World of Warcraft ราชันต่างภพ 499

Now you are reading World of Warcraft ราชันต่างภพ Chapter 499 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“บัดซบ!” เซียวอวี๋หงุดหงิด เช่นนี้แผนการของเขาก็ใช้ไม่ได้แล้ว เขาวางแผนจะล่ออีกฝ่ายเข้ามาและระเิบดยอดเขาเพื่อให้หินถล่มทับอีกฝ่ายให้ย่อยยับไป

แต่ผู้ใดจะทราบได้เล่าว่าเหตุการณ์จะออกมาเป็นเช่นนี้ เหตุการณ์แปลกๆที่เกิดแทรกขึ้นนี้ทำให้แผนการของเขาพังทลายไม่มีชิ้นดี เดิมที เซียวอวี๋นั้นคำนวณเอาไว้แล้วว่าต้องให้อีกฝ่ายอยู่ตำแหน่งใดจึงจะโดนหินถล่มอย่างสมบูรณ์ ทว่าตอนนี้มันกลับเกิดขึ้นก่อนกำหนด แม้หินถล่มครั้งนี้จะคร่าชีวิตอีกฝ่ายไปได้จำนวนหนึ่ง กระนั้นมันก็ยังไม่ถึงจุดที่เขาคาดหวังเอาไว้
ครึ่ก……
เศษหินจำนวนนับไม่ถ้วนกลิ้งถล่มไปทางกองทัพของอัสวาน ยิ่งเมื่อหินเหล่านี้กลิ้งจากที่สูงลงที่ต่ำด้วยแล้ว แน่นอนว่าอานุภาพของมันย่อมสะท้านสะเทือนไม่ต่างจากเวทระดับหก
ที่สำคัญก็คือ มันครอบคลุมพื้นที่เป็นวงกว้าง ต่อให้เป็นธีโอดอร์มาเอง การร่ายเวทถล่มพื้นที่กว้างขนาดนี้ก็ยังไม่ใช่เรื่องง่าย
อัสวานใบหน้าเขียวคล้ำ เขาคาดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้นด้วย
“ถอย! ถอยทัพ!” โชคดีที่กองทัพพลเกราะหนักยังเดินทางมาไม่ครบ มิเช่นนั้น หากเผชิญหน้ากับหินกลิ้งเหล่านี้ กองทัพของคงถูกทำลายจนสิ้นซาก
แต่ต่อให้เริ่มถอยทัพตอนนี้ มันก็ยังสายไปบ้าง
ด้วยเหตุนั้น ไพร่พลเกราะหนักบางส่วนจึงถูกหินทับร่างจนแหลกเละ กระทั่งพลม้าเองก็ยังถูกทับไปทั้งคนทั้งม้า
อย่างไรก็ตาม หลังจากกลิ้งลงมาพักหนึ่ง ก้อนหินก็ไปติดกับต้นไม้สูงใหญ่
กระนั้น ยอดผู้สูญเสียจากกองทัพของอัสวานก็ยังสูงมากอยู่ดี
ในเวลานั้นเอง สายฟ้าเริ่มแปลบปลาบอีกครั้งบนท้องฟ้า ทันใดนั้น ตำแหน่งที่ก้อนหินกลิ้งตกลงมาก็เปล่งแสง ราวกับมีไฟฉายขนาดยักษ์แหงนส่องขึ้นฟ้า
“กลิ่นอายเวทมนตร์ที่ทรงพลังนัก!” ร่างหนึ่งเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาเหลือเชื่อ
คนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น เอกวินน์
“มีอะไรหรือ?” เซียวอวี๋ตระหนักได้ทันทีว่าเอกวินน์ล่วงรู้บางสิ่ง อย่างไรเสียนางก็มีชีวิตอยู่มากว่าหมื่นปีแล้ว
“พลังขุมนี้ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยนัก เหมือนข้าเคยพบเห็นมาก่อน” เอกวินน์มองแสงพลางครุ่นคิด
“ที่ใด? ลองนึกดูให้ดีๆ” เซียวอวี๋เบิกตากว้าง มันจะต้องเป็นสถานที่โบราณไม่ผิดแน่ และที่เหล่านั้นก็ล้วนแต่มีสมบัติล้ำค่า
ครืน…….
สายฟ้าผ่าลงยอดเขาอีกครั้ง ทำให้เศษหินปลิวกระจายและเผยให้เห็นเค้าโครงหลังคาของสิ่งก่อสร้างหลังหนึ่ง
เซียวอวี๋รู้สึกคุ้นเคยกับมันเช่นกัน ทว่าในเกมวอร์คราฟนั้นเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างอันตระการตา ดังนั้นในเวลาอันสั้นจึงยากจะนึกออก
ขณะที่เอกวินน์กำลังจมลึกอยู่ในภวังค์ สายฟ้าก็ยังคงผ่าลงจุดเดิม แต่ไม่หนาแน่นเท่าเก่า
หลังคาของสิ่งก่อสร้างโบราณนั้นมีม่านอาคมกางป้องกันอยู่ ตัวสายฟ้าจึงไม่อาจสร้างความเสียหายต่อตัวสิ่งก่อสร้าง
เป็นที่ใดกัน? เป็นผู้ใดที่สร้างม่านอาคมครอบคลุมสิ่งก่อสร้างหลังนี้ไว้?
ยิ่งหินปลิวกระจาย เซียวอวี๋ก็ค่อยๆได้เห็นรูปลักษณ์ของสิ่งก่อสร้าง
“นี่…นี่มัน สโคโลแมนซ์….” เซียวอวี๋โพร่งออกมา
“อะไรนะ? มันคือ สโคโลแมนซ์ที่เป็นโรงเรียนของพวกเนโครแมนเซอร์น่ะหรือ?” ลีอามาถึงข้างกายของเซัยวอวี๋พลางอุทานด้วยความตกตะลึง
เซียวอวี๋พยักหน้า “ไม่ผิดแน่ นี่คือ สโคโลแมนซ์ แต่ไฉนมันจึงมาอยู่ที่นี่ได้?”
“ทวีปแห่งนี้ยังมีหลายสิ่งที่เจ้าไม่อาจจินตนาการ ต่อให้สโกโลแมนซ์ปรากฏขึ้นที่นี่ก็ไม่แปลก” เอกวินน์กล่าวตอบ
“เช่นอะไรบ้าง?” เซียวอวี๋ตกตะลึง ดูเหมือนว่าเอกวินน์จะล่วงรู้บางสิ่ง
เอกวินน์หันไปมองเซียวอวี๋อย่างเย้ยหยัน “ด้วยกำลังของเจ้าแล้ว เจ้ายังไม่มีคุณสมบัติจะล่วงรู้”
เซียวอวี๋มุ่นคิ้วมองเอกวินน์อย่างไม่พอใจ
ระยะนี้เซียวอวี๋และเอกวินน์มักจะปะทะคารมกันอยู่บ่อยครั้ง ตัวเขาต้องการใกล้ชิดสนิทสนมกับมู่เสวี่ย แต่ทุกครั้งที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม เอกวินน์ก็จะโผล่ออกมาขัดขวางความสุขของเขาอยู่ร่ำไป
เซียวอวี๋ไม่มีวิธีจัดการกับนาง ไม่รู้ว่าพลังของนางฟื้นฟูกลับมามากน้อยเท่าใด แต่ในเวลานี้ กระทั่งพวกคาสโซ่ก็ยังต้านทานนางไม่ได้แม้แต่การโจมตีเดียว การจัดการกับพวกเขา เอกวินน์ลำบากเพียงยกมือเท่านั้น
กระนั้นเอกวินน์ก็ไม่ได้ทำร้ายพวกเขาอย่างจริงจัง อย่างมากก็ทำให้พวกเขานอนรักษาตัวไปหลายวัน ไม่ได้สร้างแผลร้ายแรงหรือตั้งใจสังหารแต่อย่างใด ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่เซียวอวี๋อดกลั้นเอาไว้
เขารับรู้ได้ว่าตัวเอกวินน์ไม่ได้เป็นภัยคุกคามในเวลานี้ มิเช่นนั้น ด้วยพลังอันล้นเหลือของนางแล้ว การสังหารทุกคนย่อมไม่ได้ยากเย็นอะไรมาก
ช่างเป็นจอมมนตราที่น่าพรั่นพรึงโดยแท้ กระทั่งธีโอดอร์ก็ยังไม่อาจต่อกรกับทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเอกวินน์จะเหนือล้ำกว่าธีโอดอร์มาก ไม่มีผู้ใดทราบว่าที่แท้นางแข็งแกร่งถึงระดับใดกันแน่
ตอนนี้เอง ก้อนหินก้อนดินที่ปกคลุมสิ่งก่อสร้างเอาไว้ก็ค่อยๆหมดไปและเผยให้คนทั้งหมดมองเห็นสิ่งก่อสร้าง
เมื่อมองดูบานประตูอันแสนคุ้นเคยแล้ว เซียวอวี๋ก็ทอดถอนใจ ครั้งหนึ่ง ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของตระกูลบารอฟ เคลธูซาดและคนอื่นๆมากมาย
ตั้งแต่ที่โรงเรียนสโคโลแมนซ์ตั้งอยู่ที่นี่ เช่นนั้น….มันก็สมควรมีสิ่งก่อสร้างสำคัญอีกหลายแห่งอยู่ใกล้ๆ
อย่างเช่น….หลุมฝังศพของอูเธอร์!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด