คู่ชะตาบันดาลรักบทที่ 442 แบ่งความดีความชอบ

Now you are reading คู่ชะตาบันดาลรัก Chapter บทที่ 442 แบ่งความดีความชอบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อ​เข้าสู่​เดือน​สามในที่สุด​อากาศ​ก็​อุ่น​ขึ้น​เล็กน้อย​ ถนน​บน​ภูเขา​ที่​กลายเป็น​น้ำแข็ง​เริ่ม​ละลาย​บ้าง​แล้ว​ นก​ไม้ส่งข่าว​ออก​ไป​จงรุ่ย​ส่งคน​มาเร่ง​เตรียมการ​ให้​เปิด​ถนน​ก่อน​เข้าเดือน​สี่ เพื่อ​ช่วย​บิดา​เขา​ได้​นำ​ทหาร​และ​ม้าจำนวน​หนึ่ง​แสน​นาย​ไป​ยัง​เนิน​กรวด​ด้วย​ตนเอง​

ทันทีที่​จงซู่เห็น​เขา​ก็​ถามว่า​ “เผ่า​ซีหรง​เป็น​อย่างไร​”

จงรุ่ย​รู้สึก​ละอายใจ​อย่างยิ่ง​ และ​ร้อง​ขอให้​บิดา​ลงโทษ​ “ลูก​ไม่สามารถ​ยึด​ด่าน​กู่​เหลียง​คืน​มาได้​ไม่สามารถ​นำ​กระดูก​ท่าน​อา​สามกลับมา​…”

จงซู่พูด​เสียง​เรียบ​ “ด่าน​กู่​เหลียง​ง่าย​ต่อ​การป้องกัน​ แต่​ยาก​ที่จะ​โจมตี​หาก​สูญเสีย​ไป​แล้วก็​ยาก​ที่จะ​ยึด​กลับมา​จะโทษ​เจ้าไม่ได้​”

จงรุ่ย​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ และ​ได้ยิน​พ่อ​ของ​เขา​พูดว่า​ “แต่​เจ้าแซ่จง ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​บุตรชายคนโต​จะต้อง​แบกรับ​ความรับผิดชอบ​มากขึ้น​ ผู้อื่น​ทำ​ไม่ได้​ไม่เป็นไร​ แต่​เจ้าห้าม​ทำ​ไม่ได้​” จงรุ่ย​คุกเข่า​ลง​อย่าง​เงียบๆ​

“กลับ​ไป​ค่อย​คุกเข่า​เถอะ​ไป​ขอโทษ​ต่อ​ท่าน​ทวด​ ท่าน​ปู่​ และ​ท่าน​อา​ที่​เสียชีวิต​ใน​สนามรบ​”

“ขอรับ​” จงรุ่ย​รู้​ว่า​นี่​เป็น​โอกาส​ที่​บิดา​ให้​กับ​ตน​

เมื่อ​หิมะ​ละลาย​ ทหาร​ประจำ​ที่นี่​เป็น​โอกาส​ที่​ดี​ที่จะ​ส่งทหาร​ไป​ที่​ทุ่งหญ้า​

ฎีกา​เรื่อง​สงคราม​ที่​ซีเป่ย​เพิ่ง​ถูก​ส่งออก​ไป​พวกเขา​ต้อง​ยึด​พระ​ราชโองการ​ก่อน​เพื่อ​สร้าง​ข้อเท็จจริง​ ด้วย​วิธี​นี้​ถึงจะไม่ได้รับ​ผลกระทบ​จาก​ชีวิต​ของ​ผู้นำ​ต่างถิ่น​

นี่​คือ​การต่อสู้​ที่​ไม่เคย​มีมาใน​ช่วง​ยี่สิบ​ปี​ที่ผ่านมา​นับตั้งแต่​การ​ขึ้น​ครอง​บัลลังก์​ใน​ปัจจุบัน​กองทัพ​ซีเป่ย​ไม่เคย​ต่อสู้​ใน​ศึก​ใหญ่​เช่นนี้​มาก่อน​

ในขณะเดียวกัน​นี่​เป็น​โอกาส​ที่​ดี​ที่สุด​สำหรับ​พวกเขา​ที่จะ​เติบโต​เป็น​นายพล​รุ่นเยาว์​ ต่อให้​เรียนรู้​ได้ดี​เพียงใด​หาก​ไม่ต่อสู้​ด้วย​ตนเอง​ก็​ไม่มีประโยชน์​

…………

กัว​สวี่​ตัวสั่น​ด้วย​ความโกรธ​เมื่อ​จงซู่ส่งคน​มาเชิญเขา​

เขา​รีบ​เข้าไป​ใน​ห้องโถง​โดย​ไม่สนใจ​มารยาท​อะไร​ทั้งนั้น​ “ตาแก่​จงซู่ ท่าน​หลอกลวง​ข้า​เช่นนี้​! ข้า​รายงาน​ต่อ​ฝ่าบาท​แน่​ให้​ฝ่าบาท​ได้​เห็น​ใบ​หน้าที่​แท้จริง​ของ​ท่าน​!”

ผิว​ของ​จงซู่แดงก่ำ​แต่​เต็มไปด้วย​ชีวิตชีวา​เมื่อ​เห็น​กัว​สวี่​เขา​ก็​หัวเราะ​ และ​ไม่ได้​โกรธ​ที่​ถูก​อีก​ฝ่าย​ด่า​เขา​ยืน​ขึ้น​และ​จับ​ไหล่​อีก​ฝ่าย​อย่าง​สนิทสนม​

“ใต้เท้า​กัว​ ท่าน​จะโกรธ​ไป​ทำไม​กัน​”

กัว​สวี่​สะบัด​ตัว​ออก​อย่าง​แรง​

แต่​จงซู่ไม่สนใจ​เขา​กึ่ง​ดึง​กึ่ง​ลาก​อีก​ฝ่าย​มาแล้ว​กด​ให้​นั่ง​ที่นั่ง​ตัว​แรก​ถัดจาก​ที่นั่ง​แม่ทัพ​

“ใต้เท้า​กัว​มีส่วน​สนับสนุน​อย่าง​มาก​ใน​การต่อสู้​ครั้งนี้​” จงซู่พูด​

กัว​สวี่​ข่มอารมณ์​โกรธ​ และ​มอง​มาที่​เขา​อย่าง​สงสัย​ “ท่าน​ไม่คิด​จะแย่ง​ความดี​ความชอบ​นี้​หรือ​”

เขา​คิด​ว่า​จงซู่เรียก​เขา​มาเพื่อ​ขโมย​ผลประโยชน์​จาก​เขา​! ตัว​เขา​ไม่ได้​ต้องการ​ความดี​ความชอบ​อะไร​มาก​นัก​ แต่​ผู้ใต้บังคับบัญชา​ของ​เขา​ต้องการ​มัน​!

จงซู่ยิ้ม​ “หาก​ไม่มีความคิด​ของ​ใต้เท้า​กัว​พวกเรา​จะพลิก​สถานการณ์​ได้​อย่าง​สวยงาม​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​”

กัว​สวี่​สงบ​ลง​และ​ถามว่า​ “ท่าน​ยินดี​ยก​ความดี​ความชอบ​นี้​ให้​ข้า​หรือ​”

จงซู่พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ “รูปแบบ​การต่อสู้​ครั้งนี้​ใต้เท้า​กัว​ควร​เป็น​ผู้​ที่​ได้​ความดี​ความชอบ​อันดับ​แรก​”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนั้น​กัว​สวี่​ก็​หัวเราะ​และ​ชำเลือง​มอง​เขา​ “อย่า​คิด​ว่าการ​พูด​ดี​ๆ ไม่กี่​ประโยค​แล้ว​จะข้า​ลืม​เรื่อง​ก่อนหน้านี้​ พวก​ท่าน​รวมหัว​กัน​หลอก​ข้า​บัญชี​นี้​ยัง​ไม่รับ​การ​ชำระ​ ท่าน​กับ​คุณชาย​หยาง​สมรู้ร่วมคิด​กัน​มานาน​แล้ว​ใช่หรือไม่​ ไม่น่าแปลกใจ​เลย​ที่​เมื่อ​ข้า​มาถึงไป๋​เห​มินเซี่ย​ถึงได้​รู้สึก​แปลก​ๆ ระหว่าง​พวก​ท่าน​”

“ใต้เท้า​กัว​ ท่าน​กำลัง​พูดถึง​เรื่อง​อะไร​ สมรู้ร่วมคิด​อะไร​กัน​ พวกเรา​ติด​อยู่​ด้วยกัน​ ดิ้นรน​เพื่อ​หาทาง​ออกจาก​ความตาย​เลย​กลายเป็น​มิตรภาพ​ที่​ร่วมทุกข์​ร่วม​ตาย​กัน​มา ท่าน​กับ​คุณชาย​หยาง​ใช้เวลา​ด้วยกัน​มากกว่า​ข้า​เสีย​อีก​ท่าน​ไม่รู้สึก​บ้าง​เลย​หรือ​”

กัว​สวี่​พูด​เสียง​เย็นชา​ “ข้า​ไม่กล้า​ที่จะ​มีความรู้สึก​กับ​เด็ก​คน​นั้น​หรอก​ ผู้ใด​จะรู้​ว่า​เขา​จะมีแผน​ชั่ว​ที่​ไม่สามารถ​บอก​ผู้ใด​ได้​อยู่​เบื้องหลัง​หรือไม่​ เพื่อ​เห็นแก่​ที่​พวกเรา​ร่วมทุกข์ร่วมสุข​ด้วยกัน​มา จงซู่ ข้า​แนะนำ​ท่าน​ว่า​เรื่อง​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​เบื้องบน​ไม่ใช่สิ่งที่​ขุนนาง​อย่าง​พวกเรา​แตะต้อง​ได้​”

จงซู่ถอนหายใจ​ “ข้า​อยาก​แตะต้อง​ตรงไหน​กัน​ แต่​เขา​ดู​น่าสงสาร​ องค์​หญิง​ใหญ่​และ​ผู้เฒ่า​โหว​เป็น​วีรบุรุษ​ที่​สั่งสอน​เด็ก​คน​หนึ่ง​มาให้​อยู่​ใน​มุมที่​ไม่มีผู้ใด​เห็น​เท่านั้น​ เขา​เป็น​คน​เช่นไร​หลาย​วัน​มานี้​ท่าน​ก็​เห็น​กับ​ตา​แล้ว​ท่าน​คิด​ว่า​เขา​ควร​มีชีวิต​เช่นนั้น​หรือ​”

คำพูด​นี้​พูด​ได้​ว่า​เป็น​การปฏิบัติ​ต่อ​ผู้อื่น​ด้วย​ความจริงใจ​กัว​สวี่​จึงยอม​ปล่อยวาง​และ​พูดว่า​ “ท่าน​จง ท่าน​เป็น​คน​มีปัญญา​มาก​ ข้า​ไม่เชื่อ​ว่า​ท่าน​จะมอง​ไม่ออก​ เขา​เป็น​คน​เช่นไร​เป็นเรื่อง​ที่​มีความสำคัญ​น้อยที่สุด​ สิ่งที่​สำคัญ​คือ​ตำแหน่ง​ของ​เขา​กับ​เบื้องบน​คิด​อย่างไร​ต่างหาก​ นอกจากนี้​เขา​อาจ​ไม่ต้องการ​มัน​ใน​ตอนนี้​ แต่​ท่าน​แน่ใจ​หรือว่า​เขา​จะไม่ต้องการ​มัน​อีก​ในอนาคต​ แม่ทัพ​ที่​ดี​มีอยู่​ทุกหน​แห่ง​ต่อให้​เป็น​เทพ​แห่ง​สงคราม​กลับชาติมาเกิด​ หาก​ความมั่นคง​ทางการเมือง​ถูก​คุกคาม​ อะไร​ที่​ควร​ปล่อย​ก็​ปล่อย​ซะ เมื่อ​เทียบ​กับ​แผ่นดิน​และ​ประวัติศาสตร์​แล้ว​มนุษย์​มีขนาดเล็ก​เกินไป​แม้ผู้บริสุทธิ์​จะเสียสละ​ก็​ไม่ใช่ปัญหา​”

จงซู่พูด​อย่าง​เศร้า​ๆ “เช่นนั้น​ตอนนี้​ก็​ให้​เขา​มีความสุข​มากขึ้น​เถอะ​ ความดี​ความชอบ​อันดับ​แรก​นี้​เป็น​ของ​ท่าน​แน่นอน​ ส่วนที่เหลือ​จะมอบให้​กับ​ผู้ใต้บังคับบัญชา​ของ​ข้า​ส่วน​เรื่อง​เขา​ก็​ไม่ต้อง​พูดถึง​”

กัว​สวี่​ยิ้ม​และ​พูดว่า​ “อย่างไร​คง​ต้อง​พูดถึง​เพราะ​เขา​อยู่​ที่นี่​จะเลี่ยง​หู​ตา​ของ​นก​อินทรี​ได้​อย่างไร​เพียงแต่ว่า​ความดี​ความชอบ​นี้​ไม่สามารถ​แบ่ง​ให้​เขา​ได้​เลย​ เขา​เอง​ก็​อย่า​รู้สึก​ไม่ได้รับ​ความเป็นธรรม​ นี่​เป็น​สิ่งที่​ใต้เท้า​กัว​อย่าง​ข้า​เห็นแก่​เรา​เคย​ร่วมเป็นร่วมตาย​ด้วยกัน​มาตลอด​สอง​เดือน​ถึงได้​จงใจเอา​เขา​ออก​ไป​”

“ใต้เท้า​กัว​คิด​รอบคอบ​จริงๆ​”

หลังจากที่​ทั้งสอง​พูดคุย​เรื่อง​นี้​ และ​จัดการ​แบ่ง​สัดส่วน​ได้​อย่าง​เสร็จสรรพ​แล้ว​ กัว​สวี่​ได้​สิ่งที่​ต้องการ​จึงอารมณ์ดี​เขา​เตือน​อีก​ฝ่าย​ว่า​ “ข้า​จะไม่ยุ่ง​เรื่อง​ระหว่าง​พวก​ท่าน​ แต่​หาก​ราชสำนัก​ส่งคน​มาอีก​ข้า​คง​ช่วยไม่ได้​”

“ใต้เท้า​กัว​โปรด​วางใจ​ ข้า​จะไม่ทำให้​ท่าน​ลำบาก​แน่นอน​” กัว​สวี่​เดิน​จากไป​

จงรุ่ย​ออก​มาจาก​ด้านหลัง​และ​พูดว่า​ “ท่าน​พ่อ​ เหตุใด​ท่าน​ถึงยก​ความดี​ความชอบ​อันดับ​แรก​ให้​แก่​เขา​ ต่อให้​ต้อง​แบ่ง​ความดี​ความชอบ​กัน​ แต่​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​มอบ​ความดี​ความชอบ​อันดับ​แรก​ให้​เขา​เลย​ เขา​แค่​ขยับ​ปาก​ แต่​คน​ที่​สู้สุด​ชีวิต​คือ​พวกเรา​”

จงซู่พูด​อย่าง​เฉยเมย​ “เจ้าคิด​ว่า​เขา​โกหก​เก่ง​ใช่หรือไม่​ ข้า​จะบอก​เจ้าให้​ อย่า​พูดว่า​เป็น​แค่​ผู้อาวุโส​ที่​สามารถ​ช่วย​ราชสำนัก​ได้​ ไม่ว่า​ขุนนาง​ผู้​นั้น​จะเป็น​ผู้ใด​ก็ตาม​ อย่า​ประมาท​พวกเขา​แน่นอน​ว่า​เขา​ต้อง​โกรธ​ แต่​ก็​เป็นการ​โกรธ​ที่​ตั้งใจ​”

จงรุ่ย​ตกใจ​ “เพราะอะไร​หรือ​”

“นี่​คือ​อาณาเขต​ของ​เรา​เขา​อยู่​คนเดียว​โดย​ไม่มีการป้องกัน​ หาก​เรา​ใจดำ​และ​ฆ่าเขา​ จากนั้น​แจ้งว่า​ตาย​ใน​สนามรบ​มีผู้ใด​รู้​ความจริง​บ้าง​เล่า​ เขา​รีบ​เข้ามา​อย่าง​โกรธเคือง​เพียง​เพื่อ​สำรวจ​ทัศนคติ​ของ​พ่อ​ และ​เพื่อ​เจรจา​เงื่อนไข​ ไม่อย่างนั้น​เหตุใด​เขา​ถึงเปลี่ยนท่าที​อย่าง​รวดเร็ว​เมื่อ​ข้า​พูด​เสียงอ่อน​ลง​”

จงรุ่ย​ “….”

“เจ้านี่​นะ​มีความสามารถ​ใน​การต่อสู้​ที่​ดี​ แต่​ใน​เรื่อง​นี้​ยัง​ห่าง​คุณชาย​หยาง​อยู่​อีก​ไกล​ เจ้ามอง​เขา​สิหลัง​จบ​การต่อสู้​เขา​ไม่สนใจ​เรื่องไร้สาระ​เลย​ ก่อนหน้านี้​ยัง​เรียก​ให้​มอบ​ความดี​ความชอบ​แก่​เขา​ ตอนนี้​ล่ะ​”

หลัง​ชะงัก​ไป​พัก​หนึ่ง​จงซู่พูด​ต่อว่า​ “ข้า​มอบ​ความดี​ความชอบ​อันดับ​แรก​ให้​กัว​สวี่​เพื่อ​ทิ้ง​ทางออก​สำหรับ​อนาคต​ ผู้อาวุโส​กัว​ผู้​นี้​รู้ดี​ว่า​นี่​เป็น​ความดี​ความชอบ​ที่​ยิ่งใหญ่​เช่นไร​ และ​ยัง​รู้​ว่า​ฝ่าบาท​มีท่าที​เช่นไร​ มอบ​ความดี​ความชอบ​อันดับ​แรก​แก่​เขา​เพื่อที่จะ​ส่งกองทหาร​ไป​ยัง​ทุ่งหญ้า​อย่าง​ราบรื่น​ เขา​จะพยายาม​จัดการ​ให้​ดี​ที่สุด​ แม้ว่า​เขา​จะมีศัตรู​ทางการเมือง​ไม่น้อย​ แต่​ก็​ไม่ควร​มองข้าม​เรื่อง​เส้นสาย​ยิ่งไปกว่านั้น​หาก​สร้างความสัมพันธ์​ที่​ดี​ใน​วันนี้​เขา​บอ​กว่า​เขา​จะไม่ขอ​อะไร​อีก​ในอนาคต​”

เขา​ไม่พูด​ให้​เข้าใจ​จงรุ่ย​ลอง​ทำความเข้าใจ​กับ​มัน​ดู​จึงรู้​ว่า​บิดา​หมายถึง​ชาติกำเนิด​ของ​หยาง​ชู เดี๋ยว​นะ​…นี่​ไม่ใช่การ​สร้างความสัมพันธ์​อัน​ดี​กับ​คุณชาย​หยาง​หรอก​หรือ​ เขา​แค่​ไม่อยู่​พักใหญ่​เจ้านั่น​ได้​ซื้อใจ​บิดา​ของ​เขา​ไป​แล้ว​งั้น​หรือ​

…………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด