World of Warcraft ราชันต่างภพ 549

Now you are reading World of Warcraft ราชันต่างภพ Chapter 549 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล


โถวปากุ้ยไม่กลัวที่จะเป็นคนบาปของจักรวรรดิ ตราบที่สุดท้ายเขาได้ครองบัลลังก์
แต่ทัพพยัคฆ์ไม่เหมือนกัน พวกเขาได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กให้คอยพิทักษ์จักรวรรดิเมฆา ให้เป็นผู้นำพาความสงบสุขมาสู่จักรวรรดิ
ครั้งนี้ หากพวกเขาเปิดฉากโจมตีใส่โถวปาหง พวกเขาก็จะกลายเป็นคนทรยศต่อชาติบ้านเมือง เพราะหากว่าพวกเขาลงมือจริง แนวรับที่คอยต้านทานพวกเซิกเอาไว้ก็จะล่มสลาย จากนั้นพวกเซิกก็จะกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง ถึงคราวนั้นจักรวรรดิเมฆาย่อมต้องจบสิ้นลง
โถวปาหงเดิมพันว่าพวกโถวปาเฟิงจะไม่กล้าโจมตี มิเช่นนั้น พวกเขาก็จะไม่มีที่ยืนในจักรวรรดิอีก
หมากอันแยบคายของโถวปาหงนี้ผลักพวกโถวปาหู่ไปสู่ทางตัน
“ได้ โถวปาหง ข้าประเมินเจ้าต่ำไป” โถวปาหู่ที่อยู่ในกระโจม เมื่อได้รับรายงานจากโถวปาเฟิงก็หน้าดำครึ้ม
โถวปาเฟิงกล่าวขึ้นว่า “ท่านพ่อ พวกเราควรทำอย่างไรดี? หรือพวกเราจะทำเพียงมองดูอยู่เช่นนี้? แนวหน้าตอนนี้ตึงมือแล้ว หากไม่ได้กองทัพของลอร์ดแห่งดินแดนไลอ้อนประคับประคองไว้ก็เกรงว่าจะล่มสลายไปนานแล้ว ชาวเมฆาย่อมสิ้นชาติ แม้ว่าพวกเขาจะโชคดีต้านทานการโจมตีของพวกเซิกได้โดยไม่พึ่งพวกเรา แต่พวกเขาก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างหนัก หากพวกเซิกรุกหนักกว่านี้ พวกเขาอาจจะล่าถอย ถึงตอนนั้น แม้ว่าพวกเราจะแข็งแกร่ง แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ จักรวรรดิเมฆษคงจบสิ้นเป็นแน่”
ได้ยินผู้เป็นบุตรชายกล่าวเช่นนั้น โถวปาหู่ก้นิ่งเงียบ เขาทราบว่าเวลาเช่นนี้ควรรวมกำลังกับพวกโถวปาหงก่อนที่จะสายเกินการณ์
ทว่าโถวปาหงกลับไม่ต้องการพวกเขา เช่นนั้นเขาจะทำอย่างไรได้? หรือว่าพวกเขาต้องเป็นฝ่ายก้มหัวขอร้องอีกฝ่าย? หากเป็นเช่นนั้นจริง พวกเขายังจะหลงเหลือหน้าตาอันใด?
หรือหากว่าพวกเขายกกำลังกลับดินแดนไป แล้วโถวปาหงชนะล่ะ? พวกเขาที่ทอดทิ้งจักรพรรดิของตัวเองก็ย่อมกลายเป็นคนทรยศ
ถึงตอนนั้นชาวเมฆาคงสิ้นศรัทธาในทัพพยัคฆ์
หัวใจมวลชนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด โถวปาหู่ย่อมทราบดี หากเสียแรงสนับสนุนจากมวลชนไป ทัพพยัคฆ์ก็จะไม่เป็นทัพพยัคฆ์ เทพสงครามโถวปาหู่ก็จะไม่มีผู้ใดให้ความสำคัญอีก
โถวปาหู่ย่อมไม่ต้องการผลลัพธ์เช่นนั้น เขาไม่ต้องการตกตายทั้งเป็น มีชีวิตอยู่มิสู้ตาย
ตัวเขาไม่ได้อยากเป็นจักรพรรดิ หากว่าเขาต้องการ เขาคงลงมือไปนานแล้ว เขาเพียงต้องการอำนาจที่มากขึ้น ได้รับความสนใจจากมวลชนมากขึ้น
ตอนนี้เขาเข้าใจบางสิ่งแล้ว ผู้ที่ดูหมิ่นอำนาจของจักรวรรดิ จักรพรรดิย่อมไม่ปล่อยให้มีบุคคลเช่นนั้นดำรงอยู่
โถวปาหงเข้าใจบทบาทหน้าที่ของจักรพรรดิแล้ว และเขากำลังปฏิบัติมัน
หลายวันผ่านไป สถานการณ์ที่แนวหน้าก็ยิ่งตึงมือขึ้นทุกที เหล่าทหารที่ตายในสนามรบ โถวปาหงได้สั่งให้เผาศพและกลบฝังในสุสานที่จัดขึ้นเพื่อแสดงความเคารพต่อวีรชนผู้กล้า
เพราะว่าหากมีศพกองสุมทับกันมากเกินไป โรคระบาดก็จะตามมา หากว่าเผาศพให้ดีย่อมไม่เกิดเรื่องเช่นนั้น
การเผาศพนับเป็นการสดุดีของชาวเมฆา เป็นการบ่งบอกว่าคนผู้นั้นได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของเทพหมาป่าแล้ว
โถวปาหงได้จัดสร้างสถานที่เผาศพขึ้นไม่ได้ห่างไกลจากค่ายพยัคฆ์มากนัก ทำหค่ำคืน ทหารทัพพยัคฆ์จะได้ยินบทเพลงที่อ้างว้างดังมาจากสถานที่เผาศพและบทสรรเสริญเหล่าชนที่ตายเพื่อปกป้องจักรวรรดิ
โถวปาหงมาเข้าร่วมพิธีเผาด้วยตนเองทุกวันเพื่อเป็นการระลึกถึงพวกเขา ซึ่งนั่นยิ่งเป็นปลุกขวัญกำลังใจของคนที่ยังอยู่ให้สู้ต่อไป
ให้พวกเขาได้รับรู้ว่า แม้ว่าพวกเขาจะตายไป หากแต่ก็ตายอย่างมีคุณค่า ตายอย่างมีเกียรติ
เหล่าแม่ทัพนายกองของทัพพยัคฆ์เห็นชัดกระจ่างตา พวกเขาเห็นโถวปาหงสวมชุดที่ฉีกขาดมาทุกวัน ยืนท่องบทสวดร่วมกับคนโดยรอบอยู่เช่นนั้น
ใบหน้าของโถวปาหงต้องลมหานวและน้ำค้างแข็ง เป็นเพราะกรำศึกอย่างยาวนาน ร่างกายจึงซูบผอมลง แก้มเริ่มตอบลึก มีเพียงแววตาที่ยังมั่นคงแน่วแน่ เขากล่าวด้วยเสียงอันดังว่าเทพหมาป่าอยู่เคียงข้างพวกเขา จักรวรรดิจะยังคงอยู่ พวกเขาจะมีชัยในศึกนี้
ในตอนแรก ทุกคนต่างยังชื่นชมกองทัพพยัคฆ์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ที่แนวหน้า เมื่อพวกเขาได้ยินว่าพวกทัพพยัคฆ์ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมศึกปกป้องแผ่นดิน พวกเขาก็ก่นด่าบอกว่าพวกพยัคฆ์ป่วยมาเพียงเฝ้าดู หากว่าโถวปาหงมีแววว่าจะพ่ายแพ้ พวกเขาก็จะรีบเข้าขย้ำและยึดบัลลังก์ไป
ถ้อยคำเหล่านี้เล่าต่อกันไปต่างๆนานาจนรุนแรงเกินจะกล่าว
สายตาของชาวเมฆาทุกคนที่ใช้มองทัพพยัคฆ์เริ่มเปลี่ยนไป อยู่ใกล้แค่เอื้อมกลับไม่ยื่นมือช่วย ขณะที่พวกเราชาวบ้านหลั่งเลือดพิทักษ์จักรวรรดิ เช่นนั้นยังจะชื่นชมพวกมันไปทำไม?
ด้วยเหตุนนั้น ความเคารพเทิดทูนที่เคยมีล้วนมลายหายไปและถูกแทนที่ด้วยความเกลียดชังและดูถูก
โถวปาเฟิงที่เจอเช่นนี้ก็เจ็บแปลบในอก เขารีบตะโกนอธิบาย บอกทุกคนว่าพวกเขาไม่ใช่ว่าไม่ต้องการร่วมสู้ แต่โถวปาหงไม่ให้พวกเขาร่วมสู้ต่างหาก
กระนั้นกลับไม่มีผู้ใดยินยอมเชื่อ เวลานี้กลับยังกล้ากล่าวให้ร้ายองค์จักรพรรดิอีกหรือ? องค์จักรพรรดิทรงต่อสู้ร่วมกับทุกคนอยู่ที่แนวหน้า แล้วพวกเจ้าเล่า ไปมุดหัวอยู่ที่ใด?
ชื่อเสียงของโถวปาหงพุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้า เพราะเซียวอวี๋ได้ช่วยกระพือข่าวเพิ่มพูนชื่อเสียง ทั้งให้โถวปาหงปรากฏกายขึ้นบนกำแพง ในค่ายทหาร ในพิธีเผาศพ เป็นการบอกต่อคนทั้งหมดว่า เพื่อจักรวรรดิแล้ว จักรพรรดิโถวปาหงยินยอมสละหยาดเหงื่อแรงกายทั้งหมดจนไม่สนพระวรกาย
ด้วยเหตุนั้น เมื่อชาวเมฆษได้เห็นโถวปาเฟิงที่อยู่ในชุดเกราะเงาวับ เสื้อผ้าที่สะอาดเอี่ยมอ่อง พวกเขาก็ถ่มน้ำลายก่อนจะตะโกนใส่ว่า “น่าอับอาย”
โถวปาเฟิงเสมือนถูกตะปูตอกลงกลางอก เขากระอักเลือดก่อนจะสิ้นสติไป
วันหนึ่ง ในที่สุดเหตุกาณณ์ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง มีทหารบางส่วนมายื่นคำขออนุญาตต่อโถวปาเฟิง บอกว่าพวกเขาต้องการส่งคืนชุดและอาวุธ ขอต่อสู้ในฐานะชาวเมฆษที่แนวหน้า หวังว่าโถวปาเฟิงจะอนุญาต
โถวปาเฟิงทราบแล้วว่าเวลานี้ศูนย์รวมจิตใจของทัพพยัคฆ์ได้แตกลงแล้ว เมื่อกองทัพปราศจากจิตวิญญาณ เช่นนั้นกองทัพก็จะไม่ใช่กองทัพอีกต่อไป
จิตวิญญาณของกองทัพพยัคฆ์คือการที่พวกเขาเป็นทัพไร้พ่ายแห่งจักรวรรดิ เป็นผู้คุ้มครองจักรวรรดิ แต่ตอนนี้ พวกเขาไม่อาจปกป้องและทอดทิ้งชาวเมฆา เมื่อเป็นเช่นนี้จะเป็นทหารแห่งทัพพยัคฆ์ไปทำไมอีก?
โถวปาเฟิงตะคอกใส่พวกเขาเสียงดัง จากนั้นจึงรีบไปรายงานต่อบิดา โถวปาหู่ยังคงนิ่งเงียบ ทว่าในคืนนั้นเอง ทหารบางส่วนได้ถอดชุดทิ้งอาวุธหลบหนีไปจากค่าย ก่อนไปยังทิ้งจดหมายเอาไว้ บอกว่าพวกเขาจะต่อสู้และหลั่งโลหิตเพื่อปกป้องปวงประชา
ต่อให้ต้องใช้สองมือเปลือยเปล่า ต่อให้เป็นการพุ่งเข้าสู่ความตาย พวกเขาก็ขอตายที่แนวหน้า
โถวปาเฟิงรู้แล้วว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ทัพพยัคฆ์ย่อมล่มสลาย เมื่อมีคนแรกหลบหนี เช่นนั้นก็จะมีผู้หลบหนีรายที่สองรายที่สาม
ด้วยเหตุนั้น ในวันต่อมา โถวปาหู่จึงออกไปนอกค่าย มองดูธงพยัคฆ์ที่ปลิวสะบัดตามแรงลม เขาก็ถอนหายใจ จากนั้นจึงกล่าวกับโถวปาเฟิงที่อยู่ด้านข้าง “แจ้งต่อโถวปาหง อ๋องหู่ขอน้อมพบ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด