คู่ชะตาบันดาลรักบทที่ 448 ถ่ายทอดคำพูด

Now you are reading คู่ชะตาบันดาลรัก Chapter บทที่ 448 ถ่ายทอดคำพูด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เผย​กุ้ยเฟย​เพิ่ง​กลับ​มาถึงพระราชวัง​เชีย​น​ชิว​ไม่นาน​ก็​ได้ยิน​นางใน​ส่งข่าว​มาว่า​หลิว​กง​กง​มาถึงแล้ว​ นาง​เปลี่ยน​เสื้อผ้า​กลับ​และ​ออกมา​พบ​คน​ “หลิว​กง​กง​ ฝ่าบาท​มีรับสั่ง​อะไร​อีก​หรือไม่​”

หลิว​กง​กง​ทำความเคารพ​และ​ตอบ​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “เหนียง​เหนียง​สุภาพ​เช่นนี้​ เรียก​บ่าว​ว่า​เสี่ยว​สี่จื่อ​ก็ได้​พ่ะย่ะค่ะ​” เขา​ชะงัก​ และ​ตอบคำถาม​ก่อนหน้านี้​ “ไม่ใช่เรื่อง​ของ​ฝ่าบาท​ แต่​ท่าน​ทำ​ของ​ตก​ไว้​นี่​เป็น​จี้หยก​ของ​ท่าน​หรือไม่​พ่ะย่ะค่ะ​”

เมื่อ​เห็น​จี้หยก​ที่​หลิว​กง​กง​หยิบ​ออกมา​เผย​กุ้ยเฟย​กะพริบตา​แล้ว​ยิ้ม​ “โอ้​…เปิ่น​กง​ทำ​หล่น​จริงๆ​ ด้วย​ ช่วงนี้​มัวแต่​เป็นห่วง​ฝ่าบาท​เลย​ขี้หลงขี้ลืม​ไป​ ลำบาก​หลิว​กง​กง​แล้ว​ เจ้าเอง​ก็​เหมือนกัน​ให้​ใคร​สัก​คน​ส่งมาก็ได้​ไม่จำเป็นต้อง​วิ่ง​มาเอง​เลย​”

“บ่าว​กลัว​ว่า​เด็ก​พวก​นั้น​จะสะเพร่า​เลินเล่อ​ อีก​อย่าง​…นาน​มาก​แล้ว​ที่​ไม่ได้มา​ดื่ม​ชากับ​เหนียง​เหนียง​ที่นี่​จึงถือโอกาส​มาด้วย​ตนเอง​ บ่าว​คง​ไม่ได้​ทำให้​เหนียง​เหนียง​ลำบากใจ​นะ​พ่ะย่ะค่ะ​”

เผย​กุ้ยเฟย​เข้าใจ​เป็น​อย่าง​ดี​ “จะเป็น​เช่นนั้น​ได้​อย่างไร​ เปิ่น​กง​นอนไม่หลับ​อยู่​พอดี​ ใน​เมื่อ​เจ้ามาแล้ว​มาดู​ภาพวาด​ที่​เพิ่ง​วาด​เสร็จ​เมื่อวาน​ดี​หรือไม่​”

“พ่ะย่ะค่ะ​”

เผย​กุ้ยเฟย​สั่งนางใน​ให้​ไป​ชงชาส่วน​นาง​พา​หลิว​กง​กง​ไป​ที่​ตำหนัก​ห​ลิง​ติง​ด้วย​ตนเอง​

ทุกคน​ต่าง​ทราบ​ดี​ว่า​ห้อง​เขียน​ภาพ​ของ​เผย​กุ้ยเฟย​ไม่ได้รับอนุญาต​ให้​เข้าไป​ตามอำเภอใจ​ แต่​บรรพบุรุษ​ของ​หลิว​กง​กง​เป็น​ช่างปั้น​ ตัวหนังสือ​สัก​หนึ่ง​ตัว​ก็​ไม่รู้​ แต่​เขา​เชี่ยวชาญ​ใน​การ​เปลี่ยนสี​ ด้วยเหตุนี้​เขา​จึงได้รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​เผย​กุ้ยเฟย​ บ่อยครั้ง​ที่​เผย​กุ้ยเฟย​เชิญให้​มาชื่นชม​ภาพวาด​ นั่น​ทำให้​ผู้อื่น​อด​รู้สึก​อิจฉา​ไม่ได้​

น้ำชา​และ​ของว่าง​ถูก​นำมา​ส่งนางใน​ทำความเคารพ​และ​เดิน​ออก​ไป​ ภายใน​ห้อง​เขียน​ภาพ​จึงเหลือ​เพียง​พวกเขา​สอง​คน​ ภาพวาด​ของ​เผย​กุ้ยเฟย​ยัง​คงอยู่​บน​โต๊ะ​ และ​ทั้งสอง​ก็​เริ่ม​พูดคุย​กัน​

พวกเขา​ชื่นชม​ภาพวาด​ก่อน​จากนั้น​หลิว​กง​กง​ถึงลด​เสียง​ลง​เขา​ขยับ​ปากเบา​ๆ “ใน​ตอนที่​ท่าน​มาถึงองครักษ์​เงาอยู่​ใน​ท้องพระโรง​แล้ว​”

เผย​กุ้ยเฟย​ตอบกลับ​เสียง​เบา​เช่นกัน​ “เพราะ​เรื่อง​นั้น​หรือ​”

“พ่ะย่ะค่ะ​ จากนั้น​เขา​ก็​ไป​ที่ทำการ​ เรียก​ค้างคาว​ราตรี​สอง​สามนาย​”

เผย​กุ้ยเฟย​ตก​ใจมือ​ของ​นาง​ที่​ถือ​กระดาษ​วาดรูป​สั่น​เล็กน้อย​

สอง​ปี​ก่อนที่​หยาง​ชูจากไป​ หลิว​กง​กง​ได้​เข้าไป​แทนที่​เขา​ใน​หวง​เฉิงซือ​ที่​เป็น​หู​ตา​ของ​ฮ่องเต้​ ว่าน​ต้า​เป่า​อาจ​ไม่ทราบ​ว่า​ฮ่องเต้​เรียก​สั่งการ​ลับ​ แต่​หลิว​กง​กง​ทราบ​เป็น​อย่าง​ดี​

สายลับ​ของ​หวง​เฉิงซือ​ได้​ซ่อน​นก​อินทรี​ไว้​ใน​กองทัพ​มีหน้าที่​รับผิดชอบ​ด้าน​ข่าวกรอง​ภายนอก​ แต่​ค้างคาว​ราตรี​มีหน้าที่​ลอบสังหาร​โดยเฉพาะ​

หาก​มีการ​ส่งค้างคาว​ราตรี​ออก​ไป​หมายความว่า​ฮ่องเต้​ต้อง​การสังหาร​คน​

“พวกเขา​ไป​ซีเป่ย​หรือ​”

“ไม่ใช่ก็​ใกล้เคียง​พ่ะย่ะค่ะ​” หลิว​กง​กง​พูด​เบา​ๆ “เหนียง​เหนียง​ ท่าน​ต้อง​เตรียมตัว​แล้ว​พ่ะย่ะค่ะ​”

เผย​กุ้ยเฟย​พยายาม​ตั้งสติ​ “เข้าใจ​แล้ว​” แล้ว​โค้ง​คำนับ​ให้​เขา​ “ขอบคุณ​มาก​จริงๆ​”

หลิว​กง​กง​ตอบ​ “ข้า​มีชีวิต​ได้​ทุกวันนี้​ ต้อง​ขอบคุณ​ความเมตตา​ของ​เหนียง​เหนียง​ใน​ปี​นั้น​”

ทั้งสอง​พูดคุย​กัน​ต่อ​อีก​ไม่กี่​คำ​หลิว​กง​กง​ก็​ขอตัว​ลา​ เผย​กุ้ยเฟย​ดู​ไม่มีท่าที​แปลก​ไป​สัก​นิดเดียว​นาง​กลับ​ไป​ชำระ​กาย​แล้ว​พักผ่อน​

วัน​ต่อมา​นาง​กลับ​รู้สึก​ปวดหัว​จึงเรียก​หมอ​หลวง​มาตรวจ​ชีพจร​ แต่​ก็​ไม่พบ​ความผิดปกติ​ใดๆ​ ฮ่องเต้​อยู่​เป็นเพื่อน​อยู่​ครึ่ง​วัน​จึงพูดว่า​ “เรียก​ราชครู​มาพบ​ เจิ้น​เอง​ก็​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เช่นเดียวกัน​”

ตอนบ่าย​ ราชครู​เสวียน​เฟย​เดิน​ทางเข้า​วัง​

…………

ฟู่จิน​เดินโซเซ​ไป​ที่​วาง​จี้เพื่อ​ทาน​หัวหมู​ เขา​เป็น​ลูกค้าประจำ​เฒ่าแก่​จึงกล่าว​ทักทาย​ “เอา​เหมือนเดิม​ใช่หรือไม่​”

ฟู่จิน​หัวเราะ​ “เอา​เหมือนเดิม​”

เขา​มีชื่อเสียง​ใน​เมืองหลวง​มาสอง​ปี​แล้ว​ เฒ่าแก่​เอง​ก็​จำเขา​ได้​จึงหั่น​หมู​ให้​บาง​เป็นพิเศษ​

ฟู่จิน​นั่ง​อยู่​ใน​ที่นั่ง​ประจำ​ใน​ร้านอาหาร​ จิบ​สุรา​ทาน​เนื้อ​พลาง​มอง​ไป​ยัง​คนเดินถนน​และ​ทิวทัศน์​ด้านล่าง​ ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ก็​มีเสียง​ไพเราะ​ดัง​ขึ้น​จาก​ด้านล่าง​ “สุรา​หนึ่ง​จอก​ เนื้อ​หั่น​ตามใจชอบ​”

จากนั้น​ก็​มีเสียง​คน​เดิน​ขึ้น​บันได​ เป็น​เสวียน​เฟย​ที่อยู่​ใน​ชุด​ธรรมดา​ วาง​จี้เป็น​ร้าน​เล็ก​ๆ ที่นั่ง​ส่วนตัว​ถูก​กั้น​ด้วย​ดอกไม้​ต่างๆ​ เขา​นั่งลง​ที่นั่ง​ด้าน​ข้าง​โดยที่​สายตา​มอง​ไป​ยัง​เบื้องหน้า​อีก​ทั้ง​ยัง​นั่ง​หันหลัง​ให้​ฟู่จิน​ มีเพียง​ม่าน​ไม้ไผ่​กั้น​แยก​ระหว่าง​กัน​

ฟู่จิน​ได้ยิน​เสียง​ ‘ติง​’ ดัง​ขึ้น​แผ่วเบา​เสียง​อึกทึก​บน​ท้องถนน​ก็​หาย​ไป​

เขา​ถอนหายใจ​เล็กน้อย​อย่าง​ช่วยไม่ได้​ “ข้า​แค่​มานั่ง​กิน​เนื้อ​สบาย​ๆ ท่าน​มาทำไม​ เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​ พูด​มาได้​เลย​!”

“เรื่อง​ค่อนข้าง​ยุ่งยาก​” เสียง​ของ​เสวียน​เฟย​ลอย​มา “วันนี้​กุ้ยเฟย​เรียก​ข้า​เข้า​วัง​ว่า​เรื่อง​นั้น​ต้อง​มีการเปลี่ยนแปลง​”

“อ้อ​” เสียง​ของ​ฟู่จิน​เคร่งขรึม​

กุ้ยเฟย​ตระหนักถึง​ความสำคัญ​มาโดยตลอด​ไม่ง่าย​เลย​ที่จะ​ติดต่อกัน​ทั้ง​ภายใน​และ​ภายนอก​ หาก​ไม่ใช่เรื่องสำคัญ​นาง​จะไม่ต้อง​เสี่ยง​ที่จะ​พบ​เสวียน​เฟย​

“เช้าตรู่​วันนี้​ ฝ่าบาท​ทรง​ระงับ​เรื่อง​นั้น​และ​ตำหนิ​ผู้ตรวจการ​”

“อ่อ”​ เรื่อง​ใน​ท้องพระโรง​ไม่สามารถ​ปกปิด​ฟู่จิน​ได้​ไท่จื่อ​กลับ​ไป​ก็​บ่น​กับ​เขา​อยู่​นาน​ คิด​ว่า​ฝ่าบาท​ลำเอียง​เข้าข้าง​หยาง​ชู แม้แต่​ข่าวลือ​ดังกล่าว​ก็​ไม่เอาเรื่อง​

“เมื่อคืน​วาน​ หน่วย​ลับ​ค้างคาว​ราตรี​ของ​หวง​เฉิงซือ​เคลื่อนไหว​มีความเป็นไปได้​สูงที่จะ​ไป​ซีเป่ย”​

ฟู่จิน​ตกใจ​จน​ลืม​ดื่ม​แม้กระทั่ง​สุรา​ “เรื่องจริง​หรือ​”

“น่าจะ​ไม่มีอะไร​ผิดพลาด​”

ฟู่จิน​พยักหน้า​ “ข้า​เข้าใจ​แล้ว​” ไม่มีเสียง​มาจาก​โต๊ะ​ข้างๆ​ อีกต่อไป​ และ​ในไม่ช้า​เขา​ก็​ได้ยิน​เสียง​จาก​ถนน​อีกครั้ง​

เสวียน​เฟย​นั่ง​ต่อ​อีก​สักพัก​ก็​จากไป​ ฟู่จิน​นั่ง​อยู่​ตรงนั้น​จนถึง​เวลา​ตลาด​กลางคืน​ถึงได้​ห่อ​หมู​ตุ๋น​กลับ​ไป​

เขา​เดิน​เลี้ยว​ไป​เลี้ยว​มาใน​ตรอก​จน​ในที่สุด​ก็​เข้าไป​ใน​จวน​หลู่​เซียง​ หลู่​เฉียน​เห็น​เขา​อีกครั้ง​ก็​โมโห​จน​แทบ​อยาก​จะเอา​เอกสารราชการ​ทุบ​เขา​ให้​ตาย​

“ท่าน​มาทำ​อะไร​อีก​ ครั้งก่อน​ข้า​พูด​ชัดเจน​แล้ว​ เรื่อง​นี้​น่ากลัว​เกินไป​ทุกคน​จึงไม่ถือสา​ เรื่อง​ที่​ยัง​ไม่จบ​แต่​มัน​จบ​ลง​แล้ว​ หาก​ท่าน​ยิ่ง​ใส่ใจยิ่ง​เกิดเรื่อง​!”

ฟู่จิน​ไม่ได้​เถียง​สัก​คำ​ แต่​คุกเข่า​ลง​เสียงดัง​ ‘ตุบ​’ ด้วย​สีหน้าเศร้า​ “ผู้อาวุโส​ คราวนี้​ข้า​ขอความช่วยเหลือ​จาก​ท่าน​จริงๆ​!”

ทุกครั้ง​ที่มา​เยี่ยม​เขา​ทำตัว​ไม่ได้ความ​มาตลอด​ จู่ๆ มีท่าที​เช่นนี้​ทำให้​หลู่​เฉียน​ตกตะลึง​

“ทำ​อะไร​ ท่าน​ทำ​อะไร​”

…………

หยาง​ชูรู้สึก​พอ​อก​พอใจ​กว่า​จะออกจาก​ห้อง​ก็​บ่าย​เข้าไป​แล้ว​

หนิง​ซิว​ยุ่ง​อยู่​กับ​แพทย์​ทหาร​ตั้ง​แต่เช้า​ เมื่อ​กลับมา​ก็​เห็น​เขา​นั่ง​อยู่​ที่นั่น​ และ​ดื่ม​ชาด้วย​สีหน้า​สบายอารมณ์​

จู่ๆ ก็​รู้สึก​อยาก​ฆ่าคน​ขึ้น​มาทำ​อย่างไร​ดี​ หาก​ไม่ต้องการ​ศิษย์​น้อง​ผู้​นี้​แล้ว​ ท่าน​อาจารย์​จะให้อภัย​เขา​หรือไม่​ ความคิด​นี้​ไหล​เข้ามา​ใน​หัว​อยู่​หลาย​รอบ​ หนิง​ซิว​กด​ความรู้สึก​อยาก​ก่อการร้าย​กลับ​เข้าไป​ด้วย​สีหน้า​ไร้อารมณ์​

“โอ้​ ศิษย์​พี่​อรุณสวัสดิ์​!”

หนิง​ซิว​มอง​พระอาทิตย์​ขึ้น​ “อรุณสวัสดิ์​งั้น​หรือ​”

หยาง​ชูหัวเราะ​แล้ว​กวักมือ​เรียก​ “ศิษย์​พี่​ท่าน​มาพอดี​เลย​ข้า​ได้รับ​ของแปลก​ๆ จาก​หู​เห​ริน​ กำลัง​คิด​จะมอบให้​ท่าน​ ดู​สินี่​เป็น​ยา​ลับ​ของ​หู​เซิงว่า​กัน​ว่า​หลังจาก​กิน​เข้าไป​แล้ว​สามารถ​หลอม​กระดูก​ได้​ ข้า​ยัง​ทำ​ใบสั่งยา​ไว้​ด้วย​

ส่วน​อันนี้​เหมือน​จะเป็น​เครื่องหมาย​กำหนด​เสียงดนตรี​ของ​ตำหนัก​เทียน​อิน​ ได้ยิน​มาว่า​เป็น​สำนัก​จาก​ดินแดน​ตะวันตก​ที่​เชี่ยวชาญ​ใน​เรื่อง​คลื่นเสียง​ ท่าน​ลองดู​ว่า​มีประโยชน์​หรือไม่​ แล้วก็​ดูเหมือน​กระบี่​ของ​ข้า​จะไม่ค่อย​เท่าไร​ ข้า​ได้​แร่​เหล็ก​ชิ้น​ใหญ่​มาว่า​จะหา​เวลา​ทำ​กระบี่​เล่ม​ใหม่​…” หนิง​ซิว​ถอนหายใจ​

ท่าน​อาจารย์​ ศิษย์​คน​เล็ก​ของ​ท่าน​รักษา​ชีวิต​ไว้​ได้​

หลังจาก​ฟังที่มา​อัน​ยืดยาว​หนิง​ซิว​ก็​เก็บ​สิ่งของ​ต่างๆ​ เข้าไป​แล้ว​ถามว่า​ “เจ้ากลับมา​ครั้งนี้​ต้อง​ออก​ไป​อีก​หรือไม่​ ฤดูหนาว​เหลือ​อีกไม่นาน​แล้ว​”

หยาง​ชูตอบ​ “เหลือ​อีก​อย่าง​น้อย​สอง​เดือน​” เขา​ชะงัก​ไป​พัก​หนึ่ง​แล้ว​ยิ้ม​ให้​อีก​ฝ่าย​ “ศิษย์​พี่​ ออกเดินทาง​ครั้งหน้า​อาจ​ต้องการ​ความช่วยเหลือ​ท่าน​จะไป​กับ​ข้า​หรือไม่​”

หนิง​ซิว​ “….”

เขา​รู้​แล้ว​ว่า​ไม่ควร​รับ​สิ่งของ​จาก​ผู้ใด​ง่าย​เช่นนั้น​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด