Scholar’s Advanced Technological System 1285 ปฏิบัติการแดนดิไลออน

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1285 ปฏิบัติการแดนดิไลออน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ณ แอฟริกาตะวันออก

ในเอลวัค โซมาเลีย

สถานที่แห่งนี้อยู่ตรงละติจูดสูงและตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยหุบเขา น้ำสะอาดเป็นทรัพยากรหายาก มันไม่มีทั้งแหล่งแร่ธาตุหรือดินอุดมสมบูรณ์ แต่มันกลับเต็มไปด้วยความยากจนและความหิวโหยไม่มีขีดจำกัด

เว้นเพียงแต่องค์กรหัวรุนแรง กลุ่มประชาชนติดอาวุธ และพ่อค้าอาวุธ แทบไม่มีใครสนใจเลยในดินแดนอันแสนแห้งแล้งนี้

และถึงแม้ว่าสำหรับคนที่สนใจในดินแดนนี้ ความสนใจแทบจะไม่ได้พุ่งไปที่ตัวดินแดนเอง แต่กลับเป็นที่เมืองใกล้เคียง หมู่บ้าน และทรัพยากรการกุศล

ในอดีต ถึงแม้ว่าพวกเขาจะปล้นสะดมและลักพาตัวคนอื่น แต่พวกเขาไม่ค่อยฆ่าคน หน่วยงานทางการใกล้เคียงเกลียดโรคร้ายที่ดื้อดึงนี้ แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ ถึงแม้ว่าประเทศเพื่อนบ้านได้ขอการสนับสนุนด้านการทหารมากกว่าหนึ่งครั้ง ทางการก็ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้

ดังนั้นพื้นที่โซนนี้เต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวายและความเลวร้าย และมันยังคงสมดุลประหลาดนี้มานานกว่าสิบปี มันกลายเป็นที่บ่มเพาะเชื้อร้ายน่าสะพรึงกลัว

แต่ช่วงนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป

หน่วยทหารจำนวนมากเริ่มรวมตัวในพื้นที่แห่งนี้ ตำรวจและทหารในเมืองใกล้เคียงตั้งจุดตรวจตามถนนเส้นหลัก โดยล้อมพื้นที่ทั้งหมดจากภายในและภายนอก

แพะป่าที่อาศัยอยู่แถวนี้ยังได้กลิ่นดินปืนที่ค่อยๆ อบอวลในอากาศ

มันเหมือนราดน้ำมันเข้ากองไฟ พื้นที่เอลวัคที่มั่นคงเป็นเวลาหลายทศวรรษได้ตกอยู่ในความโกลาหลทันที

“ทำไมไม่ปล่อยให้ที่นี่เน่าไปล่ะ?”

ผู้พันอบาติยืนอยู่ข้างนายพลคัทซ์โน เขาหรี่ตามองดูทีมทหารที่อยู่ใกล้เคียงในขณะที่เขาพูดว่า “ผู้คนที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่คนโซมาเลีย ทำไมพวกเราไม่ปล่อยให้คนพวกนี้ดูแลตัวเองล่ะ?”

เอลวัคค่อนข้างรับมือยาก

ถึงแม้ว่าทหารอเมริกาลงจอดที่นี่ มันก็ยากที่จะจำกัดเนื้อร้ายออกจากทะเลทราย

ปัญหาหลักคือกองทหารที่อยู่ในพื้นที่ท้องถิ่นไม่ยอมรบกับพวกเขาที่สนามรบแนวหน้า แต่พวกเขาจะพึ่งพาภูมิประเทศซับซ้อนเพื่อจู่โจมแบบกองโจรใส่

ไม่ใช่แค่นั้น ตอนนี้พวกเขามีแค่กองทหารราบสามหน่วย ถึงแม้ว่าจำนวนทหารจะเพิ่มเป็นสองเท่า มันก็ยากที่จะโจมตีกองกำลังท้องถิ่น

“เนื่องจากไอ้งั่งที่เป็นเจ้าของพื้นที่นี้ทำเรื่องโง่ๆ และทำให้คนสำคัญอารมณ์เสีย แล้วตอนนี้เราต้องโน้มน้าวให้มหาอำนาจในตะวันออกเชื่อว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคนกลุ่มนี้”

นายพลคัทซ์โนถือกล้องส่องทางไกลในมือ แววตาดุจเหยี่ยวเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมในระหว่างที่เขาพูดว่า “แล้วก็ พวกเขาสัญญาว่าจะสนับสนุนเราในการยึดพื้นที่นี้คืนมา และช่วยเราสร้างมันขึ้นมาใหม่”

“สนับสนุน? สนับสนุนอย่างไร? จู่โจมทางอากาศ? หรือว่าแจกใบปลิว?”

ผู้พันอบาติมีสีหน้าหยิ่งทะนง

มันเป็นความผิดพลาดที่คนทั่วไปทำเมื่อเขาแทรกแซงธุรกิจของโซมาเลีย

เมื่อทหารบุกเข้าเมือง ตรอกซอย และภูเขาลึก หรือแม้แต่ว่าเครื่องบินรบอเมริกันถูกใช้งาน มันก็จะไม่ช่วยอะไร

การสู้รบนี้ดูไม่น่าจะรอดได้เลย

พวกเขาจะทำให้ภูมิภาคที่มั่นคงในที่สุดเข้าสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง ซึ่งทำให้ประเทศอื่นเห็นได้ถึงความขาดศักยภาพในการรับมือความขัดแย้งด้านการทหารรอบโลก ไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนเกิดขึ้น

“พวกนั้นไม่ได้พูดเกินจริง พวกนั้นแค่บอกให้พวกเรารอ” นายพลคัทซ์โนวางกล้องส่องทางไกลในมือลงระหว่างที่เขาพูดเรียบๆ ว่า “อย่างไรก็ตามเราไม่จำเป็นต้องเป็นคนเริ่ม เราเพียงแค่ต้องรออยู่เงียบๆ”

บนเขาหุบเหว มาแรคที่ใส่ชุดแฝงตัว มองดูสถานีทหารที่ห่างออกไปโดยถือกล้องโทรทรรศน์ในมือ แววตาเขาเต็มไปด้วยความร้อนรน

ชายร่างกำยำที่พาดปืนอาก้าไว้ที่หลังคืบคลานมาจากภูเขาข้างหลังเขาและรายงานให้เขาทราบด้วยน้ำเสียงกระวนกระวาย

“ทางการโซมาเลียได้เริ่มทหารอย่างน้อยสามกองทัพที่นี่ มันดูเหมือนว่าพวกนั้นตั้งใจเข้ากวาดล้างเรา”

“แล้วชายแดนระหว่างเคนย่ากับเอธิโอเปียล่ะ?”

ชายผิวเข้มกลืนน้ำลายและพูดว่า “พวกนั้นปิดชายแดนแล้วเพิ่มหน่วยลาดตระเวน…”

เส้นทางหลบหนีถูกปิดกั้น…

สถานการณ์ค่อนข้างร้ายแรงและมันได้มาถึงจุดวิกฤติ

แต่แทนที่จะมีความกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายมีเครา กลับมีรอยยิ้มโหดร้ายขึ้นมาแทน

ทหารของเขายืดมั่นในดินแดนนี้ นอกจากเขาก็ยังมีขุนศึกคนอื่นอีก

ถึงแม้ว่าพวกนั้นมักกระจายห่างกันออกไป เมื่อพวกเขาเจอกับการรุกรานจาก ‘กองกำลังภายนอก’ หรือใครก็ตามที่พยายามควบคุมพื้นที่แห่งนี้ หน่วยติดอาวุธทุกหน่วยจะละภารกิจของกลุ่มตัวเองชั่วคราวแล้วร่วมมือยืนหยัดกัน

มาแรคไม่ได้กังวลว่าจะพ่ายแพ้เลย

แล้วเขายังมีอาวุธมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์อยู่ในมือ ถึงเขาไม่มีอาวุธเหล่านี้ เขาก็ไม่กลัวกองทหารจากประเทศใกล้เคียง

เมื่อสงครามนี้ถูกลากเข้าไปในเกมชักเย่ออันโหดเหี้ยม ผู้อพยพที่อยู่ผิดที่ผิดทางจะเข้าทั้งภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก ทางการโซมาเลียที่อ่อนแอจะไม่สามารถต้านทานแรงกดดันจากภายในและภายนอกได้

แต่ในตอนนี้เขารู้สึกถึงความไม่สงบสุข

เขารู้สึกเหมือนว่ามีสัตว์ดุร้ายกำลังสะกดรอยตามอยู่

จู่ๆ มาแรคนึกอะไรออก เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

แต่มันไม่มีอะไรนอกจากฟ้าปลอดโปร่ง ไม่มีอะไรที่อาจส่อถึงเครื่องบินรบหรือเมฆแม้แต่ก่อนเดียว

ทำไมฉันถึงรู้สึกแบบนี้?

ความกระวนกระวายในใจรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

มาแรคกำหมัดแน่น เมื่อเขากำลังคิดว่าจะกลับไป จู่ๆ เขาเห็นจุดดำบางจุดบนท้องฟ้า

จุดสีดำมีขนาดเล็กมาก

ถ้าเขาไม่ได้หันไปมองทางนั้น เขาคงไม่ได้สังเกตมัน

มาแรคกลืนน้ำลายและหยิบกล้องโทรทรรศน์ขึ้นมา

“พระเจ้า นั่นมันอะไร?”

แต่ก่อนที่เขาจะคิดได้ มีแรงสั่นเทารุนแรงเกิดขึ้นใต้เท้าของเขา มีไฟและควันพุ่งมาจากระยะที่ห่างไปสองกิโลเมตร แล้วเขาเกือบล้มลง

เมื่อเขายืนตัวตรงแล้วมองไปทางนั้น เลือดสูบฉีดแล่นขึ้นไปถึงสมอง

“ไม่!”

มันเป็นแหล่งเก็บกระสุนที่เขาจัดวางไว้แถวนี้ ซึ่งมีทั้งกระสุนปืนและระเบิดแสวงเครื่องที่ใช้ก่อสงครามกองโจรได้ถึงสองครั้ง

มาแรคจ้องมองลูกไฟที่สว่างวาบไปทั่วท้องฟ้า ตาของเขาปูดเส้นเลือดขึ้นในระหว่างที่เขาเงยหน้ามองฟ้าเพื่อหาต้นตอการจู่โจมทางอากาศ

ทว่าศัตรูเหมือนไม่มีอยู่จริง

แหล่งเก็บอาวุธและกระสุนถูกทำลาย นั่นเป็นเพียงหลักฐานเดียวว่ามีบางอย่างบินอยู่เหนือหัวพวกเขา

มาแรคหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาแล้วใช้แรงทั้งหมดที่มีพูดออกมา เขาสั่งให้ลูกน้องที่รอดชีวิตย้ายอาวุธไปที่ปลอดภัยและสั่งให้ทหารที่แนวหน้ากระจายตัวทันที พวกเขาเตรียมแยกตัวแล้วเริ่มการสู้อย่างร้อนรนกับกองกำลังศัตรู

แต่มาแรคไม่รู้เลยว่าการจู่โจมทางอากาศรอบแรกเป็นแค่การเริ่มต้น

ฝันร้ายของพวกเขาเพิ่งเริ่มขึ้น

จุดสีดำที่ลอยอยู่บนฟ้าได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงในที่สุด

สิ่งพวกนั้นเป็น ‘หลุมศพสีดำ’ ที่ผูกติดกับร่มชูชีพ

พวกมันใหญ่กว่าแคปซูลอากาศของกองรบอากาศเพียงเล็กน้อย

พวกมันเป็นเหมือนดอกแดนดิไลออนที่กระจายตัวออกลงสนามรบ พวกมันลงสู่พื้นดินในแนวตั้ง

หลังจากที่ลงจอดอย่างราบรื่น เปลือกนอกสี่ด้านของโลกสีดำเปิดออกทีละด้าน ซึ่งเผยให้เห็นโดรนที่อยู่ข้างใน

สัญญาณไฟสว่างขึ้นในทันที มอเตอร์ไฟฟ้าเริ่มส่งเสียง แล้วโดรนต่างบินออกมาเหมือนตัวต่อแตกจากรัง จากการชี้นำโดยดาวเทียม และเทอร์มินัลภาคพื้นดิน โดรนพวกนี้บินเข้าสนามรบ

พวกโดรนมีขนาดใหญ่กว่าลูกบาสเล็กน้อย ลำกล้องขนาดเล็กและแม็กกาซีนที่เผยออกมาถูกห้อยไว้ใต้เพลาโดรน การบินโฉบหนึ่งครั้งสามารถยิงกระสุนได้เป็นสาย

เปลวไฟจากท้องฟ้าและแสงแฟลชจากปืนได้สะท้อนความกลัวบนหน้าของทหารรบ การจู่โจมทางอากาศโดยไม่ทราบที่มาทำลายแหล่งเก็บกระสุนเกือบทั้งหมดบนภาคพื้นดินและแหล่งเก็บอาวุธในอุโมงค์ ตอนนี้พวกเขายังต้องเผชิญกับกลุ่ม ‘ผึ้ง’ สังหาร

มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเล็งยิงโดรนที่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร ในอีกแง่หนึ่ง โดรนพวกนี้บินเข้าออกสนามรบได้อย่างอิสระ

มาแรครู้เรื่องโดรนเยอะ เมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมรบส่วนมากเขามีประสบการณ์ที่แอฟริกาเหนือกับหน่วยทหารอเมริกา

ในความเป็นจริงการยิงโดรนเหล่านี้ให้ตกลงเป็นเรื่องง่าย เมื่อพวกมันบินผ่านมาถ้าเกิดเล็งไปทิศทางบินก็จะสามารถยิงโดรนตกได้ง่าย

พวกเขาไม่ต้องการปืน แค่หินก็เอาอยู่

แต่มันดูเหมือนว่าโดรนพวกนี้มีสมอง โดรนพวกนี้ทั้งใช้บังเกอร์เพื่อหลบการยิงปะทะ แล้วพวกมันยังใช้การยิงกดพื้นฐานและใช้กลยุทธ์เข้าล้อมเพื่อจัดการกับการป้องกันที่คงที่ไว้

มันราวกับว่าโดรนทุกตัวถูกควบคุมโดยวิศวกรอุปกรณ์ไร้คนขับผู้เชี่ยวชาญ…

เปลวไฟที่ทะยานขึ้นฟ้าได้บดบังดวงอาทิตย์ในขณะที่ควันโขมงจากหุบเขากลายเป็นก้อนเมฆบนท้องฟ้า ลมพัดทรายสีเหลืองไปทั่วสนามรบโกลาหล

มาแรคกำลังตามหาร่องรอยผู้ทิ้งระเบิด ทหารโซมาเลีย การ์ดชายแดน และแม้แต่ฐานทัพอเมริกาที่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร ต่างลุกลี้ลุกลนตามหาแหล่งที่มาของการจู่โจมทางอากาศ

มันไม่มีร่องรอยขอเครื่องบินแม้แต่ลำเดียวบนเรดาห์

พวกเขายังตรวจจับนกไม่ได้แม้แต่ตัวเดียว!

จู่โจมทางอากาศ?

มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?!

มันสามารถมีการโจมตีปืนใหญ่ที่แม่นยำได้อย่างไร?!

และที่สำคัญที่สุด พวกนั้นหาแหล่งเก็บกระสุนเจอได้อย่างไร!

พวกนั้นเดาเอาเหรอ?

นายพลคัทซ์โนวางกล้องโทรทรรศน์ในมือลง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความตะลึง

ผู้พันอบาติยืนอยู่ข้างเขา ผู้พันก็อึ้งเช่นกัน

เขากลืนน้ำลายและถามว่า “มันมีการจู่โจมทางอากาศที่ทาง PLA ประกาศใช่ไหม?”

“ใช่ครับ…”

“ได้ยินเสียงเครื่องบินรบบ้างไหม?”

“ไม่เลย…เรือบรรทุกอากาศยานของพวกนั้นยังอยู่ที่ทะเลจีนตะวันออก”

“เครื่องบินอะไรบินเร็วขนาดนี้?”

“ไม่รู้สิ อย่าถามผมเลย”

“งั้น…เราควรเดินหน้าต่อใช่ไหม?”

“ขึ้นรถก่อน…”

มันไม่มีความลุ้นระทึกในการสู้รบอีก

มันดูเหมือนว่าแผนรับมือฉุกเฉินที่ถกกันในการประชุมรบถูกใช้งาน

แน่นอนว่ามันเกือบเป็นเรื่องดี

พวกเขามีความรู้สึกรุนแรงว่า…

สงครามนี้จะจบลงอย่างรวดเร็ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Scholar’s Advanced Technological System 1285 ปฏิบัติการแดนดิไลออน

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 1285 ปฏิบัติการแดนดิไลออน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ณ แอฟริกาตะวันออก

ในเอลวัค โซมาเลีย

สถานที่แห่งนี้อยู่ตรงละติจูดสูงและตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยหุบเขา น้ำสะอาดเป็นทรัพยากรหายาก มันไม่มีทั้งแหล่งแร่ธาตุหรือดินอุดมสมบูรณ์ แต่มันกลับเต็มไปด้วยความยากจนและความหิวโหยไม่มีขีดจำกัด

เว้นเพียงแต่องค์กรหัวรุนแรง กลุ่มประชาชนติดอาวุธ และพ่อค้าอาวุธ แทบไม่มีใครสนใจเลยในดินแดนอันแสนแห้งแล้งนี้

และถึงแม้ว่าสำหรับคนที่สนใจในดินแดนนี้ ความสนใจแทบจะไม่ได้พุ่งไปที่ตัวดินแดนเอง แต่กลับเป็นที่เมืองใกล้เคียง หมู่บ้าน และทรัพยากรการกุศล

ในอดีต ถึงแม้ว่าพวกเขาจะปล้นสะดมและลักพาตัวคนอื่น แต่พวกเขาไม่ค่อยฆ่าคน หน่วยงานทางการใกล้เคียงเกลียดโรคร้ายที่ดื้อดึงนี้ แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ ถึงแม้ว่าประเทศเพื่อนบ้านได้ขอการสนับสนุนด้านการทหารมากกว่าหนึ่งครั้ง ทางการก็ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้

ดังนั้นพื้นที่โซนนี้เต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวายและความเลวร้าย และมันยังคงสมดุลประหลาดนี้มานานกว่าสิบปี มันกลายเป็นที่บ่มเพาะเชื้อร้ายน่าสะพรึงกลัว

แต่ช่วงนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป

หน่วยทหารจำนวนมากเริ่มรวมตัวในพื้นที่แห่งนี้ ตำรวจและทหารในเมืองใกล้เคียงตั้งจุดตรวจตามถนนเส้นหลัก โดยล้อมพื้นที่ทั้งหมดจากภายในและภายนอก

แพะป่าที่อาศัยอยู่แถวนี้ยังได้กลิ่นดินปืนที่ค่อยๆ อบอวลในอากาศ

มันเหมือนราดน้ำมันเข้ากองไฟ พื้นที่เอลวัคที่มั่นคงเป็นเวลาหลายทศวรรษได้ตกอยู่ในความโกลาหลทันที

“ทำไมไม่ปล่อยให้ที่นี่เน่าไปล่ะ?”

ผู้พันอบาติยืนอยู่ข้างนายพลคัทซ์โน เขาหรี่ตามองดูทีมทหารที่อยู่ใกล้เคียงในขณะที่เขาพูดว่า “ผู้คนที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่คนโซมาเลีย ทำไมพวกเราไม่ปล่อยให้คนพวกนี้ดูแลตัวเองล่ะ?”

เอลวัคค่อนข้างรับมือยาก

ถึงแม้ว่าทหารอเมริกาลงจอดที่นี่ มันก็ยากที่จะจำกัดเนื้อร้ายออกจากทะเลทราย

ปัญหาหลักคือกองทหารที่อยู่ในพื้นที่ท้องถิ่นไม่ยอมรบกับพวกเขาที่สนามรบแนวหน้า แต่พวกเขาจะพึ่งพาภูมิประเทศซับซ้อนเพื่อจู่โจมแบบกองโจรใส่

ไม่ใช่แค่นั้น ตอนนี้พวกเขามีแค่กองทหารราบสามหน่วย ถึงแม้ว่าจำนวนทหารจะเพิ่มเป็นสองเท่า มันก็ยากที่จะโจมตีกองกำลังท้องถิ่น

“เนื่องจากไอ้งั่งที่เป็นเจ้าของพื้นที่นี้ทำเรื่องโง่ๆ และทำให้คนสำคัญอารมณ์เสีย แล้วตอนนี้เราต้องโน้มน้าวให้มหาอำนาจในตะวันออกเชื่อว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคนกลุ่มนี้”

นายพลคัทซ์โนถือกล้องส่องทางไกลในมือ แววตาดุจเหยี่ยวเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมในระหว่างที่เขาพูดว่า “แล้วก็ พวกเขาสัญญาว่าจะสนับสนุนเราในการยึดพื้นที่นี้คืนมา และช่วยเราสร้างมันขึ้นมาใหม่”

“สนับสนุน? สนับสนุนอย่างไร? จู่โจมทางอากาศ? หรือว่าแจกใบปลิว?”

ผู้พันอบาติมีสีหน้าหยิ่งทะนง

มันเป็นความผิดพลาดที่คนทั่วไปทำเมื่อเขาแทรกแซงธุรกิจของโซมาเลีย

เมื่อทหารบุกเข้าเมือง ตรอกซอย และภูเขาลึก หรือแม้แต่ว่าเครื่องบินรบอเมริกันถูกใช้งาน มันก็จะไม่ช่วยอะไร

การสู้รบนี้ดูไม่น่าจะรอดได้เลย

พวกเขาจะทำให้ภูมิภาคที่มั่นคงในที่สุดเข้าสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง ซึ่งทำให้ประเทศอื่นเห็นได้ถึงความขาดศักยภาพในการรับมือความขัดแย้งด้านการทหารรอบโลก ไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนเกิดขึ้น

“พวกนั้นไม่ได้พูดเกินจริง พวกนั้นแค่บอกให้พวกเรารอ” นายพลคัทซ์โนวางกล้องส่องทางไกลในมือลงระหว่างที่เขาพูดเรียบๆ ว่า “อย่างไรก็ตามเราไม่จำเป็นต้องเป็นคนเริ่ม เราเพียงแค่ต้องรออยู่เงียบๆ”

บนเขาหุบเหว มาแรคที่ใส่ชุดแฝงตัว มองดูสถานีทหารที่ห่างออกไปโดยถือกล้องโทรทรรศน์ในมือ แววตาเขาเต็มไปด้วยความร้อนรน

ชายร่างกำยำที่พาดปืนอาก้าไว้ที่หลังคืบคลานมาจากภูเขาข้างหลังเขาและรายงานให้เขาทราบด้วยน้ำเสียงกระวนกระวาย

“ทางการโซมาเลียได้เริ่มทหารอย่างน้อยสามกองทัพที่นี่ มันดูเหมือนว่าพวกนั้นตั้งใจเข้ากวาดล้างเรา”

“แล้วชายแดนระหว่างเคนย่ากับเอธิโอเปียล่ะ?”

ชายผิวเข้มกลืนน้ำลายและพูดว่า “พวกนั้นปิดชายแดนแล้วเพิ่มหน่วยลาดตระเวน…”

เส้นทางหลบหนีถูกปิดกั้น…

สถานการณ์ค่อนข้างร้ายแรงและมันได้มาถึงจุดวิกฤติ

แต่แทนที่จะมีความกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายมีเครา กลับมีรอยยิ้มโหดร้ายขึ้นมาแทน

ทหารของเขายืดมั่นในดินแดนนี้ นอกจากเขาก็ยังมีขุนศึกคนอื่นอีก

ถึงแม้ว่าพวกนั้นมักกระจายห่างกันออกไป เมื่อพวกเขาเจอกับการรุกรานจาก ‘กองกำลังภายนอก’ หรือใครก็ตามที่พยายามควบคุมพื้นที่แห่งนี้ หน่วยติดอาวุธทุกหน่วยจะละภารกิจของกลุ่มตัวเองชั่วคราวแล้วร่วมมือยืนหยัดกัน

มาแรคไม่ได้กังวลว่าจะพ่ายแพ้เลย

แล้วเขายังมีอาวุธมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์อยู่ในมือ ถึงเขาไม่มีอาวุธเหล่านี้ เขาก็ไม่กลัวกองทหารจากประเทศใกล้เคียง

เมื่อสงครามนี้ถูกลากเข้าไปในเกมชักเย่ออันโหดเหี้ยม ผู้อพยพที่อยู่ผิดที่ผิดทางจะเข้าทั้งภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก ทางการโซมาเลียที่อ่อนแอจะไม่สามารถต้านทานแรงกดดันจากภายในและภายนอกได้

แต่ในตอนนี้เขารู้สึกถึงความไม่สงบสุข

เขารู้สึกเหมือนว่ามีสัตว์ดุร้ายกำลังสะกดรอยตามอยู่

จู่ๆ มาแรคนึกอะไรออก เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

แต่มันไม่มีอะไรนอกจากฟ้าปลอดโปร่ง ไม่มีอะไรที่อาจส่อถึงเครื่องบินรบหรือเมฆแม้แต่ก่อนเดียว

ทำไมฉันถึงรู้สึกแบบนี้?

ความกระวนกระวายในใจรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

มาแรคกำหมัดแน่น เมื่อเขากำลังคิดว่าจะกลับไป จู่ๆ เขาเห็นจุดดำบางจุดบนท้องฟ้า

จุดสีดำมีขนาดเล็กมาก

ถ้าเขาไม่ได้หันไปมองทางนั้น เขาคงไม่ได้สังเกตมัน

มาแรคกลืนน้ำลายและหยิบกล้องโทรทรรศน์ขึ้นมา

“พระเจ้า นั่นมันอะไร?”

แต่ก่อนที่เขาจะคิดได้ มีแรงสั่นเทารุนแรงเกิดขึ้นใต้เท้าของเขา มีไฟและควันพุ่งมาจากระยะที่ห่างไปสองกิโลเมตร แล้วเขาเกือบล้มลง

เมื่อเขายืนตัวตรงแล้วมองไปทางนั้น เลือดสูบฉีดแล่นขึ้นไปถึงสมอง

“ไม่!”

มันเป็นแหล่งเก็บกระสุนที่เขาจัดวางไว้แถวนี้ ซึ่งมีทั้งกระสุนปืนและระเบิดแสวงเครื่องที่ใช้ก่อสงครามกองโจรได้ถึงสองครั้ง

มาแรคจ้องมองลูกไฟที่สว่างวาบไปทั่วท้องฟ้า ตาของเขาปูดเส้นเลือดขึ้นในระหว่างที่เขาเงยหน้ามองฟ้าเพื่อหาต้นตอการจู่โจมทางอากาศ

ทว่าศัตรูเหมือนไม่มีอยู่จริง

แหล่งเก็บอาวุธและกระสุนถูกทำลาย นั่นเป็นเพียงหลักฐานเดียวว่ามีบางอย่างบินอยู่เหนือหัวพวกเขา

มาแรคหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาแล้วใช้แรงทั้งหมดที่มีพูดออกมา เขาสั่งให้ลูกน้องที่รอดชีวิตย้ายอาวุธไปที่ปลอดภัยและสั่งให้ทหารที่แนวหน้ากระจายตัวทันที พวกเขาเตรียมแยกตัวแล้วเริ่มการสู้อย่างร้อนรนกับกองกำลังศัตรู

แต่มาแรคไม่รู้เลยว่าการจู่โจมทางอากาศรอบแรกเป็นแค่การเริ่มต้น

ฝันร้ายของพวกเขาเพิ่งเริ่มขึ้น

จุดสีดำที่ลอยอยู่บนฟ้าได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงในที่สุด

สิ่งพวกนั้นเป็น ‘หลุมศพสีดำ’ ที่ผูกติดกับร่มชูชีพ

พวกมันใหญ่กว่าแคปซูลอากาศของกองรบอากาศเพียงเล็กน้อย

พวกมันเป็นเหมือนดอกแดนดิไลออนที่กระจายตัวออกลงสนามรบ พวกมันลงสู่พื้นดินในแนวตั้ง

หลังจากที่ลงจอดอย่างราบรื่น เปลือกนอกสี่ด้านของโลกสีดำเปิดออกทีละด้าน ซึ่งเผยให้เห็นโดรนที่อยู่ข้างใน

สัญญาณไฟสว่างขึ้นในทันที มอเตอร์ไฟฟ้าเริ่มส่งเสียง แล้วโดรนต่างบินออกมาเหมือนตัวต่อแตกจากรัง จากการชี้นำโดยดาวเทียม และเทอร์มินัลภาคพื้นดิน โดรนพวกนี้บินเข้าสนามรบ

พวกโดรนมีขนาดใหญ่กว่าลูกบาสเล็กน้อย ลำกล้องขนาดเล็กและแม็กกาซีนที่เผยออกมาถูกห้อยไว้ใต้เพลาโดรน การบินโฉบหนึ่งครั้งสามารถยิงกระสุนได้เป็นสาย

เปลวไฟจากท้องฟ้าและแสงแฟลชจากปืนได้สะท้อนความกลัวบนหน้าของทหารรบ การจู่โจมทางอากาศโดยไม่ทราบที่มาทำลายแหล่งเก็บกระสุนเกือบทั้งหมดบนภาคพื้นดินและแหล่งเก็บอาวุธในอุโมงค์ ตอนนี้พวกเขายังต้องเผชิญกับกลุ่ม ‘ผึ้ง’ สังหาร

มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเล็งยิงโดรนที่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร ในอีกแง่หนึ่ง โดรนพวกนี้บินเข้าออกสนามรบได้อย่างอิสระ

มาแรครู้เรื่องโดรนเยอะ เมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมรบส่วนมากเขามีประสบการณ์ที่แอฟริกาเหนือกับหน่วยทหารอเมริกา

ในความเป็นจริงการยิงโดรนเหล่านี้ให้ตกลงเป็นเรื่องง่าย เมื่อพวกมันบินผ่านมาถ้าเกิดเล็งไปทิศทางบินก็จะสามารถยิงโดรนตกได้ง่าย

พวกเขาไม่ต้องการปืน แค่หินก็เอาอยู่

แต่มันดูเหมือนว่าโดรนพวกนี้มีสมอง โดรนพวกนี้ทั้งใช้บังเกอร์เพื่อหลบการยิงปะทะ แล้วพวกมันยังใช้การยิงกดพื้นฐานและใช้กลยุทธ์เข้าล้อมเพื่อจัดการกับการป้องกันที่คงที่ไว้

มันราวกับว่าโดรนทุกตัวถูกควบคุมโดยวิศวกรอุปกรณ์ไร้คนขับผู้เชี่ยวชาญ…

เปลวไฟที่ทะยานขึ้นฟ้าได้บดบังดวงอาทิตย์ในขณะที่ควันโขมงจากหุบเขากลายเป็นก้อนเมฆบนท้องฟ้า ลมพัดทรายสีเหลืองไปทั่วสนามรบโกลาหล

มาแรคกำลังตามหาร่องรอยผู้ทิ้งระเบิด ทหารโซมาเลีย การ์ดชายแดน และแม้แต่ฐานทัพอเมริกาที่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร ต่างลุกลี้ลุกลนตามหาแหล่งที่มาของการจู่โจมทางอากาศ

มันไม่มีร่องรอยขอเครื่องบินแม้แต่ลำเดียวบนเรดาห์

พวกเขายังตรวจจับนกไม่ได้แม้แต่ตัวเดียว!

จู่โจมทางอากาศ?

มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?!

มันสามารถมีการโจมตีปืนใหญ่ที่แม่นยำได้อย่างไร?!

และที่สำคัญที่สุด พวกนั้นหาแหล่งเก็บกระสุนเจอได้อย่างไร!

พวกนั้นเดาเอาเหรอ?

นายพลคัทซ์โนวางกล้องโทรทรรศน์ในมือลง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความตะลึง

ผู้พันอบาติยืนอยู่ข้างเขา ผู้พันก็อึ้งเช่นกัน

เขากลืนน้ำลายและถามว่า “มันมีการจู่โจมทางอากาศที่ทาง PLA ประกาศใช่ไหม?”

“ใช่ครับ…”

“ได้ยินเสียงเครื่องบินรบบ้างไหม?”

“ไม่เลย…เรือบรรทุกอากาศยานของพวกนั้นยังอยู่ที่ทะเลจีนตะวันออก”

“เครื่องบินอะไรบินเร็วขนาดนี้?”

“ไม่รู้สิ อย่าถามผมเลย”

“งั้น…เราควรเดินหน้าต่อใช่ไหม?”

“ขึ้นรถก่อน…”

มันไม่มีความลุ้นระทึกในการสู้รบอีก

มันดูเหมือนว่าแผนรับมือฉุกเฉินที่ถกกันในการประชุมรบถูกใช้งาน

แน่นอนว่ามันเกือบเป็นเรื่องดี

พวกเขามีความรู้สึกรุนแรงว่า…

สงครามนี้จะจบลงอย่างรวดเร็ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+