหน้าของหน่วยสายลับจากทุกสารทิศได้แน่ หลินเซียวที่ลื่นเป็นปลาไหลจอมเจ้าเล่ห์ ก่อนหน้านี้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จับเขาไม่ได้ง่าย ๆ เพราะวรยุทธ์ของเขาสูงเกินไป อีกทั้งจะทำอะไรก็ระมัดระวังและละเอียดรอบคอบ ถ้าเป็นเมื่อก่อน การวางยาพิษก็ยังไม่แน่ว่าจะสำเร็จ แต่ครั้งนี้ เพราะความลำพองกับความตื่นตระหนก ย่อมทำให้เขาเกิดรู้สึกสับสนทำอะไรไม่ถูก จนตกหลุมพรางนี้ได้ในที่สุด

หลินเซียวพูดอย่างเย็นชา: “ขุนนางมากมายลงชื่อร่วมกันถวายฎีกา ความคิดเห็นของประชาชนต่างก็เดือดดาลเหมือนไฟลามทุ่ง รัชทายาทกลับไม่สนใจ เจ้าไม่กลัวเลยหรือว่าตัวเองจะถูกดึงลงมาจากตำแหน่งรัชทายาทอย่างรวดเร็วน่ะ?”

หยู่เหวินเห้าดูสงบและผ่อนคลายมาก “ถ้าข้ากลัวล่ะก็ จะไม่ตกหลุมพรางของพวกเจ้าหรอกรึ? วางยาพิษโสวฝู่ฉู่ บีบบังคับให้ข้าคุมตัวอ๋องผิงหนาน เจ้ารู้ว่าอ๋องชินเฟิงอันคู่สามีภรรยามีองครักษ์ลับกับกำลังทหารสองกอง อีกทั้งแต่ไหนแต่ไรมา อ๋องชินเฟิงอันคู่สามีภรรยาเป็นห่วงและใส่ใจอ๋องผิงหนานที่สุด เมื่อไหร่ที่ข้าจับตัวอ๋องผิงหนาน ย่อมสร้างความขุ่นเคืองใจต่อพวกเขาอย่างแน่นอน สิ่งที่พวกเขาสองคนจะทำนั้น ข้าไม่อาจคาดเดาได้ แต่มันจะต้องเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่แน่นอน เมื่อทุกอย่างสับสนปนเปเข้าด้วยกัน พวกเจ้าก็แค่นั่งรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากช่วงชุลมุนนี้ ทำไมจะไม่เป็นแผนการที่สมบูรณ์แบบล่ะ?”

หลินเซียวจ้องเขาเขม็ง “ข้าแค่ไม่เข้าใจ ตำแหน่งรัชทายาทของเจ้าได้มาเพราะโชคช่วยแท้ ๆ ถ้าเป็นคนอื่น จะต้องเอาใจประชาชนกับขุนนางเพื่อรักษาตำแหน่งให้มั่น โสวฝู่ฉู่ทั้งมีตำแหน่งชื่อเสียงทั้งยังสำคัญมาก มีลูกศิษย์ลูกหาทั่วแผ่นดิน เขาถูกวางยาพิษ มีคนตั้งเท่าไหร่ที่เป็นเดือดเป็นแค้น เจ้ากลับไม่สนใจความโกรธของคนเหล่านี้ ยังปล่อยให้ความโกรธโหมกระพือไปจนถึงขีดสุด เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าถ้าเจ้าเกิดทำอะไรผิดพลาด หรือทำไม่ได้ตามความคาดหวังของทุกคน พวกคนที่กู่ร้องให้กักขังอ๋องผิงหนาน จะกลายเป็นเรียกร้องให้มีการปลดเจ้าจากตำแหน่งรัชทายาทแน่ เจ้าไม่กลัวเลยอย่างนั้นรึ?”

หยู่เหวินเห้าเองที่จริงก็รับแรงกดดันอยู่ระดับหนึ่งเช่นกัน ใบหน้าอ่อนล้าอิดโรย แต่ดวงตากลับเย็นเยียบและเฉียบคมมาก “แน่นอนว่าข้าย่อมกำหนดขอบเขตได้เป็นธรรมดา เจ้าคิดว่านี่คือกับดักที่เจ้าตั้งไว้ แต่คงคิดไม่ถึงสินะว่า ข้าจะใช้วิธียืมแรงมาตอบโต้กลับ หากไม่สามารถควบคุมได้จริง ๆ โสวฝู่ฉู่จะเป็นคนลุกขึ้นมา แล้วบอกกับคนทั่วหล้าว่าคนที่วางยาพิษ ทำตามคำสั่งการของเจ้า หลินเซียว!”

หลินเซียวตกใจจนผงะ หรี่ตามองเขาเขม็ง บนหน้าผากปรากฏเส้นเลือดสีเขียวปูดโปนขึ้นมา “โสวฝู่ฉู่ไม่ได้ถูกวางยาพิษหรอกรึ? เป็นไปไม่ได้ วันที่โดนยาพิษ กลุ่มหมอที่ถูกเชิญไป สองคนในนั้นเป็นคนของพวกเรา มีการยืนยันแล้วว่าโสวฝู่ฉู่ถูกยาพิษแน่นอน ”

“แน่นอนสิว่าเขาถูกยาพิษ ถ้าเขาไม่ถูกยาพิษ คนของเจ้าจะส่งข้อความถึงหงเล่ ให้เขามาที่เมืองหลวงได้อย่างไรล่ะ? ข้ารอเขาอยู่ตั้งนานเชียวนะ” หยู่เหวินเห้าพูดอย่างเย็นชา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+