คู่ชะตาบันดาลรักบทที่ 441 ฝ่าอุปสรรค

Now you are reading คู่ชะตาบันดาลรัก Chapter บทที่ 441 ฝ่าอุปสรรค at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนเช้า​ที่​ท้องฟ้า​สว่างไสว​ กัว​สวี่​ยืด​เอว​ด้วย​ความรู้สึก​พอ​อก​พอใจ​

ดู​สิ แสงสีทอง​สาดส่อง​ไป​ทุกที่​เขา​ที่​ถูก​ไล่​ออกจาก​ราชสำนัก​ และ​ถูก​ส่งมาลำบาก​ใน​สถานที่​กันดาร​เช่นนี้​กลับ​กลายเป็น​จุด​เปลี่ยน​ที่​สวยงาม​

หลังจาก​การต่อสู้​ครั้งนี้​เผ่า​ทั้ง​แปด​ใน​เป่ย​หู​ถูก​แยก​ออก​จากกัน​อีกครั้ง​มีสอง​เผ่า​ได้​หายสาบสูญ​ไป​ระหว่าง​สงคราม​ภายใน​ ส่วน​เผ่า​ที่​เหลือ​มีจำนวน​ประชากร​ลดลง​เป็นอย่างมาก​ และ​พวกเขา​ก็​มีความบาดหมาง​กัน​ กล่าว​ได้​ว่า​พรมแดน​จะมีความมั่นคง​อย่าง​น้อย​ยี่สิบ​ถึงสามสิบ​ปี​

หาก​โชคดี​ สี่สิบ​ปี​หรือ​ห้าสิบ​ปี​นั้น​ใช่ว่า​จะเป็นไปไม่ได้​

นี่​มัน​ความดี​ความชอบ​ที่​ยิ่งใหญ่​อะไร​เช่นนี้​ตั้งแต่​ก่อตั้ง​อาณาจักร​ไม่เคย​มีความสำเร็จ​ที่​ยิ่งใหญ่​เช่นนี้​มาก่อน​!

อืม​…จะเขียน​แสดง​ความดี​ความชอบ​ใน​เอกสารราชการ​ว่า​อย่างไร​ดี​ จงซู่ไม่แย่ง​ความดี​ความชอบ​อย่าง​แน่นอน​ ด้วย​สถานะ​ของ​เขา​ความดี​ความชอบ​ทางทหาร​ไม่ใช่ว่า​ยิ่ง​มีมาก​เท่าไร​ยิ่ง​ดี​ ส่วน​คุณชาย​หยาง​ผู้​นั้น​ไม่สามารถ​เขียน​ได้​โดยตรง​อยู่แล้ว​เพราะ​ฮ่องเต้​มีทัศนคติ​ที่​แปลกประหลาด​ต่อ​เขา​ ดูเหมือนว่า​จะสามารถ​แบ่ง​ความดี​ความชอบ​กับ​ทหาร​แต่ละคน​ได้​เท่านั้น​ซึ่งจงซู่จะต้อง​เห็นด้วย​อย่าง​แน่นอน​ ส่วน​เขา​นั้น​แน่นอน​ว่า​ได้​ความดี​ความชอบ​นี้​เป็น​อันดับ​แรก​!

กัว​สวี่​คิด​อย่าง​มีความสุข​ แต่​เห็น​ว่า​ประตูเมือง​จู่ๆ ก็​เปิด​ออก​ เขา​หัวเราะ​และ​คิด​กับ​ตัวเอง​ว่า​จงซู่คง​ไม่สามารถ​ออกมา​จัดการ​เรื่อง​ต่างๆ​ ได้​จริงๆ​ นี่​เป็นการ​เปิด​ประตู​ต้อนรับ​การ​กลับมา​ของ​เขา​เป็นพิเศษ​ใช่หรือไม่​

ใช่ เขา​เข้าไป​ที่​ค่าย​ศัตรู​ตัว​คนเดียว​พูด​แค่​คำ​สอง​คำ​ก็​สามารถ​ทำให้​อีก​ฝ่าย​ถอยทัพ​ได้​ซึ่งคู่ควร​กับ​คน​ที่​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​…

เดี๋ยว​นะ​! นั่น​อะไร​น่ะ​

เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​เกือกม้า​เหล่า​ทหาร​ผู้​เก่งกาจ​ใน​กองทัพ​ซีเป่ย​ที่​ปกป้อง​เนิน​กรวด​มาเกือบ​สอง​เดือน​ก็​พรั่งพรู​ออกมา​ ธงตัวอักษร​คำ​ว่า​จงขนาด​มหึมา​โบกสะบัด​ตาม​สายลม​ ทันใดนั้น​นักรบ​ผู้​น่าเกรงขาม​ก็​ปรากฏตัว​ออกมา​

“ทหาร​ทั้งหลาย​ ตาม​ข้า​ออก​ไป​บุก​โจมตี​!” แม่ทัพ​ที่อยู่​ใต้​ธงของ​เขา​ยก​กระบี่​ยาว​ขึ้น​แล้ว​ตะโกน​ ทหาร​ที่อยู่​ข้าง​หลังเขา​ตอบโต้​พร้อม​แผ่รังสี​สังหาร​

กัว​สวี่​มอง​คน​ที่​นำ​ทัพ​ด้วย​ความสงสัย​คน​ผู้​นี้​ไม่ใช่จงซู่หรือ​ เขา​ไม่ได้​นอน​หมดแรง​จาก​ลูกศร​พิษ​หรอก​หรือ​ แถมยัง​บอก​อี​กว่า​อาจจะ​ไม่รักษา​ชีวิต​ตนเอง​ไว้​ได้​…

ดวงตา​ของ​กัว​สวี่​เบิก​กว้าง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ความโกรธ​ของ​เขา​ก็​เพิ่มมากขึ้น​เรื่อยๆ​ จน​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ไล่ตาม​เขา​ และ​ตะโกน​ว่า​ “จงซู่! ตาแก่​!”

อย่างไรก็ตาม​ทันทีที่​ทหารม้า​ผ่าน​ไป​ เสียง​ของ​เขา​ก็​กลืน​หาย​ไป​กับ​เสียง​กีบ​ม้า และ​ในที่สุด​เขา​ก็​กิน​โคลน​เข้าไป​เต็ม​ปา​ก.​..

…………

เมื่อ​หยิน​ชี่สลาย​หาย​ไป​เหล่า​ทหาร​ก็​บุก​โจมตี​ เมื่อ​ส่งมอบ​สนามรบ​ให้​กับ​พวกเขา​ หมิง​เวย​กับ​หนิง​ซิว​ก็​กลับ​ไป​ที่​เมือง​ แม้เมื่อคืน​จะทำ​ได้ดี​ แต่​ก็​ไม่ง่าย​เลย​ที่จะ​ชนะ​ซูถู

ครั้งนี้​เป็น​ทหาร​เผ่า​หู​บุก​โจมตี​ซึ่งเผ่า​หมาป่า​หิมะ​มีคน​จำนวนมาก​ที่สุด​

ถึงทหาร​หยิน​ชี่เมื่อคืนนี้​ดู​มีพลัง​มาก​ แต่​อันที่จริง​มีข้อจำกัด​ใน​เรื่อง​ของ​จำนวน​ซึ่งมีหน้าที่​สำคัญ​คือ​การ​สกัดกั้น​

วันนี้​ท้องฟ้า​สว่างไสว​หยิน​ชี่สลาย​หาย​ไป​ทำให้​ทหาร​เผ่า​หู​ในที่สุด​ก็​หนี​จาก​การ​พัวพัน​ของ​พวก​วิญญาณ​ได้​

แม้จงซู่จะเป็น​คน​นำ​ทหาร​ส่วนใหญ่​บุก​โจมตี​ แต่​จำนวน​ก็​ยัง​เสียเปรียบ​อยู่​ แต่​เพราะ​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​ถูก​รังควาน​ทั้งคืน​ส่วน​ฝั่งของ​ตนเอง​กิน​ดี​นอนหลับ​ดี​จึงได้เปรียบ​ใน​เรื่อง​ความ​แข็งแกร่ง​ทาง​ร่างกาย​ หมิง​เวย​และ​หนิง​ซิว​ยืน​บน​กำแพง​ดู​การต่อสู้​ไป​รับประทาน​อาหารเช้า​ไป​

“เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​ค่าย​กล​ของ​ท่าน​เมื่อคืนนี้​” หนิง​ซิว​หัก​ซาลาเปา​นึ่ง​เอา​เข้า​ปาก​แล้ว​เคี้ยว​ช้าๆ หมิง​เวย​กัด​ต้าปิ่ง​สอง​คำ​ แต่​กัด​ไม่เข้า​จึงเอา​จุ่มกับ​น้ำแกง​

นาง​ตอบ​ว่า​ “เป็น​เพียง​การ​รวบรวม​หยิน​ชี่ และ​ใช้เพลง​นำทาง​วิญญาณ​เรียก​วิญญาณ​ไม่มีอะไร​พิเศษ​เจ้าค่ะ​”

หนิง​ซิว​พูดว่า​ “แต่​ค่าย​กล​นี้​ดู​มีความลึกลับ​”

หมิง​เวย​ยิ้ม​ “การ​เรียก​ทหาร​หยิน​ชี่จะง่าย​เช่นนั้น​ได้​อย่างไร​เจ้าคะ​ จะต้อง​มีหยิน​ชี่มาก​พอที่จะ​เรียก​ทหาร​หยิน​ชี่ให้​ปรากฏตัว​ได้​ หาก​ไม่มีคนตาย​ที่​มีชีวิต​เหล่านั้น​ ข้า​สามารถ​เกณฑ์ทหาร​หยิน​ชี่ได้​มาก​ที่สุด​ร้อย​นาย​ซึ่งไม่เพียง​พอที่จะ​เปลี่ยน​สถานการณ์​โดยรวม​ แต่​คนตาย​ที่​มีชีวิต​เหล่านั้น​ต่างกัน​

แต่ละคน​เต็มไปด้วย​หยิน​ชี่ซึ่งโดย​พื้นฐาน​แล้ว​เป็น​ภาชนะ​ของ​หยิน​ชี่ดังนั้น​ตอนที่​ข้า​ตั้งค่าย​กล​ ข้า​จงใจเผย​ข้อบกพร่อง​เพื่อให้​พวกเขา​ตามหา​ค่าย​กล​ และ​เมื่อ​พวกเขา​กำจัด​ค่าย​กล​แล้ว​ร่าง​ของ​พวกเขา​เชื่อมต่อ​กับ​ค่าย​กล​กลายเป็น​ผู้​มอบ​หยิน​ชี่แทน​เจ้าค่ะ​”

หนิง​ซิว​เคี้ยว​ซาลาเปา​เงียบๆ​ สักพัก​จนกระทั่ง​เขา​กิน​ชิ้น​หนึ่ง​เสร็จ​ถึงได้​ปรบมือ​แล้ว​พูดว่า​ “ที่แท้​เคล็ด​วิชา​ก็​มีบทบาท​สำคัญ​เช่นนี้​ข้า​คิดไม่ถึง​จริงๆ​”

หมิง​เวย​เลิกคิ้ว​ขึ้น​ และ​ถามอย่าง​หงุดหงิด​ “ตอนนี้​อาจารย์​เสียใจ​หรือไม่​ ข้า​สอน​ท่าน​ได้​นะ​! แต่​หาก​เป็น​เช่นนั้น​ท่าน​ต้อง​เรียก​ข้า​ว่า​อาจารย์​แทน​เจ้าค่ะ​!”

หนิง​ซิว​ยก​มุมปาก​ท่าทาง​เหมือน​คน​กำลัง​ยิ้ม​

เขา​มองออก​ไป​นอกเมือง​ “ท่าน​คิด​ว่า​จะชนะ​หรือไม่​”

หมิง​เวย​พูด​ “ข้า​เชื่อใจ​แม่ทัพ​จงเจ้าค่ะ​”

จนถึง​ตอนนี้​ซูถูก็​ยัง​ไม่สามารถ​ชนะ​ได้​ เผ่า​อื่น​ทั้งหมด​หนี​ไป​หมด​แล้ว​แม้ว่า​เขา​จะได้เปรียบ​จาก​จำนวน​คน​ แต่​แม่ทัพ​ที่​เหนื่อยล้า​ต่อให้​ทหาร​มีความสามารถ​เพียงใด​ก็​ล้วนแต่​ทำให้​พลัง​ต่อสู้​ลดลง​

เขา​ไม่สามารถ​ยึด​เมือง​ได้​ เช่นนั้น​ก็​เหลือ​ทางเดียว​คือ​การ​กลับ​ไป​ยัง​ทุ่งหญ้า​

หลังจาก​กลับ​ไป​แล้วก็​มีสอง​ทางเลือก​ หนึ่ง​คือ​กลับ​เป่ย​ไห่​เพื่อ​พักฟื้น​และ​ฟื้นฟู​บ้านเมือง​ พวกเขา​เผ่า​หมาป่า​หิมะ​ตั้ง​ถิ่น​อยู่​ที่​เป่ย​ไห่​ซึ่งเป็น​สถานที่​ที่​หนาว​มาก​ เผ่า​อื่นๆ​ คง​ไม่เต็มใจ​ที่จะ​ไป​ รอ​สัก​สิบ​ปี​ยี่สิบ​ปี​เผ่า​หมาป่า​หิมะ​จะกลายเป็น​เผ่า​ที่​ทรงพลัง​อีกครั้ง​ สอง​คือ​จัด​การทหาร​ที่​เหลือ​และ​รวม​แปด​เผ่า​อีกครั้ง​

หมิง​เวย​รู้สึก​ว่าด้วย​บุคลิก​ของ​ซูถูคง​เลือก​ทาง​ที่สอง​

ทหารม้า​ของ​เผ่า​หมาป่า​หิมะ​กระจัดกระจาย​ หาก​จะรวม​เข้าด้วยกัน​เป็นหนึ่ง​นั้น​จะต้อง​ดุดัน​กล้าหาญ​ จากนั้น​กลับ​ไป​ที่​ทุ่งหญ้า​ และ​จัด​การชน​เผ่า​เล็ก​ๆ ที่​ทรยศ​ ค่อยๆ​ ยึด​รวม​เข้าด้วยกัน​ ค่อยๆ​ ทำให้​เติบโต​จนกระทั่ง​กลืน​กิน​พวก​มัน​ทั้งหมด​

วิธี​นี้​ไม่มีทางลัด​ให้​เดิน​ เขา​จะต้อง​ใช้เวลา​หลาย​ปี​กว่า​จะได้​เป็น​เจ้าแห่ง​ทุ่งหญ้า​อย่าง​แท้จริง​ อย่างไรก็ตาม​แม่ทัพ​จงจะไม่ปล่อย​ให้​เขา​ทำ​อะไร​อย่าง​แน่นอน​

การ​ที่​ซูถูสามารถ​กลับ​ไป​ที่​หวา​งถิงได้​อย่าง​ปลอดภัย​นั้น​ขึ้นอยู่กับ​ความสามารถ​และ​โชค​ของ​เขา​

หลังจากนั้น​ไม่นาน​เผ่า​หมาป่า​หิมะ​ก็​พร้อม​ที่จะ​บุก​ทะลวง​ สมกับ​เป็น​ทหาร​ร้อย​ศึก​ จนถึง​ตอนนี้​พวกเขา​ยังคง​ความกล้าหาญ​

เนื่องจาก​จำนวน​คน​ที่​เหนือกว่า​เผ่า​หมาป่า​หิมะ​จึงบุก​ทะลวง​ และ​จากไป​ในที่สุด​ จงซู่ไม่ได้​ไล่ตาม​ไป​ในทันที​ แต่​เขา​กลับมา​ที่​เมืองด่าน​

หลัง​ชนะ​การต่อสู้​ทหาร​แคว้น​ฉีที่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ส่งเสียงร้อง​ด้วย​ความดีใจ​

หมิง​เวย​เห็น​ร่าง​ของ​หยาง​ชูเขา​สวม​หมวก​เกราะ​และ​ชุด​เกราะ​ซึ่งนาง​รู้สึก​ไม่คุ้นเคย​

แต่​นาง​เห็น​เขา​ทำ​เหมือน​ทหาร​พวก​นั้น​ ถอด​หมวก​แล้ว​โยน​ขึ้นไป​บน​ฟ้าด้วย​ความดีใจ​ ดู​มีความสุข​มาก​ หมิง​เวย​ยิ้ม​เล็กน้อย​ และ​ตัดสินใจ​กลับ​ไป​พักผ่อน​ก่อน​

การ​เรียก​ทหาร​หยิน​ชี่จำนวนมาก​ นาง​เทียบ​ไม่ได้​กับ​ทหาร​ที่​ผ่อนคลาย​จาก​การทำศึก​มาทั้งคืน​จึงกลับ​ไป​นอน​อย่าง​รวดเร็ว​

เมื่อ​นาง​ตื่นขึ้น​ก็​เห็น​หยาง​ชูนอน​อยู่​ข้าง​กาย​แล้ว​ซึ่งหลับ​ลึก​กว่า​นาง​มาก​

หมิง​เวย​อยากรู้อยากเห็น​จึงเอื้อมมือ​ไป​จับ​เขา​ตั้งแต่​หัว​จรด​เท้า​ และ​พบ​ว่า​ไม่ได้รับบาดเจ็บ​ตรงไหน​ คน​ผู้​นี้​เหตุใด​ถึงโชคดี​เช่นนี้​ต่อสู้​อย่าง​หนัก​ทั้งคืน​โดย​ไม่ได้รับบาดเจ็บ​เลย​แม้แต่น้อย​

หยาง​ชูถูก​นาง​ปลุก​จึงรวบ​นาง​เข้ามา​กอด​แล้ว​พูด​เสียง​พึมพำ​ “เหนื่อย​จะตาย​อยู่แล้ว​ ท่าน​ให้​เวลา​ข้า​หน่อย​ไว้​ว่าง​แล้ว​ค่อย​ชดเชย​ให้​ท่าน​”

หมิง​เวย​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​รู้สึก​ว่า​คำพูด​นี้​แปลก​ๆ เมื่อ​เข้าใจ​ความหมาย​นาง​ก็​ทั้ง​ขำ​ทั้ง​ฉุน​แล้ว​ตบ​หน้าอก​เขา​เบา​ๆ “พูด​ไร้สาระ​อะไร​เจ้าคะ​”

อันที่จริง​หยาง​ชูตื่นขึ้น​เล็กน้อย​ แต่​เขา​ขี้เกียจ​เกินไป​ที่จะ​ขยับตัว​จึงดึง​นาง​เข้ามา​กอด​และ​นอน​ต่อ​บน​เตียง​ น่าเสียดาย​ที่​เวลา​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​เสียง​อา​สวน​ก็​ดัง​มาจาก​ด้านนอก​ “คุณชาย​ แม่ทัพ​จงให้​มาเชิญท่าน​ขอรับ​” หยาง​ชูต้อง​ลืมตา​ และ​ใช้ความพยายาม​เพื่อ​ลุกขึ้น​

หมิง​เวย​รีบ​ถามเขา​ “พวก​ท่าน​ไม่คิด​จะไล่ตาม​ใช่หรือไม่​เจ้าคะ​”

“ตา​มสิ!” หยาง​ชูแปรง​ฟังไป​ตอบ​ไป​ “แต่​อย่าง​ที่​ท่าน​เห็น​พวกเรา​เหลือ​คน​น้อย​มาก​ หาก​พวกเรา​ไล่​ตามจริง​ทหาร​คนเดียว​เดิน​ลึก​เข้าไป​ใน​ทุ่งหญ้า​ก็​ยาก​ที่จะ​บอ​กว่า​ผู้ใด​ที่จะ​ลำบาก​”

เขา​บ้วนปาก​และ​เช็ดหน้า​อย่าง​สบาย​ๆ จากนั้น​เขา​พูด​ต่อ​ “ดังนั้น​พวกเรา​วางแผน​ที่จะ​รอ​ ทันทีที่​กำลัง​เสริม​มาพวกเรา​จะบุก​ทัพ​ไป​ยัง​ทุ่งหญ้า​ หาก​สาย​เกิน​แก้​ค่อย​ว่า​กัน​”

………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด