คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 666 อาจารย์ มีหลายตัวตนชั้นแล้วชั้นเล่า

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 666 อาจารย์ มีหลายตัวตนชั้นแล้วชั้นเล่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 666 อาจารย์ มีหลายตัวตนชั้นแล้วชั้นเล่า

พ่อบ้านพยักหน้า “ทำตามที่คุณหนูใหญ่สั่ง ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ”

เซี่ยเนี่ยนวางแผนเล่นงานหลิงเหมียนซีไว้ตั้งแต่ตอนต้นปี

แววตาของเซี่ยเนี่ยนขรึมลง “ดีมาก ทางสหพันธ์จอมยุทธ์ล่ะ”

ตาแก่เฉิงหย่วนลงมือหนักจริง ทำให้เธอต้องนอนรักษาตัวอยู่บนเตียงเกือบสองเดือนแล้ว

ถ้าไม่ติดว่าเซี่ยฮ่วนหรานเก็บตัวฝึกอยู่ มีเหรอที่เธอจะถูกหยามศักดิ์ศรีแบบนี้

“คุณหนูใหญ่ครับ ประธานเฉิงหย่วนไม่ได้อยู่ที่สหพันธ์จอมยุทธ์ และก็ไม่ได้อยู่ที่เมืองไหนในโลกจอมยุทธ์ครับ” พ่อบ้านพูด “มีข่าวจากทางสหพันธ์จอมยุทธ์มาว่า เฉิงหย่วนออกไปตามหาอาจารย์ของเขาแล้วครับ เมื่อเดือนกว่าที่แล้วไปเขตไร้ผู้คน ยังไม่กลับมาครับ”

เขายิ้ม “ยิ่งไปกว่านั้น เขากับตระกูลหลิงก็ไม่ได้รู้จักกันด้วยครับ”

“อาจารย์ของเขาเหรอ” เซี่ยเนี่ยนขมวดคิ้ว “ใคร”

วรยุทธ์ของเฉิงหย่วนสูงมากแล้ว อาจารย์ของเขาไม่ยิ่งเก่งกว่าอีกเหรอ

“ไม่ทราบครับ ทางสหพันธ์จอมยุทธ์ปิดปากเงียบมาก” พ่อบ้านส่ายหน้า “แต่ผมเดาว่า มีความเป็นไปได้สูงที่อาจารย์ของเฉิงหย่วนจะตายแล้ว ไม่อย่างนั้นทำไมเขายังจะต้องไปตามหาด้วย”

ด้วยอายุของเฉิงหย่วน หากเป็นในโลกจอมยุทธ์ก็ถือว่าอายุมากแล้ว

หากวรยุทธ์ของเฉิงหย่วนไม่ก้าวหน้าขึ้นสูงกว่านี้ อีกสิบกว่าปีเขาก็หนีไม่พ้นต้องโรยราไป

ส่วนเซี่ยฮ่วนหรานอายุมากยิ่งกว่า

ดังนั้นการที่เขาเก็บตัวครั้งนี้ตระกูลเซี่ยจึงเป็นห่วงมาก

ถ้าเซี่ยฮ่วนหรานล้มเหลวถึงแก่ความตาย ด้วยการทำตัวของตระกูลเซี่ยในช่วงหลายปีมานี้ เกรงว่าทั้งโลกจอมยุทธ์จะรวมตัวกันมาเอาคืน

แต่ถ้าเซี่ยฮ่วนหรานประสบความสำเร็จ โลกจอมยุทธ์ก็จะเป็นของตระกูลเซี่ยแล้ว

ไม่มีใครขัดขวางพวกเขาได้อีก

“ดีมาก ฉันว่าอาจารย์เขาคงตายไปนานแล้ว” เซี่ยเนี่ยนทำเสียงหึ แสยะยิ้ม “เย่ว์ฝูอีก็เก็บตัวฝึก ดูซิว่าครั้งนี้หลิงเหมียนซีจะหนียังไง”

สิ่งไหนที่เซี่ยเนี่ยนต้องการ มีเหรอจะไม่ได้

ทางด้านอิ๋งจื่อจิน

ฟู่อวิ๋นเซินกับเธอแยกกันที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์

เธอพาซีนายนั่งเฮลิคอปเตอร์อีกลำไปที่สำนักงานใหญ่ไอบีไอ

“ฉันจะทิ้งเธอไว้ที่ไอบีไอ” อิ๋งจื่อจินรับคอมพิวเตอร์ที่ซีนายดัดแปลงให้ “ที่นั่นมีคลังข้อมูลที่สมบูรณ์ที่สุด ตราบใดที่หลานสาวของเธอเกิดที่เจ็ดทวีปสี่มหาสมุทร ต่อให้ไม่ถูกขึ้นทะเบียน ก็ยังมีข้อมูลอยู่ในคลังข้อมูลของไอบีไอ”

เธอหยุดเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “แต่ถ้ามีแค่ลักษณะเด่นแบบที่เธอบอก หาอีกสิบปีก็หาไม่เจอหรอก”

“เอาเป็นว่าฉันก็หามาสิบปีแล้ว หาอีกหลายสิบปีมันจะต่างอะไรกัน” ซีนายขอบตาแดงเล็กน้อย พูดเสียงเบา “กลัวก็แค่พี่สะใภ้ใหญ่จะอยู่ไม่ถึงตอนนั้นน่ะสิ”

“อืม” อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “พอฉันเข้าเมืองได้แล้วจะช่วยตรวจพี่สะใภ้ใหญ่เธอให้”

ซีนายพยักหน้าแล้วเริ่มประกอบโทรศัพท์มือถือ

อิ๋งจื่อจินพิงหน้าต่างพักสายตา

หนึ่งชั่วโมงต่อมาราวกับรู้สึกได้ถึงบางอย่าง อยู่ๆ เธอก็ลืมตาขึ้น

“มีอะไรเหรอ” ซีนายหันมา “จะถึงแล้วเหรอ”

“เปล่า” อิ๋งจื่อจินส่ายหน้า หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์

พอปลายสายรับเธอก็พูด “เหมียนซี ช่วงสองวันนี้เธออาจมีอันตราย ระวังตัวด้วย ทางที่ดีอย่าออกไปไหน”

“หา อันตรายเหรอ” หลิงเหมียนซีอึ้ง “ฉันว่าจะไปช่วยที่เขตสงครามในวันมะรืน จะเจออันตรายก็เป็นเรื่องปกติ”

อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้ว “เธอจะไปเขตสงครามเหรอ”

“ไอบีไอขาดคนไม่ใช่เหรอ ฉันเลยจะไปช่วยหน่อย” หลิงเหมียนซีพูด “ยังไงซะช่วงนี้ฉันก็ว่างอยู่”

อิ๋งจื่อจินเอามือปิดตา มองแล้วมองอีก

เลือนราง

ภาพอนาคตของหลิงเหมียนซีเลือนราง

มีผลลัพธ์แค่สองแบบ

แบบหนึ่งคือญาณพยากรณ์ของเธอยังไม่พอ พยากรณ์ทั้งหมดออกมาไม่ได้

อีกแบบคือหลิงเหมียนซีกับเธอใกล้ชิดกันมาก เธอมีลางสังหรณ์ได้ว่าหลิงเหมียนซีจะมีอันตราย แต่กลับไม่เห็นว่าอันตรายที่จะเจอคืออะไร

อิ๋งจื่อจินนวดขมับ

ความเป็นไปได้แบบแรกมีไม่มาก เพราะเธอสามารถมองเห็นภัยพิบัติต่างๆ ที่จะเกิดในครึ่งปีของเจ็ดทวีปสี่มหาสมุทรได้แล้ว

ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวหรือสึนามิ แม้แต่จำนวนคนตายก็พยากรณ์ออกมาได้อย่างชัดเจน

แต่แบบที่สอง?

เธอกับหลิงเหมียนซีไม่มีแม้แต่ความสัมพันธ์ทางสายเลือด และก็ไม่ได้เหมือนเธอกับฟู่อวิ๋นเซินที่ใกล้ชิดกันมากจนไม่แบ่งแยกกันและกัน

อิ๋งจื่อจินมองมือตัวเองเงียบๆ นิ้วค่อยๆ ประสานกัน

‘หัวใจ’ ที่เธอทำหายได้พรากความทรงจำกับพลังของเธอไปเท่าไรกันแน่

หลิงเหมียนซีพูดขึ้น “อาอิ๋ง?”

“เธอจะไปเขตสงคราม ฉันจะไปกับเธอด้วย” อิ๋งจื่อจินดึงสติกลับมา “รอฉันส่งกองทัพอากาศของไอบีไอออกไปก่อนแล้วจะไปหาเธอที่ตี้ตู เธออย่าเพิ่งออกจากบ้านจนกว่าฉันจะไปถึง”

“ได้” หลิงเหมียนซีตอบตกลงอย่างสบายๆ “เสี่ยวหรานหรานบอกว่าเธอเป็นหมอดู บางครั้งก็ดูลึกลับ แต่ฉันก็เชื่อฟังคำพูดของเธอ ฉันจะรอนะ”

สี่ชั่วโมงต่อมา

สำนักงานใหญ่ไอบีไอ

ที่นี่ได้คุมขังนักโทษข้ามชาติไว้ไม่น้อย

ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงาน นอกจากเจ้าหน้าที่สืบค้น นักสืบ และสปายที่ต้องไปนั่นไปนี่แล้ว เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็เดินเข้าเดินออก

อิ๋งจื่อจินกับซีนายดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย

อย่างไรเสียเด็กสาวกับเด็กผู้หญิงตัวน้อยก็ดูไม่เข้ากับสไตล์ดุดันของไอบีไอ

พนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์ก็แปลกใจ แต่ก็หยิบสมุดออกมาเล่มหนึ่งแล้วถามด้วยความเอาใจใส่ “คุณผู้หญิงมาขอความช่วยเหลือเหรอคะ ช่วยบอกปัญหาที่เจอมาด้วยค่ะ พวกเราจะช่วยจัดการให้โดยเร็วที่สุด”

บางครั้งจะมีชาวบ้านเข้ามาขอความช่วยเหลือในสำนักงานใหญ่ไอบีไอ

“ไม่ต้องค่ะ” อิ๋งจื่อจินหยิบบัตรออกมาวางบนโต๊ะ “ฉันต้องการพบแอนโทนี่”

บนบัตรมีชื่อนามสกุลและรูปถ่าย

ด้านขวาล่างมีตัวเอสสีแดงตัวใหญ่

สปายระดับเอส!

นี่มันระดับเทียบเท่ารองประธานไดอาเลยนะ

พนักงานสาวมือสั่น ทำความเคารพทันที “ผู้บัญชาการ”

ในไอบีไอก็มีคนที่หน้าตาแบบคนตะวันออกอยู่ไม่น้อย แต่ผู้หญิงที่อายุน้อยแบบอิ๋งจื่อจินแถมยังเป็นสปายระดับเอสกลับไม่มีเลย

พนักงานสาวทำความเคารพเสร็จก็เริ่มเช็กเอกสารให้ “ผู้บัญชาการคะ ผู้บัญชาการแอนโทนี่กับประธานอยู่ในห้องประชุมที่ชั้นเจ็ดสิบแปด ฉันจะช่วยติดต่อให้นะคะ”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “รบกวนด้วย”

พนักงานสาวโทรขึ้นไปเสร็จก็พูดอย่างนอบน้อม “ลิฟต์เอสสองพร้อมแล้วค่ะ”

อิ๋งจื่อจินรับบัตรผ่านแล้วพาซีนายไปขึ้นลิฟต์

ซีนายมองสำรวจสำนักงานใหญ่ไอบีไอ เจือไปด้วยความสงสัย

เสียงลิฟต์หยุดดัง ‘ติ๊ง’

อิ๋งจื่อจินลูบหัวซีนาย “รอฉันอยู่ตรงนี้ อย่าวิ่งซน”

เธอใส่รหัสผ่านแล้วเปิดประตู

สงครามความไม่สงบครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พวกผู้บริหารระดับสูงของไอบีไอก็กำลังประชุมเร่งด่วน

การมาถึงของอิ๋งจื่อจินทำให้การประชุมหยุดชะงักกลางคัน

นอกจากลิซิเนียสแล้ว คนอื่นๆ เพิ่งเคยเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของอิ๋งจื่อจินเป็นครั้งแรก

ครั้งก่อนที่แอนโทนี่เจอก็ใส่หน้ากากไว้

เกิดความเงียบขึ้นภายในห้องประชุมชั่วขณะ

“แอนโทนี่ ผู้บัญชาการมีคำสั่ง” อิ๋งจื่อจินล้วงบัตรออกมา “สั่งให้คุณพากองทัพอากาศไปที่เขตสงครามโดยเร็ว”

“ครับ!” แอนโทนี่ดึงสติกลับมา “ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ!”

เขายังงงอยู่

เขาเคยจินตนาการว่าใบหน้าที่อยู่ภายใต้หน้ากากนั้นเป็นอย่างไร

แต่ความงามแบบนี้ เขาไม่มีทางจินตนาการออกมาได้

ลิซิเนียสก็พยักหน้า “ดูท่าผู้บัญชาการจะมีแผนแล้ว ในเมื่อเป็นแบบนี้ แอนโทนี่นายตามคุณอิ๋งไปแล้วกัน พวกเราจะหารือเรื่องอื่นกันต่อ”

แอนโทนี่ลูบหมัด แทบทนรอไม่ไหวแล้ว

ในเวลานี้เองได้มีเสียงเย็นชาของผู้หญิงดังขึ้น

“เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่งผู้บัญชาการกองทัพอากาศ”

ฝั่งซ้ายของโต๊ะประชุมมีผู้หญิงวัยสี่สิบต้นๆ อยู่ในชุดสปายรัดรูปสีดำ ใบหน้าตามแบบฉบับคนตะวันออก

แอนโทนี่หันไป ขมวดคิ้ว “คุณไป๋เจี้ยง นี่คือคำสั่งของผู้บัญชาการ”

“ฉันไม่ได้ขัดคำสั่งของเขา ฉันเห็นด้วยที่คุณจะพากองทัพอากาศไปเป็นกองหนุน” ไป๋เจี้ยงเงยหน้ามองอิ๋งจื่อจิน “ฉันกำลังถามว่าเธอมีสิทธิ์อะไรมาออกคำสั่งแทนเขาที่นี่”

ลิซิเนียสก็ขมวดคิ้ว “คุณไป๋เจี้ยงครับ คุณ…”

ไป๋เจี้ยงเป็นสปายหญิงระดับดับเบิ้ลเอสเพียงคนเดียวของไอบีไอ เธออยู่มาก่อนที่ฟู่อวิ๋นเซินจะมาคุมไอบีไอแล้ว

ประสบการณ์และอายุสูงกว่าพวกเขา

ปกติพวกเขาจะให้เกียรติไป๋เจี้ยงมาก

อย่างไรเสียไอบีไอในช่วงต้นศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดก็อยู่รอดมาได้เพราะไป๋เจี้ยง

“ฉันเคยเห็นมาก่อนว่าเขาคุมไอบีไอมาได้ยังไง เขาเป็นคนหนุ่มที่ยอดเยี่ยมมาก ไม่ควรถูกผูกมัดด้วยความรู้สึกส่วนตัว” ไป๋เจี้ยงพูด “เกิดวันไหนมีสงคราม เธอก็เกิดเรื่อง แบบนั้นเขาจะไปช่วยเธอหรือปกป้องคนหมู่มากกันล่ะ”

ไม่มีใครคาดคิดว่าบรรยากาศจะตึงเครียดขึ้นมา

“คุณไป๋เจี้ยง คุณพูดแบบนี้ ทำอย่างกับว่าผู้บัญชาการจะเลือกช่วยทั้งหมดไม่ได้” แอนโทนี่โมโหจนหัวเราะ “ทำไมต้องเลือกด้วยล่ะครับ”

“ก็แค่พูดความจริง บนโลกนี้มีเรื่องตั้งมากมายที่เลือกทั้งคู่ไม่ได้” ไป๋เจี้ยงยืนขึ้น สีหน้าเย็นชา “ฉันอยากรู้ว่าเธอมีดีมาจากไหน ถึงทำให้เขาไว้วางใจฝากเธอมาถ่ายทอดคำสั่งได้”

อารมณ์ของอิ๋งจื่อจินไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย กลับเลิกคิ้วด้วยความสนใจด้วยซ้ำ “สรุปว่า?”

ไป๋เจี้ยงพูด “เอาชนะฉันสิ แล้วจะปล่อยให้เธอสั่งไอบีไอ”

เธอหมุนข้อมือ “ทำไม ไม่กล้าเหรอ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด