Abe the Wizard 104 รายงาน

Now you are reading Abe the Wizard Chapter 104 รายงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

AtW ตอนที่ 104 รายงาน

อาเบลได้วางเสื้อคลุมสีเทาของเขาไว้ที่หอคอย ระหว่างทางนั้นอาเบลไม่ได้ สนใจฟิงเกอร์ที่ได้เข้ามาทักทายตัวเขาเลย ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วนั่นเอง ถ้าหากเขายังมัวคุยอยู่กับฟังเคอร์อาเบลจะต้องไปหาลมทมิฬช้ากว่าที่เคยแน่นอน

ในตอนที่อาเบลได้เดินไปตามถนนบนภูเขา ตัวเขานั้นกลับรู้สึกถึงความอาฆาต พยาบาทอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้อาเบลไม่ได้สนใจอีกต่อไป อาเบลได้แต่คิดว่าตัวเขา นั้นจะรู้ความจริงภายหลัง

“นายท่าน ผมมีอะไรจะต้องรายงานกับท่านครับ!” พ่อบ้านเคนในตอนนี้กําลังสวม ใส่ชุดสูทสีด่าตัวเดิมของเขาอยู่ ตัวเขานั้นรีบโค้งค่านับอาเบลในตอนที่อาเบลได้มา ถึงที่บ้านหลังเดิม

“แล้วมีอะไรอย่างงั้นหรอ?” อาเบลได้ถามอย่างสงสัย

“เจ้าชายองค์โต จูเลี่ยนจอร์จได้ขึ้นครองบัลลังก์เมื่อสามวันก่อน ตอนนี้เจ้าชายได้เชิญให้นายท่านไปร่วมงานราชาภิเษกด้วย”

“ช่วยหาข้อแก้ตัวให้ฉันทีนะ ตอนนี้ฉันกําลังอยู่กับงานวิจัย ฉันคงไม่ร่วมงานไม่ ได้หรอกนะ” อาเบลไม่ได้บอกกับใครว่าตอนนี้เขากําลังศึกษาเวทย์มนตร์อยู่ที่หอคอย เวทย์มนตร์แห่งนี้ ตอนนี้มีเพียงคนสนิทไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าอาเบลกําลังทําอะไรอยู่

อาเบลได้ซ่อนตัวอยู่ที่หอคอยแห่งนี้เพราะว่าตัวเขานั้นอยากที่จะเป็นผู้ติดตามจอม เวทย์นั่นเอง ถ้าหากมีใครรู้ว่าตัวเขากําลังซ่อนตัวอยู่ที่นี่อาเบลคิดว่าจะต้องมีคนที่ต้อง การได้อาวุธเวทย์คิดจะรบกวนเขาอย่างแน่นอน

จากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเหล่าราชวงศ์ในอดีต อาเบลไม่อยากที่จะเข้าไปยุ่ง เกี่ยวกับพวกราชวงศ์อีกต่อไป ตอนนี้อาเบลรู้แล้วว่าพวกเหล่าราชวงศ์นั้นไม่ใช่คนดี อย่างที่ตัวเขาคิด แทนที่จะเข้าร่วมกิจกรรมที่ไร้สาระแบบนี้อาเบลคิดว่าตัวเขานั้นจะเอาเวลาไปใช้กับการอ่านหนังสือคงดีกว่า

“แต่นายท่าน ผลงานที่นายท่านได้สร้างขึ้นนั้นทําให้เหล่าราชวงศ์นั้นให้รับการย อมรับ ดังนั้นเจ้าชายองค์โตจูเลี่ยนจึงให้เกียรติเชิญนายท่านไปด้วย ตั้งแต่จากนี้ไป ผมจะพูดกับพวกเขาในฐานะที่เป็นตัวแทนของนายท่านเอง” ตอนนี้อาเบลได้รับการยอมรับให้เป็นขุนนางยศลอร์ดตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น อนาคตข้างหน้าของเขาจะต้องสดใส อย่างแน่นอน

“แล้วพ่อล่ะ?”อาเบลพูดพร้อมกับหันหน้ามองพ่อบ้านเคน ดูเหมือนว่าอาเบลนั้นจะ ไม่ได้สนใจกับเรื่องอะไรแบบนี้เลย ตําแหน่งที่สูงมากขึ้นนั้นทําให้คนธรรมดาเคารพ เขามากขึ้นเท่านั้น สําหรับอัจฉริยะอย่างอาเบลแล้วเขาคิดเพียงแต่ว่าจะพัฒนาความ สามารถของตัวเองแต่เพียงเท่านั้น

“ลอร์ดมาแชลไม่ได้มีผลงานที่โดดเด่นเหมือนกับนายท่าน ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่ได้ ถูกเชิญไปนั้นเอง” พ่อบ้านเคนได้อธิบาย

“เป็นไปได้ยังไงกัน? ฉันน่าจะมีผลงานเท่าๆ กับพ่อสิ?” ในความจริงแล้วการต่อสู้ ในครั้งนั้นที่ทําให้อาเบลได้รับตาแหน่งลอร์ดมา ตัวเขานั้นได้ออกไปจากการต่อสู้ก่อน ลอร์ดมาแชลและอัศวินที่เหลือจะจัดการศัตรูทั้งหมดได้ เพราะเหตุนี้เองทําให้อาเบล รู้สึกสับสน

“ลอร์ดมาแชลได้ยกความดีความชอบให้กับนายท่านครับ เขาคิดว่าการยกความดีความชอบให้กับใครสักคนอาจจะทําให้คนคนนั้นมีโอกาสที่จะได้รับตําแหน่งมากกว่า”

“พ่อ!” อาเบลได้เผลออุทานออกมาอย่างไม่พอใจ ตอนนี้อาเบลไม่พอใจกับการก ระทําของลอร์ดมาแชล

“เจ้าชายจูเลี่ยนจอร์จยังชวนนายท่านเข้าศาลของเหล่าขุนนางชั้นสูงเพื่อที่จะชดเชยกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับนายท่าน” พ่อบ้านเคนพูดขึ้น

“ชดเชย? ทําไมกัน?” อาเบลได้ถามอย่างสงสัย

“เป็นเพราะว่าเจ้าชายมิดเดิลตันจอร์จสั่งโจมตีนายท่าน เจ้าชายจูเลี่ยนอยากที่จะ ไถ่โทษเรื่องในครั้งนี้” พ่อบ้านเคนได้อธิบายทุกอย่างอย่างลังเล พ่อบ้านเคนนั้นไม่ ต้องการที่จะพูดอะไรไปเพื่อที่จะทําให้สถานการณ์ในตอนนี้นั้นดูแย่ลงไปกว่านี้ แต่ถ้า หากเขาไม่ได้อธิบายสถานการณ์ในตอนนี้ให้กับอาเบลได้ฟังเลย อาเบลก็คงจะต้อง รับแรงกดดันอันหนักอึ้งอย่างนี้ต่อไป

“หมอนั่นสินะ…”อาเบลได้นึกถึงหัวหน้าผู้บัญชาการฮอปกินในทันที

ความจริงแล้วการถูกเหล่าทหารคาวาลีโจมตี้นั้นทําให้อาเบลโกรธเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้อาเบลก็ได้แต่หัวเราะอย่างขมขื่นออกมา ถ้าหากตัวเขานั้นไม่ได้อยู่ในเมือง เบกองต่อไป อาเบลจะต้องขี่เมฆาสีขาวก่อนที่จะทิ้งระเบิดไปทั่วเมืองเพื่อจัดการกับ ชายมิดเดิลตันอย่างแน่นอน

ตอนนี้หัวหน้าผู้บัญชาการฮอปกินได้หนีไปแล้ว และเพื่อที่จะรักษาชื่อเสียงใน ฐานะปรมาจารย์ช่างบตีเหล็กเอาไว้อาเบลจึงตัดสินใจที่จะปล่อยเรื่องนี้ไป แต่ลึกๆ ในใจอาเบลนั้นรู้ดีว่าเรื่องในครั้งนี้ยังไม่จบ แต่ตอนนี้ตัวเขาไม่อยากที่จะติดใจเอา ความเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว สิ่งที่อาเบลทําได้มีเพียงจําไว้เท่านั้นว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากอาเบลมีโอกาสที่จะสอนบทเรียนให้กับเจ้าชายมิดเดิลตันอาเบลก็จะไม่ลังเลเลยที่จะจัดการกับเขา

“มีข่าวลืออีกว่าเจ้าชายมิดเดิลตันได้ถูกเนรเทศไปที่เมืองเมอร์เรย์แล้ว ดูเหมือน ว่าที่กว่า 100 ไมล์ของเขารวมไปถึงไพร่คนและตําแหน่งก็ถูกถอดออกด้วยเช่นกัน” พ่อบ้านเคนพูดขึ้น แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เรียกว่า “ข่าวลือ” นี้เองตัวพ่อบ้านเคนเองก็ไม่ แน่ใจเหมือนกันว่ามันเป็นเรื่องจริงไหม

แต่อาเบลคิดว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน เดิมที่แล้วเหล่าราชวงศ์นั้น จะไม่ยอมเปิดเผยการลงโทษของเจ้าชายมิดเดิลตันต่อสาธารณชนแบบนี้ ตอนนี้มีเรื่องเดียวที่อาเบลสงสัยนั่นก็คือพ่อบ้านเคนที่ไม่มีหน่วยข่าวกรองในเมืองเบกองเลย ทําไมเขาถึงรู้ข่าวนี้กันแน่

เจ้าชายคนนี้ได้ละทิ้งทรัพย์สมบัติทั้งหมดรวมไปถึงอัศวินและตําแหน่งแล้ว ตอนนี้ เจ้าชายมิดเดิลตันจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่โดยปราศจากตําแหน่งของราชวงศ์ นี้อาจ จะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้วที่ท่านดยุคจะมอบให้กับเจ้าชายคนนี้ได้

อาเบลเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องเมืองเมอร์เรย์มาก่อน ถึงแม้ว่าเมืองเมืองนี้จะอยู่ระ หว่างเขตของการปกครองระหว่างดยุคคาร์เมลกับดยุคทันเดอร์ แต่เมืองเมืองนี้ก็ยัง คงมีสิ่งที่ผิดกฎหมายมากมายอยู่ดี และตอนนี้สถานการณ์ของดยุคทันเดอร์เองก็ยังคงไม่สู้ดีอีกด้วย เจ้าชายทั้ง 7 คน คนอื่นๆ จะต้องเกลียดชังเจ้าชายมิดเดิลตันอย่าง แน่นอนถึงได้ส่งเขาไปแบบนี้

แต่เจ้าชายมิดเดิลตันจอร์จไม่ได้รับความสงสารแม้แต่น้อย อาเบลรู้สึกเข้าใจความ รู้สึกของเจ้าชายทั้ง 7 คนดี คงเป็นเพราะอาเบลสามารถจัดการกับเหล่าโวร์แกนได้จึง ท่าให้เจ้าชายมิดเดิลตันคนนี้แค้นอาเบลเป็นธรรมดา

อาเบลไม่รู้ว่าตัวเขานั้นจะต้องการเงินอีกมากแค่ไหนจากเจ้าชายมิดเดิลตัน แต่ เนื่องจากการปรากฏตัวของหัวหน้าผู้บัญชาการฮอปกินนั้นทําให้อาเบลเปลี่ยนแปลง ความคิดไป ดูเหมือนว่ากําลังพลของเจ้าชายคนนี้จะไม่ใช่กําลังพลที่ธรรมดาซะแล้ว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นอาเบลก็ต้องการทุนทรัพย์ในการฝึกฝนตัวเองอยู่ดี

“ฉันจะจัดการค่าชดเชยในอีกสองวันนี้ให้เอง และเมื่อฉันจัดการเวลาได้ฉันฉันจะ แจ้งให้นายมารับฉันเอง” อาเบลได้ใช้มือของตัวเองลูบไปที่ตัวของลมทมิฬ ตอนนี้ลม ทมิฬได้เคลื่อนตัวไปมารอบๆ อาเบล

หลังจากที่นวดลมทมิฬเสร็จอาเบลก็ได้เดินทางกลับไปที่หอคอยเวทย์มนตร์อีก ครั้ง ตัวเขาพยายามที่จะไปหาจอมเวทย์ฝึกหัดแซมแต่ก็ดูเหมือนว่าตอนนี้แซมยังคง อยู่ข้างนอกของหอคอย ดูเหมือนว่าอาเบลจะต้องรอแซมไปอีกนาน ในขณะที่เหล่าผู้ฝึกเวทย์มนตร์ทุกคนได้ออกไปจากหอคอย อาเบลก็มีหน้าที่ที่จะต้องช่วยแซมทํา ความสะอาดหอคอยทั้งหมด เมื่ออาเบลทําความสะอาดทุกอย่างเสร็จหมดแล้วตอนนี้ ก็มาถึงเวลาฝึกฝนของเขาแล้วนั่นเอง

แต่ถึงแม้จะต้องทําความสะอาดมากมายแต่ท้ายที่สุดแล้วแซมก็ดูแลอาเบลเป็น อย่างดี แซมไม่ได้ใช้ให้อาเบลทําอะไรที่ยุ่งเหยิงเท่าไรนัก สิ่งที่เขาจะต้องทํานั้นมีเพียงทําความสะอาดห้องแล็บเพียงเท่านั้น

เท่าที่อาเบล ดูเหมือนว่าจะมีจอมเวทย์อย่างเป็นทางการทั้ง 3 คนอาศัยอยู่ที่ หอคอยเวทย์มนตร์ที่ชั้น 4 ชั้น 5 และชั้น 6 ดูเหมือนว่าเหล่าจอมเวทย์ทั้งหมดนั้นจะติดอยู่ที่ระดับ 5 แต่เพียงเท่านั้น เหล่าจอมเวทย์ทั้งหมดนั้นต่างก็อายุมากกว่าแซมด้วยกันทั้งนั้น ในหอคอยเวทย์มนตร์ดูเหมือนว่าจะมีแค่แซมเท่านั้นที่จะมีโอกาสเป็นจอมเวทย์ฝึกหัดระดับ 6 ได้

นี่คือสาเหตุที่ทําให้แซมยุ่งอยู่กับการทดลองตลอดเวลา แซมได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ ไปกับการฝึกฝนตัวเองและทดลองอะไรหลายๆ อย่างซ้ําไปซ้ํามา แซมอยากที่จะทํา ลายขีดจํากัดของตัวเองและกลายเป็นจอมเวทย์อย่างเป็นทางการไปให้ได้

จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลากว่าสามวันแล้วที่อาเบลมาถึงหอคอยเวทย์มนตร์ นับตั้งแต่มาที่นี่อาเบลไม่เคยเห็นเหล่าสาวกจอมเวทย์ทั้ง 3 คนเลย ดูเหมือนว่าพวกเขาส่วนใหญ่ใช้เวลาส่วนมากไปกับการอยู่ในห้องทดลอง เหล่าสาวกจอมเวทย์ทั้งหลายต่างก็ต้องใช้เงินจํานวนมากไปกับการซื้อยาต่างๆ เพื่อการค้นคว้าวิจัย ดังนั้นแล้วอาเบลจึงไม่สามารถหาเหตุผลอะไรในการบอกให้พวกเขาเหล่านี้ช่วยทําความสะอาดได้เลย

อาเบลกลับไปที่ชั้น 1 เพื่อที่จะทานอาหารเย็น อาหารเย็นนั้นจะถูกส่งไปที่ห้อง เก็บเสบียงภายในหอคอยเวทย์มนตร์ วิญญาณภายในหอคอยนั้นจะได้รับอาหารไปโด ยอัตโนมัติ หลังจากตรวจสอบคุณภาพอาหารทั้งหมดแล้วอาหารทั้งหมดก็จะถูกส่งไป ที่ห้องทานอาหารต่อไป เมื่ออาหารถูกส่งมาแล้วสมาชิกทุกคนทั้งหลายที่อาศัยอยู่ ภายในหอคอยก็จะได้รับอาหารไปอย่างอิสระ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเหล่าผู้ติดตามทั้ง หลายจะนําอาหารไปให้เหล่าสาวกมากกว่า

อาหารวันนี้ค่อนข้างที่จะดูดีเป็นอย่างมาก ในวันนี้มีขนมปังสีขาวที่มาพร้อมกับน้ํา ผึ้ง โดยที่มีน้ําผลไม้เป็นเหมือนกับเครื่องดื่ม นอกจากนี้ยังมีปลารมควันและมัฟฟินที่ตกท้ายเป็นของหวาน

แม้ว่ามื้ออาหารเย็นในมื้อนี้จะไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ แต่มันก็ดีมากแล้วถ้าจะเทียบ กับมื้ออาหารของคนธรรมดาทั่วไป ขนมปังสีขาวนั้นส่วนมากจะถูกทํามาอย่างพิเศษ โดยใช้ข้าวสาลี การจะทําขนมปังสีขาวที่ดีได้จะต้องใช้ข้าวสาลีมากมายหลายพันธุ์ กว่าจะได้ขนมปังก้อนหนึ่งขึ้นมา

ผลไม้ที่เป็นมื้ออาหารในวันนี้เองเป็นผลไม้สุดพิเศษที่ได้จากเมืองเบกอง ผลไม้ ชนิดนี้เป็นผลไม้ที่สามารถเจริญเติบโตได้บนเทือกเขาที่มีความสูงมากกว่า 1000 เมตรเท่านั้น โดยรสชาติของมันนั้นจะหวานเป็นพิเศษนั่นเอง และเวลาในการเก็บรักษาผลไม้ชนิดนี้เองจะมีเวลาเก็บรักษาไม่เกิน 1 วันเพียงเท่านั้น ถ้าหากมีใครก็แล้วแต่ในหอคอยเวทย์มนตร์ต้องการที่จะกินผลไม้ชนิดนี้ เหล่าผู้เก็บเกี่ยวจะต้องเดินทางไป เก็บผลไม้ตั้งแต่ตอนกลางคืนก่อนที่จะล้างให้สะอาดและส่งมาที่หอคอยเวทย์มนตร์ แห่งนี้ในตอนเช้า โดยขั้นตอนในการเก็บทั้งหมดนี้เองถูถูกทําเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถรักษาความสดใหม่ของผลไม้ชนิดนี้ภายใน 1 วันได้

ส่วนของหวานอย่างมัฟฟินนั้นถูกทํามาอย่างธรรมดาๆ โดยส่วนประกอบหลักในกา รทํามัฟฟินนั้นจะมีน้ําตาล เนย และแป้งนั่นเอง แต่ในโลกใบนี้การที่จะหาน้ําตาลกินได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ราคาของน้ําตาลในโลกใบนี้นั้นสูงมาก ส่วนเนยนั้น คนธรรมดาทั่วไปสามารถผลิตเพื่อที่จะทานกันได้เอง และที่จะขาดไปไม่ได้เลยสําหรับการทํามัฟฟินนั้นก็คือแป้งคุณภาพดี ถ้าหากขาดวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงชนิดใดชนิดหนึ่งไป การจะทําอาหารหวานจานนี้ให้ได้นั้นจึงเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด