World of Warcraft ราชันต่างภพ 490

Now you are reading World of Warcraft ราชันต่างภพ Chapter 490 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มิรันด้าย่อมมีที่ถือดีพอให้หยิ่งผยอง เขามียอดฝีมือขั้นที่หกอยู่ในสังกัดถึงสองคน หนึ่งเป็นจอมยุทธ์ อีกหนึ่งเป็นนักฆ่า

จอมยุทธ์ขั้นที่หกเป็นบุรุษหัวล้านซึ่งมีอาวุธคู่กายเป็นขวานยักษ์ที่เปล่งแสงสีฟ้าจางๆออกมาและทำให้บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยละอองเวท ชายผู้นี้เป็นคนที่มีชื่อเสียงภายในจักรวรรดิ
ฉายาของเขาคือ โล้นมหากาฬ เมื่อตอนยังเด็ก โล้นมหากาฬนั้นใช้ชีวิตอยู่ในป่าเขาเพียงลำพัง เขาเอาชีวิตรอดโดยการล่าพวกสัตว์อสูรประทังชีวิต ด้วยเหตุนั้นเจาจึงมีพละกำลังมากและเชี่ยวชาญการฆ่า
ต่อมาก็มีแม่ทัพผู้หนึ่งได้พบกับเขา และชักนำเขาเข้าสู่กองทัพ เขาหมั่นฝึกฝนทักษะการต่อสู้ที่เขาคิดขึ้นมาเองจนสุดท้ายก็สามารถบรรลุขั้นที่หก
กล่าวได้ว่าทักษะของเขานั้นมีไว้เพื่อการเข่นฆ่าโดยเฉพาะ เมื่ออยู่ในสนามรบ ตัวเขาก็ไม่ต่างจากเทพสังหาร
ในเวลานี้ ขวานของโล้นมหากาฬกวัดแกว่งปะทะกับดาบคู่จันทร์เสี้ยวของอิลิดัน หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น คนผู้นั้นคงไม่แคล้วถูกขวานของโล้นมหากาฬผ่าเป็นสองซีกไปนานแล้ว
สิ่งที่ทำให้โล้นมหากาฬประหลาดใจที่สุดก็คือ เปลวเพลิงที่ลุกโชนอยู่บนร่างของอิลิดัน ทุกคราที่แตะสัมผัส เขาก็สั่นสะท้านไปถึงวิญญาณ
จิตวิญญาณของเขาเข้มแข็งมาแต่ไหนแต่ไร ต้องมานะบากบั่นปีนป่ายขึ้นภูเขาซากศพตั้งเท่าไร เขามั่นใจว่ากระทั่งเวทมนตร์ที่โจมตีทางจิตใจก็ไม่อาจส่งผลกับตัวเขา
อย่างไรก็ตาม เพลิงประหลาดของอิลิดันกลับทำให้จิตใจของเขาสะท้าน นี่ทำให้เขาตกตะลึงถึงขีดสุด
ปกติแล้ว การโจมตีที่ส่งผลต่อจิตวิญญาณมักมาจากผู้ใช้มนตรา แต่เห็นได้ชัดว่าอิลิดันเป็นนักสู้ระยะประชิด แล้วไฉนจึงมีการโจมตีแปลกๆนี่ได้?
ด้วยเพราะถูกโจมตีใส่จิตวิญญาณตลอดเวลา จิตใจที่ชอบความรุนแรงของโล้นมหากาฬก็ถูกกระตุ้น เขาคำรามราวสัตว์ป่าพลางยกชูขวานขึ้น ละอองเวทโดยรอบพลันหลั่งไหลไปรวมกันที่ขวานจนเปล่งแสงสีฟ้าขึ้นมา จากนั้นพลังเวทก็กระจายออกก่อเป็นดาบสีฟ้าเล็กๆจำนวนนับไม่ถ้วน
ดาบสีฟ้าทุกเล่มบินเข้าโอบล้อมอิลิดันจากทุกทิศทาง เป็นเพราะระยะห่างที่ไม่มาก การโจมตีของโล้นมหากาฬจึงแทบส่งผลในทันที ตอนนี้อิลิดันไม่อาจหลบหลีกได้แน่
ดังนั้น อิลิดันจึงทำได้เพียงต้านรับไว้
อิลิดันระเบิดพลังเต็มกำลัง เพลิงที่ครอบคลุมร่างพลันลุกโหมกระพือจนเผาชุดคลุมที่ปกปิดกายเป็นเถ้าถ่าน
ทุกคนนิ่งตะลึงงัน รูปลักษณ์ของอิลดันสร้างความตกตะลึงแก่ทุกสายตาที่มองมา พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าอิลิดันจะเป็นปีศาจ
ดยุคเซียวถึงกลับมีปีศาจอยู่ใต้บัญชา?
นี่มันน่าตกตะลึงไปแล้ว!
มิรันด้าอ้าปากค้าง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้พิสูจน์แล้วว่าขุมกำลังของเซียวอวี่น่ากลัวเพียงใด คนธรรมดาจะไปมีปีศาจเป็นสมุนได้อย่างไร?
มีเพียงเหล่าตระกูลใหญ่ในตำนานทั้งหลายเท่านั้นที่มีบริวารหลากหลายเผ่าพันธ์ุ แล้วนี่ไม่ใช่สัญลักษณ์ของการเป็นตระกูลใหญ่หรอกหรือ?
แต่แม้อิลิดันจะระเบิดพลังเต็มความสามารถ เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็เป็นถึงตัวตนขั้นที่หกแท้จริง ขอบเขตช่องว่างนี้ย่อมยากจะถมให้เต็ม
อิลิดันกวาดสายตามองกองกำลังจำนวนมาที่กำลังโอบล้อมเข้ามา เขาก็กางปีกบินขึ้นไปกลางอากาศ จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังทิศที่เซียวอวี๋หลบหนีไป
เวลานี้ ภารกิจของเขาไม่ใช่การกำจัดศัตรูให้สิ้นซาก หากแต่เป็นอารักษ์ขาเซียวอวี่ถอยร่นไป
ตอนที่เลื่อนระดับมาขั้นที่ห้า อิลิดันยังไม่ฟื้นคืนสติอย่างสมบูรณ์ กระนั้นสติปัญญาของเขาก็เทียบได้กับผู้คนทั่วไปแล้ว เขาไม่ใช่เอ็นพีซีที่แข็งทื่ออีกต่อไป
…………………….
การพาคนสองคนหลบหนีไปพร้อมกันแน่นอนว่าสร้างความลำบากให้กับเซียวอวี๋ โดยเฉพาะตอนที่หลบหนีการไล่ล่าจากพวกยอดฝีมืออีกโขยง
โชคดีที่เซียวอวี๋หาได้ไม่เคยเผชิญสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงจุดไฟเผาและทำลายสิ่งก่อสร้างไปตลอดทาง อีกฝ่ายจึงติดตามมาด้วยความยากลำบาก
เซียวอวี๋อับอายอย่างมาก รสชาติของการเป็นสุนัขที่ถูกไล่ล่านั้นแน่นอนว่าเขาย่อมทนไม่ได้
“มารดามัน! กล้าไล่ล่าลูกพี่อย่างนั้นหรือ คอยดูว่าลุกพี่จะจัดการพวกเอ็งอย่างไร!”
เซียวอวี๋หยิบเอาระเบิดออกมาขว้างออกไม่หยุดมือคล้ายกับตั้งใจจะระเบิดทั้งเมืองให้เป็นจุล
ตอนนั้นเอง จู่ๆเซียวอวี๋ก็รู้สึกไม่สบายใจ เขาพลันเรียกใช้ทักษะหัตถ์คุ้มภัยอย่างไม่ลังเล
เอ๊ะ?
มีดสั้นเล่มหนึ่งพุ่งเข้าปักบนร่างของเซียวอวี๋ กระนั้นมันกลับไม่สร้างความเสียหายเท่าใดนัก
“เอ๊ะ?” มือสังหารอุทานออกมา ในความคิดของเขาแล้ว มีดสั้นสมควรปลิดชีพเซียวอวี๋ได้ในทันที ทว่าตอนนี้เซียวอวี๋กลับดูเหมือนไม่สะดุ้งสะเทือนแต่อย่างใด
มือสังหารไม่กล้าเสียเวลา นี่ไม่น่าประหลาดใจเท่าใด ผู้คนจากตระกูลใหญ่ๆล้วนพกพาสมบัติป้องกันติดตัวอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงถอนดึงมีดสั้นก่อนจะปักลงไปอีกครั้ง สิ่งที่ทำให้เขาตกใจก็คือ ไม่ว่าจะปักมีดลงไปกี่ครั้ง มันก็ไม่ได้ผลแม้แต่น้อย
มือสังหารนิ่งตะลึงงัน โดยปกติแล้ว สมบัติป้องกันมักใช้ได้เพียงสองสามครั้ง มันย่อมไม่อาจปกป้องเจ้าของได้ตลอดไป ตราบใดที่โจมตีซ้ำเข้าไป ไม่นานมันจะต้องแตกสลาย
ทักาะหัตถ์คุ้มภัยสามารถต้านทานการโจมตีทางกายภาพได้โดยสมบูรณ์ ดังนั้นมือสังหารผู้นี้ย่อมไม่อาจทำอย่างไรกับเซียวอวี๋
“มีปัญญาแทงก็แทงเข้ามา! ลูกพี่ยืดอกรออยู่ เจ้าใช่ไร้ความสามารถไปหรือไม่?” เซียวอวี่หัวเราะอย่างได้ใจ
“เอ๊ะ? โลกช่างกลมนัก!” ในตอนนั้นเอง สุ่มเสียงของสตรีก็ดังขึ้น เซียวอวี๋พลันหันไปตามเสียงและตกตะลึง…..
นางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด