World of Warcraft ราชันต่างภพ 482

Now you are reading World of Warcraft ราชันต่างภพ Chapter 482 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“มารดามัน ทำไมจึงถึงไวนัก?” เซียวอวี๋รู้สึกเซ็ง แต่ก็นั่นล่ะ ความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ

“หลังจากมีความสุขอยู่หลายวัน ถึงเวลาต้องทำงานแล้ว”
เดิมที เซียวอวี๋คิดว่ามันเป็นเพียงข้อตกลงทางธุรกิจ เขายื่นมือช่วยเหลือเพื่อรับตัวผู้มีความสามารถทางด้านการเงิน แต่เขาก็คาดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะลงเอยเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงจริงจังกับมันมากขึ้น
ตอนนี้ กองทัพของเขายังมาไม่ถึง ต่อให้ทราบตำแหน่งที่แม่และน้องสาวของสกาเล็ตถูกขังไว้ เขาก็ยังเข้าไปช่วยเหลือไม่ได้
เมื่อมาถึงเมืองเม็ก สกาเล็ตก็ตาแดงก่อนจะร้องไห้ออกมา เซียวอวี๋โอบกอดสกาเล็ตไว้ “ที่รักเจ้าเป็นไรแล้ว?”
หากเป็นเซียวอวี๋ในอดีต ตัวเขาคงรู้สึกกระอักกระอ่วนที่จะพูดคำหวานหูเช่นนี้ แม้แต่กับหลินมู่เสวี่ย เขาเองไม่ได้เรียกนางแบบนี้ แต่ไม่รู้ทำไม เขาจึงเรียกนางได้อย่างไม่ติดขัด
บางที…มันอาจจะเป็นเพราะช่วงเวลาที่ใช้ร่วมกันหลายวันมานี้
“ข้ากังวลเรื่องท่านแม่กับน้องสาวของข้า อยู่ที่นั่นพวกนางต้องทรมาณมากแน่ๆ ขณะที่ข้ามีความสุขดี ข้ารู้สึกผิด…” สกาเล็ตสะอื้นขณะซบหน้าลงบนบ่าของเซียวอวี๋
“โอ๋ๆ…ที่รัก สามีอยู่นี่ทั้งคน เจ้าจะกังวลไปใย? วางใจเถอะ ต่อให้พวกนางถูกจับอยู่ในนรก สามีของเจ้าก็จะช่วยพวกนางออกมาให้ได้…เจ้าควรหาที่ซ่อนตัวก่อน ข้าจะเข้าเมืองไปตรวจสอบสถานการณ์ ไม่กี่วันคงช่วยพวกนางออกมาได้ ไม่ต้องกังวล….” เซียวอวี๋รู้สึกหลงตัวไปบ้าง แต่เขาก็รู้สึกดี คนที่ตกอยู่ในห้วงรักมักจะมีความหลงตัวเองเป็นธรรมดา
ฟังคำปลอบโยนของเซียวอวี๋แล้ว นางก็มุ่ยปากก่อนจะพยักหน้า ท่าทีที่ดูน่ารักนี้ถึงกับทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมา
แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา เซียวอวี๋สงบจิตใจลงเพื่อเตรียมตัวเข้าเมือง
เซียวอวี๋ลงจากรถม้า เขาตัดสินใจจะนำอิลิดันไปด้วย ขณะที่ทิ้งคาเอลไว้ที่นี่เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุไม่คาดฝัน
ตราบที่ไม่มีตัวตนขั้นที่หกโผล่มา คาเอลเพียงคนเดียวก็สามารถถล่มราบทั้งกองทัพ
เดิมทีสกาเล็ตต้องการจะไปด้วย แต่เซียวอวี๋ก็ยืนกรานปฏิเสธ เขาไม่ต้องการให้ผู้หญิงของตนไปเสี่ยงอันตรายหรือบาดเจ็บใดๆ
นอกจากนี้ หากนางไปด้วยกันแล้วมีคนจดจำนางได้ นั่นก็แย่แล้ว
อย่างไรเสีย ที่เมืองแห่งนี้ก็ไม่มีใครรู้จักเขา เขาจะลงมือได้สะดวกกว่า
เซียวอวี๋พลิกตัวขึ้นม้าก่อนจะควบเข้าเมืองอย่างวางท่า โดยมีอิลิดันติดตามอยู่ด้านหลัง
หลังจากนั้นประมาณสิบนาที เซียวอวี๋ก็มองเห็นกำแพงสูงใหญ่ของเมืองเม็ก ตั้งแต่ที่เซียวซานเทียนเข้าพิชิตมันได้ เมืองนี้ก็ปรับปรุงกำแพงให้สูงกว่าเดิม
เซียวอวี๋มองตัวเมืองที่ตั้งอยู่บนเนินเขาอย่างชื่นชม กำแพงเมืองที่เบื้องหน้านับเป็นกำแพงที่สูงที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา
นอกจากนี้ บนกำแพงยังติดตั้งเครื่องมือป้องกันหลากหลายอย่างจนแน่นขนัด
เซียวอวี๋ละสายตาจากกำแพงเมืองก่อนจะกระตุ้นม้าเข้าไปในเมือง ที่ทางเข้าเมือง เซียวอวี๋ล้วงเอาเหรียญตราออกมาให้ทหารยามดู ทหารยามนายนั้นเพ่งตามองก่อนที่จะแสดงสีหน้ายำเกรง เขารีบเปิดทางให้เซียวอวี๋เข้าไปด้วยความเคารพ
เหรียญตรานี้เป็นสกาเล็ตมอบให้เขา เซียวอวี๋ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันก็ได้ผล
เซียวอวี๋เข้าไปในเมืองและพบว่ามันเจริญรุ่งเรืองมาก มันไม่ได้ด้อยกว่าเมืองเบนกาซีที่เขาเคยไปเลย นี่เป็นเมืองการค้าขนาดใหญ่
เซียวอวี๋ขี่ม้าชมเมืองอย่างสบายอารมณ์ ขณะที่สายตากวาดเมืองโดยรอบเพื่อทำความเข้าใจกับโครงสร้างของเมือง
ในใจคิดหาทางสืบข่าวเรื่องแม่และน้องของสกาเล็ต เขายังไม่คุ้นกับเมืองนี้ ดังนั้นย่อมไม่อาจบุกตรงไปยังคุกคุมขัง
แม้เซียวอวี๋จะล่องหนได้ แต่แน่นอนว่าคุกนั้นย่อมต้องมีวิธีรับมือกับพวกมือสังหาร การช่วยคนออกมาจึงไม่ง่ายเลย
ขณะที่เซียวอวี๋ขบคิดอยู่นั้น ทหารกลุ่มหนึ่งก็ขี่ม้าตรงมาทางเขา คนที่ดูเหมือนหัวหน้านั้นอายุราวยี่สิบปี และมีใบหน้าเย่อหยิ่ง แม้ถนนเส้นนี้จะมีคนอยู่พลุกพล่าน เขาก็ยังควบม้าอย่างรวดเร็วโดยไม่กลัวว่าจะชนใครเข้า ม้าที่เขาขี่เองก็เป็นม้าพันธุ์เหลียงซูซึ่งเป็นม้าพันธุ์ดีของจักรวรรดิเมฆาตะวันออก
เหล่าผู้ที่เดินอยู่ เมื่อเห็นชายหนุ่มคนนี้ควบม้าพุ่งมาก็พากันหลบ พ่อค้าบางคนกระทั่งไม่เก็บของก็หลบอย่างรวดเร็ว ชัดเจนว่าเหตุการณ์เช่นนี้คงเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
เห็นเซียวอวี๋ยังนิ่งไม่หลบหลีก เขาก็สะบัดแส้เร่งม้า พริบตาเดียวก็อยู่ห่างจากเซียวอวี๋เพียงสามสิบเมตร
“เจ้าหนุ่มนั่นตาบอดหรือ? ยังไม่รีบหลีกทางให้คุณชายอีก” ฝูงชนเริ่มซุบซิบพูดคุย
เมื่อเห็นว่าเซียวอวี๋ไม่มีทีท่าจะขยับหลบ ชายหนุ่มก็โมโห เขาสะบัดแส้ฟาดใส่เซียวอวี๋ทันที
เพี๊ยะ…..
แส้ที่ฟาดไปไม่อาจสัมผัสถูกตัวเซียวอวี๋ กลับกัน ชายหนุ่มกลับถูกตบหน้าจนลอยไปกระแทกเข้าอาคารไม้ข้างทาง
อาคารไม้หลังนั้นถล่มพังลงมาและฝังชายหนุ่มคนนั้นไว้ใต้ซาก
“นายน้อย นายน้อย!” พวกผู้คุ้มกันที่ติดตามมาต่างตกตะลึง พวกเขารีบพุ่งเข้าไปช่วยชายหนุ่มคนนั้น
พวกติดตามต่างเดือดดาลที่เซียวอวี๋ทำร้ายนายน้อยของพวกมัน บางส่วนพากันชักดาบเวทพุ่งโถมเข้าใส่พวกเซียวอวี๋
ผู้ที่โจมตีใส่ชายหนุ่มก็คืออิลิดัน ตอนนี้อิลิดันอยู่ในขั้นที่ห้า ดังนั้นจึงรวดเร็วยิ่ง วินาทีที่ชายหนุ่มผู้นั้นฟาดแส้มา เขาก็พุ่งไปตบชายหนุ่มจนลอยกระเด็น ก่อนจะกลับมาที่ข้างกายเซียวอวี๋โดยไม่มีผู้ใดทราบว่าเขาลงมืออย่างไร
อย่างไรก็ตาม เมื่ออิลิดันลงมือต่อนายน้อยของพวกมัน แน่นอนว่าพวกมันย่อมปล่อยไปไม่ได้ หลายคนปลดคันธนูจากบนหลังก่อนจะพาดศรเล็งยิงไปที่เซียวอวี๋และอิลิดัน
เซียวอวี๋ไม่แม้แต่จะชำเลืองมองลูกธนูเหล่านั้น อันที่จริงเขาไม่ได้สนใจพวกที่เข้ามาหาตั้งแต่แรก
ขณะที่ลูกธนูกำลังจะปักเข้าที่ร่างของเซียวอวี๋นั้นเอง อิลิดันพุ่งออกมาพลางกวัดแกว่งดาบจันทร์เสี้ยว พริบตาถัดมาลูกธนูก็ถูกฟันหักทั้งหมด
จากนั้นพวกผู้คุ้มกันก็ลอยกระเด็นทีละคนโดยไม่ทันมีเวลาตอบโต้ใดๆ
การลงมือของอิลิดันราวกับพยัคฆ์กระโจนเข้าฝูงแกะ เพียงการโจมตีก็ส่งพวกผู้คุ้มกันร่วงไปกองกับพื้น
อิลิดันเพียงใช้กำปั้นชกออก ทั้งยังใช้ด้วยแรงไม่ถึงครึ่ง เซียวอวี๋ไม่ได้สั่งให้ฆ่า หากแต่เพียงสั่งสอนคนพวกนี้
“ขะ…แข็งแกร่งนัก…อย่างน้อยเขาต้องเป็นนักรบขั้นที่สี่ เร็ว! รีบไปรายงานต่อนายท่าน บอกว่านายน้อยถูกคนทุบตี” ผู้คุ้มกันหลายคนร่ำร้องก่อนจะวิ่งหนีหายไป
เซียวอวี๋ยังคงไม่แยแสต่อสิ่งใด เขากระตุ้นม้าให้ออกเดินต่อ เหล่าชาวเมืองที่มุงดูต่างก้มองเซียวอวี๋อย่างเกรงกลัว ไม่มีผู้ใดกล้าไปหยุดยั้งเขา
ขี่มาได้ครู่หนึ่ง เซียวอวี๋ก็มองเห็นร้านอาหาร เขาลงจากหลังม้าและใส่สายจูงให้พนักงานดูแล จากนั้นก็เดินเข้าไปอย่างสบายใจ
ผู้คนด้านนอกต่างมองตามด้วยความประหลาดใจเพราะเซียวอวี๋ไม่ได้หลบหนี หากแต่เดินเข้าร้านอาหารอย่างสบายอารมณ์
คนผู้นี้เป็นใครกัน? ยังมีอารมณ์ดื่มกินอีกหรือ?
เซียวอวี๋เดินขึ้นไปชั้นบน บริกรมองดูเซียวอวี๋ด้วยความสนใจ ยังไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งอื่น เพียงท่าทางเดินกร่างและสายตาที่เย่อหยิ่งนั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา
พวกคนรวยนั้นไม่อาจตอแยได้ ดังนั้นบริกรจึงเข้าหาเซียวอวี๋อย่างสุภาพและกระตือรือร้น พวกเขารีบจัดหาโต๊ะที่ดีที่สุดให้เซียวอวี๋
เซียวอวี๋พยักหน้าอย่างเฉื่อยชา หลังจากนั่งลงแล้วเขาก็สั่ง “นำไวน์และอาหารที่ดีที่สุดในร้านมาให้นายน้อยผู้นี้ทดลองชิมดู”
พวกบริกรที่ได้ยินก็ไม่ชักช้า พวกเขารีบไม่จัดการทันที ไม่นาน อาหารก็ถูกยกมา เถ้าแก่ของที่นี่ถึงกลับก็นำไวน์มาส่งด้วยตนเอง
เซียวอวี๋เริ่มลงมือจัดการอาหาร อืม….รสชาติดี
ทว่าไม่นาน เสียงฝีเท้าจำนวนมากก็ดังขึ้น ร้านอาหารแห่งนี้พลันถูกกลุ่มทหารเข้าโอบล้อม…..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด