Scholar’s Advanced Technological System

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลู่โจวคิดว่าเกมจะจบตอนนี้ เขาคิดว่ามันอาจจะมีข้อความจบเกมหรือฉากจบเด้งขึ้นมา เขาไม่แน่ใจว่าเขาสำรวจวอยด์เมมโมรี่ทั้งหมดเสร็จแล้วหรือเปล่า

หลังจากที่ศาสตราจารย์เลนกลับไปแล้ว กงสุลประกาศสิ้นสุดการประชุม เบาะแสทั้งหมดเกี่ยวกับออราเคิลดูเหมือนจะจบลงที่นี่ มันไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องแล้ว

หลังจากที่ลู่โจวออกมาจากรัฐสภาแล้ว เขาเดินตามกัปตันอินซ์กลับไปที่กองทัพ เขาปลดประจำการและส่งมอบอุปกรณ์ของเขา หลังจากนั้นเขาก็สำรวจโลกบนรถไฟโดยไม่มีอาวุธติดตัว

แม้ว่าโครงสร้างทางชนชั้นในสังคมจะชัดเจนมาก แต่โลกใบนี้ก็ซับซ้อนเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการไว้

บนโลกรูปทรงวงแหวนนี้ มีเขตอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตโภคภัณฑ์ และมีเขตการค้าที่จัดการเรื่องการขายและความบันเทิง สถานที่นี้ยังมีเขตมหาวิทยาลัย เขตพื้นที่ทำนา เขตที่อยู่อาศัยที่แออัดมากและแออัดน้อย พื้นที่ธรรมชาติ เป็นต้น

ชาวคาลาเนียนที่อาศัยอยู่ที่นี่ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักเพื่อความสำเร็จหรือชีวิตที่หรูหรา เพราะรายได้ในสังคมที่อยู่ชนชั้นเดียวกันจะใกล้เคียงกัน คนจากต่างชนชั้นแทบจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันเลย ดังนั้นช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยจึงไม่ชัดเจนขนาดนั้น ทุกคนอาศัยอยู่ในดินแดนในฝันของตัวเอง

เงินตราที่ใช้ที่นี่จะคล้ายคลึงกับคะแนนเครดิต

นายทหารคนนี้ที่ชื่อเรนฮาร์ทได้รับการชื่นชมจากหัวหน้าเพราะผลงานที่โดดเด่นของเขาและที่เขาได้รับการสืบทอดทรัพย์สินจากคาลาเนียนระดับสูง ดังนั้นเรนฮาร์ทจึงมีชีวิตที่สุขสบายอยู่ตรงหน้า

ลู่โจวตรงไปที่เขตมหาวิทยาลัยและเจอห้องสมุดที่ใกล้กับเขาที่สุด

แต่เขาก็ต้องผิดหวัง มันเป็นอย่างที่เขาจินตนาการไว้ ข้อมูลเชิงลึกส่วนใหญ่และเทคโนโลยีเฉพาะถูกซ่อนไว้ในวอยด์เมมโมรี่

ตอนที่เขาเปิดหนังสือเรียน เขาเห็นแค่ตัวอักษรและภาพที่พร่ามัวไปหมด เหตุการณ์แบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นตอนที่เขาพยายามหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ความรู้เฉพาะและความรู้ที่เป็นความลับไม่ได้ถูกบันทึกในความทรงจำนี้ ยิ่งเขาเจาะลึกเข้าไปเท่าไหร่ ข้อมูลที่มีอยู่ก็น้อยลงเท่านั้น

มันเหมือนความฝัน เขามองเห็นแค่ภาพคร่าวๆ แต่ไม่มีทางที่จะขุดลึกเข้าไปได้

ถ้าเขาทำตามเค้าเรื่องเดิม มันก็อาจจะไม่ได้รู้สึกเหมือนฝัน แต่เมื่อเขาเปลี่ยนเส้นทางจากโครงเรื่องหลัก เขารู้สึกถึงกำแพงที่มองไม่เห็นกำลังกั้นเขาอยู่

เขาก็เหมือนไมเคิล เดอ ซานตาใน GTA5 ที่ท่องเที่ยวไปตามถนนในลอสซานโตสโดยที่ไม่มีอาวุธติดตัว และมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่ไม่มีอยู่จริง

อย่างน้อยตอนนี้ เขาก็ยังหาเบาะแสอะไรไม่เจอ

นอกจากสมบัติล้ำค่าแล้ว สิ่งเดียวที่ศาสตราจารย์เลนทิ้งไว้ให้เขาคือความสงสัยในเรื่องของภัยธรรมชาติ

ภัยธรรมชาติคืออะไรกันแน่

เรื่องราวดูจะเหมือนสิ้นสุดลงตรงนี้…

ลู่โจวถอดหมวกออกและลุกจากเตียง เขารู้สึกว่าหัวของเขาร้อนไปหมด เขาสูดอากาศจากแอร์ในห้องทดลองเข้าไปลึกๆ

โดรนของเสี่ยวไอบินเข้ามา เผยให้เห็นข้อความที่อยู่บนหน้าจอ

[เจ้านาย คุณต้องการน้ำสักแก้วไหม 0.0]

ลู่โจว “เอามาให้หน่อย”

แขนกลตรงกำแพงเริ่มเคลื่อนที่ ไม่นานมันก็ยื่นน้ำเย็นๆ ให้ลู่โจว

ลู่โจวจิบน้ำและครุ่นคิดอยู่สักพัก จู่ๆ เขาก็พูดขึ้น

“เสี่ยวไอ”

เสี่ยวไอ [อะไรคะ? (>▽

ลู่โจว “เธอมีข้อมูลเกี่ยวกับคาลานในฐานข้อมูลของเธอไหม หมายถึงว่า…นอกจากส่วนที่เป็นวอยด์เมมโมรี่”

เสี่ยวไอ [ไม่คิดว่าจะมีนะ…ทำไมเหรอ  ┌|* ́∀`|┘]

เข้าใจแล้ว

หลังจากที่ลู่โจวคิดอยู่สักพัก เขาส่ายหัว

“… เปล่าหรอก”

ลู่โจวยืนขึ้นและเดินตรงไปที่ลิฟต์

เรื่องราวของวอยด์เมมโมรี่จบลงแล้ว

แต่ความสงสัยยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของลู่โจว

ภัยธรรมชาติแบบไหนที่ชาวคาลานกลัว

วิกฤตการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนคืออะไร

อีกอย่าง ควาร์กสตาร์บินตรงไปยังศูนย์กลางของกาแล็กซีเหรอ

ลู่โจวกลับไปที่ออฟฟิศของเขาและนั่งลงที่โต๊ะ เขาหยิบสมุดออกมาแล้วเริ่มบันทึกสิ่งที่เขาคิด

เขาหยุดเขียนและเคาะปากกาบนโต๊ะเบาๆ หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก ลู่โจวพูด

“ภัยธรรมชาติ…”

มันคือสิ่งที่แปลมาจากภาษาคาลาเนียน แต่ความหมายของมันก็อาจจะคล้ายๆ กัน

สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดในงานวิจัยวิชาการคือการพยายามที่จะเข้าใจเอกสารแปล

แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถศึกษาความหมายดั้งเดิมของออราเคิล ความทรงจำที่ระบบส่งมาได้ถูกแปลทุกอย่างเป็นภาษาจีน

และเขาก็ไม่มีทางที่จะสามารถใช้เทคโนโลยีปัจจุบันบนโลกในการแปลออราเคิล

“มีอยู่เรื่องหนึ่งที่มั่นใจได้ นั่นก็คือระบบไฮเทคไม่ได้มาจากคาลาเนียน …”

เนื่องจากค่านิยมทางศีลธรรมของชาวคาลาเนียน ถ้าหากว่าพวกเขาเป็นคนที่ค้นพบดาวโลกจริงๆ พวกเขาก็ไม่มีทางโจมตีมนุษย์

ในเรื่องของการกระทำระดับชาติ แม้แต่บริษัทเองก็ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายและประโยชน์

นอกเหนือจากสภาพแวดล้อมในบรรยากาศ โลกไม่ได้มีทรัพยากรมากมายเมื่อเทียบกับดาวเคราะห์อื่นๆ ในจักรวาล และยังมีแรงโน้มถ่วงสูงอีกด้วย

ไม่มีทางที่อารยธรรมที่สามารถสร้างริงเวิร์ลจะมาเสียเวลาโจมตีโลก แม้ว่าถ้าพวกเขาต้องการทรัพยากรอย่างน้ำหรือแก๊ส พวกเขาก็สามารถหาสิ่งเหล่านี้ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าจากดาวเคราะห์น้ำแข็งหรือดาวแก๊สได้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องนำทรัพยากรที่หาได้มาสกัดให้บริสุทธิ์ด้วยซ้ำ

ไม่มีเหตุผลเลยที่พวกเขาจะต้องใช้ความพยายามมากขนาดนี้ในการให้ระบบไฮเทคกับโลกเพื่อพัฒนาระดับเทคโนโลยีของมนุษย์

พฤติกรรมแบบนี้จะมาจากอารยธรรมที่ก้าวล้ำกว่านี้เท่านั้น คล้ายๆ กับอารยธรรมที่สร้างควาร์กสตาร์

แต่มีอยู่ปัญหาหนึ่ง แรงจูงใจของอารยธรรมล้ำสมัยคืออะไร

หรือว่า…พวกเขาคือสิ่งที่เรียกว่าวอยด์

ลู่โจวคิดเรื่องนี้อยู่นาน แต่เขาก็หาข้อสรุปไม่ได้เสียที เขาทำได้แค่เพียงเขียนข้อคาดการณ์ของตัวเองไว้

เห็นได้ชัดว่าสัญญาณ 750 จิกะอิเล็กตรอนโวลต์เป็นเรื่องเร่งด่วนกว่าการสำรวจความลับของควาร์กสตาร์และวอยด์

ในตอนนี้ที่วงการฟิสิกส์ทั้งวงการคาดหวังว่าเขาจะมีการค้นพบที่น่าอัศจรรย์ ดังนั้นเขาจึงต้องทำอะไรบางอย่าง

หลังจากที่ลังเลอยู่สักพัก ลู่โจวหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาคนสองสามคน ในที่สุดเขาก็สามารถติดต่อกับคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบโปรเจกต์กล้องโทรทรรศน์อาลี CMB ศาสตราจารย์จางเทียนหมิง นักวิจัยที่สถาบันฟิสิกส์พลังงานสูงจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน

เครื่องตรวจจับคลื่นความโน้มถ่วงเริ่มสร้างในปี 2017 และตรวจสอบครั้งแรกในปี 2020 มันคือหอสังเกตการณ์คลื่นความโน้มถ่วงที่มีระดับความสูงสูงสุดของโลก

แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้มีความหวังในหัวเลยสักนิด แต่เขาก็ยังขอข้อมูลคลื่นความโน้มถ่วงล่าสุดจากศาสตราจารย์จาง

แม้ว่าอาจจะไม่ได้อะไรเลยก็ตาม แต่ทำบางอย่างก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Scholar’s Advanced Technological System

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลู่โจวคิดว่าเกมจะจบตอนนี้ เขาคิดว่ามันอาจจะมีข้อความจบเกมหรือฉากจบเด้งขึ้นมา เขาไม่แน่ใจว่าเขาสำรวจวอยด์เมมโมรี่ทั้งหมดเสร็จแล้วหรือเปล่า

หลังจากที่ศาสตราจารย์เลนกลับไปแล้ว กงสุลประกาศสิ้นสุดการประชุม เบาะแสทั้งหมดเกี่ยวกับออราเคิลดูเหมือนจะจบลงที่นี่ มันไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องแล้ว

หลังจากที่ลู่โจวออกมาจากรัฐสภาแล้ว เขาเดินตามกัปตันอินซ์กลับไปที่กองทัพ เขาปลดประจำการและส่งมอบอุปกรณ์ของเขา หลังจากนั้นเขาก็สำรวจโลกบนรถไฟโดยไม่มีอาวุธติดตัว

แม้ว่าโครงสร้างทางชนชั้นในสังคมจะชัดเจนมาก แต่โลกใบนี้ก็ซับซ้อนเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการไว้

บนโลกรูปทรงวงแหวนนี้ มีเขตอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตโภคภัณฑ์ และมีเขตการค้าที่จัดการเรื่องการขายและความบันเทิง สถานที่นี้ยังมีเขตมหาวิทยาลัย เขตพื้นที่ทำนา เขตที่อยู่อาศัยที่แออัดมากและแออัดน้อย พื้นที่ธรรมชาติ เป็นต้น

ชาวคาลาเนียนที่อาศัยอยู่ที่นี่ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักเพื่อความสำเร็จหรือชีวิตที่หรูหรา เพราะรายได้ในสังคมที่อยู่ชนชั้นเดียวกันจะใกล้เคียงกัน คนจากต่างชนชั้นแทบจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันเลย ดังนั้นช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยจึงไม่ชัดเจนขนาดนั้น ทุกคนอาศัยอยู่ในดินแดนในฝันของตัวเอง

เงินตราที่ใช้ที่นี่จะคล้ายคลึงกับคะแนนเครดิต

นายทหารคนนี้ที่ชื่อเรนฮาร์ทได้รับการชื่นชมจากหัวหน้าเพราะผลงานที่โดดเด่นของเขาและที่เขาได้รับการสืบทอดทรัพย์สินจากคาลาเนียนระดับสูง ดังนั้นเรนฮาร์ทจึงมีชีวิตที่สุขสบายอยู่ตรงหน้า

ลู่โจวตรงไปที่เขตมหาวิทยาลัยและเจอห้องสมุดที่ใกล้กับเขาที่สุด

แต่เขาก็ต้องผิดหวัง มันเป็นอย่างที่เขาจินตนาการไว้ ข้อมูลเชิงลึกส่วนใหญ่และเทคโนโลยีเฉพาะถูกซ่อนไว้ในวอยด์เมมโมรี่

ตอนที่เขาเปิดหนังสือเรียน เขาเห็นแค่ตัวอักษรและภาพที่พร่ามัวไปหมด เหตุการณ์แบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นตอนที่เขาพยายามหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ความรู้เฉพาะและความรู้ที่เป็นความลับไม่ได้ถูกบันทึกในความทรงจำนี้ ยิ่งเขาเจาะลึกเข้าไปเท่าไหร่ ข้อมูลที่มีอยู่ก็น้อยลงเท่านั้น

มันเหมือนความฝัน เขามองเห็นแค่ภาพคร่าวๆ แต่ไม่มีทางที่จะขุดลึกเข้าไปได้

ถ้าเขาทำตามเค้าเรื่องเดิม มันก็อาจจะไม่ได้รู้สึกเหมือนฝัน แต่เมื่อเขาเปลี่ยนเส้นทางจากโครงเรื่องหลัก เขารู้สึกถึงกำแพงที่มองไม่เห็นกำลังกั้นเขาอยู่

เขาก็เหมือนไมเคิล เดอ ซานตาใน GTA5 ที่ท่องเที่ยวไปตามถนนในลอสซานโตสโดยที่ไม่มีอาวุธติดตัว และมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่ไม่มีอยู่จริง

อย่างน้อยตอนนี้ เขาก็ยังหาเบาะแสอะไรไม่เจอ

นอกจากสมบัติล้ำค่าแล้ว สิ่งเดียวที่ศาสตราจารย์เลนทิ้งไว้ให้เขาคือความสงสัยในเรื่องของภัยธรรมชาติ

ภัยธรรมชาติคืออะไรกันแน่

เรื่องราวดูจะเหมือนสิ้นสุดลงตรงนี้…

ลู่โจวถอดหมวกออกและลุกจากเตียง เขารู้สึกว่าหัวของเขาร้อนไปหมด เขาสูดอากาศจากแอร์ในห้องทดลองเข้าไปลึกๆ

โดรนของเสี่ยวไอบินเข้ามา เผยให้เห็นข้อความที่อยู่บนหน้าจอ

[เจ้านาย คุณต้องการน้ำสักแก้วไหม 0.0]

ลู่โจว “เอามาให้หน่อย”

แขนกลตรงกำแพงเริ่มเคลื่อนที่ ไม่นานมันก็ยื่นน้ำเย็นๆ ให้ลู่โจว

ลู่โจวจิบน้ำและครุ่นคิดอยู่สักพัก จู่ๆ เขาก็พูดขึ้น

“เสี่ยวไอ”

เสี่ยวไอ [อะไรคะ? (>▽

ลู่โจว “เธอมีข้อมูลเกี่ยวกับคาลานในฐานข้อมูลของเธอไหม หมายถึงว่า…นอกจากส่วนที่เป็นวอยด์เมมโมรี่”

เสี่ยวไอ [ไม่คิดว่าจะมีนะ…ทำไมเหรอ  ┌|* ́∀`|┘]

เข้าใจแล้ว

หลังจากที่ลู่โจวคิดอยู่สักพัก เขาส่ายหัว

“… เปล่าหรอก”

ลู่โจวยืนขึ้นและเดินตรงไปที่ลิฟต์

เรื่องราวของวอยด์เมมโมรี่จบลงแล้ว

แต่ความสงสัยยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของลู่โจว

ภัยธรรมชาติแบบไหนที่ชาวคาลานกลัว

วิกฤตการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนคืออะไร

อีกอย่าง ควาร์กสตาร์บินตรงไปยังศูนย์กลางของกาแล็กซีเหรอ

ลู่โจวกลับไปที่ออฟฟิศของเขาและนั่งลงที่โต๊ะ เขาหยิบสมุดออกมาแล้วเริ่มบันทึกสิ่งที่เขาคิด

เขาหยุดเขียนและเคาะปากกาบนโต๊ะเบาๆ หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก ลู่โจวพูด

“ภัยธรรมชาติ…”

มันคือสิ่งที่แปลมาจากภาษาคาลาเนียน แต่ความหมายของมันก็อาจจะคล้ายๆ กัน

สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดในงานวิจัยวิชาการคือการพยายามที่จะเข้าใจเอกสารแปล

แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถศึกษาความหมายดั้งเดิมของออราเคิล ความทรงจำที่ระบบส่งมาได้ถูกแปลทุกอย่างเป็นภาษาจีน

และเขาก็ไม่มีทางที่จะสามารถใช้เทคโนโลยีปัจจุบันบนโลกในการแปลออราเคิล

“มีอยู่เรื่องหนึ่งที่มั่นใจได้ นั่นก็คือระบบไฮเทคไม่ได้มาจากคาลาเนียน …”

เนื่องจากค่านิยมทางศีลธรรมของชาวคาลาเนียน ถ้าหากว่าพวกเขาเป็นคนที่ค้นพบดาวโลกจริงๆ พวกเขาก็ไม่มีทางโจมตีมนุษย์

ในเรื่องของการกระทำระดับชาติ แม้แต่บริษัทเองก็ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายและประโยชน์

นอกเหนือจากสภาพแวดล้อมในบรรยากาศ โลกไม่ได้มีทรัพยากรมากมายเมื่อเทียบกับดาวเคราะห์อื่นๆ ในจักรวาล และยังมีแรงโน้มถ่วงสูงอีกด้วย

ไม่มีทางที่อารยธรรมที่สามารถสร้างริงเวิร์ลจะมาเสียเวลาโจมตีโลก แม้ว่าถ้าพวกเขาต้องการทรัพยากรอย่างน้ำหรือแก๊ส พวกเขาก็สามารถหาสิ่งเหล่านี้ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าจากดาวเคราะห์น้ำแข็งหรือดาวแก๊สได้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องนำทรัพยากรที่หาได้มาสกัดให้บริสุทธิ์ด้วยซ้ำ

ไม่มีเหตุผลเลยที่พวกเขาจะต้องใช้ความพยายามมากขนาดนี้ในการให้ระบบไฮเทคกับโลกเพื่อพัฒนาระดับเทคโนโลยีของมนุษย์

พฤติกรรมแบบนี้จะมาจากอารยธรรมที่ก้าวล้ำกว่านี้เท่านั้น คล้ายๆ กับอารยธรรมที่สร้างควาร์กสตาร์

แต่มีอยู่ปัญหาหนึ่ง แรงจูงใจของอารยธรรมล้ำสมัยคืออะไร

หรือว่า…พวกเขาคือสิ่งที่เรียกว่าวอยด์

ลู่โจวคิดเรื่องนี้อยู่นาน แต่เขาก็หาข้อสรุปไม่ได้เสียที เขาทำได้แค่เพียงเขียนข้อคาดการณ์ของตัวเองไว้

เห็นได้ชัดว่าสัญญาณ 750 จิกะอิเล็กตรอนโวลต์เป็นเรื่องเร่งด่วนกว่าการสำรวจความลับของควาร์กสตาร์และวอยด์

ในตอนนี้ที่วงการฟิสิกส์ทั้งวงการคาดหวังว่าเขาจะมีการค้นพบที่น่าอัศจรรย์ ดังนั้นเขาจึงต้องทำอะไรบางอย่าง

หลังจากที่ลังเลอยู่สักพัก ลู่โจวหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาคนสองสามคน ในที่สุดเขาก็สามารถติดต่อกับคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบโปรเจกต์กล้องโทรทรรศน์อาลี CMB ศาสตราจารย์จางเทียนหมิง นักวิจัยที่สถาบันฟิสิกส์พลังงานสูงจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน

เครื่องตรวจจับคลื่นความโน้มถ่วงเริ่มสร้างในปี 2017 และตรวจสอบครั้งแรกในปี 2020 มันคือหอสังเกตการณ์คลื่นความโน้มถ่วงที่มีระดับความสูงสูงสุดของโลก

แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้มีความหวังในหัวเลยสักนิด แต่เขาก็ยังขอข้อมูลคลื่นความโน้มถ่วงล่าสุดจากศาสตราจารย์จาง

แม้ว่าอาจจะไม่ได้อะไรเลยก็ตาม แต่ทำบางอย่างก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Scholar’s Advanced Technological System

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

วันที่ 20 เมษายน ศาสตราจารย์หรูเสินเจียนก็กลับมาจากการประชุมที่เซี่ยงไฮ้แล้วเรียกลู่โจวไปที่ออฟฟิศ

เมื่อลู่โจวเดินเข้าไป ชายชราก็ยิ้ม “เตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว?”

ลู่โจวตอบ “ก็พอได้ครับ…โปรดเมตตาผมด้วย”

ศาสตราจารย์หรูเสินเจียน “พอได้? งั้นฉันจะทดสอบเธอสักสองสามคำถาม”

เขาดึงลิ้นชักแล้วหยิบเอากระดาษเอสี่ออกมา จากนั้นเขาก็เอากระดาษวางบนโต๊ะ

“เอาไปเขียน”

ลู่โจวหยิบปากกา เมื่อเขามองดูโจทย์ คิ้วเขากระตุก

ในกระดาษมีโจทย์อยู่สามข้อ

มันดูยากทุกข้อเลย…

ศาสตราจารย์หรูเสินเจียนยิ้ม “ทำไม เธอไม่เข้าใจเหรอ?”

ลู่โจวยิ้มแล้วอ่านโจทย์ “ไม่ใช่ครับ มันแค่ดูไม่ง่ายเลย”

ศาสตราจารย์หรูเสินเจียนยิ้มและไม่ได้ตอบอะไร กลับกันเขานั่งไขว่ห้างอย่างอดทนแทน

ง่าย?

ถ้ามันง่ายก็ไม่น่าสนใจสิ

ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นนักวิชาการ

โจทย์นี้ไม่ได้มีให้นักศึกษาปริญญาโท มันเป็นของนักศึกษาปริญญาเอก

ถ้าลู่โจวแก้ได้สักสองข้อ มันก็นับว่าผ่านแล้ว ถ้าเขาแก้ได้ทั้งสามข้อ มันคงยอดเยี่ยมยิ่ง

นักศึกษาปริญญาเอกทั้งสี่ของเขาแก้ได้ทั้งสามข้อ

ขณะที่หรูเสินเจียนกำลังรอให้ลู่โจวทำข้อสอบเสร็จ ลู่โจวก็รีบกวาดสายตาอ่านโจทย์ทั้งสามอย่างรวดเร็ว โจทย์แรกดูง่ายที่สุด

มันเกี่ยวกับทฤษฎีกรุป

อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ทฤษฎีกรุปของคณิตศาสตร์ แต่เป็นการประยุกต์ของทฤษฎีกรุปในกลศาสตร์ควอนตัม

เนื่องจากสาขา’ทฤษฎีกรุป’ของคณิตศาสตร์ถูกสร้างขึ้นโดนนักคณิตศาสตร์ตัวคนเดียวมานานกว่าการเกิดของ’กลศาสตร์ควอนตัม’เสียอีก มันไม่เหมือนกับ’แคลคูลัส’ที่ถูกสร้างขึ้นโดยนักฟิสิกส์และนักคณิตศาสตร์ ดังนั้นทฤษฎีกรุปจึงเป็น’ผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ’ของนักฟิสิกส์ มันเรียนได้ยากและใช้งานได้ไม่ง่ายเลย

สำหรับ’นักคณิตศาสตร์’อย่างลู่โจว มันไม่ยากเลย

[คำอธิบายทฤษฎีกรุปของดีเจนเนอเรซี่โดยบังเอิญของระดับพลังงานอะตอมไฮโดรเจน]

โจทย์สั้นๆ แต่บรรจุเนื้อหาจำนวนมาก

ปรากฏการณ์ดีเจนเนอเรซี่ในอะตอมไฮโดรเจนสูงกว่าอะตอมทั่วไปถูกเรียกว่า’ดีเจนเนอเรซี่โดยบังเอิญ’ อย่างไรก็ตามถ้าไม่ใช้ทฤษฎีกรุป กลศาสตร์ควอนตัมดั้งเดิมก็ไม่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ของดีเจนเนอเรซี่แบบบังเอิญได้

ลู่โจวหลับตาแล้วนึกถึงความรู้กลศาสตร์ควอนตัม

จากนั้นเขาก็สร้างแบบจำลองคณิตศาสตร์ในหัว

ลู่โจวลืมตา หลังจากสูดหายใจลึกๆ เขาก็หยิบปากกาแล้วเริ่มเขียนบนกระดาษ

[กำหนดให้อะตอมไฮโดรเจนแฮมิลโทเนียนเป็น H=P2/2μ-Ze2/r…]

[ในกรณีของคูลอมบ์…]

[…]

เมื่อศาสตราจารย์หรูเสินเจียนเห็นความเร็วการตอบโจทย์ของลู่โจว เขาก็ประหลาดใจ

เขาคิดว่าลู่โจวคงใช้เวลาอย่างน้อยยี่สิบนาทีในการตอบคำถาม

ยิ่งกว่านั้นลู่โจวยังตอบได้อย่างถูกต้อง

เขาวางแผนตำหนิลู่โจวเมื่อเขาแก้โจทย์ไม่ได้ แต่นั่นคงไม่จำเป็นแล้ว

[ให้ระดับพลังงาน E(n+1) และเลขควอนตัม (n, 1) ดีเจนเนอเรซี่คือ Σ2(l+1)=n2…]

เมื่อศาสตราจารย์หรูเห็นคำตอบ เขาก็พยักหน้าในใจ

ข้อแรกถูกต้อง!

ลู่โจวไม่ได้สังเกตสีหน้าของศาสตราจารย์หรู เพราะเขาจดจ่ออยู่กับการทำโจทย์ข้อสอง

โจทย์ข้อสองเกี่ยวกับทฤษฎีโพรงของไดแรคในทฤษฎีสนามควอนตัม มันทดสอบความเข้าใจของเขาในสมการของไดเร็คและความรู้เชิงทฤษฎีเกี่ยวกับทฤษฎีสนาม

ลู่โจวไม่กลัวคำถามเชิงทฤษฎีบริสุทธิ์แบบนี้ ด้วยความช่วยเหลือของแคปซูลสมาธิ เขาจำเนื้อหาในหนังสือที่เขาอ่านได้ทั้งหมด

สำหรับเขาแล้ว โจทย์นี้เหมือนโจทย์แจกคะแนน

ลู่โจวรีบหยิบปากกาแล้วเขียนคำตอบ

เมื่อศาสตราจารย์หรูเห็นลู่โจวเขียนคำตอบ รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าเขา

เขาคิดถูก

เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ในด้านฟิสิกส์เชิงทฤษฎี พรสวรรค์นี้สูงกว่านักศึกษาปริญญาเอกทั้งสี่ของเขาเสียอีก

ถ้ามหาวิทยาลัยไม่ได้วางแผนพัฒนาพรสวรรค์ส่วนบุคคลให้กับลู่โจว เขาคงอยากให้ลู่โจวเรียนปริญญาเอกร่วมกับเขาเหมือนกัน

แน่นอนเขายังคงสนับสนุนแผนพัฒนาพรสวรรค์ของลู่โจว

ลู่โจวแก้โจทย์สองแล้วย้ายไปโจทย์สามอย่างรวดเร็ว

เมื่อเขาเห็นโจทย์สาม เขาก็อึ้งไปชั่วครู่

โจทย์สามเกี่ยวกับ’ทฤษฎีสตริง’

ทฤษฎีสตริงเป็นสิ่งที่ใช้แก้ทฤษฎีฟิสิกส์ความไม่เข้ากันสองอย่าง มันเป็นความไม่เข้ากันระหว่างกลศาสตร์ควอนตัมและทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ทฤษฎีสตริงต้องการอธิบายเอกภพ และมันเป็นที่รู้จักในชื่อ’ทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่’ในตำนาน

ทฤษฎีนี้เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์มาก

เวเนซซิโน่ที่ทำงานอยู่ที่ CERN 1 ตอนแรกเขาอยากหาสูตรคณิตศาสตร์ที่อธิบายแรงชนิดเข้มในนิวเคลียส เป็นผลให้เขาพบสูตรของออยเลอร์ในหนังสือคณิตศาสตร์เก่าๆ สูตรนี้อธิบายแรงชนิดเข้มที่เขาต้องการอย่างคาดไม่ถึง

แม้ว่ามันจะฟังดูปลอม แต่มันก็เป็นเรื่องบังเอิญที่แปลกประหลาด

และแล้วทฤษฎีสตริงก็ถือกำเนิดขึ้นด้วยประการฉะนี้

คลื่นถัดไปของทฤษฎีสตริงก็อย่างทฤษฎีซูเปอร์สตริงและทฤษฎี M ที่มีชื่อเสียงของ’การรวมกันของแม่น้ำและทะเลสาบ’ที่ถูกเสนอโดยเอ็ดเวิร์ด ทั้งหมดก็ถูกพัฒนาโดยพื้นฐานนี้

เป้าหมายสูงสุดของฟิสิกส์คือการสร้าง’ทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่’ซึ่งอธิบายทุกสิ่งในจักรวาล

อย่างไรก็ตามงานวิจัยทฤษฎีสตริงของจีนนั้นอยู่ในสภาวะที่น่าอึดอัด

ฟิสิกส์สสารควบแน่นอยู่ฝั่งตรงข้ามของฟิสิกส์เชิงทฤษฎี ชุมชนฟิสิกส์เชิงทฤษฎีลังเลที่จะยอมรับ ‘คณิตศาสตร์แปลกๆ’ อันนี้

แม้แต่ผู้นำฟิสิกส์เชิงทฤษฎีของจีนและหนึ่งในนักฟิสิกส์ที่มีอิทธิพลมากสุดในโลก คุณหยางเหล่า ก็ยังแสดงความไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีสตริง ในทางตรงกันข้ามชุมชนคณิตศาสตร์จีนยอมรับทฤษฎีสตริงอย่างเปิดกว้าง

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ลู่โจวสับสนก็คือโจทย์ที่สามถามหาความเห็นของเขาเกี่ยวกับทฤษฎีสตริง

ความเห็น?

ความเห็นที่มีต่อทฤษฎี? หรือความเห็นต่อการพัฒนาทฤษฎี?

นี่เป็นโจทย์อัตนัยเหรอ?

ลู่โจวชะงักไปชั่วครู่ ลู่โจวรู้สึกสับสน

…………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+