คู่ชะตาบันดาลรักบทที่ 456 ถามใจ

Now you are reading คู่ชะตาบันดาลรัก Chapter บทที่ 456 ถามใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จงเยวี่ย​มาที่​ค่าย​ใหญ่​เขา​พัก​ที่นี่​ชั่วคราว​ เขา​ออก​ไป​เก็บ​สมุนไพร​ทุกวัน​ และ​กลับมา​เพื่อ​หารือ​เกี่ยวกับ​วิชา​การแพทย์​กับ​แพทย์​ทหาร​ ทานข้าว​กับ​จงซู่จากนั้น​ก็​แยกย้าย​ไป​พักผ่อน​

ท่าที​เช่นนี้​เหมือนกับ​ที่​เขา​พูด​ใน​วันนั้น​จริงๆ​ เขา​พูด​ใน​ส่วน​ของ​เขา​เมื่อ​พูด​จบ​แล้ว​จงซู่จะเลือก​อย่างไร​เขา​จะไม่เข้าไป​ยุ่งเกี่ยว​ แต่​เพราะ​คำพูด​ของ​เขา​ทำให้​จงซู่นอนไม่หลับ​

วันนั้น​จงเยวี่ย​ถามตน​ว่า​ควร​ช่วยเหลือ​หรือไม่​เขา​ตอบ​ไป​ว่า​ “นี่​ไม่ใช่เรื่อง​ของ​คน​หนึ่ง​คน​ แต่​เป็นเรื่อง​ของ​รากฐาน​ของ​แคว้น​ และ​ความมั่นคง​ของ​สถานการณ์​ทางการเมือง​ น้อง​หก​ ข้า​ไม่สามารถ​ลาก​ตระกูล​จงเข้ามา​เกี่ยวข้อง​เพราะ​ความรู้สึก​ส่วนตัว​ได้​”

“เช่นนั้น​แม้เขา​จะเสียชีวิต​อย่าง​ไร้​ความยุติธรรม​ พี่ใหญ่​ก็​ไม่คิด​ช่วยเหลือ​ใช่หรือไม่​” จงซู่เงียบ​

จงเยวี่ย​พูด​อี​กว่า​ “การ​มีอยู่​ของ​เขา​คุกคาม​เสถียรภาพ​ของ​สถานการณ์​ทางการเมือง​จริง​หรือ​ พี่ใหญ่​ถามใจตนเอง​ดู​ว่า​กลัว​ความ​ไม่สงบ​ทางการเมือง​หรือ​กังวล​ว่า​ตระกูล​จะเสีย​ความ​โปรดปราน​จาก​ฝ่าบาท​”

“ก็​ควร​คิดถึง​ทั้งสอง​เรื่อง​”

“เช่นนั้น​ก็​ตอบ​แยกกัน​ พี่ใหญ่​ ท่าน​คิด​ว่าการ​ช่วยเหลือ​เขา​จะทำให้เกิด​ความวุ่นวาย​ทางการเมือง​หรือไม่​”

จงซู่เงียบ​อยู่​นาน​ในที่สุด​ก็​ไม่สามารถ​ขัดต่อ​ใจตนเอง​ได้​จึงตอบ​ไป​ว่า​ “ซือฮว๋ายไท่จื่อ​ล่วงลับ​ไป​แล้ว​หลาย​ปี​ แม้ว่า​ลูกหลาน​ของ​เขา​จะยัง​มีชีวิต​อยู่​ แต่​ก็​ไม่มีภัย​คุกคาม​ต่อ​ราชบัลลังก์​ ปัจจุบัน​การ​สืบราชสมบัติ​จาก​พ่อ​สู่ลูก​เขา​ไม่สามารถ​รับ​ตำแหน่ง​นั้น​ได้​อยู่แล้ว​”

“เช่นนั้น​พี่ใหญ่​ก็​ยอมรับ​ว่า​แม้ว่า​ตัวตน​ของ​เขา​จะถูก​เปิดเผย​ แต่​ก็​จะไม่ส่งผลกระทบ​มาก​นัก​”

จงซู่พูด​อย่าง​ไพเราะ​ว่า​ “ก็​แค่​พูดตาม​หลัก​เหตุผล​ อย่า​ลืม​ว่า​หลิ่ว​หยาง​จวิ้น​อ๋อง​ และ​ฉีตงจวิ้น​อ๋อง​ล้วน​มีใจคิด​ก่อ​กบฏ​ และ​ไม่มีผู้ใด​รู้​ว่า​หาก​เขา​มีชื่อเสียง​ขึ้น​มาจะทำ​อย่างไร​”

จงเยวี่ย​ส่ายหน้า​และ​พูด​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ “จะตัดสิน​กับ​เรื่อง​ที่​ยัง​ไม่เกิดขึ้น​ได้​อย่างไร​ เรื่อง​นี้​ไม่จำเป็น​หรอก​ พี่ใหญ่​ ท่าน​จะใช้เหตุผล​ที่ว่า​ ‘เขา​อาจ​ทำ​’ ปลิดชีวิต​เขา​หรือ​ที่แท้​คน​ผู้​นั้น​ก็​คิด​เช่นนี้​ใช่หรือไม่​”

จงซู่รู้อยู่​เสมอ​ว่า​น้อง​หก​ของ​ตน​มีฝีปาก​เป็นเลิศ​ปกติ​เขา​ไม่ใช่คนพูดมาก​ เมื่อ​เขา​พูด​ ทุก​คำ​ที่​พูด​จะต้อง​มีเหตุผล​ เหมือน​ตอนนี้​…ตน​พูดไม่ออก​เมื่อ​ถูก​ถาม

“รับ​สิ่งดี​จาก​ใคร​ภักดี​ต่อ​ผู้​นั้น​ คติ​ประจำ​ตระกูล​ของ​เรา​ไม่มีอะไร​มาก​ไป​กว่า​คำๆ​ นี้​ บุญคุณ​ของ​ฮ่องเต้​ไท่​จู่ที่​พวกเรา​ได้รับ​ พวกเรา​จึงปกป้อง​ชายแดน​ต้าฉี​มาหลาย​ชั่วอายุคน​ แต่​พี่ใหญ่​ท่าน​อย่า​ลืม​ว่า​ความรุ่งโรจน์​ของ​พวกเรา​ตระกูล​จงไม่ได้​อยู่​ที่​ฮ่องเต้​ที่​เรา​ภักดี​ แต่​อยู่​ใน​ความภักดี​ของ​พวกเรา​ต่อ​แคว้น​ต้าฉี​ พวกเรา​ต่อสู้​เพื่อ​ต้าฉี​ไม่ใช่เพื่อ​ความเห็นแก่ตัว​ของ​ผู้ใด​”

“คำพูด​ของ​น้อง​หก​ ข้า​ไม่มีข้อแก้ตัว​” จงซู่พูด​ “ผู้ใด​ก็ตาม​ที่นั่ง​ใน​ตำแหน่ง​นั้น​ล้วน​เป็นตัวแทน​ของ​ต้าฉี”​

จงเยวี่ย​ถอนหายใจ​ “คำถาม​นี้​พี่ใหญ่​คิด​ให้​ดี​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ตอบ​ดีกว่า​ ความจงรักภักดี​ของ​พวกเรา​ตระกูล​จงมีพื้นฐาน​มาจาก​อะไร​ ข้า​เกรง​ว่า​หาก​ท่าน​ตอบ​เร็ว​ไป​ท่าน​จะเสียใจ​ใน​ภายหลัง​” เขา​ชะงัก​ไป​พัก​หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ “ฮ่องเต้​ไม่ใช่ฮ่องเต้​เมื่อ​สอง​ปีก่อน​อีกต่อไป​แล้ว​” การ​สนทนา​ใน​วันนั้น​จบ​ลง​ตรงนี้​

