Scholar’s Advanced Technological System 1253 ควบคุมโลกและดวงจันทร์!

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1253 ควบคุมโลกและดวงจันทร์! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ณ ศูนย์บัญชาการการบินและอวกาศภาคพื้นดิน

มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนเรียงรายกัน

ในนั้นมีหัวหน้ากระทรวงป้องกันราชอาณาจักรอย่างผู้อำนวยการหลี่ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการบินและอวกาศของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงอย่างโฮ่วกวง หัวหน้าวิศวกรองค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีนอย่างนักวิชาการหยวนฮวานหมิน และลู่โจว ที่เพิ่งเดินทางจากปักกิ่งมาที่นี่…

และยังมีท่านประธานาธิบดีอีกคนหนึ่ง

ณ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญของวงการการบินและอวกาศ รวมไปถึงอนาคตของประเทศจีนด้วย เพราะสมาชิกระดับสูงของคณะกรรมการวงโคจรดวงจันทร์แทบทุกคนต่างก็มารวมตัวกันอยู่ที่นี่

คนเหล่านั้นต่างมองหน้าจอที่ใหญ่ตั้งแต่เพดานจรดพื้นในห้องควบคุม ในใจพวกเขามีความหวังอยู่เต็มเปี่ยม เหมือนกำลังรอการทำคลอดในโรงพยาบาล

แต่สิ่งที่พวกเขารออยู่ไม่ใช่เด็ก

แต่เป็นบางสิ่งที่พิเศษกว่า

“ถ้าพลาดก็ไม่เป็นไรนะ พวกเรายังลองใหม่ได้อีก”

ลู่โจวส่ายหัวเบาๆ

“พวกเราจะไม่พลาดครับ”

ทั้งประเทศกำลังรอผลลัพธ์ครั้งนี้อยู่ ทั้งโลกกำลังหันมาสนใจ ณ ตรงนี้ที่พวกเขากำลังจะทำ

ลู่โจวพร้อมพนันว่าสื่ออย่าง BBC และ CNN ได้เขียนข่าวสองฉบับรอลงตีพิมพ์ไว้แล้ว ฉบับแรกเป็นเรื่องผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จ ส่วนอีกฉบับก็เป็นเรื่องผลลัพธ์ที่ล้มเหลว

พาดหัวข่าวแบบไหนจะขึ้นหน้าหนึ่งวันพรุ่งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้นี่แหละ

เมื่อท่านประธานาธิบดีได้ยินคำพูดที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจของลู่โจว เขาก็ยิ้มขึ้นมา

“ถ้าพวกเราประสบความสำเร็จก็จะดีกว่า และผมก็จะพูดให้พวกคุณสบายใจว่าการบินและอวกาศเป็นอุตสาหกรรมแบบใหม่มันจะส่งผลดีกับอนาคตของพวกเราแน่นอน พวกเราจะเลือกทางที่ไปช้าๆ และมั่นคงก็ได้ รวมถึงยังสามารถทำผิดพลาดได้บ้างด้วย”

“แต่ถามจริงๆ นะ การจะสร้างเมืองบนดวงจันทร์นี่มันจะทำได้จริงเหรอ?”

พอลู่โจวได้ยินอย่างนี้ เขาก็รู้ทันทีว่าท่านประธานาธิบดีหมายถึงอะไร

เห็นได้ชัดว่าโชว์งานวันฉลองได้ทำให้ท่านประทับใจเต็มๆ

ลู่โจวคิดคำตอบอย่างจริงจังครู่หนึ่ง

ผ่านไปสักพักเขาก็พูดขึ้นว่า

“เพราะมีความต้องการทำให้มันเกิดขึ้นครับ ในมุมมองทางเทคนิคแล้วมันมีปัญหามากมายหลายอย่าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้นะครับ”

อันที่จริงดวงจันทร์ไม่ใช่ดาวที่เหมาะที่สุดสำหรับการสร้างอาณานิคมมนุษย์บนนั้น เนื่องจากมันมีแรงโน้มถ่วงน้อย ความแตกต่างทางด้านอุณหภูมิที่มาก และไม่มีการป้องกันจากชั้นบรรยากาศและสนามแม่เหล็ก แต่อย่างน้อยในตอนนี้มันก็ดูจะเป็นสถานที่ที่มนุษย์มีความหวังว่าจะสามารถสร้างอาณานิคมได้มากที่สุดแล้ว

การมีตัวตนของมันอยู่ก็เหมือนเกาะตือร์ไซราในมหาสมุทรแอตแลนติกนั่นแหละ ถึงแม้เกาะตือร์ไซราจะมีขนาดเล็กและไม่ได้มีทรัพยากรมากนัก แต่มันกลับกลายเป็นสถานที่ที่สำคัญอย่างมากของทวีปยุโรปในช่วงสมัยยุคเรอแนซ็องส์

หลังจากมีการพัฒนาเทคโนโลยีฟิวชั่นที่ควบคุมได้แล้ว อารยธรรมมนุษยชาติก็เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของการพัฒนาทางการบินและอวกาศ พวกเขาได้รับตั๋วที่จะพาไปยังดินแดนอันห่างไกล ถึงแม้อารยธรรมมนุษยชาติจะต้องการไปยังดินแดนที่ห่างไกล พวกเขาก็ยังต้องการกระดานกระโดดอยู่

ซึ่งดวงจันทร์ก็มีศักยภาพพอจะเป็นจุดเริ่มต้น

ดวงจันทร์เป็นเหมือนกับ ‘ดาวท่าเรือ’ โดยธรรมชาติอยู่แล้ว

ถ้าพวกเขาสามารถเอาชนะสภาพแวดล้อมอันยากลำบากบนดวงจันทร์ได้ พวกเขาก็สามารถเดินทางไปในอวกาศได้ไกลมากขึ้น

คำตอบของลู่โจวดูจะทำให้ท่านประธานาธิบดีพึงพอใจ ท่านประธานาธิบดีพูดขณะเอามือไขว้หลังตัวเองว่า

“ผมดีใจที่ได้ยินอย่างนั้นนะ…แล้วนี่จะเริ่มกันตอนไหนเหรอ? ”

ลู่โจวเช็กเวลาบนนาฬิกาข้อมือแล้วตอบคำถาม

“กำลังจะเริ่มแล้วครับ! ”

เข็มสั้นชี้เลขศูนย์

เจ้าหน้าที่ในห้องบัญชาการเริ่มทำงานด้วยท่าทางที่เป็นระเบียบเรียบร้อย

ทุกคนตรวจสอบอุปกรณ์เป็นครั้งสุดท้ายเสร็จอย่างรวดเร็ว หลังจากได้รับข้อมูลมาจากดวงจันทร์ ผู้บัญชาการของศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินก็เริ่มทำตามขั้นตอน ‘บรรจุพัสดุ’

ยานอวกาศบรรจุพัสดุฉบับทดลองบนดวงจันทร์ที่อยู่ห่างออกไปมากกว่า 300,000 กิโลเมตร และมีรูปร่างเหมือนลูกกระสุนนั้น น่าจะถูกเจ้าหน้าที่สถานีวิจัยดวงจันทร์ติดตั้งจนสำเร็จแล้วในตอนนี้

พัสดุทั้งหมดมีน้ำหนัก 6 ตัน มันเต็มไปด้วยหินและดินดวงจันทร์ที่เก็บมาจากดวงจันทร์ พืชอวกาศ เมล็ดพันธุ์ที่เก็บมาจากหน่วยปลูกพืช สารออกฤทธิ์ Dr-111 และตัวอย่างวิจัยทางชีววิทยาอื่นๆ

ถ้าหากพัสดุนี้ถูกส่งกลับมายังโลกด้วยวิธีแบบเดิมล่ะก็ มันจะต้องใช้เงินอย่างน้อย 200,000 หยวนต่อกิโลกรัม

ด้วยการใช้แม่เหล็กตัวนำยวดยิ่งแทนระบบขับดันด้วยสารเคมีทำให้พัสดุสามารถส่งตรงจากพื้นผิวดวงจันทร์ไปที่วงโคจรขนย้ายของดวงจันทร์ได้เลยโดยตรง หลังจากนั้นสะพานนกกางเขนก็จะเคลื่อนที่ไปมาตามวงโคจรเพื่อไปเก็บพัสดุมา ด้วยวิธีนี้ค่าใช้จ่ายของพัสดุต่อกิโลกรัมจะมีค่าน้อยกว่า 2,000 หยวนต่อกิโลกรัม

นี่อาจจะฟังดูไม่น่าเชื่อ

แต่ก็เป็นผลจากวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์จริงๆ

ถ้าโปรเจกต์นี้ประสบความสำเร็จแล้วล่ะก็ พวกเขาจะสามารถนำดิสโพรเซียมและเทอร์เบียมที่มีค่ามากกว่า 1,000 หยวนต่อกิโลกรัม และแร่หายากอย่างสแกนเดียมที่มีค่ามากกว่า 10,000 หยวนต่อกิโลกรัมกลับมาจากดวงจันทร์ได้

ความสำเร็จของโปรเจกต์นี้จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของการบินและอวกาศอย่างไม่ต้องสงสัย

ทุกสิ่งทุกอย่างเตรียมไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผน!

ลำแสงสีเขียวบนหน้าจอขนาดใหญ่กะพริบเป็นครั้งแรก ทุกคนในห้องบัญชาการต่างกำหมัดกันแน่นอย่างไม่ได้นัดหมาย พวกเขากำลังรอเสียงเคานต์ดาวน์

“สิบ”

“เก้า”

“แปด”

“…”

“สาม”

“สอง”

“หนึ่ง”

“ศูนย์”

“ปล่อยได้! ”

เสียงอันทรงพลังและดังกระหึ่มเหมือนกับเสียงยิงปืน

หลังจากนั้นในทันที พื้นผิวดวงจันทร์ที่อยู่ห่างออกไป 300,000 กิโลเมตรก็เริ่มสั่นสะเทือน นักบินอวกาศที่ยืนอยู่ใกล้ๆ วงโคจรปล่อยยานก็สัมผัสได้ว่าพื้นรอบๆ ตัวสั่น

พลังงานไฟฟ้าที่เก็บสะสมมาถูกปล่อยออกในทันที มันรวมตัวเป็นพลาสมาที่ดูเหมือนของแข็งในท่อโลหะผสมไทเทเนียมสุญญากาศ ผลักให้ ‘กระสุน’ เงินไปข้างหน้าด้วยแรงมหาศาล

มันเคลื่อนที่ไปตามทางด้วยความเร็วไม่ถึงหนึ่งนาที!

ทันใดนั้นพัสดุก็ถูกยิงจากพื้นผิวดวงจันทร์ขึ้นฟ้าไปต่อ มันเป็นเหมือนกับลูกกระสุนที่ถูกยิงออกมาจากปากกระบอกปืน มันมุ่งหน้าตรงไปยังท้องฟ้าดาวประกายอันกว้างใหญ่ ทิ้งฝุ่นดวงจันทร์ไว้เบื้องหลัง

กล้องในศูนย์บัญชาการเปลี่ยนไปจับภาพที่ปราสาทจันทรา

กระสุนสีขาวเงินถูกแทนค่าด้วยจุดสีเขียวเรืองแสงบนแผนที่ มันลอยไปในอวกาศ มุ่งหน้าตรงไปที่วงโคจรขนย้ายของดวงจันทร์

งานพวกเขาเสร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว!

แต่ทุกคนในศูนย์บัญชาการก็ยังไม่รู้สึกสบายใจ

ภารกิจปล่อยกระสุนในครึ่งแรกนั้น หลักๆ แล้วจะเป็นหน้าที่ของปราสาทจันทรา ส่วนการชี้นำทิศทางการรวมกัน การลงจอด และการเดินทางกลับจะเป็นหน้าที่ของศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินแต่เพียงฝ่ายเดียว

ศึกนี้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น!

“ระบบควบคุมห้องพัสดุเชื่อมต่อแล้ว เริ่มตรวจสอบปฏิบัติการอุปกรณ์…”

“พารามิเตอร์ของอุปกรณ์ปกติดีทั้งหมด! กำลังเข้าถึงระบบนำทางที่ดำเนินการอยู่! ”

“เปิดใช้งานระบบนำทางได้สำเร็จแล้ว! ความเร็วของพัสดุอยู่ 2.77 กิโลเมตรต่อวินาที มันกำลังเข้าสู่ยานอวกาศพัสดุสะพานนกกางเขน 3 ในระยะใกล้เคียงอีก 507 กิโลเมตร คาดว่าจะไปถึงในอีก 183 วินาที!”

บนหน้าจอเรดาร์ อาร์กสองอันที่เรืองแสงสีเหลืองอ่อนรวมตัวเข้าด้วยกัน จุดสีเขียวสองจุดที่กำลังกะพริบเริ่มขยับไปมาระหว่างสองอาร์กอย่างช้าๆ

ยิ่งพวกมันเข้าใกล้กันมากเท่าไร หัวใจของเจ้าหน้าที่ในห้องบัญชาการก็เต้นรัวมากขึ้นเท่านั้น

นักวิจัยวัยหนุ่มสาวหลายคนเริ่มสูดลมหายใจเข้าลึกๆ กันหลายรอบ เพื่อพยายามควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจตัวเอง แม้กระทั่งวิศวกรที่มีประสบการณ์มากกว่าพวกเขาก็ยังเป็นกังวลไม่ต่างกัน

จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไรล่ะ

พวกเขามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!

มันจะเป็นการชี้ชะตาว่าพวกเขาจะสำเร็จหรือล้มเหลว!

การยิงพัสดุขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยปืนใหญ่เป็นขั้นตอนส่วนที่ง่าย ส่วนที่ยากคือตอนเก็บพัสดุต่างหาก ดังนั้นไม่ว่าพวกเขาจะยิงพัสดุไปเร็วเท่าไร หากยังไม่สามารถเก็บพัสดุได้ โปรเจกต์นี้ก็จะกลายเป็นความล้มเหลวไป

เมื่อจุดสองจุดที่เรืองแสงสีเขียวเริ่มเข้าใกล้กันเรื่อยๆ แทบทุกคนในห้องก็กลั้นหายใจกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ

เป็นเวลาไม่กี่วินาทีที่ดูเหมือนนานชั่วกัปชั่วกัลป์

จุดสองจุดที่เรืองแสงสีเขียวบนหน้าจอรวมกันเป็นจุดเดียวอย่างไม่มีอะไรติดขัด

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ไม่มีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้น

มันดูเกือบจะ…

ง่ายไปหน่อยไหม?

ทันใดนั้นเองเสียงเชียร์อันกึกก้องก็ดังกระหึ่มขึ้นในห้องบัญชาการ

“วู้วววว! ”

“เราทำได้แล้ว! ”

“โอ้พระเจ้า…ในที่สุด…พวกเราก็ทำได้แล้ว!”

เสียงปรบมือ

เสียงเชียร์

ความตื่นเต้นและความสุขปกคลุมในจิตใจของทุกคน

ผู้อำนวยการหลี่กำหมัดด้วยความตื่นเต้น

ดวงตาของนักวิชาการหยวนฮวานหมินมีน้ำตาปรากฏอยู่ ริมฝีปากแห้งผากของเขาสั่นในขณะที่เขาพยายามจะพูด

ทั้งวิศวกรจำนวนนับไม่ถ้วนจากองค์การเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศแห่งประเทศจีนและนักวิจัยจากสถาบันวิจัยการบินและอวกาศของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงต่างก็กรีดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

แม้กระทั่งท่านประธานาธิบดีที่ยืนอยู่ข้างลู่โจวก็อดตะโกนออกมาไม่ได้ว่า “ทำได้ดีมาก! ”

ในที่สุดความพยายามตลอดหลายปีหรืออาจจะหลายทศวรรษของพวกเขาก็มีความหมายแล้ว

พวกเขาเพิ่งจะยึดครองดวงจันทร์ได้

ลู่โจวถูกรายล้อมไปด้วยเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม เขายืนนิ่งไม่ไหวอยู่ใจกลางห้องบัญชาการ ความสุขที่ไหลอยู่ในหัวของเขาทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก

ลู่โจวได้ยินเสียงผ่านๆ มาจากช่องการสื่อสารของสะพานนกกางเขน พวกเขาประกาศชัยชนะผ่านวิทยุสื่อสารครอบหัวมาให้ได้ยินว่า

“นี่ยานอวกาศพัสดุสะพานนกกางเขน 3 นะครับ พวกเรารับพัสดุสำเร็จแล้ว”

“พวกเราจะส่งของขวัญจากดวงจันทร์ไปในอีกสามวันนะครับ”

“ทุกคนทำได้ดีมาก! ”

อันที่จริงการประกาศชัยชนะครั้งนี้ก็ดูซ้ำซ้อนนิดๆ สำหรับลู่โจว

วินาทีที่จุดสีเขียวทั้งสองจุดนี้รวมกันเป็นหนึ่ง ก็ไม่ต้องมีข้อสงสัยอะไรแล้ว เพราะนั่นแปลว่าพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

ลู่โจวไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกในใจของเขาออกมาอย่างไร

มันผ่านมานานแค่ไหนแล้วนะ?

เริ่มจากตอนที่ส่งยานบินและอวกาศลำแรกขึ้นไปยังวงโคจร ตามด้วยการส่งคนไปดวงจันทร์ครั้งแรก แล้วก็ปราสาทจันทรากับเครื่องชนอนุภาคบนดวงจันทร์ และไม่นานมานี้ก็เป็นรางอวกาศบนดวงจันทร์…

ความพยายามและการทำงานหนักทั้งหมดของพวกเขาต่างสัมพันธ์กับช่วงเวลานี้ทั้งหมด

ในที่สุดก็ทำภารกิจห่วงโซ่อันนี้สำเร็จแล้ว

[ภารกิจห่วงโซ่ควบคุมโลกและดวงจันทร์สำเร็จแล้ว]

[สำเร็จแล้ว!]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Scholar’s Advanced Technological System 1253 ควบคุมโลกและดวงจันทร์!

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1253 ควบคุมโลกและดวงจันทร์! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ณ ศูนย์บัญชาการการบินและอวกาศภาคพื้นดิน

มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนเรียงรายกัน

ในนั้นมีหัวหน้ากระทรวงป้องกันราชอาณาจักรอย่างผู้อำนวยการหลี่ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการบินและอวกาศของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงอย่างโฮ่วกวง หัวหน้าวิศวกรองค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีนอย่างนักวิชาการหยวนฮวานหมิน และลู่โจว ที่เพิ่งเดินทางจากปักกิ่งมาที่นี่…

และยังมีท่านประธานาธิบดีอีกคนหนึ่ง

ณ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญของวงการการบินและอวกาศ รวมไปถึงอนาคตของประเทศจีนด้วย เพราะสมาชิกระดับสูงของคณะกรรมการวงโคจรดวงจันทร์แทบทุกคนต่างก็มารวมตัวกันอยู่ที่นี่

คนเหล่านั้นต่างมองหน้าจอที่ใหญ่ตั้งแต่เพดานจรดพื้นในห้องควบคุม ในใจพวกเขามีความหวังอยู่เต็มเปี่ยม เหมือนกำลังรอการทำคลอดในโรงพยาบาล

แต่สิ่งที่พวกเขารออยู่ไม่ใช่เด็ก

แต่เป็นบางสิ่งที่พิเศษกว่า

“ถ้าพลาดก็ไม่เป็นไรนะ พวกเรายังลองใหม่ได้อีก”

ลู่โจวส่ายหัวเบาๆ

“พวกเราจะไม่พลาดครับ”

ทั้งประเทศกำลังรอผลลัพธ์ครั้งนี้อยู่ ทั้งโลกกำลังหันมาสนใจ ณ ตรงนี้ที่พวกเขากำลังจะทำ

ลู่โจวพร้อมพนันว่าสื่ออย่าง BBC และ CNN ได้เขียนข่าวสองฉบับรอลงตีพิมพ์ไว้แล้ว ฉบับแรกเป็นเรื่องผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จ ส่วนอีกฉบับก็เป็นเรื่องผลลัพธ์ที่ล้มเหลว

พาดหัวข่าวแบบไหนจะขึ้นหน้าหนึ่งวันพรุ่งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้นี่แหละ

เมื่อท่านประธานาธิบดีได้ยินคำพูดที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจของลู่โจว เขาก็ยิ้มขึ้นมา

“ถ้าพวกเราประสบความสำเร็จก็จะดีกว่า และผมก็จะพูดให้พวกคุณสบายใจว่าการบินและอวกาศเป็นอุตสาหกรรมแบบใหม่มันจะส่งผลดีกับอนาคตของพวกเราแน่นอน พวกเราจะเลือกทางที่ไปช้าๆ และมั่นคงก็ได้ รวมถึงยังสามารถทำผิดพลาดได้บ้างด้วย”

“แต่ถามจริงๆ นะ การจะสร้างเมืองบนดวงจันทร์นี่มันจะทำได้จริงเหรอ?”

พอลู่โจวได้ยินอย่างนี้ เขาก็รู้ทันทีว่าท่านประธานาธิบดีหมายถึงอะไร

เห็นได้ชัดว่าโชว์งานวันฉลองได้ทำให้ท่านประทับใจเต็มๆ

ลู่โจวคิดคำตอบอย่างจริงจังครู่หนึ่ง

ผ่านไปสักพักเขาก็พูดขึ้นว่า

“เพราะมีความต้องการทำให้มันเกิดขึ้นครับ ในมุมมองทางเทคนิคแล้วมันมีปัญหามากมายหลายอย่าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้นะครับ”

อันที่จริงดวงจันทร์ไม่ใช่ดาวที่เหมาะที่สุดสำหรับการสร้างอาณานิคมมนุษย์บนนั้น เนื่องจากมันมีแรงโน้มถ่วงน้อย ความแตกต่างทางด้านอุณหภูมิที่มาก และไม่มีการป้องกันจากชั้นบรรยากาศและสนามแม่เหล็ก แต่อย่างน้อยในตอนนี้มันก็ดูจะเป็นสถานที่ที่มนุษย์มีความหวังว่าจะสามารถสร้างอาณานิคมได้มากที่สุดแล้ว

การมีตัวตนของมันอยู่ก็เหมือนเกาะตือร์ไซราในมหาสมุทรแอตแลนติกนั่นแหละ ถึงแม้เกาะตือร์ไซราจะมีขนาดเล็กและไม่ได้มีทรัพยากรมากนัก แต่มันกลับกลายเป็นสถานที่ที่สำคัญอย่างมากของทวีปยุโรปในช่วงสมัยยุคเรอแนซ็องส์

หลังจากมีการพัฒนาเทคโนโลยีฟิวชั่นที่ควบคุมได้แล้ว อารยธรรมมนุษยชาติก็เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของการพัฒนาทางการบินและอวกาศ พวกเขาได้รับตั๋วที่จะพาไปยังดินแดนอันห่างไกล ถึงแม้อารยธรรมมนุษยชาติจะต้องการไปยังดินแดนที่ห่างไกล พวกเขาก็ยังต้องการกระดานกระโดดอยู่

ซึ่งดวงจันทร์ก็มีศักยภาพพอจะเป็นจุดเริ่มต้น

ดวงจันทร์เป็นเหมือนกับ ‘ดาวท่าเรือ’ โดยธรรมชาติอยู่แล้ว

ถ้าพวกเขาสามารถเอาชนะสภาพแวดล้อมอันยากลำบากบนดวงจันทร์ได้ พวกเขาก็สามารถเดินทางไปในอวกาศได้ไกลมากขึ้น

คำตอบของลู่โจวดูจะทำให้ท่านประธานาธิบดีพึงพอใจ ท่านประธานาธิบดีพูดขณะเอามือไขว้หลังตัวเองว่า

“ผมดีใจที่ได้ยินอย่างนั้นนะ…แล้วนี่จะเริ่มกันตอนไหนเหรอ? ”

ลู่โจวเช็กเวลาบนนาฬิกาข้อมือแล้วตอบคำถาม

“กำลังจะเริ่มแล้วครับ! ”

เข็มสั้นชี้เลขศูนย์

เจ้าหน้าที่ในห้องบัญชาการเริ่มทำงานด้วยท่าทางที่เป็นระเบียบเรียบร้อย

ทุกคนตรวจสอบอุปกรณ์เป็นครั้งสุดท้ายเสร็จอย่างรวดเร็ว หลังจากได้รับข้อมูลมาจากดวงจันทร์ ผู้บัญชาการของศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินก็เริ่มทำตามขั้นตอน ‘บรรจุพัสดุ’

ยานอวกาศบรรจุพัสดุฉบับทดลองบนดวงจันทร์ที่อยู่ห่างออกไปมากกว่า 300,000 กิโลเมตร และมีรูปร่างเหมือนลูกกระสุนนั้น น่าจะถูกเจ้าหน้าที่สถานีวิจัยดวงจันทร์ติดตั้งจนสำเร็จแล้วในตอนนี้

พัสดุทั้งหมดมีน้ำหนัก 6 ตัน มันเต็มไปด้วยหินและดินดวงจันทร์ที่เก็บมาจากดวงจันทร์ พืชอวกาศ เมล็ดพันธุ์ที่เก็บมาจากหน่วยปลูกพืช สารออกฤทธิ์ Dr-111 และตัวอย่างวิจัยทางชีววิทยาอื่นๆ

ถ้าหากพัสดุนี้ถูกส่งกลับมายังโลกด้วยวิธีแบบเดิมล่ะก็ มันจะต้องใช้เงินอย่างน้อย 200,000 หยวนต่อกิโลกรัม

ด้วยการใช้แม่เหล็กตัวนำยวดยิ่งแทนระบบขับดันด้วยสารเคมีทำให้พัสดุสามารถส่งตรงจากพื้นผิวดวงจันทร์ไปที่วงโคจรขนย้ายของดวงจันทร์ได้เลยโดยตรง หลังจากนั้นสะพานนกกางเขนก็จะเคลื่อนที่ไปมาตามวงโคจรเพื่อไปเก็บพัสดุมา ด้วยวิธีนี้ค่าใช้จ่ายของพัสดุต่อกิโลกรัมจะมีค่าน้อยกว่า 2,000 หยวนต่อกิโลกรัม

นี่อาจจะฟังดูไม่น่าเชื่อ

แต่ก็เป็นผลจากวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์จริงๆ

ถ้าโปรเจกต์นี้ประสบความสำเร็จแล้วล่ะก็ พวกเขาจะสามารถนำดิสโพรเซียมและเทอร์เบียมที่มีค่ามากกว่า 1,000 หยวนต่อกิโลกรัม และแร่หายากอย่างสแกนเดียมที่มีค่ามากกว่า 10,000 หยวนต่อกิโลกรัมกลับมาจากดวงจันทร์ได้

ความสำเร็จของโปรเจกต์นี้จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของการบินและอวกาศอย่างไม่ต้องสงสัย

ทุกสิ่งทุกอย่างเตรียมไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผน!

ลำแสงสีเขียวบนหน้าจอขนาดใหญ่กะพริบเป็นครั้งแรก ทุกคนในห้องบัญชาการต่างกำหมัดกันแน่นอย่างไม่ได้นัดหมาย พวกเขากำลังรอเสียงเคานต์ดาวน์

“สิบ”

“เก้า”

“แปด”

“…”

“สาม”

“สอง”

“หนึ่ง”

“ศูนย์”

“ปล่อยได้! ”

เสียงอันทรงพลังและดังกระหึ่มเหมือนกับเสียงยิงปืน

หลังจากนั้นในทันที พื้นผิวดวงจันทร์ที่อยู่ห่างออกไป 300,000 กิโลเมตรก็เริ่มสั่นสะเทือน นักบินอวกาศที่ยืนอยู่ใกล้ๆ วงโคจรปล่อยยานก็สัมผัสได้ว่าพื้นรอบๆ ตัวสั่น

พลังงานไฟฟ้าที่เก็บสะสมมาถูกปล่อยออกในทันที มันรวมตัวเป็นพลาสมาที่ดูเหมือนของแข็งในท่อโลหะผสมไทเทเนียมสุญญากาศ ผลักให้ ‘กระสุน’ เงินไปข้างหน้าด้วยแรงมหาศาล

มันเคลื่อนที่ไปตามทางด้วยความเร็วไม่ถึงหนึ่งนาที!

ทันใดนั้นพัสดุก็ถูกยิงจากพื้นผิวดวงจันทร์ขึ้นฟ้าไปต่อ มันเป็นเหมือนกับลูกกระสุนที่ถูกยิงออกมาจากปากกระบอกปืน มันมุ่งหน้าตรงไปยังท้องฟ้าดาวประกายอันกว้างใหญ่ ทิ้งฝุ่นดวงจันทร์ไว้เบื้องหลัง

กล้องในศูนย์บัญชาการเปลี่ยนไปจับภาพที่ปราสาทจันทรา

กระสุนสีขาวเงินถูกแทนค่าด้วยจุดสีเขียวเรืองแสงบนแผนที่ มันลอยไปในอวกาศ มุ่งหน้าตรงไปที่วงโคจรขนย้ายของดวงจันทร์

งานพวกเขาเสร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว!

แต่ทุกคนในศูนย์บัญชาการก็ยังไม่รู้สึกสบายใจ

ภารกิจปล่อยกระสุนในครึ่งแรกนั้น หลักๆ แล้วจะเป็นหน้าที่ของปราสาทจันทรา ส่วนการชี้นำทิศทางการรวมกัน การลงจอด และการเดินทางกลับจะเป็นหน้าที่ของศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินแต่เพียงฝ่ายเดียว

ศึกนี้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น!

“ระบบควบคุมห้องพัสดุเชื่อมต่อแล้ว เริ่มตรวจสอบปฏิบัติการอุปกรณ์…”

“พารามิเตอร์ของอุปกรณ์ปกติดีทั้งหมด! กำลังเข้าถึงระบบนำทางที่ดำเนินการอยู่! ”

“เปิดใช้งานระบบนำทางได้สำเร็จแล้ว! ความเร็วของพัสดุอยู่ 2.77 กิโลเมตรต่อวินาที มันกำลังเข้าสู่ยานอวกาศพัสดุสะพานนกกางเขน 3 ในระยะใกล้เคียงอีก 507 กิโลเมตร คาดว่าจะไปถึงในอีก 183 วินาที!”

บนหน้าจอเรดาร์ อาร์กสองอันที่เรืองแสงสีเหลืองอ่อนรวมตัวเข้าด้วยกัน จุดสีเขียวสองจุดที่กำลังกะพริบเริ่มขยับไปมาระหว่างสองอาร์กอย่างช้าๆ

ยิ่งพวกมันเข้าใกล้กันมากเท่าไร หัวใจของเจ้าหน้าที่ในห้องบัญชาการก็เต้นรัวมากขึ้นเท่านั้น

นักวิจัยวัยหนุ่มสาวหลายคนเริ่มสูดลมหายใจเข้าลึกๆ กันหลายรอบ เพื่อพยายามควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจตัวเอง แม้กระทั่งวิศวกรที่มีประสบการณ์มากกว่าพวกเขาก็ยังเป็นกังวลไม่ต่างกัน

จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไรล่ะ

พวกเขามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!

มันจะเป็นการชี้ชะตาว่าพวกเขาจะสำเร็จหรือล้มเหลว!

การยิงพัสดุขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยปืนใหญ่เป็นขั้นตอนส่วนที่ง่าย ส่วนที่ยากคือตอนเก็บพัสดุต่างหาก ดังนั้นไม่ว่าพวกเขาจะยิงพัสดุไปเร็วเท่าไร หากยังไม่สามารถเก็บพัสดุได้ โปรเจกต์นี้ก็จะกลายเป็นความล้มเหลวไป

เมื่อจุดสองจุดที่เรืองแสงสีเขียวเริ่มเข้าใกล้กันเรื่อยๆ แทบทุกคนในห้องก็กลั้นหายใจกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ

เป็นเวลาไม่กี่วินาทีที่ดูเหมือนนานชั่วกัปชั่วกัลป์

จุดสองจุดที่เรืองแสงสีเขียวบนหน้าจอรวมกันเป็นจุดเดียวอย่างไม่มีอะไรติดขัด

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ไม่มีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้น

มันดูเกือบจะ…

ง่ายไปหน่อยไหม?

ทันใดนั้นเองเสียงเชียร์อันกึกก้องก็ดังกระหึ่มขึ้นในห้องบัญชาการ

“วู้วววว! ”

“เราทำได้แล้ว! ”

“โอ้พระเจ้า…ในที่สุด…พวกเราก็ทำได้แล้ว!”

เสียงปรบมือ

เสียงเชียร์

ความตื่นเต้นและความสุขปกคลุมในจิตใจของทุกคน

ผู้อำนวยการหลี่กำหมัดด้วยความตื่นเต้น

ดวงตาของนักวิชาการหยวนฮวานหมินมีน้ำตาปรากฏอยู่ ริมฝีปากแห้งผากของเขาสั่นในขณะที่เขาพยายามจะพูด

ทั้งวิศวกรจำนวนนับไม่ถ้วนจากองค์การเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศแห่งประเทศจีนและนักวิจัยจากสถาบันวิจัยการบินและอวกาศของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงต่างก็กรีดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

แม้กระทั่งท่านประธานาธิบดีที่ยืนอยู่ข้างลู่โจวก็อดตะโกนออกมาไม่ได้ว่า “ทำได้ดีมาก! ”

ในที่สุดความพยายามตลอดหลายปีหรืออาจจะหลายทศวรรษของพวกเขาก็มีความหมายแล้ว

พวกเขาเพิ่งจะยึดครองดวงจันทร์ได้

ลู่โจวถูกรายล้อมไปด้วยเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม เขายืนนิ่งไม่ไหวอยู่ใจกลางห้องบัญชาการ ความสุขที่ไหลอยู่ในหัวของเขาทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก

ลู่โจวได้ยินเสียงผ่านๆ มาจากช่องการสื่อสารของสะพานนกกางเขน พวกเขาประกาศชัยชนะผ่านวิทยุสื่อสารครอบหัวมาให้ได้ยินว่า

“นี่ยานอวกาศพัสดุสะพานนกกางเขน 3 นะครับ พวกเรารับพัสดุสำเร็จแล้ว”

“พวกเราจะส่งของขวัญจากดวงจันทร์ไปในอีกสามวันนะครับ”

“ทุกคนทำได้ดีมาก! ”

อันที่จริงการประกาศชัยชนะครั้งนี้ก็ดูซ้ำซ้อนนิดๆ สำหรับลู่โจว

วินาทีที่จุดสีเขียวทั้งสองจุดนี้รวมกันเป็นหนึ่ง ก็ไม่ต้องมีข้อสงสัยอะไรแล้ว เพราะนั่นแปลว่าพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

ลู่โจวไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกในใจของเขาออกมาอย่างไร

มันผ่านมานานแค่ไหนแล้วนะ?

เริ่มจากตอนที่ส่งยานบินและอวกาศลำแรกขึ้นไปยังวงโคจร ตามด้วยการส่งคนไปดวงจันทร์ครั้งแรก แล้วก็ปราสาทจันทรากับเครื่องชนอนุภาคบนดวงจันทร์ และไม่นานมานี้ก็เป็นรางอวกาศบนดวงจันทร์…

ความพยายามและการทำงานหนักทั้งหมดของพวกเขาต่างสัมพันธ์กับช่วงเวลานี้ทั้งหมด

ในที่สุดก็ทำภารกิจห่วงโซ่อันนี้สำเร็จแล้ว

[ภารกิจห่วงโซ่ควบคุมโลกและดวงจันทร์สำเร็จแล้ว]

[สำเร็จแล้ว!]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+