คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 309 ออกโรงเอง ห้ามให้เด็กน้อยเหนื่อย

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 309 ออกโรงเอง ห้ามให้เด็กน้อยเหนื่อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แฮกเกอร์นิรนามมองแถบความคืบหน้าสีแดงนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

ขอเพียงแต่อีกศูนย์จุดหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่เหลือก็เปลี่ยนเป็นสีแดงไปด้วย นั่นก็แสดงว่าไฟร์วอลของวีนัสกรุ๊ปถูกเจาะอย่างสมบูรณ์

แต่เมื่อครู่เห็นๆ อยู่ว่าพวกเขาเริ่มป้องกันได้แล้ว ขัดขวางการเจาะของอีกฝ่ายได้

แถบลดลงไปตั้งมาก ทำไมอยู่ๆ ก็เพิ่มกลับมาอีก!

นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน

ภายในห้องทำงานของโรงพยาบาลเซ่าเหริน

“คุณอิ๋งครับ คุณ…” ผู้อำนวยการก็ตกใจเสียงเตือนที่อยู่ๆ ก็ดังขึ้น เขาชะโงกเข้าไปดูด้วยความสงสัยอีกครั้ง

“เล่นจะแพ้แล้วเหรอครับ”

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบ เธอมองแค่แถบสีแดงที่กำลังจะขึ้นเต็ม สีหน้ากลับไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ยังคงใส่โค้ดอย่างใจเย็น

เวลานี้แฮกเกอร์นิรนามได้พบว่า แถบขึ้นมาถึงเก้าสิบเก้าจุดเก้าเปอร์เซ็นต์แล้วก็จริง แต่อีกศูนย์จุดหนึ่งเปอร์เซ็นต์กลับไม่ขยับสักที

สีหน้าของเขาเปลี่ยน เริ่มเร่งหาพิกัดของคนที่เจาะไฟร์วอลต่อ

สามสิบวินาทีต่อมาในที่สุดอิ๋งจื่อจินก็ใส่โค้ดที่สองเสร็จ

สุดท้าย เธอยกมือกดเอนเทอร์

“ติ๊ด…”

เสียงแจ้งเตือนกลายเป็นเสียงลากยาว จากนั้นก็เบาลงจนหายไป

ในเวลาเดียวกันแถบสีแดงก็ถอยกลับอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาทีจนกลายเป็นศูนย์เปอร์เซ็นต์

ครั้งนี้แถบความคืบหน้าไม่วิ่งขึ้นอีกแล้ว

แต่นิ้วของอิ๋งจื่อจินยังคงคาอยู่ที่คีย์บอร์ดพิมพ์ต่อ

เธอกำลังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพไฟร์วอลให้วีนัสกรุ๊ป ถึงแม้คนที่เจาะไฟร์วอลจะแพ้ไป ย้อนกลับมาเล่นงานในเวลาสั้นๆ ไม่ได้ แต่อย่างไรเสียสาเหตุก็มาจากหาช่องโหว่ของไฟร์วอลได้ จึงจำเป็นต้องอุดช่องโหว่นั้น

ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง นิ้วของอิ๋งจื่อจินถึงหยุดพิมพ์ เธอพูดขึ้น “ชนะแล้ว”

ผู้อำนวยการอดปาดเหงื่อไม่ได้ รู้สึกโล่งอก

เขาก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ก็แค่เกมสู้รบ แต่เขากลับอกสั่นขวัญแขวน เหงื่อแตกท่วมตัว

เขาต้องหมั่นออกกำลังกายให้หัวใจแข็งแรงแล้ว

อีกด้านหนึ่งของมหาสมุทร

แฮกเกอร์นิรนามถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

ในที่สุดก็สำเร็จ

ถึงแม้เขากับอิ๋งจื่อจินจะร่วมมือกันขัดขวางการโจมตีครั้งนี้ได้สำเร็จ แต่กลับยังคงไม่สามารถจับพิกัดของคนโจมตีได้

ในระหว่างที่สู้กันนั้นเขาแน่ใจได้ว่าอีกฝ่ายเป็นแฮกเกอร์ที่ฝีมือดีมาก

อย่างน้อยก็สูสีกับเขา

สาเหตุที่ขัดขวางได้ลำบากขนาดนี้ เป็นเพราะตอนที่โจเซฟบอกเขา ไฟร์วอลได้ถูกเจาะจนเกือบจะสมบูรณ์แล้ว

ถ้าได้สู้กันตั้งแต่แรก อีกฝ่ายไม่มีทางได้เปรียบอะไร

นี่คือการเตรียมการมา

แฮกเกอร์นิรนามลูบศีรษะ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทร

ดังอยู่สี่ครั้ง อีกฝ่ายถึงกดรับ

“นายมัวทำอะไรอยู่” แฮกเกอร์นิรนามไม่พอใจ

“บริษัทนายเกือบโดนเจาะได้แล้ว นายยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเหรอ”

“หืม?” น้ำเสียงของฟู่อวิ๋นเซินเหมือนไม่ตกใจ เขาอมยิ้ม “ก็มีนายอยู่ไม่ใช่เหรอ”

“ให้ตายเหอะ มีฉันอยู่อะไรเล่า” แฮกเกอร์นิรนามโมโหมาก

“ฉันทำงานให้นายหรือไงไม่ทราบ ฉันจะบอกให้นะ ครั้งนี้มีแค่ฉันไม่พอแล้ว”

เขาทำเสียงฮึดฮัด “ก็ไม่รู้ว่านายไปเหยียบหางใครเข้า อีกฝ่ายเก่งเทคโนโลยีพอสมควรเลยนะ ฉันขอให้เด็กน้อยของนายมาช่วยด้วยถึงขัดขวางได้”

พอได้ยินแบบนี้รอยยิ้มของฟู่อวิ๋นเซินก็ค่อยๆ หุบลง

สีหน้าของเขาเรียบเฉย “ต่อไปถ้ามีเรื่องแบบนี้อีกก็โทรหาฉัน”

“ทำไมล่ะ” แฮกเกอร์นิรนามเปิดถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จากนั้นก็หยิบโค้กมาหนึ่งขวด

“นายไม่แตะคอมพิวเตอร์แล้วไม่ใช่เหรอ จะออกจากถ้ำแล้วหรือไง”

“อืม ฉันจะทำเอง” ฟู่อวิ๋นเซินหยุดเล็กน้อย น้ำเสียงเหมือนหัวเราะ “จะให้เธอเหนื่อยบ่อยๆ ไม่ได้”

“อึก…แค่กๆ!” แฮกเกอร์นิรนามถึงกับสำลักโค้ก พอดีขึ้นเขาก็โมโห

“นายยังเป็นคนอยู่ไหม! แล้วทำไมต้องปล่อยให้ฉันเหนื่อยด้วย”

มีเสียงเนือยกึ่งหยอกล้อดังมาจากในสาย “ฉินหลิงเยี่ยน”

แฮกเกอร์นิรนามตกใจ เกือบโยนบะหมี่ถ้วยในมือทิ้ง

“นายจะเรียกชื่อเต็มของฉันทำไม”

ทุกครั้งที่ถูกเรียกชื่อเต็มมักจะทำให้เขานึกถึงความทรงจำแย่ๆ

เมื่อก่อนเวลาที่เขาทำเรื่องไม่ดี แม่ของเขาก็จะเรียกชื่อเต็มจากนั้นก็ซัดยกใหญ่

ผ่านมาหลายปีแล้วเขายังฝังใจไม่หาย

ด้วยเหตุนี้เขาถึงได้ตั้งชื่อสมาพันธ์แฮกเกอร์ว่า ‘นิรนาม’

แฮกเกอร์ของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามล้วนมีฉายาไว้เรียกแทนตัวเสมอ

เว้นเสียแต่อยากประกาศชื่อจริงของตัวเอง ไม่อย่างนั้นคนภายนอกไม่มีทางรู้ และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ฉินหลิงเยี่ยนไม่ชอบชื่อนี้เลยสักนิด!

ทั้งดูโง่และดูสาวแตก

มีพ่อแม่บ้านไหนบ้างที่ตั้งชื่อให้ลูกชายแบบนี้ ‘หลิงเยี่ยน’

เขาคิดมาเสมอว่าแม่ต้องไปร่วมงานศพใครที่อายุยืนมาแน่ พอกินข้าวอย่างสนุกสนานอารมณ์มาเลยตั้งชื่อให้เขาแบบนี้

ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินหรี่ลงเล็กน้อย ยิ้มมุมปาก

“ฉินหลิงเยี่ยน ฉันขอแนะนำให้นายซื้อเครื่องเปลี่ยนเสียงสักอันดีกว่า”

ฉินหลิงเยี่ยนกินบะหมี่ไปหนึ่งคำ เขาสงสัย “อะไร”

“เสียงของนายมันเหมือนหนุ่มละอ่อนจริงๆ” สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินเรื่อยเปื่อย

“ถ้าฉันไม่เคยวิดีโอคอลกับนาย ฉันไม่มีทางเชื่อว่านายอายุยี่สิบกว่าแล้ว”

หยุดเล็กน้อย จากนั้นก็พูดเสริมเสียงเนือย

“ตอนฉันอยู่ตี้ตู เคยเห็นเด็กผู้ชายวัยเก้าขวบที่บ้านตระกูลมู่ เสียงคล้ายนาย”

“ถ้านายไม่ซื้อเครื่องเปลี่ยนเสียง ระวังอีกหน่อยจะโดนอุ้มนะ”

ฉินหลิงเยี่ยน “…”

ไอ้…

พวกคนพิสดารสองคนรวมหัวกันแกล้งเขาเหรอ

“เอาล่ะ ฉันยังจะคุยกับใครได้อีกนอกจากพวกนาย” ฉินหลิงเยี่ยนทำเสียงฮึดฮัด

“นายรีบไปคิดเหอะว่าไปเหยียบหางใครมา”

ในขณะเดียวกันเขาเองก็สงสัย

ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ของเขาย่อมอยู่ในระดับชั้นแนวหน้าของโลกแน่นอน

ช่วงไม่กี่ปีมานี้ก็ไม่ได้มีสมาพันธ์แฮกเกอร์หรือแฮกเกอร์คนไหนผุดขึ้นมาใหม่

งานประชุมด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระดับนานาชาติที่จัดขึ้นทุกปีก็มีแฮกเกอร์จำนวนไม่น้อยไปรวมตัวกัน

ฉินหลิงเยี่ยนก็เคยไป เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นหัวหน้าใหญ่ของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนาม

เขาเองก็ไม่พบว่ามีแฮกเกอร์คนไหนที่ควรค่าให้จับตามอง

นี่มันจะแปลกเกินไปแล้ว

แต่ฉินหลิงเยี่ยนก็ขี้เกียจคิด อย่างไรเสียคนที่ถูกโจมตีก็ไม่ใช่เขา ปล่อยให้ผู้ชายปากร้ายคนนั้นปวดหัวตามสบายแล้วกัน

เขายกถ้วยบะหมี่แล้วกินต่ออย่างสบายใจ

ทางด้านโรงพยาบาลเซ่าเหริน

อิ๋งจื่อจินนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์กำลังใช้ความคิด

เธอจำได้แล้ว ตอนเดือนมิถุนายนที่เธอไปมหาวิทยาลัยนอร์ตัน เธอพบว่าโทรศัพท์มือถือของรองอธิการบดีถูกแฮก

แฮกเกอร์คนนั้นฝีมือดีมาก น่าจะไม่ด้อยไปกว่าฉินหลิงเยี่ยน ถึงขั้นที่อาจเก่งกว่าด้วยซ้ำ

เธอสังเกตเห็นได้ทันเวลา จึงช่วยรองอธิการบดีโจมตีอีกฝ่ายกลับไปได้

อิ๋งจื่อจินรู้ว่าสมัยนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปเร็วมาก ถ้าอยากปิดบังตัวตนย่อมยากกว่าสมัยยุโรปโบราณ

ด้วยเหตุนี้ก่อนกลับจากมหาวิทยาลัยนอร์ตันเธอจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพไฟร์วอลของมหาวิทยาลัยด้วย

คนที่โจมตีมหาวิทยาลัยนอร์ตันกับวีนัสกรุ๊ป ต่อให้ไม่ใช่คนเดียวกันก็ต้องมาจากที่เดียวกันแน่นอน

ซึ่งมหาวิทยาลัยนอร์ตันกับวีนัสกรุ๊ปต่างก็เป็นแหล่งวิจัยทางเทคโนโลยีที่สำคัญของโลกทั้งคู่

อิ๋งจื่อจินคิดอีกเล็กน้อย นวดศีรษะ จากนั้นก็เหลือบตาขึ้นมองผู้อำนวยการ “พวกเราคุยกันต่อค่ะ”

“หา? อ่อครับ” ผู้อำนวยการหยิบเอกสารออกมาอีกครั้ง

“คุณอิ๋งครับ ผู้ป่วยเคสนี้แปลกมาก ตอนที่เคสนี้ถูกส่งมาที่นี่พวกเราก็จนปัญญาแล้วครับ”

“คุณบอกว่าถ้าเป็นโรคที่ยากมากให้มาบอกคุณ ผมก็เลยเอามาให้ดูครับ”

“ค่ะ” อิ๋งจื่อจินเปิดดู พยักหน้าเล็กน้อย “น่าสนใจดี ผู้ป่วยอยู่ที่ไหนคะ”

เธอรักษาคนโดยดูจากวาสนาก็จริง แต่ก็ชอบโรคที่รักษายากเหมือนกัน

แบบนี้ถึงจะดูท้าทาย

“ผู้ป่วยเป็นนักธุรกิจต่างชาติ ยังอยู่ที่เมืองนอกครับ” ผู้อำนวยการตอบ

“ผมติดต่อพวกเขาไปแล้ว ถ้าคุณยอมรักษาให้ พวกเขาจะมาถึงในอีกสามวันครับ”

“อีกสามวันไม่ได้ค่ะ” อิ๋งจื่อจินเหลือบมองปฏิทิน “มีธุระที่โรงเรียน ขยับออกไปอีกสองวันแล้วกันค่ะ”

“ได้ครับ” ผู้อำนวยการรีบขานรับ “ผมจะไปบอกพวกเขา”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า หยิบเสื้อคลุมแล้วเดินออก

เวลาเย็นที่คฤหาสน์ตระกูลอิ๋ง

เรื่องผ่านไปเกือบครึ่งปีแล้ว ต่อให้คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งรับไม่ได้อย่างไรก็จำต้องยอมรับความจริงที่ว่าอิ๋งลู่เวยทำผิดกฎหมายถูกตัดสินจำคุกมีโทษหนัก

โชคดีที่หลังออกจากโรงพยาบาลอิ๋งเย่ว์เซวียนมักจะมาอยู่เป็นเพื่อนบ่อยๆ ทำให้สภาพจิตใจของเธอดีขึ้นบ้าง

อิ๋งเย่ว์เซวียนเป็นเด็กดีตั้งแต่เด็ก และก็รู้ว่าควรดูแลคนแก่อย่างไร

“วานวาน ไหนมาให้ย่าดูหน่อย” คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งจับไหล่ของอิ๋งเย่ว์เซวียน

“ไปยุโรปมาปีเดียว สวยขึ้นเยอะจริงๆ”

อิ๋งเย่ว์เซวียนเขินเล็กน้อย “คุณย่าพูดอะไรกันคะ”

“ย่าพูดจริง” คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งพยักหน้าอย่างพอใจ “ปีหน้าหลานก็จะอายุครบสิบแปดแล้ว ย่าต้องหาคนดีๆ ให้หนู”

พอได้ยินแบบนี้อิ๋งเย่ว์เซวียนก็อึ้ง

ยังไม่ทันที่เธอจะพูด คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งก็พูดต่อ

“เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็อย่าเพิ่งรีบร้อน ไว้ย่าจะพาไปเจอแขกคนสำคัญ”

เธอรู้ว่าอิ๋งเย่ว์เซวียนมีพรสวรรค์ทางด้านคอมพิวเตอร์ เคยได้รางวัลจากการแข่งเขียนโปรแกรมของกลุ่มยุวชนต่างประเทศ

ช่วยปลอบโยนเธอได้บ้าง

ส่วนอิ๋งจื่อจินน่ะเหรอ

มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์บ้างหรือเปล่า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 309 ออกโรงเอง ห้ามให้เด็กน้อยเหนื่อย

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 309 ออกโรงเอง ห้ามให้เด็กน้อยเหนื่อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แฮกเกอร์นิรนามมองแถบความคืบหน้าสีแดงนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

ขอเพียงแต่อีกศูนย์จุดหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่เหลือก็เปลี่ยนเป็นสีแดงไปด้วย นั่นก็แสดงว่าไฟร์วอลของวีนัสกรุ๊ปถูกเจาะอย่างสมบูรณ์

แต่เมื่อครู่เห็นๆ อยู่ว่าพวกเขาเริ่มป้องกันได้แล้ว ขัดขวางการเจาะของอีกฝ่ายได้

แถบลดลงไปตั้งมาก ทำไมอยู่ๆ ก็เพิ่มกลับมาอีก!

นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน

ภายในห้องทำงานของโรงพยาบาลเซ่าเหริน

“คุณอิ๋งครับ คุณ…” ผู้อำนวยการก็ตกใจเสียงเตือนที่อยู่ๆ ก็ดังขึ้น เขาชะโงกเข้าไปดูด้วยความสงสัยอีกครั้ง

“เล่นจะแพ้แล้วเหรอครับ”

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบ เธอมองแค่แถบสีแดงที่กำลังจะขึ้นเต็ม สีหน้ากลับไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ยังคงใส่โค้ดอย่างใจเย็น

เวลานี้แฮกเกอร์นิรนามได้พบว่า แถบขึ้นมาถึงเก้าสิบเก้าจุดเก้าเปอร์เซ็นต์แล้วก็จริง แต่อีกศูนย์จุดหนึ่งเปอร์เซ็นต์กลับไม่ขยับสักที

สีหน้าของเขาเปลี่ยน เริ่มเร่งหาพิกัดของคนที่เจาะไฟร์วอลต่อ

สามสิบวินาทีต่อมาในที่สุดอิ๋งจื่อจินก็ใส่โค้ดที่สองเสร็จ

สุดท้าย เธอยกมือกดเอนเทอร์

“ติ๊ด…”

เสียงแจ้งเตือนกลายเป็นเสียงลากยาว จากนั้นก็เบาลงจนหายไป

ในเวลาเดียวกันแถบสีแดงก็ถอยกลับอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาทีจนกลายเป็นศูนย์เปอร์เซ็นต์

ครั้งนี้แถบความคืบหน้าไม่วิ่งขึ้นอีกแล้ว

แต่นิ้วของอิ๋งจื่อจินยังคงคาอยู่ที่คีย์บอร์ดพิมพ์ต่อ

เธอกำลังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพไฟร์วอลให้วีนัสกรุ๊ป ถึงแม้คนที่เจาะไฟร์วอลจะแพ้ไป ย้อนกลับมาเล่นงานในเวลาสั้นๆ ไม่ได้ แต่อย่างไรเสียสาเหตุก็มาจากหาช่องโหว่ของไฟร์วอลได้ จึงจำเป็นต้องอุดช่องโหว่นั้น

ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง นิ้วของอิ๋งจื่อจินถึงหยุดพิมพ์ เธอพูดขึ้น “ชนะแล้ว”

ผู้อำนวยการอดปาดเหงื่อไม่ได้ รู้สึกโล่งอก

เขาก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ก็แค่เกมสู้รบ แต่เขากลับอกสั่นขวัญแขวน เหงื่อแตกท่วมตัว

เขาต้องหมั่นออกกำลังกายให้หัวใจแข็งแรงแล้ว

อีกด้านหนึ่งของมหาสมุทร

แฮกเกอร์นิรนามถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

ในที่สุดก็สำเร็จ

ถึงแม้เขากับอิ๋งจื่อจินจะร่วมมือกันขัดขวางการโจมตีครั้งนี้ได้สำเร็จ แต่กลับยังคงไม่สามารถจับพิกัดของคนโจมตีได้

ในระหว่างที่สู้กันนั้นเขาแน่ใจได้ว่าอีกฝ่ายเป็นแฮกเกอร์ที่ฝีมือดีมาก

อย่างน้อยก็สูสีกับเขา

สาเหตุที่ขัดขวางได้ลำบากขนาดนี้ เป็นเพราะตอนที่โจเซฟบอกเขา ไฟร์วอลได้ถูกเจาะจนเกือบจะสมบูรณ์แล้ว

ถ้าได้สู้กันตั้งแต่แรก อีกฝ่ายไม่มีทางได้เปรียบอะไร

นี่คือการเตรียมการมา

แฮกเกอร์นิรนามลูบศีรษะ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทร

ดังอยู่สี่ครั้ง อีกฝ่ายถึงกดรับ

“นายมัวทำอะไรอยู่” แฮกเกอร์นิรนามไม่พอใจ

“บริษัทนายเกือบโดนเจาะได้แล้ว นายยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเหรอ”

“หืม?” น้ำเสียงของฟู่อวิ๋นเซินเหมือนไม่ตกใจ เขาอมยิ้ม “ก็มีนายอยู่ไม่ใช่เหรอ”

“ให้ตายเหอะ มีฉันอยู่อะไรเล่า” แฮกเกอร์นิรนามโมโหมาก

“ฉันทำงานให้นายหรือไงไม่ทราบ ฉันจะบอกให้นะ ครั้งนี้มีแค่ฉันไม่พอแล้ว”

เขาทำเสียงฮึดฮัด “ก็ไม่รู้ว่านายไปเหยียบหางใครเข้า อีกฝ่ายเก่งเทคโนโลยีพอสมควรเลยนะ ฉันขอให้เด็กน้อยของนายมาช่วยด้วยถึงขัดขวางได้”

พอได้ยินแบบนี้รอยยิ้มของฟู่อวิ๋นเซินก็ค่อยๆ หุบลง

สีหน้าของเขาเรียบเฉย “ต่อไปถ้ามีเรื่องแบบนี้อีกก็โทรหาฉัน”

“ทำไมล่ะ” แฮกเกอร์นิรนามเปิดถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จากนั้นก็หยิบโค้กมาหนึ่งขวด

“นายไม่แตะคอมพิวเตอร์แล้วไม่ใช่เหรอ จะออกจากถ้ำแล้วหรือไง”

“อืม ฉันจะทำเอง” ฟู่อวิ๋นเซินหยุดเล็กน้อย น้ำเสียงเหมือนหัวเราะ “จะให้เธอเหนื่อยบ่อยๆ ไม่ได้”

“อึก…แค่กๆ!” แฮกเกอร์นิรนามถึงกับสำลักโค้ก พอดีขึ้นเขาก็โมโห

“นายยังเป็นคนอยู่ไหม! แล้วทำไมต้องปล่อยให้ฉันเหนื่อยด้วย”

มีเสียงเนือยกึ่งหยอกล้อดังมาจากในสาย “ฉินหลิงเยี่ยน”

แฮกเกอร์นิรนามตกใจ เกือบโยนบะหมี่ถ้วยในมือทิ้ง

“นายจะเรียกชื่อเต็มของฉันทำไม”

ทุกครั้งที่ถูกเรียกชื่อเต็มมักจะทำให้เขานึกถึงความทรงจำแย่ๆ

เมื่อก่อนเวลาที่เขาทำเรื่องไม่ดี แม่ของเขาก็จะเรียกชื่อเต็มจากนั้นก็ซัดยกใหญ่

ผ่านมาหลายปีแล้วเขายังฝังใจไม่หาย

ด้วยเหตุนี้เขาถึงได้ตั้งชื่อสมาพันธ์แฮกเกอร์ว่า ‘นิรนาม’

แฮกเกอร์ของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามล้วนมีฉายาไว้เรียกแทนตัวเสมอ

เว้นเสียแต่อยากประกาศชื่อจริงของตัวเอง ไม่อย่างนั้นคนภายนอกไม่มีทางรู้ และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ฉินหลิงเยี่ยนไม่ชอบชื่อนี้เลยสักนิด!

ทั้งดูโง่และดูสาวแตก

มีพ่อแม่บ้านไหนบ้างที่ตั้งชื่อให้ลูกชายแบบนี้ ‘หลิงเยี่ยน’

เขาคิดมาเสมอว่าแม่ต้องไปร่วมงานศพใครที่อายุยืนมาแน่ พอกินข้าวอย่างสนุกสนานอารมณ์มาเลยตั้งชื่อให้เขาแบบนี้

ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินหรี่ลงเล็กน้อย ยิ้มมุมปาก

“ฉินหลิงเยี่ยน ฉันขอแนะนำให้นายซื้อเครื่องเปลี่ยนเสียงสักอันดีกว่า”

ฉินหลิงเยี่ยนกินบะหมี่ไปหนึ่งคำ เขาสงสัย “อะไร”

“เสียงของนายมันเหมือนหนุ่มละอ่อนจริงๆ” สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินเรื่อยเปื่อย

“ถ้าฉันไม่เคยวิดีโอคอลกับนาย ฉันไม่มีทางเชื่อว่านายอายุยี่สิบกว่าแล้ว”

หยุดเล็กน้อย จากนั้นก็พูดเสริมเสียงเนือย

“ตอนฉันอยู่ตี้ตู เคยเห็นเด็กผู้ชายวัยเก้าขวบที่บ้านตระกูลมู่ เสียงคล้ายนาย”

“ถ้านายไม่ซื้อเครื่องเปลี่ยนเสียง ระวังอีกหน่อยจะโดนอุ้มนะ”

ฉินหลิงเยี่ยน “…”

ไอ้…

พวกคนพิสดารสองคนรวมหัวกันแกล้งเขาเหรอ

“เอาล่ะ ฉันยังจะคุยกับใครได้อีกนอกจากพวกนาย” ฉินหลิงเยี่ยนทำเสียงฮึดฮัด

“นายรีบไปคิดเหอะว่าไปเหยียบหางใครมา”

ในขณะเดียวกันเขาเองก็สงสัย

ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ของเขาย่อมอยู่ในระดับชั้นแนวหน้าของโลกแน่นอน

ช่วงไม่กี่ปีมานี้ก็ไม่ได้มีสมาพันธ์แฮกเกอร์หรือแฮกเกอร์คนไหนผุดขึ้นมาใหม่

งานประชุมด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระดับนานาชาติที่จัดขึ้นทุกปีก็มีแฮกเกอร์จำนวนไม่น้อยไปรวมตัวกัน

ฉินหลิงเยี่ยนก็เคยไป เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นหัวหน้าใหญ่ของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนาม

เขาเองก็ไม่พบว่ามีแฮกเกอร์คนไหนที่ควรค่าให้จับตามอง

นี่มันจะแปลกเกินไปแล้ว

แต่ฉินหลิงเยี่ยนก็ขี้เกียจคิด อย่างไรเสียคนที่ถูกโจมตีก็ไม่ใช่เขา ปล่อยให้ผู้ชายปากร้ายคนนั้นปวดหัวตามสบายแล้วกัน

เขายกถ้วยบะหมี่แล้วกินต่ออย่างสบายใจ

ทางด้านโรงพยาบาลเซ่าเหริน

อิ๋งจื่อจินนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์กำลังใช้ความคิด

เธอจำได้แล้ว ตอนเดือนมิถุนายนที่เธอไปมหาวิทยาลัยนอร์ตัน เธอพบว่าโทรศัพท์มือถือของรองอธิการบดีถูกแฮก

แฮกเกอร์คนนั้นฝีมือดีมาก น่าจะไม่ด้อยไปกว่าฉินหลิงเยี่ยน ถึงขั้นที่อาจเก่งกว่าด้วยซ้ำ

เธอสังเกตเห็นได้ทันเวลา จึงช่วยรองอธิการบดีโจมตีอีกฝ่ายกลับไปได้

อิ๋งจื่อจินรู้ว่าสมัยนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปเร็วมาก ถ้าอยากปิดบังตัวตนย่อมยากกว่าสมัยยุโรปโบราณ

ด้วยเหตุนี้ก่อนกลับจากมหาวิทยาลัยนอร์ตันเธอจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพไฟร์วอลของมหาวิทยาลัยด้วย

คนที่โจมตีมหาวิทยาลัยนอร์ตันกับวีนัสกรุ๊ป ต่อให้ไม่ใช่คนเดียวกันก็ต้องมาจากที่เดียวกันแน่นอน

ซึ่งมหาวิทยาลัยนอร์ตันกับวีนัสกรุ๊ปต่างก็เป็นแหล่งวิจัยทางเทคโนโลยีที่สำคัญของโลกทั้งคู่

อิ๋งจื่อจินคิดอีกเล็กน้อย นวดศีรษะ จากนั้นก็เหลือบตาขึ้นมองผู้อำนวยการ “พวกเราคุยกันต่อค่ะ”

“หา? อ่อครับ” ผู้อำนวยการหยิบเอกสารออกมาอีกครั้ง

“คุณอิ๋งครับ ผู้ป่วยเคสนี้แปลกมาก ตอนที่เคสนี้ถูกส่งมาที่นี่พวกเราก็จนปัญญาแล้วครับ”

“คุณบอกว่าถ้าเป็นโรคที่ยากมากให้มาบอกคุณ ผมก็เลยเอามาให้ดูครับ”

“ค่ะ” อิ๋งจื่อจินเปิดดู พยักหน้าเล็กน้อย “น่าสนใจดี ผู้ป่วยอยู่ที่ไหนคะ”

เธอรักษาคนโดยดูจากวาสนาก็จริง แต่ก็ชอบโรคที่รักษายากเหมือนกัน

แบบนี้ถึงจะดูท้าทาย

“ผู้ป่วยเป็นนักธุรกิจต่างชาติ ยังอยู่ที่เมืองนอกครับ” ผู้อำนวยการตอบ

“ผมติดต่อพวกเขาไปแล้ว ถ้าคุณยอมรักษาให้ พวกเขาจะมาถึงในอีกสามวันครับ”

“อีกสามวันไม่ได้ค่ะ” อิ๋งจื่อจินเหลือบมองปฏิทิน “มีธุระที่โรงเรียน ขยับออกไปอีกสองวันแล้วกันค่ะ”

“ได้ครับ” ผู้อำนวยการรีบขานรับ “ผมจะไปบอกพวกเขา”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า หยิบเสื้อคลุมแล้วเดินออก

เวลาเย็นที่คฤหาสน์ตระกูลอิ๋ง

เรื่องผ่านไปเกือบครึ่งปีแล้ว ต่อให้คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งรับไม่ได้อย่างไรก็จำต้องยอมรับความจริงที่ว่าอิ๋งลู่เวยทำผิดกฎหมายถูกตัดสินจำคุกมีโทษหนัก

โชคดีที่หลังออกจากโรงพยาบาลอิ๋งเย่ว์เซวียนมักจะมาอยู่เป็นเพื่อนบ่อยๆ ทำให้สภาพจิตใจของเธอดีขึ้นบ้าง

อิ๋งเย่ว์เซวียนเป็นเด็กดีตั้งแต่เด็ก และก็รู้ว่าควรดูแลคนแก่อย่างไร

“วานวาน ไหนมาให้ย่าดูหน่อย” คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งจับไหล่ของอิ๋งเย่ว์เซวียน

“ไปยุโรปมาปีเดียว สวยขึ้นเยอะจริงๆ”

อิ๋งเย่ว์เซวียนเขินเล็กน้อย “คุณย่าพูดอะไรกันคะ”

“ย่าพูดจริง” คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งพยักหน้าอย่างพอใจ “ปีหน้าหลานก็จะอายุครบสิบแปดแล้ว ย่าต้องหาคนดีๆ ให้หนู”

พอได้ยินแบบนี้อิ๋งเย่ว์เซวียนก็อึ้ง

ยังไม่ทันที่เธอจะพูด คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งก็พูดต่อ

“เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็อย่าเพิ่งรีบร้อน ไว้ย่าจะพาไปเจอแขกคนสำคัญ”

เธอรู้ว่าอิ๋งเย่ว์เซวียนมีพรสวรรค์ทางด้านคอมพิวเตอร์ เคยได้รางวัลจากการแข่งเขียนโปรแกรมของกลุ่มยุวชนต่างประเทศ

ช่วยปลอบโยนเธอได้บ้าง

ส่วนอิ๋งจื่อจินน่ะเหรอ

มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์บ้างหรือเปล่า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 309 ออกโรงเอง ห้ามให้เด็กน้อยเหนื่อย

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 309 ออกโรงเอง ห้ามให้เด็กน้อยเหนื่อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แฮกเกอร์นิรนามมองแถบความคืบหน้าสีแดงนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

ขอเพียงแต่อีกศูนย์จุดหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่เหลือก็เปลี่ยนเป็นสีแดงไปด้วย นั่นก็แสดงว่าไฟร์วอลของวีนัสกรุ๊ปถูกเจาะอย่างสมบูรณ์

แต่เมื่อครู่เห็นๆ อยู่ว่าพวกเขาเริ่มป้องกันได้แล้ว ขัดขวางการเจาะของอีกฝ่ายได้

แถบลดลงไปตั้งมาก ทำไมอยู่ๆ ก็เพิ่มกลับมาอีก!

นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน

ภายในห้องทำงานของโรงพยาบาลเซ่าเหริน

“คุณอิ๋งครับ คุณ…” ผู้อำนวยการก็ตกใจเสียงเตือนที่อยู่ๆ ก็ดังขึ้น เขาชะโงกเข้าไปดูด้วยความสงสัยอีกครั้ง

“เล่นจะแพ้แล้วเหรอครับ”

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบ เธอมองแค่แถบสีแดงที่กำลังจะขึ้นเต็ม สีหน้ากลับไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ยังคงใส่โค้ดอย่างใจเย็น

เวลานี้แฮกเกอร์นิรนามได้พบว่า แถบขึ้นมาถึงเก้าสิบเก้าจุดเก้าเปอร์เซ็นต์แล้วก็จริง แต่อีกศูนย์จุดหนึ่งเปอร์เซ็นต์กลับไม่ขยับสักที

สีหน้าของเขาเปลี่ยน เริ่มเร่งหาพิกัดของคนที่เจาะไฟร์วอลต่อ

สามสิบวินาทีต่อมาในที่สุดอิ๋งจื่อจินก็ใส่โค้ดที่สองเสร็จ

สุดท้าย เธอยกมือกดเอนเทอร์

“ติ๊ด…”

เสียงแจ้งเตือนกลายเป็นเสียงลากยาว จากนั้นก็เบาลงจนหายไป

ในเวลาเดียวกันแถบสีแดงก็ถอยกลับอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาทีจนกลายเป็นศูนย์เปอร์เซ็นต์

ครั้งนี้แถบความคืบหน้าไม่วิ่งขึ้นอีกแล้ว

แต่นิ้วของอิ๋งจื่อจินยังคงคาอยู่ที่คีย์บอร์ดพิมพ์ต่อ

เธอกำลังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพไฟร์วอลให้วีนัสกรุ๊ป ถึงแม้คนที่เจาะไฟร์วอลจะแพ้ไป ย้อนกลับมาเล่นงานในเวลาสั้นๆ ไม่ได้ แต่อย่างไรเสียสาเหตุก็มาจากหาช่องโหว่ของไฟร์วอลได้ จึงจำเป็นต้องอุดช่องโหว่นั้น

ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง นิ้วของอิ๋งจื่อจินถึงหยุดพิมพ์ เธอพูดขึ้น “ชนะแล้ว”

ผู้อำนวยการอดปาดเหงื่อไม่ได้ รู้สึกโล่งอก

เขาก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ก็แค่เกมสู้รบ แต่เขากลับอกสั่นขวัญแขวน เหงื่อแตกท่วมตัว

เขาต้องหมั่นออกกำลังกายให้หัวใจแข็งแรงแล้ว

อีกด้านหนึ่งของมหาสมุทร

แฮกเกอร์นิรนามถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

ในที่สุดก็สำเร็จ

ถึงแม้เขากับอิ๋งจื่อจินจะร่วมมือกันขัดขวางการโจมตีครั้งนี้ได้สำเร็จ แต่กลับยังคงไม่สามารถจับพิกัดของคนโจมตีได้

ในระหว่างที่สู้กันนั้นเขาแน่ใจได้ว่าอีกฝ่ายเป็นแฮกเกอร์ที่ฝีมือดีมาก

อย่างน้อยก็สูสีกับเขา

สาเหตุที่ขัดขวางได้ลำบากขนาดนี้ เป็นเพราะตอนที่โจเซฟบอกเขา ไฟร์วอลได้ถูกเจาะจนเกือบจะสมบูรณ์แล้ว

ถ้าได้สู้กันตั้งแต่แรก อีกฝ่ายไม่มีทางได้เปรียบอะไร

นี่คือการเตรียมการมา

แฮกเกอร์นิรนามลูบศีรษะ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทร

ดังอยู่สี่ครั้ง อีกฝ่ายถึงกดรับ

“นายมัวทำอะไรอยู่” แฮกเกอร์นิรนามไม่พอใจ

“บริษัทนายเกือบโดนเจาะได้แล้ว นายยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเหรอ”

“หืม?” น้ำเสียงของฟู่อวิ๋นเซินเหมือนไม่ตกใจ เขาอมยิ้ม “ก็มีนายอยู่ไม่ใช่เหรอ”

“ให้ตายเหอะ มีฉันอยู่อะไรเล่า” แฮกเกอร์นิรนามโมโหมาก

“ฉันทำงานให้นายหรือไงไม่ทราบ ฉันจะบอกให้นะ ครั้งนี้มีแค่ฉันไม่พอแล้ว”

เขาทำเสียงฮึดฮัด “ก็ไม่รู้ว่านายไปเหยียบหางใครเข้า อีกฝ่ายเก่งเทคโนโลยีพอสมควรเลยนะ ฉันขอให้เด็กน้อยของนายมาช่วยด้วยถึงขัดขวางได้”

พอได้ยินแบบนี้รอยยิ้มของฟู่อวิ๋นเซินก็ค่อยๆ หุบลง

สีหน้าของเขาเรียบเฉย “ต่อไปถ้ามีเรื่องแบบนี้อีกก็โทรหาฉัน”

“ทำไมล่ะ” แฮกเกอร์นิรนามเปิดถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จากนั้นก็หยิบโค้กมาหนึ่งขวด

“นายไม่แตะคอมพิวเตอร์แล้วไม่ใช่เหรอ จะออกจากถ้ำแล้วหรือไง”

“อืม ฉันจะทำเอง” ฟู่อวิ๋นเซินหยุดเล็กน้อย น้ำเสียงเหมือนหัวเราะ “จะให้เธอเหนื่อยบ่อยๆ ไม่ได้”

“อึก…แค่กๆ!” แฮกเกอร์นิรนามถึงกับสำลักโค้ก พอดีขึ้นเขาก็โมโห

“นายยังเป็นคนอยู่ไหม! แล้วทำไมต้องปล่อยให้ฉันเหนื่อยด้วย”

มีเสียงเนือยกึ่งหยอกล้อดังมาจากในสาย “ฉินหลิงเยี่ยน”

แฮกเกอร์นิรนามตกใจ เกือบโยนบะหมี่ถ้วยในมือทิ้ง

“นายจะเรียกชื่อเต็มของฉันทำไม”

ทุกครั้งที่ถูกเรียกชื่อเต็มมักจะทำให้เขานึกถึงความทรงจำแย่ๆ

เมื่อก่อนเวลาที่เขาทำเรื่องไม่ดี แม่ของเขาก็จะเรียกชื่อเต็มจากนั้นก็ซัดยกใหญ่

ผ่านมาหลายปีแล้วเขายังฝังใจไม่หาย

ด้วยเหตุนี้เขาถึงได้ตั้งชื่อสมาพันธ์แฮกเกอร์ว่า ‘นิรนาม’

แฮกเกอร์ของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามล้วนมีฉายาไว้เรียกแทนตัวเสมอ

เว้นเสียแต่อยากประกาศชื่อจริงของตัวเอง ไม่อย่างนั้นคนภายนอกไม่มีทางรู้ และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ฉินหลิงเยี่ยนไม่ชอบชื่อนี้เลยสักนิด!

ทั้งดูโง่และดูสาวแตก

มีพ่อแม่บ้านไหนบ้างที่ตั้งชื่อให้ลูกชายแบบนี้ ‘หลิงเยี่ยน’

เขาคิดมาเสมอว่าแม่ต้องไปร่วมงานศพใครที่อายุยืนมาแน่ พอกินข้าวอย่างสนุกสนานอารมณ์มาเลยตั้งชื่อให้เขาแบบนี้

ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินหรี่ลงเล็กน้อย ยิ้มมุมปาก

“ฉินหลิงเยี่ยน ฉันขอแนะนำให้นายซื้อเครื่องเปลี่ยนเสียงสักอันดีกว่า”

ฉินหลิงเยี่ยนกินบะหมี่ไปหนึ่งคำ เขาสงสัย “อะไร”

“เสียงของนายมันเหมือนหนุ่มละอ่อนจริงๆ” สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินเรื่อยเปื่อย

“ถ้าฉันไม่เคยวิดีโอคอลกับนาย ฉันไม่มีทางเชื่อว่านายอายุยี่สิบกว่าแล้ว”

หยุดเล็กน้อย จากนั้นก็พูดเสริมเสียงเนือย

“ตอนฉันอยู่ตี้ตู เคยเห็นเด็กผู้ชายวัยเก้าขวบที่บ้านตระกูลมู่ เสียงคล้ายนาย”

“ถ้านายไม่ซื้อเครื่องเปลี่ยนเสียง ระวังอีกหน่อยจะโดนอุ้มนะ”

ฉินหลิงเยี่ยน “…”

ไอ้…

พวกคนพิสดารสองคนรวมหัวกันแกล้งเขาเหรอ

“เอาล่ะ ฉันยังจะคุยกับใครได้อีกนอกจากพวกนาย” ฉินหลิงเยี่ยนทำเสียงฮึดฮัด

“นายรีบไปคิดเหอะว่าไปเหยียบหางใครมา”

ในขณะเดียวกันเขาเองก็สงสัย

ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ของเขาย่อมอยู่ในระดับชั้นแนวหน้าของโลกแน่นอน

ช่วงไม่กี่ปีมานี้ก็ไม่ได้มีสมาพันธ์แฮกเกอร์หรือแฮกเกอร์คนไหนผุดขึ้นมาใหม่

งานประชุมด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระดับนานาชาติที่จัดขึ้นทุกปีก็มีแฮกเกอร์จำนวนไม่น้อยไปรวมตัวกัน

ฉินหลิงเยี่ยนก็เคยไป เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นหัวหน้าใหญ่ของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนาม

เขาเองก็ไม่พบว่ามีแฮกเกอร์คนไหนที่ควรค่าให้จับตามอง

นี่มันจะแปลกเกินไปแล้ว

แต่ฉินหลิงเยี่ยนก็ขี้เกียจคิด อย่างไรเสียคนที่ถูกโจมตีก็ไม่ใช่เขา ปล่อยให้ผู้ชายปากร้ายคนนั้นปวดหัวตามสบายแล้วกัน

เขายกถ้วยบะหมี่แล้วกินต่ออย่างสบายใจ

ทางด้านโรงพยาบาลเซ่าเหริน

อิ๋งจื่อจินนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์กำลังใช้ความคิด

เธอจำได้แล้ว ตอนเดือนมิถุนายนที่เธอไปมหาวิทยาลัยนอร์ตัน เธอพบว่าโทรศัพท์มือถือของรองอธิการบดีถูกแฮก

แฮกเกอร์คนนั้นฝีมือดีมาก น่าจะไม่ด้อยไปกว่าฉินหลิงเยี่ยน ถึงขั้นที่อาจเก่งกว่าด้วยซ้ำ

เธอสังเกตเห็นได้ทันเวลา จึงช่วยรองอธิการบดีโจมตีอีกฝ่ายกลับไปได้

อิ๋งจื่อจินรู้ว่าสมัยนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปเร็วมาก ถ้าอยากปิดบังตัวตนย่อมยากกว่าสมัยยุโรปโบราณ

ด้วยเหตุนี้ก่อนกลับจากมหาวิทยาลัยนอร์ตันเธอจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพไฟร์วอลของมหาวิทยาลัยด้วย

คนที่โจมตีมหาวิทยาลัยนอร์ตันกับวีนัสกรุ๊ป ต่อให้ไม่ใช่คนเดียวกันก็ต้องมาจากที่เดียวกันแน่นอน

ซึ่งมหาวิทยาลัยนอร์ตันกับวีนัสกรุ๊ปต่างก็เป็นแหล่งวิจัยทางเทคโนโลยีที่สำคัญของโลกทั้งคู่

อิ๋งจื่อจินคิดอีกเล็กน้อย นวดศีรษะ จากนั้นก็เหลือบตาขึ้นมองผู้อำนวยการ “พวกเราคุยกันต่อค่ะ”

“หา? อ่อครับ” ผู้อำนวยการหยิบเอกสารออกมาอีกครั้ง

“คุณอิ๋งครับ ผู้ป่วยเคสนี้แปลกมาก ตอนที่เคสนี้ถูกส่งมาที่นี่พวกเราก็จนปัญญาแล้วครับ”

“คุณบอกว่าถ้าเป็นโรคที่ยากมากให้มาบอกคุณ ผมก็เลยเอามาให้ดูครับ”

“ค่ะ” อิ๋งจื่อจินเปิดดู พยักหน้าเล็กน้อย “น่าสนใจดี ผู้ป่วยอยู่ที่ไหนคะ”

เธอรักษาคนโดยดูจากวาสนาก็จริง แต่ก็ชอบโรคที่รักษายากเหมือนกัน

แบบนี้ถึงจะดูท้าทาย

“ผู้ป่วยเป็นนักธุรกิจต่างชาติ ยังอยู่ที่เมืองนอกครับ” ผู้อำนวยการตอบ

“ผมติดต่อพวกเขาไปแล้ว ถ้าคุณยอมรักษาให้ พวกเขาจะมาถึงในอีกสามวันครับ”

“อีกสามวันไม่ได้ค่ะ” อิ๋งจื่อจินเหลือบมองปฏิทิน “มีธุระที่โรงเรียน ขยับออกไปอีกสองวันแล้วกันค่ะ”

“ได้ครับ” ผู้อำนวยการรีบขานรับ “ผมจะไปบอกพวกเขา”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า หยิบเสื้อคลุมแล้วเดินออก

เวลาเย็นที่คฤหาสน์ตระกูลอิ๋ง

เรื่องผ่านไปเกือบครึ่งปีแล้ว ต่อให้คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งรับไม่ได้อย่างไรก็จำต้องยอมรับความจริงที่ว่าอิ๋งลู่เวยทำผิดกฎหมายถูกตัดสินจำคุกมีโทษหนัก

โชคดีที่หลังออกจากโรงพยาบาลอิ๋งเย่ว์เซวียนมักจะมาอยู่เป็นเพื่อนบ่อยๆ ทำให้สภาพจิตใจของเธอดีขึ้นบ้าง

อิ๋งเย่ว์เซวียนเป็นเด็กดีตั้งแต่เด็ก และก็รู้ว่าควรดูแลคนแก่อย่างไร

“วานวาน ไหนมาให้ย่าดูหน่อย” คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งจับไหล่ของอิ๋งเย่ว์เซวียน

“ไปยุโรปมาปีเดียว สวยขึ้นเยอะจริงๆ”

อิ๋งเย่ว์เซวียนเขินเล็กน้อย “คุณย่าพูดอะไรกันคะ”

“ย่าพูดจริง” คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งพยักหน้าอย่างพอใจ “ปีหน้าหลานก็จะอายุครบสิบแปดแล้ว ย่าต้องหาคนดีๆ ให้หนู”

พอได้ยินแบบนี้อิ๋งเย่ว์เซวียนก็อึ้ง

ยังไม่ทันที่เธอจะพูด คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งก็พูดต่อ

“เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็อย่าเพิ่งรีบร้อน ไว้ย่าจะพาไปเจอแขกคนสำคัญ”

เธอรู้ว่าอิ๋งเย่ว์เซวียนมีพรสวรรค์ทางด้านคอมพิวเตอร์ เคยได้รางวัลจากการแข่งเขียนโปรแกรมของกลุ่มยุวชนต่างประเทศ

ช่วยปลอบโยนเธอได้บ้าง

ส่วนอิ๋งจื่อจินน่ะเหรอ

มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์บ้างหรือเปล่า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+