บัลลังก์หมอยาเซียน 956 หงเย่เข้าเมืองหลวงแล้ว

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 956 หงเย่เข้าเมืองหลวงแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หยวนชิงหลิงแอบอิงอยู่ข้างกายของเขา มองดูกล้อง แววตาแน่วแน่ “ข้าเชื่อว่าชอบ ท่านทำให้คนชอบเป็นอย่างมาก”

“อันที่จริงข้าเตรียมคำพูดไว้มากมาย ข้าอยากพูดกับพวกเขาว่า พวกท่านรักษาตัวเองให้ดี อย่าทำให้พวกเราเป็นห่วง ข้าจะดูแลเจ้าให้ดี ทั้งชีวิตจะไม่ทอดไม่ทิ้ง ไม่มีภรรยารอง จะไม่ทำให้เจ้าเสียใจ…….เยอะแยะมากมาย แต่คำพูดเหล่านี้พูดไม่ออก” หยู่เหวินเห้าจับมือนางและเพ่งมองนาง “ข้ารู้ว่าในใจของเจ้าระลึกถึงพวกเขา มีบางครั้งที่เจ้าฝันตอนกลางคืน เจ้าร้องไห้แล้วร้องเรียกคุณพ่อคุณแม่ หลังจากตื่นขึ้นมาก็แสร้งทำเหมือนไม่เป็นอะไร ข้าสงสารเป็นอย่างมาก แต่ข้าก็ช่วยไม่ได้ ข้าไม่รู้ว่าจะช่วยเจ้าไปหาพวกเขามาได้จากที่ไหน”

หยวนชิงหลิงน้ำตานอง “อืม”

“พวกเราล้วนต้องมองโลกในแง่ดีหน่อย ในเมื่อทะเลสาบจิ้งสามารถส่งของมาได้ ก็สามารถส่งคนกลับไปได้ พวกเจ้าจะต้องได้พบกันอีกเป็นแน่ ได้ยินพี่เขยพูดคำเหล่านั้น ในใจของข้าก็เป็นทุกข์มาก และเฝ้าหวังว่าจะสามารถพบกับพวกเขาได้”

“ใช่แล้ว ทดลองร้อยครั้ง หากว่าไม่เกิดอุบัติเหตุ จึงจะสามารถลองส่งคนไปได้ ไม่เช่นนั้นทันทีที่เกิดเรื่อง ก็จะย้อนกลับไม่ได้แล้ว” หยวนชิงหลิงกล่าว

นางอิงแอบกับหยู่เหวินเห้าเงียบๆ และมองดูกล้องเงียบๆ กล่าวใจในประโยคหนึ่ง พ่อคะแม่คะ ก็คือผู้ชายคนนี้

ขณะที่นางบันทึกตัวเอง เป็นวันรุ่งขึ้นที่รอจนหยู่เหวินเห้าออกไปแล้ว ตัวเองบันทึกอยู่ในห้องครู่ใหญ่ๆ ห่อโทรศัพท์อย่างดี วางไว้ในกล่อง ทั้งยังวางสิ่งของลงไปมากมาย โดยส่วนมากเป็นภาพวาดพู่กันเครื่องลายครามบางส่วนและของเล่นที่ค่อนข้างน่าสนใจในยุคสมัยนี้ ทั้งยังฝากที่ฝนหมึกไปให้พี่ชายด้วยชิ้นหนึ่ง เขาชอบศิลปะการเขียนพู่กันจีน

สวีอีส่งสิ่งของไปที่ทะเลสาบจิ้งด้วยตัวเอง คืนนั้นซาลาเปาแย่งไปก่อนแล้ว บอกให้รู้ว่าท่านแม่บันทึกวิดีโอส่งกลับมาแล้ว วันรุ่งขึ้นพี่ชายของหยวนชิงหลิงก็ไปเอา แต่ว่า ไปต่อเนื่องกันสองสามวันแล้ว ก็ยังไม่ได้

ซาลาเปารายงานผลกลับมาที่หยวนชิงหลิงตรงนี้ หยวนชิงหลิงงงงันแล้ว ถามเวลาที่สวีอีวางไป สวีอีบอกว่าเลยช่วงเที่ยงไปเล็กน้อย เพราะตอนนี้ทะเลสาบจิ้งมีคนทำการทดลองอยู่ตลอด วางสิ่งของบันทึกเวลาเข้าไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบแล้ว จำนวนการเกิดปัญหาขึ้นมีน้อยมาก และที่เลือกเวลาช่วงเที่ยงนี้ ก็เพราะเวลานี้อัตราความสำเร็จสูงมาก

หยวนชิงหลิงไม่รู้ว่าเพราะผิดเวลาหรือผิดที่ จะเป็นเส้นโค้งของกาลเวลาเกิดความเปลี่ยนแปลงหรือไม่นะ? ถ้าหากว่าเปลี่ยนแล้ว เช่นนั้นการวางแผนคำนวณก่อนหน้านี้ก็ผิดหมดแล้ว

“สวีอี เจ้าบอกให้คนวางตุ๊กตาเข้าไปอย่างต่อเนื่อง บันทึกเวลาและจุดที่ลงน้ำไว้ให้ดี” หยวนชิงหลิงกล่าวกำชับ

สวีอีรับคำสั่ง สั่งคนให้ถ่ายทอดคำพูดไปที่ทะเลสาบจิ้ง

ตระกูลหยวนทางนั้นได้ยินว่าหยวนชิงหลิงบันทึกวิดีโอแล้ว ตั้งหน้าตั้งตารอเป็นที่สุด แต่กลับไม่ได้รับมาโดยตลอด ร้อนใจเป็นอย่างมาก

พี่ชายของหยวนชิงหลิงขับรถไปสืบดูเกือบทุกวัน กระทั่งไปยังผานางแอ่นบนภูเขาซีเฉียว แต่ก็ไม่ได้พบเจอกล่องใบนั้น

ทุกคนล้วนค่อนข้างผิดหวัง จึงลองส่งของให้หยวนชิงหลิงอีก ทะเลสาบจิ้งทางนั้น ได้รับของแล้ว แต่วางกลับไปกลับไม่ได้รับ

อีกทั้ง นับตั้งแต่นั้น พี่ชายของหยวนชิงหลิงก็ไม่ได้รับสิ่งของใดๆอีก แม้แต่ตุ๊กตาทดลองก็ล้วนไม่ได้รับ

น่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ทะเลสาบจิ้งไม่ได้มีปัญหา เป็นความผิดปกติของสนามแม่เหล็กทางนั้นทำให้มิติกาลเวลาเกิดความผิดปกติหรือว่ากาลเวลาปกลอยตัวไปมา

นี่ทำให้หยวนชิงหลิงกลุ้มใจและห่อเหี่ยวเป็นอย่างมาก

ผ่านไปสองสามวันแล้ว มีคนส่งของขวัญมา บอกชัดเจนว่ามอบให้พระชายารัชทายาท

ของขวัญเป็นกล่องที่มีสีสันสวยงามเล็กๆใบหนึ่ง ส่งถึงเบื้องหน้าของหยวนชิงหลิง กล่องที่มีสีสันสวยงามใบนี้ห่อด้วยผ้าแพรสีแดง แกะผ้าแพรสีแดงออก เป็นกล่องไม้ที่แกะสลักอย่างประณีต “เป็นผู้ใดส่งมา?”

อะซี่ส่ายหน้า “ผู้เฝ้าประตูบอกว่าเป็นลูกจ้างของร้านอาหารผู้หนึ่งส่งมาเพคะ มีลูกค้าท่านหนึ่งบอกให้เขาส่งมา หลังจากลูกค้าผู้นั้นกำชับเสร็จก็จากไปแล้ว เขาไม่เคยเห็นคนผู้นั้นมาก่อน”

หยวนชิงหลิงเปิดกล่องไม้ออก เห็นสิ่งของด้านในกล่อง ตะลึงครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าที่วางไว้จะเป็นหวีที่ทำด้วยหยกอันหนึ่ง ด้านบนหัวของหวีผูกด้วยหยกหรูอี้ชิ้นหนึ่ง ไม่ว่าหวีหรือว่าหรูอี้ ล้วนใช้หยกอย่างดี ใสแจ๋วแวววาวอีกทั้งเย็นชุ่มชื่น

“เจ้าห้า?” หยวนชิงหลิงทำหน้าไม่ถูก

อะซี่ก็หัวเราะขึ้นมาแล้ว “รัชทายาทมอบให้จนติดใจแล้วหรือ? แต่ว่า หวีนี่ล้ำค่าก็ล้ำค่า แต่ดีไม่เท่าอันเดิมนั่น อันนั้นความคิดเฉียบแหลม”

“ข้าต้องการหวีมากมายขนาดนี้ทำอะไรกัน? อีกทั้งหวีที่ทำจากหยกอย่างดีขนาดนี้ จะทำใจเอามาใช้หวีผมได้อย่างไรกันล่ะ?” หยวนชิงหลิงหัวเราะ แม้จะบอกว่าเขาชอบมอบของขวัญ แต่ รู้สึกว่าค่อนข้างฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลืองไปแล้ว ซื้อหยกชิ้นหนึ่งเงินไม่น้อย

อะซี่หัวเราะแล้วกล่าว: “ท่านไม่รู้ เรื่องที่รัชทายาทมอบหวีให้ท่าน แพร่กระจายไปทั่วสังคมภายนอกแล้ว ต่างพากันเลียนแบบน่ะเพคะ อาจจะเพราะรัชทายาทคำนึงถึงจุดนี้ จึงมอบที่ล้ำค่าอีกอันให้ท่าน เพียงแค่ทำไมไม่มอบให้ต่อหน้าล่ะ? จะต้องทำเป็นแกล้งหยอกล้อเช่นนี้ด้วย”

“ใช่หรือ?” หยวนชิงหลิงไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ

“จะไม่ใช่ได้อย่างไรเพคะ!” หมันเอ๋อก็ขยับเข้ามาใกล้ หัวเราะแล้วกล่าว: “หลังจากที่ท่านให้กำเนิดเด็กทั้งสอง ขยะในจวนอ๋องฉู่ที่ทิ้งออกไปล้วนมีคนเก็บ บอกว่าสัมผัสความโชคดี ความรักของท่านและรัชทายาทก็เล่าลือจนเป็นนิทานแล้ว ทุกคนล้วนแย่งกันเลียนแบบเพคะ”

หยวนชิงหลิงเผลอหัวเราะออกมา การใช้ชีวิตเหล่านี้ของนางกับเจ้าห้าหากว่าฉีกออก จะมีจุดไหนที่น่าสนใจกันล่ะ? ล้วนเป็นการใช้ชีวิตแบบทั่วๆไป วุ่นวายอุตลุด

แต่นี่ก็คือแก่นแท้ของการใช้ชีวิต ไม่ใช่หรือ?

เจ้าห้ากลับมาค่อนข้างค่ำ หยวนชิงหลิงเอาหวีวางต่อหน้าเขา มองดูเขา

หยู่เหวินเห้าถอดเสื้อด้านนอกออกแล้ว โยนไปด้านข้างมองดูหวีหยกอันด้ามนั้น เบ้ปาก “ทำไม? รังเกียจอันนั้นที่ข้ามอบให้แล้วงั้นหรือ?”

หยวนชิงหลิงยกมือขึ้น “ไม่ได้รังเกียจนี่ ข้าชอบอันแรกที่ท่านให้เป็นอย่างมาก ดังนั้นจริงๆแล้วท่านก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองเงินทำอีกอันหนึ่ง หยกชิ้นนี้ราคาเท่าไหร่ล่ะ? ราคาไม่ถูกสินะ”

หยู่เหวินเห้าหยิบขึ้นมาดู “ดูแล้วราคาไม่ถูก ใสแจ๋วแวววาวขนาดนี้ ต้องประมาณพันตำลึงล่ะมั้ง?”

หยวนชิงหลิงปวดใจมาก “เงินพันตำลึงท่านทำหวีอันหนึ่ง? โอ้พระเจ้า!”

“ข้าทำหรือ?” หยู่เหวินเห้างงงัน มองดูนาง “นี่ไม่ใช่ข้าทำนะ ผู้ใดมอบให้เจ้า?”

“ไม่ใช่ท่านมอบให้หรอกหรือ?” หยวนชิงหลิงงุนงงครู่หนึ่ง

หยู่เหวินเห้ากล่าวอย่างกลัดกลุ้ม: “ข้ามีเงินเท่าไหร่เจ้าไม่รู้หรอกหรือ? ไม้จันทน์สีดำนั่นก็ไปขอจากผู้อื่น หยกนี่ข้าจะซื้อไหวที่ไหนกัน?”

เขาบีบหวีหยกอันนี้ ด้านบนไม่ได้สลักชื่อ แต่กลับมีการแกะสลักที่ละเอียดอย่างหนึ่งอยู่ในฟันหวี เป็นใบไม้เล็กๆใบหนึ่ง

“ใบไม้?”

หยวนชิงหลิงตะลึงครู่หนึ่ง หยิบมาดู วันนี้ขณะที่ได้มาคิดว่าเจ้าห้ามอบให้ จึงไม่ได้ดูอย่างละเอียด ตอนนี้เพิ่งจะเห็นว่าด้านในตรงกลางช่องของฟันหวีแกะสลักใบไม้ใบหนึ่งไว้จริงๆ หากว่าไม่มองดูอย่างละเอียด ก็ยังมองไม่เห็นด้วยล่ะ

แกะสลักบนฟันหวีที่เล็กขนาดนี้ และสายใยของใบไม้ก็เห็นได้ชัด เป็นฝีมือที่ประณีตเยี่ยมยอดถึงระดับไหนกันเชียว?

“หงเย่?” หยวนชิงหลิงมองดูหยู่เหวินเห้า พูดชื่อนี้ออกมาลองหยั่งเชิง

สีหน้าของหยู่เหวินเห้าเปลี่ยนเป็นดูไม่ได้อย่างฉับพลัน “เขาก็มอบหวีให้เจ้า? หมายความว่าอะไร?”

แม้ว่าด้านบนไม่ได้สลักชื่อ แต่ผู้ชายที่มีอายุผู้หนึ่งมอบหวีให้ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วผู้หนึ่ง เหมาะสมหรือ?

นึกถึงคำพูดนั้นที่เขาพูดข้างทะเลสาบจิ้ง หยู่เหวินเห้าก็เดือดดาลเป็นที่สุด หงเย่ไอ้สารเลวผู้นี้!

หยู่เหวินเห้ากล่าวอย่างเย็นชา: “เขาอยู่ระหว่างทางเข้าเมืองหลวงแล้ว อีกทั้ง ข่าวสารที่ได้รับวันนี้ แคว้นต้าโจวแต่งตั้งเขาเป็นจวิ้นอ๋องหงเย่”

“ทำไม?” หยวนชิงหลิงตกใจ คาดไม่ถึงว่าแคว้นต้าโจวจะแต่งตั้งหงเย่เป็นจวิ้นอ๋อง? นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?

“ในเรื่องสงครามเหตุการณ์นั้นของแคว้นต้าโจวและแคว้นซู่กับเป่ยโม่ เขาทำหน้าที่เป็นคนสอดแนมของแคว้นต้าโจวมาโดยตลอด ติดต่อกับคนข้างกายของฮ่องเต้แคว้นต้าโจวโดยตรง ตอนนี้ทุกอย่างสงบ พูดถึงความดีความชอบในการตกรางวัล จึงแต่งตั้งเขาเป็นจวิ้นอ๋อง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บัลลังก์หมอยาเซียน 956 หงเย่เข้าเมืองหลวงแล้ว

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 956 หงเย่เข้าเมืองหลวงแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หยวนชิงหลิงแอบอิงอยู่ข้างกายของเขา มองดูกล้อง แววตาแน่วแน่ “ข้าเชื่อว่าชอบ ท่านทำให้คนชอบเป็นอย่างมาก”

“อันที่จริงข้าเตรียมคำพูดไว้มากมาย ข้าอยากพูดกับพวกเขาว่า พวกท่านรักษาตัวเองให้ดี อย่าทำให้พวกเราเป็นห่วง ข้าจะดูแลเจ้าให้ดี ทั้งชีวิตจะไม่ทอดไม่ทิ้ง ไม่มีภรรยารอง จะไม่ทำให้เจ้าเสียใจ…….เยอะแยะมากมาย แต่คำพูดเหล่านี้พูดไม่ออก” หยู่เหวินเห้าจับมือนางและเพ่งมองนาง “ข้ารู้ว่าในใจของเจ้าระลึกถึงพวกเขา มีบางครั้งที่เจ้าฝันตอนกลางคืน เจ้าร้องไห้แล้วร้องเรียกคุณพ่อคุณแม่ หลังจากตื่นขึ้นมาก็แสร้งทำเหมือนไม่เป็นอะไร ข้าสงสารเป็นอย่างมาก แต่ข้าก็ช่วยไม่ได้ ข้าไม่รู้ว่าจะช่วยเจ้าไปหาพวกเขามาได้จากที่ไหน”

หยวนชิงหลิงน้ำตานอง “อืม”

“พวกเราล้วนต้องมองโลกในแง่ดีหน่อย ในเมื่อทะเลสาบจิ้งสามารถส่งของมาได้ ก็สามารถส่งคนกลับไปได้ พวกเจ้าจะต้องได้พบกันอีกเป็นแน่ ได้ยินพี่เขยพูดคำเหล่านั้น ในใจของข้าก็เป็นทุกข์มาก และเฝ้าหวังว่าจะสามารถพบกับพวกเขาได้”

“ใช่แล้ว ทดลองร้อยครั้ง หากว่าไม่เกิดอุบัติเหตุ จึงจะสามารถลองส่งคนไปได้ ไม่เช่นนั้นทันทีที่เกิดเรื่อง ก็จะย้อนกลับไม่ได้แล้ว” หยวนชิงหลิงกล่าว

นางอิงแอบกับหยู่เหวินเห้าเงียบๆ และมองดูกล้องเงียบๆ กล่าวใจในประโยคหนึ่ง พ่อคะแม่คะ ก็คือผู้ชายคนนี้

ขณะที่นางบันทึกตัวเอง เป็นวันรุ่งขึ้นที่รอจนหยู่เหวินเห้าออกไปแล้ว ตัวเองบันทึกอยู่ในห้องครู่ใหญ่ๆ ห่อโทรศัพท์อย่างดี วางไว้ในกล่อง ทั้งยังวางสิ่งของลงไปมากมาย โดยส่วนมากเป็นภาพวาดพู่กันเครื่องลายครามบางส่วนและของเล่นที่ค่อนข้างน่าสนใจในยุคสมัยนี้ ทั้งยังฝากที่ฝนหมึกไปให้พี่ชายด้วยชิ้นหนึ่ง เขาชอบศิลปะการเขียนพู่กันจีน

สวีอีส่งสิ่งของไปที่ทะเลสาบจิ้งด้วยตัวเอง คืนนั้นซาลาเปาแย่งไปก่อนแล้ว บอกให้รู้ว่าท่านแม่บันทึกวิดีโอส่งกลับมาแล้ว วันรุ่งขึ้นพี่ชายของหยวนชิงหลิงก็ไปเอา แต่ว่า ไปต่อเนื่องกันสองสามวันแล้ว ก็ยังไม่ได้

ซาลาเปารายงานผลกลับมาที่หยวนชิงหลิงตรงนี้ หยวนชิงหลิงงงงันแล้ว ถามเวลาที่สวีอีวางไป สวีอีบอกว่าเลยช่วงเที่ยงไปเล็กน้อย เพราะตอนนี้ทะเลสาบจิ้งมีคนทำการทดลองอยู่ตลอด วางสิ่งของบันทึกเวลาเข้าไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบแล้ว จำนวนการเกิดปัญหาขึ้นมีน้อยมาก และที่เลือกเวลาช่วงเที่ยงนี้ ก็เพราะเวลานี้อัตราความสำเร็จสูงมาก

หยวนชิงหลิงไม่รู้ว่าเพราะผิดเวลาหรือผิดที่ จะเป็นเส้นโค้งของกาลเวลาเกิดความเปลี่ยนแปลงหรือไม่นะ? ถ้าหากว่าเปลี่ยนแล้ว เช่นนั้นการวางแผนคำนวณก่อนหน้านี้ก็ผิดหมดแล้ว

“สวีอี เจ้าบอกให้คนวางตุ๊กตาเข้าไปอย่างต่อเนื่อง บันทึกเวลาและจุดที่ลงน้ำไว้ให้ดี” หยวนชิงหลิงกล่าวกำชับ

สวีอีรับคำสั่ง สั่งคนให้ถ่ายทอดคำพูดไปที่ทะเลสาบจิ้ง

ตระกูลหยวนทางนั้นได้ยินว่าหยวนชิงหลิงบันทึกวิดีโอแล้ว ตั้งหน้าตั้งตารอเป็นที่สุด แต่กลับไม่ได้รับมาโดยตลอด ร้อนใจเป็นอย่างมาก

พี่ชายของหยวนชิงหลิงขับรถไปสืบดูเกือบทุกวัน กระทั่งไปยังผานางแอ่นบนภูเขาซีเฉียว แต่ก็ไม่ได้พบเจอกล่องใบนั้น

ทุกคนล้วนค่อนข้างผิดหวัง จึงลองส่งของให้หยวนชิงหลิงอีก ทะเลสาบจิ้งทางนั้น ได้รับของแล้ว แต่วางกลับไปกลับไม่ได้รับ

อีกทั้ง นับตั้งแต่นั้น พี่ชายของหยวนชิงหลิงก็ไม่ได้รับสิ่งของใดๆอีก แม้แต่ตุ๊กตาทดลองก็ล้วนไม่ได้รับ

น่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ทะเลสาบจิ้งไม่ได้มีปัญหา เป็นความผิดปกติของสนามแม่เหล็กทางนั้นทำให้มิติกาลเวลาเกิดความผิดปกติหรือว่ากาลเวลาปกลอยตัวไปมา

นี่ทำให้หยวนชิงหลิงกลุ้มใจและห่อเหี่ยวเป็นอย่างมาก

ผ่านไปสองสามวันแล้ว มีคนส่งของขวัญมา บอกชัดเจนว่ามอบให้พระชายารัชทายาท

ของขวัญเป็นกล่องที่มีสีสันสวยงามเล็กๆใบหนึ่ง ส่งถึงเบื้องหน้าของหยวนชิงหลิง กล่องที่มีสีสันสวยงามใบนี้ห่อด้วยผ้าแพรสีแดง แกะผ้าแพรสีแดงออก เป็นกล่องไม้ที่แกะสลักอย่างประณีต “เป็นผู้ใดส่งมา?”

