Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke 34 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (14)

Now you are reading Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke Chapter 34 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (14) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Side Character Transmigrations: The Final B… บทที่ 34คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (14)

บทที่ 34 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (14)

ลู่ชิงหยุนเพิกเฉยต่อการปะทะคารมและการฟาดฟันทางสายตาของผู้หญิงทั้งสองคนตรงหน้าเขามองดูอยู่แค่ครู่หนึ่งเท่านั้น ก่อน จะเดินออกไป

“คุณลู่ ฉันยินดีรอให้คุณมาอุปถัมภ์ตลอดเวลาเลยนะ!” ฉีเชิยตะโกนไล่หลังคู่ชิงหยุนไป

เขาหยุดชะงักอยู่ราวๆครึ่งวินาทีก่อนจะเดินต่อและลับหายไปจากระยะการมองเห็นของพวกเธอในที่สุด

เมื่อลู่ชิงหยุนไม่อยู่แล้วถังหยวนก็ยิ่งเกรี้ยวกราดได้ถนัดขึ้น“เธอคงหลงรักเงินของพี่ใหญ่ลู่สินะ? แต่ฉันจะบอกอะไรให้นะคนอย่างพี่ใหญ่ลู่เขาไม่มีทางชอบคนอย่างเธอ! พื้นหลังก็ต่ําเตี้ยเรี่ยดินเธอยังกล้าคิดกว่าฝันอีกเหรอ! จําไว้นะ…เธอเป็นไม่ได้แม้แต่ รองเท้าที่เขาจะใช้ลองเหยียบด้วยซ้ํา!”

ถังหยวนไม่แม้แต่จะรอการตอบกลับใดๆจากฉีเซิง เธอจ้องเขมึงไปที่ฉีเซิงอีกหนึ่งที่ก่อนจะวิ่งไล่หลังตามลู่ชิงหยุนไป “เอิ่ม..ฉันพึ่งรู้ว่าการที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับพวกวายร้ายมันยากลําบากขนาดนี้ขอบคุณนะเจ้าเควสที่ทําได้ฉันได้รู้ หึๆ!”

ฉีเพิ่งเริ่มรู้สึกว่าเธอไม่ควรออกมาเลยวันนี้ และความคิดนี้ยิ่งได้รับการสนับสนุนเข้าไปอีก เมื่อเธอเดินกลับมาจากห้องน้ําและกําลังเดินค้นหาห้องส่วนตัวของตัวเอง ท่ามกลางผู้คนจํานวนมากที่กําลังส่งเสียงระเบ็งเซ็งแซ่ไปหมด

จนในที่สุดฉีเชิงก็สามารถแหวกฝูงชนไปจนถึงหน้าห้องได้ก่อนที่เธอจะเห็นสาเหตุของความความโกลาหลในครั้งนี้ ชิ้นส่วนเครื่องลายครามที่แตกกระจัดกระจายเต็มพื้นห้องไปหมดในขณะที่เซี่ยเหมินที่ตอนนี้กําลังนั่งแม่ะอยู่บนพื้นค่อยๆเงยหน้าขึ้นพร้อมกับมือข้างหนึ่งที่กุมหัวไว้เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลลงระหว่างนิ้วมือของเธ อก่อนจะหยดลงบนพื้น

“เซี่ยเหมิน พี่ขอโทษพี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” เซี่ยหยวนทําท่าเหมือนจะเข้าไปช่วย ก่อนจะแสร้งทําหน้ารู้สึกผิดและอยากจะแสดงความขอโทษซะเต็มประดา“พี่ไม่คิดว่าเธอจะสูญเสียการทรงตัวเซี่ยเหมินเลือดออกใหญ่แล้วให้พี่พาเธอไปโรงพยาบาลเถอะนะ ขอโทษจริงๆมันเป็นความผิดของพี่เอง”

ใบหน้าของเซี่ยเหมินเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นอย่างรวดเร็วก่อนเธอจะบัดมือของเซี่ยหยวนออก และพูดขึ้นมาด้วยน้ําเสียงกดต่ําที่แสดงออกถึงความโกรธอย่างชัดเจนว่า “เซี่ยหยวน ถ้าเธอกําลังแสด งละครอยู่ บอกเลยนะว่าฉากนี้เธอไม่ผ่าน”

“เฮ้..ทําไมผู้หญิงคนนั้นถึงได้หยาบคายนัก? ฉันเห็นนะตอนนั้นเธอเป็นคนผลักผู้หญิงอีกคน แต่เธอก็ดันเสียสมดุลล้มไปเองแล้วตอนนี้เธอกลับมาตําหนิผู้หญิงที่เธอพยายามจะผลักเนี้ยนะ!”

“เอ๊ะ นั่นคือเซี่ยหยวนใช่หรือเปล่า?”

“เซี่ยหยวนคือใครเหรอ?”

“โอ้..สวรรค์ฉันกําลังเห็นเทพธิดาแห่งชาติตัวเป็นๆอยู่ตรงหน้าตอนนี้เหรอเนี้ย! เธอช่างอ่อนหวานและแสนอ่อนโยนแต่ผู้หญิงคนนั้นคือใคร? ทําไมเธอถึงได้กล้าปฏิบัติต่อเทพธิดาของฉันแบบนี้!”

 

ผู้ชมรอบๆเริ่มชี้ไปที่เซี่ยเหมินพวกเขาทั้งรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็น “เทพธิดา”และก็โกรธแค้นแทนเธอ โชคดีที่คนที่มาทานอาหารกันที่นี่เป็นพวกที่ค่อนข้างมีฐานะ ดังนั้นพวกเขาถึงไม่ได้ทําอะไรรุนแรงมีแค่ซุบซิบกันเท่านั้น

“เซี่ยเหมิน มันเป็นความผิดของพี่เองโอเคไหม? อย่าโกรธไปเลยนะเราควรจะรีบไปโรงพยาบาลกันก่อนไม่อย่างนั้นถ้าทิ้งไว้แบบนี้มันจะเป็นรอยแผลเป็นได้นะ” เซี่ยหยวนเปิดโหมดพี่สาวแสนดีเธอพูดกับเซี่ยเหมินด้วยน้ําแสนอ่อนโยน ทั้งแสดงออกมาทางสายตาว่ากังวลและเป็นห่วงเธอมาก เธอตั้งใจสวมบทบาท จนราวกับว่ากําลังแสดงในหนังที่ต้องเข้าชิงรางวัลออสการ์ก็ไม่ปาน

 

ขณะที่ฉีเชิงกําลังจะเข้าไป แต่ยังหยินนั้นกลับเร็วกว่า เขาแหวกฝูงชนเข้าไป ก่อนจะเบี่ยงตัวไปบังเซี่ยเหมินเอาไว้ไม่ให้ตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนอีก ใบหน้าของเขาไร้ความรู้สึกแต่นัยน์ตากลับเย็นชา “คุณเซีย คุณก็น่าจะรู้ว่าตัวเองเป็นบุคคลสาธา รณะ คุณต้องทําอะไรที่เอิกเกริกขนาดนี้ด้วยหรือ?และอีกอย่างที่ นี่ก็เป็นห้องพักส่วนตัว แล้วคุณมีเหตุผลอะไรถึงต้องเรียกความสนใจจากคนภายนอกด้วย?

 

คําพูดของถังหยินดูสมเหตุสมผลมาก จนทําให้คนที่มามุงดูอยู่รอบๆก็เริ่มที่จะคิด และคล้อยตามคําพูดของเขากันหมดในเวลาไม่กี่วินานที่พวกเขาก็คิดกันไปได้หลายทางแล้ว ว่าเพราะอะไรทําไมเซี่ยหยวนถึงต้องทําแบบนี้

เซี่ยหยวนสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงสายตาที่เปลี่ยนไปของผู้คนโดยรอบ และแม้ว่าในใจของเธอจะกําลังมีไฟลูกใหญ่ลุกไหม้อยู่เพียงไหน เธอก็ทําได้แค่เพียงปั้นหน้าฉีกยิ้มต่อไป “ทุก ท่านคะ..ฉันเป็นพี่สาวของเซี่ยเหมินและที่ทําไปก็แค่เพียงอยากพาเธอไปโรงพยาบาลเพื่อทําแผลก็เท่านั้น ฉันไม่มีแรงจูงใจอื่นใดเลยเพราะมันคงไม่ดีแน่ถ้าจะมีแผลเป็นบนใบหน้าของหญิงสาว”

เซี่ยเหมินหัวเราะอย่างเยือกเย็นอยู่ภายในผู้หญิงคนนี้คงไม่สามารถรอให้เธอตายเองได้และตอนนี้เธอยังมาแสร้งทําแบบนี้อีก ทํา ไมเธอถึงได้น่ารังเกียจขนาดนี้

 

เซี่ยเหมินพยายามห้ามตัวเองอย่างถึงที่สุดเพื่อไม่ให้ตบเซี่ยนยวนก่อนเธอจะมองไปเห็นเชิงที่ยืนอยู่ในฝูงชนด้านหน้า เธอจึง พูดกับถังหยินขึ้นมาเพียงว่า“ไปกันเถอะ”

ถังหยินพยักหน้ารับน้อยๆ ก่อนจะประคองเซี่ยเหมินขึ้นหมายว่าจะค่อยๆเดินไปที่ประตู

“ เซี่ยเหมิน”เซี่ยหยวนดึงแขนของเซี่ยเหมินเบาๆ “เดี๋ยวก่อนสิ..พี่ได้ยินมาว่าเธออยากเป็นนักแสดง ตอนนี้พี่มี ละครในมืออยู่สองสามเรื่องเพราะฉะนั้นถ้าเธออยาก…”

เซี่ยเหมินจับมือของเซี่ยหยวนออก ก่อนจะยิ้มอย่างเย็นยะเยือกแล้วตอบกลับ ” คุณเป็นองค์กรการกุศลเหรอ? แล้วที่พูดออกมาผ่านกระบวนการคิดบ้างแล้วหรือยัง? แต่น่าเสียดายนะที่ฉันไม่ต้องการมันเลย”

“เซี่ยเหมิน นั่นเป็นสิ่งที่คุณควรพูดกับพี่สาวของคุณหรือ?”เสียงเข้มดังขึ้นจากด้านหลัง

ร่างสูงของซีโม่ค่อยๆเดินออกฝ่าออกมาจากฝูงชน ใบหน้าหล่อเหลาของเขาครึมลงเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นเซี่ยเหมินได้รับความช่วยเหลือจากถังหยิน รังสีแห่งความ ไม่พอใจแผ่ซานออกมาจากตัวเขาอย่างเห็นได้ชัดเรียกได้ว่าคนที่ ตอนแรกแพลนไว้ว่าจะทักเขาถึงกลับถอยหลังหนีกลับแทบไม่ทันเชียวล่ะ

 

ตอนที่เซี่ยเหมินเห็นหน้าซิโม่ ใบหน้าของเธอที่ว่าซีดอยู่แล้วก็ยิ่งซีดเซียวเข้าไปอีก แต่เธอก็ต้องบังคับตัวเองให้จ้องมองหน้าเขากลับไปเพราะมันเหมือนกับว่า ใครหลบตาก่อนคนนั้นคือผู้แพ้

“ขอโทษพี่สาวของคุณซะ” ซิโม่พูดด้วยน้ําสียงแข็งกระด้างและใบหน้านิ่งเฉย

 

“ขอโทษ? ทําไมฉันต้อง?” เสียงของเซี่ยเหมินขาดหายไปเล็กน้อยตอนท้าย

“อาโม่ ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงเธอก็เป็นน้องสาวของฉัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ช่างมันเถอะค่ะ” เซี่ยหยวนดึงซิโม่ออกมาเบาๆขณะที่

คําพูดของเธอเหมือนกับว่าจะช่วยพูดแทนให้เซี่ยเหมิน แต่ก็กลับจงใจใช้คําพูดคลุมเครือให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเซี่ยเหมินเป็นคนผิดทั้งหมดส่วนเธอก็เป็นแค่พี่สาวที่แสนดี ไม่เคยคิดถือโทษโกรธที่น้องสาวทําตัวหยาบคายใส่เลย ดูสิว่าเธอใจกว้างแค่ไหน!

“ถ้าคุณยังคอยให้ท้ายเธอแบบนี้ เดี๋ยวเธอก็นิสัยเสียกันพอดีอีกอย่างเธอควรจะรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ําซะบ้าง” สายตาที่เย็นชาของซิโม่จ้องไปที่ถังหยิน สงสัยเขาจะประเมินผู้ชายคนนี้ต่ําเกินไปผู้ชายคนนี้มีความสัมพันธ์บางอย่างกับเซี่ยเหมินจริงๆ …

 

ถังหยินเริ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อย บริษัทของพวกเขาเองก็พึ่งจะก่อตั้ง แล้วถ้ายังมามีเรื่องขุ่นเคืองกับซิโม่เพิ่มเข้าไปอีก บริษัทจะดําเนินไปอย่างราบรื่นได้ยังไงกัน?

“ อาโม่ ก็เธอเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของฉันนี่คะ ถ้าฉันไม่ดูแลแล้วใครจะทําล่ะ” เซี่ยหยวนทําเป็นพูดคัดค้านซิโม่ แต่ในใจเธอกลับรู้สึกถึงชัยชนะ “เซี่ยเหมิน เธอจะเอาอะไรมาสู้กับฉันในตอนนี้ล่ะ เธอมันก็เหมือนลูกไก่ในกํามือ ที่ฉันจะบีบให้ ตายเมื่อไหร่ก็ได้…”

 

ซีโม่รู้ดีว่าจริงๆแล้วเซี่ยหยวนรู้สึกยังไงกับเซี่ยเหมินกันแน่แต่เพราะตอนนี้เซี่ยเหมินทําให้เขาโกรธ ดังนั้นเขาก็เลยไม่ปฏิเสธที่จะแสดงละครผสมโรงกับเซี่ยหยวนเพื่อลงโทษเธอ

“ถึงแม้ว่าคุณจะเจตนาดี แต่คนบางคนเขาก็คงจะคิดไม่เป็น”

 

เซี่ยหยวนมองไปที่เซี่ยเหมินด้วยสีหน้าเศร้าโศกอีกครั้ง “เซี่ยเหมิน…ไปโรงพยาบาลกับพี่เถอะพี่ไม่อุ่นใจถ้าจะต้องทิ้งเธอไว้คนเดียวกับคนแปลกหน้าคนนี้”

คําพูดเหล่านี้เหมือนเป็นคําบอกใบ้ว่าความสัมพันธ์ของเซี่ยเหมินกับผู้ชายคนนี้ไม่บริสุทธิ์

ตามที่คาดไว้ สายตาของซีโม่ที่จ้องมองถึงหยินยิ่งเยือกเย็นกว่าเดิม

“ถังหยินคุณอยากเห็นเซี่ยเหมินเลือดไหลหมดตัวตายหรือยังไง!?” ฉีเชิงบิดโหมดผู้ชมแล้วก็ตะโกนบอกถังหยิน

 

ก่อนความสนใจของทุกคนจะเปลี่ยนไปจับจ้องที่เสียงตะโกนของฉีเชิงแทน เซี่ยหยวนยังจําเรื่องเมื่อครั้งก่อนตอนที่เจอยัยผู้หญิงคนนี้ได้ว่ายัยนี้บ้าดีเดือดแค่ไหน อีกทั้งยังไม่รู้แม้แต่ขีดจํากัดของตัว เองและไม่รู้ว่าตัวเองควรจะอยู่ตรงไหนแล้วตอนนี้เธอยังมาแท็คทีม กับยัยเซี่ยเหมินอีก

ใบหน้าของซีโม่เองก็เริ่มแสดงออกว่าไม่พอใจ เขาไม่รู้หรอกนะว่าฉีเซิงใช้วิธีไหนถึงทําให้เซี่ยเหมินยอมจ่ายค่าชดเชยเรื่องฉีกสัญญาให้เธอได้แต่สําหรับเขาผู้หญิงคนนี้คือคนทรยศ!

และเขาก็ไม่เคยเมตตาคนทรยศเขาวางแผนที่จะสอนบทเรียนให้กับเธอแต่ทว่าหลังจากที่เธอยกเลิกสัญญาไป เขาก็แทบจะไม่ เห็นเธอเลยเพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าเขาจะอยากสั่งสอนมากเธอแค่ไหน แต่ถ้าหากเธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงแล้ว ก็คงยากที่เขาจะทําอะไรได้

“อ้าว ยังไม่ลุกไปหาหมอกันอีก! คิดเปิดร้านขายเลือดกันรึไง? ถึงเปิดไปมันก็ไม่คุ้มหรอกนะ! ” ฉีซิงตะโกนกระตุ้นพวกเขาสองคนอีกรอบเมื่อเห็นพวกเขาไม่ยอมขยับตัวเดินออกมาสักที

เซี่ยเหมินรู้ดีว่าที่ฉีเชิงพูดไม่ว่าร้ายหรือมีเจตนาไม่ดีอะไรดังนั้นเธอก็เลยไม่ได้เก็บคําพวกนั้นมาใส่ใจ เธอกระตุกมือถังหยิน เบาๆแล้วก็เดินไปหาฉีเซิงแต่เซี่ยหยวนก็ทําท่าเหมือนว่าจะเข้ามาบล็อกตัวเธออีกครั้ง

“มิสเซีย น้องสาวของคุณจะเลือดไหลหมดตัวตายอยู่แล้ว ถ้าคุณยังจะเข้ามาขวางอยู่อีก ฉันจะคิดว่าคุณต้องการให้เธอตายนะใช่ไหม?”ฉีเชิงชิงพูดดักเซี่ยหยวนไว้ก่อน

สายตาผู้ชมที่กําลังมอง “” นี่พวกคุณมาด้ วยกันหรือเปล่าเนี้ย? ทําไมคําพูดคุณเหมือนพวกคุณไม่ได้มาด้วยกันเลยแฮะ?”

เซี่ยหยวนไม่กล้าที่จะขวางพวกเขาอีกต่อไป เธอทําได้เพียงแค่ยืนดูทั้งสามคนเดินออกไป ตอนนี้หัวใจของเธอยิ่งเต็มไปด้วยความเกลียดชังเท่าทวีคูณไปอีก เพราะยัยผู้หญิงคนนี้อีกแล้วเน่ารําคาญจริงๆ!

 

ซิโม่มองดูเงียบๆ ด้วยใบหน้าที่เดาไม่ออกว่าเขากําลังคิดอะไรอะ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke 34 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (14)

Now you are reading Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke Chapter 34 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (14) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Side Character Transmigrations: The Final B… บทที่ 34คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (14)

บทที่ 34 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (14)

ลู่ชิงหยุนเพิกเฉยต่อการปะทะคารมและการฟาดฟันทางสายตาของผู้หญิงทั้งสองคนตรงหน้าเขามองดูอยู่แค่ครู่หนึ่งเท่านั้น ก่อน จะเดินออกไป

“คุณลู่ ฉันยินดีรอให้คุณมาอุปถัมภ์ตลอดเวลาเลยนะ!” ฉีเชิยตะโกนไล่หลังคู่ชิงหยุนไป

เขาหยุดชะงักอยู่ราวๆครึ่งวินาทีก่อนจะเดินต่อและลับหายไปจากระยะการมองเห็นของพวกเธอในที่สุด

เมื่อลู่ชิงหยุนไม่อยู่แล้วถังหยวนก็ยิ่งเกรี้ยวกราดได้ถนัดขึ้น“เธอคงหลงรักเงินของพี่ใหญ่ลู่สินะ? แต่ฉันจะบอกอะไรให้นะคนอย่างพี่ใหญ่ลู่เขาไม่มีทางชอบคนอย่างเธอ! พื้นหลังก็ต่ําเตี้ยเรี่ยดินเธอยังกล้าคิดกว่าฝันอีกเหรอ! จําไว้นะ…เธอเป็นไม่ได้แม้แต่ รองเท้าที่เขาจะใช้ลองเหยียบด้วยซ้ํา!”

ถังหยวนไม่แม้แต่จะรอการตอบกลับใดๆจากฉีเซิง เธอจ้องเขมึงไปที่ฉีเซิงอีกหนึ่งที่ก่อนจะวิ่งไล่หลังตามลู่ชิงหยุนไป “เอิ่ม..ฉันพึ่งรู้ว่าการที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับพวกวายร้ายมันยากลําบากขนาดนี้ขอบคุณนะเจ้าเควสที่ทําได้ฉันได้รู้ หึๆ!”

ฉีเพิ่งเริ่มรู้สึกว่าเธอไม่ควรออกมาเลยวันนี้ และความคิดนี้ยิ่งได้รับการสนับสนุนเข้าไปอีก เมื่อเธอเดินกลับมาจากห้องน้ําและกําลังเดินค้นหาห้องส่วนตัวของตัวเอง ท่ามกลางผู้คนจํานวนมากที่กําลังส่งเสียงระเบ็งเซ็งแซ่ไปหมด

จนในที่สุดฉีเชิงก็สามารถแหวกฝูงชนไปจนถึงหน้าห้องได้ก่อนที่เธอจะเห็นสาเหตุของความความโกลาหลในครั้งนี้ ชิ้นส่วนเครื่องลายครามที่แตกกระจัดกระจายเต็มพื้นห้องไปหมดในขณะที่เซี่ยเหมินที่ตอนนี้กําลังนั่งแม่ะอยู่บนพื้นค่อยๆเงยหน้าขึ้นพร้อมกับมือข้างหนึ่งที่กุมหัวไว้เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลลงระหว่างนิ้วมือของเธ อก่อนจะหยดลงบนพื้น

“เซี่ยเหมิน พี่ขอโทษพี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” เซี่ยหยวนทําท่าเหมือนจะเข้าไปช่วย ก่อนจะแสร้งทําหน้ารู้สึกผิดและอยากจะแสดงความขอโทษซะเต็มประดา“พี่ไม่คิดว่าเธอจะสูญเสียการทรงตัวเซี่ยเหมินเลือดออกใหญ่แล้วให้พี่พาเธอไปโรงพยาบาลเถอะนะ ขอโทษจริงๆมันเป็นความผิดของพี่เอง”

ใบหน้าของเซี่ยเหมินเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นอย่างรวดเร็วก่อนเธอจะบัดมือของเซี่ยหยวนออก และพูดขึ้นมาด้วยน้ําเสียงกดต่ําที่แสดงออกถึงความโกรธอย่างชัดเจนว่า “เซี่ยหยวน ถ้าเธอกําลังแสด งละครอยู่ บอกเลยนะว่าฉากนี้เธอไม่ผ่าน”

“เฮ้..ทําไมผู้หญิงคนนั้นถึงได้หยาบคายนัก? ฉันเห็นนะตอนนั้นเธอเป็นคนผลักผู้หญิงอีกคน แต่เธอก็ดันเสียสมดุลล้มไปเองแล้วตอนนี้เธอกลับมาตําหนิผู้หญิงที่เธอพยายามจะผลักเนี้ยนะ!”

“เอ๊ะ นั่นคือเซี่ยหยวนใช่หรือเปล่า?”

“เซี่ยหยวนคือใครเหรอ?”

“โอ้..สวรรค์ฉันกําลังเห็นเทพธิดาแห่งชาติตัวเป็นๆอยู่ตรงหน้าตอนนี้เหรอเนี้ย! เธอช่างอ่อนหวานและแสนอ่อนโยนแต่ผู้หญิงคนนั้นคือใคร? ทําไมเธอถึงได้กล้าปฏิบัติต่อเทพธิดาของฉันแบบนี้!”

 

ผู้ชมรอบๆเริ่มชี้ไปที่เซี่ยเหมินพวกเขาทั้งรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็น “เทพธิดา”และก็โกรธแค้นแทนเธอ โชคดีที่คนที่มาทานอาหารกันที่นี่เป็นพวกที่ค่อนข้างมีฐานะ ดังนั้นพวกเขาถึงไม่ได้ทําอะไรรุนแรงมีแค่ซุบซิบกันเท่านั้น

“เซี่ยเหมิน มันเป็นความผิดของพี่เองโอเคไหม? อย่าโกรธไปเลยนะเราควรจะรีบไปโรงพยาบาลกันก่อนไม่อย่างนั้นถ้าทิ้งไว้แบบนี้มันจะเป็นรอยแผลเป็นได้นะ” เซี่ยหยวนเปิดโหมดพี่สาวแสนดีเธอพูดกับเซี่ยเหมินด้วยน้ําแสนอ่อนโยน ทั้งแสดงออกมาทางสายตาว่ากังวลและเป็นห่วงเธอมาก เธอตั้งใจสวมบทบาท จนราวกับว่ากําลังแสดงในหนังที่ต้องเข้าชิงรางวัลออสการ์ก็ไม่ปาน

 

ขณะที่ฉีเชิงกําลังจะเข้าไป แต่ยังหยินนั้นกลับเร็วกว่า เขาแหวกฝูงชนเข้าไป ก่อนจะเบี่ยงตัวไปบังเซี่ยเหมินเอาไว้ไม่ให้ตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนอีก ใบหน้าของเขาไร้ความรู้สึกแต่นัยน์ตากลับเย็นชา “คุณเซีย คุณก็น่าจะรู้ว่าตัวเองเป็นบุคคลสาธา รณะ คุณต้องทําอะไรที่เอิกเกริกขนาดนี้ด้วยหรือ?และอีกอย่างที่ นี่ก็เป็นห้องพักส่วนตัว แล้วคุณมีเหตุผลอะไรถึงต้องเรียกความสนใจจากคนภายนอกด้วย?

 

คําพูดของถังหยินดูสมเหตุสมผลมาก จนทําให้คนที่มามุงดูอยู่รอบๆก็เริ่มที่จะคิด และคล้อยตามคําพูดของเขากันหมดในเวลาไม่กี่วินานที่พวกเขาก็คิดกันไปได้หลายทางแล้ว ว่าเพราะอะไรทําไมเซี่ยหยวนถึงต้องทําแบบนี้

เซี่ยหยวนสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงสายตาที่เปลี่ยนไปของผู้คนโดยรอบ และแม้ว่าในใจของเธอจะกําลังมีไฟลูกใหญ่ลุกไหม้อยู่เพียงไหน เธอก็ทําได้แค่เพียงปั้นหน้าฉีกยิ้มต่อไป “ทุก ท่านคะ..ฉันเป็นพี่สาวของเซี่ยเหมินและที่ทําไปก็แค่เพียงอยากพาเธอไปโรงพยาบาลเพื่อทําแผลก็เท่านั้น ฉันไม่มีแรงจูงใจอื่นใดเลยเพราะมันคงไม่ดีแน่ถ้าจะมีแผลเป็นบนใบหน้าของหญิงสาว”

เซี่ยเหมินหัวเราะอย่างเยือกเย็นอยู่ภายในผู้หญิงคนนี้คงไม่สามารถรอให้เธอตายเองได้และตอนนี้เธอยังมาแสร้งทําแบบนี้อีก ทํา ไมเธอถึงได้น่ารังเกียจขนาดนี้

 

เซี่ยเหมินพยายามห้ามตัวเองอย่างถึงที่สุดเพื่อไม่ให้ตบเซี่ยนยวนก่อนเธอจะมองไปเห็นเชิงที่ยืนอยู่ในฝูงชนด้านหน้า เธอจึง พูดกับถังหยินขึ้นมาเพียงว่า“ไปกันเถอะ”

ถังหยินพยักหน้ารับน้อยๆ ก่อนจะประคองเซี่ยเหมินขึ้นหมายว่าจะค่อยๆเดินไปที่ประตู

“ เซี่ยเหมิน”เซี่ยหยวนดึงแขนของเซี่ยเหมินเบาๆ “เดี๋ยวก่อนสิ..พี่ได้ยินมาว่าเธออยากเป็นนักแสดง ตอนนี้พี่มี ละครในมืออยู่สองสามเรื่องเพราะฉะนั้นถ้าเธออยาก…”

เซี่ยเหมินจับมือของเซี่ยหยวนออก ก่อนจะยิ้มอย่างเย็นยะเยือกแล้วตอบกลับ ” คุณเป็นองค์กรการกุศลเหรอ? แล้วที่พูดออกมาผ่านกระบวนการคิดบ้างแล้วหรือยัง? แต่น่าเสียดายนะที่ฉันไม่ต้องการมันเลย”

“เซี่ยเหมิน นั่นเป็นสิ่งที่คุณควรพูดกับพี่สาวของคุณหรือ?”เสียงเข้มดังขึ้นจากด้านหลัง

ร่างสูงของซีโม่ค่อยๆเดินออกฝ่าออกมาจากฝูงชน ใบหน้าหล่อเหลาของเขาครึมลงเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นเซี่ยเหมินได้รับความช่วยเหลือจากถังหยิน รังสีแห่งความ ไม่พอใจแผ่ซานออกมาจากตัวเขาอย่างเห็นได้ชัดเรียกได้ว่าคนที่ ตอนแรกแพลนไว้ว่าจะทักเขาถึงกลับถอยหลังหนีกลับแทบไม่ทันเชียวล่ะ

 

ตอนที่เซี่ยเหมินเห็นหน้าซิโม่ ใบหน้าของเธอที่ว่าซีดอยู่แล้วก็ยิ่งซีดเซียวเข้าไปอีก แต่เธอก็ต้องบังคับตัวเองให้จ้องมองหน้าเขากลับไปเพราะมันเหมือนกับว่า ใครหลบตาก่อนคนนั้นคือผู้แพ้

“ขอโทษพี่สาวของคุณซะ” ซิโม่พูดด้วยน้ําสียงแข็งกระด้างและใบหน้านิ่งเฉย

 

“ขอโทษ? ทําไมฉันต้อง?” เสียงของเซี่ยเหมินขาดหายไปเล็กน้อยตอนท้าย

“อาโม่ ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงเธอก็เป็นน้องสาวของฉัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ช่างมันเถอะค่ะ” เซี่ยหยวนดึงซิโม่ออกมาเบาๆขณะที่

คําพูดของเธอเหมือนกับว่าจะช่วยพูดแทนให้เซี่ยเหมิน แต่ก็กลับจงใจใช้คําพูดคลุมเครือให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเซี่ยเหมินเป็นคนผิดทั้งหมดส่วนเธอก็เป็นแค่พี่สาวที่แสนดี ไม่เคยคิดถือโทษโกรธที่น้องสาวทําตัวหยาบคายใส่เลย ดูสิว่าเธอใจกว้างแค่ไหน!

“ถ้าคุณยังคอยให้ท้ายเธอแบบนี้ เดี๋ยวเธอก็นิสัยเสียกันพอดีอีกอย่างเธอควรจะรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ําซะบ้าง” สายตาที่เย็นชาของซิโม่จ้องไปที่ถังหยิน สงสัยเขาจะประเมินผู้ชายคนนี้ต่ําเกินไปผู้ชายคนนี้มีความสัมพันธ์บางอย่างกับเซี่ยเหมินจริงๆ …

 

ถังหยินเริ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อย บริษัทของพวกเขาเองก็พึ่งจะก่อตั้ง แล้วถ้ายังมามีเรื่องขุ่นเคืองกับซิโม่เพิ่มเข้าไปอีก บริษัทจะดําเนินไปอย่างราบรื่นได้ยังไงกัน?

“ อาโม่ ก็เธอเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของฉันนี่คะ ถ้าฉันไม่ดูแลแล้วใครจะทําล่ะ” เซี่ยหยวนทําเป็นพูดคัดค้านซิโม่ แต่ในใจเธอกลับรู้สึกถึงชัยชนะ “เซี่ยเหมิน เธอจะเอาอะไรมาสู้กับฉันในตอนนี้ล่ะ เธอมันก็เหมือนลูกไก่ในกํามือ ที่ฉันจะบีบให้ ตายเมื่อไหร่ก็ได้…”

 

ซีโม่รู้ดีว่าจริงๆแล้วเซี่ยหยวนรู้สึกยังไงกับเซี่ยเหมินกันแน่แต่เพราะตอนนี้เซี่ยเหมินทําให้เขาโกรธ ดังนั้นเขาก็เลยไม่ปฏิเสธที่จะแสดงละครผสมโรงกับเซี่ยหยวนเพื่อลงโทษเธอ

“ถึงแม้ว่าคุณจะเจตนาดี แต่คนบางคนเขาก็คงจะคิดไม่เป็น”

 

เซี่ยหยวนมองไปที่เซี่ยเหมินด้วยสีหน้าเศร้าโศกอีกครั้ง “เซี่ยเหมิน…ไปโรงพยาบาลกับพี่เถอะพี่ไม่อุ่นใจถ้าจะต้องทิ้งเธอไว้คนเดียวกับคนแปลกหน้าคนนี้”

คําพูดเหล่านี้เหมือนเป็นคําบอกใบ้ว่าความสัมพันธ์ของเซี่ยเหมินกับผู้ชายคนนี้ไม่บริสุทธิ์

ตามที่คาดไว้ สายตาของซีโม่ที่จ้องมองถึงหยินยิ่งเยือกเย็นกว่าเดิม

“ถังหยินคุณอยากเห็นเซี่ยเหมินเลือดไหลหมดตัวตายหรือยังไง!?” ฉีเชิงบิดโหมดผู้ชมแล้วก็ตะโกนบอกถังหยิน

 

ก่อนความสนใจของทุกคนจะเปลี่ยนไปจับจ้องที่เสียงตะโกนของฉีเชิงแทน เซี่ยหยวนยังจําเรื่องเมื่อครั้งก่อนตอนที่เจอยัยผู้หญิงคนนี้ได้ว่ายัยนี้บ้าดีเดือดแค่ไหน อีกทั้งยังไม่รู้แม้แต่ขีดจํากัดของตัว เองและไม่รู้ว่าตัวเองควรจะอยู่ตรงไหนแล้วตอนนี้เธอยังมาแท็คทีม กับยัยเซี่ยเหมินอีก

ใบหน้าของซีโม่เองก็เริ่มแสดงออกว่าไม่พอใจ เขาไม่รู้หรอกนะว่าฉีเซิงใช้วิธีไหนถึงทําให้เซี่ยเหมินยอมจ่ายค่าชดเชยเรื่องฉีกสัญญาให้เธอได้แต่สําหรับเขาผู้หญิงคนนี้คือคนทรยศ!

และเขาก็ไม่เคยเมตตาคนทรยศเขาวางแผนที่จะสอนบทเรียนให้กับเธอแต่ทว่าหลังจากที่เธอยกเลิกสัญญาไป เขาก็แทบจะไม่ เห็นเธอเลยเพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าเขาจะอยากสั่งสอนมากเธอแค่ไหน แต่ถ้าหากเธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงแล้ว ก็คงยากที่เขาจะทําอะไรได้

“อ้าว ยังไม่ลุกไปหาหมอกันอีก! คิดเปิดร้านขายเลือดกันรึไง? ถึงเปิดไปมันก็ไม่คุ้มหรอกนะ! ” ฉีซิงตะโกนกระตุ้นพวกเขาสองคนอีกรอบเมื่อเห็นพวกเขาไม่ยอมขยับตัวเดินออกมาสักที

เซี่ยเหมินรู้ดีว่าที่ฉีเชิงพูดไม่ว่าร้ายหรือมีเจตนาไม่ดีอะไรดังนั้นเธอก็เลยไม่ได้เก็บคําพวกนั้นมาใส่ใจ เธอกระตุกมือถังหยิน เบาๆแล้วก็เดินไปหาฉีเซิงแต่เซี่ยหยวนก็ทําท่าเหมือนว่าจะเข้ามาบล็อกตัวเธออีกครั้ง

“มิสเซีย น้องสาวของคุณจะเลือดไหลหมดตัวตายอยู่แล้ว ถ้าคุณยังจะเข้ามาขวางอยู่อีก ฉันจะคิดว่าคุณต้องการให้เธอตายนะใช่ไหม?”ฉีเชิงชิงพูดดักเซี่ยหยวนไว้ก่อน

สายตาผู้ชมที่กําลังมอง “” นี่พวกคุณมาด้ วยกันหรือเปล่าเนี้ย? ทําไมคําพูดคุณเหมือนพวกคุณไม่ได้มาด้วยกันเลยแฮะ?”

เซี่ยหยวนไม่กล้าที่จะขวางพวกเขาอีกต่อไป เธอทําได้เพียงแค่ยืนดูทั้งสามคนเดินออกไป ตอนนี้หัวใจของเธอยิ่งเต็มไปด้วยความเกลียดชังเท่าทวีคูณไปอีก เพราะยัยผู้หญิงคนนี้อีกแล้วเน่ารําคาญจริงๆ!

 

ซิโม่มองดูเงียบๆ ด้วยใบหน้าที่เดาไม่ออกว่าเขากําลังคิดอะไรอะ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+