ตอนที่ 609 ตระกูลเซี่ย ไสหัวไป!

มองผิวเผินนายใหญ่เซี่ยพูดอย่างสุภาพ น้ำเสียงเป็นมิตร

แต่ในความเป็นจริงกลับมีสัญญาณหนึ่งที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา

ได้แต่งเข้าบ้านตระกูลเซี่ยถือเป็นวาสนาของเธอ อย่ามาทำเป็นเล่นตัว

พอเซี่ยเฟิงได้ยินแบบนั้นก็อึดอัด ไม่สบอารมณ์อย่างรุนแรง

ถ้าเป็นอิ๋งจื่อจินคนก่อน คนธรรมดาแต่งเข้าตระกูลเซี่ยก็เป็นได้แค่แจกันประดับ

คนในตระกูลเซี่ยไม่มีทางให้เกียรติเธอ ทั้งยังจะแต่งเมียให้เซี่ยอวี้อีกหลายคน

แต่ตอนนี้อิ๋งจื่อจินเป็นอัจฉริยะอายุน้อยอันดับต้นๆ ของโลกแพทย์แผนโบราณ

เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเทียบเท่าหลินชิงจยากับเซี่ยเนี่ยนแล้ว

หากเธอแต่งเข้าตระกูลเซี่ย เขาก็ต้องเรียกอิ๋งจื่อจินว่าพี่สะใภ้ใหญ่ ข่มเขาได้หนึ่งขั้นโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย

เซี่ยเฟิงไม่อยากยอมรับ

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า กวาดตามอง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและไม่ใยดี “ไม่ต้องการ ไม่แต่ง ไม่สนใจ”

แววตาของเซี่ยเฟิงขรึมลงทันที “เธอ…”

นายใหญ่เซี่ยยกมือห้ามเซี่ยเฟิงไว้ “คุณอิ๋งครับ ผมรู้ว่าคำขอของพวกเรามันกะทันหันเกินไป แต่คุณต้องเก็บไปพิจารณาดีๆ นะครับ”

เขายิ้มแล้วพูดต่อ “คุณมาอยู่โลกแพทย์แผนโบราณก็ครึ่งปีได้แล้ว น่าจะรู้ว่าตระกูลเซี่ยของผมเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในโลกจอมยุทธ์”

“ส่วนอวี้เอ๋อร์ วันหน้าก็คือนายใหญ่ตระกูลเซี่ย คุณแต่งงานกับเขาก็จะได้เป็นนายหญิงตระกูลเซี่ย เขามีวรยุทธ์สูงมาก ปกป้องคุณได้แน่นอนครับ”

เซี่ยเฟิงข่มอารมณ์ “พี่ใหญ่ของผมเก่งกว่าเฉิงจิ่นอีก สินสอดก็เตรียมไว้ให้แล้ว ยังต้องการอะไรอีก”

คราวนี้อิ๋งจื่อจินเดินออกโดยไม่แม้แต่จะมอง

ถูกมองข้ามถูกปฏิเสธ นายใหญ่เซี่ยก็เริ่มหงุดหงิด

เขายื่นมือออกไปจะจับบ่าของอิ๋งจื่อจิน

มีเสียงตวาดดังขึ้นในเวลานี้ แทบจะสั่นสะเทือนแก้วหูอย่างรุนแรง

“ตระกูลเซี่ยไสหัวออกไป!”

นายใหญ่เซี่ยยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกฝูซีตบกระเด็นออกไปนอกประตู

กลิ้งตกบันไดไปกระแทกต้นไม้ใหญ่ด้านนอก

“ครืน” เสียงต้นไม้ใหญ่หัก

นายใหญ่เซี่ยกระอักเลือด นอนแน่นิ่งบนพื้น ขยับไม่ได้

ก่อนหน้านี้ไม่นานเขาเพิ่งถูกตบที่ศาลสถิตยุติธรรม บาดแผลยังไม่หายดี

ตอนนี้ยังมาถูกฝูซีตบกระเด็นเข้าอีก กระดูกก็หักไม่เหลือ

เซี่ยเฟิงขมวดคิ้ว “แกเป็นใคร อยากตายเหรอ”

นายใหญ่เซี่ยเป็นแค่นายใหญ่ก็จริง

ในตระกูลใหญ่ของโลกจอมยุทธ์ นายใหญ่เปลี่ยนได้ตลอดเวลา ดังนั้นสถานะของเขาในตระกูลเซี่ยยังไม่สูงเท่าเซี่ยเนี่ยนด้วยซ้ำ

ถึงขั้นที่ว่าหากเซี่ยเนี่ยนไม่พอใจก็สามารถไปบอกคณะผู้อาวุโสได้ว่าให้เปลี่ยนนายใหญ่

แต่อย่างไรเสียเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นนายใหญ่ ยามอยู่ข้างนอกเป็นตัวแทนของตระกูลเซี่ย

มีคนกล้าท้าทายอำนาจของตระกูลเซี่ยด้วยเหรอ

“ฉันว่าคนที่อยากตายคือนายล่ะไม่ว่า” ฝูซีแสยะยิ้ม ยกมือขึ้นอีกครั้ง

หวดไปอีกหนึ่งที เซี่ยเฟิงกระเด็นออกไป

วรยุทธ์ของเซี่ยเฟิงต่ำกว่านายใหญ่เซี่ย จึงเจ็บหนักกว่า

พวกคนคุ้มกันตระกูลเซี่ยที่ตามมาด้วยพอเห็นแบบนี้ก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

โลกแพทย์แผนโบราณมีคนเป็นวรยุทธ์ตั้งแต่เมื่อไรกัน

“ท่านผู้นำตระกูล!” ฝูเฉินวิ่งตามออกมา หันไปมองอิ๋งจื่อจิน “คุณอิ๋งไม่เป็นไรใช่ไหมครับ”

โวะ ท่านผู้นำตระกูลของพวกเขาชักจะชอบใช้ความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว สมกับเป็นศิษย์ของท่านปรมาจารย์

นายใหญ่เซี่ยพอตั้งสติได้บ้าง พอได้ยินคำเรียกนี้ก็สีหน้าเปลี่ยน “ผู้นำตระกูลเหรอ”

นี่คือผู้นำตระกูลฝู แพทย์แผนโบราณอันดับหนึ่งเหรอ

“ตระกูลเซี่ยหมายความว่ายังไง” ฝูซีสีหน้าเย็นชา หยุดเล็กน้อย “อา…เด็กคนนี้เพิ่งช่วยโลกแพทย์แผนโบราณให้พ้นวิกฤติ และก็ช่วยฉันไว้ได้มาก ตระกูลเซี่ยคิดจะมาบังคับให้แต่งงานเลยเชียวรึ”

นายใหญ่เซี่ยอ้าปาก ยังไม่ทันพูดสักคำก็กระอักเลือดออกมาเต็มพื้นอีกครั้ง

เซี่ยเฟิงยังอยากพูดอะไรต่อ แต่เขาไม่กล้า

“ลองพูดอีกทีสิ ไสหัวไป!” ฝูซีสายตาอาฆาต “เป็นถึงตระกูลใหญ่ กลับรู้จักแต่บังคับขู่เข็ญ ไม่ได้เรื่อง”

นายใหญ่เซี่ยกับเซี่ยเฟิงสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไปแล้ว

พวกคนคุ้มกันจนปัญญา ทำได้เพียงจ่ายเงินจำนวนมากซื้อเปลหามสองอันมาหามสองคนนี้กลับไป

ฝูเฉินจัดการโอนเงินให้อิ๋งจื่อจินอย่างไม่ลังเล

เงินทองเป็นของนอกกาย ขอแค่เขารู้จักประจบก็พอแล้ว

“นายไปประชุมแทนฉัน” ฝูซีพูด “วันหน้าตระกูลฝูต้องพึ่งนาย ฝึกไว้”

ฝูเฉินที่กำลังจะไปนอน “…”

เขาทำได้เพียงขานรับ เดินคอตกเข้าไปในห้องประชุม

พอไม่มีคนอยู่แล้วฝูซีถึงพูดขึ้น “อาจารย์คะ ฉันกลัวว่าตระกูลเซี่ยจะยังมีความเคลื่อนไหวอะไรอีก ฉันจะคุ้มกันอาจารย์ออกไปค่ะ”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า

ทั้งสองคนไปที่ทางเข้าออกของโลกจอมยุทธ์

“อาจารย์คะ ฉันจะช่วยอาจารย์ตามหาผู้อาวุโสเฟิงซิวค่ะ” ระหว่างทางฝูซีเงียบมานาน “เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ อาจารย์มีของแทนตัวอะไรที่เขารู้บ้างไหมคะ”

ด้วยนิสัยทำตัวอวดดีและเหิมเกริมของตระกูลเซี่ย ตอนนี้ก็มีแค่เฟิงซิวเท่านั้นถึงจะปกป้องอิ๋งจื่อจินได้

เมื่อก่อนอาจารย์ปกป้องพวกเขา ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเขาต้องตอบแทนบ้างแล้ว

อิ๋งจื่อจินส่ายหน้าเล็กน้อย “ไม่มี ต่อให้มี เธอก็ตามหาเขาไม่เจอหรอก”

ตอนนี้วรยุทธ์ของเฟิงซิวล้ำหน้าเธอไปมาก เธอพยากรณ์ไม่ได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน

ดังนั้นเฟิงซิวยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ

ฝูซีถอนหายใจ “ฉันมันไร้ประโยชน์ วรยุทธ์ต่ำเกินไป”

เธอมีวรยุทธ์สองร้อยกว่าปี แต่หากเทียบกับผู้นำตระกูลเซี่ยก็ยังถือว่าอ่อนกว่ามาก

“ไม่เป็นไร” อิ๋งจื่อจินตบบ่าฝูซีปลอบใจ ยิ้มพลางพูด “ส่วนใหญ่ฉันจะพักอยู่ในตี้ตู มีศาลสถิตยุติธรรมเฝ้าอยู่ตรงทางออก จอมยุทธ์ระดับปรมาจารย์จอมยุทธ์ขึ้นไปของตระกูลเซี่ยออกไปไม่ได้หรอก”

“ถ้ามีเรื่องอะไรพวกเราก็ติดต่อทางโทรศัพท์”

ฟู่อวิ๋นเซินอยู่ศาลสถิตยุติธรรมได้จัดการเอาตระกูลเซี่ยขึ้นบัญชีต้องห้ามไปแล้ว

จอมยุทธ์คนไหนก็ตามในตระกูลเซี่ยที่มีวรยุทธ์ร้อยปีขึ้นไปห้ามออกจากโลกจอมยุทธ์

เรื่องนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะผู้อาวุโสแล้ว อย่างไรเสียวิธีการที่ตระกูลเซี่ยใช้ก็โหดเหี้ยมอำมหิตเกินไป

นับตั้งแต่ก่อตั้งโลกจอมยุทธ์ พวกจอมยุทธ์ก็ตกลงกันแล้วว่า ห้ามสร้างความเสียหายรุนแรงให้กับคนธรรมดาทั่วไป

แน่นอนว่ายังมีอีกสาเหตุ นั่นก็คือเพราะสมัยนี้เทคโนโลยีล้ำหน้าไปไกลมาก

ถ้ามีระเบิดปรมาณูตกลงมา จอมยุทธ์จะเก่งแค่ไหนก็ต้องจบชีวิต

ฮู่ฝ่าซ้ายไม่คัดค้าน และก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนั้นด้วย

อย่างไรเสียตระกูลเซี่ยก็ไม่ได้ชอบออกไปโลกข้างนอก

ฝูซีพยักหน้า มองส่งอิ๋งจื่อจินออกจากโลกจอมยุทธ์ไป ในที่สุดถึงรู้สึกโล่งอก

เธอยืนคิดอยู่นานแล้วก็ตัดสินใจได้

ไม่ว่าอย่างไรเธอต้องตามหาเฟิงซิวให้เจอ

…

บ้านตระกูลเซี่ย

นายใหญ่เซี่ยพักฟื้นอยู่สามวันเต็มๆ ถึงจะพลิกตัวได้

เซี่ยเฟิงยังหนุ่ม ฟื้นฟูร่างกายได้เร็วกว่า แต่ก็ยังลุกมาเดินไม่ได้

เรื่องนี้ลือไปทั่วตระกูลเซี่ยแล้ว แต่เครือญาติสายอื่นต่างมองเป็นเรื่องตลก

“ไม่สู้ไปขอให้ท่านผู้นำตระกูลฆ่าฝูซีทิ้งซะ” ในดวงตาของเซี่ยเฟิงฉายแววอาฆาต “ดูซิว่ายังจะอวดดีได้ยังไงอีก!”

“ถ้าไม่มีฝูซีใครยังจะปกป้องอิ๋งจื่อจินได้อีก”

ฝูซีเก็บซ่อนความสามารถได้เก่งจริงๆ

เป็นทั้งจอมยุทธ์และแพทย์แผนโบราณ

ขนาดพวกเขาตระกูลเซี่ยก็ไม่ทราบข่าวกรองแม้แต่น้อย

“บ้าไปแล้วเหรอ” คุณนายเซี่ยดุ “ฝูซีมีบารมีสูงส่งที่สุดในโลกแพทย์แผนโบราณ ตระกูลเซี่ยแตะต้องได้เหรอ ถ้าฆ่าฝูซีทิ้ง ตระกูลเซี่ยก็อย่าหวังจะหาแพทย์แผนโบราณรักษาได้อีกเลย ก่อนจะพูดอะไรคิดให้ดีก่อน”

ลูกชายคนนี้ของเธอดีหมดทุกอย่าง

เสียแค่ชอบใช้กำลัง สมองคิดอะไรตื้นๆ

เซี่ยเฟิงหงุดหงิด “งั้นจะให้ทำไง มองดูพี่ใหญ่นอนไม่ฟื้นแบบนี้เหรอ เขาไม่ฟื้น ความสามารถของพวกเราก็เหมือนถูกจำกัดไว้ ตำแหน่งนายใหญ่คนต่อไปได้ถูกสายอื่นแย่งไปแน่”

“เนี่ยนเนี่ยนพูดถูก ยังไงก็ต้องมีหนทาง” นายใหญ่เซี่ยพูดเสียงขรึม “พ่ออาจจะใจร้อนเกินไป ช่างเถอะ ไว้คิดหาวิธีดีๆ ได้ค่อยว่ากัน”

คุณนายเซี่ยลังเล “แม่ว่า ไม่งั้นอย่าทำแบบนี้เลยดีกว่า วันนั้นผู้อาวุโสใหญ่กลับมาก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ เขามีวิธีทำให้อวี้เอ๋อร์ฟื้นแล้ว พวกเรารอหน่อยดีกว่า”

“แม่รู้สึกว่าอิ๋งจื่อจินคนนี้ไม่ธรรมดา เกิดนำหายนะมาให้ตระกูลเซี่ยจะทำยังไง”

“ตลกน่า” นายใหญ่เซี่ยได้ฟังก็หัวเราะ “ขนาดตระกูลหลินตระกูลเย่ว์ยังต้องเลี่ยงการปะทะกับตระกูลเซี่ยของเรา ทั่วทั้งโลกจอมยุทธ์ หากว่ากันด้วยเรื่องศักยภาพโดยรวม ไม่มีใครสู้ตระกูลเซี่ยของเราได้!”

“ต่อให้เป็นประธานสหพันธ์จอมยุทธ์ก็ยังด้อยกว่าผู้นำตระกูลเรา แค่ผู้นำตระกูลคนเดียวก็ทำลายสหพันธ์จอมยุทธ์ได้แล้ว แล้วคิดว่าแพทย์แผนโบราณคนเดียวจะนำหายนะมาให้ตระกูลเซี่ยได้เหรอ ตลกน่า”

ตระกูลเซี่ยไม่ได้จะเอาชีวิตอิ๋งจื่อจินเสียหน่อย ก็แค่ให้แต่งงาน

พอเซี่ยอวี้ฟื้นขึ้นมา มีคนในโลกจอมยุทธ์ตั้งเท่าไรที่อยากมาขอเกี่ยวดองด้วย

โอกาสดีที่หาได้ยาก

คุณนายเซี่ยเลิกพูด

เพราะคำพูดนี้ก็เป็นเรื่องจริง

เซี่ยเนี่ยนทำตัวอวดดีขนาดนั้นได้ก็เพราะเธอมีผู้นำตระกูลเซี่ยหนุนหลังอยู่

คนอื่นๆ ในตระกูลเซี่ยเป็นอะไรก็ไม่มีทางที่ผู้นำตระกูลเซี่ยจะออกโรง แต่ถ้าเซี่ยเนี่ยนบาดเจ็บ แม้แต่ผู้นำตระกูลเซี่ยก็โมโห

เซี่ยเฟิงทำเสียงฮึดฮัด “ทำไมจะไม่มีใครเก่งกว่าผู้นำตระกูลเรา จอมยุทธ์อันดับหนึ่งนั่นไง เขาแค่ใช้มือเดียวก็สู้กับผู้นำตระกูลสิบคนได้แล้วหรือเปล่า”

“แม่แกก็บอกแล้วว่าให้คิดก่อนพูด” นายใหญ่เซี่ยโมโห “จอมยุทธ์อันดับหนึ่งอายุตั้งเท่าไรแล้ว แม้แต่ผู้นำตระกูลยังต้องเรียกว่าผู้อาวุโส แล้วอิ๋งจื่อจินยังจะเกี่ยวข้องกับจอมยุทธ์อันดับหนึ่งได้อีกเหรอ”