ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว 3

Now you are reading ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว Chapter 3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 3 คุณมองตัวเองสูงเกินไปหรือเปล่า

หลังจากวันนั้นครึ่งเดือนเฟิงเฉินก็ไม่เคยกลับบ้าน แต่ลั่วมั่นสามารถเห็นข่าวซุบซิบที่เกี่ยวกับเขาทุกเรื่องได้จากรายงานข่าวบนโทรทัศน์ได้ตลอด เขาพาหลัวแมนจีเข้าออกทุกสถานที่อย่างเปิดเผย โดยไม่สนใจคำวิจารณ์จากโลกภายนอกเลยแม้แต่น้อย

หลัวแมนจีเป็นดาราสาวผู้โด่งดัง มีนักข่าวจำนวนไม่น้อยที่คอยติดตาหลังเขา นักข่าวที่มีความสามารถมหัศจรรย์นั้นไม่รู้ว่าทำเช่นไรถึงได้เบอร์โทรของลั่วมั่น โทรมาไม่หยุดทั้งวันยี่สิบสี่ชั่วโมงเพื่อถามว่าเฟิงเฉินนั้นมีชู้ระหว่างแต่งงานหรือว่าหย่าขาดจากกันไปแล้ว

ด้วยเหตุนี้ ลั่วมั่นจึงถูกรบกวนจนเกินที่จะทน

ณ ห้องรับแขกในคฤหาสน์ตระกูลเฟิง

“โทรผิดแล้ว ฉันไม่ใช่ลั่วมั่น”

เสียงวางสายโทรศัพท์“ตู๊ดๆ”ลั่วมั่นถือบัตรเชิญงานประมูลด้วยใบหน้าไม่น่ามองเป็นอย่างยิ่ง

สุดสัปดาห์นี้ ซูชิเดอจัดงานประมูลหนึ่งปีครั้งที่เจียงเฉิง การ์ดเชิญนั้นเขียนด้วยชื่อของเฟิงเฉินและชื่อเธอทั้งสองคน ซึ่งถูกส่งไปถึงบ้านของคนที่มีชื่อเท่านั้น

เมื่อมองบัตรเชิญแล้ว ลั่วมั่นก็ลังเลเป็นเวลานาน หรือว่าเธอควรโทรหาเบอร์ของเฟิงเฉิน นี่เป็นสายแรกที่โทรหาเฟิงเฉินตั้งแต่วันที่เฟิงเฉินพาหลัวแมนจีจากที่นี้ไปเมื่อครึ่งเดือนที่ผ่านมา

“สวัสดี นั้นใครน่ะ”อีกฝั่งของโทรศัพท์รู้แล้วแต่ยังถาม

“เฟิงเฉิน ฉันเอง ”ลั่วมั่นชะงักแล้วตอบอย่างอารมณ์ดี

เสียงที่ลอยเข้ามาของเฟิงเฉินนั้นเฉยชาและเชื่องช้า นำพามาซึ่งความเย้ยหยันไม่น้อย

“​นางหญิงเฟิงโทรหาฉันขณะที่กำลังยุ่งอยู่เหรอ ? ตระกูลลั่วของพวกคุณมีเรื่องใหญ่สุดๆอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นเหรอ?”

ลั่วมั่นขมวดคิ้วเล็กน้อยๆ แต่กลับไม่สนใจการยั่วยุของเขา

“บัตรเชิญงานประมูลของซูชิเดอสุดสัปดาห์นี้อยู่ที่ฉัน คุณมีเวลาไปหรือเปล่า ?”

“ไม่ไป”เสียงอันเย็นชาจากโทรศัพท์ฝั่งนั้น “สุดสัปดาห์ฉันมีประชุมต่างประเทศ”

หลังจากได้ยินประโยคนี้ ลั่วมั่นรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่กลับรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก

อย่างน้อยเมื่อถึงเวลาที่มีคนถามขึ้นมา เธอก็คงมีเหตุผลที่จะตอบ ไม่ถึงกับ……อึดอัดใจมากขนาดนั้น

แต่เฟิงเฉินที่อยู่อีกฝั่งของโทรศัพท์นั้นราวกับสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกของเธอ หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

“เอาล่ะ ฉันมีธุระ ไม่ว่างฟังเธอหรอก ยังมีอะไรอีกไหม? ”

เห็นได้ชัดว่าเฟิงเฉินไม่ได้ตั้งใจฟังคำอธิบายของเธอ

ลั่วมั่นนั้นเหมือนก้างปลาติดคอ แล้วค่อยๆพูดคำสองคำออกมา

“ไม่มี”

สายโทรศัพท์ถูกวางในทันที หลังจากนั้นภายในห้องก็มีความเงียบงันปกคลุมไปอีกนาน

ลั่วมั่นพิงบนโซฟา ยกมือขึ้นแล้วลูบขมับ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร สายตาของเธอจึงมองกรอบรูปบนผนังด้านหลังโต๊ะอาหารตรงหน้า ด้านในกรอบรูปเป็นภาพแต่งงานของทั้งสอง ทั้งคู่ต่างกำลังยิ้ม สิ่งที่แตกต่างก็คือรอยยิ้มของเธอนั้นทั้งมีความสุขและดื้อด้าน และมีรอยยิ้มธรรมดาของเฟิงเฉินที่จับเธอจากด้านหลัง ทันใดนั้นเธอก็ยกมือขึ้นแล้วจับมันผ่านทางอากาศ ราวกับว่าต้องการที่จะหลงใหลความรู้สึกภายในสายตานั้นอีกครั้ง

ใช่แล้ว เขาเคยมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้นมาก่อน

สุดสัปดาห์

งานประมูลของซูชิเดอจัดขึ้นที่โรงแรมฮอลิเดย์บนชานเมืองด้านตะวันตกของทะเลสาบ ลั่วมั่นขับรถไปที่นั่นเพียงลำพัง

โถงโรงแรมฮอลิเดย์นั้นสีทองงดงาม ล้วนอัดแน่นไปด้วยความหรูหรามั่งคั่ง เก้าอี้โซฟาหนังแท้สีแดงเรียงเป็นสิบแถว ด้านข้างเป็นโต๊ะชา ขนมและแตงโม ซึ่งหรูหราเป็นอย่างมาก

ท่อนบนของลั่วมั่นคือเสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยกระโปรงเอวสูงลายสก๊อตสีกาแฟ ส่วนรองเท้าเป็นรองเท้าส้นสูงหนังกลับสีดำ เผยให้เห็นนิ้วเท้าขาวชมพูดสวยงามและหลังเท้าโค้งขาวเนียน ผมสีดำยาวสลวยมัดมวยยกสูง ผูกด้วยสายรัดผมเพชรสีเงิน เรียบง่ายแต่ดูแพงและงดงาม ดึงดูดสายตาและความสนใจของผู้ชายทั้งหลายทันทีที่เข้ามา

เธอมาช้า งานประมูลของซูชิเดอในเขตเจียงเฉิงนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของหลี่เหยาที่อยู่ตรงปากประตูคอยต้อนรับแขก เมื่อเห็นลั่วมั่นแล้วเขาก็ต้องรับเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“​นางหญิงเฟิงมาแล้ว…..”

ลั่วมั่นยิ้มขอโทษ “บนถนนรถติด เลยมาช้าเลย ขอโทษด้วยนะคะ”

“ปกติ เมืองเจียงไม่มีรถติด”หลี่เหยาพยักหน้าเข้าใจอย่างมาก แล้วมองไปด้านหลังของเธอ

“คุณเฟิงล่ะครับ ทำไมถึงไม่มาด้วยกัน”

ลั่วมั่นพูดอธิบายอย่างสบายๆ “วันนี้เขามีประชุมเลยไม่ได้มาค่ะ ให้ฉันพาพวกคุณประธานหู…….”

เมื่อเสียงนั้นตกไป ก็เห็นสายตาของหลี่เหยานั้นเปลี่ยนไปในทันที มองข้ามไหล่ของเธอไปยังด้านหลังเธอ แล้วมองมายังลั่วมั่นอย่างอึดอัดใจ ไม่พูดออกมา

“นั้น….. ​นางหญิงเฟิง…..เอ่อเอ่อ”

ลั่วมั่นขมวดคิ้วแล้วหันหลังกลับไป รอยยิ้มบนใบหน้าที่กำลังมองผู้ที่มานั้นหยุดชะงักในพริบตา แล้วเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างอย่างช้าๆ

ชายหญิงคู่หนึ่ง ผู้ชายสวมชุดสูทสีดำสำหรับผู้ชาย ผู้หญิงสวมกระโปรงสีไวน์แดง แขนแข็งแรงของผู้ชายนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกรักอันหลากหลาย เหมือนกับคู่รักที่กำลังรักกัน โดยไม่อายสายตาของคนรอบข้างเลยแม่แต่น้อย

เพียงแต่ ผู้ชายที่เหมือนกับตกหลุมรักนั้นคือ เฟิงเฉิน สามีของเธอนั้นเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว 3

Now you are reading ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว Chapter 3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 3 คุณมองตัวเองสูงเกินไปหรือเปล่า

หลังจากวันนั้นครึ่งเดือนเฟิงเฉินก็ไม่เคยกลับบ้าน แต่ลั่วมั่นสามารถเห็นข่าวซุบซิบที่เกี่ยวกับเขาทุกเรื่องได้จากรายงานข่าวบนโทรทัศน์ได้ตลอด เขาพาหลัวแมนจีเข้าออกทุกสถานที่อย่างเปิดเผย โดยไม่สนใจคำวิจารณ์จากโลกภายนอกเลยแม้แต่น้อย

หลัวแมนจีเป็นดาราสาวผู้โด่งดัง มีนักข่าวจำนวนไม่น้อยที่คอยติดตาหลังเขา นักข่าวที่มีความสามารถมหัศจรรย์นั้นไม่รู้ว่าทำเช่นไรถึงได้เบอร์โทรของลั่วมั่น โทรมาไม่หยุดทั้งวันยี่สิบสี่ชั่วโมงเพื่อถามว่าเฟิงเฉินนั้นมีชู้ระหว่างแต่งงานหรือว่าหย่าขาดจากกันไปแล้ว

ด้วยเหตุนี้ ลั่วมั่นจึงถูกรบกวนจนเกินที่จะทน

ณ ห้องรับแขกในคฤหาสน์ตระกูลเฟิง

“โทรผิดแล้ว ฉันไม่ใช่ลั่วมั่น”

เสียงวางสายโทรศัพท์“ตู๊ดๆ”ลั่วมั่นถือบัตรเชิญงานประมูลด้วยใบหน้าไม่น่ามองเป็นอย่างยิ่ง

สุดสัปดาห์นี้ ซูชิเดอจัดงานประมูลหนึ่งปีครั้งที่เจียงเฉิง การ์ดเชิญนั้นเขียนด้วยชื่อของเฟิงเฉินและชื่อเธอทั้งสองคน ซึ่งถูกส่งไปถึงบ้านของคนที่มีชื่อเท่านั้น

เมื่อมองบัตรเชิญแล้ว ลั่วมั่นก็ลังเลเป็นเวลานาน หรือว่าเธอควรโทรหาเบอร์ของเฟิงเฉิน นี่เป็นสายแรกที่โทรหาเฟิงเฉินตั้งแต่วันที่เฟิงเฉินพาหลัวแมนจีจากที่นี้ไปเมื่อครึ่งเดือนที่ผ่านมา

“สวัสดี นั้นใครน่ะ”อีกฝั่งของโทรศัพท์รู้แล้วแต่ยังถาม

“เฟิงเฉิน ฉันเอง ”ลั่วมั่นชะงักแล้วตอบอย่างอารมณ์ดี

เสียงที่ลอยเข้ามาของเฟิงเฉินนั้นเฉยชาและเชื่องช้า นำพามาซึ่งความเย้ยหยันไม่น้อย

“​นางหญิงเฟิงโทรหาฉันขณะที่กำลังยุ่งอยู่เหรอ ? ตระกูลลั่วของพวกคุณมีเรื่องใหญ่สุดๆอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นเหรอ?”

ลั่วมั่นขมวดคิ้วเล็กน้อยๆ แต่กลับไม่สนใจการยั่วยุของเขา

“บัตรเชิญงานประมูลของซูชิเดอสุดสัปดาห์นี้อยู่ที่ฉัน คุณมีเวลาไปหรือเปล่า ?”

“ไม่ไป”เสียงอันเย็นชาจากโทรศัพท์ฝั่งนั้น “สุดสัปดาห์ฉันมีประชุมต่างประเทศ”

หลังจากได้ยินประโยคนี้ ลั่วมั่นรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่กลับรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก

อย่างน้อยเมื่อถึงเวลาที่มีคนถามขึ้นมา เธอก็คงมีเหตุผลที่จะตอบ ไม่ถึงกับ……อึดอัดใจมากขนาดนั้น

แต่เฟิงเฉินที่อยู่อีกฝั่งของโทรศัพท์นั้นราวกับสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกของเธอ หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

“เอาล่ะ ฉันมีธุระ ไม่ว่างฟังเธอหรอก ยังมีอะไรอีกไหม? ”

เห็นได้ชัดว่าเฟิงเฉินไม่ได้ตั้งใจฟังคำอธิบายของเธอ

ลั่วมั่นนั้นเหมือนก้างปลาติดคอ แล้วค่อยๆพูดคำสองคำออกมา

“ไม่มี”

สายโทรศัพท์ถูกวางในทันที หลังจากนั้นภายในห้องก็มีความเงียบงันปกคลุมไปอีกนาน

ลั่วมั่นพิงบนโซฟา ยกมือขึ้นแล้วลูบขมับ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร สายตาของเธอจึงมองกรอบรูปบนผนังด้านหลังโต๊ะอาหารตรงหน้า ด้านในกรอบรูปเป็นภาพแต่งงานของทั้งสอง ทั้งคู่ต่างกำลังยิ้ม สิ่งที่แตกต่างก็คือรอยยิ้มของเธอนั้นทั้งมีความสุขและดื้อด้าน และมีรอยยิ้มธรรมดาของเฟิงเฉินที่จับเธอจากด้านหลัง ทันใดนั้นเธอก็ยกมือขึ้นแล้วจับมันผ่านทางอากาศ ราวกับว่าต้องการที่จะหลงใหลความรู้สึกภายในสายตานั้นอีกครั้ง

ใช่แล้ว เขาเคยมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้นมาก่อน

สุดสัปดาห์

งานประมูลของซูชิเดอจัดขึ้นที่โรงแรมฮอลิเดย์บนชานเมืองด้านตะวันตกของทะเลสาบ ลั่วมั่นขับรถไปที่นั่นเพียงลำพัง

โถงโรงแรมฮอลิเดย์นั้นสีทองงดงาม ล้วนอัดแน่นไปด้วยความหรูหรามั่งคั่ง เก้าอี้โซฟาหนังแท้สีแดงเรียงเป็นสิบแถว ด้านข้างเป็นโต๊ะชา ขนมและแตงโม ซึ่งหรูหราเป็นอย่างมาก

ท่อนบนของลั่วมั่นคือเสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยกระโปรงเอวสูงลายสก๊อตสีกาแฟ ส่วนรองเท้าเป็นรองเท้าส้นสูงหนังกลับสีดำ เผยให้เห็นนิ้วเท้าขาวชมพูดสวยงามและหลังเท้าโค้งขาวเนียน ผมสีดำยาวสลวยมัดมวยยกสูง ผูกด้วยสายรัดผมเพชรสีเงิน เรียบง่ายแต่ดูแพงและงดงาม ดึงดูดสายตาและความสนใจของผู้ชายทั้งหลายทันทีที่เข้ามา

เธอมาช้า งานประมูลของซูชิเดอในเขตเจียงเฉิงนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของหลี่เหยาที่อยู่ตรงปากประตูคอยต้อนรับแขก เมื่อเห็นลั่วมั่นแล้วเขาก็ต้องรับเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“​นางหญิงเฟิงมาแล้ว…..”

ลั่วมั่นยิ้มขอโทษ “บนถนนรถติด เลยมาช้าเลย ขอโทษด้วยนะคะ”

“ปกติ เมืองเจียงไม่มีรถติด”หลี่เหยาพยักหน้าเข้าใจอย่างมาก แล้วมองไปด้านหลังของเธอ

“คุณเฟิงล่ะครับ ทำไมถึงไม่มาด้วยกัน”

ลั่วมั่นพูดอธิบายอย่างสบายๆ “วันนี้เขามีประชุมเลยไม่ได้มาค่ะ ให้ฉันพาพวกคุณประธานหู…….”

เมื่อเสียงนั้นตกไป ก็เห็นสายตาของหลี่เหยานั้นเปลี่ยนไปในทันที มองข้ามไหล่ของเธอไปยังด้านหลังเธอ แล้วมองมายังลั่วมั่นอย่างอึดอัดใจ ไม่พูดออกมา

“นั้น….. ​นางหญิงเฟิง…..เอ่อเอ่อ”

ลั่วมั่นขมวดคิ้วแล้วหันหลังกลับไป รอยยิ้มบนใบหน้าที่กำลังมองผู้ที่มานั้นหยุดชะงักในพริบตา แล้วเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างอย่างช้าๆ

ชายหญิงคู่หนึ่ง ผู้ชายสวมชุดสูทสีดำสำหรับผู้ชาย ผู้หญิงสวมกระโปรงสีไวน์แดง แขนแข็งแรงของผู้ชายนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกรักอันหลากหลาย เหมือนกับคู่รักที่กำลังรักกัน โดยไม่อายสายตาของคนรอบข้างเลยแม่แต่น้อย

เพียงแต่ ผู้ชายที่เหมือนกับตกหลุมรักนั้นคือ เฟิงเฉิน สามีของเธอนั้นเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+