World of Warcraft ราชันต่างภพ 606

Now you are reading World of Warcraft ราชันต่างภพ Chapter 606 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล

ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล

หลังจากที่พวกอันเดดเข้าไปอยู่ภายในแน็กแรม เซียวอวี๋ก็ออกคำสั่งให้กองทัพอันเดดมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ที่ถูกพวกทหารทมิฬยึดครองเพื่อเพิ่มพลังรบ อย่างไรเสีย พวกทหารทมิฬก็ไม่อาจนับว่าเป็นมนุษย์ได้อีกต่อไป ดังนั้นการเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นอันเดดและนำมาใช้ในการรบจึงไม่ได้สร้างความตะขิดตะขวงใจเท่าใดนัก อาร์ทัสยังคงจงรักภักดีต่อเซียวอวี๋ แต่เซียวอวี๋ก็ได้เตรียมแผนการในอนาคตสำหรับอาร์ทัสเอาไว้แล้ว เมื่อถึงตอนนั้นเขาอาจจะส่งอาร์ทัสไปปกครองโลกใต้ดิน กลายเป็นราชาแห่งโลกใต้ดิน หรืออาจจะให้อาร์ทัสปกครองแน็กแรมต่อไป เวลานี้ เขาต้องการจะเพิ่มขุมพลังให้กับอาร์ทัสก่อนเพื่อให้เขาสามารถต้านทานพวกทหารทมิฬ อ้างอิงจากความคืบหน้าของพวกอันเดด เซียวอวี๋เชื่อว่าอีกไม่นานยศของเขาคงเลื่อนขึ้นสู่ระดับสูงสุด และเมื่อถึงเวลานั้น เขาก็จะสามารถอัญเชิญฮีโร่ตัวสุดท้ายของเผ่าพันธุ์อันเดดอย่าง จ้าวแห่งความพรั่นพรึง ออกมา ด้วยวิธีนี้ เหล่าอันเดดก็จะมีกลุ่มผู้นำเป็นเสาหลักของกองกำลังและกลายเป็นขุมกำลังขนาดใหญ่อย่างแท้จริง การส่งกองทัพอันเดดไปยังพื้นที่ปกครองของพวกทหารทมิฬของเซียวอวี๋นั้นเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม หลังจากไปถึงที่นั่นได้ไม่นาน อาร์ทัสก็แสดงความสามารถด้านผู้นำของเขาออกมาอย่างโดดเด่นและสังหารพวกทหารทมิฬไปนับไม่ถ้วน และหลังจากพวกทหารทมิฬตกตายลง พวกมันก็จะฟื้นขึ้นมาใหม่ในฐานะทหารอันเดด การทำสงครามในจักรวรรดิเมฆาของพวกทหารทมิฬได้แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกมันไม่ได้มีพลังโจมตีสูงนัก พวกมันเป็นเพียงเหล่าชาวบ้านที่ถูกล้างสมอง ดังนั้นจึงไร้แรงต่อกรกับพวกอันเดดอย่างสิ้นเชิง อาร์ทัสใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถสร้างฐานอำนาจของตนขึ้นมาได้ และการดำรงอยู่ของนครแน็กแรมก็ช่วยให้พวกอันเดดกลายเป็นขุมกำลังฝ่ายใหม่ ทั่วทั้งทวีปตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง เดิมทีแค่พวกทหารทมิฬก็แย่พอแล้ว มาตอนนี้ยังปรากฏพวกอันเดดขึ้นมาอีก นี่ทำให้ผู้คนทั่วไปยากจะข่มตานอนได้ ขณะที่ทางเซียวอวี๋นั้นลอบยินดี ยิ่งพลังของอาร์ทัสเพิ่มพูนขึ้น การทำสงครามกับพวกทหารทมิฬในอนาคตก็จะง่ายขึ้นตาม นี่เป็นเพราะพวกทหารทมิฬนั้นมีมากเกินไป เพียงเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นยากจะกำจัดพวกมันได้ทั้งหมด แต่พวกอันเดดนั้นมีคุณลักษณะคล้ายคลึงกับพวกทหารทมิฬ และการลดทหารทมิฬมาเพิ่มกำลังรบของฝ่ายตนไปในเวลาเดียวกันก็เป็นวิธีการที่ไม่เลว ยิ่งไปกว่านั้น พวกอันเดดนั้นเรียกได้ว่าเป็นดาวข่มของพวกทหารทมิฬเลยก็ว่าได้ หลังจากพวกทหารทมิฬตาย พวกมันก็จะกลายเป็นอันเดด แต่หากพวกอันเดดถูกฆ่าตาย พวกทหารทมิฬก็ไม่สามารถเพิ่มกำลังได้เฉกเช่นเดียวกับพวกอันเดด ด้วยเหตุนี้ เซียวอวี๋จึงตัดสินใจส่งพวกอันเดดไปกอบกู้ทวีป ของเพียงพวกมันได้แสดงด้านที่ดีออกมาสู่สายตาผู้คน พวกอันเดดเองก็สามารถเป็นวีรบุรุษของทวีปได้ ความสำเร็จของอาร์ทัสในแนวหน้านั้นโดดเด่นเป็นอย่างมาก และค่าผลงานของเซียวอวี๋ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนสุดท้ายก็สามารถเลื่อนยศขึ้นเป็นยศสูงสุดที่ระดับจอมทัพ และนี่ทำให้เขาสามารถอัพเกรดฐานทัพอันเดดให้เป็นระดับสาม หลังจากอัพเกรดฐานทัพอันเดดเป็นระดับสาม ยูนิตที่สามารถอัญเชิญออกมาได้ก็คือมังกรน้ำแข็งที่สุดแสนจะแข็งแกร่ง หากส่งฝูงมังกรน้ำแข็งออกไปยังจะมีผู้ใดต้านติดได้อีก? ผลลัพธ์นั้นคล้ายคลึงกับฝูงคิเมร่าของฐานทัพเอลฟ์ จำนวนที่สามารถครอบครองได้สูงสุดคือหนึ่งร้อยตัว แต่ละตัวมีค่าเท่ากับสิบยูนิต ได้เห็นข้อกำหนดนี้ เซียวอวี๋ก็ก่นด่ามารดาของระบบอยู่ในใจ แต่นี่ก็ไม่มีผลอะไร จำนวนหนึ่งร้อยตัวก็ไม่ได้แย่แต่อย่างใด หากตายไปก็สามารถสร้างตัวใหม่ขึ้นมาได้อีก ด้วยการถึงระดับยศสูงสุดของเขา จำนวนยูนิตที่ควบคุมได้จึงเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งหมื่นห้าพันยูนิต และเซียวอวี๋ก็ยกผลประโยชน์ส่วนนี้ให้กับพวกอันเดด ตอนนี้เซียวอวี๋จำเป็นต้องพึ่งพาขุมกำลังของอันเดด นอกจากโควต้าหนึ่งพันยูนิตในการอัญเชิญมังกรน้ำแข็งหนึ่งร้อยตัวแล้ว เซียวอวี๋ยังได้เสริมกำลังให้กับยูนิตอันเดดแต่ละยูนิต และนั่นก็ทำให้จำนวนอันเดดทั้งหมดของฐานทัพอันเดดมีจำนวนมากถึงสองหมื่นตัว การมีอันเดดกำลังหลักจำนวนสองหมื่นตัวได้ยกระดับขุมกำลังของพวกอันเดดขึ้นไปอีกขีดขั้น เพราะสุดท้ายแล้ว พวกอันเดดจากระบบนั้นก็แข็งแกร่งกว่าพวกอันเดดที่ถูกปลุกจากซากศพมาก พวกอันเดดเดินหน้าบุกโจมตีอย่างมั่นคง ขุมกำลังยิ่งมายิ่งใหญ่ขึ้น และพวกทหารทมิฬเองก็ขยายพื้นที่ออกไปอย่างต่อเนื่องเช่นกัน สำหรับกับมนุษย์ธรรมดาทั่วไป เซียวอวี๋ได้กำชับอาร์ทัสไม่ให้สังหารคนเหล่านั้น เขาสั่งให้อาร์ทัสนำตัวคนเหล่านั้นไปกักขังไว้ที่ใดสักแห่ง และตบตาว่าคนเหล่านั้นถูกช่วยเหลือโดยกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ซึ่งแน่นอนว่ากองกำลังลึกลับเหล่านั้นถูกส่งไปโดยเซียวอวี๋ ด้วยวิธีนี้สถานการณ์ในทวีปจึงค่อยๆเด่นชัดขึ้น และกองกำลังของนิโคลัสที่ซุ่มตัวอยู่นานก็ผุดขึ้นกลายเป็นขุมกำลังใหม่ เป็นขุมกำลังที่กระทั่งทรงพลังกว่าฝ่ายของเซียวอวี๋ นิโคลัสผู้นี้เป็นผู้ที่มากความสามารถอย่างแท้จริง อีกทั้งตระกูลที่หนุนหลังเขาอยู่ก็ยังแข็งแกร่ง ดังนั้นขุมกำลังของเขาจึงพัฒนาขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ลีโอนาโดที่ได้ขึ้นเป็นราชาในตอนแรก มาตอนนี้กำลังถูกกดดันอย่างหนัก ดังนั้นเขาจึงต้องละทิ้งตำแหน่งราชาไปจนกลายเป็นเรื่องขำขัน และจากแรงกดดันที่มากขึ้นมากขึ้น การถูกรุกรานโดยพวกทหารทมิฬและกองทัพของกูดาลทำให้เขาจำต้องจับมือเป็นพันธมิตรกับนิโคลัส นิโคลัสเองก็ทราบว่าไม่มีทางเลือกมากนัก ดังนั้นจึงตกลงเป็นพันธมิตรกับลีโอนาโด อีกขุมกำลังหนึ่งที่โดดเด่นก็คือพันธมิตรระหว่างร็อบและกูดาล อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งชี้ว่าร็อบนั้นกำลังค่อยๆถูกกูดาลควบคุม กูดาลนั้นเป็นจ้าวแห่งมนต์ดำ การจะควบคุมจิตใจของผู้คนก็ไม่เหนือบ่ากว่าแรงของเขา หรือที่จริงแล้ว การร่วมกันระหว่างทั้งสองนั้นอาจจะเป็นกูดาลที่ควบคุมมาตั้งแต่แรก? เซียวอวี๋มั่นใจอย่างยิ่งว่าทัพพันธมิตรของทั้งสองเวลานี้ได้ตกอยู่ในการควบคุมของกูดาลอย่างสมบูณณ์แล้ว ตัดกลับมาทางด้านของเซียวอวี๋ ขุมกำลังของเซียวอวี๋นั้นเรียกได้ว่าอยู่ในตำแหน่งมีเปรียบมากที่สุดของทวีปแล้ว เป็นเพราะว่าอาณาเขตในการปกครองของเขาเป็นเพียงอาณาเขตเพียงแห่งเดียวที่ภัยรุกรานของพวกทหารทมิฬถูกตัดออกไปด้วยการมีกองทัพอันเดดเป็นแนวกันชนที่แนวหน้า ดังนั้นศัตรูที่เขาจะต้องเผชิญจริงๆจึงมีเพียงกองทัพของกูดาล อาณาเขตของนิโคลัสและลีโอนาโดนั้นอยู่ที่อีกด้านของกูดาลซึ่งไกลจากเซียวอวี๋เป็นอย่างมาก ขุมกำลังขนาดเล็กหรือประเทศเล็กๆในละแวกใกล้เคียงอย่างเช่น จักรวรรดิแลนซ์ที่เซียวอวี๋เคยไปเยือนก็ล่มสลายและหันไปพึ่งพิงขุมกำลังฝ่ายอื่นๆ ซึ่งฝ่ายที่จักรวรรดิแลนซ์เลือกจะหันไปซบก็คือ ฝ่ายของกูดาล ขุมกำลังส่วนใหญ่นั้นเลือกที่จะไปเข้าร่วมกับนิโคลัสหรือขุมกำลังฝ่ายอื่นๆ ห่างออกไปทางด้านตะวันออกของดินแดนไลอ้อนก็คือ จักรวรรดิเมฆา จักรวรรดิเมฆานั้นเคยเกือบต้องล่มสลายเพราะพวกทหารทมิฬมาก่อน และครั้งนี้ก็ยังได้ส่งกองกำลังชั้นยอดมาช่วยเหลือเซียวอวี๋ในการทำสงคราม นี่คือหนี้ที่โถวปาหงได้ติดค้างไว้ต่อเซียวอวี๋ นอกจากนั้น โถวปาหงยังทราบดีว่าทั่วทั้งทวีปกำลังตกอยู่ในความวุ่นวาย หากไม่ระวังให้ดีก็อาจนำไปสู่การล่มสลายของกฏระเบียบต่างๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เรียกได้ว่าทุกคนกำลังลงเรือลำเดียวกัน หากว่าทวีปล่มสลาย จักรวรรดิเมฆาเองก็คงไม่พ้นต้องมีชะตากรรมเช่นเดียวกับดินแดนแห่งอื่นๆ ดังนั้นจักรวรรดิเมฆาจึงต้องทุ่มสุดกำลังเพื่อชนะในสงครามนี้ เซียวอวี๋พึงพอใจกับการมาถึงของกองกำลังชั้นยอดแห่งจักรวรรดิเมฆามาก โดยเฉพาะทัพพยัคฆ์จำนวนห้าหมื่นห้าพันนาย นี่ทำให้เซียวอวี๋ตื่นเต้นยินดีอย่างที่สุด สำหรับทัพพยัคฆ์นี้ เซียวอวี๋รู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของพวกเขาเป็นอย่างดี เขาเคยร่วมรบกับยอดทหารหาญเหล่านี้มาแล้วหลายครั้ง และเซียวอวี๋ก็มีความประทับใจต่อพวกเขาอย่างลึกล้ำ กองทัพส่วนใหญ่ของจักรวรรดิเมฆานั้นเป็นทหารม้า ดังนั้นเซียวอวี๋จึงส่งพวกเขาไปอยู่ภายใต้การบัญชาของฉินเช่อ เนื่องเพราะผู้นำทัพที่มาในครั้งนี้คือโถวปาหู่ และโถวปาหู่กับฉินเช่อก็รู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งโถวปาหู่ก็ไม่ได้คัดค้านกับการจัดการนี้ “เรียกใช้พวกเราได้ตามต้องการเลย” นี่คือสิ่งที่โถวปาหู่กล่าวกับเซียวอวี๋ สิ่งนี้ทำให้เซียวอวี๋ประทับใจอย่างมาก โถวปาหู่นับว่าเป็นชายชาตรีอย่างแท้จริง สงครามที่ลุกลามไปทั่วทวีปนั้นทำให้ทวีปเปราะบาง และวันหนึ่ง เฟอร์กูสันก็ได้นำพาคนบางคนมายังดินแดนไลอ้อน…..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด