บัลลังก์หมอยาเซียน 1094 อยากให้ฮูหยินเหยาลองเสี่ยง

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 1094 อยากให้ฮูหยินเหยาลองเสี่ยง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อะซี่จ้องมองตามเงาแผ่นหลังของนางอย่างเย็นชา แทบจะอดใจไม่ไหว อยากจะเข้าไปลากตัวนางมาทุบตีโหด ๆ สักยก แล้วเค้นถามนางถึงร่องรอยของใต้เท้าทัง

แต่เมื่อคิดถึงคำตักเตือนของพี่หยวน นางก็ทำได้แค่จ้องมองอีกฝ่ายหมุนตัวเดินเข้าบ้านไปตาปริบ ๆ เท่านั้น

อะซี่นั่งลงพลางคิดเกี่ยวกับสิ่งที่นางพูดเมื่อครู่ แม้ว่านางจะบอกฮูหยินทังว่าตัวเองเชื่อใจฮูหยินเหยาโดยไม่คิดสงสัย แต่ในใจลึก ๆ กลับมีความเคลือบแคลง เพราะก่อนหน้านี้ฮูหยินเหยาก็เคยเป็นปฏิปักษ์กับพี่หยวนมาก่อน ในเวลานี้ผู้คนที่อยู่ข้างกาย คนไหนคือคน คนไหนคือผี นางแยกไม่ออกแล้วจริง ๆ อย่างไรก็ควรระวังไว้ให้มากที่สุดถึงจะดี

นางมอบหมายให้คนจับตามองฮูหยินทังต่อ แล้วไปหาหรงเยว่ที่จวนอ๋องหวย นางไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้พี่หยวนฟังมาก่อน เพราะพี่หยวนเชื่อใจฮูหยินเหยาโดยไม่คิดสงสัยเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ไม่มีวันเชื่อคำพูดของฮูหยินทังแน่

แต่หรงเยว่เป็นคนของสำนักเหลิ่งหลัง คุ้นเคยกับการได้เห็นความซับซ้อนมากเล่ห์ในใจคน บางทีนางอาจแยกแยะความจริงจากความเท็จได้

หรงเยว่กำลังใช้โกฐจุฬาลัมพาอุ่นท้องอยู่ในจวน หลังจากฟังคำพูดของอะซี่ นางก็ขมวดคิ้วขึ้นช้า ๆ ” ตอนนี้เราอย่าเพิ่งสนใจว่าฮูหยินเหยาจะน่าสงสัยหรือไม่ก่อน แต่ฮูหยินทังต้องกำลังจับตามองฮูหยินเหยาอยู่แน่ ๆ”

“ทำไมเจ้าถึงพูดอย่างนี้ล่ะ?” อะซี่เป็นคนที่มีความคิดเรียบง่าย นางคิดไม่ถึงว่าหรงเยว่จะพูดอะไรที่มันซับซ้อนขึ้นไปถึงขั้นนี้

“ทำไมอยู่ ๆ นางก็พูดถึงฮูหยินเหยาโดยไม่มีเหตุผลล่ะ? เรื่องพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฮูหยินเหยาเลยสักนิด อีกทั้งฮูหยินเหยาก็ถอนตัวออกจากจวนอ๋องจี้ไปตั้งนานแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางอีก การที่จู่ ๆ นางก็พูดถึงคนที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องโดยเจตนา นั่นหมายความว่านางต้องมีแผนการบางอย่างแน่”

“ขอฟังรายละเอียดมากกว่านี้ได้หรือไม่!” อะซี่รีบนั่งลงเป็นพัลวัน

หรงเยว่เอากระเป๋าที่ห่อโกฐจุฬาลัมพาออก แล้วใช้มือตัวเองลูบที่ท้องช้า ๆ แล้วพูดว่า “คาดว่านางคงมีสองเป้าหมาย ถ้าไม่คิดจะทำให้ฮูหยินเหยากับพระชายารัชทายาทเกิดขุ่นเคืองใจกัน ก็ต้องมีเป้าหมายให้ฮูหยินเหยามาทะเลาะโต้เถียงกับนาง นางลงมือกับฮูหยินเหยา แต่ไม่ฆ่าฮูหยินเหยา นั่นเป็นเพราะว่าการฆ่าฮูหยินเหยาไม่มีประโยชน์อะไรกับนางแม้แต่น้อย

เป็นไปได้ว่านางอาจมีความคิดที่จะจับตัวฮูหยินเหยา เพื่อให้ตัวเองมีตัวประกันเป็นยันต์คุ้มกายมากขึ้นอีกชั้น การทำแบบนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่าบางทีใต้เท้าทังอาจกำลังตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นนางจึงต้องจับตัวคนที่สามารถทำให้รัชทายาท กับพระชายารัชทายาทเคลื่อนไหวได้ อีกทั้งคนคนนั้นต้องไม่รู้วรยุทธ์ เจ้าลองคิดดูดี ๆ สิว่า ในหมู่มวลคนมากมายในจวนอ๋องฉู่ ไม่ใช่ว่าฮูหยินเหยาเป็นคนที่ลงมือได้ง่ายที่สุดแล้วหรอกรึ? ”

อะซี่เริ่มไม่เข้าใจขึ้นมาอีกแล้ว “เจ้าบอกว่าเป้าหมายแรกของนางคือต้องการแยกตัวฮูหยินเหยาออกมาให้อยู่ลำพัง เพราะอะไรล่ะ? การแยกฮูหยินเหยาออกมาจะมีประโยชน์อะไรกับนางรึ?”

หรงเยว่กลอกตามองบนใส่นาง “ยัยเด็กโง่คนนี้นี่หนอ ทำไมเจ้าช่างไม่รู้วิธีเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ ก่อนหลังเอาเสียเลยนะ? ตอนที่ฮูหยินเหยายังเป็นพระชายาจี้อยู่ นางกุมความลับมากมายของพวกขุนนางไว้ในมือ ตอนนี้นางไม่ได้ใช้คนเหล่านี้ แต่ถ้านางต้องการจะใช้จริง ๆ คนเหล่านี้จะไม่ฟังนางหรือ? เมื่อไหร่ที่ฮูหยินเหยามีเรื่องเคืองใจกับพระชายารัชทายาท จนแยกนางออกไปตามลำพัง ฮูหยินเหยาย่อมเกิดความโกรธแค้น ที่นี้พวกนางก็จะมีโอกาสแล้วไม่ใช่รึ? ”

อะซี่สูดลมหายใจเฮือก “จิตใจชั่วร้ายนัก!”

“ นี่ไม่นับว่าชั่วร้ายอะไรนักหรอกนะ แต่เป็นแผนการที่ดีที่สุดต่างหาก สิ่งที่เรากำลังเล่นอยู่ตอนนี้คือการวางแผนสู้กัน ถ้าฮูหยินเหยารู้วรยุทธ์ เราก็สามารถใช้กลยุทธ์แผนซ้อนแผนเพื่อสืบหาที่อยู่ของใต้เท้าทังได้ แต่ในเมื่อนางไม่รู้วรยุทธ์ ดังนั้นจึงใช้แผนนี้ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป” หรงเยว่อธิบาย

หลังจากพูดจบ คิ้วของนางก็ขมวดมุ่นขึ้นอีกครั้ง “กลัวก็แต่ว่า ใต้เท้าทังจะกำลังตกอยู่ในอันตราย ไม่อย่างนั้น  ก็เพียงพอที่จะใช้เป็นโล่กำบังเพื่อล่าถอยไปได้แล้ว”

“เจ้าว่าทำไมนางถึงไม่หนีไปล่ะ? ในเมื่อตอนนี้นางมีใต้เท้าทังอยู่ในกำมือ ต่อให้นางหนีไป พวกเราก็ไม่กล้าทำอะไรรุนแรงกับนางอยู่แล้ว”

“ไม่มีที่ไหนที่จะไปได้ เมื่อไหร่ที่นางหนีไปก็จำเป็นต้องหาที่กบดาน ในทางตรงกันข้าม มันอาจจะเป็นการเปิดเผยตัวตนคนของนางก็ได้ หรือไม่การที่ได้อยู่ใกล้ ๆ จวนอ๋องฉู่คงมีประโยชน์กับนาง ทำให้รู้เรื่องราวภายในจวนอ๋องฉู่ได้ตลอดเวลา”

อะซี่นับว่าเข้าใจมากขึ้นแล้ว แต่พอได้ยินว่าใต้เท้าทังอาจตกอยู่ในอันตราย นางก็กังวลใจมาก “แล้วจะทำอย่างไรกันดีล่ะ?น่ะรึ?”

“ ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีหนทางหรอก ถ้าฮูหยินเหยาจงใจให้นางจับตัวไป พวกเราก็สามารถสะกดรอยตามไปได้ แต่เรื่องนี้จะบอกให้พระชายารัชทายาทรู้ไม่ได้…..” หรงเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ลืมมันไปเสียเถอะ เรื่องนี้เราอย่าทำอย่างนี้เลยดีกว่า หลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจจะเกิดกับฮูหยินเหยา”

อะซี่พูดว่า: “ทำไมไม่ลองถามฮูหยินเหยาดูก่อนล่ะ? อย่างไรเสียพวกเราก็จะแอบส่งคนตามไปด้วยอยู่แล้ว ไม่น่าต้องกลัวอะไรหรอก”

หรงเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เจ้าลองไปถามเถอะ ถ้านางตกลง ข้ายินดีเป็นคนลงสนามนี้ด้วยตัวเอง อีกทั้งนางไม่เคยทำอะไรที่มันโดดเด่น แต่เมื่อไหร่ที่ลงมือทำขึ้นมาจริง ๆ ย่อมสร้างผลลัพธ์ที่ดีจนคนของเราตามไปได้อย่างแน่นอน”

อะซี่รีบกลับจวนไปหาฮูหยินเหยาทันที นางรู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่อาจให้พี่หยวนรู้ได้ พี่หยวนต้องไม่ยอมแน่ฮูหยินเหยาไม่รู้วรยุทธ์ พี่หยวนย่อมไม่ปล่อยให้นางไปเสี่ยงเด็ดขาด

อะซี่เล่าว่าฮูหยินทังพูดถึงฮูหยินเหยาว่าอย่างไรบ้าง เมื่อฮูหยินเหยาลองคิดดูดี ๆ นางก็เข้าใจความหมายของฮูหยินทัง แล้วก็เข้าใจความหมายของอะซี่ด้วยเช่นกัน

“เจ้าอยากให้ข้าจงใจยอมให้นางจับไปอย่างนั้นสินะ?” ฮูหยินเหยาถาม

“ ขึ้นอยู่กับความเต็มใจของเจ้า ถ้าเจ้ายินดีช่วย พระชายาหวยก็เอ่ยปากเองเลยว่าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องเจ้า” อะซี่ตอบ

ฮูหยินเหยารู้สึกลำบากใจเล็กน้อย นางรู้ว่าเรื่องนี้มันอันตรายมาก นางไม่ได้รักตัวกลัวตายขนาดนั้น แต่ต้องดูก่อนว่าคนที่นางต้องช่วยชีวิตเป็นใคร นางไม่ได้มีมิตรภาพที่เหนียวแน่นลึกซึ้งอะไรกับทังหยางมากมายนัก

อะซี่มองสีหน้านาง แล้วพูดให้กำลังใจว่า: “เจ้าไม่ต้องกังวลนักหรอก พระชายาหวยบอกว่าอีกฝ่ายจะไม่ทำอะไรกระโตกกระตากแน่ เพราะทันทีที่ฝ่ายนั้นเคลื่อนไหว ทางเราจะต้องตามทันได้แน่นอน หรือบางที อาจจะตามรอยจนถึงค่ายที่เป็นฐานที่มั่นของพวกนั้นได้เลยด้วย”

คำพูดประโยคสุดท้ายนี้ ทำให้ฮูหยินเหยารู้สึกใจเต้นระทึกขึ้นมาเล็กน้อย

ตอนนี้ทุกอย่างล้วนชะงักงันอยู่ที่นี่ ไม่สามารถเคลื่อนไหวอะไรได้ ทั้งยังรู้เรื่องของอีกฝ่ายน้อยมาก ๆ เมื่อดูจากสถานการณ์โดยรวมแล้ว นางก็ควรจะไปจริง ๆ นั่นล่ะ นางครุ่นคิดอย่างรอบคอบ ก็รู้ว่านี่อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการเอาชีวิตนางไปเดิมพันเพื่อแลกกับผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอน คนเราล้วนมีความเห็นแก่ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้านั่นเป็นชีวิตของพวกเขาเอง

“เป็นพระชายารัชทายาทบอกให้เจ้ามาหรือ?” ฮูหยินเหยาถามอะซี่

อะซี่ส่ายหน้า “ไม่ใช่ ทั้งเรื่องที่ฮูหยินทังกับหรงเยว่พูดมา ข้าล้วนไม่กล้าบอกนางสักเรื่อง นางไม่มีทางเห็นด้วยที่จะให้เจ้าไปเสี่ยงแน่”

ฮูหยินเหยานางนิ่ง ๆ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า: “เจ้ายังไม่เคยบอกนางเลย จะรู้ได้อย่างไรว่านางจะไม่เห็นด้วย? ในใจนางทังหยางมีความสำคัญมาก เพราะทังหยางเป็นคนที่สามารถช่วยงานเจ้าห้าได้”

อะซี่ถึงกับตะลึง “เขาช่วยงานรัชทายาทได้ แต่เรื่องบางอย่างก็ไม่ได้วัดกันแค่ตรงนี้หรอกกระมัง? ข้ารู้สึกอยู่ตลอดเวลาเลยว่า พี่หยวนจะไม่มีทางเห็นด้วยอย่างแน่นอน”

“เจ้าเรียกนางมาเถอะ ข้าจะถามเอง” ฮูหยินเหยาพูด

อะซี่ส่ายหน้า “ลืมไปเสียเถอะ ไม่พูดแล้วดีกว่า ถ้าเจ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปหรอก ความหมายของพระชายาหวยคือต้องให้เจ้าเต็มใจที่จะทำถึงจะทำได้ ถ้าเจ้าไม่เต็มใจ เช่นนั้นก็ทำเหมือนว่าข้าไม่เคยพูดเรื่องนี้ก็แล้วกัน”

ฮูหยินเหยากลับผลักนางแรง ๆ ไปทีหนึ่ง “ไปเรียกหยวนชิงหลิงมาก่อน แล้วข้าจะถามนางเอง”

อะซี่ไม่ทันตั้งตัว จู่ ๆ ก็มาผลักนางแบบนี้ จึงซวนเซจนเกือบจะล้มลง นางพูดอย่างเริ่มจะขุ่นเคืองว่า “เราก็ไม่ได้ฝืนบังคับให้เจ้าไปเสียหน่อย แค่มาถามความคิดเห็นเจ้าเฉย ๆ เจ้าจะพาลอารมณ์เสียทำไมไม่ทราบ? ถ้าเป็นเจ้าเกิดเรื่องขึ้นบ้าง ข้าเชื่อเลยว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ ต่างก็ต้องเต็มใจที่จะเสี่ยงเพื่อเจ้า!”

ฮูหยินเหยาเห็นว่านางโกรธ ก็รู้ว่าตัวเองออกอาการมากเกินไปหน่อย จึงพูดเบา ๆ ว่า “ข้าขอโทษนะ อะซี่ ข้าไม่ใช่ว่าไม่เต็มใจ กลับกัน ข้าเต็มใจไป แต่คำพูดนี้ของข้าเจ้าอย่าได้ฟังไม่เข้าหู คนเราทุกคนมีความเห็นแก่ตัว ตัวข้ามีลูกสาวสองคน ข้าไม่อาจปล่อยวางได้จริง ๆ”

อะซี่มึนงงสับสนไปหมดแล้ว “แล้วสรุปว่าเจ้ายินดีหรือไม่ยินดีที่จะไปกันแน่ล่ะนี่?”

ฮูหยินเหยาถอนหายใจเฮือก “เจ้าให้นางมาที่นี่ก่อนเถอะ ข้าต้องโน้มน้าวใจตัวเองให้ไปด้วยความเต็มใจเสียก่อน หากข้าต้องสละชีวิตตัวเองเพื่อใครสักคน คน ๆ นั้นต้องเป็นคนที่ข้าคิดว่าคุ้มค่าที่จะทำให้ ให้นางมาบอกกับข้าเองว่า ไม่เห็นด้วยที่จะให้ข้าไป ข้าก็จะไปด้วยความยินดีอย่างที่สุด เพราะอย่างน้อยก็ยังมีใครสักคนที่ห่วงใยชีวิตของข้า ใส่ใจในความเป็นความตายของข้า ตัวข้าถึงจะสามารถโน้มน้าวจิตใจตัวเองได้”

อะซี่ได้ยินแล้วก็เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ แต่ก็ช่างเถอะ จะไปหรือไม่ล้วนเป็นสิทธิ์ของนาง ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่อาจไปบังคับฝืนใจกันได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บัลลังก์หมอยาเซียน 1094 อยากให้ฮูหยินเหยาลองเสี่ยง

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 1094 อยากให้ฮูหยินเหยาลองเสี่ยง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อะซี่จ้องมองตามเงาแผ่นหลังของนางอย่างเย็นชา แทบจะอดใจไม่ไหว อยากจะเข้าไปลากตัวนางมาทุบตีโหด ๆ สักยก แล้วเค้นถามนางถึงร่องรอยของใต้เท้าทัง

แต่เมื่อคิดถึงคำตักเตือนของพี่หยวน นางก็ทำได้แค่จ้องมองอีกฝ่ายหมุนตัวเดินเข้าบ้านไปตาปริบ ๆ เท่านั้น

อะซี่นั่งลงพลางคิดเกี่ยวกับสิ่งที่นางพูดเมื่อครู่ แม้ว่านางจะบอกฮูหยินทังว่าตัวเองเชื่อใจฮูหยินเหยาโดยไม่คิดสงสัย แต่ในใจลึก ๆ กลับมีความเคลือบแคลง เพราะก่อนหน้านี้ฮูหยินเหยาก็เคยเป็นปฏิปักษ์กับพี่หยวนมาก่อน ในเวลานี้ผู้คนที่อยู่ข้างกาย คนไหนคือคน คนไหนคือผี นางแยกไม่ออกแล้วจริง ๆ อย่างไรก็ควรระวังไว้ให้มากที่สุดถึงจะดี

นางมอบหมายให้คนจับตามองฮูหยินทังต่อ แล้วไปหาหรงเยว่ที่จวนอ๋องหวย นางไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้พี่หยวนฟังมาก่อน เพราะพี่หยวนเชื่อใจฮูหยินเหยาโดยไม่คิดสงสัยเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ไม่มีวันเชื่อคำพูดของฮูหยินทังแน่

แต่หรงเยว่เป็นคนของสำนักเหลิ่งหลัง คุ้นเคยกับการได้เห็นความซับซ้อนมากเล่ห์ในใจคน บางทีนางอาจแยกแยะความจริงจากความเท็จได้

หรงเยว่กำลังใช้โกฐจุฬาลัมพาอุ่นท้องอยู่ในจวน หลังจากฟังคำพูดของอะซี่ นางก็ขมวดคิ้วขึ้นช้า ๆ ” ตอนนี้เราอย่าเพิ่งสนใจว่าฮูหยินเหยาจะน่าสงสัยหรือไม่ก่อน แต่ฮูหยินทังต้องกำลังจับตามองฮูหยินเหยาอยู่แน่ ๆ”

“ทำไมเจ้าถึงพูดอย่างนี้ล่ะ?” อะซี่เป็นคนที่มีความคิดเรียบง่าย นางคิดไม่ถึงว่าหรงเยว่จะพูดอะไรที่มันซับซ้อนขึ้นไปถึงขั้นนี้

“ทำไมอยู่ ๆ นางก็พูดถึงฮูหยินเหยาโดยไม่มีเหตุผลล่ะ? เรื่องพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฮูหยินเหยาเลยสักนิด อีกทั้งฮูหยินเหยาก็ถอนตัวออกจากจวนอ๋องจี้ไปตั้งนานแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางอีก การที่จู่ ๆ นางก็พูดถึงคนที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องโดยเจตนา นั่นหมายความว่านางต้องมีแผนการบางอย่างแน่”

“ขอฟังรายละเอียดมากกว่านี้ได้หรือไม่!” อะซี่รีบนั่งลงเป็นพัลวัน

หรงเยว่เอากระเป๋าที่ห่อโกฐจุฬาลัมพาออก แล้วใช้มือตัวเองลูบที่ท้องช้า ๆ แล้วพูดว่า “คาดว่านางคงมีสองเป้าหมาย ถ้าไม่คิดจะทำให้ฮูหยินเหยากับพระชายารัชทายาทเกิดขุ่นเคืองใจกัน ก็ต้องมีเป้าหมายให้ฮูหยินเหยามาทะเลาะโต้เถียงกับนาง นางลงมือกับฮูหยินเหยา แต่ไม่ฆ่าฮูหยินเหยา นั่นเป็นเพราะว่าการฆ่าฮูหยินเหยาไม่มีประโยชน์อะไรกับนางแม้แต่น้อย

เป็นไปได้ว่านางอาจมีความคิดที่จะจับตัวฮูหยินเหยา เพื่อให้ตัวเองมีตัวประกันเป็นยันต์คุ้มกายมากขึ้นอีกชั้น การทำแบบนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่าบางทีใต้เท้าทังอาจกำลังตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นนางจึงต้องจับตัวคนที่สามารถทำให้รัชทายาท กับพระชายารัชทายาทเคลื่อนไหวได้ อีกทั้งคนคนนั้นต้องไม่รู้วรยุทธ์ เจ้าลองคิดดูดี ๆ สิว่า ในหมู่มวลคนมากมายในจวนอ๋องฉู่ ไม่ใช่ว่าฮูหยินเหยาเป็นคนที่ลงมือได้ง่ายที่สุดแล้วหรอกรึ? ”

อะซี่เริ่มไม่เข้าใจขึ้นมาอีกแล้ว “เจ้าบอกว่าเป้าหมายแรกของนางคือต้องการแยกตัวฮูหยินเหยาออกมาให้อยู่ลำพัง เพราะอะไรล่ะ? การแยกฮูหยินเหยาออกมาจะมีประโยชน์อะไรกับนางรึ?”

หรงเยว่กลอกตามองบนใส่นาง “ยัยเด็กโง่คนนี้นี่หนอ ทำไมเจ้าช่างไม่รู้วิธีเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ ก่อนหลังเอาเสียเลยนะ? ตอนที่ฮูหยินเหยายังเป็นพระชายาจี้อยู่ นางกุมความลับมากมายของพวกขุนนางไว้ในมือ ตอนนี้นางไม่ได้ใช้คนเหล่านี้ แต่ถ้านางต้องการจะใช้จริง ๆ คนเหล่านี้จะไม่ฟังนางหรือ? เมื่อไหร่ที่ฮูหยินเหยามีเรื่องเคืองใจกับพระชายารัชทายาท จนแยกนางออกไปตามลำพัง ฮูหยินเหยาย่อมเกิดความโกรธแค้น ที่นี้พวกนางก็จะมีโอกาสแล้วไม่ใช่รึ? ”

อะซี่สูดลมหายใจเฮือก “จิตใจชั่วร้ายนัก!”

“ นี่ไม่นับว่าชั่วร้ายอะไรนักหรอกนะ แต่เป็นแผนการที่ดีที่สุดต่างหาก สิ่งที่เรากำลังเล่นอยู่ตอนนี้คือการวางแผนสู้กัน ถ้าฮูหยินเหยารู้วรยุทธ์ เราก็สามารถใช้กลยุทธ์แผนซ้อนแผนเพื่อสืบหาที่อยู่ของใต้เท้าทังได้ แต่ในเมื่อนางไม่รู้วรยุทธ์ ดังนั้นจึงใช้แผนนี้ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป” หรงเยว่อธิบาย

หลังจากพูดจบ คิ้วของนางก็ขมวดมุ่นขึ้นอีกครั้ง “กลัวก็แต่ว่า ใต้เท้าทังจะกำลังตกอยู่ในอันตราย ไม่อย่างนั้น  ก็เพียงพอที่จะใช้เป็นโล่กำบังเพื่อล่าถอยไปได้แล้ว”

“เจ้าว่าทำไมนางถึงไม่หนีไปล่ะ? ในเมื่อตอนนี้นางมีใต้เท้าทังอยู่ในกำมือ ต่อให้นางหนีไป พวกเราก็ไม่กล้าทำอะไรรุนแรงกับนางอยู่แล้ว”

“ไม่มีที่ไหนที่จะไปได้ เมื่อไหร่ที่นางหนีไปก็จำเป็นต้องหาที่กบดาน ในทางตรงกันข้าม มันอาจจะเป็นการเปิดเผยตัวตนคนของนางก็ได้ หรือไม่การที่ได้อยู่ใกล้ ๆ จวนอ๋องฉู่คงมีประโยชน์กับนาง ทำให้รู้เรื่องราวภายในจวนอ๋องฉู่ได้ตลอดเวลา”

อะซี่นับว่าเข้าใจมากขึ้นแล้ว แต่พอได้ยินว่าใต้เท้าทังอาจตกอยู่ในอันตราย นางก็กังวลใจมาก “แล้วจะทำอย่างไรกันดีล่ะ?น่ะรึ?”

“ ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีหนทางหรอก ถ้าฮูหยินเหยาจงใจให้นางจับตัวไป พวกเราก็สามารถสะกดรอยตามไปได้ แต่เรื่องนี้จะบอกให้พระชายารัชทายาทรู้ไม่ได้…..” หรงเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ลืมมันไปเสียเถอะ เรื่องนี้เราอย่าทำอย่างนี้เลยดีกว่า หลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจจะเกิดกับฮูหยินเหยา”

อะซี่พูดว่า: “ทำไมไม่ลองถามฮูหยินเหยาดูก่อนล่ะ? อย่างไรเสียพวกเราก็จะแอบส่งคนตามไปด้วยอยู่แล้ว ไม่น่าต้องกลัวอะไรหรอก”

หรงเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เจ้าลองไปถามเถอะ ถ้านางตกลง ข้ายินดีเป็นคนลงสนามนี้ด้วยตัวเอง อีกทั้งนางไม่เคยทำอะไรที่มันโดดเด่น แต่เมื่อไหร่ที่ลงมือทำขึ้นมาจริง ๆ ย่อมสร้างผลลัพธ์ที่ดีจนคนของเราตามไปได้อย่างแน่นอน”

อะซี่รีบกลับจวนไปหาฮูหยินเหยาทันที นางรู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่อาจให้พี่หยวนรู้ได้ พี่หยวนต้องไม่ยอมแน่ฮูหยินเหยาไม่รู้วรยุทธ์ พี่หยวนย่อมไม่ปล่อยให้นางไปเสี่ยงเด็ดขาด

อะซี่เล่าว่าฮูหยินทังพูดถึงฮูหยินเหยาว่าอย่างไรบ้าง เมื่อฮูหยินเหยาลองคิดดูดี ๆ นางก็เข้าใจความหมายของฮูหยินทัง แล้วก็เข้าใจความหมายของอะซี่ด้วยเช่นกัน

“เจ้าอยากให้ข้าจงใจยอมให้นางจับไปอย่างนั้นสินะ?” ฮูหยินเหยาถาม

“ ขึ้นอยู่กับความเต็มใจของเจ้า ถ้าเจ้ายินดีช่วย พระชายาหวยก็เอ่ยปากเองเลยว่าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องเจ้า” อะซี่ตอบ

ฮูหยินเหยารู้สึกลำบากใจเล็กน้อย นางรู้ว่าเรื่องนี้มันอันตรายมาก นางไม่ได้รักตัวกลัวตายขนาดนั้น แต่ต้องดูก่อนว่าคนที่นางต้องช่วยชีวิตเป็นใคร นางไม่ได้มีมิตรภาพที่เหนียวแน่นลึกซึ้งอะไรกับทังหยางมากมายนัก

อะซี่มองสีหน้านาง แล้วพูดให้กำลังใจว่า: “เจ้าไม่ต้องกังวลนักหรอก พระชายาหวยบอกว่าอีกฝ่ายจะไม่ทำอะไรกระโตกกระตากแน่ เพราะทันทีที่ฝ่ายนั้นเคลื่อนไหว ทางเราจะต้องตามทันได้แน่นอน หรือบางที อาจจะตามรอยจนถึงค่ายที่เป็นฐานที่มั่นของพวกนั้นได้เลยด้วย”

คำพูดประโยคสุดท้ายนี้ ทำให้ฮูหยินเหยารู้สึกใจเต้นระทึกขึ้นมาเล็กน้อย

ตอนนี้ทุกอย่างล้วนชะงักงันอยู่ที่นี่ ไม่สามารถเคลื่อนไหวอะไรได้ ทั้งยังรู้เรื่องของอีกฝ่ายน้อยมาก ๆ เมื่อดูจากสถานการณ์โดยรวมแล้ว นางก็ควรจะไปจริง ๆ นั่นล่ะ นางครุ่นคิดอย่างรอบคอบ ก็รู้ว่านี่อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการเอาชีวิตนางไปเดิมพันเพื่อแลกกับผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอน คนเราล้วนมีความเห็นแก่ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้านั่นเป็นชีวิตของพวกเขาเอง

“เป็นพระชายารัชทายาทบอกให้เจ้ามาหรือ?” ฮูหยินเหยาถามอะซี่

อะซี่ส่ายหน้า “ไม่ใช่ ทั้งเรื่องที่ฮูหยินทังกับหรงเยว่พูดมา ข้าล้วนไม่กล้าบอกนางสักเรื่อง นางไม่มีทางเห็นด้วยที่จะให้เจ้าไปเสี่ยงแน่”

ฮูหยินเหยานางนิ่ง ๆ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า: “เจ้ายังไม่เคยบอกนางเลย จะรู้ได้อย่างไรว่านางจะไม่เห็นด้วย? ในใจนางทังหยางมีความสำคัญมาก เพราะทังหยางเป็นคนที่สามารถช่วยงานเจ้าห้าได้”

อะซี่ถึงกับตะลึง “เขาช่วยงานรัชทายาทได้ แต่เรื่องบางอย่างก็ไม่ได้วัดกันแค่ตรงนี้หรอกกระมัง? ข้ารู้สึกอยู่ตลอดเวลาเลยว่า พี่หยวนจะไม่มีทางเห็นด้วยอย่างแน่นอน”

“เจ้าเรียกนางมาเถอะ ข้าจะถามเอง” ฮูหยินเหยาพูด

อะซี่ส่ายหน้า “ลืมไปเสียเถอะ ไม่พูดแล้วดีกว่า ถ้าเจ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปหรอก ความหมายของพระชายาหวยคือต้องให้เจ้าเต็มใจที่จะทำถึงจะทำได้ ถ้าเจ้าไม่เต็มใจ เช่นนั้นก็ทำเหมือนว่าข้าไม่เคยพูดเรื่องนี้ก็แล้วกัน”

ฮูหยินเหยากลับผลักนางแรง ๆ ไปทีหนึ่ง “ไปเรียกหยวนชิงหลิงมาก่อน แล้วข้าจะถามนางเอง”

อะซี่ไม่ทันตั้งตัว จู่ ๆ ก็มาผลักนางแบบนี้ จึงซวนเซจนเกือบจะล้มลง นางพูดอย่างเริ่มจะขุ่นเคืองว่า “เราก็ไม่ได้ฝืนบังคับให้เจ้าไปเสียหน่อย แค่มาถามความคิดเห็นเจ้าเฉย ๆ เจ้าจะพาลอารมณ์เสียทำไมไม่ทราบ? ถ้าเป็นเจ้าเกิดเรื่องขึ้นบ้าง ข้าเชื่อเลยว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ ต่างก็ต้องเต็มใจที่จะเสี่ยงเพื่อเจ้า!”

ฮูหยินเหยาเห็นว่านางโกรธ ก็รู้ว่าตัวเองออกอาการมากเกินไปหน่อย จึงพูดเบา ๆ ว่า “ข้าขอโทษนะ อะซี่ ข้าไม่ใช่ว่าไม่เต็มใจ กลับกัน ข้าเต็มใจไป แต่คำพูดนี้ของข้าเจ้าอย่าได้ฟังไม่เข้าหู คนเราทุกคนมีความเห็นแก่ตัว ตัวข้ามีลูกสาวสองคน ข้าไม่อาจปล่อยวางได้จริง ๆ”

อะซี่มึนงงสับสนไปหมดแล้ว “แล้วสรุปว่าเจ้ายินดีหรือไม่ยินดีที่จะไปกันแน่ล่ะนี่?”

ฮูหยินเหยาถอนหายใจเฮือก “เจ้าให้นางมาที่นี่ก่อนเถอะ ข้าต้องโน้มน้าวใจตัวเองให้ไปด้วยความเต็มใจเสียก่อน หากข้าต้องสละชีวิตตัวเองเพื่อใครสักคน คน ๆ นั้นต้องเป็นคนที่ข้าคิดว่าคุ้มค่าที่จะทำให้ ให้นางมาบอกกับข้าเองว่า ไม่เห็นด้วยที่จะให้ข้าไป ข้าก็จะไปด้วยความยินดีอย่างที่สุด เพราะอย่างน้อยก็ยังมีใครสักคนที่ห่วงใยชีวิตของข้า ใส่ใจในความเป็นความตายของข้า ตัวข้าถึงจะสามารถโน้มน้าวจิตใจตัวเองได้”

อะซี่ได้ยินแล้วก็เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ แต่ก็ช่างเถอะ จะไปหรือไม่ล้วนเป็นสิทธิ์ของนาง ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่อาจไปบังคับฝืนใจกันได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+