ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว 63

Now you are reading ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว Chapter 63 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 63 กลับบ้านค่อยบอกคุณ

ลั่วมั่นขมวดคิ้ว ฟังดูแล้ว เรื่องที่เฟิงเฉินพูดไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องที่เธอต้องการถาม

แต่ในเมื่อเฟิงเฉินเอ่ยถึงเรื่องนี้ นั่นก็หมายความว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับนิสัยที่เปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ของเล่อสวี้เมื่อสองปีก่อนเป็นอย่างมาก

ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ยาวมาก แม้ว่าเฟิงเฉินจะอธิบายอย่างกระชับ แต่ก็พูดมาตลอดทาง รถจอดอยู่ที่ปากทางเข้าวิลล่าจิ่นซิ่ว ลั่วมั่นยังคงเอ่ยถามไม่หยุด

“ไม่ถูกต้องนินา ในเมื่อทั้งสองคนมีความรู้สึกที่ไม่ลงรอยกัน ทำไมถึงได้กลายเป็นคู่หมั้นเสียล่ะ ไปหมั้นกันตอนไหนหรือ”

“หนึ่งปีก่อน ตอนที่เล่อสวี้เป็นฝ่ายไปดำเนินเรื่องขอลาออกที่ฝ่ายบุคคลครั้งแรก”

“เธอเคยเป็นฝ่ายยื่นเรื่องขอลาออกด้วยหรือ”

เฟิงเฉินปลดเข็มขัดนิรภัยบนร่างของตัวเองออก

“ลงรถก่อน กลับบ้านแล้วผมค่อยบอกคุณ”

ลั่วมั่นไม่ได้สังเกตเห็นถึงความสนิทสนมในคำพูดนี้ หันหน้าไปผลักประตูรถให้เปิดออก ลงจากรถ รอเฟิงเฉินเดินเข้าประตูบ้านพร้อมกัน

แม่บ้านหลีเห็นทั้งสองคนกลับมาด้วยกัน ทั้งยังเดินไป พูดคุยกันไป จึงรู้สึกมึนงง แอบหยิกต้นขาตัวเองไปทีหนึ่ง ถึงจะเชื่อว่าตัวเองไม่ได้สายตาฝ้าฟาง เมื่อตื่นเต้นก็พุ่งตัวไปที่ห้องครัว ตะโกนว่า

“ให้แม่ครัวบวกอาหารเพิ่มอีกสองเมนู”

“ดังนั้น ความหมายของคุณก็คือ จ้าวหยางหลอกใช้เล่อสวี้มาโดยตลอด” ลั่วมั่นกลืนน้ำแกงลงไปคำหนึ่ง สีหน้าประหลาดใจ

“ดูแล้วไม่ค่อยเหมือนสินะ” เฟิงเฉินเห็นใบหน้าลั่วมั่นที่เต็มไปด้วยความตะลึง ก็เข้าใจผิดไป “เล่อสวี้ที่เป็นแบบนั้น ดูไม่ค่อยเหมือนคนที่จะยอมรับความลำบากโดยไม่ขัดขืนได้ง่ายๆ”

“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” ลั่วมั่นขมวดคิ้ว

เธอไม่ได้คิดถึงเล่อสวี้ แต่รู้สึกเพียงแค่ว่าจ้าวหยางไม่เหมือนคนประเภทนั้น ถึงอย่างไรเธอก็เคยพบกับจ้าวหยางมาก่อน นิสัยไม่เลวเลยจริงๆ ในบรรดาคนระดับสูงที่เป็นวัยรุ่น เขาเป็นคนที่มีมารยาทมากที่สุด เขาก็ไม่โอหังและถือดี บนร่างก็มีความใจเย็นอันน้อยนักที่ผู้ชายในวัยเท่านี้จะมี

“ไม่ว่าเด็กสาวที่มองแล้วจะไม่อยู่ในกฎเกณฑ์แค่ไหน ตอนที่เผชิญหน้ากับคนบางคน ก็ล้วนยอมรับความลำบากโดยไม่ขัดขืน”

เมื่อได้ยินดังนั้น แววตาของเฟิงเฉินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาที่มองไปทางลั่วมั่นนั้นมีแววค้นหา

เมื่อเห็นสายตาที่แฝงไปด้วยความใจกว้างที่รู้ซึ้งถึงความรู้สึกหลายส่วนของเธอภายใต้แสงไฟอ่อนๆ คล้ายกับว่าเคยผ่านมาก่อน

ในใจของเขาก็กระตุกขึ้นมากะทันหัน เหมือนกับวุ่นวายใจ ภาพส่วนเล็กส่วนน้อยในอดีตมากมายเกี่ยวพันกันไม่ชัดเจนในสมอง

ลั่วมั่นกลับหลบสายตาเฟิงเฉิน

โชคดีที่แม่บ้านหลีพาคนรับใช้มาเสิร์ฟอาหาร ความกระตือรือร้นในการอธิบายนั้นแก้สถานการณ์ที่กำลังจะตกอยู่ในความเงียบงันที่จะมาถึงนี้ได้

“ปลาหมึกนึ่งที่คุณชายชอบทาน ผัดเปรี้ยวหวานกระดูกหมูที่คุณผู้หญิงชอบทาน ยากนักที่คุณชายกับคุณผู้หญิงจะกลับมาทานอาหารมื้อเย็น จะต้องทานให้เยอะหน่อยนะคะ”

ทั้งสองคนพยักหน้า ถือว่าตอบรับความปรารถนาดีของแม่บ้านหลี

แม่บ้านหลีกลับไม่มีทีท่าว่าจะจากไป จู่ๆเธอก็นึกถึงเรื่องที่เฟิงเฉินกำชับคนให้ส่งหลัวแมนจีจากไปในตอนเช้า ในใจก็เกิดคิดเล็กคิดน้อยขึ้นมา จึงรีบตีเหล็กในตอนร้อนๆ

“คุณผู้หญิงบำรุงร่างกายให้ดีแล้ว จะได้ให้กำเนิดเด็กๆเร็วๆ บ้านหลังนี้ก็จะครื้นเครงแล้ว”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ลั่วมั่นก็สำลักน้ำแกงคำหนึ่ง ปิดปากไอไม่ยอมหยุด

“แค่กๆ……”

“ไอ้หยา เป็นอะไรไปคะ” แม่บ้านหลีรีบคว้ากระดาษเช็ดหน้าสองแผ่นยื่นไปให้ คนรับใช้ที่อยู่ด้านข้างก็ช่วยเปลี่ยนอุปกรณ์ทานอาหารด้านหน้าลั่วมั่นให้อีกชุดหนึ่ง

“ไม่เป็นไรๆ แค่สำลักน่ะ ไม่ต้องสนใจฉัน คุณไปทำธุระของคุณเถอะ” ลั่วมั่นดันร่างแม่บ้านหลีด้วยท่าทางที่แทบจะอดรนทนไม่ไหวให้เธอจากไปเร็วหน่อย

เฟิงเฉินชำเลืองมองหญิงสาวที่พยายามโค้งตัวปิดบังใบหน้าของตัวเอง รอยแดงระเรื่อบนใบหน้านั้นตกอยู่ในสายตาของเขาอย่างไม่ผิดพลาด ดังนั้นหางตาจึงยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว เผยร่องรอยขบขันออกมาสามส่วน

ไม่รู้ว่าทำไม สมองของเขาจึงมีคำพูดของแม่บ้านหลีวนอยู่

ถ้าหากว่ามีเด็กสักคนล่ะก็ ที่นี่ก็น่าจะครื้นเครงเล็กน้อย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว 63

Now you are reading ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว Chapter 63 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 63 กลับบ้านค่อยบอกคุณ

ลั่วมั่นขมวดคิ้ว ฟังดูแล้ว เรื่องที่เฟิงเฉินพูดไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องที่เธอต้องการถาม

แต่ในเมื่อเฟิงเฉินเอ่ยถึงเรื่องนี้ นั่นก็หมายความว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับนิสัยที่เปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ของเล่อสวี้เมื่อสองปีก่อนเป็นอย่างมาก

ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ยาวมาก แม้ว่าเฟิงเฉินจะอธิบายอย่างกระชับ แต่ก็พูดมาตลอดทาง รถจอดอยู่ที่ปากทางเข้าวิลล่าจิ่นซิ่ว ลั่วมั่นยังคงเอ่ยถามไม่หยุด

“ไม่ถูกต้องนินา ในเมื่อทั้งสองคนมีความรู้สึกที่ไม่ลงรอยกัน ทำไมถึงได้กลายเป็นคู่หมั้นเสียล่ะ ไปหมั้นกันตอนไหนหรือ”

“หนึ่งปีก่อน ตอนที่เล่อสวี้เป็นฝ่ายไปดำเนินเรื่องขอลาออกที่ฝ่ายบุคคลครั้งแรก”

“เธอเคยเป็นฝ่ายยื่นเรื่องขอลาออกด้วยหรือ”

เฟิงเฉินปลดเข็มขัดนิรภัยบนร่างของตัวเองออก

“ลงรถก่อน กลับบ้านแล้วผมค่อยบอกคุณ”

ลั่วมั่นไม่ได้สังเกตเห็นถึงความสนิทสนมในคำพูดนี้ หันหน้าไปผลักประตูรถให้เปิดออก ลงจากรถ รอเฟิงเฉินเดินเข้าประตูบ้านพร้อมกัน

แม่บ้านหลีเห็นทั้งสองคนกลับมาด้วยกัน ทั้งยังเดินไป พูดคุยกันไป จึงรู้สึกมึนงง แอบหยิกต้นขาตัวเองไปทีหนึ่ง ถึงจะเชื่อว่าตัวเองไม่ได้สายตาฝ้าฟาง เมื่อตื่นเต้นก็พุ่งตัวไปที่ห้องครัว ตะโกนว่า

“ให้แม่ครัวบวกอาหารเพิ่มอีกสองเมนู”

“ดังนั้น ความหมายของคุณก็คือ จ้าวหยางหลอกใช้เล่อสวี้มาโดยตลอด” ลั่วมั่นกลืนน้ำแกงลงไปคำหนึ่ง สีหน้าประหลาดใจ

“ดูแล้วไม่ค่อยเหมือนสินะ” เฟิงเฉินเห็นใบหน้าลั่วมั่นที่เต็มไปด้วยความตะลึง ก็เข้าใจผิดไป “เล่อสวี้ที่เป็นแบบนั้น ดูไม่ค่อยเหมือนคนที่จะยอมรับความลำบากโดยไม่ขัดขืนได้ง่ายๆ”

“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” ลั่วมั่นขมวดคิ้ว

เธอไม่ได้คิดถึงเล่อสวี้ แต่รู้สึกเพียงแค่ว่าจ้าวหยางไม่เหมือนคนประเภทนั้น ถึงอย่างไรเธอก็เคยพบกับจ้าวหยางมาก่อน นิสัยไม่เลวเลยจริงๆ ในบรรดาคนระดับสูงที่เป็นวัยรุ่น เขาเป็นคนที่มีมารยาทมากที่สุด เขาก็ไม่โอหังและถือดี บนร่างก็มีความใจเย็นอันน้อยนักที่ผู้ชายในวัยเท่านี้จะมี

“ไม่ว่าเด็กสาวที่มองแล้วจะไม่อยู่ในกฎเกณฑ์แค่ไหน ตอนที่เผชิญหน้ากับคนบางคน ก็ล้วนยอมรับความลำบากโดยไม่ขัดขืน”

เมื่อได้ยินดังนั้น แววตาของเฟิงเฉินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาที่มองไปทางลั่วมั่นนั้นมีแววค้นหา

เมื่อเห็นสายตาที่แฝงไปด้วยความใจกว้างที่รู้ซึ้งถึงความรู้สึกหลายส่วนของเธอภายใต้แสงไฟอ่อนๆ คล้ายกับว่าเคยผ่านมาก่อน

ในใจของเขาก็กระตุกขึ้นมากะทันหัน เหมือนกับวุ่นวายใจ ภาพส่วนเล็กส่วนน้อยในอดีตมากมายเกี่ยวพันกันไม่ชัดเจนในสมอง

ลั่วมั่นกลับหลบสายตาเฟิงเฉิน

โชคดีที่แม่บ้านหลีพาคนรับใช้มาเสิร์ฟอาหาร ความกระตือรือร้นในการอธิบายนั้นแก้สถานการณ์ที่กำลังจะตกอยู่ในความเงียบงันที่จะมาถึงนี้ได้

“ปลาหมึกนึ่งที่คุณชายชอบทาน ผัดเปรี้ยวหวานกระดูกหมูที่คุณผู้หญิงชอบทาน ยากนักที่คุณชายกับคุณผู้หญิงจะกลับมาทานอาหารมื้อเย็น จะต้องทานให้เยอะหน่อยนะคะ”

ทั้งสองคนพยักหน้า ถือว่าตอบรับความปรารถนาดีของแม่บ้านหลี

แม่บ้านหลีกลับไม่มีทีท่าว่าจะจากไป จู่ๆเธอก็นึกถึงเรื่องที่เฟิงเฉินกำชับคนให้ส่งหลัวแมนจีจากไปในตอนเช้า ในใจก็เกิดคิดเล็กคิดน้อยขึ้นมา จึงรีบตีเหล็กในตอนร้อนๆ

“คุณผู้หญิงบำรุงร่างกายให้ดีแล้ว จะได้ให้กำเนิดเด็กๆเร็วๆ บ้านหลังนี้ก็จะครื้นเครงแล้ว”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ลั่วมั่นก็สำลักน้ำแกงคำหนึ่ง ปิดปากไอไม่ยอมหยุด

“แค่กๆ……”

“ไอ้หยา เป็นอะไรไปคะ” แม่บ้านหลีรีบคว้ากระดาษเช็ดหน้าสองแผ่นยื่นไปให้ คนรับใช้ที่อยู่ด้านข้างก็ช่วยเปลี่ยนอุปกรณ์ทานอาหารด้านหน้าลั่วมั่นให้อีกชุดหนึ่ง

“ไม่เป็นไรๆ แค่สำลักน่ะ ไม่ต้องสนใจฉัน คุณไปทำธุระของคุณเถอะ” ลั่วมั่นดันร่างแม่บ้านหลีด้วยท่าทางที่แทบจะอดรนทนไม่ไหวให้เธอจากไปเร็วหน่อย

เฟิงเฉินชำเลืองมองหญิงสาวที่พยายามโค้งตัวปิดบังใบหน้าของตัวเอง รอยแดงระเรื่อบนใบหน้านั้นตกอยู่ในสายตาของเขาอย่างไม่ผิดพลาด ดังนั้นหางตาจึงยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว เผยร่องรอยขบขันออกมาสามส่วน

ไม่รู้ว่าทำไม สมองของเขาจึงมีคำพูดของแม่บ้านหลีวนอยู่

ถ้าหากว่ามีเด็กสักคนล่ะก็ ที่นี่ก็น่าจะครื้นเครงเล็กน้อย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+