ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว 127

Now you are reading ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว Chapter 127 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 127 พ่อของเด็กคือใคร?

พอได้ยินคำพูดของเวินน๋อน ในใจของลั่วมั่นกระตุกไปทีหนึ่ง มองไปทางเด็กนั่นโดยจิตใต้สำนึก มองเห็นระหว่างคิ้วของคล้ายกับใครคนหนึ่ง ทันใดนั้นก็รู้สึกเย็นวาบ รู้สึกมือเท้าชาไปหมด

พ่อของเด็กที่เวินน๋อนพูดถึง……คือใคร?

เธอไม่กล้าถาม กลัวว่าเวินน๋อนจะดูออกว่าเธอแปลกไป จึงรีบเดินจากไป แต่กลับไม่รู้ท่าทีเร่งรีบของแผ่นหลังนั่นตกอยู่ในสายตาของเวินน๋อน กลายเป็นสายตาเย็นชาที่น่ากลัว

เสี่ยวอ้ายที่อยู่ข้างๆถาม “ผู้หญิงในเมื่อกี้คือใครเหรอ?”

“ภรรยาปัจจุบันของเฟิงเฉิน” น้ำเสียงเรียบเฉย สีหน้าเกลียดแค้น “แต่อีกไม่นานก็คงไม่ใช่แล้วล่ะ”

เพราะเรื่องของเด็ก ลั่วมั่นรู้สึกกระวนกระวายใจตลอดครึ่งวัน เล่อสวี้โทรมารายงานเรื่องการทดลองของโรงแรมหนิงโจวเธอก็ฟังแบบเหม่อลอย ถูกเล่อสวี้ทักหลายครั้ง

“เธอมีเรื่องในใจอะไรเหรอ?”

เล่อสวี้ที่อยู่ทางสายถามมาตรงๆ

ลั่วมั่นชอบเก็บเรื่องไว้ในใจเป็นนิสัย แต่ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นอะไรถึงอยากจะหาคนๆหนึ่งมาพูดด้วย และเล่อสวี้มีชื่อเสียงในด้านการเก็บความลับ เธอเลยถามอย่างคลุมเครือ

“ถ้าเธอเห็นเด็กคนหนึ่ง น่าตาเหมือนเพื่อนเธอคนหนึ่งมาก และแม่ของเด็กยังเป็นแฟนเก่าของเพื่อนเธอ เธอคิดว่าเปอร์เซ็นต์ที่เด็กคนนี้จะเป็นลูกชายแท้ๆของเพื่อนเธอสักเท่าไหร่?”

“ถ้าพูดในมุมมองทฤษฎี ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์”

“ฮะ? ” ลั่วมั่นตกใจ “ความน่าจะเป็นนี้……คิดออกมาได้อย่างไร?”

“อย่างแรกเลย ความน่าจะเป็นของลูกของเพื่อนเธอและไม่ใช่ลูกของเพื่อนเธอคิดเป็นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ สองคือ ความน่าจะเป็นของลูกสาวหรือลูกชายคิดเป็นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เอาห้าสิบเปอร์เซ็นต์ทั้งสองมาคูณกัน ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ส่วนร้อย แน่นอนว่า ถ้าคิดเป็นความน่าจะเป็นทางทฤษฎีละก็ คงจะซับซ้อนกว่านี้……”

ลั่วมั่นอดไม่ได้ที่จะมองบน แม้ว่าจะรู้ว่าเล่อสวี้มองไม่เห็น

“รู้ว่าคุยกับเธอก็ไม่มีประโยชน์หรอก ช่างมัน ไม่คุยเรื่องนี้ละ เธอยุ่งก่อนเลย เรื่องของหนิงโจวถ้าไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องการให้ช่วยก็ไม่ต้องบอกฉันหมดหรอก เธอตัดสินใจเองก็พอ”

ทางนุ้นตอบเสียงหนึ่ง ก่อนที่จะวางสาย จู่ๆก็มีเสียงนิ่งเฉยของเล่อสวี้ลอยมา “อันที่จริงถ้าอยากแน่ใจ ทำไมไม่พาเด็กคนนั้นไปตรวจDNAล่ะ? ไม่ว่าจะเส้นผมหรือเลือดก็ได้ มีประโยชน์กว่าที่เธอมานั่งสงสัยในห้องทำงานอีก”

ลั่วมั่นอึ้ง เล่อสวี้ได้สรุปสถานะของเธอในครึ่งวันนี้ไว้ในประโยคเดียว

“ปัญหาของเธออยู่ที่คิดมากแต่ไม่ทำอะไรเลย”

โทรศัพท์วางสายไป ในห้องกลับคืนสู่ความสงบ

ลั่วมั่นยกแก้วน้ำที่อยู่ข้างๆจะดื่มน้ำสักคำ กลับพบว่าแก้วนั่นว่างเปล่า

“น่าน่า……”

เรียกไปสองสามคำ เพิ่งจะนึกได้ว่าน่าน่าออกไปทำธุระเซ็นสัญญานั่นแล้ว

เธอถอนหายใจ ยกมือตบหน้าผากตัวเองอย่างหงุดหงิด แล้วยกแก้วลุกขึ้นไปห้องน้ำชา

สองสามวันนี้บริษัทH.Y.ซ่อมแซมบำรุงทั้งตึก ทั้งบ่ายนี้ตึกสิบและตึกสิบเอ็ดกำลังซ่อมท่อน้ำพอดี ดังนั้นลั่วมั่นจำเป็นต้องถือแก้วและกาต้มน้ำไปเติมน้ำที่ตึกสิบสอง กำลังยืนเหม่อข้างเครื่องชงกาแฟ

“ตึง”เสียงหนึ่ง มีอะไรบางอย่างกลิ้งลงจากโซฟา เปล่งอู้อี้ออกมา

“ใคร? ”ลั่วมั่นตกใจ มองไปอย่างสงสัย ก็เห็นเงาดำๆนอนบนพรมโซฟาตรงมุม อยู่ในใต้เงาของโต๊ะกาแฟ ไม่ค่อยชัดเจน คล้ายกับสัตว์ตัวเล็ก

เธอคิดว่ามีคนเอาสัตว์เลี้ยงตัวเองมาที่บริษัท แต่พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เผยสายตาตะลึงออกมา มองเด็กที่อยู่บนพื้นไม่ขยับอย่างไม่น่าเชื่อ สีหน้าซีดขาวไปหมด

นี่มันคือสัตว์เลี้ยงที่ไหนล่ะ เป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง และเด็กผู้ชายคนนี้ เธอยังเคยเห็นเมื่อตอนเที่ยง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว 127

Now you are reading ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว Chapter 127 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 127 พ่อของเด็กคือใคร?

พอได้ยินคำพูดของเวินน๋อน ในใจของลั่วมั่นกระตุกไปทีหนึ่ง มองไปทางเด็กนั่นโดยจิตใต้สำนึก มองเห็นระหว่างคิ้วของคล้ายกับใครคนหนึ่ง ทันใดนั้นก็รู้สึกเย็นวาบ รู้สึกมือเท้าชาไปหมด

พ่อของเด็กที่เวินน๋อนพูดถึง……คือใคร?

เธอไม่กล้าถาม กลัวว่าเวินน๋อนจะดูออกว่าเธอแปลกไป จึงรีบเดินจากไป แต่กลับไม่รู้ท่าทีเร่งรีบของแผ่นหลังนั่นตกอยู่ในสายตาของเวินน๋อน กลายเป็นสายตาเย็นชาที่น่ากลัว

เสี่ยวอ้ายที่อยู่ข้างๆถาม “ผู้หญิงในเมื่อกี้คือใครเหรอ?”

“ภรรยาปัจจุบันของเฟิงเฉิน” น้ำเสียงเรียบเฉย สีหน้าเกลียดแค้น “แต่อีกไม่นานก็คงไม่ใช่แล้วล่ะ”

เพราะเรื่องของเด็ก ลั่วมั่นรู้สึกกระวนกระวายใจตลอดครึ่งวัน เล่อสวี้โทรมารายงานเรื่องการทดลองของโรงแรมหนิงโจวเธอก็ฟังแบบเหม่อลอย ถูกเล่อสวี้ทักหลายครั้ง

“เธอมีเรื่องในใจอะไรเหรอ?”

เล่อสวี้ที่อยู่ทางสายถามมาตรงๆ

ลั่วมั่นชอบเก็บเรื่องไว้ในใจเป็นนิสัย แต่ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นอะไรถึงอยากจะหาคนๆหนึ่งมาพูดด้วย และเล่อสวี้มีชื่อเสียงในด้านการเก็บความลับ เธอเลยถามอย่างคลุมเครือ

“ถ้าเธอเห็นเด็กคนหนึ่ง น่าตาเหมือนเพื่อนเธอคนหนึ่งมาก และแม่ของเด็กยังเป็นแฟนเก่าของเพื่อนเธอ เธอคิดว่าเปอร์เซ็นต์ที่เด็กคนนี้จะเป็นลูกชายแท้ๆของเพื่อนเธอสักเท่าไหร่?”

“ถ้าพูดในมุมมองทฤษฎี ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์”

“ฮะ? ” ลั่วมั่นตกใจ “ความน่าจะเป็นนี้……คิดออกมาได้อย่างไร?”

“อย่างแรกเลย ความน่าจะเป็นของลูกของเพื่อนเธอและไม่ใช่ลูกของเพื่อนเธอคิดเป็นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ สองคือ ความน่าจะเป็นของลูกสาวหรือลูกชายคิดเป็นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เอาห้าสิบเปอร์เซ็นต์ทั้งสองมาคูณกัน ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ส่วนร้อย แน่นอนว่า ถ้าคิดเป็นความน่าจะเป็นทางทฤษฎีละก็ คงจะซับซ้อนกว่านี้……”

ลั่วมั่นอดไม่ได้ที่จะมองบน แม้ว่าจะรู้ว่าเล่อสวี้มองไม่เห็น

“รู้ว่าคุยกับเธอก็ไม่มีประโยชน์หรอก ช่างมัน ไม่คุยเรื่องนี้ละ เธอยุ่งก่อนเลย เรื่องของหนิงโจวถ้าไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องการให้ช่วยก็ไม่ต้องบอกฉันหมดหรอก เธอตัดสินใจเองก็พอ”

ทางนุ้นตอบเสียงหนึ่ง ก่อนที่จะวางสาย จู่ๆก็มีเสียงนิ่งเฉยของเล่อสวี้ลอยมา “อันที่จริงถ้าอยากแน่ใจ ทำไมไม่พาเด็กคนนั้นไปตรวจDNAล่ะ? ไม่ว่าจะเส้นผมหรือเลือดก็ได้ มีประโยชน์กว่าที่เธอมานั่งสงสัยในห้องทำงานอีก”

ลั่วมั่นอึ้ง เล่อสวี้ได้สรุปสถานะของเธอในครึ่งวันนี้ไว้ในประโยคเดียว

“ปัญหาของเธออยู่ที่คิดมากแต่ไม่ทำอะไรเลย”

โทรศัพท์วางสายไป ในห้องกลับคืนสู่ความสงบ

ลั่วมั่นยกแก้วน้ำที่อยู่ข้างๆจะดื่มน้ำสักคำ กลับพบว่าแก้วนั่นว่างเปล่า

“น่าน่า……”

เรียกไปสองสามคำ เพิ่งจะนึกได้ว่าน่าน่าออกไปทำธุระเซ็นสัญญานั่นแล้ว

เธอถอนหายใจ ยกมือตบหน้าผากตัวเองอย่างหงุดหงิด แล้วยกแก้วลุกขึ้นไปห้องน้ำชา

สองสามวันนี้บริษัทH.Y.ซ่อมแซมบำรุงทั้งตึก ทั้งบ่ายนี้ตึกสิบและตึกสิบเอ็ดกำลังซ่อมท่อน้ำพอดี ดังนั้นลั่วมั่นจำเป็นต้องถือแก้วและกาต้มน้ำไปเติมน้ำที่ตึกสิบสอง กำลังยืนเหม่อข้างเครื่องชงกาแฟ

“ตึง”เสียงหนึ่ง มีอะไรบางอย่างกลิ้งลงจากโซฟา เปล่งอู้อี้ออกมา

“ใคร? ”ลั่วมั่นตกใจ มองไปอย่างสงสัย ก็เห็นเงาดำๆนอนบนพรมโซฟาตรงมุม อยู่ในใต้เงาของโต๊ะกาแฟ ไม่ค่อยชัดเจน คล้ายกับสัตว์ตัวเล็ก

เธอคิดว่ามีคนเอาสัตว์เลี้ยงตัวเองมาที่บริษัท แต่พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เผยสายตาตะลึงออกมา มองเด็กที่อยู่บนพื้นไม่ขยับอย่างไม่น่าเชื่อ สีหน้าซีดขาวไปหมด

นี่มันคือสัตว์เลี้ยงที่ไหนล่ะ เป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง และเด็กผู้ชายคนนี้ เธอยังเคยเห็นเมื่อตอนเที่ยง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+