อะซี่ส่ายหน้า “ผู้เฝ้าประตูบอกว่าเป็นลูกจ้างของร้านอาหารผู้หนึ่งส่งมาเพคะ มีลูกค้าท่านหนึ่งบอกให้เขาส่งมา หลังจากลูกค้าผู้นั้นกำชับเสร็จก็จากไปแล้ว เขาไม่เคยเห็นคนผู้นั้นมาก่อน”

หยวนชิงหลิงเปิดกล่องไม้ออก เห็นสิ่งของด้านในกล่อง ตะลึงครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าที่วางไว้จะเป็นหวีที่ทำด้วยหยกอันหนึ่ง ด้านบนหัวของหวีผูกด้วยหยกหรูอี้ชิ้นหนึ่ง ไม่ว่าหวีหรือว่าหรูอี้ ล้วนใช้หยกอย่างดี ใสแจ๋วแวววาวอีกทั้งเย็นชุ่มชื่น

“เจ้าห้า?” หยวนชิงหลิงทำหน้าไม่ถูก

อะซี่ก็หัวเราะขึ้นมาแล้ว “รัชทายาทมอบให้จนติดใจแล้วหรือ? แต่ว่า หวีนี่ล้ำค่าก็ล้ำค่า แต่ดีไม่เท่าอันเดิมนั่น อันนั้นความคิดเฉียบแหลม”

“ข้าต้องการหวีมากมายขนาดนี้ทำอะไรกัน? อีกทั้งหวีที่ทำจากหยกอย่างดีขนาดนี้ จะทำใจเอามาใช้หวีผมได้อย่างไรกันล่ะ?” หยวนชิงหลิงหัวเราะ แม้จะบอกว่าเขาชอบมอบของขวัญ แต่ รู้สึกว่าค่อนข้างฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลืองไปแล้ว ซื้อหยกชิ้นหนึ่งเงินไม่น้อย

อะซี่หัวเราะแล้วกล่าว: “ท่านไม่รู้ เรื่องที่รัชทายาทมอบหวีให้ท่าน แพร่กระจายไปทั่วสังคมภายนอกแล้ว ต่างพากันเลียนแบบน่ะเพคะ อาจจะเพราะรัชทายาทคำนึงถึงจุดนี้ จึงมอบที่ล้ำค่าอีกอันให้ท่าน เพียงแค่ทำไมไม่มอบให้ต่อหน้าล่ะ? จะต้องทำเป็นแกล้งหยอกล้อเช่นนี้ด้วย”

“ใช่หรือ?” หยวนชิงหลิงไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ

“จะไม่ใช่ได้อย่างไรเพคะ!” หมันเอ๋อก็ขยับเข้ามาใกล้ หัวเราะแล้วกล่าว: “หลังจากที่ท่านให้กำเนิดเด็กทั้งสอง ขยะในจวนอ๋องฉู่ที่ทิ้งออกไปล้วนมีคนเก็บ บอกว่าสัมผัสความโชคดี ความรักของท่านและรัชทายาทก็เล่าลือจนเป็นนิทานแล้ว ทุกคนล้วนแย่งกันเลียนแบบเพคะ”

หยวนชิงหลิงเผลอหัวเราะออกมา การใช้ชีวิตเหล่านี้ของนางกับเจ้าห้าหากว่าฉีกออก จะมีจุดไหนที่น่าสนใจกันล่ะ? ล้วนเป็นการใช้ชีวิตแบบทั่วๆไป วุ่นวายอุตลุด

แต่นี่ก็คือแก่นแท้ของการใช้ชีวิต ไม่ใช่หรือ?

เจ้าห้ากลับมาค่อนข้างค่ำ หยวนชิงหลิงเอาหวีวางต่อหน้าเขา มองดูเขา

หยู่เหวินเห้าถอดเสื้อด้านนอกออกแล้ว โยนไปด้านข้างมองดูหวีหยกอันด้ามนั้น เบ้ปาก “ทำไม? รังเกียจอันนั้นที่ข้ามอบให้แล้วงั้นหรือ?”

หยวนชิงหลิงยกมือขึ้น “ไม่ได้รังเกียจนี่ ข้าชอบอันแรกที่ท่านให้เป็นอย่างมาก ดังนั้นจริงๆแล้วท่านก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองเงินทำอีกอันหนึ่ง หยกชิ้นนี้ราคาเท่าไหร่ล่ะ? ราคาไม่ถูกสินะ”

หยู่เหวินเห้าหยิบขึ้นมาดู “ดูแล้วราคาไม่ถูก ใสแจ๋วแวววาวขนาดนี้ ต้องประมาณพันตำลึงล่ะมั้ง?”

หยวนชิงหลิงปวดใจมาก “เงินพันตำลึงท่านทำหวีอันหนึ่ง? โอ้พระเจ้า!”

“ข้าทำหรือ?” หยู่เหวินเห้างงงัน มองดูนาง “นี่ไม่ใช่ข้าทำนะ ผู้ใดมอบให้เจ้า?”

“ไม่ใช่ท่านมอบให้หรอกหรือ?” หยวนชิงหลิงงุนงงครู่หนึ่ง

หยู่เหวินเห้ากล่าวอย่างกลัดกลุ้ม: “ข้ามีเงินเท่าไหร่เจ้าไม่รู้หรอกหรือ? ไม้จันทน์สีดำนั่นก็ไปขอจากผู้อื่น หยกนี่ข้าจะซื้อไหวที่ไหนกัน?”

เขาบีบหวีหยกอันนี้ ด้านบนไม่ได้สลักชื่อ แต่กลับมีการแกะสลักที่ละเอียดอย่างหนึ่งอยู่ในฟันหวี เป็นใบไม้เล็กๆใบหนึ่ง

“ใบไม้?”

หยวนชิงหลิงตะลึงครู่หนึ่ง หยิบมาดู วันนี้ขณะที่ได้มาคิดว่าเจ้าห้ามอบให้ จึงไม่ได้ดูอย่างละเอียด ตอนนี้เพิ่งจะเห็นว่าด้านในตรงกลางช่องของฟันหวีแกะสลักใบไม้ใบหนึ่งไว้จริงๆ หากว่าไม่มองดูอย่างละเอียด ก็ยังมองไม่เห็นด้วยล่ะ

แกะสลักบนฟันหวีที่เล็กขนาดนี้ และสายใยของใบไม้ก็เห็นได้ชัด เป็นฝีมือที่ประณีตเยี่ยมยอดถึงระดับไหนกันเชียว?

“หงเย่?” หยวนชิงหลิงมองดูหยู่เหวินเห้า พูดชื่อนี้ออกมาลองหยั่งเชิง

สีหน้าของหยู่เหวินเห้าเปลี่ยนเป็นดูไม่ได้อย่างฉับพลัน “เขาก็มอบหวีให้เจ้า? หมายความว่าอะไร?”

แม้ว่าด้านบนไม่ได้สลักชื่อ แต่ผู้ชายที่มีอายุผู้หนึ่งมอบหวีให้ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วผู้หนึ่ง เหมาะสมหรือ?

นึกถึงคำพูดนั้นที่เขาพูดข้างทะเลสาบจิ้ง หยู่เหวินเห้าก็เดือดดาลเป็นที่สุด หงเย่ไอ้สารเลวผู้นี้!

หยู่เหวินเห้ากล่าวอย่างเย็นชา: “เขาอยู่ระหว่างทางเข้าเมืองหลวงแล้ว อีกทั้ง ข่าวสารที่ได้รับวันนี้ แคว้นต้าโจวแต่งตั้งเขาเป็นจวิ้นอ๋องหงเย่”

“ทำไม?” หยวนชิงหลิงตกใจ คาดไม่ถึงว่าแคว้นต้าโจวจะแต่งตั้งหงเย่เป็นจวิ้นอ๋อง? นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?

“ในเรื่องสงครามเหตุการณ์นั้นของแคว้นต้าโจวและแคว้นซู่กับเป่ยโม่ เขาทำหน้าที่เป็นคนสอดแนมของแคว้นต้าโจวมาโดยตลอด ติดต่อกับคนข้างกายของฮ่องเต้แคว้นต้าโจวโดยตรง ตอนนี้ทุกอย่างสงบ พูดถึงความดีความชอบในการตกรางวัล จึงแต่งตั้งเขาเป็นจวิ้นอ๋อง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+