ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว 144

Now you are reading ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว Chapter 144 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 144 นายมันบ้าไปแล้ว ปล่อยฉันนะ

เมื่อนึกถึงหน้าของเฟิงจิ่ง ลั่วมั่นก็รีบโบกมือทันที เธอมองไปยังเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้พลางบอกปัด

“ฉันสายแล้วล่ะ ต้องไปบริษัทน่ะ ช่วยบอกพ่อแม่ให้ทีนะ”

ตอนที่มาถึงบริษัทก็เป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้ว เล่อสวี้ที่กลับมาจากการเดินทางไปทำธุระเรื่องธุรกิจ มีกำหนดประชุมแผนกในเช้าวันจันทร์เวลา 9 โมง เธอมีเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง หลังจากการประชุมก็ต้องเดินทางไปที่ธุรกิจถัดไป

“เธอเป็นประธานปารประชุมไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะรีบไป”

หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ ลั่วมั่นที่อยู่บนรองเท้าส้นสูงเธอสับขาก้าวเข้าไปในลิฟต์ หลังจากที่ขึ้นลิฟต์แล้ว เธอเหม่ออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรู้ตัวว่าลิฟต์กำลังไปที่โรงจอดรถใต้ดิน เธอทำได้เพียงแค่จ้องมองนาฬิกาเพื่อนับเวลา

“ติ๊ง” ประตูลิฟต์เปิดออกอย่างช้าๆในโรงจอดรถชั้นหนึ่ง เมื่อเห็นว่าที่ทางเข้าไม่มีใคร ลั่วมั่นจึงเอื้อมมือไปกดปุ่มปิดลิฟต์ ทันทีที่มือแตะถึงปุ่ม ก็มีเสียงหนึ่งที่คุ้นเคยดังเข้ามาจากนอกลิฟต์

“เวินน๋อน เธออธิบายให้ฉันเข้าใจที ที่เฮ่าเฮ่าป่วย ทำไมมั่นมั่นเป็นคนไปส่งเขาที่โรงพยาบาล เธออยู่ที่ไหน”

เวลาที่ได้ยินคนอื่นพูดถึงชื่อของตัวเอง ใครๆก็มีปฏิกิริยาตอบสนองกันทั้งนั้น ตอนนี้ลั่วมั่นรีบกดเปิดประตูลิฟต์อย่างรวดเร็วและค่อยๆเดินออกจากลิฟต์อย่างเงียบๆ

เสียงดังมาจากทางเดินตึก เสียงของชายหนุ่มเป็นเสียงที่เธอคุ้นเคย คนที่เธอทานอาหารโต๊ะเดียวกันกับเขาเมื่อคืนที่คฤหาสน์เฟิง ส่วนผู้หญิง…

“นี่มันเรื่องของฉัน เฮ่าเฮ่าคือลูกชายของฉัน ฉันจะไม่ดูแลเขาได้ยังไง ต้องการให้พวกคุณทีละคนคอยชี้ไม้ชี้มือสั่งฉันอย่างนั้นเหรอ”

คือเวินน๋อน

ลั่วมั่นหยุดฝีเท้าและมองไปที่ประตูทางเดินที่มีเสียงดังเล็ดลอดออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ทำไมเฟิงเซิ่งถึงได้เถียงกับเวินน๋อนล่ะ ที่พวกเขาสองคนจะรู้จักกันมันก็ไม่แปลก แต่ทำไมถึงดูสนิทสนมกันขนาดนี้ล่ะ

ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น จู่ๆเสียงร้องกรี๊ดของผู้หญิงก็ดังมาจากประตูทางเข้า “นายมันบ้าไปแล้ว ปล่อยฉันนะ ที่นี่บริษัทH.Y.นะ นายคิดจะทำอะไร”

ลั่วมั่นตกใจพลางจะเดินไปข้างหน้า แต่แล้วจู่ๆก็ได้ยินเสียงอู้อี้ที่ฟังไม่ถนัดพร้อมกับเสียงหายใจหนักๆของชายหนุ่ม มันทำให้เธอหยุดฝีเท้าอยู่กับที่ ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นกลัว

เฟิงเซิ่งหายใจหอบ

“เวินน๋อน เฮ่าเฮ่าก็เป็นลูกของฉัน เธอเองก็รู้ดีนี่……”

ทันใดนั้น ที่ทางเดินก็มีเสียงฝีเท้าของชายหนุ่มหลังจากที่ถูกผลักออก ตามมาด้วยเสียงด่าทอที่ฟังดูน่ารำคาญของฝ่ายหญิง “เขาไม่ใช่ ไม่มีทางเป็นไปได้ เซิ่ง ฉันขอให้นายลืมเรื่องความสัมพันธ์ครั้งก่อน ลืมมันไปซะ เด็กคนนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาย”

คำพูดเหล่านี้ราวกับเป็นเสียงฟ้าร้องในใจของลั่วมั่น

แม้ว่าเวินน๋อนจะปฏิเสธอย่างหนักแน่น แต่น้ำเสียงของเธอที่พูดคำเหล่านี้ก็เหมือนยอมรับไปแล้วว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของเฟิงเซิ่ง

ไม่ว่าระหว่างเวินน๋อนกับเฟิงเซิ่งจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นในอดีต แต่ก็สรุปได้ว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของเฟิงเฉิน คนเป็นพ่อเด็กคืออีกคนหนึ่ง

ลั่วมั่นตกตะลึง

ที่ทางเดินตึกยังคงมีเสียงทะเลาะเรื่องเด็กกันอยู่

จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นในโรงรถ เสียงทะเลาะเงียบลง

“ใครอยู่ข้างนอกน่ะ” น้ำเสียงของเวินน๋อนนั้นแฝงไปด้วยความหวาดกลัว

ลั่วมั่นรีบเข้าไปในลิฟต์โดยถือโทรศัพท์มือถือไว้ในมือ

เวินน๋อนไล่ตามเสียงรองเท้าส้นสูง แต่มันก็สายไป เธอเห็นเพียงประตูลิฟต์ที่ปิดสนิท ที่พื้นคอนกรีตมีเข็มกลัดมรกตเปล่งแสงสีเขียวจาง ๆ ตกอยู่บนพื้น

“ใครน่ะ” เฟิงเซิ่งวิ่งตามไล่หลังมา

เวินน๋อนขมวดคิ้ว สีหน้าดูประหม่า

“เห็นแค่นี้”

เพียงแค่ส่งเข็มกลัดนี่ไปยังแผนกของสูญหายของแผนกต้อนรับ ในที่สุดก็จะได้รู้ว่าคนที่มาร้องเรียนคือใคร และไม่ว่าจะเป็นใครแค่ส่งของเล็กๆน้อยๆเพื่อเป็นการปิดปากเธอก็น่าจะรู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร

เฟิงเซิ่งกวาดตามองเข็มกลัดพลางเอ่ยขึ้นด้วยความลังเล “เข็มกลัดนี้ รู้สึกคุ้นตาชะมัด”

“คุ้นตาเหรอ” สีหน้าของเวินน๋อนเปลี่ยนไป เธอยื่นเข็มกลัดไปตรงหน้าเขาพลางเอ่ยถาม “นายรู้ไหมว่าเป็นของใคร”

“ดูเหมือนจะเป็น…ของมั่นมั่น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว 144

Now you are reading ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว Chapter 144 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 144 นายมันบ้าไปแล้ว ปล่อยฉันนะ

เมื่อนึกถึงหน้าของเฟิงจิ่ง ลั่วมั่นก็รีบโบกมือทันที เธอมองไปยังเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้พลางบอกปัด

“ฉันสายแล้วล่ะ ต้องไปบริษัทน่ะ ช่วยบอกพ่อแม่ให้ทีนะ”

ตอนที่มาถึงบริษัทก็เป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้ว เล่อสวี้ที่กลับมาจากการเดินทางไปทำธุระเรื่องธุรกิจ มีกำหนดประชุมแผนกในเช้าวันจันทร์เวลา 9 โมง เธอมีเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง หลังจากการประชุมก็ต้องเดินทางไปที่ธุรกิจถัดไป

“เธอเป็นประธานปารประชุมไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะรีบไป”

หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ ลั่วมั่นที่อยู่บนรองเท้าส้นสูงเธอสับขาก้าวเข้าไปในลิฟต์ หลังจากที่ขึ้นลิฟต์แล้ว เธอเหม่ออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรู้ตัวว่าลิฟต์กำลังไปที่โรงจอดรถใต้ดิน เธอทำได้เพียงแค่จ้องมองนาฬิกาเพื่อนับเวลา

“ติ๊ง” ประตูลิฟต์เปิดออกอย่างช้าๆในโรงจอดรถชั้นหนึ่ง เมื่อเห็นว่าที่ทางเข้าไม่มีใคร ลั่วมั่นจึงเอื้อมมือไปกดปุ่มปิดลิฟต์ ทันทีที่มือแตะถึงปุ่ม ก็มีเสียงหนึ่งที่คุ้นเคยดังเข้ามาจากนอกลิฟต์

“เวินน๋อน เธออธิบายให้ฉันเข้าใจที ที่เฮ่าเฮ่าป่วย ทำไมมั่นมั่นเป็นคนไปส่งเขาที่โรงพยาบาล เธออยู่ที่ไหน”

เวลาที่ได้ยินคนอื่นพูดถึงชื่อของตัวเอง ใครๆก็มีปฏิกิริยาตอบสนองกันทั้งนั้น ตอนนี้ลั่วมั่นรีบกดเปิดประตูลิฟต์อย่างรวดเร็วและค่อยๆเดินออกจากลิฟต์อย่างเงียบๆ

เสียงดังมาจากทางเดินตึก เสียงของชายหนุ่มเป็นเสียงที่เธอคุ้นเคย คนที่เธอทานอาหารโต๊ะเดียวกันกับเขาเมื่อคืนที่คฤหาสน์เฟิง ส่วนผู้หญิง…

“นี่มันเรื่องของฉัน เฮ่าเฮ่าคือลูกชายของฉัน ฉันจะไม่ดูแลเขาได้ยังไง ต้องการให้พวกคุณทีละคนคอยชี้ไม้ชี้มือสั่งฉันอย่างนั้นเหรอ”

คือเวินน๋อน

ลั่วมั่นหยุดฝีเท้าและมองไปที่ประตูทางเดินที่มีเสียงดังเล็ดลอดออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ทำไมเฟิงเซิ่งถึงได้เถียงกับเวินน๋อนล่ะ ที่พวกเขาสองคนจะรู้จักกันมันก็ไม่แปลก แต่ทำไมถึงดูสนิทสนมกันขนาดนี้ล่ะ

ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น จู่ๆเสียงร้องกรี๊ดของผู้หญิงก็ดังมาจากประตูทางเข้า “นายมันบ้าไปแล้ว ปล่อยฉันนะ ที่นี่บริษัทH.Y.นะ นายคิดจะทำอะไร”

ลั่วมั่นตกใจพลางจะเดินไปข้างหน้า แต่แล้วจู่ๆก็ได้ยินเสียงอู้อี้ที่ฟังไม่ถนัดพร้อมกับเสียงหายใจหนักๆของชายหนุ่ม มันทำให้เธอหยุดฝีเท้าอยู่กับที่ ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นกลัว

เฟิงเซิ่งหายใจหอบ

“เวินน๋อน เฮ่าเฮ่าก็เป็นลูกของฉัน เธอเองก็รู้ดีนี่……”

ทันใดนั้น ที่ทางเดินก็มีเสียงฝีเท้าของชายหนุ่มหลังจากที่ถูกผลักออก ตามมาด้วยเสียงด่าทอที่ฟังดูน่ารำคาญของฝ่ายหญิง “เขาไม่ใช่ ไม่มีทางเป็นไปได้ เซิ่ง ฉันขอให้นายลืมเรื่องความสัมพันธ์ครั้งก่อน ลืมมันไปซะ เด็กคนนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาย”

คำพูดเหล่านี้ราวกับเป็นเสียงฟ้าร้องในใจของลั่วมั่น

แม้ว่าเวินน๋อนจะปฏิเสธอย่างหนักแน่น แต่น้ำเสียงของเธอที่พูดคำเหล่านี้ก็เหมือนยอมรับไปแล้วว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของเฟิงเซิ่ง

ไม่ว่าระหว่างเวินน๋อนกับเฟิงเซิ่งจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นในอดีต แต่ก็สรุปได้ว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของเฟิงเฉิน คนเป็นพ่อเด็กคืออีกคนหนึ่ง

ลั่วมั่นตกตะลึง

ที่ทางเดินตึกยังคงมีเสียงทะเลาะเรื่องเด็กกันอยู่

จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นในโรงรถ เสียงทะเลาะเงียบลง

“ใครอยู่ข้างนอกน่ะ” น้ำเสียงของเวินน๋อนนั้นแฝงไปด้วยความหวาดกลัว

ลั่วมั่นรีบเข้าไปในลิฟต์โดยถือโทรศัพท์มือถือไว้ในมือ

เวินน๋อนไล่ตามเสียงรองเท้าส้นสูง แต่มันก็สายไป เธอเห็นเพียงประตูลิฟต์ที่ปิดสนิท ที่พื้นคอนกรีตมีเข็มกลัดมรกตเปล่งแสงสีเขียวจาง ๆ ตกอยู่บนพื้น

“ใครน่ะ” เฟิงเซิ่งวิ่งตามไล่หลังมา

เวินน๋อนขมวดคิ้ว สีหน้าดูประหม่า

“เห็นแค่นี้”

เพียงแค่ส่งเข็มกลัดนี่ไปยังแผนกของสูญหายของแผนกต้อนรับ ในที่สุดก็จะได้รู้ว่าคนที่มาร้องเรียนคือใคร และไม่ว่าจะเป็นใครแค่ส่งของเล็กๆน้อยๆเพื่อเป็นการปิดปากเธอก็น่าจะรู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร

เฟิงเซิ่งกวาดตามองเข็มกลัดพลางเอ่ยขึ้นด้วยความลังเล “เข็มกลัดนี้ รู้สึกคุ้นตาชะมัด”

“คุ้นตาเหรอ” สีหน้าของเวินน๋อนเปลี่ยนไป เธอยื่นเข็มกลัดไปตรงหน้าเขาพลางเอ่ยถาม “นายรู้ไหมว่าเป็นของใคร”

“ดูเหมือนจะเป็น…ของมั่นมั่น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+