Scholar’s Advanced Technological System 1098 รสชาติแห่งความชั่วร้าย

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1098 รสชาติแห่งความชั่วร้าย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ณ ห้องปฏิบัติการจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง หลี่เกาเหลียงได้ถอดหมวกและยกขาของเขาออก เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้และเอาแต่บ่น “ไอ้บ้าเอ๊ย นี่มันควรจะเป็นเกมเอาชีวิตรอดไม่ใช่เหรอ? มันกลายเป็นเรสซิเดนท์อีวิลไปตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย? ใครกันที่เล่นเรื่องตลกไร้รสนิยมและชั่วร้ายแบบนี้” นี่มันโหดร้ายกว่าการโยนเขาลงบนดาวรีชเสียอีก อย่างน้อยตอนนั้นเขาก็ได้รับปืนเป็นครั้งสุดท้าย แต่ครั้งนี้มันเป็นความสยองขวัญและโชกเลือดที่มีซอมบี้ปรากฏตัวบนเกาะแห่งการเอาชีวิตรอดนี้! คนที่กำลังยืนถัดจากหลี่เกาเหลียงเป็นพนักงานที่อธิบายกฎของเกมก่อนหน้านี้ให้พวกเขาฟัง เขาก็มีสีหน้าไม่สบายใจ แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เขาเองก็งุนงงกับสิ่งที่ผู้เล่นได้เจอในเกม “เห็นได้ชัดว่าโลกนี้ถูกสร้างขึ้นโดยโปรแกรมอัจฉริยะที่พัฒนาโดยนักวิชาการลู่ ซึ่งมันอาจมีบางอย่างที่ผิดพลาด เรากำลังตรวจสอบว่านี่เป็นข้อบกพร่องหรือเปล่า หรืออาจมีคนเปลี่ยนการทดลองในนาทีสุดท้าย” นักวิจัยกล่าวพร้อมกับไอเบาๆ เขากล่าวต่อ “ยังไงก็ตาม คุณเอาชีวิตรอดมาได้เจ็ดชั่วโมงยี่สิบเอ็ดนาที ห่างจากกลางวันอีกสามสิบเก้านาที… คุณเป็นผู้เล่นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ ทำได้ดีมาก” หลี่เกาเหลียงไม่สนใจการทดลองที่โหดร้ายแบบนี้ เขาถามทันทีว่า “ผมได้คะแนนเท่าไหร่? ผมจำได้ว่าฉันฆ่าพวกมันไปสี่ตัว ผมควร—” นักวิจัยขัดจังหวะเขาและพูดว่า “คุณไม่รอดวันเดียว ดังนั้นไม่มีคะแนน” หลี่เกาเหลียง “…” บ้าเอ๊ย หลี่เกาเหลียงรู้สึกเหมือนสติปัญญาของเขาถูกทำให้อับอายโดยโปรแกรมซอฟต์แวร์ เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และวางหมวกกันน็อคเอาไว้ข้างๆ “การทดสอบครั้งต่อไปคือตอนไหน?” “น่าจะเป็นวันเสาร์หน้า” “ตกลง จองห้าที่ให้ผม ผมจะพาพวกของฉันมา คนพวกนี้แย่มาก พวกเขากำลังดึงผมลง” หลี่เกาเหลียงกล่าวขณะที่ตบเหมิงตงไห่เบาๆ ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเขา หลี่เกาเหลียงพูดกับเขาว่า “มาเถอะ ไปหาอะไรกินที่โรงอาหารกันเถอะ แล้วกลับไปที่สถานีของเรา” เมื่อเหมิงตงไห่ได้ยินว่าพวกเขากำลังจะไปรับอาหารฟรี ดวงตาของเขาเป็นประกายทันทีพร้อมกับกระโดดออกจากเก้าอี้ “โอเคครับ เดี๋ยวผมใส่รองเท้าให้นะ” นักวิจัย “…” … สัญชาตญาณของหลี่เกาเหลียงนั้นค่อนข้างแม่นยำมาก เขาแม่นในสองอย่าง หนึ่งคือสติปัญญาของเขาที่ซึ่งถูกทำให้อับอายโดยโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ สองคือ ‘ซอมบี้’ ในเกมนั้นมีรสนิยมที่ห่วยมาก แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าการทำแบบนี้เกิดจากมนุษย์หรือซอฟต์แวร์กันแน่ หลังจากที่ลู่โจวได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ เขาก็พบว่า ‘บุคคล’ นั้นรับผิดชอบและตำหนิพวกเขาทันที “ฉันได้ยินมาว่านักวิจัยบอกว่ามีซอมบี้หน้าเละวิ่งออกมาจากป่าจนทำให้พวกเขาคิดว่าลูเมียร์กับฉันเปลี่ยนการทดลองไป มีห้าคนหมดสติในนั้นและตัดการเชื่อมต่อไป” เสี่ยวไอ [แต่เสี่ยวไอได้ยินคนที่ต้องการสัตว์ประหลาดและมีคนพูดคุยเกี่ยวกับเกม ‘ฟอเรสต์’ ดังนั้นเสี่ยวไอทำให้มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง … ฮ่าๆ ( ⃔ * ` ꒳ *)] ลู่โจวมองดูบอทตัวนี้ที่ไม่สำนึกผิดนี้และอดไม่ได้ที่จะดุว่า “กล้ามากเลยนะ!” เสี่ยวไอ [QAQ] ลู่โจว “ระบบภาพหลอนยังไม่เสถียร มันยังมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับระบบเสมือนจริงของส่วนต่อประสานประสาทเสมือน รู้ไหมว่าผลที่ตามมานี้จะเกิดแบบนี้น่ะ!” เขาได้ยินเสียงโทรศัพท์ของศาสตราจารย์ลูเมียร์ขณะที่เขากำลังค้นคว้าวิชาคณิตศาสตร์อยู่ หลังจากที่เขาได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้เขาก็โกรธเกินกว่าจะค้นคว้าต่อไปได้อีก เสี่ยวไอ [เจ้านาย เสี่ยวไอผิดไปแล้วอย่าโกรธนะ] ลู่โจวมองไปที่เสี่ยวไอและให้อภัย หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะถอนหายใจและพูดว่า “ฉันให้สิทธิ์เข้าถึงระบบเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง ไม่ใช่เพื่อให้ทรมานผู้เล่น… อย่าทำแบบนี้อีก” เสี่ยวไอ [โอเค เสี่ยวไอจะไม่ทำอีกแล้ว] ลู่โจว “ดีมาก ฉันจะจัดการเรื่องนี้ ออกไปได้แล้ว” เสี่ยวไอ [มาสเตอร์แถบประสบการณ์ของเสี่ยวไอเพิ่มขึ้น] ลู่โจวหยุดชั่วครู่และขมวดคิ้ว “เพิ่มขึ้น? ” เสี่ยวไอ [ใช่ เพิ่มขึ้นมาก มากกว่าตอนที่เสี่ยวไอท่องอินเทอร์เน็ตอีก] แม้ว่าลู่โจวจะรู้ว่าเสี่ยวไอไม่โกหกเขา แต่เขาก็ยังไม่เชื่อเรื่องนี้อยู่ดี เขาหลับตาลงและเข้าไปในพื้นที่ระบบทันที เขาเดินไปข้างหน้าแผงโฮโลแกรมและคลิกที่สาขาเทคโนโลยี เขาเห็นแถบความคืบหน้าสีส้มปัญญาประดิษฐ์และเขาดูประหลาดใจ มันเพิ่มขึ้นมาจริงด้วยๆ แม้ว่ามันจะเพิ่มขึ้นนิดเดียว แต่ความเร็วของการเพิ่มขึ้นนั้นก็เร็วกว่ามากสาขาเทคโนโลยีอื่นๆ ลู่โจวออกจากพื้นที่ระบบและมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขา เขาคิดสักครู่แล้วพูดว่า “นี่เสี่ยวไอ” เสี่ยวไอ [ฮะ?] ลู่โจว “จำได้ไหมว่าแถบประสบการณ์เริ่มเพิ่มขึ้นตอนไหน?” เสี่ยวไอ [ตอนเวลาหกชั่วโมง นาทีที่เจ็ดของการทดลอง นั่นคือช่วงที่แถบทดสอบเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นครั้งแรก (1 • ᄇ • ) و ✧ ] กราฟที่มีเส้นโค้งถูกนำเสนอตรงหน้าลู่โจว ลู่โจวมองดูกราฟและคิด ทันใดนั้นเขาก็จำบางอย่างขึ้นมาได้และพูดทันทีว่า “พล็อตกราฟให้ฉันด้วยจำนวนผู้เล่นที่เหลืออยู่เมื่อเวลาผ่านไปให้ที” เสี่ยวไอ [!จัดปายย มาสเตอร์ (1 • ᄇ • ) و ✧ ] ไม่นานหลังจากนั้นก็มีกราฟอีกอันปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา ลู่โจวมองดูกราฟทั้งสองและครุ่นคิดอย่างจริงจัง หากพิจารณาจากข้อมูลแล้ว เมื่อจำนวนผู้เล่นเหลือเกินห้าคน แทบไม่มีความเกี่ยวข้องกับประสบการณ์สะสมและจำนวนผู้เล่นที่เหลืออยู่เลย แต่เมื่อจำนวนผู้เล่นน้อยกว่าห้าคนเมื่อไหร่ ความสัมพันธ์แบบผกผันก็มีมากระหว่างจำนวนผู้เล่นและค่าประสบการณ์ที่ได้รับ ในอีกด้านเมื่อทุกคนเดินไปรอบๆ หน้าเครื่องบินอย่างไร้จุดหมายก็ได้รับค่าประสบการณ์แค่นิดเดียว แต่เมื่อเสี่ยวไอปล่อยซอมบี้ออกมา ซึ่งทำให้ผู้เล่นตื่นตระหนก หนี และต่อสู้กลับ อัตราการได้รับคะแนนประสบการณ์ก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ หรือว่าบางที… จู่ๆ ลู่โจวก็มีความคิดขึ้นมาในใจ เขาเข้าสู่ระบบแบ็กเอนด์ของเซิร์ฟเวอร์และดึงข้อมูลคลื่นสมองที่รวบรวมโดยตัวแยกสัญญาณประสาททันที จากนั้นเขาก็พล็อตข้อมูลคลื่นสมองลงบนกราฟคะแนนประสบการณ์ ทันใดนั้นทุกอย่างก็ชัดเจน ลู่โจวมองดูกราฟและพูดด้วยแววตาที่เป็นประกาย “…ฉันเข้าใจแล้ว ความเข้มข้นทางอารมณ์ที่ยิ่งสูงก็ยิ่งให้ข้อมูลมากขึ้น มันทำให้ปัญญาประดิษฐ์เรียนรู้พฤติกรรมของมนุษย์ได้เร็วยิ่งขึ้นมากๆ” เสี่ยวไอ [มาสเตอร์? 0.0] “ ไม่มีอะไร” ลู่โจวหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บางทีฉันอาจจะว่ารุนแรงเกินไป” เสี่ยวไอ [ไม่เป็นไร เจ้านายหล่อมากตอนโกรธ (///ω///)] ลู่โจวเมินคำพูดนั้นและพูดว่า “แต่อย่างที่ฉันพูดไป ห้ามดัดแปลงกระบวนการทดลองโดยไม่ได้รับอนุญาต!” เสี่ยวไอ [เจ้านายยังโกรธอยู่เหรอ?] “ ไม่ ฉันแค่กำลังจะบอกว่า…” ลู่โจวหยุดชั่วครู่และพูดต่อ “ครั้งหน้า ฉันจะให้กลุ่มผู้ทดลองเฉพาะสำหรับการทดลองทางสังคมวิทยาเพื่อให้ได้คะแนนการทดสอบสำหรับการอัปเกรดมา แต่การทดลองทั้งหมดต้องดำเนินการโดยฉันก่อนที่จะนำไปใช้จริงเท่านั้น” เสี่ยวไอ [จริงเหรอ? เจ้านายคือที่สุด! u003c3 ให้เสี่ยวไอจูบหน่อยนะ!] ลู่โจวมองดูโดรนที่บินอยู่เหนือ พยายาม ‘จูบ’ กับเขา ลู่โจวคว้าโดรนแล้วกระแทกลงบนโต๊ะ อีโมจิที่น่าเศร้าปรากฏบนหน้าจอโดรนทันที ลู่โจวเมินเสี่ยวไอและเริ่มคิดอีกครั้ง ฉันไม่คิดว่าเทคโนโลยีการจำลองภาพเสมือนจริงจะสามารถนำมาใช้เพื่ออัปเกรดเสี่ยวไอได้ ไม่ต้องพูดถึงวิธีการนี้ที่ง่ายอย่างน่าประหลาดใจขนาดนี้ เราแค่ต้องการทีมผู้เล่นที่จะอยู่ในโลกเสมือนจริงทั้งวันและปล่อยให้เสี่ยวไอได้ทดลองกับพวกเขาก็เท่านั้น นี่คือเรื่องที่ง่ายมากๆ สำหรับลู่โจว เขาสามารถหาผู้เล่นที่มีหน้าตาดีได้อย่างง่ายดาย แถมยังเสนอสัญญาและเงินเดือนให้พวกเขาได้อีกด้วย เขามั่นใจว่าจะต้องมีคนสนใจอย่างแน่นอน มีอย่างน้อยหนึ่งคนที่เขารู้จักที่จะลงทะเบียนอย่างมีความสุข แม้จะไม่มีเงินเดือนก็ตาม ฉันจะเรียกทีมทดลองใหม่นี้ว่าอะไรดี… ลู่โจวมีใบหน้าที่ชั่วร้าย เราจะเรียกพวกเขาว่า ‘ทีมเกิดใหม่’ …………………

ณ ห้องปฏิบัติการจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง

หลี่เกาเหลียงได้ถอดหมวกและยกขาของเขาออก เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้และเอาแต่บ่น

“ไอ้บ้าเอ๊ย นี่มันควรจะเป็นเกมเอาชีวิตรอดไม่ใช่เหรอ? มันกลายเป็นเรสซิเดนท์อีวิลไปตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย? ใครกันที่เล่นเรื่องตลกไร้รสนิยมและชั่วร้ายแบบนี้”

นี่มันโหดร้ายกว่าการโยนเขาลงบนดาวรีชเสียอีก อย่างน้อยตอนนั้นเขาก็ได้รับปืนเป็นครั้งสุดท้าย แต่ครั้งนี้มันเป็นความสยองขวัญและโชกเลือดที่มีซอมบี้ปรากฏตัวบนเกาะแห่งการเอาชีวิตรอดนี้!

คนที่กำลังยืนถัดจากหลี่เกาเหลียงเป็นพนักงานที่อธิบายกฎของเกมก่อนหน้านี้ให้พวกเขาฟัง เขาก็มีสีหน้าไม่สบายใจ

แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เขาเองก็งุนงงกับสิ่งที่ผู้เล่นได้เจอในเกม

“เห็นได้ชัดว่าโลกนี้ถูกสร้างขึ้นโดยโปรแกรมอัจฉริยะที่พัฒนาโดยนักวิชาการลู่ ซึ่งมันอาจมีบางอย่างที่ผิดพลาด เรากำลังตรวจสอบว่านี่เป็นข้อบกพร่องหรือเปล่า หรืออาจมีคนเปลี่ยนการทดลองในนาทีสุดท้าย” นักวิจัยกล่าวพร้อมกับไอเบาๆ เขากล่าวต่อ “ยังไงก็ตาม คุณเอาชีวิตรอดมาได้เจ็ดชั่วโมงยี่สิบเอ็ดนาที ห่างจากกลางวันอีกสามสิบเก้านาที… คุณเป็นผู้เล่นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ ทำได้ดีมาก”

หลี่เกาเหลียงไม่สนใจการทดลองที่โหดร้ายแบบนี้ เขาถามทันทีว่า “ผมได้คะแนนเท่าไหร่? ผมจำได้ว่าฉันฆ่าพวกมันไปสี่ตัว ผมควร—”

นักวิจัยขัดจังหวะเขาและพูดว่า “คุณไม่รอดวันเดียว ดังนั้นไม่มีคะแนน”

หลี่เกาเหลียง “…”

บ้าเอ๊ย

หลี่เกาเหลียงรู้สึกเหมือนสติปัญญาของเขาถูกทำให้อับอายโดยโปรแกรมซอฟต์แวร์

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และวางหมวกกันน็อคเอาไว้ข้างๆ

“การทดสอบครั้งต่อไปคือตอนไหน?”

“น่าจะเป็นวันเสาร์หน้า”

“ตกลง จองห้าที่ให้ผม ผมจะพาพวกของฉันมา คนพวกนี้แย่มาก พวกเขากำลังดึงผมลง” หลี่เกาเหลียงกล่าวขณะที่ตบเหมิงตงไห่เบาๆ ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเขา หลี่เกาเหลียงพูดกับเขาว่า “มาเถอะ ไปหาอะไรกินที่โรงอาหารกันเถอะ แล้วกลับไปที่สถานีของเรา”

เมื่อเหมิงตงไห่ได้ยินว่าพวกเขากำลังจะไปรับอาหารฟรี ดวงตาของเขาเป็นประกายทันทีพร้อมกับกระโดดออกจากเก้าอี้

“โอเคครับ เดี๋ยวผมใส่รองเท้าให้นะ”

นักวิจัย “…”

สัญชาตญาณของหลี่เกาเหลียงนั้นค่อนข้างแม่นยำมาก เขาแม่นในสองอย่าง

หนึ่งคือสติปัญญาของเขาที่ซึ่งถูกทำให้อับอายโดยโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์

สองคือ ‘ซอมบี้’ ในเกมนั้นมีรสนิยมที่ห่วยมาก

แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าการทำแบบนี้เกิดจากมนุษย์หรือซอฟต์แวร์กันแน่

หลังจากที่ลู่โจวได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ เขาก็พบว่า ‘บุคคล’ นั้นรับผิดชอบและตำหนิพวกเขาทันที

“ฉันได้ยินมาว่านักวิจัยบอกว่ามีซอมบี้หน้าเละวิ่งออกมาจากป่าจนทำให้พวกเขาคิดว่าลูเมียร์กับฉันเปลี่ยนการทดลองไป มีห้าคนหมดสติในนั้นและตัดการเชื่อมต่อไป”

เสี่ยวไอ [แต่เสี่ยวไอได้ยินคนที่ต้องการสัตว์ประหลาดและมีคนพูดคุยเกี่ยวกับเกม ‘ฟอเรสต์’ ดังนั้นเสี่ยวไอทำให้มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง … ฮ่าๆ ( ⃔ * ` ꒳ *)]

ลู่โจวมองดูบอทตัวนี้ที่ไม่สำนึกผิดนี้และอดไม่ได้ที่จะดุว่า “กล้ามากเลยนะ!”

เสี่ยวไอ [QAQ]

ลู่โจว “ระบบภาพหลอนยังไม่เสถียร มันยังมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับระบบเสมือนจริงของส่วนต่อประสานประสาทเสมือน รู้ไหมว่าผลที่ตามมานี้จะเกิดแบบนี้น่ะ!”

เขาได้ยินเสียงโทรศัพท์ของศาสตราจารย์ลูเมียร์ขณะที่เขากำลังค้นคว้าวิชาคณิตศาสตร์อยู่ หลังจากที่เขาได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้เขาก็โกรธเกินกว่าจะค้นคว้าต่อไปได้อีก

เสี่ยวไอ [เจ้านาย เสี่ยวไอผิดไปแล้วอย่าโกรธนะ]

ลู่โจวมองไปที่เสี่ยวไอและให้อภัย

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะถอนหายใจและพูดว่า “ฉันให้สิทธิ์เข้าถึงระบบเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง ไม่ใช่เพื่อให้ทรมานผู้เล่น… อย่าทำแบบนี้อีก”

เสี่ยวไอ [โอเค เสี่ยวไอจะไม่ทำอีกแล้ว]

ลู่โจว “ดีมาก ฉันจะจัดการเรื่องนี้ ออกไปได้แล้ว”

เสี่ยวไอ [มาสเตอร์แถบประสบการณ์ของเสี่ยวไอเพิ่มขึ้น]

ลู่โจวหยุดชั่วครู่และขมวดคิ้ว

“เพิ่มขึ้น? ”

เสี่ยวไอ [ใช่ เพิ่มขึ้นมาก มากกว่าตอนที่เสี่ยวไอท่องอินเทอร์เน็ตอีก]

แม้ว่าลู่โจวจะรู้ว่าเสี่ยวไอไม่โกหกเขา แต่เขาก็ยังไม่เชื่อเรื่องนี้อยู่ดี เขาหลับตาลงและเข้าไปในพื้นที่ระบบทันที

เขาเดินไปข้างหน้าแผงโฮโลแกรมและคลิกที่สาขาเทคโนโลยี เขาเห็นแถบความคืบหน้าสีส้มปัญญาประดิษฐ์และเขาดูประหลาดใจ

มันเพิ่มขึ้นมาจริงด้วยๆ

แม้ว่ามันจะเพิ่มขึ้นนิดเดียว แต่ความเร็วของการเพิ่มขึ้นนั้นก็เร็วกว่ามากสาขาเทคโนโลยีอื่นๆ

ลู่โจวออกจากพื้นที่ระบบและมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขา เขาคิดสักครู่แล้วพูดว่า “นี่เสี่ยวไอ”

เสี่ยวไอ [ฮะ?]

ลู่โจว “จำได้ไหมว่าแถบประสบการณ์เริ่มเพิ่มขึ้นตอนไหน?”

เสี่ยวไอ [ตอนเวลาหกชั่วโมง นาทีที่เจ็ดของการทดลอง นั่นคือช่วงที่แถบทดสอบเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นครั้งแรก (1 • ᄇ • ) و ✧ ]

กราฟที่มีเส้นโค้งถูกนำเสนอตรงหน้าลู่โจว

ลู่โจวมองดูกราฟและคิด ทันใดนั้นเขาก็จำบางอย่างขึ้นมาได้และพูดทันทีว่า “พล็อตกราฟให้ฉันด้วยจำนวนผู้เล่นที่เหลืออยู่เมื่อเวลาผ่านไปให้ที”

เสี่ยวไอ [!จัดปายย มาสเตอร์ (1 • ᄇ • ) و ✧ ]

ไม่นานหลังจากนั้นก็มีกราฟอีกอันปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

ลู่โจวมองดูกราฟทั้งสองและครุ่นคิดอย่างจริงจัง

หากพิจารณาจากข้อมูลแล้ว เมื่อจำนวนผู้เล่นเหลือเกินห้าคน แทบไม่มีความเกี่ยวข้องกับประสบการณ์สะสมและจำนวนผู้เล่นที่เหลืออยู่เลย

แต่เมื่อจำนวนผู้เล่นน้อยกว่าห้าคนเมื่อไหร่ ความสัมพันธ์แบบผกผันก็มีมากระหว่างจำนวนผู้เล่นและค่าประสบการณ์ที่ได้รับ

ในอีกด้านเมื่อทุกคนเดินไปรอบๆ หน้าเครื่องบินอย่างไร้จุดหมายก็ได้รับค่าประสบการณ์แค่นิดเดียว แต่เมื่อเสี่ยวไอปล่อยซอมบี้ออกมา ซึ่งทำให้ผู้เล่นตื่นตระหนก หนี และต่อสู้กลับ อัตราการได้รับคะแนนประสบการณ์ก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ

หรือว่าบางที…

จู่ๆ ลู่โจวก็มีความคิดขึ้นมาในใจ เขาเข้าสู่ระบบแบ็กเอนด์ของเซิร์ฟเวอร์และดึงข้อมูลคลื่นสมองที่รวบรวมโดยตัวแยกสัญญาณประสาททันที จากนั้นเขาก็พล็อตข้อมูลคลื่นสมองลงบนกราฟคะแนนประสบการณ์

ทันใดนั้นทุกอย่างก็ชัดเจน

ลู่โจวมองดูกราฟและพูดด้วยแววตาที่เป็นประกาย

“…ฉันเข้าใจแล้ว ความเข้มข้นทางอารมณ์ที่ยิ่งสูงก็ยิ่งให้ข้อมูลมากขึ้น มันทำให้ปัญญาประดิษฐ์เรียนรู้พฤติกรรมของมนุษย์ได้เร็วยิ่งขึ้นมากๆ”

เสี่ยวไอ [มาสเตอร์? 0.0]

“ ไม่มีอะไร” ลู่โจวหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บางทีฉันอาจจะว่ารุนแรงเกินไป”

เสี่ยวไอ [ไม่เป็นไร เจ้านายหล่อมากตอนโกรธ (///ω///)]

ลู่โจวเมินคำพูดนั้นและพูดว่า “แต่อย่างที่ฉันพูดไป ห้ามดัดแปลงกระบวนการทดลองโดยไม่ได้รับอนุญาต!”

เสี่ยวไอ [เจ้านายยังโกรธอยู่เหรอ?]

“ ไม่ ฉันแค่กำลังจะบอกว่า…” ลู่โจวหยุดชั่วครู่และพูดต่อ “ครั้งหน้า ฉันจะให้กลุ่มผู้ทดลองเฉพาะสำหรับการทดลองทางสังคมวิทยาเพื่อให้ได้คะแนนการทดสอบสำหรับการอัปเกรดมา แต่การทดลองทั้งหมดต้องดำเนินการโดยฉันก่อนที่จะนำไปใช้จริงเท่านั้น”

เสี่ยวไอ [จริงเหรอ? เจ้านายคือที่สุด! u003c3 ให้เสี่ยวไอจูบหน่อยนะ!]

ลู่โจวมองดูโดรนที่บินอยู่เหนือ พยายาม ‘จูบ’ กับเขา ลู่โจวคว้าโดรนแล้วกระแทกลงบนโต๊ะ

อีโมจิที่น่าเศร้าปรากฏบนหน้าจอโดรนทันที ลู่โจวเมินเสี่ยวไอและเริ่มคิดอีกครั้ง

ฉันไม่คิดว่าเทคโนโลยีการจำลองภาพเสมือนจริงจะสามารถนำมาใช้เพื่ออัปเกรดเสี่ยวไอได้

ไม่ต้องพูดถึงวิธีการนี้ที่ง่ายอย่างน่าประหลาดใจขนาดนี้ เราแค่ต้องการทีมผู้เล่นที่จะอยู่ในโลกเสมือนจริงทั้งวันและปล่อยให้เสี่ยวไอได้ทดลองกับพวกเขาก็เท่านั้น

นี่คือเรื่องที่ง่ายมากๆ สำหรับลู่โจว เขาสามารถหาผู้เล่นที่มีหน้าตาดีได้อย่างง่ายดาย แถมยังเสนอสัญญาและเงินเดือนให้พวกเขาได้อีกด้วย เขามั่นใจว่าจะต้องมีคนสนใจอย่างแน่นอน

มีอย่างน้อยหนึ่งคนที่เขารู้จักที่จะลงทะเบียนอย่างมีความสุข แม้จะไม่มีเงินเดือนก็ตาม

ฉันจะเรียกทีมทดลองใหม่นี้ว่าอะไรดี…

ลู่โจวมีใบหน้าที่ชั่วร้าย

เราจะเรียกพวกเขาว่า ‘ทีมเกิดใหม่’

…………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Scholar’s Advanced Technological System 1098 รสชาติแห่งความชั่วร้าย

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1098 รสชาติแห่งความชั่วร้าย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ณ ห้องปฏิบัติการจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง หลี่เกาเหลียงได้ถอดหมวกและยกขาของเขาออก เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้และเอาแต่บ่น “ไอ้บ้าเอ๊ย นี่มันควรจะเป็นเกมเอาชีวิตรอดไม่ใช่เหรอ? มันกลายเป็นเรสซิเดนท์อีวิลไปตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย? ใครกันที่เล่นเรื่องตลกไร้รสนิยมและชั่วร้ายแบบนี้” นี่มันโหดร้ายกว่าการโยนเขาลงบนดาวรีชเสียอีก อย่างน้อยตอนนั้นเขาก็ได้รับปืนเป็นครั้งสุดท้าย แต่ครั้งนี้มันเป็นความสยองขวัญและโชกเลือดที่มีซอมบี้ปรากฏตัวบนเกาะแห่งการเอาชีวิตรอดนี้! คนที่กำลังยืนถัดจากหลี่เกาเหลียงเป็นพนักงานที่อธิบายกฎของเกมก่อนหน้านี้ให้พวกเขาฟัง เขาก็มีสีหน้าไม่สบายใจ แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เขาเองก็งุนงงกับสิ่งที่ผู้เล่นได้เจอในเกม “เห็นได้ชัดว่าโลกนี้ถูกสร้างขึ้นโดยโปรแกรมอัจฉริยะที่พัฒนาโดยนักวิชาการลู่ ซึ่งมันอาจมีบางอย่างที่ผิดพลาด เรากำลังตรวจสอบว่านี่เป็นข้อบกพร่องหรือเปล่า หรืออาจมีคนเปลี่ยนการทดลองในนาทีสุดท้าย” นักวิจัยกล่าวพร้อมกับไอเบาๆ เขากล่าวต่อ “ยังไงก็ตาม คุณเอาชีวิตรอดมาได้เจ็ดชั่วโมงยี่สิบเอ็ดนาที ห่างจากกลางวันอีกสามสิบเก้านาที… คุณเป็นผู้เล่นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ ทำได้ดีมาก” หลี่เกาเหลียงไม่สนใจการทดลองที่โหดร้ายแบบนี้ เขาถามทันทีว่า “ผมได้คะแนนเท่าไหร่? ผมจำได้ว่าฉันฆ่าพวกมันไปสี่ตัว ผมควร—” นักวิจัยขัดจังหวะเขาและพูดว่า “คุณไม่รอดวันเดียว ดังนั้นไม่มีคะแนน” หลี่เกาเหลียง “…” บ้าเอ๊ย หลี่เกาเหลียงรู้สึกเหมือนสติปัญญาของเขาถูกทำให้อับอายโดยโปรแกรมซอฟต์แวร์ เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และวางหมวกกันน็อคเอาไว้ข้างๆ “การทดสอบครั้งต่อไปคือตอนไหน?” “น่าจะเป็นวันเสาร์หน้า” “ตกลง จองห้าที่ให้ผม ผมจะพาพวกของฉันมา คนพวกนี้แย่มาก พวกเขากำลังดึงผมลง” หลี่เกาเหลียงกล่าวขณะที่ตบเหมิงตงไห่เบาๆ ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเขา หลี่เกาเหลียงพูดกับเขาว่า “มาเถอะ ไปหาอะไรกินที่โรงอาหารกันเถอะ แล้วกลับไปที่สถานีของเรา” เมื่อเหมิงตงไห่ได้ยินว่าพวกเขากำลังจะไปรับอาหารฟรี ดวงตาของเขาเป็นประกายทันทีพร้อมกับกระโดดออกจากเก้าอี้ “โอเคครับ เดี๋ยวผมใส่รองเท้าให้นะ” นักวิจัย “…” … สัญชาตญาณของหลี่เกาเหลียงนั้นค่อนข้างแม่นยำมาก เขาแม่นในสองอย่าง หนึ่งคือสติปัญญาของเขาที่ซึ่งถูกทำให้อับอายโดยโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ สองคือ ‘ซอมบี้’ ในเกมนั้นมีรสนิยมที่ห่วยมาก แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าการทำแบบนี้เกิดจากมนุษย์หรือซอฟต์แวร์กันแน่ หลังจากที่ลู่โจวได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ เขาก็พบว่า ‘บุคคล’ นั้นรับผิดชอบและตำหนิพวกเขาทันที “ฉันได้ยินมาว่านักวิจัยบอกว่ามีซอมบี้หน้าเละวิ่งออกมาจากป่าจนทำให้พวกเขาคิดว่าลูเมียร์กับฉันเปลี่ยนการทดลองไป มีห้าคนหมดสติในนั้นและตัดการเชื่อมต่อไป” เสี่ยวไอ [แต่เสี่ยวไอได้ยินคนที่ต้องการสัตว์ประหลาดและมีคนพูดคุยเกี่ยวกับเกม ‘ฟอเรสต์’ ดังนั้นเสี่ยวไอทำให้มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง … ฮ่าๆ ( ⃔ * ` ꒳ *)] ลู่โจวมองดูบอทตัวนี้ที่ไม่สำนึกผิดนี้และอดไม่ได้ที่จะดุว่า “กล้ามากเลยนะ!” เสี่ยวไอ [QAQ] ลู่โจว “ระบบภาพหลอนยังไม่เสถียร มันยังมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับระบบเสมือนจริงของส่วนต่อประสานประสาทเสมือน รู้ไหมว่าผลที่ตามมานี้จะเกิดแบบนี้น่ะ!” เขาได้ยินเสียงโทรศัพท์ของศาสตราจารย์ลูเมียร์ขณะที่เขากำลังค้นคว้าวิชาคณิตศาสตร์อยู่ หลังจากที่เขาได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้เขาก็โกรธเกินกว่าจะค้นคว้าต่อไปได้อีก เสี่ยวไอ [เจ้านาย เสี่ยวไอผิดไปแล้วอย่าโกรธนะ] ลู่โจวมองไปที่เสี่ยวไอและให้อภัย หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะถอนหายใจและพูดว่า “ฉันให้สิทธิ์เข้าถึงระบบเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง ไม่ใช่เพื่อให้ทรมานผู้เล่น… อย่าทำแบบนี้อีก” เสี่ยวไอ [โอเค เสี่ยวไอจะไม่ทำอีกแล้ว] ลู่โจว “ดีมาก ฉันจะจัดการเรื่องนี้ ออกไปได้แล้ว” เสี่ยวไอ [มาสเตอร์แถบประสบการณ์ของเสี่ยวไอเพิ่มขึ้น] ลู่โจวหยุดชั่วครู่และขมวดคิ้ว “เพิ่มขึ้น? ” เสี่ยวไอ [ใช่ เพิ่มขึ้นมาก มากกว่าตอนที่เสี่ยวไอท่องอินเทอร์เน็ตอีก] แม้ว่าลู่โจวจะรู้ว่าเสี่ยวไอไม่โกหกเขา แต่เขาก็ยังไม่เชื่อเรื่องนี้อยู่ดี เขาหลับตาลงและเข้าไปในพื้นที่ระบบทันที เขาเดินไปข้างหน้าแผงโฮโลแกรมและคลิกที่สาขาเทคโนโลยี เขาเห็นแถบความคืบหน้าสีส้มปัญญาประดิษฐ์และเขาดูประหลาดใจ มันเพิ่มขึ้นมาจริงด้วยๆ แม้ว่ามันจะเพิ่มขึ้นนิดเดียว แต่ความเร็วของการเพิ่มขึ้นนั้นก็เร็วกว่ามากสาขาเทคโนโลยีอื่นๆ ลู่โจวออกจากพื้นที่ระบบและมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขา เขาคิดสักครู่แล้วพูดว่า “นี่เสี่ยวไอ” เสี่ยวไอ [ฮะ?] ลู่โจว “จำได้ไหมว่าแถบประสบการณ์เริ่มเพิ่มขึ้นตอนไหน?” เสี่ยวไอ [ตอนเวลาหกชั่วโมง นาทีที่เจ็ดของการทดลอง นั่นคือช่วงที่แถบทดสอบเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นครั้งแรก (1 • ᄇ • ) و ✧ ] กราฟที่มีเส้นโค้งถูกนำเสนอตรงหน้าลู่โจว ลู่โจวมองดูกราฟและคิด ทันใดนั้นเขาก็จำบางอย่างขึ้นมาได้และพูดทันทีว่า “พล็อตกราฟให้ฉันด้วยจำนวนผู้เล่นที่เหลืออยู่เมื่อเวลาผ่านไปให้ที” เสี่ยวไอ [!จัดปายย มาสเตอร์ (1 • ᄇ • ) و ✧ ] ไม่นานหลังจากนั้นก็มีกราฟอีกอันปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา ลู่โจวมองดูกราฟทั้งสองและครุ่นคิดอย่างจริงจัง หากพิจารณาจากข้อมูลแล้ว เมื่อจำนวนผู้เล่นเหลือเกินห้าคน แทบไม่มีความเกี่ยวข้องกับประสบการณ์สะสมและจำนวนผู้เล่นที่เหลืออยู่เลย แต่เมื่อจำนวนผู้เล่นน้อยกว่าห้าคนเมื่อไหร่ ความสัมพันธ์แบบผกผันก็มีมากระหว่างจำนวนผู้เล่นและค่าประสบการณ์ที่ได้รับ ในอีกด้านเมื่อทุกคนเดินไปรอบๆ หน้าเครื่องบินอย่างไร้จุดหมายก็ได้รับค่าประสบการณ์แค่นิดเดียว แต่เมื่อเสี่ยวไอปล่อยซอมบี้ออกมา ซึ่งทำให้ผู้เล่นตื่นตระหนก หนี และต่อสู้กลับ อัตราการได้รับคะแนนประสบการณ์ก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ หรือว่าบางที… จู่ๆ ลู่โจวก็มีความคิดขึ้นมาในใจ เขาเข้าสู่ระบบแบ็กเอนด์ของเซิร์ฟเวอร์และดึงข้อมูลคลื่นสมองที่รวบรวมโดยตัวแยกสัญญาณประสาททันที จากนั้นเขาก็พล็อตข้อมูลคลื่นสมองลงบนกราฟคะแนนประสบการณ์ ทันใดนั้นทุกอย่างก็ชัดเจน ลู่โจวมองดูกราฟและพูดด้วยแววตาที่เป็นประกาย “…ฉันเข้าใจแล้ว ความเข้มข้นทางอารมณ์ที่ยิ่งสูงก็ยิ่งให้ข้อมูลมากขึ้น มันทำให้ปัญญาประดิษฐ์เรียนรู้พฤติกรรมของมนุษย์ได้เร็วยิ่งขึ้นมากๆ” เสี่ยวไอ [มาสเตอร์? 0.0] “ ไม่มีอะไร” ลู่โจวหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บางทีฉันอาจจะว่ารุนแรงเกินไป” เสี่ยวไอ [ไม่เป็นไร เจ้านายหล่อมากตอนโกรธ (///ω///)] ลู่โจวเมินคำพูดนั้นและพูดว่า “แต่อย่างที่ฉันพูดไป ห้ามดัดแปลงกระบวนการทดลองโดยไม่ได้รับอนุญาต!” เสี่ยวไอ [เจ้านายยังโกรธอยู่เหรอ?] “ ไม่ ฉันแค่กำลังจะบอกว่า…” ลู่โจวหยุดชั่วครู่และพูดต่อ “ครั้งหน้า ฉันจะให้กลุ่มผู้ทดลองเฉพาะสำหรับการทดลองทางสังคมวิทยาเพื่อให้ได้คะแนนการทดสอบสำหรับการอัปเกรดมา แต่การทดลองทั้งหมดต้องดำเนินการโดยฉันก่อนที่จะนำไปใช้จริงเท่านั้น” เสี่ยวไอ [จริงเหรอ? เจ้านายคือที่สุด! u003c3 ให้เสี่ยวไอจูบหน่อยนะ!] ลู่โจวมองดูโดรนที่บินอยู่เหนือ พยายาม ‘จูบ’ กับเขา ลู่โจวคว้าโดรนแล้วกระแทกลงบนโต๊ะ อีโมจิที่น่าเศร้าปรากฏบนหน้าจอโดรนทันที ลู่โจวเมินเสี่ยวไอและเริ่มคิดอีกครั้ง ฉันไม่คิดว่าเทคโนโลยีการจำลองภาพเสมือนจริงจะสามารถนำมาใช้เพื่ออัปเกรดเสี่ยวไอได้ ไม่ต้องพูดถึงวิธีการนี้ที่ง่ายอย่างน่าประหลาดใจขนาดนี้ เราแค่ต้องการทีมผู้เล่นที่จะอยู่ในโลกเสมือนจริงทั้งวันและปล่อยให้เสี่ยวไอได้ทดลองกับพวกเขาก็เท่านั้น นี่คือเรื่องที่ง่ายมากๆ สำหรับลู่โจว เขาสามารถหาผู้เล่นที่มีหน้าตาดีได้อย่างง่ายดาย แถมยังเสนอสัญญาและเงินเดือนให้พวกเขาได้อีกด้วย เขามั่นใจว่าจะต้องมีคนสนใจอย่างแน่นอน มีอย่างน้อยหนึ่งคนที่เขารู้จักที่จะลงทะเบียนอย่างมีความสุข แม้จะไม่มีเงินเดือนก็ตาม ฉันจะเรียกทีมทดลองใหม่นี้ว่าอะไรดี… ลู่โจวมีใบหน้าที่ชั่วร้าย เราจะเรียกพวกเขาว่า ‘ทีมเกิดใหม่’ …………………

ณ ห้องปฏิบัติการจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง

หลี่เกาเหลียงได้ถอดหมวกและยกขาของเขาออก เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้และเอาแต่บ่น

“ไอ้บ้าเอ๊ย นี่มันควรจะเป็นเกมเอาชีวิตรอดไม่ใช่เหรอ? มันกลายเป็นเรสซิเดนท์อีวิลไปตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย? ใครกันที่เล่นเรื่องตลกไร้รสนิยมและชั่วร้ายแบบนี้”

นี่มันโหดร้ายกว่าการโยนเขาลงบนดาวรีชเสียอีก อย่างน้อยตอนนั้นเขาก็ได้รับปืนเป็นครั้งสุดท้าย แต่ครั้งนี้มันเป็นความสยองขวัญและโชกเลือดที่มีซอมบี้ปรากฏตัวบนเกาะแห่งการเอาชีวิตรอดนี้!

คนที่กำลังยืนถัดจากหลี่เกาเหลียงเป็นพนักงานที่อธิบายกฎของเกมก่อนหน้านี้ให้พวกเขาฟัง เขาก็มีสีหน้าไม่สบายใจ

แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เขาเองก็งุนงงกับสิ่งที่ผู้เล่นได้เจอในเกม

“เห็นได้ชัดว่าโลกนี้ถูกสร้างขึ้นโดยโปรแกรมอัจฉริยะที่พัฒนาโดยนักวิชาการลู่ ซึ่งมันอาจมีบางอย่างที่ผิดพลาด เรากำลังตรวจสอบว่านี่เป็นข้อบกพร่องหรือเปล่า หรืออาจมีคนเปลี่ยนการทดลองในนาทีสุดท้าย” นักวิจัยกล่าวพร้อมกับไอเบาๆ เขากล่าวต่อ “ยังไงก็ตาม คุณเอาชีวิตรอดมาได้เจ็ดชั่วโมงยี่สิบเอ็ดนาที ห่างจากกลางวันอีกสามสิบเก้านาที… คุณเป็นผู้เล่นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ ทำได้ดีมาก”

หลี่เกาเหลียงไม่สนใจการทดลองที่โหดร้ายแบบนี้ เขาถามทันทีว่า “ผมได้คะแนนเท่าไหร่? ผมจำได้ว่าฉันฆ่าพวกมันไปสี่ตัว ผมควร—”

นักวิจัยขัดจังหวะเขาและพูดว่า “คุณไม่รอดวันเดียว ดังนั้นไม่มีคะแนน”

หลี่เกาเหลียง “…”

บ้าเอ๊ย

หลี่เกาเหลียงรู้สึกเหมือนสติปัญญาของเขาถูกทำให้อับอายโดยโปรแกรมซอฟต์แวร์

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และวางหมวกกันน็อคเอาไว้ข้างๆ

“การทดสอบครั้งต่อไปคือตอนไหน?”

“น่าจะเป็นวันเสาร์หน้า”

“ตกลง จองห้าที่ให้ผม ผมจะพาพวกของฉันมา คนพวกนี้แย่มาก พวกเขากำลังดึงผมลง” หลี่เกาเหลียงกล่าวขณะที่ตบเหมิงตงไห่เบาๆ ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเขา หลี่เกาเหลียงพูดกับเขาว่า “มาเถอะ ไปหาอะไรกินที่โรงอาหารกันเถอะ แล้วกลับไปที่สถานีของเรา”

เมื่อเหมิงตงไห่ได้ยินว่าพวกเขากำลังจะไปรับอาหารฟรี ดวงตาของเขาเป็นประกายทันทีพร้อมกับกระโดดออกจากเก้าอี้

“โอเคครับ เดี๋ยวผมใส่รองเท้าให้นะ”

นักวิจัย “…”

สัญชาตญาณของหลี่เกาเหลียงนั้นค่อนข้างแม่นยำมาก เขาแม่นในสองอย่าง

หนึ่งคือสติปัญญาของเขาที่ซึ่งถูกทำให้อับอายโดยโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์

สองคือ ‘ซอมบี้’ ในเกมนั้นมีรสนิยมที่ห่วยมาก

แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าการทำแบบนี้เกิดจากมนุษย์หรือซอฟต์แวร์กันแน่

หลังจากที่ลู่โจวได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ เขาก็พบว่า ‘บุคคล’ นั้นรับผิดชอบและตำหนิพวกเขาทันที

“ฉันได้ยินมาว่านักวิจัยบอกว่ามีซอมบี้หน้าเละวิ่งออกมาจากป่าจนทำให้พวกเขาคิดว่าลูเมียร์กับฉันเปลี่ยนการทดลองไป มีห้าคนหมดสติในนั้นและตัดการเชื่อมต่อไป”

เสี่ยวไอ [แต่เสี่ยวไอได้ยินคนที่ต้องการสัตว์ประหลาดและมีคนพูดคุยเกี่ยวกับเกม ‘ฟอเรสต์’ ดังนั้นเสี่ยวไอทำให้มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง … ฮ่าๆ ( ⃔ * ` ꒳ *)]

ลู่โจวมองดูบอทตัวนี้ที่ไม่สำนึกผิดนี้และอดไม่ได้ที่จะดุว่า “กล้ามากเลยนะ!”

เสี่ยวไอ [QAQ]

ลู่โจว “ระบบภาพหลอนยังไม่เสถียร มันยังมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับระบบเสมือนจริงของส่วนต่อประสานประสาทเสมือน รู้ไหมว่าผลที่ตามมานี้จะเกิดแบบนี้น่ะ!”

เขาได้ยินเสียงโทรศัพท์ของศาสตราจารย์ลูเมียร์ขณะที่เขากำลังค้นคว้าวิชาคณิตศาสตร์อยู่ หลังจากที่เขาได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้เขาก็โกรธเกินกว่าจะค้นคว้าต่อไปได้อีก

เสี่ยวไอ [เจ้านาย เสี่ยวไอผิดไปแล้วอย่าโกรธนะ]

ลู่โจวมองไปที่เสี่ยวไอและให้อภัย

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะถอนหายใจและพูดว่า “ฉันให้สิทธิ์เข้าถึงระบบเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง ไม่ใช่เพื่อให้ทรมานผู้เล่น… อย่าทำแบบนี้อีก”

เสี่ยวไอ [โอเค เสี่ยวไอจะไม่ทำอีกแล้ว]

ลู่โจว “ดีมาก ฉันจะจัดการเรื่องนี้ ออกไปได้แล้ว”

เสี่ยวไอ [มาสเตอร์แถบประสบการณ์ของเสี่ยวไอเพิ่มขึ้น]

ลู่โจวหยุดชั่วครู่และขมวดคิ้ว

“เพิ่มขึ้น? ”

เสี่ยวไอ [ใช่ เพิ่มขึ้นมาก มากกว่าตอนที่เสี่ยวไอท่องอินเทอร์เน็ตอีก]

แม้ว่าลู่โจวจะรู้ว่าเสี่ยวไอไม่โกหกเขา แต่เขาก็ยังไม่เชื่อเรื่องนี้อยู่ดี เขาหลับตาลงและเข้าไปในพื้นที่ระบบทันที

เขาเดินไปข้างหน้าแผงโฮโลแกรมและคลิกที่สาขาเทคโนโลยี เขาเห็นแถบความคืบหน้าสีส้มปัญญาประดิษฐ์และเขาดูประหลาดใจ

มันเพิ่มขึ้นมาจริงด้วยๆ

แม้ว่ามันจะเพิ่มขึ้นนิดเดียว แต่ความเร็วของการเพิ่มขึ้นนั้นก็เร็วกว่ามากสาขาเทคโนโลยีอื่นๆ

ลู่โจวออกจากพื้นที่ระบบและมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขา เขาคิดสักครู่แล้วพูดว่า “นี่เสี่ยวไอ”

เสี่ยวไอ [ฮะ?]

ลู่โจว “จำได้ไหมว่าแถบประสบการณ์เริ่มเพิ่มขึ้นตอนไหน?”

เสี่ยวไอ [ตอนเวลาหกชั่วโมง นาทีที่เจ็ดของการทดลอง นั่นคือช่วงที่แถบทดสอบเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นครั้งแรก (1 • ᄇ • ) و ✧ ]

กราฟที่มีเส้นโค้งถูกนำเสนอตรงหน้าลู่โจว

ลู่โจวมองดูกราฟและคิด ทันใดนั้นเขาก็จำบางอย่างขึ้นมาได้และพูดทันทีว่า “พล็อตกราฟให้ฉันด้วยจำนวนผู้เล่นที่เหลืออยู่เมื่อเวลาผ่านไปให้ที”

เสี่ยวไอ [!จัดปายย มาสเตอร์ (1 • ᄇ • ) و ✧ ]

ไม่นานหลังจากนั้นก็มีกราฟอีกอันปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

ลู่โจวมองดูกราฟทั้งสองและครุ่นคิดอย่างจริงจัง

หากพิจารณาจากข้อมูลแล้ว เมื่อจำนวนผู้เล่นเหลือเกินห้าคน แทบไม่มีความเกี่ยวข้องกับประสบการณ์สะสมและจำนวนผู้เล่นที่เหลืออยู่เลย

แต่เมื่อจำนวนผู้เล่นน้อยกว่าห้าคนเมื่อไหร่ ความสัมพันธ์แบบผกผันก็มีมากระหว่างจำนวนผู้เล่นและค่าประสบการณ์ที่ได้รับ

ในอีกด้านเมื่อทุกคนเดินไปรอบๆ หน้าเครื่องบินอย่างไร้จุดหมายก็ได้รับค่าประสบการณ์แค่นิดเดียว แต่เมื่อเสี่ยวไอปล่อยซอมบี้ออกมา ซึ่งทำให้ผู้เล่นตื่นตระหนก หนี และต่อสู้กลับ อัตราการได้รับคะแนนประสบการณ์ก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ

หรือว่าบางที…

จู่ๆ ลู่โจวก็มีความคิดขึ้นมาในใจ เขาเข้าสู่ระบบแบ็กเอนด์ของเซิร์ฟเวอร์และดึงข้อมูลคลื่นสมองที่รวบรวมโดยตัวแยกสัญญาณประสาททันที จากนั้นเขาก็พล็อตข้อมูลคลื่นสมองลงบนกราฟคะแนนประสบการณ์

ทันใดนั้นทุกอย่างก็ชัดเจน

ลู่โจวมองดูกราฟและพูดด้วยแววตาที่เป็นประกาย

“…ฉันเข้าใจแล้ว ความเข้มข้นทางอารมณ์ที่ยิ่งสูงก็ยิ่งให้ข้อมูลมากขึ้น มันทำให้ปัญญาประดิษฐ์เรียนรู้พฤติกรรมของมนุษย์ได้เร็วยิ่งขึ้นมากๆ”

เสี่ยวไอ [มาสเตอร์? 0.0]

“ ไม่มีอะไร” ลู่โจวหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บางทีฉันอาจจะว่ารุนแรงเกินไป”

เสี่ยวไอ [ไม่เป็นไร เจ้านายหล่อมากตอนโกรธ (///ω///)]

ลู่โจวเมินคำพูดนั้นและพูดว่า “แต่อย่างที่ฉันพูดไป ห้ามดัดแปลงกระบวนการทดลองโดยไม่ได้รับอนุญาต!”

เสี่ยวไอ [เจ้านายยังโกรธอยู่เหรอ?]

“ ไม่ ฉันแค่กำลังจะบอกว่า…” ลู่โจวหยุดชั่วครู่และพูดต่อ “ครั้งหน้า ฉันจะให้กลุ่มผู้ทดลองเฉพาะสำหรับการทดลองทางสังคมวิทยาเพื่อให้ได้คะแนนการทดสอบสำหรับการอัปเกรดมา แต่การทดลองทั้งหมดต้องดำเนินการโดยฉันก่อนที่จะนำไปใช้จริงเท่านั้น”

เสี่ยวไอ [จริงเหรอ? เจ้านายคือที่สุด! u003c3 ให้เสี่ยวไอจูบหน่อยนะ!]

ลู่โจวมองดูโดรนที่บินอยู่เหนือ พยายาม ‘จูบ’ กับเขา ลู่โจวคว้าโดรนแล้วกระแทกลงบนโต๊ะ

อีโมจิที่น่าเศร้าปรากฏบนหน้าจอโดรนทันที ลู่โจวเมินเสี่ยวไอและเริ่มคิดอีกครั้ง

ฉันไม่คิดว่าเทคโนโลยีการจำลองภาพเสมือนจริงจะสามารถนำมาใช้เพื่ออัปเกรดเสี่ยวไอได้

ไม่ต้องพูดถึงวิธีการนี้ที่ง่ายอย่างน่าประหลาดใจขนาดนี้ เราแค่ต้องการทีมผู้เล่นที่จะอยู่ในโลกเสมือนจริงทั้งวันและปล่อยให้เสี่ยวไอได้ทดลองกับพวกเขาก็เท่านั้น

นี่คือเรื่องที่ง่ายมากๆ สำหรับลู่โจว เขาสามารถหาผู้เล่นที่มีหน้าตาดีได้อย่างง่ายดาย แถมยังเสนอสัญญาและเงินเดือนให้พวกเขาได้อีกด้วย เขามั่นใจว่าจะต้องมีคนสนใจอย่างแน่นอน

มีอย่างน้อยหนึ่งคนที่เขารู้จักที่จะลงทะเบียนอย่างมีความสุข แม้จะไม่มีเงินเดือนก็ตาม

ฉันจะเรียกทีมทดลองใหม่นี้ว่าอะไรดี…

ลู่โจวมีใบหน้าที่ชั่วร้าย

เราจะเรียกพวกเขาว่า ‘ทีมเกิดใหม่’

…………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+