Scholar’s Advanced Technological System 30

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 30 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 30 มาเล่นหมากฮอสกัน นายเริ่มก่อน

 

 

ลู่โจวคลานลงจากเตียงตอนเช้าตรู่ เขาล้างหน้าในห้องน้ำแล้วออกไปกินอาหารเช้า

 

ขณะที่เขากำลังเดิน เขาก็เห็นหลินอวี่เซียงกับชายตัวสูงเดินเคียงคู่กัน

 

ทั้งสองเดินไปหัวเราะไปและเหมือนพวกเขาจะสนิทกันมาก พวกเขาใกล้ชิดกันจนแทบจะจับมือกันอยู่รอมร่อ

 

ชายคนนั้นกำลังลากกระเป๋าเดินทาง ดูเหมือนเขากำลังจะไปส่งเธอที่สถานีรถไฟ

 

ลู่โจวไม่อยากรู้สึกกระอักกระอ่วน เขาจึงไม่ได้ไปทักทาย เขาแค่ถอนหายใจและไว้อาลัยหวังเสี่ยวตงหนึ่งวิ

 

เป็นไปตามคาด สัญชาตญาณเขาถูกต้อง

 

ลู่โจวเดินไปทางประตูหน้าอย่างช้าๆแล้วมองดูเวลาบนโทรศัพท์ มันเก้าโมงแล้ว

 

มีสาวสวยยืนอยู่หน้าต้นอู๋ถง เธอโบกมือให้เขาราวกับพยายามบอกเขาว่า’ทางนี้’

 

ลู่โจวเห็นเฉินยู่ซาน เขาก็ก้าวไปหาเธอ

 

รูปลักษณ์ของเฉินยู่ซานในวันนี้แตกต่างจากตอนที่อยู่ในห้องสมุดโดยสิ้นเชิงราวกับเป็นคนละคน

 

แว่นตาทรงกลมคู่หนาถูกแทนด้วยคอนแทคเลนส์ ผมปรกหน้าธรรมดาก็กลายเป็นหน้าม้า เธอสวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะสีขาว นิ้วเท้าขาวเนียนน่ารักของเธอเห็นได้อย่างชัดเจน

 

เฉินยู่ซานเห็นลู่โจวเดินมาแล้วกล่าว “ในที่สุดนายก็มา”

 

เห็นได้ชัดว่าเธอรอมาสักพักแล้ว

 

ลู่โจวตอบอย่างอายๆ “โอ้ ไม่ใช่ว่าเก้าโมงพอดีเหรอ?”

 

เฉินยู่ซานกลอกตามองบนแล้วกล่าว “โอ้ นายมาตรงเวลาเป๊ะ! ฉันเถียงไม่ได้เลย!” เธอส่ายโทรศัพท์แล้วกล่าว “จุดนัดพบอยู่ใกล้ๆ ฉันเรียกแท็กซี่แล้ว”

 

ลู่โจวสงสัยว่าถ้ามันอยู่ใกล้แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่เดินไป เขาลังเลเล็กน้อยแล้วตัดสินใจไม่ถามเธอ

 

หลังจากนั้นไม่นาน แท็กซี่ก็มาถึง ทั้งสองนั่งที่เบาะหลัง

 

ลู่โจวคิดถึง 200 หยวนต่อชั่วโมงและการขาดประสบการณ์ในการสอนของตน เขาอดเป็นกังวลไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจถามเฉินยู่ซานว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร “ลูกพี่ลูกน้องของคุณเรียนสายวิทย์หรือสายศิลป์? เกรดเท่าไหร่?”

 

เฉินยู่ซานตอบอย่างไม่แน่ใจ “ฉันคิดว่าวิทย์ แต่เกรดคณิต ฟิสิกส์ เคมีและชีวะของเธอย่ำแย่ทั้งหมด”

 

เท่าที่ฉันเห็นมันเหลือแต่วิชาภาษาจีนกับอังกฤษแล้วนะ

 

ลู่โจวอดถามไม่ได้ “งั้นทำไมเธอไม่เรียนสายศิลป์ล่ะ?”

 

เฉินยู่ซานชะงักเล็กน้อยเพราะเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน

 

“ฉันจะรู้ได้ไง?”

 

ทั้งสองคุยกันเล็กน้อยและมาถึงที่หมายในที่สุด พวกเขาลงจากรถเข้าสู่ถนนที่วุ่นวายและเดินตรงไปยังร้านกาแฟ

 

การตกแต่งในร้านนั้นหรูหรามาก แถมเฟอร์นิเจอร์ยังดูมีรสนิยม มันยังเช้าอยู่ ดังนั้นที่นั่งส่วนใหญ่จึงว่าง

 

เฉินยู่ซานพาลู่โจวเข้ามาด้านในแล้วเดินตรงไปที่หลังร้าน

 

ผู้หญิงวัยสามสิบกว่าบุคลิคดูเป็นผู้ใหญ่นั่งอยู่ใกล้ชั้นหนังสือ ผมสีดำของเธอถูกมัดไว้ด้านหลังอย่างปราณีต เธอถือหนังสืออ่านอย่างสง่างาม การแต่งกายของเธอยังมีรสนิยมเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนมีระดับ

 

ลู่โจวรู้สึกถึงบรรยากาศที่แข็งแกร่งจากตัวเธอ เขาบอกได้เลยว่าเธอมีสถานะสูงส่ง ไม่ว่าจะเป็นวงการกฏหมาย ผู้จัดการบริษัท CEO…

 

นอกจากนี้อันที่จริงเธออ่อนกว่าวัยแน่นอน

 

เฉินยู่ซานทักทายเธออย่างอบอุ่นก่อนจะแนะนำตัวลู่โจว “คุณป้า นี่คือนักศึกษาลู่โจวที่หนูเล่าให้ฟัง เขาเป็นนักศึกษาสุดยอดอัจฉริยะ โดยเฉพาะคณิตศาสตร์ เขาน่าทึ่งมาก! เขาสอนคณิตให้เมิ่งฉีได้แน่นอน”

 

ผู้หญิงคนนี้ยิ้มให้เฉินยู่ซานแล้วหันไปกล่าวกับลู่โจว “สวัสดี”

 

“สวัสดีครับ” ลู่โจวตอบอย่างกังวลใจ

 

“มานั่งลงเถอะ” ผู้หญิงคนนี้กล่าว เธอยิ้มบางๆแล้วถาม “เธออยากสั่งอะไรไหม?”

 

เฉินยู่ซานยิ้มแล้วกล่าว “หนูเอามอคค่าแก้วใหญ่”

 

ลู่โจวกล่าวอย่างอบอุ่น “ผมเอาแค่น้ำเปล่า”

 

ผู้หญิงคนนั้นยิ้มแล้วกล่าว “ไม่ต้องเกรงใจ” เธอกดปุ่มเรียกพนักงานแล้วกล่าว “เอามอคค่ากับอเมริกาโน่”

 

ผู้หญิงคนนั้นวางเมนูลงแล้วมองลู่โจว เธอกล่าวต่อ “อเมริกาโน่ของที่นี่ไม่ขมเลย มันมีรสช็อคโกแลตเข้มมาก มันเหมาะกับคนหัดดื่ม ฉันแนะนำให้เธอลอง”

 

ดูเหมือนเธอจะเป็นหญิงแกร่งที่ชอบควบคุมทุกอย่าง

 

จินตนาการได้ยากเลยว่าแม่แบบนี้จะมีลูกที่มีผลการเรียนแย่…

 

ลู่โจววิเคราะห์อยู่ในใจ แต่สีหน้าเขายังคงความสุภาพเอาไว้ เขายิ้มแล้วกล่าว “งั้น…ผมขอรับไว้ด้วยความเคารพ”

 

ผู้หญิงคนนั้นยิ้มแล้วกล่าว “นักศึกษาจากมหาลัยจินหลิงสุภาพมาก เธอเรียนสายศิลป์?”

 

“คณิตครับ”

 

ผู้หญิงคนนั้นมองลู่โจวด้วยความประหลาดใจและไม่ได้พูดอะไร เธอจิบกาแฟก่อนจะหยิบนามบัตรออกมาจากกระเป๋า เธอวางมันไว้บนโต๊ะแล้วดันให้ลู่โจวเบาๆ

 

“นี่นามบัตรของฉัน”

 

ลู่โจวประหลาดใจเมื่อดูนามบัตร

 

หยางตันยวิ๋น ประธานและผู้จัดการทั่วไปหย่าลี่แฟชั่นจำกัด หมายเลขติดต่อ : xxxx…

 

เขาไม่เคยได้ยินชื่อหย่าลี่แฟชั่นมาก่อน แต่แน่นอนว่าเขารู้จักตำแหน่งประธานและผู้จัดการทั่วไป

 

ว่าแต่คุณรับสองตำแหน่งในบริษัทได้ด้วยเหรอ? คุณไม่ยุ่งตายเลยรึไง?

 

“ผม…ผมไม่มีนามบัตร ขอโทษครับ”

 

“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ เธอแค่เพิ่มวีแชทฉันก็ได้” หยางตันยวิ๋นตอบ

 

ลู่โจวหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วใช้หมายเลขโทรศัพท์ในนามบัตรเพื่อเพิ่มวีแชท เขาพยายามจำชื่อเธอไว้ด้วยเช่นกัน

 

พนักงานถือถาดเดินมาแล้ววางถ้วยกาแฟทั้งสองบนโต๊ะ

 

“ซานซานคุยเรื่องค่าจ้างกับเธอแล้ว ดังนั้นฉันคิดว่าเธอน่าจะเข้าใจแล้ว” หยางตันยวิ๋นกล่าว เธอไขว่ห้างแล้วกล่าวอย่างใจเย็น “200 หยวนต่อชั่วโมง ค่าเดินทางแยกต่างหาก ทุกวันเสาร์อาทิตย์ตั้งแต่บ่ายโมงจนถึงหกโมงเย็น มีคำถามไหม?”

 

เพิ่มวีแชทแล้ว

 

ลู่โจวพยักหน้าและก็ส่ายหน้า “ไม่มีครับ”

 

หยางตันยวิ๋นพยักหน้าแล้วกล่าว “โอเค งั้นเธอเริ่มงานพรุ่งนี้ได้เลย ที่อยู่อยู่หลังนามบัตร เธอจะมาเองก็ได้หรือมากับซานซานก็ได้”

 

แค่นี้? ตกลงกันเสร็จแล้ว?

 

ลู่โจวยังคงไม่อยากจะเชื่อ

 

สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้เห็นนักเรียนด้วยซ้ำ เขาไม่จำเป็นต้องพบเธอและไม่ต้องดูเลยเหรอว่าเขาเหมาะสมไหม?

 

ราวกับว่าหยางตันยวิ๋นเห็นถึงข้อสงสัยของลู่โจว เธอจิบกาแฟแล้วกล่าว “เนื่องจากซานซานเป็นคนแนะนำเธอ ฉันเชื่อว่าเธอมีความสามารถ เธออยู่ในมหาลัยจินหลิง ดังนั้นเธอต้องมีความเข้าใจในการสอน ฉันไม่ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง ฉันชอบความเด็ดขาด ถ้าเธอทำได้ไม่ดี ฉันก็แค่หาคนมาแทน”

 

ลู่โจวอยากถามว่า’ทำได้ไม่ดี’หมายถึงอะไร

 

เขาคิดเล็กน้อยและตัดสินใจไม่ถาม เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ไม่ต้องห่วง ผมจะทำงานให้คุ้มค่าเงินแน่นอน”

 

ทักษะพื้นฐานที่สุดของพนักงานขายก็คือการทำให้ลูกค้าเชื่อใจคุณ ถ้าคุณอยากให้ลูกค้าไว้ใจ คุณก็อย่าถามคำถามโง่ๆและตั้งใจทำงานให้ดีก็พอ

 

ลู่โจวเรียนรู้สิ่งนี้ตอนที่เขาไปติดตั้งเร้าเตอร์

 

หยางตันยวิ๋นยิ้มอย่างสุภาพ เธอพยักหน้าแล้วกล่าว “ได้ยินเธอพูดแบบนี้ฉันก็วางใจ”

 

เธอดูนาฬิกาแล้วเอามือถือใส่กระเป๋า

 

หยางตันยวิ๋นกล่าว “มันเริ่มสายแล้ว ฉันยังมีประชุมอีก ฉันขอไปออฟฟิศก่อน” เธอกล่าวต่อ “เธอกับซานซานอยู่ทานมื้อเที่ยงที่นี่ก็ได้ ฉันบอกกับที่เคาน์เตอร์แล้ว ฉันจะจ่ายเงินให้ ฉันขอแนะนำพิซซ่า มันอร่อยมาก”

 

“ไว้พบกันใหม่ค่ะคุณป้า”

 

“คุณป้…ไว้พบกันครับคุณหยาง”

 

หยางตันยวิ๋นเดินจากไป เฉินยู่ซานหัวเราะเสียงดังและหยอกล้อลู่โจว “นายเกือบเรียกเธอว่าคุณป้า”

 

ลู่โจวยอมรับ “ใช่”

 

เฉินยู่ซานกล่าว “มันไม่เป็นไรถ้านายเรียกเธอว่าป้าเพราะเธออายุสี่สิบกว่าแล้ว แต่ป้าฉันไม่ชอบให้คนเรียกเธอว่าป้า แค่เรียกเธอว่าคุณหยางก็พอ”

 

ลู่โจวเข้าใจ เขาพยักหน้า

 

โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงที่ให้ความสนใจกับรูปลักษณ์ของตนจะค่อนข้างอ่อนไหวเรื่องอายุ

 

จะดีที่สุดถ้าเขาหลีกเลี่ยงกับระเบิดนี้ ไม่งั้นงานรายได้ 200 หยวนต่อชั่วโมงต้องหายไปแน่

 

ลู่โจวถาม “เราจะทำอะไรกันต่อ? รอ…จนเที่ยงเพื่อกินมื้อเที่ยงกัน?”

 

เฉินยู่ซานหัวเราะแล้วกล่าว “นายจะกินระหว่างรอก็ได้ มีคนเลี้ยง ไม่ใช่สิ่งที่นายชอบหรอกเหรอ? แน่นอนนายไม่รอที่นี่ก็ได้ เราออกไปเดินดูข้างนอก แต่นายต้องจ่ายมื้อเที่ยง”

 

งั้นก็รอตรงนี้แหละ

 

แถวนี้ทุกอย่างแพงมาก ไม่มีอะไรที่เขาจ่ายไหว

 

ลู่โจวหยิบหนังสือจากชั้นวางหนังสือแล้วเริ่มอ่าน

 

เฉินยู่ซานจ้องมองเขาพักใหญ่ ส่วนลู่โจวก็ไม่ตอบสนองเลย ในที่สุดเธอก็อดถามไม่ได้ “นายทำอะไรเป็นนอกจากการอ่านหนังสือไหม?”

 

ลู่โจวถามอย่างไม่มีทางเลือก “งั้นเราควรทำยังไง?”

 

สองคนไม่พอต่อการเล่นบอร์ดเกม แถมโทรศัพท์ของพวกเขาก็แย่เกินกว่าจะเล่นวีดีโอเกม ดูเหมือนสิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือการอ่านหนังสือ

 

เฉินยู่ซานมองไปรอบๆแล้วเห็นสองคนที่นั่งถัดจากพวกเขา แววตาเธอเปล่งประกาย “รอแปป เดี๋ยวฉันมา”

 

จากนั้นเธอก็ไปที่เคาน์เตอร์หน้า

 

ลู่โจวสงสัยว่าเธอจะทำอะไร หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็กลับมาพร้อมกับหมากฮอสชุดนึง

 

เธอวางมันไว้บนโต๊ะแล้วกล่าวอย่างตื่นเต้น “เรามาเล่นหมากฮอสกันเถอะ นายเริ่มก่อน”

 

ลู่โจว “…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด