Scholar’s Advanced Technological System 741 พยายามทุกวิถีทาง

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 741 พยายามทุกวิถีทาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลู่โจวกำลังอ่านบันทึกการประชุมอยู่ในตอนที่เขาโดนผู้อำนวยการหลี่เรียกขึ้นมาอย่างกะทันหัน ตอนแรกเขาก็ยังไม่รู้ตัว แต่ไม่นานเขาก็สังเกตเห็นว่าคนเริ่มจ้องมาทางเขากัน

เอิ่มมม…

ฉันไม่ได้ขอพูดสักหน่อย…

ถึงแม้ลู่โจวจะไม่ได้เตรียมอะไรมาพูด แต่เขาก็ไม่อยากทำให้ผู้อำนวยการหลี่เสียหน้า

ดังนั้นเขาจึงยืนขึ้นแล้วพูดว่า

“ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นของนักวิชาการหยวนนะครับ ดวงจันทร์เป็นดาวดวงใหญ่ มีหลายสิ่งมากที่เราสามารถทำที่นั่นได้ ในเมื่อชาวอเมริกันสนใจดาวอังคาร…ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปโฟกัสที่โครงการบนดวงจันทร์แทนจะดีกว่า พวกเราสามารถปลูกพืชบนดวงจันทร์ได้ หรือจะศึกษาวิธีการขุดทรัพยากรจากดวงจันทร์มาก็ได้”

ฉันควรจะพูดอย่างนี้หรือเปล่านะ

ช่างมัน ใครจะไปสนใจ

เมื่อลู่โจวนั่งลง เขาก็ได้ยินเสียงคนพูดเห็นด้วยจากข้างหลัง

เขาพูดถูกแล้ว การไปดวงจันทร์เป็นเพียงแค่ขั้นตอนแรกเท่านั้น ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างให้ทำบนดวงจันทร์ พวกเขาไม่ต้องเดินตามรอยพวกอเมริกันเพื่อไปดาวอังคารกับเขาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปปักธงบนดาวอังคารแล้วนำหินดาวอังคารไม่กี่ก้อนกลับมาหรอก

ประเด็นนี้ไม่จำเป็นต้องคุยต่ออีกแล้ว

คนที่เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศและคนที่มีชื่อเสียงในฝั่งวิชาการต่างก็เห็นด้วยว่าควรโฟกัสไปที่การพัฒนาดวงจันทร์มากกว่า ต่อให้คนอื่นไม่เห็นด้วย มันก็ไม่สำคัญอีกแล้ว

อีกอย่าง คนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้

ผู้อำนวยการหลี่มีความคิดคร่าวๆ ว่าผู้มาร่วมงานประชุมกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงถามทุกคนว่ามีใครมีความคิดเห็นอะไรไหม ไม่มีใครยกมือขึ้นมาเลย ผู้อำนวยการหลี่จึงพูดว่า

“ดูเหมือนจะไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ว่าควรจะเลือกไปดวงจันทร์หรือไปดาวอังคารดีแล้วนะครับ พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็มีความคิดเห็นคล้ายๆ กัน เมื่อเปรียบเทียบกับเกียรติยศอันหอมหวานแล้ว สิ่งที่เป็นไปได้นั้นเป็นความสำเร็จที่มีค่ามากกว่า”

ผู้อำนวยการหลี่หยุดพูดไปครู่หนึ่งก็พูดต่อ “ถ้าอย่างนั้น ขั้นตอนถัดไปของการบินและอวกาศก็จะโฟกัสอยู่ที่ระบบโลกและดวงจันทร์

หลังจากที่ได้ปรึกษากับหน่วยงานอื่นอย่าง องค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน แผนของพวกเราในการสร้างสถานีอวกาศบนอวกาศเพื่อเพิ่มทรัพยากรต่างๆ ให้กับยานอวกาศ เช่น เชื้อเพลิง เป็นต้น สถานีอวกาศนี้จะถูกใช้ในภารกิจวิจัยทางวิทยาศาสตร์ด้วย

 องค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้คิดแผนมาสองแบบในเรื่องสถานีอวกาศ แผนแรกคือที่วงโคจรต่ำของโลก คล้ายๆ กับ สถานีอวกาศนานาชาติ ส่วนอีกแผนคือที่วงโคจรของดวงจันทร์ คล้ายๆ กับโครงการสถานีอวกาศดวงจันทร์ของสหรัฐอเมริกา

“พวกเราควรจะสร้างสถานีอวกาศที่ไหนดี? ผมหวังว่าพวกคุณทุกคนจะแสดงความคิดเห็นนะครับ”

คนในห้องประชุมเริ่มคุยเรื่องนี้กับคนอื่นๆ

สิ่งที่แตกต่างจากหัวข้อที่แล้วคือ ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือตัวแทนบริษัทก็ตาม ตอนนี้ทุกคนต่างๆ ก็อยากจะแสดงความคิดเห็นออกมามากขึ้น การดีเบตก็เข้มข้นขึ้นด้วย

สาเหตุเป็นเพราะว่า แผนการระดับชาติในรูปแบบนี้นั้นเกี่ยวข้องกับความสนใจของทุกคนโดยตรง ทั้งทางด้านวิชาการและด้านอุตสาหกรรม

บางคนก็เป็นพวกอนุรักษ์นิยมกว่าคนอื่น พวกเขาเชื่อว่าควรจะสร้างสถานีอวกาศบนวงโคจรต่ำของโลกก่อน แล้วค่อยรออีกสักสองสามปีก่อนจะไปสร้างบนวงโคจรของดวงจันทร์

ส่วนคนอีกกลุ่มหนึ่งจะมองในแง่ดีมากกว่า พวกเขาคิดว่า ในเมื่อจีนมีความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งวัตถุขนาด 25 ตันไปมาระหว่างโลกกับดวงจันทร์แล้ว มันก็เป็นไปได้ที่พวกเขาจะสร้างสถานีอวกาศบนวงโคจรของดวงจันทร์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องสร้างสถานีอวกาศอีกแห่งที่คล้ายกับสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ในเมื่อพวกเขาสามารถใช้ ISS ร่วมกับประเทศอื่นได้

สุดท้ายแล้ว ประเด็นที่สำคัญที่สุดของการเจรจาฟิวชั่นที่ควบคุมได้ก็คือการคลายกำแพงในการร่วมมือทำโปรเจกต์วิจัยทางวิทยาศาสตร์กับนานาชาติ อย่างเช่น ISS และให้ประเทศจีนได้เข้าร่วมอย่างเท่าเทียม

ตัวลู่โจวก็อยากให้สร้างสถานีอวกาศบนดวงจันทร์อยู่แล้ว

เพราะเขาก็อยากจะทำภารกิจของระบบให้สำเร็จ ถ้าไม่มีเงินทุนจากรัฐ ก็ไม่มีทางที่เขาจะทำระยะที่สองของภารกิจจากระบบให้สำเร็จได้

ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้สถานการณ์ในต่างประเทศจะตึงเครียดเล็กน้อยอยู่ในตอนนี้ เขาก็สนับสนุนโปรเจกต์ที่ร่วมมืออย่างเปิดเผย ได้ผลประโยชน์ร่วมกัน หรือ ‘วิน-วิน’ มาโดยตลอด โปรเจกต์ที่ใช้วิทยาศาสตร์ในการนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของมนุษยชาติ

แต่เขาก็ยังลังเลอยู่เล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะสั่งสมประสบการณ์ให้มากกว่านี้กับเทคโนโลยีวงโคจรต่ำของโลกก่อนหรือเปล่า หรือพวกเขาควรจะทำตัวใจกล้าแล้วมุ่งตรงไปยังวงโคจรของดวงจันทร์เลย

ลู่โจวฟังการดีเบตอันตึงเครียดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ใกล้ๆ เขาเห็นนักวิชาการหยวนที่ในหัวเอาแต่คิดจนลืมสิ่งรอบตัวไปแล้ว

หยวนฮวานหมินสังเกตเห็นว่าลู่โจวกำลังมองมาทางเขา เขาจึงเงยหน้าขึ้นมาแล้วถามว่า “คุณคิดว่าอย่างไรล่ะ?”

ลู่โจวไม่ได้คิดว่าเขาจะถูกถามแบบนี้ เขาพูดขึ้นทันทีว่า “คุณพูดก่อนเลย”

นักวิชาการหยวนเงียบไปสักพัก ก่อนจะถอนหายใจ

“เอาตรงๆ นะ ผมเองก็ไม่รู้”

ลู่โจวรู้สึกประหลาดใจ “คุณไม่รู้เหรอครับ?”

คุณไม่รู้เหรอ?

คุณเป็นตาแก่ที่ค่อนไปทางหัวแข็งไม่ใช่เหรอ?

“ใช่แล้วล่ะ…” หยวนฮวานหมินพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจนใจว่า “พัฒนาการด้านการบินและอวกาศของประเทศเรานั้นเริ่มขึ้นช้ากว่าประเทศอื่นมาก คุณอาจจะหัวเราะใส่ผมในเรื่องนี้ แต่ย้อนกลับไปช่วงที่โคลัมเบียประสบความสำเร็จ พวกเราก็กำลังสร้างกระสวยอวกาศขึ้นเหมือนกัน แล้วดูสิตอนนี้เกิดอะไรขึ้น? มันก็ใช่อยู่ที่เฉียนเสวี่ยเซินชอบจรวดมากกว่า แต่เหตุผลที่แท้จริงเป็นเพราะพวกอเมริกันยอมแพ้กับกระสวยอวกาศของพวกเขาเอง”

ลู่โจวพยักหน้าแล้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“ผมเข้าใจนะครับ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะหัวเราะหรอก”

การวิจัยทางวิทยาศาสตร์เป็นกระบวนการของการเรียนรู้และการค้นพบ ไม่มีใครเกิดมาพร้อมกับความรู้ในสมองหรอก การเดินตามรอยเท้าคนอื่นมันก็ไม่ได้น่าอายอะไร สิ่งที่สำคัญคือการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาต่างหาก

ตอนที่ลู่โจวศึกษาอยู่ที่พรินซ์ตัน เขาได้พบนักวิชาการที่น่านับถือหลายคนและเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างมาจากพวกเขา ความรู้นี้ได้กลายมาเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จในปัจจุบันได้อย่างมาก

ลู่โจวรู้ดีว่านักวิชาการหยวนกำลังกังวลเรื่องอะไร

ตอนนี้ที่ประเทศจีนประสบความสำเร็จในการส่งนักบินอวกาศไปยังดวงจันทร์แล้ว ตำแหน่งของพวกเขาในระดับนานาชาติก็จะเป็นจุดสูงสุดของโลก

แต่เพราะว่าพวกเขากำลังนำหน้าหรือไม่ก็สูสีกับคนอื่นๆ พวกเขาจึงไม่มีตัวอย่างครั้งก่อนๆ มาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง

ตั้งแต่นี้ไปพวกเขาจึงต้องวางแผนอย่างไม่มีข้อมูล และพยายามหาวิธีที่ถูกต้องจากการเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง

ลู่โจวมองนักวิชาการหยวนแล้วเขาก็ยิ้มขึ้นมาในทันทีตอนที่พูดขึ้นว่า “ผมคิดว่านี่อาจจะเป็นสิ่งที่ดีกับพวกเราทั้งคู่ก็ได้ครับ”

นักวิชาการหยวนเลิกคิ้วแล้วถามว่า “คุณหมายความว่าอย่างไร?”

ลู่โจวอธิบาย “นี่หมายความว่าพวกเราจะเปลี่ยนจากการเป็นผู้ตามไปเป็นผู้นำ และพวกเราจะได้สร้างมาตรฐานให้กับโลกใบนี้ครับ”

นักวิชาการหยวนยิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา

“พวกคนเจนวายอย่างคุณนี่คิดค่อนข้างแตกต่างนะ คุณไม่พอใจกับวงโคจรต่ำของโลกเหรอ?”

“ก็พอใจนะครับ” ลู่โจวถอนหายใจแล้วพูดต่อ “แต่พวกเราทำได้ดีกว่านั้น”

นักวิชาการหยวนยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “โอเค ถ้าคุณสร้างสถานีอวกาศบนวงโคจรของดวงจันทร์ได้ค่อยมาอวดผมแล้วกัน”

ลู่โจว “…? “

อะไรกัน?

พวกเราสนิทกันขนาดที่คุณมาพูดตลกใส่ผมแล้วเหรอเนี่ย?

การดีเบตยังคงดำเนินต่อไป

ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศแห่งประเทศจีนลุกขึ้นยืน เคราของเขาสั่นในขณะที่เขากำลังพูด “พวกเราควรจะเลือกวงโคจรต่ำของโลก!

ก่อนอื่นเลย พวกเราเอา ISS เป็นการอ้างอิงก็ได้ ต่อให้มีความยุ่งยากทางวิศวกรรม แต่ก็จะไม่ยุ่งยากเกินไปนัก อย่างที่สอง พวกเราสามารถใช้ประสบการณ์และความรู้ของพวกที่ได้จากสถานีที่วงโคจรต่ำของโลกไปใช้กับสถานีที่วงโคจรของดวงจันทร์ในอนาคตได้!”

คนในห้องประชุมจำนวนมากพยักหน้าเห็นด้วยกันกับเขา

ตัวแทนจากบริษัทต่างๆ ที่โฟกัสกับโปรเจกต์จรวดก็พยักหน้าเช่นกัน

ทันใดนั้นเอง เสียงเสียงหนึ่งก็ลอยมา

“ไม่เห็นด้วยครับ”

ทุกคนในห้องต่างกันไปมองเจ้าของเสียง

ชายที่ส่งนักบินอวกาศสามคนไปดวงจันทร์ ศาสตราจารย์ลู่ลุกขึ้นยืน

ผู้อำนวยการหลี่เริ่มเครียดจากสถานการณ์อันโกลาหลในห้องประชุม เขาเงยหน้าขึ้นในทันทีแล้วถามว่า “ช่วยอธิบายด้วยครับ”

ลู่โจวยิ้มแล้วตอบคำถาม “ในเมื่อเรากำลังจะสร้างสถานีอวกาศอยู่แล้วนะครับ พวกเราไปสร้างที่วงโคจรของดวงจันทร์ดีกว่า!”

ทั้งห้องประชุมตกอยู่ในความวุ่นวาย

…………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Scholar’s Advanced Technological System 741 พยายามทุกวิถีทาง

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 741 พยายามทุกวิถีทาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลู่โจวกำลังอ่านบันทึกการประชุมอยู่ในตอนที่เขาโดนผู้อำนวยการหลี่เรียกขึ้นมาอย่างกะทันหัน ตอนแรกเขาก็ยังไม่รู้ตัว แต่ไม่นานเขาก็สังเกตเห็นว่าคนเริ่มจ้องมาทางเขากัน

เอิ่มมม…

ฉันไม่ได้ขอพูดสักหน่อย…

ถึงแม้ลู่โจวจะไม่ได้เตรียมอะไรมาพูด แต่เขาก็ไม่อยากทำให้ผู้อำนวยการหลี่เสียหน้า

ดังนั้นเขาจึงยืนขึ้นแล้วพูดว่า

“ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นของนักวิชาการหยวนนะครับ ดวงจันทร์เป็นดาวดวงใหญ่ มีหลายสิ่งมากที่เราสามารถทำที่นั่นได้ ในเมื่อชาวอเมริกันสนใจดาวอังคาร…ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปโฟกัสที่โครงการบนดวงจันทร์แทนจะดีกว่า พวกเราสามารถปลูกพืชบนดวงจันทร์ได้ หรือจะศึกษาวิธีการขุดทรัพยากรจากดวงจันทร์มาก็ได้”

ฉันควรจะพูดอย่างนี้หรือเปล่านะ

ช่างมัน ใครจะไปสนใจ

เมื่อลู่โจวนั่งลง เขาก็ได้ยินเสียงคนพูดเห็นด้วยจากข้างหลัง

เขาพูดถูกแล้ว การไปดวงจันทร์เป็นเพียงแค่ขั้นตอนแรกเท่านั้น ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างให้ทำบนดวงจันทร์ พวกเขาไม่ต้องเดินตามรอยพวกอเมริกันเพื่อไปดาวอังคารกับเขาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปปักธงบนดาวอังคารแล้วนำหินดาวอังคารไม่กี่ก้อนกลับมาหรอก

ประเด็นนี้ไม่จำเป็นต้องคุยต่ออีกแล้ว

คนที่เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศและคนที่มีชื่อเสียงในฝั่งวิชาการต่างก็เห็นด้วยว่าควรโฟกัสไปที่การพัฒนาดวงจันทร์มากกว่า ต่อให้คนอื่นไม่เห็นด้วย มันก็ไม่สำคัญอีกแล้ว

อีกอย่าง คนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้

ผู้อำนวยการหลี่มีความคิดคร่าวๆ ว่าผู้มาร่วมงานประชุมกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงถามทุกคนว่ามีใครมีความคิดเห็นอะไรไหม ไม่มีใครยกมือขึ้นมาเลย ผู้อำนวยการหลี่จึงพูดว่า

“ดูเหมือนจะไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ว่าควรจะเลือกไปดวงจันทร์หรือไปดาวอังคารดีแล้วนะครับ พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็มีความคิดเห็นคล้ายๆ กัน เมื่อเปรียบเทียบกับเกียรติยศอันหอมหวานแล้ว สิ่งที่เป็นไปได้นั้นเป็นความสำเร็จที่มีค่ามากกว่า”

ผู้อำนวยการหลี่หยุดพูดไปครู่หนึ่งก็พูดต่อ “ถ้าอย่างนั้น ขั้นตอนถัดไปของการบินและอวกาศก็จะโฟกัสอยู่ที่ระบบโลกและดวงจันทร์

หลังจากที่ได้ปรึกษากับหน่วยงานอื่นอย่าง องค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน แผนของพวกเราในการสร้างสถานีอวกาศบนอวกาศเพื่อเพิ่มทรัพยากรต่างๆ ให้กับยานอวกาศ เช่น เชื้อเพลิง เป็นต้น สถานีอวกาศนี้จะถูกใช้ในภารกิจวิจัยทางวิทยาศาสตร์ด้วย

 องค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้คิดแผนมาสองแบบในเรื่องสถานีอวกาศ แผนแรกคือที่วงโคจรต่ำของโลก คล้ายๆ กับ สถานีอวกาศนานาชาติ ส่วนอีกแผนคือที่วงโคจรของดวงจันทร์ คล้ายๆ กับโครงการสถานีอวกาศดวงจันทร์ของสหรัฐอเมริกา

“พวกเราควรจะสร้างสถานีอวกาศที่ไหนดี? ผมหวังว่าพวกคุณทุกคนจะแสดงความคิดเห็นนะครับ”

คนในห้องประชุมเริ่มคุยเรื่องนี้กับคนอื่นๆ

สิ่งที่แตกต่างจากหัวข้อที่แล้วคือ ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือตัวแทนบริษัทก็ตาม ตอนนี้ทุกคนต่างๆ ก็อยากจะแสดงความคิดเห็นออกมามากขึ้น การดีเบตก็เข้มข้นขึ้นด้วย

สาเหตุเป็นเพราะว่า แผนการระดับชาติในรูปแบบนี้นั้นเกี่ยวข้องกับความสนใจของทุกคนโดยตรง ทั้งทางด้านวิชาการและด้านอุตสาหกรรม

บางคนก็เป็นพวกอนุรักษ์นิยมกว่าคนอื่น พวกเขาเชื่อว่าควรจะสร้างสถานีอวกาศบนวงโคจรต่ำของโลกก่อน แล้วค่อยรออีกสักสองสามปีก่อนจะไปสร้างบนวงโคจรของดวงจันทร์

ส่วนคนอีกกลุ่มหนึ่งจะมองในแง่ดีมากกว่า พวกเขาคิดว่า ในเมื่อจีนมีความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งวัตถุขนาด 25 ตันไปมาระหว่างโลกกับดวงจันทร์แล้ว มันก็เป็นไปได้ที่พวกเขาจะสร้างสถานีอวกาศบนวงโคจรของดวงจันทร์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องสร้างสถานีอวกาศอีกแห่งที่คล้ายกับสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ในเมื่อพวกเขาสามารถใช้ ISS ร่วมกับประเทศอื่นได้

สุดท้ายแล้ว ประเด็นที่สำคัญที่สุดของการเจรจาฟิวชั่นที่ควบคุมได้ก็คือการคลายกำแพงในการร่วมมือทำโปรเจกต์วิจัยทางวิทยาศาสตร์กับนานาชาติ อย่างเช่น ISS และให้ประเทศจีนได้เข้าร่วมอย่างเท่าเทียม

ตัวลู่โจวก็อยากให้สร้างสถานีอวกาศบนดวงจันทร์อยู่แล้ว

เพราะเขาก็อยากจะทำภารกิจของระบบให้สำเร็จ ถ้าไม่มีเงินทุนจากรัฐ ก็ไม่มีทางที่เขาจะทำระยะที่สองของภารกิจจากระบบให้สำเร็จได้

ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้สถานการณ์ในต่างประเทศจะตึงเครียดเล็กน้อยอยู่ในตอนนี้ เขาก็สนับสนุนโปรเจกต์ที่ร่วมมืออย่างเปิดเผย ได้ผลประโยชน์ร่วมกัน หรือ ‘วิน-วิน’ มาโดยตลอด โปรเจกต์ที่ใช้วิทยาศาสตร์ในการนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของมนุษยชาติ

แต่เขาก็ยังลังเลอยู่เล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะสั่งสมประสบการณ์ให้มากกว่านี้กับเทคโนโลยีวงโคจรต่ำของโลกก่อนหรือเปล่า หรือพวกเขาควรจะทำตัวใจกล้าแล้วมุ่งตรงไปยังวงโคจรของดวงจันทร์เลย

ลู่โจวฟังการดีเบตอันตึงเครียดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ใกล้ๆ เขาเห็นนักวิชาการหยวนที่ในหัวเอาแต่คิดจนลืมสิ่งรอบตัวไปแล้ว

หยวนฮวานหมินสังเกตเห็นว่าลู่โจวกำลังมองมาทางเขา เขาจึงเงยหน้าขึ้นมาแล้วถามว่า “คุณคิดว่าอย่างไรล่ะ?”

ลู่โจวไม่ได้คิดว่าเขาจะถูกถามแบบนี้ เขาพูดขึ้นทันทีว่า “คุณพูดก่อนเลย”

นักวิชาการหยวนเงียบไปสักพัก ก่อนจะถอนหายใจ

“เอาตรงๆ นะ ผมเองก็ไม่รู้”

ลู่โจวรู้สึกประหลาดใจ “คุณไม่รู้เหรอครับ?”

คุณไม่รู้เหรอ?

คุณเป็นตาแก่ที่ค่อนไปทางหัวแข็งไม่ใช่เหรอ?

“ใช่แล้วล่ะ…” หยวนฮวานหมินพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจนใจว่า “พัฒนาการด้านการบินและอวกาศของประเทศเรานั้นเริ่มขึ้นช้ากว่าประเทศอื่นมาก คุณอาจจะหัวเราะใส่ผมในเรื่องนี้ แต่ย้อนกลับไปช่วงที่โคลัมเบียประสบความสำเร็จ พวกเราก็กำลังสร้างกระสวยอวกาศขึ้นเหมือนกัน แล้วดูสิตอนนี้เกิดอะไรขึ้น? มันก็ใช่อยู่ที่เฉียนเสวี่ยเซินชอบจรวดมากกว่า แต่เหตุผลที่แท้จริงเป็นเพราะพวกอเมริกันยอมแพ้กับกระสวยอวกาศของพวกเขาเอง”

ลู่โจวพยักหน้าแล้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“ผมเข้าใจนะครับ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะหัวเราะหรอก”

การวิจัยทางวิทยาศาสตร์เป็นกระบวนการของการเรียนรู้และการค้นพบ ไม่มีใครเกิดมาพร้อมกับความรู้ในสมองหรอก การเดินตามรอยเท้าคนอื่นมันก็ไม่ได้น่าอายอะไร สิ่งที่สำคัญคือการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาต่างหาก

ตอนที่ลู่โจวศึกษาอยู่ที่พรินซ์ตัน เขาได้พบนักวิชาการที่น่านับถือหลายคนและเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างมาจากพวกเขา ความรู้นี้ได้กลายมาเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จในปัจจุบันได้อย่างมาก

ลู่โจวรู้ดีว่านักวิชาการหยวนกำลังกังวลเรื่องอะไร

ตอนนี้ที่ประเทศจีนประสบความสำเร็จในการส่งนักบินอวกาศไปยังดวงจันทร์แล้ว ตำแหน่งของพวกเขาในระดับนานาชาติก็จะเป็นจุดสูงสุดของโลก

แต่เพราะว่าพวกเขากำลังนำหน้าหรือไม่ก็สูสีกับคนอื่นๆ พวกเขาจึงไม่มีตัวอย่างครั้งก่อนๆ มาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง

ตั้งแต่นี้ไปพวกเขาจึงต้องวางแผนอย่างไม่มีข้อมูล และพยายามหาวิธีที่ถูกต้องจากการเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง

ลู่โจวมองนักวิชาการหยวนแล้วเขาก็ยิ้มขึ้นมาในทันทีตอนที่พูดขึ้นว่า “ผมคิดว่านี่อาจจะเป็นสิ่งที่ดีกับพวกเราทั้งคู่ก็ได้ครับ”

นักวิชาการหยวนเลิกคิ้วแล้วถามว่า “คุณหมายความว่าอย่างไร?”

ลู่โจวอธิบาย “นี่หมายความว่าพวกเราจะเปลี่ยนจากการเป็นผู้ตามไปเป็นผู้นำ และพวกเราจะได้สร้างมาตรฐานให้กับโลกใบนี้ครับ”

นักวิชาการหยวนยิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา

“พวกคนเจนวายอย่างคุณนี่คิดค่อนข้างแตกต่างนะ คุณไม่พอใจกับวงโคจรต่ำของโลกเหรอ?”

“ก็พอใจนะครับ” ลู่โจวถอนหายใจแล้วพูดต่อ “แต่พวกเราทำได้ดีกว่านั้น”

นักวิชาการหยวนยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “โอเค ถ้าคุณสร้างสถานีอวกาศบนวงโคจรของดวงจันทร์ได้ค่อยมาอวดผมแล้วกัน”

ลู่โจว “…? “

อะไรกัน?

พวกเราสนิทกันขนาดที่คุณมาพูดตลกใส่ผมแล้วเหรอเนี่ย?

การดีเบตยังคงดำเนินต่อไป

ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศแห่งประเทศจีนลุกขึ้นยืน เคราของเขาสั่นในขณะที่เขากำลังพูด “พวกเราควรจะเลือกวงโคจรต่ำของโลก!

ก่อนอื่นเลย พวกเราเอา ISS เป็นการอ้างอิงก็ได้ ต่อให้มีความยุ่งยากทางวิศวกรรม แต่ก็จะไม่ยุ่งยากเกินไปนัก อย่างที่สอง พวกเราสามารถใช้ประสบการณ์และความรู้ของพวกที่ได้จากสถานีที่วงโคจรต่ำของโลกไปใช้กับสถานีที่วงโคจรของดวงจันทร์ในอนาคตได้!”

คนในห้องประชุมจำนวนมากพยักหน้าเห็นด้วยกันกับเขา

ตัวแทนจากบริษัทต่างๆ ที่โฟกัสกับโปรเจกต์จรวดก็พยักหน้าเช่นกัน

ทันใดนั้นเอง เสียงเสียงหนึ่งก็ลอยมา

“ไม่เห็นด้วยครับ”

ทุกคนในห้องต่างกันไปมองเจ้าของเสียง

ชายที่ส่งนักบินอวกาศสามคนไปดวงจันทร์ ศาสตราจารย์ลู่ลุกขึ้นยืน

ผู้อำนวยการหลี่เริ่มเครียดจากสถานการณ์อันโกลาหลในห้องประชุม เขาเงยหน้าขึ้นในทันทีแล้วถามว่า “ช่วยอธิบายด้วยครับ”

ลู่โจวยิ้มแล้วตอบคำถาม “ในเมื่อเรากำลังจะสร้างสถานีอวกาศอยู่แล้วนะครับ พวกเราไปสร้างที่วงโคจรของดวงจันทร์ดีกว่า!”

ทั้งห้องประชุมตกอยู่ในความวุ่นวาย

…………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+