Scholar’s Advanced Technological System 1050 แค่เรียกมันว่า ‘ฟิวเจอร์’

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1050 แค่เรียกมันว่า ‘ฟิวเจอร์’ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สำหรับนักวิชาการ การโดนปฏิเสธงานเขียนไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ไม่ว่าชื่อเสียงหรือความสำเร็จที่ผ่านมาของนักวิชาการคนนั้นเป็นอย่างไร ถ้างานเขียนไม่ได้ตรงตามเงื่อนไขของการเผยแพร่ มันก็จะถูกปฏิเสธได้ที่ทุกขั้นตอนกระบวนการรีวิว

แต่มันไม่ใช่เรื่องปกติที่งานวิจัยที่เผยแพร่แล้วถูกเพิกถอน

สำหรับงานวิจัยที่ได้รับการเผยแพร่แล้ว การเพิกถอนบทความทำให้เสียความน่าเชื่อถือของนิตยสาร เพราะนั่นเป็นการอนุมานว่ามันมีความผิดพลาดด้านการเผยแพร่ครั้งใหญ่

ดังนั้นโดยปกติแล้วนิตยสารจึงค่อนข้างระมัดระวังในการเพิกถอนงานวิจัยที่เผยแพร่แล้ว จนกว่าจะมีการหลอกลวงด้านวิชาการที่ร้ายแรงเกิดขึ้น

ในตอนนั้นการหลอกลวงด้านวิชาการระดับรางวัลโนเบลโดยฮารุโกะ โอโบกาตะ ทำให้ด้านชีววิทยาช็อกกันหมด ชุมชนวิชาการได้สรุปว่าผลการทดลองของเธอถูกดัดแปลง สถาบันญี่ปุ่นแห่งการวิจัยฟิสิกส์และเคมีไม่สามารถต้านแรงกดดันจากสาธารณะได้ เมื่อพวกเขาถามฮารุโกะ โอโบกาตะ เพื่อขออนุญาตเพิกถอนงานวิจัยจากเซลล์ STAP พวกเขาขอให้เนเจอร์นำงานเขียนที่เป็นที่ถกเถียงออก

ถึงแม้ว่าด้านชีววิทยาต่างจากด้านการออกแบบวงจรรวม การที่ธีสิสถูกเพิกถอนทันทีหลังงานประชุม IEEE เป็นเรื่องไม่ปกติเล็กน้อย

ไม่เพียงแต่ว่างานเขียนของลู่โจวถูกปฏิเสธ แต่ตอนนี้งานเขียนของเขาถูกเพิกถอนแล้ว เขารู้สึกว่าเขาได้ประสบทุกอย่างเท่าที่นักวิชาการคนหนึ่งจะสามารถเจอได้

แต่นี้เป็นครั้งแรกที่เขาส่งงานเขียนให้นิตยสาร IEEE แล้วงานเขียนนี้ยังอยู่ในด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ซึ่งไม่ใช่ด้านที่เขาถนัดเท่าไหร่ เขาได้รับอีเมลจากนิตยสารวิศวกรรมระดับท็อป โดยขอให้เขาส่งงานวิจัยด้านพลังงานฟิวชั่น แต่เนื่องจากความอ่อนไหวของเทคโนโลยีนี้ เขาจึงปฏิเสธอย่างสุภาพไป

เขาไม่เคยคิดว่าการส่งครั้งแรกไปที่ IEEE จะถูกเพิกถอน จากเหตุผลไร้สาระที่บอกว่ามัน ‘หลอกลวงทางวิชาการ’ และ ‘การสร้างข้อมูลการทดลองปลอม’

หลังจากลู่โจวอ่านประกาศการเพิกถอนจาก IEEE เขารู้สึกงุนงง

พระเจ้าช่วย พวกคุณคิดจริงๆ หรือว่าผมเป็นคนประเภทที่เผยแพร่ข้อมูลวิจัยปลอม?

เขาไม่แน่ใจว่างานประชุม IEEE มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมนี้มากแค่ไหน สิ่งที่ทำให้เขางุนงงคือเขารู้สึกว่าโลกวิชาการเริ่มปนเปื้อนมากขึ้นเรื่อยๆ

ย้อนกลับไปสมัยที่สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตแข่งขันกันอยู่ บรรยากาศด้านวิชาการไม่ได้เป็นแบบนี้เลย…

เฉินยู่ซานพูดว่า “ฉันได้ยินว่างานวิจัยของนายถูกเพิกถอน?”

เธอนั่งอยู่บนโซฟาในออฟฟิศคณบดีที่สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูง และมีรอยยิ้มเย้ยหยันระหว่างที่เธอพูด

ลู่โจวมองดูรอยยิ้มย่ามใจของเธอและถอนหายใจ “เธอต้องย่ามใจขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“หมายความว่าอย่างไร? ฉันไม่ได้ย่ามใจ มันเป็นเรื่องไม่ปกติที่เห็นนายพ่ายแพ้”

ลู่โจวตอบว่า “ก็ไม่ได้แพ้ขนาดนั้น มันเป็นแค่สถานการณ์โชคไม่ดี”

เฉินยู่ซานถามว่า “พวกนั้นขอให้นายปรับปรุงงานวิจัยประมาณนั้นเหรอ?”

“ในใบประกาศเพิกถอน พวกเขาบอกฉันอย่างสุภาพว่ามีข้อมูลการทดลองบางส่วนดู ‘เกินจริง’ ไปหน่อย และบอกให้ฉันปรับแก้มัน แต่ว่าพวกเขาไม่ได้บอกฉันว่าส่วนไหนดูเกินจริง ฉันมั่นใจว่าพวกเขาไม่ได้ทำการทดลองยืนยันเพราะพวกเขาไม่สามารถทำได้”

เฉินยู่ซานถามอย่างสงสัย “งั้น นายมีแผนจะปรับแก้มันไหม?”

“แก้ไขมัน?” ลู่โจวยิ้มให้และพูดว่า “ทำไมฉันต้องแก้ไขสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้วล่ะ?”

การให้ความร่วมมือกับความเห็นของผู้รีวิวเพื่อปรับปรุงปัญหาที่ชัดเจนเป็นเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งนี้มันเทียบเท่ากับการให้ร้าย

เฉินยู่ซานมองดูลู่โจวและยิ้มเยาะ

“ไม่แปลกใจเลยว่านายเป็นนักวิชาการตัวท็อป ประโยคนั้นเอาไปเป็นโควทได้เลย”

ลู่โจวยิ้มและพูดว่า “มันเกี่ยวอะไรกับการเป็นนักวิชาการตัวท็อปล่ะ?”

“แน่นอนสิ มันเกี่ยว! ลองคิดดูนะ นักเรียนที่กล้าโต้เถียงกับครูเป็นนักวิชาการตัวท็อปทุกคน นักวิจัยอ่อนหัดไม่กล้าไม่แต่จะตั้งคำถามอาจารย์”

ลู่โจวถอนหายใจและพูดว่า “งั้นเธอกำลังบอกว่า IEEE เป็นครู? ฉันไม่คิดว่าพวกเขามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเรียกว่าแบบนั้น”

“ก็แค่ยกตัวอย่าง…” เฉินยู่ซานกลอกตาและพูดขึ้นมากะทันหันว่า “จะว่าไปแล้ว นายเคยคิดสร้างนิตยสารของตัวเองไหม?”

ลู่โจวพยักหน้าและพูดว่า “ฉันพูดเรื่องนี้กับซีอีโอของหัวเหว่ยเมื่อวันก่อน”

จริงๆ แล้ว ซีอีโอของหัวเหว่ยไม่ใช่คนเดียวที่เขาคุยปัญหานี้ด้วย เพื่อนเขาหลายคนในชุมชนวิชาการชาวจีนได้พูดเรื่องนี้กับเขา แต่ลู่โจวคิดมาเสมอว่ามันน่าจะมีปัญหามากเกินไป

ท้ายที่สุดแล้วในความเห็นของเขา นิตยสารเองไม่ได้สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือตัวงานวิจัยเอง ถ้างานวิจัยซับซ้อนเพียงพอ มันจะดึงดูดความสนใจของผู้คน ถึงแม้ว่ามันจะถูกอัปโหลดที่ arXiv ก็ตาม

ในอีกมุมหนึ่ง งานวิจัยที่ไม่สำคัญจะต้องอาศัยนิตยสารที่เป็นที่รู้จักในการพิสูจน์คุณค่าของมัน

แต่ตอนนี้มันดูเหมือนว่าไอเดียของเขาดูแง่บวกเกินไป

ถึงแม้ว่านิตยสารเป็นแค่พื้นที่สำหรับการเผยแพร่การวิจัยวิชาการ มันยังมีการเซนเซอร์จำนวนมาก แม้ว่าข้อจำกัดและการเซนเซอร์ไม่ได้ปรากฏขึ้นภายใต้สถานการณ์ปกติ มันชัดเจนว่า IEEE ได้ล้ำเส้นนี้

บางทีฉันน่าจะคิดเรื่องการเริ่มนิตยสารวิชาการของตัวเองจริงๆ

“หวังเจิ้งเฟยพูดเรื่องนี้กับนาย?” เฉินยู่ซานพูดด้วยสีหน้าเซอร์ไพรส์ เธอถามอย่างสงสัยว่า “เขาว่าอย่างไรบ้าง?”

ลู่โจวคิดถึงเรื่องนี้และตอบว่า “เขาพูดว่าชิปฐานคาร์บอนเป็นสิ่งที่เราทำด้วยตัวเราเองและมันยากที่ผู้อื่นจะรีวิวบทวิจัย ตอนนี้ชุมชนนานาชาติไม่ได้ทำการวิจัยในด้านนี้เหนือกว่าระดับทฤษฎี มันยากที่พวกเขาจะรีวิวบทวิจัย”

เฉินยู่ซานพยักหน้าและพูดว่า “ฉันเห็นด้วย…นายมีความเห็นอย่างไรบ้าง?”

“ฉันว่าเขาพูดถูก”

ลู่โจวนิ่งไปชั่วครู่และยิ้มในระหว่างที่พูดว่า “ฉันคิดว่าสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงได้ก่อตั้งมานานแล้ว และมันยังไม่มีนิตยสารของตัวเอง

ฉันว่าแผนว่าจะสร้างนิตยสารวิทยาศาสตร์ในนามของสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูง…แน่นอนว่าคนนอกสถาบันก็สามารถส่งธีสิสมาได้ แต่เราต้องทำการรีวิวด้วยตัวเอง”

เฉินยู่ซานถามว่า “ต้องการความช่วยเหลือจากฉันไหม?”

“แน่นอน ฉันไม่เข้าใจเรื่องนี้ ฉันอาจจะเป็นบรรณาธิการชั่วคราวได้ แต่เธอต้องช่วยเรื่องรายละเอียดของการจัดตั้งนิตยสาร”

เฉินยู่ซานยิ้มเยาะ

“ง่ายมาก ฉันจะจัดการมันเอง”

ทันใดนั้นเธอนึกถึงเรื่องสำคัญได้ เธอจึงพูดว่า

“อ่อ จะว่าไปแล้ว นายอยากให้นิตยสารนี้ชื่อว่าอะไร?”

ลู่โจวคิดอยู่สักพักก่อนที่จะตอบไปว่า “ก็เรียกมันว่า…”

“ฟิวเจอร์”

………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Scholar’s Advanced Technological System 1050 แค่เรียกมันว่า ‘ฟิวเจอร์’

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1050 แค่เรียกมันว่า ‘ฟิวเจอร์’ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สำหรับนักวิชาการ การโดนปฏิเสธงานเขียนไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ไม่ว่าชื่อเสียงหรือความสำเร็จที่ผ่านมาของนักวิชาการคนนั้นเป็นอย่างไร ถ้างานเขียนไม่ได้ตรงตามเงื่อนไขของการเผยแพร่ มันก็จะถูกปฏิเสธได้ที่ทุกขั้นตอนกระบวนการรีวิว

แต่มันไม่ใช่เรื่องปกติที่งานวิจัยที่เผยแพร่แล้วถูกเพิกถอน

สำหรับงานวิจัยที่ได้รับการเผยแพร่แล้ว การเพิกถอนบทความทำให้เสียความน่าเชื่อถือของนิตยสาร เพราะนั่นเป็นการอนุมานว่ามันมีความผิดพลาดด้านการเผยแพร่ครั้งใหญ่

ดังนั้นโดยปกติแล้วนิตยสารจึงค่อนข้างระมัดระวังในการเพิกถอนงานวิจัยที่เผยแพร่แล้ว จนกว่าจะมีการหลอกลวงด้านวิชาการที่ร้ายแรงเกิดขึ้น

ในตอนนั้นการหลอกลวงด้านวิชาการระดับรางวัลโนเบลโดยฮารุโกะ โอโบกาตะ ทำให้ด้านชีววิทยาช็อกกันหมด ชุมชนวิชาการได้สรุปว่าผลการทดลองของเธอถูกดัดแปลง สถาบันญี่ปุ่นแห่งการวิจัยฟิสิกส์และเคมีไม่สามารถต้านแรงกดดันจากสาธารณะได้ เมื่อพวกเขาถามฮารุโกะ โอโบกาตะ เพื่อขออนุญาตเพิกถอนงานวิจัยจากเซลล์ STAP พวกเขาขอให้เนเจอร์นำงานเขียนที่เป็นที่ถกเถียงออก

ถึงแม้ว่าด้านชีววิทยาต่างจากด้านการออกแบบวงจรรวม การที่ธีสิสถูกเพิกถอนทันทีหลังงานประชุม IEEE เป็นเรื่องไม่ปกติเล็กน้อย

ไม่เพียงแต่ว่างานเขียนของลู่โจวถูกปฏิเสธ แต่ตอนนี้งานเขียนของเขาถูกเพิกถอนแล้ว เขารู้สึกว่าเขาได้ประสบทุกอย่างเท่าที่นักวิชาการคนหนึ่งจะสามารถเจอได้

แต่นี้เป็นครั้งแรกที่เขาส่งงานเขียนให้นิตยสาร IEEE แล้วงานเขียนนี้ยังอยู่ในด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ซึ่งไม่ใช่ด้านที่เขาถนัดเท่าไหร่ เขาได้รับอีเมลจากนิตยสารวิศวกรรมระดับท็อป โดยขอให้เขาส่งงานวิจัยด้านพลังงานฟิวชั่น แต่เนื่องจากความอ่อนไหวของเทคโนโลยีนี้ เขาจึงปฏิเสธอย่างสุภาพไป

เขาไม่เคยคิดว่าการส่งครั้งแรกไปที่ IEEE จะถูกเพิกถอน จากเหตุผลไร้สาระที่บอกว่ามัน ‘หลอกลวงทางวิชาการ’ และ ‘การสร้างข้อมูลการทดลองปลอม’

หลังจากลู่โจวอ่านประกาศการเพิกถอนจาก IEEE เขารู้สึกงุนงง

พระเจ้าช่วย พวกคุณคิดจริงๆ หรือว่าผมเป็นคนประเภทที่เผยแพร่ข้อมูลวิจัยปลอม?

เขาไม่แน่ใจว่างานประชุม IEEE มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมนี้มากแค่ไหน สิ่งที่ทำให้เขางุนงงคือเขารู้สึกว่าโลกวิชาการเริ่มปนเปื้อนมากขึ้นเรื่อยๆ

ย้อนกลับไปสมัยที่สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตแข่งขันกันอยู่ บรรยากาศด้านวิชาการไม่ได้เป็นแบบนี้เลย…

เฉินยู่ซานพูดว่า “ฉันได้ยินว่างานวิจัยของนายถูกเพิกถอน?”

เธอนั่งอยู่บนโซฟาในออฟฟิศคณบดีที่สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูง และมีรอยยิ้มเย้ยหยันระหว่างที่เธอพูด

ลู่โจวมองดูรอยยิ้มย่ามใจของเธอและถอนหายใจ “เธอต้องย่ามใจขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“หมายความว่าอย่างไร? ฉันไม่ได้ย่ามใจ มันเป็นเรื่องไม่ปกติที่เห็นนายพ่ายแพ้”

ลู่โจวตอบว่า “ก็ไม่ได้แพ้ขนาดนั้น มันเป็นแค่สถานการณ์โชคไม่ดี”

เฉินยู่ซานถามว่า “พวกนั้นขอให้นายปรับปรุงงานวิจัยประมาณนั้นเหรอ?”

“ในใบประกาศเพิกถอน พวกเขาบอกฉันอย่างสุภาพว่ามีข้อมูลการทดลองบางส่วนดู ‘เกินจริง’ ไปหน่อย และบอกให้ฉันปรับแก้มัน แต่ว่าพวกเขาไม่ได้บอกฉันว่าส่วนไหนดูเกินจริง ฉันมั่นใจว่าพวกเขาไม่ได้ทำการทดลองยืนยันเพราะพวกเขาไม่สามารถทำได้”

เฉินยู่ซานถามอย่างสงสัย “งั้น นายมีแผนจะปรับแก้มันไหม?”

“แก้ไขมัน?” ลู่โจวยิ้มให้และพูดว่า “ทำไมฉันต้องแก้ไขสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้วล่ะ?”

การให้ความร่วมมือกับความเห็นของผู้รีวิวเพื่อปรับปรุงปัญหาที่ชัดเจนเป็นเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งนี้มันเทียบเท่ากับการให้ร้าย

เฉินยู่ซานมองดูลู่โจวและยิ้มเยาะ

“ไม่แปลกใจเลยว่านายเป็นนักวิชาการตัวท็อป ประโยคนั้นเอาไปเป็นโควทได้เลย”

ลู่โจวยิ้มและพูดว่า “มันเกี่ยวอะไรกับการเป็นนักวิชาการตัวท็อปล่ะ?”

“แน่นอนสิ มันเกี่ยว! ลองคิดดูนะ นักเรียนที่กล้าโต้เถียงกับครูเป็นนักวิชาการตัวท็อปทุกคน นักวิจัยอ่อนหัดไม่กล้าไม่แต่จะตั้งคำถามอาจารย์”

ลู่โจวถอนหายใจและพูดว่า “งั้นเธอกำลังบอกว่า IEEE เป็นครู? ฉันไม่คิดว่าพวกเขามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเรียกว่าแบบนั้น”

“ก็แค่ยกตัวอย่าง…” เฉินยู่ซานกลอกตาและพูดขึ้นมากะทันหันว่า “จะว่าไปแล้ว นายเคยคิดสร้างนิตยสารของตัวเองไหม?”

ลู่โจวพยักหน้าและพูดว่า “ฉันพูดเรื่องนี้กับซีอีโอของหัวเหว่ยเมื่อวันก่อน”

จริงๆ แล้ว ซีอีโอของหัวเหว่ยไม่ใช่คนเดียวที่เขาคุยปัญหานี้ด้วย เพื่อนเขาหลายคนในชุมชนวิชาการชาวจีนได้พูดเรื่องนี้กับเขา แต่ลู่โจวคิดมาเสมอว่ามันน่าจะมีปัญหามากเกินไป

ท้ายที่สุดแล้วในความเห็นของเขา นิตยสารเองไม่ได้สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือตัวงานวิจัยเอง ถ้างานวิจัยซับซ้อนเพียงพอ มันจะดึงดูดความสนใจของผู้คน ถึงแม้ว่ามันจะถูกอัปโหลดที่ arXiv ก็ตาม

ในอีกมุมหนึ่ง งานวิจัยที่ไม่สำคัญจะต้องอาศัยนิตยสารที่เป็นที่รู้จักในการพิสูจน์คุณค่าของมัน

แต่ตอนนี้มันดูเหมือนว่าไอเดียของเขาดูแง่บวกเกินไป

ถึงแม้ว่านิตยสารเป็นแค่พื้นที่สำหรับการเผยแพร่การวิจัยวิชาการ มันยังมีการเซนเซอร์จำนวนมาก แม้ว่าข้อจำกัดและการเซนเซอร์ไม่ได้ปรากฏขึ้นภายใต้สถานการณ์ปกติ มันชัดเจนว่า IEEE ได้ล้ำเส้นนี้

บางทีฉันน่าจะคิดเรื่องการเริ่มนิตยสารวิชาการของตัวเองจริงๆ

“หวังเจิ้งเฟยพูดเรื่องนี้กับนาย?” เฉินยู่ซานพูดด้วยสีหน้าเซอร์ไพรส์ เธอถามอย่างสงสัยว่า “เขาว่าอย่างไรบ้าง?”

ลู่โจวคิดถึงเรื่องนี้และตอบว่า “เขาพูดว่าชิปฐานคาร์บอนเป็นสิ่งที่เราทำด้วยตัวเราเองและมันยากที่ผู้อื่นจะรีวิวบทวิจัย ตอนนี้ชุมชนนานาชาติไม่ได้ทำการวิจัยในด้านนี้เหนือกว่าระดับทฤษฎี มันยากที่พวกเขาจะรีวิวบทวิจัย”

เฉินยู่ซานพยักหน้าและพูดว่า “ฉันเห็นด้วย…นายมีความเห็นอย่างไรบ้าง?”

“ฉันว่าเขาพูดถูก”

ลู่โจวนิ่งไปชั่วครู่และยิ้มในระหว่างที่พูดว่า “ฉันคิดว่าสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงได้ก่อตั้งมานานแล้ว และมันยังไม่มีนิตยสารของตัวเอง

ฉันว่าแผนว่าจะสร้างนิตยสารวิทยาศาสตร์ในนามของสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูง…แน่นอนว่าคนนอกสถาบันก็สามารถส่งธีสิสมาได้ แต่เราต้องทำการรีวิวด้วยตัวเอง”

เฉินยู่ซานถามว่า “ต้องการความช่วยเหลือจากฉันไหม?”

“แน่นอน ฉันไม่เข้าใจเรื่องนี้ ฉันอาจจะเป็นบรรณาธิการชั่วคราวได้ แต่เธอต้องช่วยเรื่องรายละเอียดของการจัดตั้งนิตยสาร”

เฉินยู่ซานยิ้มเยาะ

“ง่ายมาก ฉันจะจัดการมันเอง”

ทันใดนั้นเธอนึกถึงเรื่องสำคัญได้ เธอจึงพูดว่า

“อ่อ จะว่าไปแล้ว นายอยากให้นิตยสารนี้ชื่อว่าอะไร?”

ลู่โจวคิดอยู่สักพักก่อนที่จะตอบไปว่า “ก็เรียกมันว่า…”

“ฟิวเจอร์”

………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+