Abe the Wizard 28 เตรียมพร้อมก่อนการต่อสู้

Now you are reading Abe the Wizard Chapter 28 เตรียมพร้อมก่อนการต่อสู้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

AtW ตอนที่ 28 เตรียมพร้อมก่อนการต่อสู้

 

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย

 

“พ่อครับ ตอนที่ผมกลับมาจากเมืองฮาเวสผมได้เห็นหมู่บ้านหมู่บ้านหนึ่งถูกพวกออร์คโจมตีครับ หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ระหว่างทางจากปราสาทแฮรี่กับเมืองฮาเวส”

 

เมื่ออัศวินมาแชลได้ฟังเรื่องทุกอย่างจากอาเบลเขาก็ได้รีบเรียกพ่อบ้านลินด์เซ่ในทันที “ลินด์เซ่ ส่งสัญญาณเตือนชาวบ้านในเขตแดนของเราซะ และหาที่หลบภัยให้กับพวกเขาด้วยละ ถ้าหากพวกเขามาหลบในปราสาทแล้วละก็อย่าลืมที่จะยืนยันตัวตนของพวกเขาด้วย”

 

“รับทราบครับนายท่าน” ลินด์เซ่รีบพูดอย่างรวดเร็วก่อนที่จะออกจากห้องไป

 

“พ่อครับ ผมเตรียมของขวัญไว้ให้สำหรับพ่อแล้ว ตอนแรกผมจะตั้งใจให้ของขวัญชิ้นนี้หลังจากวันเกิดพ่อ แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันทำให้พวกเราต้องมีงานที่จะรับมือ ตอนนี้พ่อควรจะมีอาวุธที่ทำให้พ่อแข็งแกร่งขึ้น” อาเบลต้องกลับไปเอาดาบน้ำแข็งสุดหรูหราที่กระเป๋าในห้องทำงานของเขา

 

เมื่ออาเบลกลับมาที่ปราสาทเขาก็ได้กลับไปที่ห้องตีเหล็กส่วนตัวก่อนที่จะหยิบดาบเวทย์น้ำแข็งออกมา เดิมทีแล้วดาบเล่มนี้อาเบลตั้งใจที่จะมอบเป็นของขวัญวันเกิดให้กับอัศวินมาแชล การที่อาเบลได้มอบดาบเวทย์น้ำแข็งเล่มนี้ให้กับอัศวินมาแชลจะทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของฝั่งมนุษย์เพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น

 

อาเบลได้หยิบดาบเวทย์น้ำแข็งของเขาขึ้นมา ในตอนนี้ไม่มีเวลาเหลืออีกต่อไป ถ้าหากประมาทพวกอาเบลเองจะพ่ายแพ้ให้กับพวกออร์คนั่นเอง ตอนนี้อาเบลจะต้องส่งมอบดาบเวทย์เล่มนี้ให้กับอัศวินมาแชล

 

“ดาบเวทย์!” อัศวินมาแชลดึงดาบที่อาเบลได้มอบให้ก่อนที่จะใช้นิ้วของตัวเองสัมผัสอย่างเบามือลงไปที่ตัวดาบ นิ้วของอัศวินมาแชลนั้นกำลังถูกความหนาวเย็นของดาบเวทย์เล่มนี้แช่แข็งนั่นเอง “ว้าว นี้มันดาบเวทย์น้ำแข็ง! ช่างเป็นดาบที่พิเศษอะไรแบบนี้”

 

หลังจากที่อัศวินมาแชลชื่นชมดาบเวทย์ที่อาเบลมอบให้เสร็จเขาก็หันกลับไปมองอาเบลก่อนจะพูดว่า “เบธแฮมได้ทำการค้นคว้าวิธีการต่างๆ ที่จะสร้างดาบเวทย์แบบนี้ได้เป็นเวลานานแล้ว แต่ดูเหมือนว่าความพยายามอย่างหนักของเขาในวันนี้จะแสดงผลลัพธ์ออกมาให้เห็นแล้ว!”

 

“นี่เป็นของขวัญที่ผมทำให้พ่อ พ่อคิดว่าดาบเล่มนี้อาจารย์เบธแฮมเป็นคนที่ตีขึ้นมาหรอครับ?”

 

อาเบลรู้สึกพูดไม่ออกทันที ของขวัญที่อาเบลทุ่มเทแรงกายและแรงใจในการสร้างนั้นกลับถูกเข้าใจผิดโดยพ่อบุญธรรมคนนี้

 

อัศวินมาแชลแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเลย เขาเองก็พูดไม่ออกเช่นเดียวกับอาเบล

 

“อาเบล อย่าบอกนะว่าลูกสร้างดาบเล่มนี้?” อัศวินมาแชลถามอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

 

อาเบลยังคงนิ่งเงียบต่อไป ก่อนที่จะชี้ไปที่เหรียญตราของปรมาจารย์ช่างตีเหล็กที่แขวนอยู่บนกลางอกของเขา ตอนนี้อัศวินมาแชลเพิ่งจะรู้ตัวว่าอาเบลนั้นมีเหรียญตราสุดพิเศษอยู่ที่หน้าอกของเขา

 

“ลูกเป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กแล้วอย่างงั้นหรอ?” หลังจากที่ได้ยินคำตอบของอาเบลอัศวินมาแชลก็ได้แต่สงสัยเช่นเดียวกับคนทั้งโลกในตอนนี้ อาเบลสามารถเป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กที่อายุยังน้อยที่สุดที่เคยจะมีในประวัติศาสตร์ อาเบลในตอนนี้มีอายุแค่ 13 ปีเท่านั้น

 

“ที่ผมเดินทางไปเมืองฮาเวสก็เพื่อที่จะไปประเมินอาวุธไงครับพ่อ” อาเบลพูดเสริมขึ้น

 

“นี่เป็นเรื่องจริงหรออาเบล?” สีหน้าของบอัศวินมาแชลที่กำลังประหลาดใจอยู่นั้นได้เปลี่ยนเป็นตื่นเต้นดีใจไปแทนแล้ว หลังจากที่ยืนยันได้ว่าสิ่งที่อาเบลพูดเป็นเรื่องจริงอัศวินมาแชลก็หัวเราะออกมาด้วยความดีใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ฮาฮ่า ฮาฮ่า! ตอนนี้เรามีปรมาจารย์ช่างตีเหล็กอยู่ในบ้านของเราแล้ว! นี่ลูกพ่อ พ่ออยากได้เกราะเวทย์ที่ดีที่สุด โล่ห์เวทย์ที่ดีที่สุด และปืนที่ดีที่สุด…โอ้เกือบลืมไป พ่ออยากได้ธนูเวทย์ที่ดีที่สุดด้วย”

 

อาเบลมองไปที่หน้าของอัศวินมาแชล ในตอนนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นมากจนเกินไป อาเบลได้เดินออกไปจากห้องโดยที่ไม่หันมองกลับมา ถ้าจะคิดตามสิ่งที่อัศวินมาแชลพูดนั้น การจะหาอุปกรณ์เวทย์มนตร์ที่ดีที่สุดนั้นแน่นอนว่าจะต้องให้ช่างตีเหล็กที่เก่งที่สุดในสหพันธ์ช่างตีเหล็กทำขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ดูเหมือนว่าความฝันทั้งหมดของอัศวินมาแชลจะดูเหลวไหลมากเกินไป

 

ทันใดที่เสียงระฆังส่งสัญญาณดังขึ้นก็มีทหารกว่า 20 คนที่ได้สวมใส่ชุดเกราะหนังพร้อมกับถือปืนยาวเตรียมพร้อมแล้ว ทหารทุกคนนั้นได้มาเตรียมพร้อมกันที่หน้าปราสาทแฮรี่แล้ว อัศวินมาแชลได้เปลี่ยนชุดเกราะของเขามาเป็นชุดเกราะแห่งดวงตะวัน ตอนนี้อัศวินมาแชลได้กระโดดขึ้นม้าศึกสีขาวตัวโปรดของเขา ม้าศึกของอัศวินมาแชลนั้นทรงพลังกว่าม้าศึกทั่วๆ ไป นอกจากนี้เองอุปกรณ์ที่อัศวินมาแชลใช้ยังเป็นของที่ดีกว่าคนทั่วไปด้วยรวมไปถึงตอนนี้อัศวินมาแชลได้กำลังถือดาบแห่งร้อยทักษะสุดหรูหราที่อาเบลนั้นทำเป็นของขวัญให้ และในตอนนี้อัศวินมาแชลได้สะพายปืนไรเฟิลของเหล่าอัศวินและกำลังยืนอยู่หน้ากองกำลังทหารก่อนที่จะพูดอะไรบางอย่าง

 

“ไอพวกออร์คสกปรกนั่นได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งแล้ว ทหารของฉัน ตอนนี้พวกเราต้องเตรียมอาวุธให้พร้อม พวกเราจะไปปกป้องบ้านเกิดของพวกเราจากพวกออร์คชั่วร้ายกัน!” หลังจากที่ได้ยินคำพูดปลุกใจของอัศวินมาแชลทหารทั้งหลายที่ยืนอยู่นั้นต่างก็ตื่นตัวและเต็มไปด้วยกำลังใจที่พร้อมจะต่อสู้ ถ้าใครสามารถจัดการพวกออร์คได้ คนคนนั้นก็จะเป็นหนึ่งในทหารผู้ทรงเกียรติไปนั่นเอง ในอดีตวิธีเดียวที่จะเป็นทหารผู้ทรงเกียรติได้นั่นก็คือการรับหน้าที่ไปป้องกันป้อมปราการแห่งปาฏิหาริย์นั่นเอง ตอนนี้โอกาสที่จะได้เป็นทหารผู้ทรงเกียรตินั้นมีอยู่ทั่วทุกที่แล้ว

 

เท่าที่อาเบลประเมินจากสายตาเขาคิดว่าทหารของปราสาทแฮรี่นั้นล้วนแต่ทรงพลังและกล้าหาญมาก ทหารทั้งหมด 20 คนกำลังนั่งอยู่บนม้าศึกทั้ง 20 ตัว ค่าใช้จ่ายในการฝึกทหารจำนวนนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ถ้าหากขาดพลังอำนาจและความร่ำรวยจากฝีมือของเบธแฮมไป การที่ที่จะสามารถสร้างกลุ่มทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีแบบนี้ได้คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

 

 

ที่ปราสาทเบ็นเน็ตต์เองผู้ส่งสารที่เต็มไปด้วยเหงื่อกำลังรีบนำของบางอย่างมาให้อัศวินเบ็นเน็ตต์ อัศวินเบ็นเน็ตต์รีบบอกให้พ่อบ้านของเขาให้รางวัลกับผู้ส่งสารคนนี้ก่อนที่จะเดินทางกลับไป

 

เมื่ออัศวินเบ็นเน็ตต์เปิดของที่ผู้ส่งสารนำมามอบให้เขาก็พบกับดาบใหญ่เล่มหนึ่งพร้อมกับจดหมายสองฉบับ หนึ่งในจดหมายนั้นเป็นลายมือของอัศวินมาแชล จดหมายจากอัศวินมาแชลได้แจ้งให้อัศวินเบ็นเน็ตต์รู้ถึงเรื่องการโจมตีที่หมู่บ้านใกล้ๆ กับปราสาทแฮรี่ ดูเหมือนว่าพวกออร์คนั้นเริ่มจะมาสอดแนมและบุกตีหมู่บ้านใกล้ๆ กับปราสาทแฮรี่แล้ว แน่นอนว่าพวกออร์คจะต้องบุกโจมตีในอนาคตอย่างแน่นอน

 

ส่วนจดหมายอีกฉบับเป็นของอาเบลนั่นเอง จดหมายของอาเบลเขียนสั้นๆ ว่า “ของขวัญวันเกิดล่วงหน้าครับพ่อ”

 

เมื่ออัศวินเบ็นเน็ตต์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากฝัก เขาก็รู้ได้ทันทีว่าดาบเล่มนี้นั้นมีอะไรที่ต่างจากดาบทั่วๆ ไป ดูเหมือนว่าดาบเล่มนี้จะทรงค่ากว่าดาบเล่มไหนๆ ที่อัศวินเบ็นเน็ตต์นั้นได้เคยใช้มานับไม่ถ้วน… เมื่ออัศวินเบ็นเน็ตสัมผัสดาบดูเขาก็รู้ว่าดาบเล่มนี้คือดาบเวทย์น้ำแข็งนั่นเอง อัศวินเบ็นเน็ตต์กำลังรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าอาเบลจะเป็นลูกบุญธรรมของเพื่อนเขาอย่างอัศวินมาแชลไปแล้วแต่อาเบลก็ยังคงใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือยเพื่อที่จะซื้อดาบเวทย์น้ำแข็งที่แสนมีค่านี้ให้กับอัศวินเบ็นเน็ตต์เอง อัศวินเบ็นเน็ตต์จะต้องปกป้องตัวเขาเองและครอบครัวจากพวกออร์คที่กำลังบุกมาให้ได้

 

ทุกวันนี้อัศวินเบ็นเน็ตต์รู้สึกเสียใจทุกวันที่ตัดสินใจให้อาเบลไปเป็นลูกบุญธรรมของเพื่อนเขาเอง ถ้าหากอัศวินเบ็นเน็ตต์รู้ความจริงที่ว่าอาเบลเป็นคนที่สร้างดาบเวทย์เล่มนี้กับมือเขาจะต้องเสียใจมากกว่านี้อย่างแน่นอน

 

 

เมื่ออาเบลเดินทางไปที่โรงตีเหล็กในวันนี้ อาเบลก็ได้เห็นว่าทุกคนที่ทำงานในโรงตีเหล็กกำลังจ้องมองเขาอยู่ ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกคนจะดูเคารพนับถืออาเบลมากขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้ผู้คนกำลังพูดถึงฐานะปรมาจารย์ช่างตีเหล็กของอาเบล แต่ดูเหมือนว่าอาเบลจะรู้สึกเครียดทุกครั้งเมื่อได้ยินใครก็ตามเรียกอาเบลว่า “ท่านอาจารย์” อย่างไรก็ตามอาเบลก็ไม่ได้เป็นช่างตีเหล็กธรรมดาทั่วไปแล้ว ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าอาเบลนั้นได้กลายเป็น “ปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก” ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาเบลได้เป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กโดยผ่านการประเมินจากสหพันธ์ช่างตีเหล็ก แต่ตอนนี้ทุกคนกำลังคิดว่าอาเบลเองกำลังถ่อมตัวอยู่นั่นเอง

 

เมื่ออาเบลกลับมาที่โรงตีเหล็กเขาก็หมกตัวอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวของเขา… นับตั้งแต่อาเบลเริ่มสร้างอาวุธขึ้นเขาก็ไม่เคยที่จะสร้างอาวุธที่ตัวเองอยากได้เลย แม้ว่าอาเบลจะสร้างดาบแห่งร้อยทักษะได้แต่เขาก็ไม่เคยเลยที่จะสร้างดาบที่ตัวของอาเบลเองจะใช้งาน ดาบเพียงเล่มเดียวที่อาเบลมีนั้นคือดาบเวทย์น้ำแข็งที่ถูกสร้างขึ้นระหว่างการประเมินดาบของสหพันธ์ช่างตีเหล็ก

 

ทำไมอาเบลถึงไม่สร้างอุปกรณ์สวมใส่ให้กับตัวเองเลย? ประการแรกอาเบลนั้นยังไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายนั่นเอง อาเบลเลยไม่คิดที่จะสร้างอุปกรณ์สวมใส่ให้กับตัวเองเพราะมันจะเป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ ประการที่สองร่างกายของอาเบลตอนนี้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจากช่วงวัยรุ่นนั่นเอง นั่นหมายความว่าอุปกรณ์ต่างๆ ที่อาเบลสร้างขึ้นจะสูญเปล่าไปถ้าหากมันไม่พอดีกับตัวของอาเบลในตอนที่อาเบลกำลังเติบโตขึ้น

 

แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันดูเหมือนว่าจะมีการต่อสู้เกิดขึ้นในไม่ช้าอย่างแน่นอน ในที่สุดอาเบลจึงตัดสินใจที่จะสร้างอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการป้องกันขึ้นมา ด้วยอุปกรณ์การป้องกันนี้เองจะทำให้อาเบลสามารถที่จะรอดชีวิตจากการต่อสู้ในศึกครั้งนี้ได้… การต่อสู้ที่กำลังจะมาถึงดูเหมือนว่าจะกำหนดชีวิตความเป็นและความตายของอาเบลกับคนที่เขารู้จักไปด้วย

 

อย่างแรกอาเบลต้องการทดสอบอะไรบางอย่างที่เขาได้คิดเอาไว้ อาเบลเริ่มสวมถุงมือหนาก่อนที่จะวางขวดเซรามิกลงไปในเตาเผา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หยิบขวดเซรามิกออกมาโดยใช้ที่หนีบเหล็กก่อนที่จะโยนขวดเซรามิกใส่ในถึงน้ำเย็นในทันที แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นเองอาเบลก็ได้เอาขวดเซรามิกที่ผ่านความร้อนและน้ำเย็นใส่ลงไปในฮอร์ราดริกคิวบ์

 

แม้ว่าอาเบลจะเห็นว่าขวดเซรามิกที่ผ่านความร้อนจะเข้าไปในฮอร์ราดริกคิวบ์แล้วแต่ขวดเซรามิกก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยตั้งแต่ที่อาเบลนำออกจากเผา หลังจากนิ่งเงียบไปพักหนึ่งอาเบลก็สังเกตเห็นได้ว่าขวดเซรามิกมีรอยร้าวเกิดขึ้น

 

ทันทีที่อาเบลเอาขวดเซรามิกออกมาจากฮอร์ราดริกคิวบ์เพียงแค่หัวใจของอาเบลเต้นเพียงครั้งเดียวขวดเซรามิกในมือของเขาก็แตกสลายกลายเป็นผุยผงทันที

 

“ได้ผล!” อาเบลกำลังชื่นชมและยินดีที่การทดลองของเขาในครั้งนี้สำเร็จ

 

ตอนนี้อาเบลสามารถที่จะสร้างดาบเวทย์ได้เร็วขึ้นกว่าแต่ก่อนได้มากแล้ว โดยปกติอาเบลจะต้องใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงโดยเฉลี่ยกว่าที่จะสร้างดาบเวทย์เล่มหนึ่งได้ ตอนนี้อาเบลได้เร็วพอที่จะสร้างดาบเวทย์ให้เร็วกว่า 5 ชั่วโมงแล้ว ดาบเวทย์ที่อาเบลต้องการสร้างอาเบลตั้งใจที่จะเขียนอักษรรูนที่แตกต่างกันลงไปในดาบเล่มนั้น วิธีนี้เองทำให้อาเบลต้องเชื่อมต่อกับอักษรรูนและทำให้เกิดความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ในระหว่างขั้นตอนสุดท้ายของการชักนำพลังจากอัญมณีสีน้ำเงินไปที่อักษรรูน ในตอนที่ชักนำเข้าสู่อักษรรูนเสร็จแล้วดาบที่อาเบลได้สร้างขึ้นก็ได้เรืองแสงสีขาวขึ้น อาเบลไม่รอช้ารีบเก็บดาบเล่มนี้ใส่ในฮอร์ราดริกคิวบ์

 

ด้วยเวลาที่เหลืออยู่ของอาเบล เขาจึงได้สร้างโล่ห์แห่งร้อยทักษะขึ้น โล่ห์อันนี้มีความหนาถึง 30 เซนติเมตร ถ้าหากอาเบลไม่ได้เป็นอัศวินฝึกหัดระดับ 5 แล้วเขาคงไม่สามารถที่จะยกโล่ห์ที่มีขนาดมหึมาขนาดนี้ได้

 

อาเบลได้หยิบดาบเวทย์น้ำแข็งที่ล้มเหลวในการสร้างออกจากฮอร์ราดริกคิวบ์ เวลานั้นเองอาเบลก็ได้เรียนรู้บทเรียนแล้ว ในขณะที่อาเบลหยิบดาบออกมาเขาก็โยนดาบเล่มนั้นไปที่ด้านนอกและนับถอยหลังอย่างช้าๆ “1,2,3” ภายในใจ…

 

เมื่ออาเบลนับถึง 3 เขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังตู้มด้านนอกตามด้วยเสียงของฝูงชนที่ตื่นกลัวขึ้น หลังจากที่นับถึง 3 แรงระเบิดจากดาบเวทย์ที่ถูกสร้างอย่างล้มเหลวของอาเบลได้กระแทกเข้ากับโล่ห์ของอาเบล หลังจากที่เสียงระเบิดเงียบลงอาเบลก็ได้ชูหัวขึ้นมาจากโล่ห์ของเขา การระเบิดครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่าครั้งไหนๆ กำแพงหินขนาดใหญ่ภายในห้องเป็นรูคล้ายกับว่าถูกเจาะนับไม่ถ้วน

 

เมื่ออาเบลโผล่หัวออกมาจากโล่ของเขาเขาก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ร่างกายของอาเบลเต็มไปด้วยเหงื่อที่เปียกโชก มีรูอยู่เต็มไปหมดบนโล่ห์ของอาเบล รูที่เกิดขึ้นบนโล่ห์ของอาเบลคล้ายกับว่าถูกกระสุนปืนยิงยังไงยังงั้น รูนั้นลึกพอที่จะใช้นิ้วสัมผัสได้เลย

 

หากอาเบลไม่ได้ถือโล่ที่หนาเป็นพิเศษแบบนี้อาเบลอาจจะบาดเจ็บสาหัสจากแรงระเบิดไปแล้ว

 

อาเบลไม่เชื่อว่าการเพิ่มรูนในดาบนั้นจะสามารถเพิ่มความรุนแรงของระเบิดได้มากขนาดนี้ “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากโยนดาบที่ถูกสร้างอย่างล้มเหลวไปกลางฝูงชนกัน?” อาเบลได้แต่คิดอยู่กับตัวเอง

 

อาเบลสามารถจินตนาการได้เลยว่าถ้าหากเขาโยนดาบที่ถูกสร้างอย่างล้มเหลวแบบนี้ไปท่ามกลางสิ่งมีชีวิตคงไม่มีใครรอดจากแรงระเบิดจากดาบได้เลย

 

แน่นอนว่าอาวุธที่อันตรายสูงแบบนี้จะต้องถูกเก็บไว้ในฮอร์ราดริกคิวบ์ ดังนั้นการระเบิดแบบนี้เป็นเหมือนกับอาวุธลับของอาเบลเพียงคนเดียวเท่านั้น ตราบใดที่อาเบลมีชีวิตอยู่เขาจะไม่ยอมให้ใครก็ตามที่เห็นความลับของเขามีชีวิตรอดไปอย่างแน่นอน

 

ในตอนเย็นของวันนั้นอาเบลไม่ได้กลับไปพักผ่อนที่ปราสาทแฮรี่ อาเบลอยู่ที่ห้องทำงานทั้งคืนเพื่อที่จะสร้างดาบระเบิดเพื่อเก็บไว้ในฮอร์ราดริกคิวบ์ของเขา ในระหว่างนั้นเองอาเบลได้เรียนรู้การป้องกันตัวอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพแล้ว

 

ในตอนที่อาเบลได้สร้างระเบิดในโลกนี้สำเร็จเขาก็ได้นึกถึงระเบิดในโลกเดิมที่อาเบลได้จากมา ระเบิดที่อาเบลสร้างนั้นมีส่วนคล้ายกับระเบิดมือของโลกเดิมที่อาเบลอยู่ ตามที่อาเบลเคยเรียนรู้มาจากยุคแห่งการใช้ระเบิด ถ้าจะหาวิธีที่จะปลอดภัยที่สุดสำหรับการเอาชีวิตรอดจากระเบิดนั้นก็คือการหมอบลงบนพื้นดินนั่นเอง ถึงแม้ว่าจะมีคลื่นแรงกระแทกแต่ก็ปลอดภัยที่สุดแล้ว

 

ตามแนวคิดดั้งเดิมของโลกเดิมที่อาเบลอยู่นั้น กระสุนปืนใหญ่ในสมัยอดีตนั้นทำมาจากเปลือกหอยนั่นเอง เมื่อกระสุนปืนใหญ่กระแทกเข้ากับเป้าหมายแล้วเศษเปลือกหอยของกระสุนปืนนั้นจะทำความเสียหายกับผู้คนที่อยู่โดยรอบนั่นเอง ดังนั้นแล้วเพื่อที่จะลดความเสียหายจากแรงระเบิดและลูกปรายได้อาเบลจึงตัดสินใจที่จะสร้างโล่ห์เล็กๆ แขวนไว้ที่รอบเอวของตัวเอง ถ้าหากเกิดสถานการณ์ที่จวนตัวจริงๆ อาเบลจะสามารถใช้ระเบิดและนอนราบก่อนที่จะใช้โล่ห์เล็กๆ ที่เตรียมมานั้นลดความเสียหายจากระเบิดได้นั่นเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด