Scholar’s Advanced Technological System 1243 แคสติ้งภาพยนตร์สารคดี

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1243 แคสติ้งภาพยนตร์สารคดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยูเอวีโลจิสติกส์เป็นเพียงหนึ่งในหลายสิ่งที่สตาร์โวยาจวันทำได้เท่านั้น

คอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถทำได้อีกหลายอย่าง

เนื่องจากซุนเฟิงทำการโปรโมตโดรนขนส่งสินค้าจึงทำให้บริษัทส่งอาหารของประเทศจีนที่มีชื่อเสียงสองบริษัทสนใจร่วมมือกับซุนเฟิงด้วย

แต่ลู่โจวก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น

สตาร์สกายเทคโนโลยีมีแผนกที่รับผิดชอบเรื่องการตกลงร่วมมือและเขียนสัญญาธุรกิจโดยเฉพาะ ตัวลู่โจวเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับข้อตกลงร่วมมือกับซุนเฟิงอย่างเป็นพิเศษเหมือนกัน

ในฐานะนักวิชาการแล้ว เขาชอบที่จะใช้เวลาอยู่ในห้องแล็บมากกว่า

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ฤดูร้อนผ่านไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว

โครงการนำร่องของเครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะในเซินเจิ้นนับว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จ ซุนเฟิงประสบความสำเร็จในการเจรจากับเมืองใหญ่อื่นๆ อย่างเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง เพื่อให้พวกเขาอนุญาตการใช้โดรนส่งของรุ่นนำร่องใหม่ๆ สตาร์โวยาจวันยังขยายบริการคลาวด์คอมพิวติงในด้านเครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะไปให้เมืองใหญ่เหล่านี้ด้วย

วิธีการขนส่งพิเศษในรูปแบบนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและยังช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในเมืองใหญ่ ตราบใดที่ยังไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เมืองส่วนใหญ่ก็จะพอใจกับวิธีส่งของแบบนี้

ในขณะที่เครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะมุ่งหน้ารวมเป็นส่วนหนึ่งกับเมืองใหญ่ของจีนแล้ว วันชาติของประเทศก็ใกล้เข้ามาทุกทีๆ การเตรียมตัวโชว์ฉลองเริ่มค่อยๆ ตึงเครียดขึ้นทีละนิด

โชคดีที่ทีมผู้ผลิตไม่ได้เจอปัญหาอะไร

ด้วยความช่วยเหลือจากโลกเสมือน ทำให้ผู้กำกับหลิวทำงานเร็วเหมือนติดจรวด เขาวางแผนฉากต่อฉากเลย

เมื่อถึงต้นเดือนกันยายนทั้งทีมก็ทำภาพยนตร์ฉบับไฟนอลสำเร็จและส่งตัวเวอร์ชันแรกให้สำนักงานกระทรวงความบันเทิงได้ดู ในช่วงเดือนหน้าพวกเขาจะปรับรายละเอียดของภาพยนตร์ตามความเห็นของสำนักงานกระทรวงความบันเทิงและไอเดียใหม่ๆ จากผู้กำกับ

เพราะวันหยุดวันนี้คือการเฉลิมฉลองวันเกิดของแผ่นดินแม่ของพวกเขา ทั้งประเทศจะได้ชมโชว์ในวันอันยิ่งใหญ่นี้จึงไม่มีใครกล้าทำอะไรผิดพลาด

ผู้กำกับหลิวมอบคำสั่งเข้มงวดให้กับทีมงานของเขาและขอให้พวกเขาเช็กทุกสิ่งทุกอย่างซ้ำอีกรอบเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความผิดพลาดแม้แต่พิกเซลเดียว!

ลู่โจวพอใจมากเมื่อเห็นว่าผู้กำกับคนนี้จริงจังกับงานแค่ไหน

ตอนแรกเขาก็กังวลนิดหน่อยว่าการนำเสนอระบบโฮโลแกรมของสตาร์สกายเทคโนโลยีในงานใหญ่อย่างนี้จะดูเป็นการทะเยอทะยานไปเกินเหตุหรือเปล่า

เพราะไม่มีใครเคยมีประสบการณ์การใช้เทคโนโลยีนี้มาก่อนและโชว์นี้จะมีคนดูจากทั่วทุกมุมโลก ถ้ามีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นแล้วล่ะก็ทั้งสำนักงานกระทรวงความบันเทิงและเทคโนโลยีโฮโลแกรมจะต้องรับความผิดไปเต็มๆ

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเรื่องที่เขากังวลจะเป็นการคิดมากไปเอง

ถ้าแม้แต่ผู้กำกับหลิวยังไม่สามารถฉายภาพเทคโนโลยีนี้ให้ออกมาน่ามหัศจรรย์จนต้องร้องว้าวได้แล้วล่ะก็ บางทีเทคโนโลยีนี้อาจจะไม่ได้ดีเลิศอย่างที่เขาเคยคิดไว้

ในอีกฝั่งหนึ่งระหว่างที่โชว์ฉลองกำลังอยู่ในระยะสุดท้าย การแคสติ้งภาพยนตร์สารคดีของผู้กำกับหลิวก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

เขายังอยู่ในเมืองปักกิ่งและกำลังทำงานโชว์ฉลองวันชาติอยู่ ดังนั้นเขาจึงส่งผู้ช่วยที่มีความสามารถมากที่สุดของเขาไปที่จินหลิงเพื่อเซ็ตอัปสตูดิโอชั่วคราวในบริเวณมุมหนึ่งของมหาวิทยาลัยจินหลิง สตูดิโอนี้มีไว้เพื่อเป็นสถานที่ออดิชันให้กับผู้มาแคสต์บทในภาพยนตร์สารคดี

ความเปลี่ยนแปลงนี้ดึงดูดความสนใจจากคนหลายคนมาก แม้กระทั่งผู้ช่วยและลูกศิษย์หลายคนของลู่โจวก็ลองมาแคสติ้งด้วยเหมือนกัน ลู่โจวยังได้ยินว่าขนาดหานเมิ่งฉีที่บังเอิญมาเจอก็ลองไปแคสติ้งขำๆ ด้วยเหมือนกัน ซึ่งก็แน่นอนว่าเธออยากรับบทเป็นตัวเองอยู่แล้ว

ลู่โจวและคนอื่นๆ ก็คิดว่าเธอจะได้รับเลือกแน่นอน แต่กลายเป็นว่า เธอเดินออกมาจากสตูดิโอออดิชันด้วยใบหน้าผิดหวัง

ด้วยความสงสัยลู่โจวจึงถามทีมแคสติ้งว่าทำไมถึงไม่เลือกเธอ เขาได้รับคำตอบว่าสาเหตุที่เธอไม่ได้รับเลือกเป็นเพราะอายุของเธอนั่นเอง

เพราะบทของเด็กสาวหัวขบถในภาพยนตร์สารคดีควรจะเป็นบทของเด็กสาวอายุสิบหกปีเท่านั้น

หานเมิ่งฉีได้สูญเสียบุคลิกความเป็นเด็กและไร้เดียงสาของเธอไปหมดแล้ว เธอได้เติบโตเป็นหญิงสาวร่างสูงผู้งดงาม ดวงตาของเธอเปี่ยมไปด้วยความรอบรู้และปัญญา เธอแตกต่างจากตัวตนเธอในวัยเด็กอย่างสิ้นเชิง

ในทางกลับกันหลินอวี่เซียงไม่ได้เปลี่ยนไปเลยในช่วงเวลาที่ผ่านมา เธอได้รับบทผู้ร่วมทีมแข่งขันแบบจำลองทางคณิตศาสตร์มาอย่างง่ายดาย

“เอ่อ…”

เมื่อเห็นว่าผู้ช่วยผู้กำกับมีท่าทางลังเลไม่กล้าพูด ลู่โจวจึงมองเขาด้วยท่าทางแปลกๆ

“มีอะไรเหรอครับ? ”

“ถ้าคุณยังอยากจะแคสต์คุณหานมาเข้าบทแล้วล่ะก็ ผม…แก้ไขสคริปต์ได้นะครับ บางทีพวกเราอาจจะ…”

“ไม่จำเป็นหรอกครับ” ลู่โจวรีบหยุดอีกฝ่ายแล้วพูดขึ้นมาว่า “พวกเราต้องเล่าเรื่องให้เป็นไปตามที่เกิดขึ้นจริงสิครับ! ”

ผู้ช่วยผู้กำกับไม่รู้จะพูดอะไรดี

ถ้าที่พวกเราต้องทำมีแค่เลียนแบบเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นแล้วล่ะก็ พวกเราก็ไม่ต้องห่วงเรื่องแคสติ้งมากขนาดนี้แล้วสิ!

สำนักงานกระทรวงความบันเทิงขอความร่วมมือมาว่าให้นักแสดงที่รับบทเป็นลู่โจวมีลักษณะเป็นฮีโร่ที่สง่างามและแข็งแกร่ง กระทรวงศึกษาธิการขอความร่วมมือให้นักแสดงของลู่โจวสะท้อนภาพความเฉลียวฉลาดในด้านวิทยาศาสตร์เพื่อดึงดูดให้คนหนุ่มสาวศึกษาเรื่องวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมมากขึ้น

ส่วนคำขอที่ทำง่ายที่สุดกลับเป็นของลู่โจว เพราะสิ่งที่ลู่โจวสนก็คือแค่ให้นักแสดงที่รับบทเป็นเขาหน้าตาดีก็พอแล้ว

ดังนั้นในตอนนี้พวกเขาจึงต้องหาคนที่สามารถเข้ากับทุกลักษณะที่มีคนขอมาให้ได้…

ลู่โจวไม่ได้สังเกตเห็นความกังวลของผู้ช่วยผู้กำกับ เขากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่

มันก็ดูตลกจริงๆ นั่นแหละ ที่จะเอาคนอายุ 26 ไปเล่นบทคนอายุ 16 ปี แต่เขาก็ยังรู้สึกแย่แทนลูกศิษย์สาวของเขาอยู่ดี

เพราะเธอก็ทำงานหนักมากในวงการวิชาการมาตลอด เธอทำแม้กระทั่งช่วยเขาทำงานเคมีเชิงคำนวณให้สำเร็จลุล่วง และตัวเธอเองก็สอนคลาสวัสดุเชิงคำนวณด้วย

เธอช่วยเขามาพอสมควรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สิ่งที่เขาต้องทำก็มีแค่ขยับนิ้วนิดหน่อย แล้วเธอก็จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้แล้ว

ลู่โจวลังเลนิดหน่อยก่อนจะพูดกับผู้ช่วยผู้กำกับว่า

“…ถ้าไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะก็ บางทีอาจจะลองแคสต์เธอเป็นพวกตัวประกอบโดยที่ไม่ต้องปรับบทก็ได้นะครับ”

ผู้ช่วยผู้กำกับรีบพูดขึ้นมา “ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้นะครับ! เดี๋ยวผมจะให้ผู้ช่วยผมติดต่อไปหาคุณหานแล้วก็จะหาบทให้เธอเอง”

ลู่โจวรู้สึกว่าผู้ช่วยผู้กำกับกำลังกระตือรือร้นมากๆ เขาจึงรีบพูดเสริมไปว่า

“ไม่ต้องเป็นบทตัวละครหลักก็ได้นะครับ แค่ให้เธอได้มีบทพูดสักสองสามประโยคก็พอ เพราะอย่างไรเธอก็ยังมีงานวิจัยให้ทำอยู่”

“ไม่ต้องห่วงครับ ผมเข้าใจดี!”

ลู่โจว “…”

ก็หวังว่าจะเป็นอย่างงั้นนะ

การแคสติ้งตัวละครหลักเพิ่งจะเริ่ม

จะเป็นนักแสดงหรือนักร้องก็ตาม ทุกคนก็อยากจะรับบทลู่โจว บทอันเปี่ยมไปด้วยเกียรติยศนี้กันทั้งนั้น

ภาพยนตร์สารคดีที่มีทั้งอิมแพกต์และการโปรโมตอย่างมหาศาลเรื่องนี้จะเป็นโอกาสทองของพวกเขา

ปกติแล้วนักร้องและนายแบบจะไม่ถูกแคสต์มาเข้าบทแบบนี้ ทีมอำนวยการผลิตมักจะเลือกนักแสดงที่มีประสบการณ์มากกว่า

แต่ลู่โจวเอ่ยปากขออย่างชัดเจนว่า เขาขอนักแสดงที่หน้าตาดีมารับบทเป็นตัวเขา ดังนั้นหลังจากที่คำร้องขอกับการแคสติ้งบทนี้แพร่กระจายออกไปในวงการจึงมีบริษัทจัดการศิลปินจำนวนมากติดต่อมาแคสติ้งบท

ดาราหลายคนก็มาที่สตูดิโอแคสติ้งในมหาวิทยาลัยจินหลิง

แม้กระทั่งดาราระดับเล็กที่ไม่ได้ดังมากก็ยังมาลองแคสต์ เผื่อว่าพวกเขาจะโชคดีบ้าง

ด้วยเหตุนี้นักศึกษามหาวิทยาลัยจินหลิงจึงได้เห็นดาราแบบทุกรูปแบบที่มหาวิทยาลัยของพวกเขาทุกวัน

พวกเขาจะไปขอลายเซ็นแล้วก็เดินตามติดดาราพวกนั้นไปทั่ว

“บอกความจริงมานะ นายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแคสติ้งด้วยใช่ไหม?” เฉินยู่ซานพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ลู่โจวกลอกตา

“ฉันก็แค่ให้คำแนะนำบทตัวละครหลักไปเฉยๆ ก็ไม่ใช่ว่าฉันให้พวกเขาแคสต์คนที่ผมอยากคบเป็นแฟนด้วยเสียหน่อย”

เฉินยู่ซานพึมพำ “ใครจะไปรู้ล่ะ บางทีนายอาจจะมีรสนิยมพิเศษแบบนั้นก็ได้?”

ลู่โจวที่กำลังดื่มกาแฟแทบจะพ่นกาแฟออกมาจากปากเมื่อได้ยินคำนั้น

ไอ้ที่เธอว่า ‘รสนิยมพิเศษ’ นี่มันหมายความว่าอะไรวะเนี่ย?

ลู่โจวกระแอมแล้ววางแก้วกาแฟลง เขาเช็ดปากแล้วเปลี่ยนประเด็น

“พรุ่งนี้ฉันจะไปปักกิ่งน่ะ เธอจะมาด้วยไหม?”

“ไปดูพาเหรดทหารเหรอ?”

“เธอรู้ได้ยังไง?”

“ก็นายไปทุกปี”

ลู่โจวยิ้มอายๆ

อ้อ ใช่ เธอพูดถูกแล้ว

ทุกปีเขาจะได้รับบัตรเชิญที่นั่งพิเศษตลอด

“ฉันว่าปีนี้น่าจะไม่ได้ไปนะ ฉันไปมาหลายปีแล้ว อีกอย่างพวกเรากำลังเจรจากับบริษัทส่งอาหารทั้งสองบริษัทด้วย พวกเขาอยากจะร่วมมือในเรื่องการใช้โดรนขนส่งน่ะ”

“เธอน่าจะหาเวลาว่างไปงานวันชาตินะ เพราะมันมีจะมีโชว์พิเศษแสดงด้วย”

“โชว์พิเศษเหรอ?” เฉินยู่ซานมองเขาด้วยท่าทางสงสัยแล้วถามต่อ “นอกจากเรื่องภาพฉายโฮโลแกรมแล้ว มีอะไรพิเศษอีกล่ะ? ”

“ภาพฉายโฮโลแกรมมันก็เรื่องหนึ่งนะ แต่นี่เรากำลังพูดถึงพาเหรดทหารนะ” ลู่โจวยิ้มแล้วบอกเธอว่า “ฉันจะไม่สปอยล์อะไรก็แล้วกัน มากับฉันแล้วเดี๋ยวก็รู้”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Scholar’s Advanced Technological System 1243 แคสติ้งภาพยนตร์สารคดี

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1243 แคสติ้งภาพยนตร์สารคดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยูเอวีโลจิสติกส์เป็นเพียงหนึ่งในหลายสิ่งที่สตาร์โวยาจวันทำได้เท่านั้น

คอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถทำได้อีกหลายอย่าง

เนื่องจากซุนเฟิงทำการโปรโมตโดรนขนส่งสินค้าจึงทำให้บริษัทส่งอาหารของประเทศจีนที่มีชื่อเสียงสองบริษัทสนใจร่วมมือกับซุนเฟิงด้วย

แต่ลู่โจวก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น

สตาร์สกายเทคโนโลยีมีแผนกที่รับผิดชอบเรื่องการตกลงร่วมมือและเขียนสัญญาธุรกิจโดยเฉพาะ ตัวลู่โจวเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับข้อตกลงร่วมมือกับซุนเฟิงอย่างเป็นพิเศษเหมือนกัน

ในฐานะนักวิชาการแล้ว เขาชอบที่จะใช้เวลาอยู่ในห้องแล็บมากกว่า

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ฤดูร้อนผ่านไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว

โครงการนำร่องของเครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะในเซินเจิ้นนับว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จ ซุนเฟิงประสบความสำเร็จในการเจรจากับเมืองใหญ่อื่นๆ อย่างเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง เพื่อให้พวกเขาอนุญาตการใช้โดรนส่งของรุ่นนำร่องใหม่ๆ สตาร์โวยาจวันยังขยายบริการคลาวด์คอมพิวติงในด้านเครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะไปให้เมืองใหญ่เหล่านี้ด้วย

วิธีการขนส่งพิเศษในรูปแบบนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและยังช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในเมืองใหญ่ ตราบใดที่ยังไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เมืองส่วนใหญ่ก็จะพอใจกับวิธีส่งของแบบนี้

ในขณะที่เครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะมุ่งหน้ารวมเป็นส่วนหนึ่งกับเมืองใหญ่ของจีนแล้ว วันชาติของประเทศก็ใกล้เข้ามาทุกทีๆ การเตรียมตัวโชว์ฉลองเริ่มค่อยๆ ตึงเครียดขึ้นทีละนิด

โชคดีที่ทีมผู้ผลิตไม่ได้เจอปัญหาอะไร

ด้วยความช่วยเหลือจากโลกเสมือน ทำให้ผู้กำกับหลิวทำงานเร็วเหมือนติดจรวด เขาวางแผนฉากต่อฉากเลย

เมื่อถึงต้นเดือนกันยายนทั้งทีมก็ทำภาพยนตร์ฉบับไฟนอลสำเร็จและส่งตัวเวอร์ชันแรกให้สำนักงานกระทรวงความบันเทิงได้ดู ในช่วงเดือนหน้าพวกเขาจะปรับรายละเอียดของภาพยนตร์ตามความเห็นของสำนักงานกระทรวงความบันเทิงและไอเดียใหม่ๆ จากผู้กำกับ

เพราะวันหยุดวันนี้คือการเฉลิมฉลองวันเกิดของแผ่นดินแม่ของพวกเขา ทั้งประเทศจะได้ชมโชว์ในวันอันยิ่งใหญ่นี้จึงไม่มีใครกล้าทำอะไรผิดพลาด

ผู้กำกับหลิวมอบคำสั่งเข้มงวดให้กับทีมงานของเขาและขอให้พวกเขาเช็กทุกสิ่งทุกอย่างซ้ำอีกรอบเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความผิดพลาดแม้แต่พิกเซลเดียว!

ลู่โจวพอใจมากเมื่อเห็นว่าผู้กำกับคนนี้จริงจังกับงานแค่ไหน

ตอนแรกเขาก็กังวลนิดหน่อยว่าการนำเสนอระบบโฮโลแกรมของสตาร์สกายเทคโนโลยีในงานใหญ่อย่างนี้จะดูเป็นการทะเยอทะยานไปเกินเหตุหรือเปล่า

เพราะไม่มีใครเคยมีประสบการณ์การใช้เทคโนโลยีนี้มาก่อนและโชว์นี้จะมีคนดูจากทั่วทุกมุมโลก ถ้ามีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นแล้วล่ะก็ทั้งสำนักงานกระทรวงความบันเทิงและเทคโนโลยีโฮโลแกรมจะต้องรับความผิดไปเต็มๆ

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเรื่องที่เขากังวลจะเป็นการคิดมากไปเอง

ถ้าแม้แต่ผู้กำกับหลิวยังไม่สามารถฉายภาพเทคโนโลยีนี้ให้ออกมาน่ามหัศจรรย์จนต้องร้องว้าวได้แล้วล่ะก็ บางทีเทคโนโลยีนี้อาจจะไม่ได้ดีเลิศอย่างที่เขาเคยคิดไว้

ในอีกฝั่งหนึ่งระหว่างที่โชว์ฉลองกำลังอยู่ในระยะสุดท้าย การแคสติ้งภาพยนตร์สารคดีของผู้กำกับหลิวก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

เขายังอยู่ในเมืองปักกิ่งและกำลังทำงานโชว์ฉลองวันชาติอยู่ ดังนั้นเขาจึงส่งผู้ช่วยที่มีความสามารถมากที่สุดของเขาไปที่จินหลิงเพื่อเซ็ตอัปสตูดิโอชั่วคราวในบริเวณมุมหนึ่งของมหาวิทยาลัยจินหลิง สตูดิโอนี้มีไว้เพื่อเป็นสถานที่ออดิชันให้กับผู้มาแคสต์บทในภาพยนตร์สารคดี

ความเปลี่ยนแปลงนี้ดึงดูดความสนใจจากคนหลายคนมาก แม้กระทั่งผู้ช่วยและลูกศิษย์หลายคนของลู่โจวก็ลองมาแคสติ้งด้วยเหมือนกัน ลู่โจวยังได้ยินว่าขนาดหานเมิ่งฉีที่บังเอิญมาเจอก็ลองไปแคสติ้งขำๆ ด้วยเหมือนกัน ซึ่งก็แน่นอนว่าเธออยากรับบทเป็นตัวเองอยู่แล้ว

ลู่โจวและคนอื่นๆ ก็คิดว่าเธอจะได้รับเลือกแน่นอน แต่กลายเป็นว่า เธอเดินออกมาจากสตูดิโอออดิชันด้วยใบหน้าผิดหวัง

ด้วยความสงสัยลู่โจวจึงถามทีมแคสติ้งว่าทำไมถึงไม่เลือกเธอ เขาได้รับคำตอบว่าสาเหตุที่เธอไม่ได้รับเลือกเป็นเพราะอายุของเธอนั่นเอง

เพราะบทของเด็กสาวหัวขบถในภาพยนตร์สารคดีควรจะเป็นบทของเด็กสาวอายุสิบหกปีเท่านั้น

หานเมิ่งฉีได้สูญเสียบุคลิกความเป็นเด็กและไร้เดียงสาของเธอไปหมดแล้ว เธอได้เติบโตเป็นหญิงสาวร่างสูงผู้งดงาม ดวงตาของเธอเปี่ยมไปด้วยความรอบรู้และปัญญา เธอแตกต่างจากตัวตนเธอในวัยเด็กอย่างสิ้นเชิง

ในทางกลับกันหลินอวี่เซียงไม่ได้เปลี่ยนไปเลยในช่วงเวลาที่ผ่านมา เธอได้รับบทผู้ร่วมทีมแข่งขันแบบจำลองทางคณิตศาสตร์มาอย่างง่ายดาย

“เอ่อ…”

เมื่อเห็นว่าผู้ช่วยผู้กำกับมีท่าทางลังเลไม่กล้าพูด ลู่โจวจึงมองเขาด้วยท่าทางแปลกๆ

“มีอะไรเหรอครับ? ”

“ถ้าคุณยังอยากจะแคสต์คุณหานมาเข้าบทแล้วล่ะก็ ผม…แก้ไขสคริปต์ได้นะครับ บางทีพวกเราอาจจะ…”

“ไม่จำเป็นหรอกครับ” ลู่โจวรีบหยุดอีกฝ่ายแล้วพูดขึ้นมาว่า “พวกเราต้องเล่าเรื่องให้เป็นไปตามที่เกิดขึ้นจริงสิครับ! ”

ผู้ช่วยผู้กำกับไม่รู้จะพูดอะไรดี

ถ้าที่พวกเราต้องทำมีแค่เลียนแบบเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นแล้วล่ะก็ พวกเราก็ไม่ต้องห่วงเรื่องแคสติ้งมากขนาดนี้แล้วสิ!

สำนักงานกระทรวงความบันเทิงขอความร่วมมือมาว่าให้นักแสดงที่รับบทเป็นลู่โจวมีลักษณะเป็นฮีโร่ที่สง่างามและแข็งแกร่ง กระทรวงศึกษาธิการขอความร่วมมือให้นักแสดงของลู่โจวสะท้อนภาพความเฉลียวฉลาดในด้านวิทยาศาสตร์เพื่อดึงดูดให้คนหนุ่มสาวศึกษาเรื่องวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมมากขึ้น

ส่วนคำขอที่ทำง่ายที่สุดกลับเป็นของลู่โจว เพราะสิ่งที่ลู่โจวสนก็คือแค่ให้นักแสดงที่รับบทเป็นเขาหน้าตาดีก็พอแล้ว

ดังนั้นในตอนนี้พวกเขาจึงต้องหาคนที่สามารถเข้ากับทุกลักษณะที่มีคนขอมาให้ได้…

ลู่โจวไม่ได้สังเกตเห็นความกังวลของผู้ช่วยผู้กำกับ เขากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่

มันก็ดูตลกจริงๆ นั่นแหละ ที่จะเอาคนอายุ 26 ไปเล่นบทคนอายุ 16 ปี แต่เขาก็ยังรู้สึกแย่แทนลูกศิษย์สาวของเขาอยู่ดี

เพราะเธอก็ทำงานหนักมากในวงการวิชาการมาตลอด เธอทำแม้กระทั่งช่วยเขาทำงานเคมีเชิงคำนวณให้สำเร็จลุล่วง และตัวเธอเองก็สอนคลาสวัสดุเชิงคำนวณด้วย

เธอช่วยเขามาพอสมควรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สิ่งที่เขาต้องทำก็มีแค่ขยับนิ้วนิดหน่อย แล้วเธอก็จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้แล้ว

ลู่โจวลังเลนิดหน่อยก่อนจะพูดกับผู้ช่วยผู้กำกับว่า

“…ถ้าไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะก็ บางทีอาจจะลองแคสต์เธอเป็นพวกตัวประกอบโดยที่ไม่ต้องปรับบทก็ได้นะครับ”

ผู้ช่วยผู้กำกับรีบพูดขึ้นมา “ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้นะครับ! เดี๋ยวผมจะให้ผู้ช่วยผมติดต่อไปหาคุณหานแล้วก็จะหาบทให้เธอเอง”

ลู่โจวรู้สึกว่าผู้ช่วยผู้กำกับกำลังกระตือรือร้นมากๆ เขาจึงรีบพูดเสริมไปว่า

“ไม่ต้องเป็นบทตัวละครหลักก็ได้นะครับ แค่ให้เธอได้มีบทพูดสักสองสามประโยคก็พอ เพราะอย่างไรเธอก็ยังมีงานวิจัยให้ทำอยู่”

“ไม่ต้องห่วงครับ ผมเข้าใจดี!”

ลู่โจว “…”

ก็หวังว่าจะเป็นอย่างงั้นนะ

การแคสติ้งตัวละครหลักเพิ่งจะเริ่ม

จะเป็นนักแสดงหรือนักร้องก็ตาม ทุกคนก็อยากจะรับบทลู่โจว บทอันเปี่ยมไปด้วยเกียรติยศนี้กันทั้งนั้น

ภาพยนตร์สารคดีที่มีทั้งอิมแพกต์และการโปรโมตอย่างมหาศาลเรื่องนี้จะเป็นโอกาสทองของพวกเขา

ปกติแล้วนักร้องและนายแบบจะไม่ถูกแคสต์มาเข้าบทแบบนี้ ทีมอำนวยการผลิตมักจะเลือกนักแสดงที่มีประสบการณ์มากกว่า

แต่ลู่โจวเอ่ยปากขออย่างชัดเจนว่า เขาขอนักแสดงที่หน้าตาดีมารับบทเป็นตัวเขา ดังนั้นหลังจากที่คำร้องขอกับการแคสติ้งบทนี้แพร่กระจายออกไปในวงการจึงมีบริษัทจัดการศิลปินจำนวนมากติดต่อมาแคสติ้งบท

ดาราหลายคนก็มาที่สตูดิโอแคสติ้งในมหาวิทยาลัยจินหลิง

แม้กระทั่งดาราระดับเล็กที่ไม่ได้ดังมากก็ยังมาลองแคสต์ เผื่อว่าพวกเขาจะโชคดีบ้าง

ด้วยเหตุนี้นักศึกษามหาวิทยาลัยจินหลิงจึงได้เห็นดาราแบบทุกรูปแบบที่มหาวิทยาลัยของพวกเขาทุกวัน

พวกเขาจะไปขอลายเซ็นแล้วก็เดินตามติดดาราพวกนั้นไปทั่ว

“บอกความจริงมานะ นายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแคสติ้งด้วยใช่ไหม?” เฉินยู่ซานพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ลู่โจวกลอกตา

“ฉันก็แค่ให้คำแนะนำบทตัวละครหลักไปเฉยๆ ก็ไม่ใช่ว่าฉันให้พวกเขาแคสต์คนที่ผมอยากคบเป็นแฟนด้วยเสียหน่อย”

เฉินยู่ซานพึมพำ “ใครจะไปรู้ล่ะ บางทีนายอาจจะมีรสนิยมพิเศษแบบนั้นก็ได้?”

ลู่โจวที่กำลังดื่มกาแฟแทบจะพ่นกาแฟออกมาจากปากเมื่อได้ยินคำนั้น

ไอ้ที่เธอว่า ‘รสนิยมพิเศษ’ นี่มันหมายความว่าอะไรวะเนี่ย?

ลู่โจวกระแอมแล้ววางแก้วกาแฟลง เขาเช็ดปากแล้วเปลี่ยนประเด็น

“พรุ่งนี้ฉันจะไปปักกิ่งน่ะ เธอจะมาด้วยไหม?”

“ไปดูพาเหรดทหารเหรอ?”

“เธอรู้ได้ยังไง?”

“ก็นายไปทุกปี”

ลู่โจวยิ้มอายๆ

อ้อ ใช่ เธอพูดถูกแล้ว

ทุกปีเขาจะได้รับบัตรเชิญที่นั่งพิเศษตลอด

“ฉันว่าปีนี้น่าจะไม่ได้ไปนะ ฉันไปมาหลายปีแล้ว อีกอย่างพวกเรากำลังเจรจากับบริษัทส่งอาหารทั้งสองบริษัทด้วย พวกเขาอยากจะร่วมมือในเรื่องการใช้โดรนขนส่งน่ะ”

“เธอน่าจะหาเวลาว่างไปงานวันชาตินะ เพราะมันมีจะมีโชว์พิเศษแสดงด้วย”

“โชว์พิเศษเหรอ?” เฉินยู่ซานมองเขาด้วยท่าทางสงสัยแล้วถามต่อ “นอกจากเรื่องภาพฉายโฮโลแกรมแล้ว มีอะไรพิเศษอีกล่ะ? ”

“ภาพฉายโฮโลแกรมมันก็เรื่องหนึ่งนะ แต่นี่เรากำลังพูดถึงพาเหรดทหารนะ” ลู่โจวยิ้มแล้วบอกเธอว่า “ฉันจะไม่สปอยล์อะไรก็แล้วกัน มากับฉันแล้วเดี๋ยวก็รู้”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+