World of Warcraft ราชันต่างภพ 547

Now you are reading World of Warcraft ราชันต่างภพ Chapter 547 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล


หลังจากพูดคุยกันร่วมชั่วโมง จู่ๆโถวปาหงก็พลันกล่าวว่า “กองทัพม้าของท่านลุงเป็นทัพอันดับหนึ่งในแผ่นดิน ชื่อเสียงของทัพยังเลื่องลือไปยังอาณาจักรข้างเคียง วันนี้หลานมาที่นี่เพื่อชมความสง่างามของทัพพยัคฆ์ เมื่อกลับไปย่อมนำไปเล่าเรื่องราวให้เป็นแรงบันดาลใจของกองทัพที่คอยปกป้องประชาชนทั่วจักรวรรดิ”
ได้ยินโถวปาหงกล่าวเช่นนี้ โถวปาหู่ก็ขมวดคิ้วมุ่น โถวปาหงหมายความว่าอย่างไร? มาเพื่อชมดูทัพพยัคฆ์แล้วกลับไปเล่าให้ทัพของตนฟัง เรื่องราวย่อมไม่เรียบง่ายดังว่าเป็นแน่
หรือเห็นว่ากองทัพพยัคฆ์ของเขาไม่มีความสามารถแท้จริงอันใด?
ในใจของโถวปาหู่เริ่มหงุดหงิด เขาไม่พอใจกับคำกล่าวนี้ของโถวปาหงมาก โถวปาหู่พลันแค่นเสียงเย็น “อืม เช่นนั้นเชิญฝ่าบาทตามกระหม่อมไปชมความสามารถของทัพพยัคฆ์”
โถวปาหู่ยังตั้งใจจะใช้โอกาสนี้แสดงอำนาจของทัพพยัคฆ์ ให้ท่านดูว่าทัพพยัคฆ์เป็นอย่างไร ดูว่าถึงตอนนั้นยังจะไม่ต้องการทัพพยัคฆ์หรือไม่
“ดี” โถวปาหงได้ยินก็ลุกขึ้นเผยยิ้มบนใบหน้า
โถวปาหู่เองก็ลุกขึ้นและเดินนำออกไป ขณะที่เขาเดินผ่านเซียวอวี๋และอ้าวปา เขาก็กวาดมองคนทั้งสองก่อนจะแค่นเสียงคำหนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าโถวปาหู่นั้นมองออกว่าท่าทีของโถวปาหงในวันนี้ย่อมไม่ได้คิดได้ด้วยตนเอง มันจะต้องเป็นความคิดของเซียวอวี๋และอ้าวปาเป็นแน่
ทุกคนล้วนออกไปด้านนอก โถวปาหู่เรียกโถวปาเฟิงเข้ามากล่าวอยู่หลายคำ ก่อนที่โถวปาเฟิงจะออกไปทำตาม
ด้วยเหตุนั้น เมื่อพวกเซียวอวี๋เดินไปยังเวทีไม้ที่สร้างขึ้นชั่วคราว พวกทหารทั้งหมดภายในค่ายก็ถูกเรียกตัวมาจากรอบทิศทางดุจน้ำป่าไหลหลาก
ในกระบวนการทั้งหมด นอกจากเสียงฝีเท้าม้าแล้ว เสียงตะโกน เสียงบ่นล้วนไม่มีสักคำ นี่ทำให้เห็นถึงระเบียบวินัยอันเป็นมาตราฐานของกองทัพนี้
ยิ่งไปกว่านั้น อาชาอัสนีพวกนี้แต่ละตัวยังสูงกว่าสองเมตร พร้อมกับเกราะที่หุ้มทั่วร่าง ด้วยจำนวนที่มีหลายพัน แต่เมื่อพวกมันวิ่งอยู่บนพื้นดินกลับส่งเสียงออกมาเบามากคล้ายยามคนธรรมดาก้าวเดินปกติ นี่ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่ธรรมดา
“มารดามัน ทัพพยัคฆ์นี่ไม่ได้มีดีแต่ชื่อจริงๆ” กระทั่งเซียวอวี๋เมื่อได้เห็นฉากนี้ก็ยังรู้สึกตื่นตา จักรวรรดิเมฆษถึงกับมีกองทัพเช่นนี้อยู่ด้วย
ยิ่งดูเซียวอวี๋ก็ยิ่งชอบทัพพยัคฆ์นี้มากขึ้นจนเขาอยากได้มาครอบครอง แต่เขาก็รู้ว่านั่นเป็นไปไม่ได้
ต้องใช้ความพยายามมากเท่าใดจึงจะได้ทัพเช่นนี้มา กระทั่งจักรพรรดิอย่างโถวปาหงยังไม่ได้ครอบครอง แล้วเขาจะได้ได้อย่างไร?
ไม่ถึงห้านาที กองทัพพยัคฆ์ที่มีกำลังนับหมื่นก็มาเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ครั้งนี้ โถวปาหู่นำทัพพยัคฆ์มาด้วยสองหมื่นนาย เพียงไม่กี่นาทีสามารถรวบรวมกำลังได้ครึ่งหนึ่ง กองทัพนี้ต้องมีวินัยมากเพียงใดกัน?
เซียวอวี๋ลองคำนวณในใจ หากว่ากองทัพไพร่พลทหารทั่วไปของเขาต้องรวบรวมกำลังหนึ่งหมื่นนาย มันก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยราวครึ่งชั่วโมงถึงจะปฏิบัติตามได้
อย่างไรก็ตาม ทหารและม้าล้วนแต่เป็นระเบียบราวกับกำลังจะเดินพาเหรดเช่นนี้ น้อยนักที่จะมีทัพใดกระทำตามได้
“ค่ายพยัคฆ์ดำ ค่ายที่หนึ่งแห่งทัพพยัคฆ์ มารายงานตัว!” โถวปาเฟิงที่อยู่บนหลังม้าเปกาซัสที่ด้านหน้าก็ตะโกนออกมา
พร้อมกับเสียงตะโกนของเขา พวกทหารที่ด้านหลังก็ตะโกนตาม “ค่ายพยัคฆ์ดำ ค่ายที่หนึ่งแห่งทัพพยัคฆ์ มารายงานตัว!”
เสียงตะโกนเลือนลั่นประดุจฟ้าร้องนี้สามารถได้ยินไปไกลหลายกิโลเมตร
จากนั้นพวกม้าศึกก็แหงนหน้ากู่ร้องเสียงดัง เซียวอวี๋ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าพวกเขายังสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลจนรู้สึกแน่นหน้าอก
“มารดามันเถอะ! ม้าพวกนี้ร้องคำรามพร้อมกันถึงกับสร้างแรงกดดันเช่นนี้ขึ้นมาได้ ทั้งที่เห็นชัดๆว่ายังไม่ได้เข้าสภาวะต่อสู้ ถึงตอนนั้นจะทรงพลังเพียงใดกัน? ไม่แปลกที่โถวปาหงจะให้ความสำคัญต่อทัพพยัคฆ์นี้มาก ทัพนี้ทรงพลังมากจริงๆ หากว่ากองทัพหนึ่งหมื่นนายนี้พุ่งเข้าใส่พร้อมกัน ผู้ใดยังจะต้านทานได้?” ลองประเมินดูแล้ว ต่อให้มีกองทัพนักรบออร์คหนึ่งหมื่นนายในมือ หากต้องสู้กับกองทัพเช่นนี้ เขาย่อมไม่อาจมีเปรียบแม้แต่น้อย แต่สาเหตุที่พวกออร์คถูกกวาดล้างจนสิ้นเผ่าพันธุ์นั้นก็เป็นเพราะพวกออร์คไม่รู้จักใช้กระบวนทัพ การต่อสู้รู้จักแต่เพียงตะลุมบอน แม้ความสามารถส่วนตัวจะสูงล้ำ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกระบวนทัพเช่นนี้ของมนุษย์แล้วก็มีแต่แพ้
เซียวอวี๋รู้สึกตะลึง
นี่นับเป็นกองทัพที่เข้มแข็งที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอมา
จินตนาการถึงทัพหนึ่งหมื่นนายนี้พุ่งเข้าใส่พร้อมกัน นั่นจะน่าพรั่นพรึงเพียงใด
“เราเองก็ต้องการอัศวินหนึ่งหมื่นนาย แต่น่าเสียดายที่มียูนิตประเภทนี้ไม่มากนัก”
เซียวอวี๋กัดริมฝีปากและรู้สึกว่าตัวเขาประเมินทัพพยัคฆ์ต่ำเกินไป
อย่างไรก็ตาม เวลานี้เป็นช่วงสำคัญของการเจรจากับโถวปาหู่ พวกเขาไม่อาจแสดงความหวั่นไหวใดๆ มิเช่นนั้นที่ทำมาจะเสียเปล่า
‘ทัพพยัคฆ์คู่ควรแล้วที่ได้ชื่อว่าเป็นทัพอันดับหนึ่งของจักรวรรดิเมฆา’ โถวปาหงที่ยืนอยู่บนเวทีไม้มองดูเหล่าทหารหาญที่เบื้องล่าง หากแต่สีหน้าของเขายังคงนิ่งเฉยราวกับกวาดมองหมู่มวลดอกไม้ในสวน
ดูจากท่าทีที่แสดงออกมาแล้ว ตอนนี้โถวปาหงมีลักษณะท่าทางของจักรพรรดิอย่างแท้จริง….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด