Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke 37 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (17)

Now you are reading Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke Chapter 37 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (17) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Side Character Transmigrations: The Final Bos… บทที่ 37 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (17)

 

บทที่ 37 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (17)

 

ฉีเชิงประสบความสําเร็จในการทิ้งตากล้องไว้เบื้องหลังอย่างไม่เห็นฝุ่น ก่อนเธอ จะปีนเขาขึ้นไปตามทางอย่างสบายอุรา ส่วนพวกวีดีโอเดี๋ยวพวกเขาก็คงต้องเอาไปตัดต่อใหม่อยู่ดี เพราะฉะนั้นวีดีโอเปิดตัวนิดๆหน่อยๆในตอนต้นก็น่าจะเพียงพอแล้วอีกส่วนก็ค่อยถ่ายทําอีกที ตอนที่เธอไปถึงยอดเขาแล้ว พอเอารวมๆกันเดี๋ยวทุกอย่างก็เพอร์เฟคเองแหละ

 

“ลู่ชิงหยุน หยุดก่อน! เฮ้รอฉันด้วยสิ! นายช่วยพูดอะไรสักคําสิ? ฉันเป็นรุ่นพี่นายนะ นี้ ช้าช้าลงหน่อย! นายรู้ไหมว่าฉันทําเพื่อนายมากแค่ไหนต๊ะ -คุณเจียงงง!!” คําบ่นของซูอี้ซิ่วในตอนท้ายกลับกลายเป็นเสียงตะโกนดังลั่น “คุณเจียงคุณเจียง ทางนี้!”

 

ฉีเพิ่งเริ่มมองหาแหล่งกําเนิดเสียงซึ่งน่าจะดังออกมาจากทางเดินเล็กๆบนเขาอีกเส้นหนึ่ง ก่อนเธอจะเห็นว่าเป็นซูอี้ชิวผู้ซึ่งตอนนี้สวมชุดสูทหรูราคาแพงอยู่ อีกทั้งยังกําลังโบกไม้โบกมือให้เธออย่างตื่นเต้น และถึงแม้ว่าลุคและท่าทางจะดูขัดกันหน่อยๆแต่ก็ฮาดีนะ

 

ดูเหมือนว่าเขาจะลากเป้าหมายภารกิจที่ห่างหายไปซะนานของเธอ: ลู่ชิงหยุนมาด้วยสิ

 

“โอ้ นี่ฉันเกือบลืมเควสนี้ไปแล้วนะเนี้ย” ฉีเชิงกระโดดสไลด์ลงมาจากทางลาดชันอย่างมือโปร จนทําให้ซูอี้ซิ่วได้แต่อ้าปากค้างด้วยความทิ้งและตกตะลึง

 

“อือหือ..ทักษะทางกีฬาของผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว! ตัดภาพมาที่เจ้าลู่ชิงหยุนของ ผมดูสิ หมอเบี้ยทักษะทางกีฬานี้เรียกได้ว่าต่ําเตี้ยเรี่ยดิน แล้วลองคิดดูนะถ้าจับสองคนนี้มาคู่กัน พวกเขาก็จะสามารถชดเชยในสิ่งที่อีกฝ่ายขาดได้อย่างพอดิบพอดี งืออ..ทําไมช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันอะไรเช่นนี้

 

สายตาของซูอี้จิ๋วที่มองมานั้นราวกับแม่ผัวกําลังมองลูกสะใภ้อยู่ไม่มีผิด นี่ขนาดว่าเธอหน้าหนาแล้วนะ ยังรู้สึกอึดอัดอยู่หน่อยๆเลย “อ่า…คุณซู คุณลู่ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ

 

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะครับ เพราะผมเห็นคุณทุกวันเลยในทีวี” ซูอี้จิ๋วกะว่าจะปล่อยลู่ชิงหยุนไป แต่ก็กลัวว่าเขาจะวิ่งหนีอีก ดังนั้นขู่อี้จิ๋วก็เลยเลือกที่จะผลักเขาไปตรงหน้าของฉีเชิงแทน “แล้วนี่คุณเจียงมาทําอะไรที่นี่เหรอครับ?”

 

ลู่ชิงหยุนกวาดสายตามองไปที่นี่เพิ่งเล็กน้อย ทําท่าเหมือนจะยิ้มแต่สุดท้ายก็ไม่ แสงแดดอ่อนๆที่ส่องลอดใบไม้ลงมายิ่งทําให้พื้นที่รอบๆตัวเขาดูสว่างขึ้น และนั่นก็ทําให้เขาดูแปลกตาไปหน่อยๆ

“ดูเหมือนว่าเจ้าวายร้ายหน้าตายตัวนี้ จะมีนิสัยประหลาดเพิ่มขึ้นมาอีกแล้วสินะ เห้อ….

 

“ฉันมาถ่ายรายการน่ะค่ะ” ฉีเชิงกระพริบตาเบาๆพลางตอบออกไป

 

“Extreme World ใช้ไหม? ผมเกือบลืมไปแล้วนะเนี้ยว่าเขาจะมาถ่ายกันที่นี้วันนี้ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของลู่ชิงหยุนคนเดียวเลย ไม่งั้นผมคงได้ลงไปรับคุณเจียงที่เชิงเขาแล้วเมื่อไหร่

 

นายจะเลิกก่อเรื่องสักที? นี่ฉันต้องมาคอยตามล้างตามเช็ดให้ตลอดเลยเนี้ย นายอย่าทําตัวเหมือนพวกคนแก่ที่ชอบเรียกร้องความสนใจนักจะได้ไหม นายโตแล้วนะไม่ใช่เด็กสามขวบ บลา บลา บลา (บ่นยาวไม่หยุด) …”

.

ฉีเชิง “

 

ทุกครั้งที่เธอพบซูอี้ซิ่วบรรยากาศก็จะคล้ายๆเดิมทุกครั้ง แต่ที่ไม่ค่อยจะเหมือนเดิม…ก็คงจะเป็นคําด่าของเขาละมั้ง ไม่รู้เขามีคลังคําด่าอยู่เยอะแค่ไหน คือแอดวานซ์ขึ้นทุกครั้งที่เจออ่ะ!

 

“แต่ทําม่าย ทําไม เธอไม่ยักกะชินกับเขาสักที”

 

หลังจากเขาร่ายยาวสั่งสอนลู่ชิงหยุนเสร็จ เขาก็ผลักหมอนั่นเข้ามาหาเธออีกที ก่อนจะพูดเชิงขู่ว่า “ลู่ชิงหยุนเดินขึ้นไปส่งคุณเจียงบนยอดเขาซะดีๆ ถ้าขึ้นนายกล้าวิ่งหนีกลางทางนะ นายได้โดนดีแน่ ไม่เชื่อก็ลองดู!!”

 

ตอนแรกลู่ชิงหยุนอ้าปากเหมือนจะพูดปฏิเสธออกมา แต่สุดท้ายก็ปิดปากเงียบไป ตาของเขาหลุกหลิกไปหลุกหลิกมาครู่หนึ่ง ก่อนเขาจะพยักหน้ารับ พร้อมกับแจกรอยยิ้มสดใสไปด้วย ฉีเพิ่งเริ่มรู้สึกขนลุกขนพองไปทั้งตัว ทําไมท่าทางของเจ้าหมอนี่มันดูแปลกๆพิกลแฮะ นายคงไม่ได้กําลังวางแผนอะไรอยู่ใช่ไหม?”

 

ตอนนี้ซูอี้จิ๋วเดินจากไปแล้ว แต่ลู่ชิงหยุนก็ยังคงยืนนิ่งพร้อมกับจ้องมองฉีเชิงด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิมส่วนฉีเชิงมีเหรอจะยอมเธอจ้องเขากลับพร้อมกับรอยยิ้มแสนหวานเหมือนกัน

 

ประมาณหนึ่งนาทีต่อมา ลู่ชิงหยุนก็เริ่มเบี่ยงสายตาหนี ก่อนเขาจะหันหลังแล้วก็เริ่มเดินขึ้นเขาไป ในขณะที่ดวงตาของฉีเชิงเองก็เริ่มเปล่งประกายระยิบระยับ ก่อนจะเจ้าตัวจะเดินตามเขาไป

 

“คุณลู่ จะไม่ลองพิจารณาข้อเสนอของฉันดูอีกรอบจริงๆหรอ?”

 

“ถ้าครั้งหน้าแกกล้ามอบภารกิจแบบนี้ให้ฉันอีกนะ แกเตรียมจองโลงได้เลยเจ้าระบบ!!”

 

“ทําไมคุณถึงเลือกผมล่ะ?” เขาเลิกทําสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจ้องมองเชิงด้วยสายตาคมกริบราวกับจะมองให้ทะลุลงไปยังก้นบึงหัวใจของเธอ

 

จากที่เธอเคยพูดโฆษณาตัวเองกับเขาไว้ซึ่งตอนนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอไม่ได้พูดเกินจริงเลย เธอหาเงินได้เก่งมากสมราคาคุย แถมยังสามารถสะสมเงินทุนจนเปิดบริษัทได้ในระยะเวลาอันสั้น และถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้นั่งแท่นเป็นซีอีโอ แต่ทุกเรื่องในบริษัทก็ต้องผ่านความเห็นของเธอทั้งสิ้น และในเมื่อเธอสามารถประสบความสําเร็จได้ด้วยตัวเองขนาดนี้ ทําไมถึงยังต้องการผู้อุปถัมภ์อย่างเขาอีก?

 

เขาคงเข้าใจได้ถ้าเหตุผลนั่นเป็นเพราะเธอชอบเขา แต่เท่าที่ดูมันน่าจะไม่ใช่เลยน่ะสิ เขารู้สึกได้ว่าเธอไม่ชอบขี้หน้าเขามาก แถมบางครั้งยังอยากจะฆ่าเขาให้ตายอีก ใช่เธอต้องการจะฆ่าเขาจริงๆเขาสัมผัสได้ “แล้วจะผมบ้าเก็บคนที่พร้อมจะกะซวกไส้ผมตลอดเวลาไว้กับตัวเนี้ยนะ!!”

 

“เพราะคุณครบเครื่องไง!” ฉีเชิงกระพริบตาปริบๆก่อนจะทําเป็นมองเขาด้วยความชื่นชม “คุณลู่ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมมีอํานาจเหลือล้นแล้วทําไมฉันถึงจะไม่เลือกคุณล่ะ?”

 

“มีผู้คนมากมายบนโลกใบนี้ที่ร่ํารวยและมีอํานาจ” คู่ชิงหยุนเดินก้าวเข้าหาเชิงด้วยท่าทางคุกคาม “แล้วทําไมคุณยังดึงดันว่าคนคนนั้นต้องเป็นผม?”

 

“คิดว่าฉันอยากทํานักรึไงยะ แหมๆ หล่อตายแหล่ะ ใครแมร่งมันอยากจะตามจีบผู้ชายที่ขู่จะฆ่าตัวเองห้ะ! ฉันถูกบังคับเข้าใจมั้ย!! ถ้าไม่ใช่เพราะอีเควสบ้าบอนี่ฉันไม่แลนายให้เสียสายตาหรอก ชิส์

 

ทันใดนั้นเองบรรยากาศรอบๆตัวเชิงก็เปลี่ยนไป ทําไมไม่ฆ่าเขา จากนั้นก็ค่อย…

 

ลู่ชิงหยุนหรี่ตาลง ก่อนจะถอยหลังไปหนึ่งก้าว “นี่เธอคงไม่ได้คิดจะฆ่าฉันอีกแล้วใช่ไหม เนี้ย?”

 

“ได้ยินมาว่าร่างกายคุณลูไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไหร่” เธอพูดด้วยน้ําเสียงเนิบๆ ฉีเชิงยังคงไม่เลิกล้มความคิดที่จะฆ่าเขา เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตากับลู่ชิงหยุน

 

ลู่ชิงหยุนค่อยๆเอื้อมมือไปด้านหลัง แต่ช้ากว่าฉีเชิง เธอโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างเร็วพร้อมทั้งจับมือของลู่ชิงหยุนไว้ ก่อนจะหยิบวัตถุสีดําเมี่ยมออกมาจากข้างหลังเขา เธอทําทุกอย่างรวดเร็วมากจนลู่ชิงหยุนมองตามแทบไม่ทัน

 

“โอ้ว คุณพกของอันตรายๆแบบนี้มาด้วยเหรอ? คุณลู่ คุณทําให้ฉันกลัวนะคะเนี้ย” ขณะที่พูดเธอก็ถอดชิ้นส่วนของปืนไปด้วย เธอทํามันอย่างคล่องแคล่ว พอถอดเสร็จก็โยนชิ้นส่วนทั้งหมดลงไปบนพื้น

 

ลู่ชิงหยุน ”

 

“อย่างน้อยคุณก็ช่วยทําเหมือนว่ากลัวจริงๆหน่อยจะได้ไหม!” เขาค่อยๆสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูด “คุณต้องการอะไรจากผม?”

 

ตั้งแต่เด็กเขาก็ได้พบเจอกับอันตรายมากมายหลายรูปแบบ บางคนก็เข้าหาเขาแบบตรงๆ ในขณะที่คนบางก็พยายามเกลี้ยกล่อมเขาแล้วก็เข้าหาทางอ้อม

 

สําหรับคนพวกนั้นเขาสามารถมองออกได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่กับผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ เขาแทบจะอ่านเธอไม่ออกเลยว่าจริงๆแล้วเธอเข้าหาเขาทําไม

 

“ฉันก็แค่ต้องการให้คุณมาเป็นผู้อุปภัมถ์หาเงินให้ฉันใช้ก็แค่นั้นเอง อย่าคิดอะไรไปไกลเลย”

 

“ฉันต้องการหนึ่งหมื่นล้านดอลล่าสหรัฐคุณให้ฉันได้ไหมล่ะ? ถ้าฉันพูดแบบนี้ออกไปเขาจะเอาปืนมาเปาหัวฉันไหมเนี้ย!”

“ ง่ายขนาดนั้นเลย?”

 

“แล้วคุณคิดว่าฉันอยากได้อะไรล่ะ?” ฉีเชิงถามกลับ ก่อนจะหัวเราะอย่างชั่วร้าย “คุณลู่คิดว่ามีคนส่งฉันมาเก็บคุณหรอ?”

 

“นี่นายกลัวว่าจะมีคนมาฆ่านายขนาดนั้นเลยเรอะ! ขี้ระแวงเกิ้นน..!

 

ระบบล่ะอยากจะตะโกนใส่เธอจริงๆ คุณเคยเห็นใครจีบผู้ชายแบบนี้บ้าง! ถ้าคุณสามารถเกลี้ยกล่อมเขาได้สําเร็จ ผมยอมกินแป้นคีย์บอร์ดโชว์เลย!”

 

ลู่ชิงหยุนหลับตาลงครู่หนึ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมองฉีเชิงอีกครั้ง “ถ้าคุณเจียงต้องการแบบนั้น ผมจะยอมรับข้อเสนอของคุณก็ได้”

 

“หือ…” ฉีเชิงจ้องมองลู่ชิงหยุนด้วยความประหลาดใจ “ทําไมคุณตกลงง่ายจัง แค่ขู่เรื่องตายนิดเดียวเอง คุณจะไม่ต่อต้านอะไรหน่อยหรอ?”

 

“โอ๊ยย…เจ๊ยังไม่ทันจะได้เล่นบทโหดเลย ตกลงซะล่ะ ว่าไม่หนุกเลย อุตส่าห์จะจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบให้ซะหน่อย

 

ลู่ชิงหยุนยิ้มน้อยๆก่อนจะตอบ “ถ้าอย่างงั้นผมขอถอนคําพูด”

 

“ไม่ ไม่ ทําอย่างนั้นไม่ได้นะ” พูดมาแล้วจะมากลับคําได้ไง ลูกผู้ชายหน่อยเด้ะ โด่วว..!

 

“คุณลู่ได้โปรดเอาของพวกนี้ออกไปห่างๆฉันที ถ้ามันลั่นขึ้นมาจะทํายังไงล่ะคะ คุณก็รู้ว่าฉันเป็นผู้หญิงบอบบางแค่ไหน ของแบบนี้อันตรายจะตายไป อุ้ย น่ากลัวจังเลย”

 

“น้ําเสียงจริงใจม้ากมาก แล้วอีกอย่างเธอยังรู้ตัวด้วยเหรอว่าตัวเองเป็นผู้หญิง ผู้หญิงที่ไหน เขายืนแยกชิ้นส่วนขึ้นได้อย่างง่ายดายแบบคุณบ้างห้ะ!”

 

ลู่ชิงหยุนหัวเราะเบาๆ ก่อนที่เขาจะหยิบชิ้นส่วนปืนพวกนั้นขึ้นมาประกอบใหม่อีกครั้ง แล้ว ก็เอามันมาเหน็บไว้ที่เอวเหมือนเดิม

 

“ในฐานะแฟน การนอนกับผมก็ถือว่าเป็นหนึ่งกฏเหล็กที่ต้องทํา เพราะงั้น…ทําไมเราไม่เริ่มกันซะตอนนี้เลยล่ะ?” ลู่ชิงหยุนส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้ฉีเชิงก่อนจะดึงเธอเข้าไปหา

 

“อะไรนะ? ” “นอน? พูดบ้าอะไรเนี้ย! ใครจะนอนกับวายร้ายอย่างนายกัน!” “นี่ลู่ชิงหยุน ฉันว่าเราค่อยๆเรียนรู้กันไปไม่ดีกว่าหรอ?”

 

“เรียนบนเตียงเร็วกว่า”

 

“เรื่องบ้าอะไรเนี้ย! นายไม่รู้หรอเซ็กส์ที่ปราศจากความรักนั้นมันผิดศีลธรรม! ลู่ชิงหยุน หยุด หยุดก่อน…”

 

“คิดว่าเธอจะไม่กลัวอะไรเลยซะอีก แต่ก็ยังดีที่มีเรื่องที่เธอกลัวบ้าง!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke 37 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (17)

Now you are reading Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke Chapter 37 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (17) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Side Character Transmigrations: The Final Bos… บทที่ 37 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (17)

 

บทที่ 37 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (17)

 

ฉีเชิงประสบความสําเร็จในการทิ้งตากล้องไว้เบื้องหลังอย่างไม่เห็นฝุ่น ก่อนเธอ จะปีนเขาขึ้นไปตามทางอย่างสบายอุรา ส่วนพวกวีดีโอเดี๋ยวพวกเขาก็คงต้องเอาไปตัดต่อใหม่อยู่ดี เพราะฉะนั้นวีดีโอเปิดตัวนิดๆหน่อยๆในตอนต้นก็น่าจะเพียงพอแล้วอีกส่วนก็ค่อยถ่ายทําอีกที ตอนที่เธอไปถึงยอดเขาแล้ว พอเอารวมๆกันเดี๋ยวทุกอย่างก็เพอร์เฟคเองแหละ

 

“ลู่ชิงหยุน หยุดก่อน! เฮ้รอฉันด้วยสิ! นายช่วยพูดอะไรสักคําสิ? ฉันเป็นรุ่นพี่นายนะ นี้ ช้าช้าลงหน่อย! นายรู้ไหมว่าฉันทําเพื่อนายมากแค่ไหนต๊ะ -คุณเจียงงง!!” คําบ่นของซูอี้ซิ่วในตอนท้ายกลับกลายเป็นเสียงตะโกนดังลั่น “คุณเจียงคุณเจียง ทางนี้!”

 

ฉีเพิ่งเริ่มมองหาแหล่งกําเนิดเสียงซึ่งน่าจะดังออกมาจากทางเดินเล็กๆบนเขาอีกเส้นหนึ่ง ก่อนเธอจะเห็นว่าเป็นซูอี้ชิวผู้ซึ่งตอนนี้สวมชุดสูทหรูราคาแพงอยู่ อีกทั้งยังกําลังโบกไม้โบกมือให้เธออย่างตื่นเต้น และถึงแม้ว่าลุคและท่าทางจะดูขัดกันหน่อยๆแต่ก็ฮาดีนะ

 

ดูเหมือนว่าเขาจะลากเป้าหมายภารกิจที่ห่างหายไปซะนานของเธอ: ลู่ชิงหยุนมาด้วยสิ

 

“โอ้ นี่ฉันเกือบลืมเควสนี้ไปแล้วนะเนี้ย” ฉีเชิงกระโดดสไลด์ลงมาจากทางลาดชันอย่างมือโปร จนทําให้ซูอี้ซิ่วได้แต่อ้าปากค้างด้วยความทิ้งและตกตะลึง

 

“อือหือ..ทักษะทางกีฬาของผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว! ตัดภาพมาที่เจ้าลู่ชิงหยุนของ ผมดูสิ หมอเบี้ยทักษะทางกีฬานี้เรียกได้ว่าต่ําเตี้ยเรี่ยดิน แล้วลองคิดดูนะถ้าจับสองคนนี้มาคู่กัน พวกเขาก็จะสามารถชดเชยในสิ่งที่อีกฝ่ายขาดได้อย่างพอดิบพอดี งืออ..ทําไมช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันอะไรเช่นนี้

 

สายตาของซูอี้จิ๋วที่มองมานั้นราวกับแม่ผัวกําลังมองลูกสะใภ้อยู่ไม่มีผิด นี่ขนาดว่าเธอหน้าหนาแล้วนะ ยังรู้สึกอึดอัดอยู่หน่อยๆเลย “อ่า…คุณซู คุณลู่ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ

 

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะครับ เพราะผมเห็นคุณทุกวันเลยในทีวี” ซูอี้จิ๋วกะว่าจะปล่อยลู่ชิงหยุนไป แต่ก็กลัวว่าเขาจะวิ่งหนีอีก ดังนั้นขู่อี้จิ๋วก็เลยเลือกที่จะผลักเขาไปตรงหน้าของฉีเชิงแทน “แล้วนี่คุณเจียงมาทําอะไรที่นี่เหรอครับ?”

 

ลู่ชิงหยุนกวาดสายตามองไปที่นี่เพิ่งเล็กน้อย ทําท่าเหมือนจะยิ้มแต่สุดท้ายก็ไม่ แสงแดดอ่อนๆที่ส่องลอดใบไม้ลงมายิ่งทําให้พื้นที่รอบๆตัวเขาดูสว่างขึ้น และนั่นก็ทําให้เขาดูแปลกตาไปหน่อยๆ

“ดูเหมือนว่าเจ้าวายร้ายหน้าตายตัวนี้ จะมีนิสัยประหลาดเพิ่มขึ้นมาอีกแล้วสินะ เห้อ….

 

“ฉันมาถ่ายรายการน่ะค่ะ” ฉีเชิงกระพริบตาเบาๆพลางตอบออกไป

 

“Extreme World ใช้ไหม? ผมเกือบลืมไปแล้วนะเนี้ยว่าเขาจะมาถ่ายกันที่นี้วันนี้ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของลู่ชิงหยุนคนเดียวเลย ไม่งั้นผมคงได้ลงไปรับคุณเจียงที่เชิงเขาแล้วเมื่อไหร่

 

นายจะเลิกก่อเรื่องสักที? นี่ฉันต้องมาคอยตามล้างตามเช็ดให้ตลอดเลยเนี้ย นายอย่าทําตัวเหมือนพวกคนแก่ที่ชอบเรียกร้องความสนใจนักจะได้ไหม นายโตแล้วนะไม่ใช่เด็กสามขวบ บลา บลา บลา (บ่นยาวไม่หยุด) …”

.

ฉีเชิง “

 

ทุกครั้งที่เธอพบซูอี้ซิ่วบรรยากาศก็จะคล้ายๆเดิมทุกครั้ง แต่ที่ไม่ค่อยจะเหมือนเดิม…ก็คงจะเป็นคําด่าของเขาละมั้ง ไม่รู้เขามีคลังคําด่าอยู่เยอะแค่ไหน คือแอดวานซ์ขึ้นทุกครั้งที่เจออ่ะ!

 

“แต่ทําม่าย ทําไม เธอไม่ยักกะชินกับเขาสักที”

 

หลังจากเขาร่ายยาวสั่งสอนลู่ชิงหยุนเสร็จ เขาก็ผลักหมอนั่นเข้ามาหาเธออีกที ก่อนจะพูดเชิงขู่ว่า “ลู่ชิงหยุนเดินขึ้นไปส่งคุณเจียงบนยอดเขาซะดีๆ ถ้าขึ้นนายกล้าวิ่งหนีกลางทางนะ นายได้โดนดีแน่ ไม่เชื่อก็ลองดู!!”

 

ตอนแรกลู่ชิงหยุนอ้าปากเหมือนจะพูดปฏิเสธออกมา แต่สุดท้ายก็ปิดปากเงียบไป ตาของเขาหลุกหลิกไปหลุกหลิกมาครู่หนึ่ง ก่อนเขาจะพยักหน้ารับ พร้อมกับแจกรอยยิ้มสดใสไปด้วย ฉีเพิ่งเริ่มรู้สึกขนลุกขนพองไปทั้งตัว ทําไมท่าทางของเจ้าหมอนี่มันดูแปลกๆพิกลแฮะ นายคงไม่ได้กําลังวางแผนอะไรอยู่ใช่ไหม?”

 

ตอนนี้ซูอี้จิ๋วเดินจากไปแล้ว แต่ลู่ชิงหยุนก็ยังคงยืนนิ่งพร้อมกับจ้องมองฉีเชิงด้วยรอยยิ้มเหมือนเดิมส่วนฉีเชิงมีเหรอจะยอมเธอจ้องเขากลับพร้อมกับรอยยิ้มแสนหวานเหมือนกัน

 

ประมาณหนึ่งนาทีต่อมา ลู่ชิงหยุนก็เริ่มเบี่ยงสายตาหนี ก่อนเขาจะหันหลังแล้วก็เริ่มเดินขึ้นเขาไป ในขณะที่ดวงตาของฉีเชิงเองก็เริ่มเปล่งประกายระยิบระยับ ก่อนจะเจ้าตัวจะเดินตามเขาไป

 

“คุณลู่ จะไม่ลองพิจารณาข้อเสนอของฉันดูอีกรอบจริงๆหรอ?”

 

“ถ้าครั้งหน้าแกกล้ามอบภารกิจแบบนี้ให้ฉันอีกนะ แกเตรียมจองโลงได้เลยเจ้าระบบ!!”

 

“ทําไมคุณถึงเลือกผมล่ะ?” เขาเลิกทําสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจ้องมองเชิงด้วยสายตาคมกริบราวกับจะมองให้ทะลุลงไปยังก้นบึงหัวใจของเธอ

 

จากที่เธอเคยพูดโฆษณาตัวเองกับเขาไว้ซึ่งตอนนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอไม่ได้พูดเกินจริงเลย เธอหาเงินได้เก่งมากสมราคาคุย แถมยังสามารถสะสมเงินทุนจนเปิดบริษัทได้ในระยะเวลาอันสั้น และถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้นั่งแท่นเป็นซีอีโอ แต่ทุกเรื่องในบริษัทก็ต้องผ่านความเห็นของเธอทั้งสิ้น และในเมื่อเธอสามารถประสบความสําเร็จได้ด้วยตัวเองขนาดนี้ ทําไมถึงยังต้องการผู้อุปถัมภ์อย่างเขาอีก?

 

เขาคงเข้าใจได้ถ้าเหตุผลนั่นเป็นเพราะเธอชอบเขา แต่เท่าที่ดูมันน่าจะไม่ใช่เลยน่ะสิ เขารู้สึกได้ว่าเธอไม่ชอบขี้หน้าเขามาก แถมบางครั้งยังอยากจะฆ่าเขาให้ตายอีก ใช่เธอต้องการจะฆ่าเขาจริงๆเขาสัมผัสได้ “แล้วจะผมบ้าเก็บคนที่พร้อมจะกะซวกไส้ผมตลอดเวลาไว้กับตัวเนี้ยนะ!!”

 

“เพราะคุณครบเครื่องไง!” ฉีเชิงกระพริบตาปริบๆก่อนจะทําเป็นมองเขาด้วยความชื่นชม “คุณลู่ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมมีอํานาจเหลือล้นแล้วทําไมฉันถึงจะไม่เลือกคุณล่ะ?”

 

“มีผู้คนมากมายบนโลกใบนี้ที่ร่ํารวยและมีอํานาจ” คู่ชิงหยุนเดินก้าวเข้าหาเชิงด้วยท่าทางคุกคาม “แล้วทําไมคุณยังดึงดันว่าคนคนนั้นต้องเป็นผม?”

 

“คิดว่าฉันอยากทํานักรึไงยะ แหมๆ หล่อตายแหล่ะ ใครแมร่งมันอยากจะตามจีบผู้ชายที่ขู่จะฆ่าตัวเองห้ะ! ฉันถูกบังคับเข้าใจมั้ย!! ถ้าไม่ใช่เพราะอีเควสบ้าบอนี่ฉันไม่แลนายให้เสียสายตาหรอก ชิส์

 

ทันใดนั้นเองบรรยากาศรอบๆตัวเชิงก็เปลี่ยนไป ทําไมไม่ฆ่าเขา จากนั้นก็ค่อย…

 

ลู่ชิงหยุนหรี่ตาลง ก่อนจะถอยหลังไปหนึ่งก้าว “นี่เธอคงไม่ได้คิดจะฆ่าฉันอีกแล้วใช่ไหม เนี้ย?”

 

“ได้ยินมาว่าร่างกายคุณลูไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไหร่” เธอพูดด้วยน้ําเสียงเนิบๆ ฉีเชิงยังคงไม่เลิกล้มความคิดที่จะฆ่าเขา เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตากับลู่ชิงหยุน

 

ลู่ชิงหยุนค่อยๆเอื้อมมือไปด้านหลัง แต่ช้ากว่าฉีเชิง เธอโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างเร็วพร้อมทั้งจับมือของลู่ชิงหยุนไว้ ก่อนจะหยิบวัตถุสีดําเมี่ยมออกมาจากข้างหลังเขา เธอทําทุกอย่างรวดเร็วมากจนลู่ชิงหยุนมองตามแทบไม่ทัน

 

“โอ้ว คุณพกของอันตรายๆแบบนี้มาด้วยเหรอ? คุณลู่ คุณทําให้ฉันกลัวนะคะเนี้ย” ขณะที่พูดเธอก็ถอดชิ้นส่วนของปืนไปด้วย เธอทํามันอย่างคล่องแคล่ว พอถอดเสร็จก็โยนชิ้นส่วนทั้งหมดลงไปบนพื้น

 

ลู่ชิงหยุน ”

 

“อย่างน้อยคุณก็ช่วยทําเหมือนว่ากลัวจริงๆหน่อยจะได้ไหม!” เขาค่อยๆสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูด “คุณต้องการอะไรจากผม?”

 

ตั้งแต่เด็กเขาก็ได้พบเจอกับอันตรายมากมายหลายรูปแบบ บางคนก็เข้าหาเขาแบบตรงๆ ในขณะที่คนบางก็พยายามเกลี้ยกล่อมเขาแล้วก็เข้าหาทางอ้อม

 

สําหรับคนพวกนั้นเขาสามารถมองออกได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่กับผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ เขาแทบจะอ่านเธอไม่ออกเลยว่าจริงๆแล้วเธอเข้าหาเขาทําไม

 

“ฉันก็แค่ต้องการให้คุณมาเป็นผู้อุปภัมถ์หาเงินให้ฉันใช้ก็แค่นั้นเอง อย่าคิดอะไรไปไกลเลย”

 

“ฉันต้องการหนึ่งหมื่นล้านดอลล่าสหรัฐคุณให้ฉันได้ไหมล่ะ? ถ้าฉันพูดแบบนี้ออกไปเขาจะเอาปืนมาเปาหัวฉันไหมเนี้ย!”

“ ง่ายขนาดนั้นเลย?”

 

“แล้วคุณคิดว่าฉันอยากได้อะไรล่ะ?” ฉีเชิงถามกลับ ก่อนจะหัวเราะอย่างชั่วร้าย “คุณลู่คิดว่ามีคนส่งฉันมาเก็บคุณหรอ?”

 

“นี่นายกลัวว่าจะมีคนมาฆ่านายขนาดนั้นเลยเรอะ! ขี้ระแวงเกิ้นน..!

 

ระบบล่ะอยากจะตะโกนใส่เธอจริงๆ คุณเคยเห็นใครจีบผู้ชายแบบนี้บ้าง! ถ้าคุณสามารถเกลี้ยกล่อมเขาได้สําเร็จ ผมยอมกินแป้นคีย์บอร์ดโชว์เลย!”

 

ลู่ชิงหยุนหลับตาลงครู่หนึ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมองฉีเชิงอีกครั้ง “ถ้าคุณเจียงต้องการแบบนั้น ผมจะยอมรับข้อเสนอของคุณก็ได้”

 

“หือ…” ฉีเชิงจ้องมองลู่ชิงหยุนด้วยความประหลาดใจ “ทําไมคุณตกลงง่ายจัง แค่ขู่เรื่องตายนิดเดียวเอง คุณจะไม่ต่อต้านอะไรหน่อยหรอ?”

 

“โอ๊ยย…เจ๊ยังไม่ทันจะได้เล่นบทโหดเลย ตกลงซะล่ะ ว่าไม่หนุกเลย อุตส่าห์จะจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบให้ซะหน่อย

 

ลู่ชิงหยุนยิ้มน้อยๆก่อนจะตอบ “ถ้าอย่างงั้นผมขอถอนคําพูด”

 

“ไม่ ไม่ ทําอย่างนั้นไม่ได้นะ” พูดมาแล้วจะมากลับคําได้ไง ลูกผู้ชายหน่อยเด้ะ โด่วว..!

 

“คุณลู่ได้โปรดเอาของพวกนี้ออกไปห่างๆฉันที ถ้ามันลั่นขึ้นมาจะทํายังไงล่ะคะ คุณก็รู้ว่าฉันเป็นผู้หญิงบอบบางแค่ไหน ของแบบนี้อันตรายจะตายไป อุ้ย น่ากลัวจังเลย”

 

“น้ําเสียงจริงใจม้ากมาก แล้วอีกอย่างเธอยังรู้ตัวด้วยเหรอว่าตัวเองเป็นผู้หญิง ผู้หญิงที่ไหน เขายืนแยกชิ้นส่วนขึ้นได้อย่างง่ายดายแบบคุณบ้างห้ะ!”

 

ลู่ชิงหยุนหัวเราะเบาๆ ก่อนที่เขาจะหยิบชิ้นส่วนปืนพวกนั้นขึ้นมาประกอบใหม่อีกครั้ง แล้ว ก็เอามันมาเหน็บไว้ที่เอวเหมือนเดิม

 

“ในฐานะแฟน การนอนกับผมก็ถือว่าเป็นหนึ่งกฏเหล็กที่ต้องทํา เพราะงั้น…ทําไมเราไม่เริ่มกันซะตอนนี้เลยล่ะ?” ลู่ชิงหยุนส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้ฉีเชิงก่อนจะดึงเธอเข้าไปหา

 

“อะไรนะ? ” “นอน? พูดบ้าอะไรเนี้ย! ใครจะนอนกับวายร้ายอย่างนายกัน!” “นี่ลู่ชิงหยุน ฉันว่าเราค่อยๆเรียนรู้กันไปไม่ดีกว่าหรอ?”

 

“เรียนบนเตียงเร็วกว่า”

 

“เรื่องบ้าอะไรเนี้ย! นายไม่รู้หรอเซ็กส์ที่ปราศจากความรักนั้นมันผิดศีลธรรม! ลู่ชิงหยุน หยุด หยุดก่อน…”

 

“คิดว่าเธอจะไม่กลัวอะไรเลยซะอีก แต่ก็ยังดีที่มีเรื่องที่เธอกลัวบ้าง!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+