จงซู่รู้​ว่า​จงเยวี่ย​ยังอยู่​ที่นี่​เพียง​รอ​คำตอบ​ ตาม​หลัก​เหตุผล​เขา​สามารถ​ตอบ​ได้​ทันที​ แต่​ยิ่ง​เขา​ครุ่นคิด​เรื่อง​นี้​มาก​เท่าไร​เขา​ก็​ยิ่ง​ลังเล​มากขึ้น​เท่านั้น​

เด็ก​คน​นั้น​ ตน​อยาก​มองดู​เขา​ตกเป็น​เหยื่อ​จริงๆ​ หรือ​

เกิด​ใน​ราชวงศ์​ เขา​ไม่มีทางเลือก​ เขา​ไม่เคย​ทำ​เรื่อง​กบฏ​ต่อ​ฟ้าดิน​ ตรงกันข้าม​กลับ​ต่อสู้​เพื่อ​แคว้น​อย่าง​ไม่หวัง​ความดี​ความชอบ​ และ​ใน​ตอนนั้น​เขา​ได้รับ​จดหมาย​จาก​จงรุ่ย​

หาก​พูด​อย่าง​เคร่งครัด​สิ่งที่​จงรุ่ย​เขียน​มาคือ​รายงาน​สงคราม​ ข้างต้น​นั้น​เขียน​เกี่ยวกับ​การ​ซุ่มโจมตี​ใน​วันนั้น​เรื่อง​ที่​พยายาม​จับกุม​น่า​ซู แต่​จงซู่พบ​เบาะแส​จาก​เนื้อหา​นั้น​

เกาทัณฑ์​ลับ​จาก​กองอำนวยการ​สร้าง​พระราชวัง​เป็น​ค้างคาว​ราตรี​ที่​ฉวยโอกาส​ใน​เวลา​ที่​เขา​กำลังจะ​จับ​น่า​ซู

น้อง​หก​ไม่ได้​โกหก​เขา​จริงๆ​ จงซู่มอง​รายงาน​สงคราม​ด้วย​แววตา​ที่​สั่น​ไหว​ และ​ในที่สุด​เขา​ก็​ตบ​โต๊ะ​แล้ว​ลุกขึ้น​เดินไปเดินมา​เพื่อ​ระบาย​อารมณ์​ของ​ตนเอง​

เขา​ไม่ต้องการ​ส่งทหาร​ไป​ที่​ทุ่งหญ้า​ ตน​เข้า​ใจดี​ การ​โจมตีขนาบ​ของ​ฝั่งเหนือ​ใต้​ ตราบใดที่​เรือ​ลำ​ใด​ลำ​หนึ่ง​ไม่ดี​พอ​เรือ​ของ​ต้าฉี​ก็​ไม่สามารถ​ประคอง​ไว้​ได้​

ท่าที​ไม่ชัดเจน​ที่​เขา​มีต่อ​หยาง​ชูตนเอง​ก็​เข้า​ใจดี​ สถานะ​ทายาท​ของ​ไท่จื่อ​องค์​ก่อน​ทำให้​ฮ่องเต้​องค์​ปัจจุบัน​กลัว​ไม่น้อย​

แม้ว่า​เขา​จะส่งคน​ไป​ลอบสังหาร​เขา​ก็​ยัง​สามารถ​โต้เถียง​แทน​เขา​ได้​ ข่าวลือ​นั้น​ที่​กำลัง​แพร่กระจาย​ออก​ไป​ เห็นได้ชัด​ว่า​มีคน​จงใจขับเคลื่อน​มัน​ และ​จงใจทำให้เกิด​เหตุการณ์​วุ่นวาย​ แต่​เขา​ที่​ไม่ได้​ด้วย​เล่ห์​ก็​ต้อง​เอา​ด้วย​กล​เพื่อ​เอาชีวิต​หยาง​ชู จงซู่ไม่สามารถ​ทำความเข้าใจ​ได้​

โอกาสดี​อะไร​อย่างนี้​!

หาก​สามารถ​จัดการ​น่า​ซูได้​และ​หยุด​ซูถูได้​ ชายแดน​ต้าฉี​สามารถ​ขยาย​ออก​ไป​ได้​ถึงเหลียง​ชวน​!

เส้นทาง​นี้​ตัด​ตรง​จาก​ถนน​การค้า​ระหว่าง​เป่ย​หู​และ​เผ่า​ซีหรง​ หลังจากนั้น​ทั้งสอง​เผ่า​ก็​ไม่สามารถ​รวมตัวกัน​สร้าง​ปัญหา​ได้​อีกต่อไป​ และ​ถูก​ต้าฉี​ตัดหนทาง​รอด​

พูด​ให้​จริงจัง​กว่า​นั้น​หาก​สามารถ​รักษา​เหลียง​ชวน​ได้​ และ​ใช้ช่องแคบ​นี้​บั่น​คอ​พวก​หู​เห​ริน​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ใช้กำลัง​ทหาร​มาก​ใน​การปกป้อง​พรมแดน​ซีเป่ย​ดังนั้น​จึงต้อง​วางหมาก​บุก​แดน​ใต้​และ​รวม​ใต้​หล้า​เข้าด้วยกัน​

นี่​คือ​จุดเริ่มต้น​ของ​การ​รวม​ใต้​หล้า​เป็นหนึ่ง​!

เรื่องสำคัญ​เช่นนี้​ใน​สายตา​ของ​เขา​เทียบ​ไม่ได้​กับ​ข่าวลือ​เลย​หรือ​ จงซู่ทุบ​เกราะ​ที่​หน้าอก​ด้วย​ความ​ปวดใจ​ ย้อนกลับ​ไป​ใน​สมัย​นั้น​ที่​ตระกูล​จงติดตาม​ฮ่องเต้​ไท่​จู่ยกทัพ​ไป​ยัง​เหนือ​ใต้​ แต่​ไม่สามารถ​รวม​ใต้​หล้า​เป็นหนึ่ง​ได้​มัน​เป็น​สิ่งที่​พวกเขา​ไม่เคย​ลืม​ไป​จนตาย​มัน​ไม่มีค่า​อะไร​ใน​สายตา​ของ​เขา​เลย​หรือ​

จงซู่อด​คิดถึง​คำพูด​ใน​วันนั้น​ของ​น้อง​หก​ไม่ได้​ฮ่องเต้​ไม่ใช่ฮ่องเต้​เมื่อ​สอง​ปีก่อน​อีกต่อไป​

หลังจาก​นั่ง​ได้​ครู่หนึ่ง​ในที่สุด​เขา​ก็​สั่งองครักษ์​ส่วนตัว​ “ไป​เชิญหมอ​เทวดา​มา”

จงเยวี่ย​มาถึงอย่าง​รวดเร็ว​ “พี่ใหญ่​” จงซู่ไม่ได้​พูด​อะไร​ และ​โยน​รายงาน​การสงคราม​ออก​ไป​ จงเยวี่ย​อ่าน​จบ​อย่าง​รวดเร็ว​ด้วย​ความรู้สึก​ไม่แปลกใจ​แล้ว​ถามว่า​

“พี่ใหญ่​คิด​อย่างไร​”

“ข้า​ไม่รู้​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร​” จงซู่พูด​อย่าง​โง่เขลา​ “จะบอ​กว่า​ข้า​ไม่คิด​อะไร​ถึงจะถูก​”

