คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 729 ยอมรับ! ประหารต่อหน้าผู้คน!

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 729 ยอมรับ! ประหารต่อหน้าผู้คน! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 729 ยอมรับ! ประหารต่อหน้าผู้คน!

“…”

เมื่อผลพิสูจน์ออกมาก็เงียบกันทั้งศาล

ไม่มีใครคาดคิดว่าผลจะออกมาแบบนี้

ถึงแม้ผู้พิพากษาจะยอมทำตามคำขอของลูน่า แต่ก็เพราะเห็นแก่นามสกุลเรนเกล

ถ้าเป็นคนอื่นเขาไม่มีทางตอบตกลง

อย่างไรเสียคำขอนี้ก็ไร้ตรรกะอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งยังเป็นการก่อกวนกระบวนการตัดสิน

แต่อวี้เซ่าอิ่งกลับเป็นลูกชายแท้ๆ ของลูน่า เรนเกล จริงๆ!

เวลานี้ชาวเมืองที่รับชมการตัดสินต่างก็ตะลึงงัน

[เปิดโลกมากครับวันนี้!]

[ผู้หญิงแบบนี้ทำไมถึงเป็นผู้บัญชาการหน่วยอัศวินจอกศักดิ์สิทธิ์ได้นะ สันดานแย่ขนาดนี้ กล้าปั่นหัวแม้กระทั่งตระกูลเรนเกลกับตระกูลอวี้ ยังจะกล้าให้เธอดูแลทุกข์สุขของชาวเมืองอีกเหรอ!]

[อืมมม ขอกระซิบถามเบาๆ ทำไมท่านจักรพรรดินีถึงยอมให้เธอเป็นผู้บัญชาการหน่วยอัศวิน]

[พวกเราสงสัยในตัวท่านผู้วิเศษได้เหรอ ถ้าไม่มีบรรดาท่านผู้วิเศษก็ไม่มีพวกเราในวันนี้]

ลูน่าเงยหน้ามองอย่างอึ้งๆ สายตาจ้องเขม็งไปที่บรรทัดสุดท้าย

สุดท้ายร่างกายก็อ่อนยวบเหมือนหมดแรง ล้มลงไปบนพื้น

ตามมาด้วยเสียงร้องไห้คร่ำครวญ

ลูน่าไม่ได้กอดความหวังใดๆ เธอก็แค่ทำไปเพราะความบุ่มบ่าม

นึกไม่ถึงว่าลูกชายของเธอไม่ได้ถูกสัตว์ป่ากิน แต่ถูกคนขโมยไป!

สิบแปดปีต่อมาลูกชายของเธอยังมายืนอยู่ในสภาพสมบูรณ์ตรงหน้าเธอ

ประกายสุดท้ายในดวงตาจูซาได้ดับมอดลง

เธอมองลูน่าที่ฟุบอยู่บนพื้น แสยะยิ้ม “คนบ้า”

ในสายตาของจูซา เธอไม่เข้าใจการกระทำของลูน่าเลยสักนิด

คนปกติถ้าเห็นว่าลูกตัวเองตายแล้ว มีเหรอจะเที่ยวลากคนนู้นคนนี้มาตรวจดีเอ็นเอ

ยิ่งไปกว่านั้นอวี้เซ่าอิ่งก็หน้าตาไม่เหมือนลูน่ากับสามี

พวกโง่เง่าที่ใช้อารมณ์นำ!

จูซาโมโหสุดขีด

แต่คนโง่เง่าที่ใช้อารมณ์นำกลับทำลายหมากขั้นสุดท้ายของเธอ

“น้องสี่” ซู่เวิ่นเดินเข้าไปประคองลูน่าขึ้นมา “หยุดร้องเถอะ เจอลูกแล้วนะ”

“พะ พี่สะใภ้ใหญ่” ลูน่าเช็ดน้ำตา สะอึกสะอื้น พยายามยิ้ม “ฉัน…ดีใจมากจริงๆ”

คนที่เข้ามาฟังต่างพากันซุบซิบ

“โหย พี่ใหญ่!” คุณชายห้าตบต้นขา “คราวนี้เซ่าอิ่งกลายเป็นลูกตระกูลอื่นแล้ว แย่แล้วๆ ตระกูลเราเสียคนเก่งไปหนึ่งคนแล้ว”

ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินเหล่มอง “หุบปาก”

คุณชายห้าหดคอ “…อ่อ”

หุบปากได้สองวินาทีเขาก็ทนไม่ไหวพูดขึ้นอีกครั้ง “แต่เซ่าอิ่งก็หน้าคล้ายลุงใหญ่จริง ถ้าไม่ได้พิสูจน์ดีเอ็นเอก็คงไม่มีใครสงสัยหรอก”

“แพทย์แผนโบราณมีวิธีฝังเข็มแบบหนึ่งที่ฝังเข็มทองกับเข็มเงินลงบนใบหน้าเด็กทารก สามารถเปลี่ยนแปลงใบหน้ากับลักษณะอวัยวะบนหน้าได้” อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดพลางพูด “แตกต่างกับการแปลงโฉม ถ้าเปลี่ยนแล้วจะเป็นแบบนั้นไปตลอดชีวิต เลยต้องทำในวัยทารก”

“อืม” ฟู่อวิ๋นเซินพูด “คณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์ก็มีเทคโนโลยีแบบนี้ หรือไม่ก็วิชาเล่นแร่แปรธาตุ”

ซึ่งก็หมายความว่าไม่เพียงแต่จูซาจะขโมยเซ่าอิ่งไปจากลูน่า ยังทำการผ่าตัดเด็กทารกอย่างโหดร้ายด้วย

ปรับเปลี่ยนใบหน้าและลักษณะอวัยวะบนใบหน้าของอวี้เซ่าอิ่ง

ถึงได้ไม่มีใครสงสัยว่าเขาไม่ใช่ลูกชายแท้ๆ ของอวี้เซ่าอวิ๋น

ถ้าวันนี้ลูน่าไม่ร้องขอแบบนี้ อวี้เซ่าอิ่งอาจถูกขับไล่ออกจากตระกูลอวี้ ถูกลดเป็นพลเมืองชั้นสาม

นี่ก็เป็นแผนของจูซาเหมือนกัน

ฟู่อวิ๋นเซินหลุบตาลง “เขาก็น่าสงสาร”

เขาไม่เคยคลุกคลีกับอวี้เซ่าอิ่ง และก็ไม่เคยคิดแย่งชิงอะไร

แต่กลับคาดไม่ถึงว่าความจริงจะเป็นแบบนี้

ทันใดนั้นฟู่อวิ๋นเซินก็ถอนหายใจ “ไม่ชอบเลย”

อิ๋งจื่อจินหันไป “หืม?”

“เมื่อก่อนเป็นคนเล็กสุดในครอบครัว ตอนนี้น้องชายมาหายไปคน” ฟู่อวิ๋นเซินทำหน้าเซ็ง “ไม่ชอบเลย”

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “นิสัยเด็กจังเลยนะพี่ชาย”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังต่อเนื่อง พวกชาวเมืองโมโหกันมาก

“ประหารเลย!”

“ต้องลงโทษให้หนัก”

“เงียบๆ!” ผู้พิพากษาดึงสติกลับมา ตวาดเสียง “จูซา ยังไม่ยอมรับผิดอีกเหรอ”

“ค่ะ ฉันไปอุ้มเด็กมาเอง” จูซาสูดลมหายใจเข้าลึก น้ำเสียงเจือด้วยความรำคาญ “ตัวเองดูลูกไม่ดี ยังจะให้ฉันเอากลับไปส่งอีกเหรอ”

พอเธอพูดจบก็มีเสียงดัง “ผัวะ” ใบหน้าถูกตบอย่างแรง

จูซาถูกตบอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอเอามือจับหน้า แววตาโกรธแค้น “ซู่เวิ่น ทำอะไร”

ซู่เวิ่นมองต่ำด้วยสายตาเย็นชา “ตบหน้าเธอไง ไม่รู้สึกเหรอ”

พูดจบก็หวดไปอีกหนึ่งที

ซู่เวิ่นไม่มีออมแรง ตบจูซากระอักเลือด “แย่งเอาลูกคนอื่นไป สมควรโดน”

“ซู่เวิ่น อย่ามามองฉันแบนี้นะ” จูซาเช็ดเลือดที่มุมปาก แสยะยิ้ม “เธอคงไม่ได้คิดว่าฉันก็เอาลูกสาวเธอไปด้วยหรือเปล่าใช่ไหม”

“โทษทีนะ ลูกสาวเธอขาดใจตายเพราะอารมณ์แปรปรวนของเธอต่างหาก ตอนนั้นฉันยังอยู่กองบัญชาการอัศวิน ไม่ได้เข้าใกล้ตระกูลเรนเกลแม้แต่ก้าวเดียว”

เป็นเรื่องจริง

ตระกูลเรนเกลที่มีลูเอลกับซู่เวิ่นย่อมมีการคุ้มกันที่แน่นหนาและปลอดภัย

ก็มีแค่ความโกลาหลในปีนั้นที่ทำให้ตระกูลเรนเกลบอบช้ำหนัก ทำให้จูซาหาช่องโหว่ได้

จูซาเหลือบตาขึ้น ผุดรอยยิ้ม “ซู่เวิ่น เธอฆ่าลูกสาวด้วยน้ำมือของเธอเอง”

ซู่เวิ่นใจเย็นมาก ไม่มีโมโหหรือสติแตกแบบที่คิด

เธอบีบคางจูซา ค่อยๆ เพิ่มแรงทีละนิด “ถ้าฉันโมโหเพราะคำพูดของเธอได้ เธอคงไม่พ่ายแพ้ให้ฉันหรอก”

“งั้นเหรอ” จูซาทนเจ็บ “ถ้าจิตใจเธอเข้มแข็ง ทำไมถึงช็อกหมดสติไปสิบกว่าปีหลังจากที่รู้ว่าลูเอลเป็นหรือตายก็ไม่รู้ล่ะ”

หลังจากที่เธอล้มเหลวในการเข้าหาลูเอลเธอก็เลิกพุ่งเป้าไปที่ตระกูลเรนเกล

แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่น่าตกใจ ทำให้ตระกูลเรนเกลสูญเสียคนสำคัญ

แม้แต่สวรรค์ก็ช่วยเธอ

จูซาส่งคนไปฉวยโอกาสอุ้มทารกที่เพิ่งครบเดือนออกมาตอนลูน่าเข้าห้องน้ำ อีกทั้งยังไปหากระดูกที่เคยถูกสัตว์ป่ากัดกินมาใช้เทคโนโลยีจำลองดีเอ็นเอของคณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์เสริมเข้าไป

เธอไม่ได้คิดจะปกปิดตัวตนของอวี้เซ่าอิ่งไปตลอด

แค่รอเธอรับช่วงต่อตระกูลอวี้ เธอก็จะแกล้งหลุดปากไปว่าเธอเคยช่วยชีวิตอวี้เซ่าอิ่งไว้

พอถึงตอนนั้นตระกูลเรนเกลก็จะเป็นของเธอในไม่ช้าก็เร็ว

แต่คาดไม่ถึงว่าแผนที่เธอวางไว้อย่างดีกลับล้มไม่เป็นท่า!

ซู่เวิ่นยังคงใจเย็น ยิ้มพลางพูด “น่าเสียดายจริงๆ ที่พวกเรารุ่นเดียวกัน เธอแก่แล้วแต่ฉันยังสาวอยู่”

คำพูดนี้ต่างหากที่กระตุ้นความหวาดกลัวจากส่วนลึกในจิตใจของจูซา

แม้เธอจะผ่านการดัดแปลงจากคณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์แล้ว แต่ละสัปดาห์จะเข้าไปเสริมความงาม

ใบหน้าไม่แตกต่างจากสมัยสาวๆ แต่ก็ไม่มีทางเทียบกับซู่เวิ่นในตอนนี้ได้

เตียงเย็นได้ชะลอการเสื่อมของเซลล์และกระดูกของซู่เวิ่น ทำให้เธอไม่ต่างอะไรจากเมื่อยี่สิบปีก่อน

ซึ่งจูซากับซู่เวิ่นในตอนนั้นมักถูกพูดถึงพร้อมกัน ถูกเปรียบเทียบกันบ่อยครั้ง

เสียงวิจารณ์ของคนอื่นดังเข้าหูไม่ขาดสาย

“คุณนายซู่เวิ่นทั้งสวยทั้งจิตใจดี ส่วนจูซา แหวะ”

“อย่าเอาชื่อของคุณนายซู่เวิ่นไปไว้กับยัยนี่เลย นางไม่คู่ควร”

“ซู่เวิ่น!” จูซาส่งเสียงกรีดร้อง กระโจนเข้าไปหาด้วยอารมณ์ “ฉันจะฆ่าแก!”

“พลั่ก!”

เสียงของแข็งกระแทก จูซาถูกถีบเข้าที่ขมับ ล้มไปกองบนพื้น

ซู่เวิ่นชักเท้ากลับ

แม้เธอจะมีวิชาป้องกันตัวแบบง่ายๆ อยู่บ้าง แต่ก็เพราะจูซาถูกใส่กุญแจมือไฟฟ้าอยู่ด้วย ทำให้ไม่มีแรงขัดขืน

“ท่านผู้พิพากษาคะ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ความแค้นภายในตระกูลอวี้แล้ว” ซู่เวิ่นหันไปพูด “ในนามของตระกูลเรนเกล ฉันขอให้ลงโทษผู้หญิงคนนี้โดยสับเป็นชิ้นๆ ค่ะ”

การลงโทษโดยสับเป็นชิ้นๆ เป็นโทษตายรูปแบบหนึ่งของศาลตัดสิน

ไม่ได้ใช้อาวุธระยะประชิด แต่ใช้เลเซอร์

ศาลตัดสินก่อตั้งมานานขนาดนี้ก็เพิ่งเคยลงโทษตายแบบนี้ไปแค่สามครั้ง

ซึ่งสามครั้งนั้นย่อมใช้กับนักโทษอุกฉกรรจ์

สีหน้าของผู้พิพากษาเริ่มตึงเครียด “คุณนายซู่เวิ่นโปรดรอก่อนครับ”

ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้รับแจ้งจากผู้บัญชาการหน่วยอัศวินทั้งสี่

ทั้งสี่คนเห็นด้วย มติเป็นเอกฉันท์

“เตรียมอุปกรณ์” ผู้พิพากษาสั่งด้วยเสียงเด็ดขาด “ลงโทษประหารที่หน้าศาล”

จูซาสีหน้าเปลี่ยน

ซู่เวิ่นกวาดตามองเธอแล้วพูดขึ้น “งั้นเริ่มจากหน้าก่อนแล้วกัน”

“ไม่เอา…ฉันไม่เอา!” จูซาลนลานแตกตื่น “ฉันเป็นคนสนิทของท่านจักรพรรดินี พวกแกจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้!”

“หยุดแอบอ้างท่านจักรพรรดินีได้แล้ว” คนคุ้มกันอดพูดขึ้นไม่ได้ เอาตัวเธอไปที่หน้าศาลตัดสิน

คนอื่นๆ ก็รีบตามออกไปทันที

ศาลตัดสินยังคงใช้แท่นแขวนคอนักโทษแบบโบราณ

ศีรษะของจูซาถูกใส่เข้าไปในห่วง จากนั้นก็ถูกยกตัวลอยขึ้น

เธอถูกโซ่ตรวนรั้งไว้ ทำให้ขัดขืนไม่ได้

จูซาใกล้บ้าเต็มที

ถูกประหารต่อหน้าคนมากมาย นี่คือโทษที่เดิมทีเธออยากมอบให้ฟู่หลิวอิ๋ง

แต่วันนี้กรรมกลับตามสนองเธอ

“ฉับ!”

มีดเลเซอร์สับเข้าที่ใบหน้าของจูซา!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด