คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 54 คอยดูว่าพี่ชายสั่งสอนคนที่รังแกเธอยังไงนะ

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 54 คอยดูว่าพี่ชายสั่งสอนคนที่รังแกเธอยังไงนะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผู้อำนวยการใส่แว่นตา รับบันทึกการสนทนาฉบับนี้มา

ยิ่งอ่านสีหน้าก็ยิ่งแย่ลง จนกระทั่งสุดท้ายกลายเป็นสีหน้าบึ้งตึง

ผู้อำนวยการพยายามข่มความโกรธ หยั่งเชิงถาม “นักเรียนอิ๋งหมายความว่า?”

“จะจัดการตามกฎหมายค่ะ” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเล็กน้อย “ก็แค่แวะมาบอก”

ผู้อำนวยการ “…”

เห็นเขาเป็นแค่เครื่องมือที่มีไว้แจ้งให้ทราบสินะ

“เข้าใจแล้ว” ผู้อำนวยการดันแว่นตา สีหน้าเคร่งเครียด “นักเรียนอิ๋งวางใจได้ ชิงจื้อไม่มีทางเพิกเฉยต่อพฤติกรรมแบบนี้”

อิ๋งจื่อจินไม่พูดอะไรอีก หันตัวเปิดประตูแล้วออกไป

จงมั่นหวาก็ไม่มีเวลาสนใจแล้วว่าตัวเองจะขายหน้าแค่ไหน รีบตามออกไป “จื่อจิน!”

เฮ่อสวินมองสองคนนั้นที่ออกไปด้วยสีหน้าเย็นชา

ถึงแม้จงมั่นหวาจะมีส่วนที่ทำผิดจริง แต่ในฐานะที่เป็นลูกสาวก็ควรจะรู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ มีที่ไหนกันทำกับแม่ตัวเองแบบนี้

เขาเองก็ไม่อยากยุ่ง ขมวดคิ้ว “ผู้อำนวยการครับ เธอเอาอะไรให้ดูเหรอครับ”

“อ๋อ” ดูเหมือนผู้อำนวยการเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเฮ่อสวินก็อยู่ด้วย “ถ้าคุณอยากรู้ก็เอาไปอ่านดู”

ขณะพูดก็ยื่นบันทึกการสนทนาให้

เฮ่อสวินรับมาอ่าน อดอึ้งไปไม่ได้

ในนั้นเป็นบทสนทนาระหว่างอิงเฟยเฟยกับทีมสนับสนุนอิ๋งลู่เวย

อิงเฟยเฟย : [ฉันเห็นมากับตาตัวเองเลยนะ อิ๋งจื่อจินอ่อยเจียงมั่วหย่วน อันที่จริงไม่ใช่แค่ครั้งนี้ พวกเธอไม่รู้หรอกว่ายัยคนนี้ปกติชอบอ้างว่าไปเยี่ยมอิ๋งลู่เวย จริงๆ แล้วอยากไปใกล้ชิดเจียงมั่วหย่วนต่างหาก]

อิงเฟยเฟย : [แต่เจียงมั่วหย่วนเล่นด้วยที่ไหนกัน ไม่แม้แต่จะชายตามองเลยด้วยซ้ำ แต่ยัยนั่นก็ยังคิดไม่ได้ ตามตื๊อไม่เลิก เธอว่าเจียงมั่วหย่วนที่เป็นสุภาพบุรุษขนาดนั้นจะทำไงกับยัยนั่นได้ล่ะ]

ทีมสนับสนุนอิ๋งลู่เวย : [วางใจได้ กล้ามาอ่อยพี่เขยของพวกเรา พวกเราจะเอายัยนั่นให้ถึงตาย หึหึ]

นี่เป็นการสร้างข่าวลือ อิงเฟยเฟยทำให้เกิดกระแสอย่างรุนแรงทางอ้อมในโลกโซเชียล

เฮ่อสวินเงยหน้า “ดังนั้นบทลงโทษของเฟยเฟยคือ?”

“ยังจะยังไงได้อีก” ผู้อำนวยการค้นทะเบียนประวัตินักเรียน “เลวร้ายขนาดนี้ก็ต้องไล่ออกอยู่แล้ว”

นักเรียนที่ถูกชิงจื้อไล่ออกไม่มีโรงเรียนมัธยมแห่งไหนในประเทศจีนกล้ารับไว้อีกแล้ว

ลำคอของเฮ่อสวินขยับ และแล้วก็กลืนคำพูด ‘ผมว่ามันรุนแรงเกินไป’ กลับลงคอ

ชั้นล่างของอาคาร

“จื่อจิน!” จงมั่นหวาเดินฝ่าสายตาแปลกๆ ของนักเรียนในโรงเรียน ใกล้ควบคุมความโมโหไม่อยู่เต็มที “เธอจะหยุดฟังฉันพูดก่อนได้ไหม!”

ทำไมทุกครั้งถึงเอาแต่ใจไม่ไว้หน้าเธอตลอด

จงมั่นหวาเร่งฝีเท้า จะเข้าไปดึงอิ๋งจื่อจิน

แต่ยังไม่ทันได้แตะแม้แต่ชายเสื้อของลูกสาวก็ถูกนักเรียนชายที่ไว้ผมทรงพังค์สองคนถือกระบองหนามขวางทางไว้

จงมั่นหวาสีหน้าเปลี่ยน “พวกเธอคิดจะทำอะไร”

นักเรียนชายทั้งสองคนอยู่ห้องสิบเก้า

พวกเขาทำหน้าโหดเหี้ยม ท่าทางเอาเรื่อง “นี่ป้า ขอเตือนไว้เลยนะ รังแกพ่ออิ๋งของพวกเราให้มันน้อยๆ หน่อย พวกเราไม่ได้กินผักกินหญ้าหรอกนะ”

“พะ พวกเธอ…” จงมั่นหวาโมโหจนตัวสั่น แต่เธอเป็นคุณนายตระกูลเศรษฐี ไม่มีทางที่จะลดตัวไปคุยกับคนแบบนี้ ทำได้เพียงผละไปพร้อมสีหน้าบึ้งตึง

ใต้ต้นไม้ด้านหน้า อิ๋งจื่อจินไม่แม้แต่จะมองจงมั่นหวา

เธอกำลังรับโทรศัพท์ “ขอบคุณมากค่ะผู้เฒ่ามู่ ถ้าไม่ได้ท่านหนูคงหาทางติดต่อสำนักงานทนายความซีเฟิงไม่ได้ง่ายๆ แบบนี้”

“เกรงใจทำไม แค่นี้เอง” พอพูดถึงเรื่องนี้มู่เฮ่อชิงก็ไม่ค่อยพอใจ “เธอจะทำให้มันยุ่งยากขนาดนั้นทำไม ฉันช่วยเธอได้นะ”

อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้ว “สรุปว่าท่านคิดจะลงโฆษณาประกาศหาคู่ให้หนูในนามของตระกูลมู่เหรอคะ”

มู่เฮ่อชิงแกล้งไอด้วยความอาย พูดเสียงขรึม “มันจะเป็นการลงโฆษณาประกาศหาคู่ได้ยังไง เสี่ยวอิ๋ง เอาจริงๆ นะถ้าเธอยินดี หลานๆ ผู้ชายในตระกูลมู่เธอเลือกได้ตามใจเลย”

“อ่อ ไม่ยินดีค่ะ”

“…”

มู่เฮ่อชิงรู้สึกเสียดแทงใจ

“ผู้เฒ่ามู่คะ ยังมีอีกเรื่องที่อยากรบกวนค่ะ” อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดแล้วพูด “รู้ไหมคะว่าพวกสมุนไพรหายากไปซื้อที่ไหนได้บ้าง”

มู่เฮ่อชิงอึ้งไปเล็กน้อย “สมุนไพรหายากเหรอ”

เขาขมวดคิ้ว ชะงักไปเล็กน้อย “ถ้าเธอหมายถึงสมุนไพรหายากอย่างบัวหิมะร้อยปี แบบนั้นในตลาดไม่มีทางมีหรอก”

ตระกูลมู่เป็นตระกูลขุนศึกมาตั้งแต่แรกเริ่ม ประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของตระกูลสามารถไล่ย้อนไปได้ถึงสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ในแวดวงการรักษาแผนโบราณ

มู่เฮ่อชิงก็แค่มีการติดต่อกับคนในแวดวงแพทย์แผนโบราณเพราะต้องรักษาตัวเอง

วงการแพทย์แผนโบราณกีดกันคนนอกอย่างมาก ไม่มีทางขายสมุนไพรหายากให้คนนอก

อิ๋งจื่อจินก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ “น่าจะมีค่ายิ่งกว่าบัวหิมะร้อยปีอีกค่ะ”

พิษในร่างกายของผู้เฒ่าฟู่ เธอไม่ได้เพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก

เธอถอนพิษได้ แต่เรื่องสมุนไพรเป็นโจทย์ยาก

โดยเฉพาะสมัยนี้ที่ธรรมชาติถูกทำลายในระดับที่สูงมาก ประสิทธิภาพของสมุนไพรห่างไกลจากสมัยก่อนลิบลับ

“งั้นก็คงมีแค่ในวงการแพทย์แผนโบราณแล้ว” มู่เฮ่อชิงเงียบไปชั่วขณะ “เสี่ยวอิ๋ง ต่อให้เป็นในแวดวงแพทย์แผนโบราณ ฝีมือการรักษาของเธอก็ไม่มีคนรุ่นเดียวกันคนไหนที่เทียบได้ ฉันแนะนำเธอให้ได้นะ”

อิ๋งจื่อจินนวดขมับ “ขอโทษค่ะ ตอนนี้หนูยังไม่อยากเข้าวงการแพทย์แผนโบราณ”

“เข้าใจแล้ว” มู่เฮ่อชิงก็ไม่ได้ถามเหตุผล “งั้นเอาแบบนี้ ในมือฉันยังมีแอคเคาท์ของสตาร์ที่ว่างๆ อยู่ เธอลองเข้าไปดู ไม่แน่อาจขอซื้อได้”

หลังวางสายมู่เฮ่อชิงก็ส่งแอคเคาท์กับรหัสผ่านให้ทางวีแชท

กระแสในเน็ตยังคงไม่หยุด

[ตอนนี้อิ๋งลู่เวยไม่มีหน้าออกมาแล้วหรือเปล่า]

[พวกแฟนคลับก็เลิกส่งเสียงแล้ว ก่อนหน้านี้เต้นแร้งเต้นกากันสนุกสนาน จึ๊ๆ ฉันล่ะหน้าชาแทนพวกเธอ]

[มีแค่ฉันที่สนใจเหรอว่าอิ๋งจื่อจินจะฟ้องจริงหรือเปล่า อย่าแค่พูดลอยๆ นะ]

และนี่คือสิ่งที่พวกแฟนคลับกับแอคเคาท์เชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่คิดในใจ

พวกเขาตั้งเยอะ จะไล่ฟ้องทีละคนจริงเหรอ

มีกำลังคน กำลังทรัพย์ มีเรี่ยวแรงขนาดนั้นเลย

เป็นไปไม่ได้

บรรดาแอคเคาท์เชิงพาณิชย์ก็ไม่ได้ลบโพสต์ที่เป็นปัญหาทิ้ง อย่างไรเสียเอาไว้แบบนั้นยังจะช่วยเรียกคนได้อีกเยอะ

มีแอคเคาท์เชิงพาณิชย์แอคเคาท์หนึ่งถึงขั้นโพสต์อย่างอวดดี

แอทเจ้าพ่อในวงการ : [เธอไม่มีทางฟ้องหรอก เมื่อก่อนดาราพวกนั้นก็เห็นประกาศจะฟ้อง มีใครฟ้องไหมล่ะ ก็แค่ทำให้ดูเป็นทางการ แล้วนี่คนธรรมดาอย่างเธอ มีอำนาจใหญ่โตขนาดนั้นเลยเหรอ น่าขำสิ้นดี]

ภายในร้านอาหาร ฟู่อวิ๋นเซินอ่านโพสต์นี้ด้วยสายตาเรียบเฉย

ดูเหมือนจะรู้สึกร้อนเขาจึงดึงคอเสื้อออกเล็กน้อย เผยให้เห็นไหปลาร้า

ฟู่อวิ๋นเซินเคาะโต๊ะเรื่อยเปื่อย “เยาเยา”

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า มองคอเสื้อที่เบี้ยวของชายหนุ่มแล้วขมวดคิ้ว

สามวินาทีต่อมาเธอก็ยื่นมือออกไปจับคอเสื้อของเขาให้ตรง

ความเย็นจากปลายนิ้วสัมผัสถูกคอยาวของชายหนุ่ม

ราวกับมีมวลอากาศเคลื่อนไหวเล็กน้อย เกิดเป็นคลื่นแผ่ขยาย

ฟู่อวิ๋นเซินอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ “ไม่ใช่มั้ง เด็กน้อย เธอเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำเหรอ”

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบ แต่ก็จับแขนเสื้อด้านซ้ายของเขาให้เท่ากับด้านขวาคล้ายคนเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำอีกรอบ “เสร็จแล้ว”

จากนั้นถึงมองหน้าเขา “มีอะไรเหรอ”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ก็แค่…” ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินโค้งมน น้ำเสียงเรื่อยเปื่อย “คอยดูว่าพี่ชายสั่งสอนคนที่รังแกเธอยังไงนะ”

“หืม?” อิ๋งจื่อจินชะโงกหน้าไปอ่านเวยปั๋ว

แอทเรียกข้าว่าจอมยุทธ์ศัตรูพ่าย : [เจอเรื่องสนุกมา แอคเคาท์เชิงพาณิชย์สามร้อยแปดสิบสี่แอคเคาท์เชื่อมโยงกัน โพสต์แบบเดียวกัน สร้างข่าวลือเหมือนกัน ดูเหมือน…จะอยู่ภายใต้บริษัทของอิ๋งลู่เวยด้วยนะ]

ด้านล่างแนบภาพประกอบหลายภาพ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 54 คอยดูว่าพี่ชายสั่งสอนคนที่รังแกเธอยังไงนะ

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 54 คอยดูว่าพี่ชายสั่งสอนคนที่รังแกเธอยังไงนะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผู้อำนวยการใส่แว่นตา รับบันทึกการสนทนาฉบับนี้มา

ยิ่งอ่านสีหน้าก็ยิ่งแย่ลง จนกระทั่งสุดท้ายกลายเป็นสีหน้าบึ้งตึง

ผู้อำนวยการพยายามข่มความโกรธ หยั่งเชิงถาม “นักเรียนอิ๋งหมายความว่า?”

“จะจัดการตามกฎหมายค่ะ” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเล็กน้อย “ก็แค่แวะมาบอก”

ผู้อำนวยการ “…”

เห็นเขาเป็นแค่เครื่องมือที่มีไว้แจ้งให้ทราบสินะ

“เข้าใจแล้ว” ผู้อำนวยการดันแว่นตา สีหน้าเคร่งเครียด “นักเรียนอิ๋งวางใจได้ ชิงจื้อไม่มีทางเพิกเฉยต่อพฤติกรรมแบบนี้”

อิ๋งจื่อจินไม่พูดอะไรอีก หันตัวเปิดประตูแล้วออกไป

จงมั่นหวาก็ไม่มีเวลาสนใจแล้วว่าตัวเองจะขายหน้าแค่ไหน รีบตามออกไป “จื่อจิน!”

เฮ่อสวินมองสองคนนั้นที่ออกไปด้วยสีหน้าเย็นชา

ถึงแม้จงมั่นหวาจะมีส่วนที่ทำผิดจริง แต่ในฐานะที่เป็นลูกสาวก็ควรจะรู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ มีที่ไหนกันทำกับแม่ตัวเองแบบนี้

เขาเองก็ไม่อยากยุ่ง ขมวดคิ้ว “ผู้อำนวยการครับ เธอเอาอะไรให้ดูเหรอครับ”

“อ๋อ” ดูเหมือนผู้อำนวยการเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเฮ่อสวินก็อยู่ด้วย “ถ้าคุณอยากรู้ก็เอาไปอ่านดู”

ขณะพูดก็ยื่นบันทึกการสนทนาให้

เฮ่อสวินรับมาอ่าน อดอึ้งไปไม่ได้

ในนั้นเป็นบทสนทนาระหว่างอิงเฟยเฟยกับทีมสนับสนุนอิ๋งลู่เวย

อิงเฟยเฟย : [ฉันเห็นมากับตาตัวเองเลยนะ อิ๋งจื่อจินอ่อยเจียงมั่วหย่วน อันที่จริงไม่ใช่แค่ครั้งนี้ พวกเธอไม่รู้หรอกว่ายัยคนนี้ปกติชอบอ้างว่าไปเยี่ยมอิ๋งลู่เวย จริงๆ แล้วอยากไปใกล้ชิดเจียงมั่วหย่วนต่างหาก]

อิงเฟยเฟย : [แต่เจียงมั่วหย่วนเล่นด้วยที่ไหนกัน ไม่แม้แต่จะชายตามองเลยด้วยซ้ำ แต่ยัยนั่นก็ยังคิดไม่ได้ ตามตื๊อไม่เลิก เธอว่าเจียงมั่วหย่วนที่เป็นสุภาพบุรุษขนาดนั้นจะทำไงกับยัยนั่นได้ล่ะ]

ทีมสนับสนุนอิ๋งลู่เวย : [วางใจได้ กล้ามาอ่อยพี่เขยของพวกเรา พวกเราจะเอายัยนั่นให้ถึงตาย หึหึ]

นี่เป็นการสร้างข่าวลือ อิงเฟยเฟยทำให้เกิดกระแสอย่างรุนแรงทางอ้อมในโลกโซเชียล

เฮ่อสวินเงยหน้า “ดังนั้นบทลงโทษของเฟยเฟยคือ?”

“ยังจะยังไงได้อีก” ผู้อำนวยการค้นทะเบียนประวัตินักเรียน “เลวร้ายขนาดนี้ก็ต้องไล่ออกอยู่แล้ว”

นักเรียนที่ถูกชิงจื้อไล่ออกไม่มีโรงเรียนมัธยมแห่งไหนในประเทศจีนกล้ารับไว้อีกแล้ว

ลำคอของเฮ่อสวินขยับ และแล้วก็กลืนคำพูด ‘ผมว่ามันรุนแรงเกินไป’ กลับลงคอ

ชั้นล่างของอาคาร

“จื่อจิน!” จงมั่นหวาเดินฝ่าสายตาแปลกๆ ของนักเรียนในโรงเรียน ใกล้ควบคุมความโมโหไม่อยู่เต็มที “เธอจะหยุดฟังฉันพูดก่อนได้ไหม!”

ทำไมทุกครั้งถึงเอาแต่ใจไม่ไว้หน้าเธอตลอด

จงมั่นหวาเร่งฝีเท้า จะเข้าไปดึงอิ๋งจื่อจิน

แต่ยังไม่ทันได้แตะแม้แต่ชายเสื้อของลูกสาวก็ถูกนักเรียนชายที่ไว้ผมทรงพังค์สองคนถือกระบองหนามขวางทางไว้

จงมั่นหวาสีหน้าเปลี่ยน “พวกเธอคิดจะทำอะไร”

นักเรียนชายทั้งสองคนอยู่ห้องสิบเก้า

พวกเขาทำหน้าโหดเหี้ยม ท่าทางเอาเรื่อง “นี่ป้า ขอเตือนไว้เลยนะ รังแกพ่ออิ๋งของพวกเราให้มันน้อยๆ หน่อย พวกเราไม่ได้กินผักกินหญ้าหรอกนะ”

“พะ พวกเธอ…” จงมั่นหวาโมโหจนตัวสั่น แต่เธอเป็นคุณนายตระกูลเศรษฐี ไม่มีทางที่จะลดตัวไปคุยกับคนแบบนี้ ทำได้เพียงผละไปพร้อมสีหน้าบึ้งตึง

ใต้ต้นไม้ด้านหน้า อิ๋งจื่อจินไม่แม้แต่จะมองจงมั่นหวา

เธอกำลังรับโทรศัพท์ “ขอบคุณมากค่ะผู้เฒ่ามู่ ถ้าไม่ได้ท่านหนูคงหาทางติดต่อสำนักงานทนายความซีเฟิงไม่ได้ง่ายๆ แบบนี้”

“เกรงใจทำไม แค่นี้เอง” พอพูดถึงเรื่องนี้มู่เฮ่อชิงก็ไม่ค่อยพอใจ “เธอจะทำให้มันยุ่งยากขนาดนั้นทำไม ฉันช่วยเธอได้นะ”

อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้ว “สรุปว่าท่านคิดจะลงโฆษณาประกาศหาคู่ให้หนูในนามของตระกูลมู่เหรอคะ”

มู่เฮ่อชิงแกล้งไอด้วยความอาย พูดเสียงขรึม “มันจะเป็นการลงโฆษณาประกาศหาคู่ได้ยังไง เสี่ยวอิ๋ง เอาจริงๆ นะถ้าเธอยินดี หลานๆ ผู้ชายในตระกูลมู่เธอเลือกได้ตามใจเลย”

“อ่อ ไม่ยินดีค่ะ”

“…”

มู่เฮ่อชิงรู้สึกเสียดแทงใจ

“ผู้เฒ่ามู่คะ ยังมีอีกเรื่องที่อยากรบกวนค่ะ” อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดแล้วพูด “รู้ไหมคะว่าพวกสมุนไพรหายากไปซื้อที่ไหนได้บ้าง”

มู่เฮ่อชิงอึ้งไปเล็กน้อย “สมุนไพรหายากเหรอ”

เขาขมวดคิ้ว ชะงักไปเล็กน้อย “ถ้าเธอหมายถึงสมุนไพรหายากอย่างบัวหิมะร้อยปี แบบนั้นในตลาดไม่มีทางมีหรอก”

ตระกูลมู่เป็นตระกูลขุนศึกมาตั้งแต่แรกเริ่ม ประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของตระกูลสามารถไล่ย้อนไปได้ถึงสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ในแวดวงการรักษาแผนโบราณ

มู่เฮ่อชิงก็แค่มีการติดต่อกับคนในแวดวงแพทย์แผนโบราณเพราะต้องรักษาตัวเอง

วงการแพทย์แผนโบราณกีดกันคนนอกอย่างมาก ไม่มีทางขายสมุนไพรหายากให้คนนอก

อิ๋งจื่อจินก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ “น่าจะมีค่ายิ่งกว่าบัวหิมะร้อยปีอีกค่ะ”

พิษในร่างกายของผู้เฒ่าฟู่ เธอไม่ได้เพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก

เธอถอนพิษได้ แต่เรื่องสมุนไพรเป็นโจทย์ยาก

โดยเฉพาะสมัยนี้ที่ธรรมชาติถูกทำลายในระดับที่สูงมาก ประสิทธิภาพของสมุนไพรห่างไกลจากสมัยก่อนลิบลับ

“งั้นก็คงมีแค่ในวงการแพทย์แผนโบราณแล้ว” มู่เฮ่อชิงเงียบไปชั่วขณะ “เสี่ยวอิ๋ง ต่อให้เป็นในแวดวงแพทย์แผนโบราณ ฝีมือการรักษาของเธอก็ไม่มีคนรุ่นเดียวกันคนไหนที่เทียบได้ ฉันแนะนำเธอให้ได้นะ”

อิ๋งจื่อจินนวดขมับ “ขอโทษค่ะ ตอนนี้หนูยังไม่อยากเข้าวงการแพทย์แผนโบราณ”

“เข้าใจแล้ว” มู่เฮ่อชิงก็ไม่ได้ถามเหตุผล “งั้นเอาแบบนี้ ในมือฉันยังมีแอคเคาท์ของสตาร์ที่ว่างๆ อยู่ เธอลองเข้าไปดู ไม่แน่อาจขอซื้อได้”

หลังวางสายมู่เฮ่อชิงก็ส่งแอคเคาท์กับรหัสผ่านให้ทางวีแชท

กระแสในเน็ตยังคงไม่หยุด

[ตอนนี้อิ๋งลู่เวยไม่มีหน้าออกมาแล้วหรือเปล่า]

[พวกแฟนคลับก็เลิกส่งเสียงแล้ว ก่อนหน้านี้เต้นแร้งเต้นกากันสนุกสนาน จึ๊ๆ ฉันล่ะหน้าชาแทนพวกเธอ]

[มีแค่ฉันที่สนใจเหรอว่าอิ๋งจื่อจินจะฟ้องจริงหรือเปล่า อย่าแค่พูดลอยๆ นะ]

และนี่คือสิ่งที่พวกแฟนคลับกับแอคเคาท์เชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่คิดในใจ

พวกเขาตั้งเยอะ จะไล่ฟ้องทีละคนจริงเหรอ

มีกำลังคน กำลังทรัพย์ มีเรี่ยวแรงขนาดนั้นเลย

เป็นไปไม่ได้

บรรดาแอคเคาท์เชิงพาณิชย์ก็ไม่ได้ลบโพสต์ที่เป็นปัญหาทิ้ง อย่างไรเสียเอาไว้แบบนั้นยังจะช่วยเรียกคนได้อีกเยอะ

มีแอคเคาท์เชิงพาณิชย์แอคเคาท์หนึ่งถึงขั้นโพสต์อย่างอวดดี

แอทเจ้าพ่อในวงการ : [เธอไม่มีทางฟ้องหรอก เมื่อก่อนดาราพวกนั้นก็เห็นประกาศจะฟ้อง มีใครฟ้องไหมล่ะ ก็แค่ทำให้ดูเป็นทางการ แล้วนี่คนธรรมดาอย่างเธอ มีอำนาจใหญ่โตขนาดนั้นเลยเหรอ น่าขำสิ้นดี]

ภายในร้านอาหาร ฟู่อวิ๋นเซินอ่านโพสต์นี้ด้วยสายตาเรียบเฉย

ดูเหมือนจะรู้สึกร้อนเขาจึงดึงคอเสื้อออกเล็กน้อย เผยให้เห็นไหปลาร้า

ฟู่อวิ๋นเซินเคาะโต๊ะเรื่อยเปื่อย “เยาเยา”

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า มองคอเสื้อที่เบี้ยวของชายหนุ่มแล้วขมวดคิ้ว

สามวินาทีต่อมาเธอก็ยื่นมือออกไปจับคอเสื้อของเขาให้ตรง

ความเย็นจากปลายนิ้วสัมผัสถูกคอยาวของชายหนุ่ม

ราวกับมีมวลอากาศเคลื่อนไหวเล็กน้อย เกิดเป็นคลื่นแผ่ขยาย

ฟู่อวิ๋นเซินอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ “ไม่ใช่มั้ง เด็กน้อย เธอเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำเหรอ”

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบ แต่ก็จับแขนเสื้อด้านซ้ายของเขาให้เท่ากับด้านขวาคล้ายคนเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำอีกรอบ “เสร็จแล้ว”

จากนั้นถึงมองหน้าเขา “มีอะไรเหรอ”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ก็แค่…” ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินโค้งมน น้ำเสียงเรื่อยเปื่อย “คอยดูว่าพี่ชายสั่งสอนคนที่รังแกเธอยังไงนะ”

“หืม?” อิ๋งจื่อจินชะโงกหน้าไปอ่านเวยปั๋ว

แอทเรียกข้าว่าจอมยุทธ์ศัตรูพ่าย : [เจอเรื่องสนุกมา แอคเคาท์เชิงพาณิชย์สามร้อยแปดสิบสี่แอคเคาท์เชื่อมโยงกัน โพสต์แบบเดียวกัน สร้างข่าวลือเหมือนกัน ดูเหมือน…จะอยู่ภายใต้บริษัทของอิ๋งลู่เวยด้วยนะ]

ด้านล่างแนบภาพประกอบหลายภาพ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+