จงเยวี่ย​หัวเราะ​

“เจ้าหัวเราะ​อะไร​” จงซู่ไม่พอใจ​มัน​น่า​ตลก​ตรงไหน​ที่​เขา​สับสน​

“ข้า​มีของ​สิ่งหนึ่ง​ที่​สามารถ​แก้ปัญหา​ของ​พี่ใหญ่​ได้​”

“อะไร​” จงเยวี่ย​หยิบ​จดหมาย​ออกมา​จาก​แขน​เสื้อ​ หยิบ​กระดาษ​แผ่น​หนึ่ง​ออกมา​แล้ว​ยื่น​ให้​เขา​

…………

ไม่มีผู้ใด​คิด​ว่า​คราวนี้​ข่าวลือ​จะกระจาย​เร็ว​เช่นนี้​ใน​เวลา​เพียง​ครึ่ง​เดือน​ข่าวลือ​ก็ได้​แพร่กระจาย​ไป​ใน​แต่ละ​เมือง​ เมื่อ​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ถือเป็น​คุณงามความดี​ของ​พวก​กบฏ​ใน​เฉิงโจว​ พวกเขา​ตัดสินใจ​ และ​ทุ่มเท​อย่าง​สุดกำลัง​ให้​เขา​ฆ่าหยาง​ชูเพื่อ​ล้างแค้น​เรื่อง​ที่​ไป๋​เห​มินเซี่ย​

อย่างไรก็ตาม​เรื่อง​นี้​ตก​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​ฟู่จิน​ เอาเลย​ ยิ่ง​ข่าวลือ​แพร่​กระพือ​ไป​มาก​เท่าไร​ ฮ่องเต้​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​มัน​ ตอนนี้​หยาง​ชูขาด​อะไร​หรือ​ สำหรับ​ฟู่จิน​แล้ว​เขา​ตอบ​ได้​เพียง​สอง​คำ​ นั่น​คือ​ ชื่อเสียง​

เขา​ไม่ได้​แซ่เจียง​ และ​ไม่ได้​ถูก​บันทึก​ไว้​ที่​แผนภูมิ​หยก​ประจำ​ราชวงศ์​ไม่ใช่คนใน​ราชวงศ์​ ตราบใดที่​เขา​ไม่ได้​เป็น​คนใน​ราชวงศ์​ แม้ว่า​องค์​ชาย​จะสิ้นพระชนม์​ทุกคน​ไม่มีเหลือ​เหล่า​ขุนนาง​ก็​จะดู​เครือ​ญาติห่างๆ​ และ​ไม่มอง​มาที่​เขา​

หาก​เขา​ต้องการ​ก่อ​กบฏ​ชื่อเสียง​เป็น​สิ่งที่​ขาดไม่ได้​

ตัวอย่างเช่น​ กบฏ​เฉิงโจว​ พวกเขา​เป็น​กากเดน​ของ​หลิ่ว​หยาง​จวิ้น​อ๋อง​และ​พวกเขา​ไม่ได้​มีอำนาจ​มาก​นัก​ เพราะ​พวกเขา​ถูก​เรียกชื่อ​ดังกล่าว​ พวกเขา​ดึงดูด​ผู้คน​จาก​ทั่ว​ทุก​มุมโลก​

แม้จะไม่เกิดเรื่อง​นี้​ แต่​หลังจากที่​ปีก​ของ​เขา​สยาย​อย่าง​เต็มที่​ฟู่จิน​ก็​จะหา​วิธี​สร้าง​แรงผลักดัน​เพื่อให้​เขา​สามารถ​เรียกร้อง​สถานะ​ของ​ตนเอง​คืน​มา ตอนนี้​พวกเขา​ทำได้​เพียง​ผลักดัน​สิ่งต่างๆ​ ไป​ข้างหน้า​

แม้ตอนนี้​จะไม่ใช่เวลา​ที่​ดี​ แต่​หาก​ใช้ประโยชน์​จาก​สถานการณ์​นี้​ก็​อาจ​ประสบความสำเร็จ​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด