คู่ชะตาบันดาลรัก 191 พลัดหลง

Now you are reading คู่ชะตาบันดาลรัก Chapter 191 พลัดหลง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วันรุ่งขึ้นหมิงเวยยังเดินไปไม่ถึงห้องโถงใหญ่ก็ได้ยินเสียงก่นด่าของจี้ฮูหยิน “จี้เสียวอู่! เมื่อคืนเจ้าไปทำอะไรมากันแน่”

จี้เสียวอู่ไร้เรี่ยวแรง “ข้าไม่ได้ทำอะไร!”

“ไม่ได้ทำอะไรแล้วเหตุใดใต้ตาจึงดำขนาดนี้ อย่างกับคนเป็นโรค!”

หมิงเวยแปลกใจเมื่อคืนตอนที่พวกเขากลับมาถึงก็ถือว่าไม่ดึกเสียหน่อย

เมื่อเข้ามาในห้องโถงใหญ่ก็เห็นว่าท่าทางของจี้เสียวอู่นั้นดูอิดโรยบอกว่าเหมือนคนเป็นโรคนั้นคงเกินไป แต่ท่าทางไม่สดชื่นนั้นเป็นเรื่องจริง

“ท่านป้า พี่ห้า”

จี้เสียวอู่ขยี้ตามองนางด้วยสายตาที่ดูน่าสงสารยิ่ง “เมื่อคืนข้านอนไม่หลับ…”

“แล้วทำไมถึงนอนไม่หลับล่ะไม่ใช่ว่าเจ้าไปก่อเรื่องอะไรอีกนะ”

จี้เสียวอู่ตกอยู่ในภวังค์ “เพราะเรื่องเมื่อคืนน่าตกใจมาก…”

ลูกสะใภ้ใหญ่เดินเข้ามาจากด้านนอกก่อนถาม “เจ้ากลัวอสูรน้ำใช่หรือไม่ ได้ยินว่ามันเกือบจะกินคนด้วย”

จี้ฮูหยินได้สติ ก่อนคิดว่าบุตรชายของตนเห็นอสูรน้ำกินคนด้วยตาตนเองหากจะตกใจกลัวก็เป็นเรื่องปกติคิดได้เช่นนั้นก็ยิ่งรู้สึกเป็นทุกข์ “เป็นเช่นนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นเรามาต้มชาที่ทำให้หายตกใจกันดีกว่า”

แล้วนางก็นึกถึงหมิงเวย “เสี่ยวชีเองก็…” เมื่อหันศีรษะไปก็เห็นหมิงเวยนั่งดื่มน้ำอย่างสงบ

นางเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้ม “ตอนที่อสูรกินคนนั้นหลานรู้สึกร้อนจึงออกไปรับลมข้างนอกเลยไม่เห็นเจ้าค่ะ”

จี้ฮูหยินรู้สึกยินดี “ดีแล้วที่หลานไม่เห็นหากตกใจกลัวจนป่วยขึ้นมาจะทำอย่างไร” แล้วเงยหน้าตะโกน “แม่นมให้ป้าฟ่านไปต้มชาคลายความตกใจมาที”

จี้เสียวอู่กระตุกยิ้มมุมปาก

นางน่ะหรือจะตกใจกลัวหากไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะกลับไปอธิบายเรื่องเสื้อผ้าเปียกชื้นได้อย่างไรนางอาจลงน้ำด้วยตนเองก็เป็นได้

เขาคิดเรื่องนี้ทั้งคืนและไม่เข้าใจว่าเหตุใดลูกพี่ลูกน้องของเขาถึงกลายเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นนางตอนที่ยังเป็นเด็กเล็กๆ ตอนนั้นนางโง่จริงๆ ใครพูดอะไรก็ไม่เข้าใจหรือที่ตัวฝูพูดมาจะเป็นความจริง เรื่องที่เสวียนหนี่เหนียงเหนียงมารับวิญญาณของนางไปเพราะฉะนั้น…

“ไอหยา!” ขณะที่กำลังใช้ความคิดเขาก็ถูกจี้หลิงตีเข้าที่หัว

“เห็นเจ้าเป็นเช่นนี้แล้วไม่รู้ว่าตนเองมีน้องโง่หรือเปล่า ปกติเจ้าใจกล้าไม่ใช่หรือ เจอเรื่องเมื่อคืนก็ตกใจกลัวไปเสียได้ ดูอย่างน้องหญิงสิเจ้าไม่อายบ้างหรือ”

จูเอ๋อร์ที่เข้ามาพร้อมกับบิดายกมือเกาแก้มก่อนเอ่ย “ท่านอาอายๆ!”

“ฮิๆ!” จี้เสียวอู่ไม่อยากพูดอะไรอีก

ตัวฝูเดินเข้ามาพร้อมกล่องใส่แมงมุม “คุณหนู มาดูแมงมุมชักใยกันเถอะเจ้าค่ะ”

จูเอ๋อร์รีบวิ่งเข้าไปหา “ชักใย แมงมุมชักใย!”

สะใภ้ใหญ่แตะจมูกน้อยๆ ของบุตรสาว “แมงมุมมงคลของท่านน้าลูกจะรีบร้อยทำไมฮึ”

จูเอ๋อร์หัวเราะ “ท่านแม่ แมงมุมชักใยเยอะหรือไม่”

นางอุ้มบุตรสาวขึ้นให้มานั่งบนตักก่อนตอบ “แน่นอน! มือของท่านน้า…”

คำพูดสุดท้ายติดอยู่ในลำคอยังไม่ทันได้พูดออกมา

จูเอ๋อร์กะพริบตาก่อนถาม “ท่านแม่ แมงมุมล่ะ”

จี้เสียวอู่เหลือบไปมองแล้วหยิบซากแมงมุมขึ้นมาจากกล่อง “ว้าว น้องหญิงเก่งจริงๆ แมงมุมมอบความมงคลให้น้องแล้วตายไป”

หมิงเวยแย่งซากแมงมุมมาจากเขาอย่างรวดเร็วจากนั้นก็โยนเข้าปากที่ยังไม่ได้ปิดสนิทของอีกฝ่ายแล้วยึดคางเขาไว้ “มันทำให้ท่านหายตกใจพอดีเลย!”

จี้เสียวอู่ป้องกันตัวเองไม่ทันเลยเผลอกลืนมันลงไปใบหน้าของเขาเขียวคล้ำ เขายกมือข้างหนึ่งกุมคอตนเองอีกข้างชี้หน้าหมิงเวย “เจ้า นี่เจ้า…”

ตัวฝูกล่าวเสริม “คุณชายห้า แมงมุมไม่มีพิษท่านวางใจได้”

“หวา!” จี้เสียวอู่ทนไม่ไหววิ่งออกไปอ้วกใต้ต้นไม้ ตั้งแต่เช้าเขายังไม่ทานอะไรเลย จึงไม่มีอะไรให้อ้วกออกมา

มือเล็กๆ ของจูเอ๋อร์คว้าแขนเสื้อของมารดาและถามอย่างเป็นห่วง “ท่านแม่ แมงมุมกินได้หรือไม่”

“แน่นอนว่ากินไม่ได้” หมิงเวยกะพริบตาให้นางแล้วนำซากแมงมุมวางกลับเข้าไปในกล่อง “ก็แค่แกล้งท่านอาของเจ้าเล่น อย่าบอกเขาล่ะ”

นางแค่ยิงลมออกไปให้จี้เสียวอู่คิดว่าเขากลืนอะไรบางอย่างเข้าไป

สะใภ้ใหญ่ได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ที่แท้น้องหญิงก็เป็นคนร้ายกาจเช่นนี้

จู่ๆ งูขาวก็ค่อยๆ โผล่ออกมาจากแขนเสื้ออย่างระมัดระวัง “นายท่าน…”

หมิงเวยเหลือบมองมัน

“ข้า ข้าไม่ได้กินสิ่งมีชีวิตนานแล้วเมื่อคืนไม่ทันระวัง…” ก็ดูดแมงมุมจนแห้งตายไปแล้ว

……………

เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จผู้ที่ไปสอนก็เดินทางไปสอนผู้ที่ต้องเข้าเรียนก็เดินทางไปเข้าเรียน หมิงเวยเข้ามาในห้องเรียนและพบว่าบรรยากาศผิดปกติ

เด็กสาวคนหนึ่งเรียกนาง “หมิงเวย!”

เมื่อเห็นหมิงเวยเข้ามาเด็กสาวที่ไปสระฉางเล่อด้วยกันเมื่อคืนก็เข้ามาล้อมรอบนาง ต่างคนต่างแย่งกันพูด “เจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”

“ทำไมจู่ๆ เมื่อคืนหายตัวไปล่ะพวกเรากลัวแทบแย่”

“ใช่ แม้แต่พี่ชายของเจ้าก็ไม่เห็นพวกเราคิดว่าพวกเจ้าพลัดหลงไปอีกคนแล้ว!”

“อีกคนงั้นหรือ” หมิงเวยสะดุดใจกับคำพูดนั้น เด็กสาวหลายคนเงียบในเวลาเดียวกัน

“เกิดอะไรขึ้น” หมิงเวยถาม

นักเรียนหญิงที่ชื่อฟางจิ่นผิงตอบ “เจ้าไม่รู้หรือเมื่อวานจู่ๆ ก็มีอสูรน้ำปรากฏตัว เกิดความโกลาหลมากมีคนหายไปสองสามคน…”

“หายไป…” นางกวาดตามอง “เว่ยเสี่ยวอันล่ะ”

สีหน้าทุกคนเหมือนจะร้องไห้ “พวกเราหานางไม่เจอ” หมิงเวยใจสั่น

“ทำไมถึงไม่เจอล่ะ เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ”

ฟางจิ่นผิงสนิทกับเว่ยเสี่ยวอันนางตอบไปว่า “เมื่อคืนอสูรน้ำออกมาก่อกวน ที่สระฉางเล่อวุ่นวายมาก ตอนที่พวกเราออกมาก็ถูกเบียดจนแออัดแล้วเสี่ยวอันก็หายไป…คนตระกูลเว่ยตามหาอยู่นานแต่ก็ไม่พบไม่รู้ว่าถูกดึงลงไปในน้ำหรือไม่”

“ใช่ ได้ยินว่าเมื่อคืนมีคนจมน้ำและถูกเหยียบตายไปไม่น้อย”

“ได้ยินว่าเหวินหรูก็หายไปเหมือนกัน คนตระกูลเหวินกำลังตามหาอยู่ พวกเจ้าก็เห็นว่าวันนี้เหวินอิงก็ไม่มาเข้าเรียน”

หมิงเวยเลิกคิ้ว “เรื่องนี้รายงานกับทางการหรือยัง”

“แน่นอนว่ารายงานแล้ว” ฟางจิ่นผิงตอบ “ได้ยินว่าทางการกำลังตามหาศพที่ลอยน้ำ ข้ากลัวว่าเสี่ยวอันนาง…”

หมิงเวยกล่าวปลอบนาง “อย่ากังวลไปเลย มีคนมากมายกำลังตามหาอยู่จะต้องหานางเจอแน่” การเรียนในวันนี้สับสนมึนงงมาก

คาบเรียนกู่ฉินตอนบ่ายหมิงเวยไม่ได้เข้าเรียนนางกระโดดข้ามกำแพงที่เก่าแล้วเห็นจี้เสียวอู่นอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้

“ตื่นๆ!”

จี้เสียวอู่ถูกนางปลุกจนตื่นเขาแปลกใจ “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”

“ข้าไม่เข้าเรียนคาบบ่ายพวกเราไปกันเถอะ”

จี้เสียวอู่ลูบหัว “เจ้าไม่เข้าเรียนแล้วจะไปไหน หากกลับจวนท่านแม่ต้องตีข้าแน่”

“ตามหาคน”

“อะไรนะ” หมิงเวยอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังคร่าวๆ

จี้เสียวอู่ยกมือแตะคาง “ความเป็นไปได้ที่จะจมน้ำมีน้อยมากเพราะต้องเป็นคนที่อยู่ริมน้ำเท่านั้นถึงจะถูกเบียดจนจมน้ำได้เพื่อนของเจ้าออกมาจากจุ้ยเก๋อโหลวซึ่งห่างจากน้ำพอควร!”

“ข้าเองก็คิดเช่นนั้นเลยคิดที่จะไปตามหาคน”

“เจ้าจะหาอย่างไร” จี้เสียวอู่ส่ายหน้า “เมื่อคืนเกิดความโกลาหลเช่นนั้นมีความเป็นไปได้ว่าจะถูกคนจับตัวไป คนลักพาตัวเหล่านี้ล้วนมีองค์กรอยู่เบื้องหลัง โยกย้ายไปทั่ว เจ้าจะไปหาพวกเขาที่ไหน”

หมิงเวยตอบ “ข้าไม่ได้ถามความเห็นเจ้า แค่ถามเจ้าว่าต้องการไปด้วยหรือไม่ แต่อย่างไรข้าก็จะไปหากเจ้าไม่ไปด้วยก็นอนต่อไปเถิด”

“….” จี้เสียวอู่เบะปาก “หากข้าไม่กลับไปกับเจ้าท่านแม่ตีข้าแน่”

“ถ้าเช่นนั้นก็อย่าพูดไร้สาระ ไปกันเถอะ!” ทั้งสองคนปีนกำแพงออกจากสถานศึกษา จากนั้นก็เรียกตัวฝูแล้วไปที่สระฉางเล่อด้วยกัน

………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คู่ชะตาบันดาลรัก 191 พลัดหลง

Now you are reading คู่ชะตาบันดาลรัก Chapter 191 พลัดหลง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วันรุ่งขึ้นหมิงเวยยังเดินไปไม่ถึงห้องโถงใหญ่ก็ได้ยินเสียงก่นด่าของจี้ฮูหยิน “จี้เสียวอู่! เมื่อคืนเจ้าไปทำอะไรมากันแน่”

จี้เสียวอู่ไร้เรี่ยวแรง “ข้าไม่ได้ทำอะไร!”

“ไม่ได้ทำอะไรแล้วเหตุใดใต้ตาจึงดำขนาดนี้ อย่างกับคนเป็นโรค!”

หมิงเวยแปลกใจเมื่อคืนตอนที่พวกเขากลับมาถึงก็ถือว่าไม่ดึกเสียหน่อย

เมื่อเข้ามาในห้องโถงใหญ่ก็เห็นว่าท่าทางของจี้เสียวอู่นั้นดูอิดโรยบอกว่าเหมือนคนเป็นโรคนั้นคงเกินไป แต่ท่าทางไม่สดชื่นนั้นเป็นเรื่องจริง

“ท่านป้า พี่ห้า”

จี้เสียวอู่ขยี้ตามองนางด้วยสายตาที่ดูน่าสงสารยิ่ง “เมื่อคืนข้านอนไม่หลับ…”

“แล้วทำไมถึงนอนไม่หลับล่ะไม่ใช่ว่าเจ้าไปก่อเรื่องอะไรอีกนะ”

จี้เสียวอู่ตกอยู่ในภวังค์ “เพราะเรื่องเมื่อคืนน่าตกใจมาก…”

ลูกสะใภ้ใหญ่เดินเข้ามาจากด้านนอกก่อนถาม “เจ้ากลัวอสูรน้ำใช่หรือไม่ ได้ยินว่ามันเกือบจะกินคนด้วย”

จี้ฮูหยินได้สติ ก่อนคิดว่าบุตรชายของตนเห็นอสูรน้ำกินคนด้วยตาตนเองหากจะตกใจกลัวก็เป็นเรื่องปกติคิดได้เช่นนั้นก็ยิ่งรู้สึกเป็นทุกข์ “เป็นเช่นนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นเรามาต้มชาที่ทำให้หายตกใจกันดีกว่า”

แล้วนางก็นึกถึงหมิงเวย “เสี่ยวชีเองก็…” เมื่อหันศีรษะไปก็เห็นหมิงเวยนั่งดื่มน้ำอย่างสงบ

นางเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้ม “ตอนที่อสูรกินคนนั้นหลานรู้สึกร้อนจึงออกไปรับลมข้างนอกเลยไม่เห็นเจ้าค่ะ”

จี้ฮูหยินรู้สึกยินดี “ดีแล้วที่หลานไม่เห็นหากตกใจกลัวจนป่วยขึ้นมาจะทำอย่างไร” แล้วเงยหน้าตะโกน “แม่นมให้ป้าฟ่านไปต้มชาคลายความตกใจมาที”

จี้เสียวอู่กระตุกยิ้มมุมปาก

นางน่ะหรือจะตกใจกลัวหากไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะกลับไปอธิบายเรื่องเสื้อผ้าเปียกชื้นได้อย่างไรนางอาจลงน้ำด้วยตนเองก็เป็นได้

เขาคิดเรื่องนี้ทั้งคืนและไม่เข้าใจว่าเหตุใดลูกพี่ลูกน้องของเขาถึงกลายเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นนางตอนที่ยังเป็นเด็กเล็กๆ ตอนนั้นนางโง่จริงๆ ใครพูดอะไรก็ไม่เข้าใจหรือที่ตัวฝูพูดมาจะเป็นความจริง เรื่องที่เสวียนหนี่เหนียงเหนียงมารับวิญญาณของนางไปเพราะฉะนั้น…

“ไอหยา!” ขณะที่กำลังใช้ความคิดเขาก็ถูกจี้หลิงตีเข้าที่หัว

“เห็นเจ้าเป็นเช่นนี้แล้วไม่รู้ว่าตนเองมีน้องโง่หรือเปล่า ปกติเจ้าใจกล้าไม่ใช่หรือ เจอเรื่องเมื่อคืนก็ตกใจกลัวไปเสียได้ ดูอย่างน้องหญิงสิเจ้าไม่อายบ้างหรือ”

จูเอ๋อร์ที่เข้ามาพร้อมกับบิดายกมือเกาแก้มก่อนเอ่ย “ท่านอาอายๆ!”

“ฮิๆ!” จี้เสียวอู่ไม่อยากพูดอะไรอีก

ตัวฝูเดินเข้ามาพร้อมกล่องใส่แมงมุม “คุณหนู มาดูแมงมุมชักใยกันเถอะเจ้าค่ะ”

จูเอ๋อร์รีบวิ่งเข้าไปหา “ชักใย แมงมุมชักใย!”

สะใภ้ใหญ่แตะจมูกน้อยๆ ของบุตรสาว “แมงมุมมงคลของท่านน้าลูกจะรีบร้อยทำไมฮึ”

จูเอ๋อร์หัวเราะ “ท่านแม่ แมงมุมชักใยเยอะหรือไม่”

นางอุ้มบุตรสาวขึ้นให้มานั่งบนตักก่อนตอบ “แน่นอน! มือของท่านน้า…”

คำพูดสุดท้ายติดอยู่ในลำคอยังไม่ทันได้พูดออกมา

จูเอ๋อร์กะพริบตาก่อนถาม “ท่านแม่ แมงมุมล่ะ”

จี้เสียวอู่เหลือบไปมองแล้วหยิบซากแมงมุมขึ้นมาจากกล่อง “ว้าว น้องหญิงเก่งจริงๆ แมงมุมมอบความมงคลให้น้องแล้วตายไป”

หมิงเวยแย่งซากแมงมุมมาจากเขาอย่างรวดเร็วจากนั้นก็โยนเข้าปากที่ยังไม่ได้ปิดสนิทของอีกฝ่ายแล้วยึดคางเขาไว้ “มันทำให้ท่านหายตกใจพอดีเลย!”

จี้เสียวอู่ป้องกันตัวเองไม่ทันเลยเผลอกลืนมันลงไปใบหน้าของเขาเขียวคล้ำ เขายกมือข้างหนึ่งกุมคอตนเองอีกข้างชี้หน้าหมิงเวย “เจ้า นี่เจ้า…”

ตัวฝูกล่าวเสริม “คุณชายห้า แมงมุมไม่มีพิษท่านวางใจได้”

“หวา!” จี้เสียวอู่ทนไม่ไหววิ่งออกไปอ้วกใต้ต้นไม้ ตั้งแต่เช้าเขายังไม่ทานอะไรเลย จึงไม่มีอะไรให้อ้วกออกมา

มือเล็กๆ ของจูเอ๋อร์คว้าแขนเสื้อของมารดาและถามอย่างเป็นห่วง “ท่านแม่ แมงมุมกินได้หรือไม่”

“แน่นอนว่ากินไม่ได้” หมิงเวยกะพริบตาให้นางแล้วนำซากแมงมุมวางกลับเข้าไปในกล่อง “ก็แค่แกล้งท่านอาของเจ้าเล่น อย่าบอกเขาล่ะ”

นางแค่ยิงลมออกไปให้จี้เสียวอู่คิดว่าเขากลืนอะไรบางอย่างเข้าไป

สะใภ้ใหญ่ได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ที่แท้น้องหญิงก็เป็นคนร้ายกาจเช่นนี้

จู่ๆ งูขาวก็ค่อยๆ โผล่ออกมาจากแขนเสื้ออย่างระมัดระวัง “นายท่าน…”

หมิงเวยเหลือบมองมัน

“ข้า ข้าไม่ได้กินสิ่งมีชีวิตนานแล้วเมื่อคืนไม่ทันระวัง…” ก็ดูดแมงมุมจนแห้งตายไปแล้ว

……………

เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จผู้ที่ไปสอนก็เดินทางไปสอนผู้ที่ต้องเข้าเรียนก็เดินทางไปเข้าเรียน หมิงเวยเข้ามาในห้องเรียนและพบว่าบรรยากาศผิดปกติ

เด็กสาวคนหนึ่งเรียกนาง “หมิงเวย!”

เมื่อเห็นหมิงเวยเข้ามาเด็กสาวที่ไปสระฉางเล่อด้วยกันเมื่อคืนก็เข้ามาล้อมรอบนาง ต่างคนต่างแย่งกันพูด “เจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”

“ทำไมจู่ๆ เมื่อคืนหายตัวไปล่ะพวกเรากลัวแทบแย่”

“ใช่ แม้แต่พี่ชายของเจ้าก็ไม่เห็นพวกเราคิดว่าพวกเจ้าพลัดหลงไปอีกคนแล้ว!”

“อีกคนงั้นหรือ” หมิงเวยสะดุดใจกับคำพูดนั้น เด็กสาวหลายคนเงียบในเวลาเดียวกัน

“เกิดอะไรขึ้น” หมิงเวยถาม

นักเรียนหญิงที่ชื่อฟางจิ่นผิงตอบ “เจ้าไม่รู้หรือเมื่อวานจู่ๆ ก็มีอสูรน้ำปรากฏตัว เกิดความโกลาหลมากมีคนหายไปสองสามคน…”

“หายไป…” นางกวาดตามอง “เว่ยเสี่ยวอันล่ะ”

สีหน้าทุกคนเหมือนจะร้องไห้ “พวกเราหานางไม่เจอ” หมิงเวยใจสั่น

“ทำไมถึงไม่เจอล่ะ เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ”

ฟางจิ่นผิงสนิทกับเว่ยเสี่ยวอันนางตอบไปว่า “เมื่อคืนอสูรน้ำออกมาก่อกวน ที่สระฉางเล่อวุ่นวายมาก ตอนที่พวกเราออกมาก็ถูกเบียดจนแออัดแล้วเสี่ยวอันก็หายไป…คนตระกูลเว่ยตามหาอยู่นานแต่ก็ไม่พบไม่รู้ว่าถูกดึงลงไปในน้ำหรือไม่”

“ใช่ ได้ยินว่าเมื่อคืนมีคนจมน้ำและถูกเหยียบตายไปไม่น้อย”

“ได้ยินว่าเหวินหรูก็หายไปเหมือนกัน คนตระกูลเหวินกำลังตามหาอยู่ พวกเจ้าก็เห็นว่าวันนี้เหวินอิงก็ไม่มาเข้าเรียน”

หมิงเวยเลิกคิ้ว “เรื่องนี้รายงานกับทางการหรือยัง”

“แน่นอนว่ารายงานแล้ว” ฟางจิ่นผิงตอบ “ได้ยินว่าทางการกำลังตามหาศพที่ลอยน้ำ ข้ากลัวว่าเสี่ยวอันนาง…”

หมิงเวยกล่าวปลอบนาง “อย่ากังวลไปเลย มีคนมากมายกำลังตามหาอยู่จะต้องหานางเจอแน่” การเรียนในวันนี้สับสนมึนงงมาก

คาบเรียนกู่ฉินตอนบ่ายหมิงเวยไม่ได้เข้าเรียนนางกระโดดข้ามกำแพงที่เก่าแล้วเห็นจี้เสียวอู่นอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้

“ตื่นๆ!”

จี้เสียวอู่ถูกนางปลุกจนตื่นเขาแปลกใจ “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”

“ข้าไม่เข้าเรียนคาบบ่ายพวกเราไปกันเถอะ”

จี้เสียวอู่ลูบหัว “เจ้าไม่เข้าเรียนแล้วจะไปไหน หากกลับจวนท่านแม่ต้องตีข้าแน่”

“ตามหาคน”

“อะไรนะ” หมิงเวยอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังคร่าวๆ

จี้เสียวอู่ยกมือแตะคาง “ความเป็นไปได้ที่จะจมน้ำมีน้อยมากเพราะต้องเป็นคนที่อยู่ริมน้ำเท่านั้นถึงจะถูกเบียดจนจมน้ำได้เพื่อนของเจ้าออกมาจากจุ้ยเก๋อโหลวซึ่งห่างจากน้ำพอควร!”

“ข้าเองก็คิดเช่นนั้นเลยคิดที่จะไปตามหาคน”

“เจ้าจะหาอย่างไร” จี้เสียวอู่ส่ายหน้า “เมื่อคืนเกิดความโกลาหลเช่นนั้นมีความเป็นไปได้ว่าจะถูกคนจับตัวไป คนลักพาตัวเหล่านี้ล้วนมีองค์กรอยู่เบื้องหลัง โยกย้ายไปทั่ว เจ้าจะไปหาพวกเขาที่ไหน”

หมิงเวยตอบ “ข้าไม่ได้ถามความเห็นเจ้า แค่ถามเจ้าว่าต้องการไปด้วยหรือไม่ แต่อย่างไรข้าก็จะไปหากเจ้าไม่ไปด้วยก็นอนต่อไปเถิด”

“….” จี้เสียวอู่เบะปาก “หากข้าไม่กลับไปกับเจ้าท่านแม่ตีข้าแน่”

“ถ้าเช่นนั้นก็อย่าพูดไร้สาระ ไปกันเถอะ!” ทั้งสองคนปีนกำแพงออกจากสถานศึกษา จากนั้นก็เรียกตัวฝูแล้วไปที่สระฉางเล่อด้วยกัน

………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+