คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 55 ตบหน้าด้วยความเร็วแสง

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 55 ตบหน้าด้วยความเร็วแสง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภาพแรกเป็นภาพเวลาที่ล็อกอินของแต่ละแอคเคาท์เชิงพาณิชย์

ภาพที่สองเป็นที่อยู่ไอพี

ภาพที่สามเป็นบันทึกการสนทนาส่วนหนึ่งในวีแชทกลุ่ม

มีคนหลายร้อยอยู่ในกลุ่มนั้น หนึ่งในนั้นได้ส่งข้อความนี้

[ได้รับแจ้งมาว่า คืนนี้เวลาสามทุ่มครึ่งให้ทั้งหมดติดแฮชแท็กเรื่องน้ำเน่าบันลือโลกของไฮโซ หลานสาวยั่วอาเขย แฮชแท็กแย่แล้ว! แฮชแท็กลูกเลี้ยงตระกูลอิ๋งกล้าเนรคุณ! แฮชแท็กสงสารอิ๋งลู่เวย นี่เป็นข้อความโพสต์กับรูปภาพ รีบส่ง]

ด้านล่างเป็นคำตอบ ‘รับทราบ’ รัวๆ

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ชื่อของกลุ่มวีแชทนี้คือ ‘ฉีเฉียนมีเดีย’

ซึ่งฉีเฉียนมีเดียเป็นบริษัทดนตรีที่เซ็นสัญญากับอิ๋งลู่เวย

แน่นอนว่าในฐานะที่เป็นสาวไฮโซอันดับหนึ่งของฮู่เฉิง ความสัมพันธ์ของอิ๋งลู่เวยกับฉีเฉียนมีเดียย่อมไม่เหมือนกับนักร้องคนอื่นในวงการบันเทิง

ฉีเฉียนมีเดียแค่มีหน้าที่จัดจำหน่ายตั๋วคอนเสิร์ตของอิ๋งลู่เวย รวมถึงการออกอีเวนต์ต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นบริษัทเครื่องมือที่ให้บริการอิ๋งลู่เวย

ความทรงจำของชาวเน็ตคงอยู่ได้ไม่เกินสามวัน ส่วนใหญ่ต่างลืมกันหมดแล้วว่าตอนนั้นแอคเคาท์เรียกข้าว่าจอมยุทธ์ศัตรูพ่ายเป็นคนออกมายืนยันความบริสุทธิ์ว่าอิ๋งจื่อจินไม่ได้เป็นคนผลักอิ๋งลู่เวย

แต่ก็ยังพอมีคนจำได้บ้าง

[มาแล้วๆ พี่ศัตรูพ่ายมาอีกแล้ว]

[โอ้โห พี่ศัตรูพ่ายไปเอาแชทกลุ่มภายในของฉีเฉียนมีเดียมาได้ยังไงเนี่ย]

[ขอเดาว่าพี่ศัตรูพ่ายเป็นแฮกเกอร์ที่สุดยอดขั้นเทพ]

[สรุปว่าจริงๆ แล้วเรื่องนี้อิ๋งลู่เวยกำกับเองแสดงเองงั้นเหรอ ให้แฟนคลับของตัวเองโพสต์รูปก่อน ทำให้คนเข้าใจผิดว่าน้องอิ๋งอ่อยเจียงมั่วหย่วน จากนั้นก็ให้แอคเคาท์เชิงพาณิชย์รวมหัวกันโพสต์ ไต่ขึ้นคำค้นยอดฮิต ขายความสงสาร สร้างฐานแฟนคลับเพิ่มงั้นเหรอ นี่มัน…นี่มันไม่ใช่แค่นังตอแหลแล้ว แบบนี้มันจอมลวงโลกแล้ว]

[จึ๊ๆ ชักสงสารแฟนคลับของอิ๋งลู่เวยขึ้นมาแล้วสิ ดูสิพวกเธอเป็นแฟนคลับของอะไรน่ะ]

[รักพี่ศัตรูพ่ายจังเลย เป็นตัวแทนกระชากหน้ากากนังตอแหลจอมลวงโลก เกือบถูกอิ๋งลู่เวยหลอกแล้ว ค่อยยังชั่ว เดิมทีก็คิดอยู่นะว่าฝีมือเล่นเปียโนของนางก็งั้นๆ แหละ ทำเป็นสร้างภาพลักษณ์สวยหรู]

เวยปั๋วโพสต์นี้ของเรียกข้าว่าจอมยุทธ์ศัตรูพ่ายทะยานติดอันดับคำค้นยอดฮิตอย่างรวดเร็ว บรรดาแฟนคลับของอิ๋งลู่เวยย่อมไม่มีทางตาบอดมองไม่เห็น

คนที่ยังไม่ถอนตัวล้วนเป็นแฟนคลับเหนียวแน่น ยังคงเชื่อมั่นในตัวอิ๋งลู่เวย

[บอกตั้งกี่ครั้งแล้วว่าลู่เวยไม่รู้เรื่อง ลู่เวยรักพี่เขยขนาดนั้น เห็นรูปถ่ายแล้วเสียใจก็เป็นเรื่องปกติหรือเปล่า อีกอย่างพวกคนนอกไม่รู้สินะว่าฉีเฉียนมีเดียก็แค่บริษัทที่อยากเกาะกระแสอยู่แล้ว เห็นอะไรก็เอาด้วยหมด ถ้าไม่มีลู่เวยใครจะรู้จักบริษัทเล็กๆ แบบนี้]

[นั่นสิ หลักฐานแค่นี้ก็หาว่าลู่เวยเกี่ยวข้องแล้วเหรอ ตลกจัง]

[อีกอย่างนะ ลู่เวยของเราเป็นนักเปียโน นักเปียโน! เธอไม่ใช่ดาราสร้างกระแส ไม่เล่นมุกนี้ของวงการบันเทิงหรอก ขอบคุณ]

ต่อให้แฟนคลับพยายามเถียงด้วยเหตุผลก็ยังขัดขวางการพังทลายขั้นต้นของฐานเสียงคนทั่วไปของอิ๋งลู่เวยไม่ได้

ผู้จัดการก็เห็นแล้ว คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น “คราวนี้ยุ่งยากเข้าจริงๆ แล้ว แต่ยังพอแก้ไขได้ ยังไงซะคนในสังกัดฉีเฉียนมีเดียก็ไม่ได้มีแค่คุณ ผลักสักคนออกไปรับหน้า”

พอได้ยินแบบนี้ใบหน้าซีดเซียวเหมือนกระดาษของอิ๋งลู่เวยก็กลับมามีเลือดหล่อเลี้ยง “พวกเขาจะเชื่อเหรอ”

“วางใจเถอะ โลกอินเทอร์เน็ตมีความทรงจำ แต่ชาวเน็ตไม่มี” ผู้จัดการส่วนตัวพูด “อีกสักพักก็ลืมกันแล้ว ขอเพียงแต่อีกไม่กี่เดือนต่อจากนี้คุณเปิดคอนเสิร์ตตามปกติก็พอ ช้าเร็วคนพวกนั้นก็ต้องกลับมา”

เขาถอนหายใจ “แต่ครั้งนี้ความเสียหายใหญ่มากจริงๆ”

อิ๋งลู่เวยพยักหน้าอย่างแข็งๆ ในใจยังคงอดสั่นอย่างต่อเนื่องด้วยความหวาดกลัวไม่ได้

เธอไปเหยียบเท้าใครเข้ากันแน่

ทำไมต้องถูกเล่นงานขนาดนี้

อิ๋งลู่เวยกัดริมฝีปาก แววตาหม่นลง

[พอเลย ในฐานะที่ฉันเป็นลูกพี่ใหญ่ของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนาม ไม่ควรถูกนายเรียกใช้ทุกวัน คราวหน้าจ่ายเงินมาด้วย!]

ฟู่อวิ๋นเซินมองข้อความฟาดงวงฟาดงาของแฮกเกอร์คนหนึ่ง คิ้วขมวดเข้าหากัน

เขาเอาโทรศัพท์มือถือวางไว้ด้านหนึ่ง นิ้วเรียวยาววางบนถ้วยชา “เยาเยา วันนี้นึกไงมาหาพี่ชาย”

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบ

เธอมองน้ำซุปตับหมูชามใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า เข้าสู่ห้วงแห่งความเงียบ

ไม่อยากสนใจคนตรงหน้าเท่าไร

“ไม่บังคับเธอกินตับหมูแล้วกัน” ฟู่อวิ๋นเซินหันหน้า “กินน้ำซุปหน่อยก็พอ เด็กดี ร่างกายเป็นของเธอนะ” อิ๋งจื่อจินถอนหายใจ ไม่ปฏิเสธ ตักน้ำซุปมาหนึ่งชาม

สิ่งที่เหนือความคาดหมายก็คือ น้ำซุปรสดีมาก ไม่มีกลิ่นเครื่องในแม้แต่น้อย

เธอกินไปหลายคำ “ฉันช่วยปู่ของคุณได้”

แววตาของฟู่อวิ๋นเซินเปลี่ยนไปทันที หุบรอยยิ้มเรื่อยเปื่อย เป็นครั้งแรกที่จริงจัง “หืม?”

“แต่ฉันไม่มีสมุนไพร” อิ๋งจื่อจินเงยหน้า “ฉันถามผู้เฒ่ามู่แล้ว เขาบอกว่าสมุนไพรที่ฉันต้องการ หาได้แค่ในวงการแพทย์แผนโบราณ”

ฟู่อวิ๋นเซินเงียบไปชั่วขณะ “สมุนไพรอะไร”

อิ๋งจื่อจินกดสมุดบันทึกในโทรศัพท์ยื่นให้เขา

ฟู่อวิ๋นเซินอ่านสมุนไพรหกชนิดที่อยู่ในบันทึก ทันใดนั้นก็ยิ้มออกมา แววตากลับเย็นชา “วงการแพทย์แผนโบราณก็อาจจะไม่มี”

ถึงแม้เขาจะยังสืบหาต้นตอของพิษไม่ได้ แต่ก็มีร่องรอยอยู่บ้าง

ไม่ได้มาจากประเทศจีน มีความเป็นไปได้ว่าเกี่ยวข้องกับแวดวงเล่นแร่แปรธาตุในยุโรป

“ฉันเตรียมจะลองเข้าไปดูในสตาร์” อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “อาจมีคนขาย”

สตาร์ แปลออกมาคือดวงดาว เป็นเว็บไซต์สำหรับซื้อขายสินค้าและประมูล ผู้คนนำสินค้ามาขายบนสตาร์ได้ โดยที่เว็บไซต์นี้มีบริการทั่วทุกมุมโลก

เคยมีคนประกาศขายราชรัฐในยุโรปบนเว็บสตาร์ และก็ขายได้จริงๆ

ได้ยินว่าคนขายก็คือกษัตริย์ของราชรัฐนั้น เบื่อที่งานปกครองราชรัฐเหนื่อยเกินไป ขายทิ้งยังได้เงินมาก้อนหนึ่ง

อย่างไรเสียถ้ามีคนกล้าขายก็ย่อมมีคนกล้าซื้อ

เพียงแต่แอคเคาท์สตาร์ต้องอยู่ต่างประเทศเท่านั้นถึงจะลงทะเบียนได้ คนในประเทศจีนที่รู้จักมีไม่มาก

อิ๋งจื่อจินเองก็จำได้ว่า ลังหนังสือเด็กที่คราวก่อนฟู่อวิ๋นเซินให้เธอ บนลังก็มีคำว่าสตาร์

ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าเล็กน้อย “ผู้เฒ่ามู่ให้แอคเคาท์เธอมาเหรอ”

“อืม”

เกิดความเงียบขึ้นสองวินาที

“เด็กน้อย”

น้ำเสียงเนือยๆ ดังมาจากด้านขวา

ต่อมาหน้าผากของเธอก็ถูกเคาะเบาๆ

อุณหภูมิร้อนระอุลอยผ่าน

อิ๋งจื่อจินค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ดวงตาหงส์หรี่ลง

“คราวหน้า มีเรื่องอะไรหรือต้องการอะไร มาหาพี่ชายก่อน” ฟู่อวิ๋นเซินก้มตัว ริมฝีปากยิ้มเล็กน้อย “เธอทำเพื่อพี่ชายตั้งมากขนาดนี้ พี่ชายไม่กลัวการถูกรบกวน”

วันนี้เจียงมั่วหย่วนประชุมทั้งวัน ตอนนี้เพิ่งเสร็จ ด้วยเหตุนี้จึงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในเน็ต

ระหว่างนั้นเขามีรับสายจากอิ๋งลู่เวย แต่เนื่องจากงานสำคัญกว่าเขาจึงไม่ได้ฟังให้จบ แค่ปลอบเธอก่อนจากนั้นก็ตัดสาย คิดไว้ว่าประชุมเสร็จค่อยจัดการ

หลังจากเจียงมั่วหย่วนแยกกับหุ้นส่วนของเจียงซื่อกรุ๊ปก็เตรียมโทรกลับหาอิ๋งลู่เวย

แต่กลับเห็นเลขาวิ่งมาหน้าตาตื่น “ท่านสามครับ!”

เจียงมั่วหย่วนหน้านิ่ว

เขาเป็นคนเข้มงวด มีระเบียบ ไม่ชอบให้ลูกน้องทำตัวแตกตื่นไร้ระเบียบ

“มีอะไร” เจียงมั่วหย่วนมองนาฬิกาข้อมือ หงุดหงิดเล็กน้อย “ทางที่ดีบอกมาแต่เรื่องสำคัญ”

เลขาหยุด หายใจหอบจนดีขึ้น พูดด้วยความร้อนใจ “ท่านสาม เรื่องใหญ่ครับ รีบดูหุ้นของเจียงซื่อกรุ๊ปเร็วเข้าครับ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 55 ตบหน้าด้วยความเร็วแสง

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 55 ตบหน้าด้วยความเร็วแสง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภาพแรกเป็นภาพเวลาที่ล็อกอินของแต่ละแอคเคาท์เชิงพาณิชย์

ภาพที่สองเป็นที่อยู่ไอพี

ภาพที่สามเป็นบันทึกการสนทนาส่วนหนึ่งในวีแชทกลุ่ม

มีคนหลายร้อยอยู่ในกลุ่มนั้น หนึ่งในนั้นได้ส่งข้อความนี้

[ได้รับแจ้งมาว่า คืนนี้เวลาสามทุ่มครึ่งให้ทั้งหมดติดแฮชแท็กเรื่องน้ำเน่าบันลือโลกของไฮโซ หลานสาวยั่วอาเขย แฮชแท็กแย่แล้ว! แฮชแท็กลูกเลี้ยงตระกูลอิ๋งกล้าเนรคุณ! แฮชแท็กสงสารอิ๋งลู่เวย นี่เป็นข้อความโพสต์กับรูปภาพ รีบส่ง]

ด้านล่างเป็นคำตอบ ‘รับทราบ’ รัวๆ

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ชื่อของกลุ่มวีแชทนี้คือ ‘ฉีเฉียนมีเดีย’

ซึ่งฉีเฉียนมีเดียเป็นบริษัทดนตรีที่เซ็นสัญญากับอิ๋งลู่เวย

แน่นอนว่าในฐานะที่เป็นสาวไฮโซอันดับหนึ่งของฮู่เฉิง ความสัมพันธ์ของอิ๋งลู่เวยกับฉีเฉียนมีเดียย่อมไม่เหมือนกับนักร้องคนอื่นในวงการบันเทิง

ฉีเฉียนมีเดียแค่มีหน้าที่จัดจำหน่ายตั๋วคอนเสิร์ตของอิ๋งลู่เวย รวมถึงการออกอีเวนต์ต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นบริษัทเครื่องมือที่ให้บริการอิ๋งลู่เวย

ความทรงจำของชาวเน็ตคงอยู่ได้ไม่เกินสามวัน ส่วนใหญ่ต่างลืมกันหมดแล้วว่าตอนนั้นแอคเคาท์เรียกข้าว่าจอมยุทธ์ศัตรูพ่ายเป็นคนออกมายืนยันความบริสุทธิ์ว่าอิ๋งจื่อจินไม่ได้เป็นคนผลักอิ๋งลู่เวย

แต่ก็ยังพอมีคนจำได้บ้าง

[มาแล้วๆ พี่ศัตรูพ่ายมาอีกแล้ว]

[โอ้โห พี่ศัตรูพ่ายไปเอาแชทกลุ่มภายในของฉีเฉียนมีเดียมาได้ยังไงเนี่ย]

[ขอเดาว่าพี่ศัตรูพ่ายเป็นแฮกเกอร์ที่สุดยอดขั้นเทพ]

[สรุปว่าจริงๆ แล้วเรื่องนี้อิ๋งลู่เวยกำกับเองแสดงเองงั้นเหรอ ให้แฟนคลับของตัวเองโพสต์รูปก่อน ทำให้คนเข้าใจผิดว่าน้องอิ๋งอ่อยเจียงมั่วหย่วน จากนั้นก็ให้แอคเคาท์เชิงพาณิชย์รวมหัวกันโพสต์ ไต่ขึ้นคำค้นยอดฮิต ขายความสงสาร สร้างฐานแฟนคลับเพิ่มงั้นเหรอ นี่มัน…นี่มันไม่ใช่แค่นังตอแหลแล้ว แบบนี้มันจอมลวงโลกแล้ว]

[จึ๊ๆ ชักสงสารแฟนคลับของอิ๋งลู่เวยขึ้นมาแล้วสิ ดูสิพวกเธอเป็นแฟนคลับของอะไรน่ะ]

[รักพี่ศัตรูพ่ายจังเลย เป็นตัวแทนกระชากหน้ากากนังตอแหลจอมลวงโลก เกือบถูกอิ๋งลู่เวยหลอกแล้ว ค่อยยังชั่ว เดิมทีก็คิดอยู่นะว่าฝีมือเล่นเปียโนของนางก็งั้นๆ แหละ ทำเป็นสร้างภาพลักษณ์สวยหรู]

เวยปั๋วโพสต์นี้ของเรียกข้าว่าจอมยุทธ์ศัตรูพ่ายทะยานติดอันดับคำค้นยอดฮิตอย่างรวดเร็ว บรรดาแฟนคลับของอิ๋งลู่เวยย่อมไม่มีทางตาบอดมองไม่เห็น

คนที่ยังไม่ถอนตัวล้วนเป็นแฟนคลับเหนียวแน่น ยังคงเชื่อมั่นในตัวอิ๋งลู่เวย

[บอกตั้งกี่ครั้งแล้วว่าลู่เวยไม่รู้เรื่อง ลู่เวยรักพี่เขยขนาดนั้น เห็นรูปถ่ายแล้วเสียใจก็เป็นเรื่องปกติหรือเปล่า อีกอย่างพวกคนนอกไม่รู้สินะว่าฉีเฉียนมีเดียก็แค่บริษัทที่อยากเกาะกระแสอยู่แล้ว เห็นอะไรก็เอาด้วยหมด ถ้าไม่มีลู่เวยใครจะรู้จักบริษัทเล็กๆ แบบนี้]

[นั่นสิ หลักฐานแค่นี้ก็หาว่าลู่เวยเกี่ยวข้องแล้วเหรอ ตลกจัง]

[อีกอย่างนะ ลู่เวยของเราเป็นนักเปียโน นักเปียโน! เธอไม่ใช่ดาราสร้างกระแส ไม่เล่นมุกนี้ของวงการบันเทิงหรอก ขอบคุณ]

ต่อให้แฟนคลับพยายามเถียงด้วยเหตุผลก็ยังขัดขวางการพังทลายขั้นต้นของฐานเสียงคนทั่วไปของอิ๋งลู่เวยไม่ได้

ผู้จัดการก็เห็นแล้ว คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น “คราวนี้ยุ่งยากเข้าจริงๆ แล้ว แต่ยังพอแก้ไขได้ ยังไงซะคนในสังกัดฉีเฉียนมีเดียก็ไม่ได้มีแค่คุณ ผลักสักคนออกไปรับหน้า”

พอได้ยินแบบนี้ใบหน้าซีดเซียวเหมือนกระดาษของอิ๋งลู่เวยก็กลับมามีเลือดหล่อเลี้ยง “พวกเขาจะเชื่อเหรอ”

“วางใจเถอะ โลกอินเทอร์เน็ตมีความทรงจำ แต่ชาวเน็ตไม่มี” ผู้จัดการส่วนตัวพูด “อีกสักพักก็ลืมกันแล้ว ขอเพียงแต่อีกไม่กี่เดือนต่อจากนี้คุณเปิดคอนเสิร์ตตามปกติก็พอ ช้าเร็วคนพวกนั้นก็ต้องกลับมา”

เขาถอนหายใจ “แต่ครั้งนี้ความเสียหายใหญ่มากจริงๆ”

อิ๋งลู่เวยพยักหน้าอย่างแข็งๆ ในใจยังคงอดสั่นอย่างต่อเนื่องด้วยความหวาดกลัวไม่ได้

เธอไปเหยียบเท้าใครเข้ากันแน่

ทำไมต้องถูกเล่นงานขนาดนี้

อิ๋งลู่เวยกัดริมฝีปาก แววตาหม่นลง

[พอเลย ในฐานะที่ฉันเป็นลูกพี่ใหญ่ของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนาม ไม่ควรถูกนายเรียกใช้ทุกวัน คราวหน้าจ่ายเงินมาด้วย!]

ฟู่อวิ๋นเซินมองข้อความฟาดงวงฟาดงาของแฮกเกอร์คนหนึ่ง คิ้วขมวดเข้าหากัน

เขาเอาโทรศัพท์มือถือวางไว้ด้านหนึ่ง นิ้วเรียวยาววางบนถ้วยชา “เยาเยา วันนี้นึกไงมาหาพี่ชาย”

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบ

เธอมองน้ำซุปตับหมูชามใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า เข้าสู่ห้วงแห่งความเงียบ

ไม่อยากสนใจคนตรงหน้าเท่าไร

“ไม่บังคับเธอกินตับหมูแล้วกัน” ฟู่อวิ๋นเซินหันหน้า “กินน้ำซุปหน่อยก็พอ เด็กดี ร่างกายเป็นของเธอนะ” อิ๋งจื่อจินถอนหายใจ ไม่ปฏิเสธ ตักน้ำซุปมาหนึ่งชาม

สิ่งที่เหนือความคาดหมายก็คือ น้ำซุปรสดีมาก ไม่มีกลิ่นเครื่องในแม้แต่น้อย

เธอกินไปหลายคำ “ฉันช่วยปู่ของคุณได้”

แววตาของฟู่อวิ๋นเซินเปลี่ยนไปทันที หุบรอยยิ้มเรื่อยเปื่อย เป็นครั้งแรกที่จริงจัง “หืม?”

“แต่ฉันไม่มีสมุนไพร” อิ๋งจื่อจินเงยหน้า “ฉันถามผู้เฒ่ามู่แล้ว เขาบอกว่าสมุนไพรที่ฉันต้องการ หาได้แค่ในวงการแพทย์แผนโบราณ”

ฟู่อวิ๋นเซินเงียบไปชั่วขณะ “สมุนไพรอะไร”

อิ๋งจื่อจินกดสมุดบันทึกในโทรศัพท์ยื่นให้เขา

ฟู่อวิ๋นเซินอ่านสมุนไพรหกชนิดที่อยู่ในบันทึก ทันใดนั้นก็ยิ้มออกมา แววตากลับเย็นชา “วงการแพทย์แผนโบราณก็อาจจะไม่มี”

ถึงแม้เขาจะยังสืบหาต้นตอของพิษไม่ได้ แต่ก็มีร่องรอยอยู่บ้าง

ไม่ได้มาจากประเทศจีน มีความเป็นไปได้ว่าเกี่ยวข้องกับแวดวงเล่นแร่แปรธาตุในยุโรป

“ฉันเตรียมจะลองเข้าไปดูในสตาร์” อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “อาจมีคนขาย”

สตาร์ แปลออกมาคือดวงดาว เป็นเว็บไซต์สำหรับซื้อขายสินค้าและประมูล ผู้คนนำสินค้ามาขายบนสตาร์ได้ โดยที่เว็บไซต์นี้มีบริการทั่วทุกมุมโลก

เคยมีคนประกาศขายราชรัฐในยุโรปบนเว็บสตาร์ และก็ขายได้จริงๆ

ได้ยินว่าคนขายก็คือกษัตริย์ของราชรัฐนั้น เบื่อที่งานปกครองราชรัฐเหนื่อยเกินไป ขายทิ้งยังได้เงินมาก้อนหนึ่ง

อย่างไรเสียถ้ามีคนกล้าขายก็ย่อมมีคนกล้าซื้อ

เพียงแต่แอคเคาท์สตาร์ต้องอยู่ต่างประเทศเท่านั้นถึงจะลงทะเบียนได้ คนในประเทศจีนที่รู้จักมีไม่มาก

อิ๋งจื่อจินเองก็จำได้ว่า ลังหนังสือเด็กที่คราวก่อนฟู่อวิ๋นเซินให้เธอ บนลังก็มีคำว่าสตาร์

ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าเล็กน้อย “ผู้เฒ่ามู่ให้แอคเคาท์เธอมาเหรอ”

“อืม”

เกิดความเงียบขึ้นสองวินาที

“เด็กน้อย”

น้ำเสียงเนือยๆ ดังมาจากด้านขวา

ต่อมาหน้าผากของเธอก็ถูกเคาะเบาๆ

อุณหภูมิร้อนระอุลอยผ่าน

อิ๋งจื่อจินค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ดวงตาหงส์หรี่ลง

“คราวหน้า มีเรื่องอะไรหรือต้องการอะไร มาหาพี่ชายก่อน” ฟู่อวิ๋นเซินก้มตัว ริมฝีปากยิ้มเล็กน้อย “เธอทำเพื่อพี่ชายตั้งมากขนาดนี้ พี่ชายไม่กลัวการถูกรบกวน”

วันนี้เจียงมั่วหย่วนประชุมทั้งวัน ตอนนี้เพิ่งเสร็จ ด้วยเหตุนี้จึงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในเน็ต

ระหว่างนั้นเขามีรับสายจากอิ๋งลู่เวย แต่เนื่องจากงานสำคัญกว่าเขาจึงไม่ได้ฟังให้จบ แค่ปลอบเธอก่อนจากนั้นก็ตัดสาย คิดไว้ว่าประชุมเสร็จค่อยจัดการ

หลังจากเจียงมั่วหย่วนแยกกับหุ้นส่วนของเจียงซื่อกรุ๊ปก็เตรียมโทรกลับหาอิ๋งลู่เวย

แต่กลับเห็นเลขาวิ่งมาหน้าตาตื่น “ท่านสามครับ!”

เจียงมั่วหย่วนหน้านิ่ว

เขาเป็นคนเข้มงวด มีระเบียบ ไม่ชอบให้ลูกน้องทำตัวแตกตื่นไร้ระเบียบ

“มีอะไร” เจียงมั่วหย่วนมองนาฬิกาข้อมือ หงุดหงิดเล็กน้อย “ทางที่ดีบอกมาแต่เรื่องสำคัญ”

เลขาหยุด หายใจหอบจนดีขึ้น พูดด้วยความร้อนใจ “ท่านสาม เรื่องใหญ่ครับ รีบดูหุ้นของเจียงซื่อกรุ๊ปเร็วเข้าครับ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+