Scholar’s Advanced Technological System 354 ไปเบอร์ลิน

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 354 ไปเบอร์ลิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สองสัปดาห์หลังการสัมภาษณ์ นิตยสารไทม์ฉบับนานาชาติประจำสัปดาห์ก็ถูกตีพิมพ์

คนที่สัมภาษณ์ในฉบับนี้ค่อนข้างพิเศษ

คนๆนี้ไม่ใช่นักการเมือง ซูเปอร์สตาร์ หรือผู้บริหาร

เขาเป็นนักวิชาการ

ประชาชนไม่ได้ให้ความสนใจกับบุคคลทางวิชาการนัก การสัมภาษณ์เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์หรือนักวิชาการมักถูกระบุว่าเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ

อย่างไรก็ตามน่าแปลกใจที่หลังจากการสัมภาษณ์ของจูเลีย เดรกออกมา บทความได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม

ลู่โจวกำลังจะขึ้นเครื่องจากนิวยอร์กไปเบอร์ลิน เขายุ่งอยู่กับการเตรียมบรรยายจนเกือบลืมเรื่องสัมภาษณ์ไปเลย

แต่แล้วขณะที่เขารอเครื่องขึ้น เขาก็พลันเห็นนิตยสารบนเครื่องบิน

แม้ว่าเขาจะไม่สนใจความเห็นของคนอื่นนัก แต่เขาก็ยังรู้สึกสนใจว่านิตยสารระดับโลกพูดอะไรถึงเขา

ลู่โจวพลิกนิตยสารแล้วอ่านข้อความ

[…สามปีก่อน เขาไม่มีผลการวิจัยใดๆ เลย ไม่มีเหรียญรางวัลสักเหรียญเดียว ไม่มีคนไปเยี่ยมชมห้องสมุดมหาวิทยาลัยจินหลิงราวกับศาลเจ้า นั่งอยู่ที่นั่งเก่าของเขาโดยหวังว่าจะได้รับแรงบันดาลใจ

แต่สามปีต่อมา ไม่เพียงเขาจะมีทั้งหมดนี้เท่านั้น แต่เขายังใช้คณิตศาสตร์เพื่อสร้างโลกที่แตกต่างเพื่อทุกคน

เมื่อเขายืนอยู่บนเวทีสต็อกโฮล์มคอนเสิร์ตฮอล์และได้รับรางวัลคราฟอร์ด ไม่เพียงแต่เขาจะได้รับการยอมรับจากราชบัณฑิตสภาด้านวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดน เขายังได้รับการยอมรับจากทั้งโลกอีกด้วย ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคในที่สุดก็ถูกแก้

วันนี้ ความสำเร็จใหม่ของเขาในสาขาแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์เปลี่ยนโฉมหน้าทั้งอุตสาหกรรม ผู้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะได้รับผลประโยชน์จากงานวิจัยของเขาโดยตรง

มีนักวิชาการน้อยมากที่ประสบความสำเร็จเท่าเขาในวัยเท่านี้ และมีคนน้อยยิ่งกว่านั้นอีกที่ไม่หลงมัวเมาไปกับเงินหรือชื่อเสียงและรักษาความกล้าได้กล้าเสียเอาไว้

ท้ายที่สุดแล้วการเข้าสู่ดินแดนที่ไม่มีใครรู้จักต้องการมากกว่าความกล้า

เมื่อเร็วๆนี้ เขาได้รับเชิญจากสถาบันมักซ์พลังค์ให้เดินไปเข้าร่วมงานประชุมที่ยุโรป เขาจะนำเสนอผลการวิจัยล่าสุดของเขาเกี่ยวกับแบบจำลองเชิงทฤษฎีของโครงสร้างพื้นผิวสัมผัสเคมีไฟฟ้าแก่ชุมชนวิชาการ

ตามที่เขาสัญญาไว้ เขาจะนิยามวิทยาศาสตร์ด้วยคณิตศาสตร์ เขาจะพยายามทำตามสัญญาเดิมของตนเอง

เขาไม่ได้เป็นแค่บุคคล แต่เป็นสัญลักษณ์ด้วย

สัญลักษณ์ของนักวิชาการรุ่นใหม่

นักวิชาการรุ่นใหม่ท่านนี้จะก่อร่างสร้างอนาคตของเรา

นิตยสารไทม์ 21/8/2018

จูเลีย เดรก]

ลู่โจวอ่านนิตยสารไทม์ฉบับนานาชาติในมือแล้วยิ้มมุมปาก

ไทม์ไม่ได้ประเมินผู้สัมภาษณ์ทุกคนในเชิงบวก พวกเขามักจะตีพิมพ์เนื้อหาเสียดสีและการวิจารณ์ อย่างไรก็ตามไม่ต้องสงสัยเลยว่าบทความนี้พูดถึงเขาเชิงบวก

และลู่โจวก็พอใจกับรูปตัวเองบนปกมากที่สุด

มีสมการและตัวอักษรบนกระดานดำคล้ายกับเวทมนตร์คาถา หนังสือและเอกสารวางซ้อนกันอยู่มุมโต๊ะ มันอธิบายให้เห็นถึงตัวตนของเขาในฐานะนักคณิตศาสตร์ แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำให้เขาดูเหมือนเด็กเนิร์ดเลย

เขาสวมเสื้อยืดลายสก็อตตัวโปรด แทนที่จะเป็นศาสตราจารย์ เขาดูเหมือนนักศึกษามหาลัยทั่วๆไปมากกว่า

เขาถือชอล์กไว้ในมือขวาและถือ’เจ้าตัวเล็ก’จากชมรมโดรนพรินซ์ตันไว้มือซ้าย

ใช่ ชื่อของโดรนสี่ใบพัดคือ’เจ้าตัวเล็ก’

บางทีนิตยสารไทม์อยากใช้ใบพัดทั้งสี่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของกระบวนการคิดที่ไม่มีสิ้นสุดของเขา

แน่นอน ลู่โจวรู้สึกว่าทั้งหมดนี้อธิบายได้หนึ่งคำ

ใครที่ดูรูปนี้ก็จะนึกถึงคำๆ หนึ่ง

หล่อ

หลังบินมาหลายชั่วโมง เครื่องบินสีเงินสดใสลงจอดที่สนามบินเบอร์ลินเทเกิล

หลังจากลู่โจวลงจากเครื่องไม่นาน เขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น

เขาเห็นชายชราผมสีเทายื่นมือขวาออกมาแล้วเดินมาหาเขาด้วยรอยยิ้ม

“สวัสดีคุณลู่โจว ยินดีต้อนรับสู่เบอร์ลิน”

ลู่โจวปล่อยกระเป๋าเดินทางแล้วจับมือกับชายชรา

“สวัสดีครับ!”

แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้พูดภาษาเยอรมัน แต่พวกเขาก็ยังคุยกันเป็นภาษาอังกฤษได้

หลังจากคุยกันเล็กน้อย ชายชราก็แนะนำลู่โจวให้กับนักวิชาการหลายท่านที่ยืนอยู่ข้างหลัง

“ฉันขอแนะนำตัวก่อน ฉันเป็นประธานสถาบันมักซ์พลังค์ มาร์ติน สตราทแมน” จากนั้นสตราทแมนก็หันไปมองคนข้างๆ “นี่คือศาสตราจารย์คลัสส์ วอน คลิทซิ่ง”

แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน แต่ลู่โจวก็รู้ว่าสตราทแมนคือใคร

เขาดำรงตำแหน่งประธานสถาบันมักซ์พลังค์และผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเหล็กมักซ์พลังค์ที่มีชื่อเสียง และเป็นผู้เชี่ยวชาญเคมีพื้นผิว

หัวสแกนเคลวินที่เขาคิดค้นขึ้นถูกใช้กันอย่างกว้างขวางเพื่อศึกษาความลับที่ซ่อนอยู่ในวิทยาศาสตร์การกัดกร่อนอย่าง การเปิดเผยกลไกที่มีความเสถียรภาพของพื้นผิวสัมผัสโลหะ-พอลิเมอร์

ลู่โจวอ่านวิทยานิพนธ์อีกฝ่ายตอนที่ศึกษาวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณในห้องสมุด

ส่วนศาสตราจารย์คลิทซิ่ง เขามีความสำเร็จนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นฟิสิกส์เชิงทฤษฎีหรือฟิสิกส์ของสสารควบแน่น ชื่อของเขามีอยู่ทุกที่

ผลการวิจัยที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาก็คือปรากฏการณ์ฮอลล์ควอนตัมซึ่งทำให้เขาชนะรางวัลโนเบลปี 1985

นอกจากคลิทซิ่ง ผู้อำนวยการสถาบันเคมีเชิงฟิสิกส์มักซ์พลังค์และศาสตราจารย์ฟาลติ่งส์ก็อยู่ด้วยเช่นกัน

ตั้งแต่ที่ลู่โจวพบเขาเมื่อปีที่แล้ว ฟาลติ้งส์ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ชายชราชาวเยอรมันยังมีนิสัยแย่เหมือนเคย

“สวัสดี”

“สวัสดีครับ”

“เราเจอกันอีกแล้ว”

“…ใช่ครับ เราเจอกันอีกแล้ว”

ลู่โจวคิดว่าฟาลติ้งส์เป็นมิตรกับเขามากขึ้นเพราะพวกเขาเคยพบกันมาก่อน

เนื่องจากชายชราเดินทางมารับเขา ลู่โจวจึงคิดว่านี่เป็นวิธีแสดงการยอมรับที่เป็นเอกลักษณ์ของฟาลติ้งส์

ท้ายที่สุดแล้ว ก็มีคนไม่มากนักที่คู่ควรได้รับการยอมรับจากฟาลติ้งส์

บนโลกนี้ นักคณิตศาสตร์ที่ชายชรานับถือสามารถนับนิ้วได้เลย

ลู่โจวคิดว่าความคิดของเขาค่อนข้างสมเหตุสมผล

……………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด