ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว 146

Now you are reading ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว Chapter 146 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 146 ศัตรูของศัตรูคือ มิตร

“จัดตั้งทีมไม่ได้งั้นเหรอ” ส้งชิงหรูเลิกคิ้วขึ้นพลางพูดอย่างเคืองๆ “ฉันมีความสามารถตั้งมากมาย ครั้งนี้มีกี่คนในทีมของเธอที่อยู่กลุ่มของเราเธอเห็นไหม ทั้งหมดมาจากกลุ่มที่สองกันทั้งนั้น!”

เดิมทีเธอคิดว่าอะไรที่มองไม่เห็นก็เท่ากับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเดินทางไปทำธุระเรื่องธุรกิจ ปล่อยให้ลั่วมั่นและเล่อสวี้สร้างเรื่องวุ่นวายในแผนก แล้วตัวเองค่อยกลับมาสะสางเพื่อให้ดูเหมือนว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลังจากที่กลับมาจากการเดินทาง ทั้งแผนกจะกลับตาลปัตรไปหมด

นอกจากคนสนิทเพียงไม่กี่คนที่เธอพาไปด้วยยังไม่ถูกลั่วมั่นควบคุม นอกนั้นก็เปลี่ยนไปกันหมด ถึงแม้จะไม่เปลี่ยนไป แต่ก็ยังคงต้องคอยจับตาดู เพราะไม่มีใครกล้าสนับสนุนเธอจริงๆ

สิ่งที่ทำให้เธอกังวลยิ่งกว่านั้นก็คือโครงการโรงแรมHY

ผู้ช่วยที่ติดตามเธอกำลังยุ่งอยู่กับการปลอบโยน

“อย่าโกรธไปเลยนะคะ โกรธไปก็ไม่คุ้มค่าหรอกนะคะ”

ส้งชิงหรูไม่สนใจที่จะฟังคำปลอบโยนไร้ประโยชน์เหล่านี้ เธอหันหน้าไปทางสระว่ายน้ำพลางพูดอู้อี้ “โอเค ฉันอยากอยู่เงียบๆ เธอกลับไปได้แล้ว”

ผู้ช่วยไม่กล้าพูดอะไรไปมากกว่านี้ ทำได้เพียงแค่ค่อยๆเดินออกไป

ภายในห้องน้ำเงียบสงัด ส้งชิงหรูจ้องมองตัวเองในกระจก เธอที่กำลังโกรธหยิบลิปสติกสีแดงออกมาจากกระเป๋าก่อนจะเขียนตัวอักษร “TLX” ลงบนกระจก

เธอต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองได้เข้ามาในบริษัทH.Y. ทั้งยังต้องใช้ความสามารถอย่างมากในการก้าวขึ้นจากพนักงานขายประจำแผนกเป็นรองผู้อำนวยการในเวลาเพียงสามปี เพื่อให้ได้ตำแหน่งในการประชุมระดับสูง และต้องเจอกับคนๆนั้นทุกอาทิตย์

ตอนนี้ทุกอย่างพังพินาศ เพราะนังผู้หญิงคนนั้น ลั่วมั่น

เมื่อนึกได้เช่นนี้ ลิปสติกในมือของเธอก็เฉือนกากบาทสีแดงขนาดใหญ่ทับบนตัวอักษรสามตัวราวกับว่ามันจะทำให้คน ๆ นี้หายไป

“ลั่ว มั่น ตอนนี้ผู้อำนวยการส้งไม่พอใจเธออยู่เหรอคะ”

ทันใดนั้นเอง ส้งชิงหรูหน้าซีดทันทีที่เสียงของผู้หญิงก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของเธอ เธอรีบเช็ดลิปสติกสีแดงบนกระจก แต่ยิ่งเช็ดเท่าไหร่ก็ยิ่งเละเทะมากเท่านั้น

ผ่านกระจกสีแดงที่ดูน่าตกใจ ส้งชิงหรูมองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลัง เธอดูสวย แต่กลับเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเจอมาก่อนในบริษัท

“คุณเป็นใคร”

“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเวินน๋อน เป็นเลขาคนใหม่ของประธานเฟิง”

เมื่อมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ส้งชิงหรูรู้สึกประหลาดในใจ เธอนึกถึงข่าวลือในบริษัทช่วงที่เธอเดินทางไปทำธุรกิจ ผู้หญิงคนนี้คือเลขาคนใหม่ของประธานเฟิงอย่างนั้นเหรอ

“อย่างนั้นเองเหรอคะ ฉันไม่อยู่ตอนที่คุณเข้ามาเริ่มงาน เพราะอย่างนั้นเลยไม่เคยได้เจอคุณเลย ต้องขอโทษด้วยนะคะ” เธอกล่าวทักทายอย่างพอเป็นพิธี จากนั้นก็รีบเอากระดาษเช็ดรอยลิปสติกบนกระจก

“จริงๆแล้วการสาปแช่งลับหลังดูจะเป็นเรื่องเด็กๆไปแล้วนะคะ มันไม่มีประโยชน์อะไร ฉันเชื่อว่าคนเราสามารถพิชิตสวรรค์ได้”

น้ำเสียงของเวินน๋อนฟังดูไม่ดีเท่าไหร่นัก ทำให้ส้งชิงหรูถึงขั้นหันกลับมา “คุณหมายความว่าอย่างไร”

“ขอเพียงลั่วมั่นออกจากตำแหน่งฝ่ายขาย หนูน้อยเล่อสวี้ก็ยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึง ท้ายที่สุดคุณก็จะได้เป็นผู้นำฝ่ายขายแต่เพียงผู้เดียว ใช่ไหมคะ ผู้อำนวยการส้ง”

“……”

หลังจากที่ลั่วมั่นไปส่งเล่อสวี้ที่สนามบินแล้ว ท้องฟ้าก็เริ่มมีฝนโปรยลงมาเล็กน้อย มีอุบัติเหตุทางรถยนต์เกิดขึ้นถึงสองเหตุการณ์ ทำให้ผู้คนที่พบเห็นต่างพากันตกใจ

หลังจากขับรถเป็นเวลานาน เธอก็ปล่อยลมหายใจออกมาเบา ๆ ซึ่งมันทำให้อารมณ์ของเธอสงบลงตลอดช่วงเช้านี้

แม้ว่าเฟิงเฉินจะย้ำแล้วย้ำเล่าว่าหัวใจของเขาไม่ได้อยู่ที่เวินน๋อนอีกต่อไป เธอเองก็เชื่อในสิ่งที่เขาพูด แต่ถ้ามีลูกนอกสมรสเกิดขึ้น มันจะยิ่งทำให้เรื่องยุ่งยากไปกันใหญ่ เธอไม่สามารถรับประกันได้ว่าสิ่งนี้จะกลายเป็นรอยร้าวในชีวิตแต่งงานของทั้งสองคนไหม แต่ตอนนี้มันจบแล้วเพราะเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกเขาของ

ทันทีที่ลงจากทางด่วนก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้ช่วย น่าน่า

“ประธานลั่วคะ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ เกิดเรื่องขึ้นแล้ว”

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“จ้าวหมิงไปที่ภูเขาหลงหูและยังไม่กลับมาเลย อีกทั้งยังติดต่อไม่ได้อีกด้วย เมื่อครู่มีข่าวบอกเพียงว่าเกิดดินถล่มบนภูเขาหลงหู เป็นเส้นทางที่จ้าวหมิงใช้ค่ะ”

“อะไรนะ”

สีหน้าของลั่วมั่นเปลี่ยนไป “เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว 146

Now you are reading ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว Chapter 146 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 146 ศัตรูของศัตรูคือ มิตร

“จัดตั้งทีมไม่ได้งั้นเหรอ” ส้งชิงหรูเลิกคิ้วขึ้นพลางพูดอย่างเคืองๆ “ฉันมีความสามารถตั้งมากมาย ครั้งนี้มีกี่คนในทีมของเธอที่อยู่กลุ่มของเราเธอเห็นไหม ทั้งหมดมาจากกลุ่มที่สองกันทั้งนั้น!”

เดิมทีเธอคิดว่าอะไรที่มองไม่เห็นก็เท่ากับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเดินทางไปทำธุระเรื่องธุรกิจ ปล่อยให้ลั่วมั่นและเล่อสวี้สร้างเรื่องวุ่นวายในแผนก แล้วตัวเองค่อยกลับมาสะสางเพื่อให้ดูเหมือนว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลังจากที่กลับมาจากการเดินทาง ทั้งแผนกจะกลับตาลปัตรไปหมด

นอกจากคนสนิทเพียงไม่กี่คนที่เธอพาไปด้วยยังไม่ถูกลั่วมั่นควบคุม นอกนั้นก็เปลี่ยนไปกันหมด ถึงแม้จะไม่เปลี่ยนไป แต่ก็ยังคงต้องคอยจับตาดู เพราะไม่มีใครกล้าสนับสนุนเธอจริงๆ

สิ่งที่ทำให้เธอกังวลยิ่งกว่านั้นก็คือโครงการโรงแรมHY

ผู้ช่วยที่ติดตามเธอกำลังยุ่งอยู่กับการปลอบโยน

“อย่าโกรธไปเลยนะคะ โกรธไปก็ไม่คุ้มค่าหรอกนะคะ”

ส้งชิงหรูไม่สนใจที่จะฟังคำปลอบโยนไร้ประโยชน์เหล่านี้ เธอหันหน้าไปทางสระว่ายน้ำพลางพูดอู้อี้ “โอเค ฉันอยากอยู่เงียบๆ เธอกลับไปได้แล้ว”

ผู้ช่วยไม่กล้าพูดอะไรไปมากกว่านี้ ทำได้เพียงแค่ค่อยๆเดินออกไป

ภายในห้องน้ำเงียบสงัด ส้งชิงหรูจ้องมองตัวเองในกระจก เธอที่กำลังโกรธหยิบลิปสติกสีแดงออกมาจากกระเป๋าก่อนจะเขียนตัวอักษร “TLX” ลงบนกระจก

เธอต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองได้เข้ามาในบริษัทH.Y. ทั้งยังต้องใช้ความสามารถอย่างมากในการก้าวขึ้นจากพนักงานขายประจำแผนกเป็นรองผู้อำนวยการในเวลาเพียงสามปี เพื่อให้ได้ตำแหน่งในการประชุมระดับสูง และต้องเจอกับคนๆนั้นทุกอาทิตย์

ตอนนี้ทุกอย่างพังพินาศ เพราะนังผู้หญิงคนนั้น ลั่วมั่น

เมื่อนึกได้เช่นนี้ ลิปสติกในมือของเธอก็เฉือนกากบาทสีแดงขนาดใหญ่ทับบนตัวอักษรสามตัวราวกับว่ามันจะทำให้คน ๆ นี้หายไป

“ลั่ว มั่น ตอนนี้ผู้อำนวยการส้งไม่พอใจเธออยู่เหรอคะ”

ทันใดนั้นเอง ส้งชิงหรูหน้าซีดทันทีที่เสียงของผู้หญิงก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของเธอ เธอรีบเช็ดลิปสติกสีแดงบนกระจก แต่ยิ่งเช็ดเท่าไหร่ก็ยิ่งเละเทะมากเท่านั้น

ผ่านกระจกสีแดงที่ดูน่าตกใจ ส้งชิงหรูมองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลัง เธอดูสวย แต่กลับเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเจอมาก่อนในบริษัท

“คุณเป็นใคร”

“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเวินน๋อน เป็นเลขาคนใหม่ของประธานเฟิง”

เมื่อมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ส้งชิงหรูรู้สึกประหลาดในใจ เธอนึกถึงข่าวลือในบริษัทช่วงที่เธอเดินทางไปทำธุรกิจ ผู้หญิงคนนี้คือเลขาคนใหม่ของประธานเฟิงอย่างนั้นเหรอ

“อย่างนั้นเองเหรอคะ ฉันไม่อยู่ตอนที่คุณเข้ามาเริ่มงาน เพราะอย่างนั้นเลยไม่เคยได้เจอคุณเลย ต้องขอโทษด้วยนะคะ” เธอกล่าวทักทายอย่างพอเป็นพิธี จากนั้นก็รีบเอากระดาษเช็ดรอยลิปสติกบนกระจก

“จริงๆแล้วการสาปแช่งลับหลังดูจะเป็นเรื่องเด็กๆไปแล้วนะคะ มันไม่มีประโยชน์อะไร ฉันเชื่อว่าคนเราสามารถพิชิตสวรรค์ได้”

น้ำเสียงของเวินน๋อนฟังดูไม่ดีเท่าไหร่นัก ทำให้ส้งชิงหรูถึงขั้นหันกลับมา “คุณหมายความว่าอย่างไร”

“ขอเพียงลั่วมั่นออกจากตำแหน่งฝ่ายขาย หนูน้อยเล่อสวี้ก็ยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึง ท้ายที่สุดคุณก็จะได้เป็นผู้นำฝ่ายขายแต่เพียงผู้เดียว ใช่ไหมคะ ผู้อำนวยการส้ง”

“……”

หลังจากที่ลั่วมั่นไปส่งเล่อสวี้ที่สนามบินแล้ว ท้องฟ้าก็เริ่มมีฝนโปรยลงมาเล็กน้อย มีอุบัติเหตุทางรถยนต์เกิดขึ้นถึงสองเหตุการณ์ ทำให้ผู้คนที่พบเห็นต่างพากันตกใจ

หลังจากขับรถเป็นเวลานาน เธอก็ปล่อยลมหายใจออกมาเบา ๆ ซึ่งมันทำให้อารมณ์ของเธอสงบลงตลอดช่วงเช้านี้

แม้ว่าเฟิงเฉินจะย้ำแล้วย้ำเล่าว่าหัวใจของเขาไม่ได้อยู่ที่เวินน๋อนอีกต่อไป เธอเองก็เชื่อในสิ่งที่เขาพูด แต่ถ้ามีลูกนอกสมรสเกิดขึ้น มันจะยิ่งทำให้เรื่องยุ่งยากไปกันใหญ่ เธอไม่สามารถรับประกันได้ว่าสิ่งนี้จะกลายเป็นรอยร้าวในชีวิตแต่งงานของทั้งสองคนไหม แต่ตอนนี้มันจบแล้วเพราะเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกเขาของ

ทันทีที่ลงจากทางด่วนก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้ช่วย น่าน่า

“ประธานลั่วคะ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ เกิดเรื่องขึ้นแล้ว”

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“จ้าวหมิงไปที่ภูเขาหลงหูและยังไม่กลับมาเลย อีกทั้งยังติดต่อไม่ได้อีกด้วย เมื่อครู่มีข่าวบอกเพียงว่าเกิดดินถล่มบนภูเขาหลงหู เป็นเส้นทางที่จ้าวหมิงใช้ค่ะ”

“อะไรนะ”

สีหน้าของลั่วมั่นเปลี่ยนไป “เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+