คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 822 อิ๋งจื่อจินคือศรัทธา

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 822 อิ๋งจื่อจินคือศรัทธา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 822 อิ๋งจื่อจินคือศรัทธา

ลาออกพร้อมกัน!

สำนักผู้วิเศษก่อตั้งมาหลายพันปี ตั้งแต่ดินแดนรกร้างสู่ยุคสมัยศักดินา ไปจนถึงยุคอุตสาหกรรมและมายุคแห่งเทคโนโลยีในปัจจุบัน หน่วยอัศวินทั้งสี่ล้วนเป็นผู้ภักดีที่ยอดเยี่ยมที่สุดของสำนักผู้วิเศษ

ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

“บังอาจ!” ซาโรห์ตัวสั่นหนักกว่าเดิม คฑาในมือก็ถูกกระทุ้งพื้นอย่างแรง “พวกคุณจะก่อกบฏจริงๆ!”

เรียกได้ว่าบารมีกึ่งหนึ่งของสำนักผู้วิเศษล้วนมาจากหน่วยอัศวินทั้งสี่

ตอนนี้สี่หน่วยอัศวินประกาศออกมาแบบนี้แล้วจะไม่ให้เธอโมโหได้อย่างไร

“พวกเราคิดแบบนี้กันมานานแล้ว” ผู้บัญชาการหน่วยอัศวินเหรียญแห่งดาวไม่เกรงกลัวเลยสักนิด ดึงเข็มกลัดตราออกมาเหมือนกัน “ตอนนี้ท่านวงล้อแห่งโชคชะตากลับมาแล้ว ในที่สุดพวกเราก็ทำแบบนี้ได้แล้ว”

วงล้อแห่งโชคชะตาอีกแล้ว

ให้ตายเถอะ!

ซาโรห์โมโหจนแสบร้อนในทรวงอก

ผู้บัญชาการหน่วยอัศวินทั้งสี่โยนตราทิ้งเสร็จก็หันตัวเดินออก

“ไม่จงรักภักดีอีกแล้วใช่ไหม” ซาโรห์แสยะยิ้ม “งั้นฉันจะรอดูว่าวันนี้พวกคุณจะเดินออกจากสำนักผู้วิเศษสักครึ่งก้าวได้หรือเปล่า!”

พลังพิเศษควบคุม!

คลื่นพลังแห่งผู้วิเศษ!

ผู้บัญชาการสี่หน่วยอัศวินสีหน้าเปลี่ยน พวกเขาถอยกลับไปอย่างควบคุมไม่ได้

ซาโรห์แสยะยิ้มอีกครั้ง “หนีสิ! ทำไมไม่หนีล่ะ”

มนุษย์ธรรมดาคิดจะหือกับเทพ

แต่วินาทีถัดมาก็มีอีกคลื่นพลังหนึ่งถูกปล่อยออกมา

ฉินหลิงอวี๋!

เมื่อสองผู้วิเศษที่พลังทัดเทียมสู้กัน พลังพิเศษก็จะหักล้างกันเอง

ดังนั้นถ้าผู้วิเศษพระจันทร์กับผู้วิเศษพระอาทิตย์ผนึกกำลังกันก็จะข่มผู้วิเศษแค่คนเดียวได้

“พวกคุณไปเถอะ” ฉินหลิงอวี๋เดินเข้ามา “ทำได้ดี จดจำหน้าที่ของตัวเองไว้ด้วย”

ร่างกายของผู้บัญชาการสี่หน่วยอัศวินผ่อนคลาย พวกเขาคารวะ “ครับท่านพระจันทร์!”

ฉินหลิงอวี๋พยักหน้า “ไปเถอะ”

“เธอเล่นสกปรกอะไรใช่ไหม” ซาโรห์ดวงตาแดงก่ำ สายตาอาฆาต “พูดมาสิ ใช่ไหม!”

“เดี๋ยวนะซาโรห์ เธอคงไม่ได้ไม่รู้สถานะของวงล้อแห่งโชคชะตาจริงๆ ใช่ไหม” ฉินหลิงอวี๋หันหน้าไปแสยะยิ้ม “ต่อให้ไม่มีวงล้อแห่งโชคชะตามาหลายสิบศตวรรษแล้วยังไง ต่อให้เธอเป็นผู้ชนะแล้วลบประวัติศาสตร์ไปไม่น้อยแล้วยังไง”

“ตราบใดที่วงล้อแห่งโชคชะตาปรากฏตัวก็ยังคงเป็นศรัทธาของผู้คนมากมายนับไม่ถ้วน!”

ซาโรห์ดวงตาเบิกโพลง

ฉินหลิงอวี๋พูด “ส่วนเธอ ไม่คู่ควร”

บนหน้าผากของซาโรห์มีเหงื่อผุด

เธอยืนขึ้นทันที จะออกไป

“ไปสิ” ฉินหลิงอวี๋ไม่ขวาง ยิ้มพลางพูด “ดูซิเธอจะไปที่ไหนได้ ซ่อนตัวไม่ให้วงล้อแห่งโชคชะตาหาเจอได้ด้วยเหรอ”

คำพูดนี้เหมือนน้ำเย็นที่สาดรดซาโรห์ ทำเอาหนาวเย็นไปทั้งตัว

แม้แต่พลังซ่อนเร้นของนักพรตก็ยังไม่มีค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าวงล้อแห่งโชคชะตา เธอยังจะไปที่ไหนได้

ทำไม…ทำไมพลังของวงล้อแห่งโชคชะตาถึงได้อยู่เหนือผู้วิเศษคนอื่น!

มันไม่ยุติธรรม

ผู้วิเศษสี่คนแรกสุดมีพลังเหนือผู้วิเศษคนอื่นยังไม่เท่าไร แต่ทำไมวงล้อแห่งโชคชะตาที่ถือกำเนิดช้าสุดถึงมีด้วย

ในเวลานี้เองมีเสียงพูดอันเย็นชาดังขึ้น “จะไปไหน”

“อาอิ๋ง” ฉินหลิงอวี๋หันไป เดินเข้าไปหา “กลับมาแล้วเหรอ”

“อืม” อิ๋งจื่อจินกวาดตามอง “เก่งแต่ข่มมนุษย์ธรรมดา วางอำนาจบาตรใหญ่เหลือเกินนะ”

ซาโรห์กำลังจะพูด

พลั่ก!

วินาทีถัดมาเธอก็ถูกจับกดเข้ากับผนัง

หลังกระแทกเข้ากับกำแพงหินเย็นเฉียบ เจ็บเหมือนกระดูกจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

อิ๋งจื่อจินบีบคอซาโรห์ด้วยมือข้างเดียว หลุบตาลง “หนีสิ ทำไมไม่หนีล่ะ”

คำพูดเหมือนกันไม่มีผิด เหมือนตบหน้าซาโรห์

ในใจของเธอเย็นเฉียบยิ่งกว่าเดิม

เมื่อกี้วงล้อแห่งโชคชะตาไม่อยู่ แต่กลับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่อย่างง่ายดาย

เทพพยากรณ์ไม่ใช่แค่เรียกกันเล่นๆ

เธอจะหนีไปไหนได้

“มาคิดบัญชีในช่วงหลายปีนี้กันดีกว่า” อิ๋งจื่อจินพูด “เจตนาบิดเบือนประวัติศาสตร์ ทำลายชื่อเสียงเดวิล”

เปร๊าะ!

เสียงกระดูกหัก

เธอหักแขนซ้ายของซาโรห์

“โอ๊ย!” ซาโรห์ร้องด้วยความเจ็บปวด หน้าซีดเหมือนกระดาษ

บาดแผลที่เกิดจากผู้วิเศษด้วยกันกระทำจะเยียวยาตัวเองได้ช้ากว่า

นี่จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ตอนนั้นฟู่อวิ๋นเซินเลือกที่จะก่อสงครามศักดิ์สิทธิ์

มีแค่ผู้วิเศษที่จะทำร้ายผู้วิเศษด้วยกันได้

อิ๋งจื่อจินยังคงพูดต่อ “หลงลืมหน้าที่ของผู้วิเศษ ลงมือกับคนธรรมดา”

มีเสียง เปร๊าะ อีกครั้ง

คราวนี้หักแขนขวา

ซาโรห์เจ็บจนหายใจไม่ทันแล้ว “เธอ…”

“แถมยังปล่อยข่าวโจมตีคณะวิศวะในเน็ตด้วยใช่ไหม” อิ๋งจื่อจินบีบคอซาโรห์ไว้อย่างนั้นแล้วลากออกไปข้างนอก “อยากลงโทษแบบเปิดเผยขนาดนี้ ได้ ฉันจะสนองความต้องการให้”

ซาโรห์เริ่มดิ้น “อิ๋งจื่อจิน ปล่อยฉันนะ! อิ๋งจื่อจิน!”

แต่เธอก็เริ่มสิ้นหวัง

เสียงเอะอะขนาดนี้ ไม่มีทางที่นักบวชหญิงกับหลุยส์จะไม่ได้ยิน

แต่สองคนนี้ไม่ได้ออกมาห้ามการกระทำของอิ๋งจื่อจิน

เมื่อก่อนเป็นซาโรห์ที่ชอบตะคอกและออกคำสั่งกับผู้วิเศษคนอื่น

ตอนนี้ถูกทำแบบนี้บ้างแล้ว ให้ซาโรห์ได้สัมผัสกับการถูกหยามเกียรติอย่างรุนแรงบ้าง

“หลิงอวี๋ ประกาศลงบนเว็บดับบลิว” อิ๋งจื่อจินหันไป “เช้าพรุ่งนี้จะมีการตัดสินต่อหน้าสาธารณชน”

ฉินหลิงอวี๋ตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “ได้!”

ซาโรห์ได้ยินแล้ว เธอแทบหยุดหายใจ ร้องซี้ด “ไม่ได้นะ…”

“กร๊อบ!”

อิ๋งจื่อจินหักกรามซาโรห์ “หนวกหู”

ซาโรห์พูดต่อไม่ได้อีก

ฉินหลิงอวี๋โพสต์ข้อความเสร็จเรียบร้อย

เดิมทีชาวเมืองก็สนใจเรื่องคณะวิศวกรรมศาสตร์กันมากอยู่แล้ว กอปรกับมีเรื่องที่อิ๋งจื่อจินพาคนทั้งคณะวิศวะไปจากเมืองแห่งโลก คนที่ออนไลน์อยู่บนเว็บดับบลิวจึงมีมากแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

ส่วนข่าวที่จะมีการพิพากษาจักรพรรดินีก็ยิ่งทำชาวเมืองอึ้งกันไปยกใหญ่

[โอ้โห สุด!]

[ฉันอ่านผิดหรือเปล่า พิพากษาจักรพรรดินีเหรอ]

[บ้าไปแล้วๆ โลกนี้บ้าไปแล้ว กล้าพิพากษาแม้แต่ผู้วิเศษ คงมีแค่ผู้วิเศษด้วยกันทำหรือเปล่า]

แม้ชาวเมืองจะไม่รู้ว่าปีหน้าจะมีภัยพิบัติระดับล้างโลกมาเยือน แต่พวกเขาก็รู้สึกแบบเดียวกันว่า เมืองแห่งโลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว

วันต่อมา ฟ้าเพิ่งเริ่มสว่างก็มีคนมาอออยู่หน้าศาลตัดสินกันเต็มแล้ว

ผู้คนแน่นขนัดเต็มพื้นที่

เมื่อถึงเวลาแปดโมงเช้า ฟ้าสว่างโล่ง ชาวเมืองถึงเห็นผู้บัญชาการหน่วยอัศวินสองคนคุมตัวซาโรห์เดินออกมา

จักรพรรดินีที่เคยสูงส่งมาในสภาพนักโทษ

นี่เป็นเรื่องที่ใครต่างก็คาดไม่ถึง

บรรดาชาวเมืองยังคงอึ้งอยู่

ซาโรห์ถูกบังคับให้คุกเข่า ใบหน้าก็เปื้อนสกปรก

ผู้บัญชาการอัศวินทั้งสองเดินขึ้นหน้าคารวะอิ๋งจื่อจินด้วยความนอบน้อม “ท่านวงล้อแห่งโชคชะตา”

“…”

พอได้ยินคำเรียกนี้ ด้านล่างก็พากันเงียบสนิท

ชาวเมืองเงยหน้าอย่างอึ้งๆ มองอิ๋งจื่อจิน

วงล้อแห่งโชคชะตา!

ไม่นานพวกเขาก็ได้สติกลับมา ทำความเคารพอย่างพร้อมเพรียง “น้อมเคารพท่านวงล้อแห่งโชคชะตา!”

“น้อมเคารพท่านวงล้อแห่งโชคชะตา!”

อิ๋งจื่อจินหันไป “ไม่ต้องมากพิธีรีตอง”

ซาโรห์ก็ได้ยิน ตัวสั่นขึ้นมาอีกรอบ เส้นเลือดปูดบนหน้าผาก

อิ๋งจื่อจินไม่ใช่วงล้อแห่งโชคชะตาคนเดิมเสียหน่อย คนพวกนี้คุกเข่าทำไม

“ต้องการพิพากษาฉันใช่ไหม แต่ถ้าไม่มีฉัน พวกเธอจะควบคุมสภาพอากาศในเมืองแห่งโลกให้คงที่ได้ยังไง” ซาโรห์กัดฟันกรอด พูดเสียงดังขึ้น “ไม่มีฉัน พวกเธอจะเอาดินที่อุดมสมบูรณ์กับพืชพรรณนานาชนิดมาจากไหน!”

คราวนี้มีหลายคนที่เริ่มกังวล

พากันซุบซิบ

“นั่นสิ เอาแค่เรื่องนี้ก็ห้ามแตะต้องท่านจักรพรรดินีแล้ว! ถ้าไม่มีท่านจักรพรรดินี ใครจะคุมสภาพอากาศของเมืองแห่งโลก”

“ได้โปรดเห็นแก่ส่วนรวมด้วย มันไม่คุ้มที่จะแลกกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้”

“ท่านจักรพรรดินีก็สร้างคุณูปการไว้มาก จะฆ่าเธอเพราะความผิดเล็กน้อยโดยไม่คำนึงถึงความดีของเธอไม่ได้”

“ท่านวงล้อแห่งโชคชะตา ไม่มีอะไรใหญ่โตหรอก ท่านเดวิลก็ไม่ได้ถือสาหาความไม่ใช่เหรอ”

“ได้ยินหรือยัง” ซาโรห์เริ่มมีความมั่นใจ แสยะยิ้ม “ยังไม่รีบปล่อยฉันอีกเหรอ พวกเธอมัดฉันไว้ ฉันจะไม่มีทางควบคุมสภาพอากาศให้”

“ฉันจะปล่อยให้เมืองแห่งโลกกลายเป็นดินแดนทะเลทราย สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ต่อไปไม่ได้!”

อิ๋งจื่อจินก้มมอง “บิดเบือนประวัติศาสตร์ รู้สึกว่าสนุกมากใช่ไหม”

“ทำไม” ซาโรห์ไม่รู้สึกละอาย “เดิมทีประวัติศาสตร์ก็เขียนโดยผู้ชนะอยู่แล้ว และครั้งนั้นพวกเขาก็แพ้!”

เธอเป็นผู้ชนะก็ควรได้ดื่มด่ำกับเกียรติยศ

“ได้” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “ก็ลองดู”

ซาโรห์ขมวดคิ้ว ชักหวั่นใจ

แต่เธอก็ยังคงหัวรั้น หยุดการควบคุมสภาพอากาศ

พูดเสียงเย็นชา “ได้ งั้นพวกเธอก็กลับสู่ยุคแห้งแล้งอีกครั้งแล้วกัน!”

พอได้ยินแบบนี้ทุกคนก็เริ่มเครียด ใจคอไม่ดี

แต่ทุกอย่างกลับเหนือความคาดหมายของซาโรห์อย่างสิ้นเชิง

ไม่มีความแห้งแล้งแบบที่คิด และไม่มีฟ้าร้องฟ้าผ่าพายุฝน

ท้องฟ้ายังคงเป็นสีคราม ดวงอาทิตย์ลอยเด่น แสงแดดอบอุ่นแต่ไม่แยงตา

คนที่ทำแบบนี้ได้มีแค่ผู้วิเศษที่พลังควบคุมเหนือกว่าผู้วิเศษจักรพรรดินี

ผู้วิเศษจักรพรรดิ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด