Abe the Wizard 105 ฝึกสมาธิ

Now you are reading Abe the Wizard Chapter 105 ฝึกสมาธิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Abe the Wizard (AtW)

AtW ตอนที่ 105 ฝึกสมาธิ

หลังจากที่อาเบลได้ทานอาหารค่เสร็จ ตัวเขานั้นก็ได้พักผ่อนร่างกายโดยการนั่งนั่งขัดตะหมาดอยู่บนเตียง ตามที่ “เทคนิคการทําสมาธิเบื้องต้นของเหล่าจอมเวทย์” ได้บอกเอาไว้การที่จะฝึกฝนทําสมาธิที่ดีที่สุดนั้นก็คือการทําสมาธิในท่าที่ผ่อนคลายมากที่สุดนั่นเอง และจากโลกเดิมที่ตัวเขาได้จากมานั้นทําให้อาเบลรู้ว่าการนั่งนั่งขัดตะหมาดนั้นเหมาะสําหรับการทําสมาธิมากที่สุดแล้ว

อาเบลได้ใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นของตัวเองอีกครั้ง ตัวเขานั้นได้คุ้นเคยไปกับการฝึกฝนพลังแห่งความมุ่งมั่นโดยการเขียนรูนไปแล้ว ในตอนที่อาเบลได้หยิบพู่กันออกมา พู่กันอันนั้นก็ได้ดูดซับมานาที่มีอยู่ในหอคอยเวทย์มนตร์ในทันที และเมื่อพู่กันดูดซับมานาจนเต็มที่แล้วอาเบลก็ได้เริ่มเขียนรูนขึ้นในทันที แต่ดูเหมือนว่าอาเบลจะไม่ได้เขียนรูนได้จนสมบูรณ์แบบ ตัวเขานั้นได้หยุดชะงักอย่างกระทันหันแทนอาเบลได้ ใช้แรงในการเขียนรูนมากเกินไปจังหวะที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจจะทําให้อาเบลไม่สามารถทําสมาธิได้

เนื่องจากพลังแห่งความมุ่งมั่นที่อาเบลมีนั้นมันมีพลังมหาศาล ตอนนี้เขาจึงรู้สึกถึงความแตกต่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น งั้นเริ่มใหม่แล้วกัน หลังจากที่คิดได้แบบนั้นอาเบลก็ได้สะบัดพู่กันด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่นอีกครั้งในตอนที่เริ่มสะบัดพู่กันอาเบลก็ได้ทําให้จิตใจของตัวเองนั้นว่างเปล่าตามไปด้วย

ในครั้งนี้อาเบลได้ระวังมากขึ้น ตัวเขาเข้าใจแล้วว่าการจะทําสมาธิในแบบของจอมเวทย์นั้นมีความยากยังไง และเมื่อคิดได้แล้วว่าการทําสมาธินั้นยากแค่ไหนอาเบลก็ได้แต่คิดถึงเหล่าผู้ฝึกฝนเป็นจอมเวทย์ที่อยู่ด้านนอกของหอคอยเวทย์มนตร์แห่งนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาทุกคนนั้นจะมีพลังแห่งความมุ่งมั่นเป็นของตัวเอง แม้ว่าความแข็งแกร่งของพลังนั้นจะเป็นปริศนาก็ตามที แต่อาเบลก็เห็นแล้วว่ามีชายชราผมเทาปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ฝึกตนนั้นด้วย ดูเหมือนว่าชายชราพวกนั้นที่อาเบลได้เห็นจะเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าการทําสมาธิแบบจอมเวทย์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

อาเบลได้ใช้เวลาตลอดทั้งคืนคืนนั้นในการฝึกเขียนรูนต่อไป แม้ว่าอาเบลได้ทําความผิดพลาดในครั้งแรก แต่เมื่อตัวเขานั้นได้ฝึกเขียนต่อไปจนถึง 10 ครั้ง และ 20 ครั้ง อาเบลก็ยังอยู่ไกลจากความสําเร็จอยู่ดีตอนนี้ตัวเขารู้สึกว่าหัวของเขาจะต้องระเบิดอย่างแน่นอนถ้าหากเขายังคงฝึกเขียนรูนต่อไป

อาเบลรู้สึกแล้วว่าตอนนี้ได้มาถึงขีดจํากัดของเขา ตามที่ “เทคนิคการทําสมาธิเบื้องต้นของเหล่าจอมเวทย์” ได้บันทึกเอาไว้ หากใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นมากจนเกินไป ไม่เพียงแต่ร่างกายจะรู้สึกอ่อนล้าเท่านั้นจิตวิญญาณของตัวเขานั้นก็จะได้รับความเสียหายไปด้วย ดังนั้นแล้วอาเบลจึงตัดสินใจที่จะพักผ่อน

อาเบลได้เอนตัวลงไปนอนที่เตียงของเขา แม้ว่าอาเบลจะใช้พลังแห่งความมุ่งมั่น ไปจนร่างกายอ่อนล้า แต่ตัวเขานั้นก็รู้สึกตื่นเต้นกับการฝึกฝนอยู่ดีการจะฝึกฝน”เทคนิคการทําสมาธิเบื้องต้นของเหล่าจอมเวทย์” ให้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยสุดท้าย แล้วอาเบลก็ได้เผลอหลับไป ในตอนที่เขาหลับนั้นอาเบลอยู่ในสถานะกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ตอนนั้นเองอาเบลรู้สึกได้ว่าตัวเขานั้นได้จับพู่กันเขียนรูนอีกครั้ง หลังจากที่เริ่มเขียนรูนภายในใจ ในที่สุดอาเบลก็สามารถฝึกฝนจนสมบูรณ์แบบได้

ในตอนนี้อาเบลยังรู้สึกได้ว่าพู่กันเขียนหมึกที่ถูกจินตนาการขึ้นมานั้นยังคงขยับต่อไป เมื่อพู่กันขยับมันก็เริ่มที่จะดูดซับมานาอย่างต่อเนื่อง และในไม่ช้พู่กันเขียนรูนก็สามารถเขียนรูนออกมาได้สมบูรณ์แบบ

เช้าวันรุ่งขึ้นเองอาเบลจําได้ว่าตัวเขานั้นได้ฝันไปว่ากําลังเขียนรูนเพื่อที่จะฝึกตาม “เทคนิคการทําสมาธิเบื้องต้นของเหล่าจอมเวทย์” อาเบลได้แต่คิดว่าตัวเขานั้นได้ฝันกลางวันไปก่อนที่จะหัวเราะออกเยาะเย้ยตัวเองออกมา

ทันใดนั้นเอง…ร่างกายของอาเบลก็ได้แข็งที่อไป ตอนนี้เขารู้แล้วว่าตัวเขานั้นได้กลายเป็นจอมเวทย์ฝึกหัดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนว่าการฝึกฝนภายในจิตใจนั้นจะได้ผล นั้นไม่ใช่แค่การฝันไป แต่นั้นคือความจริง อาเบลได้ฝึกเขียนรูนจนสําเร็จได้ภายในความฝันของตัวเอง

อาเบลไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว เหตุการณ์ตอนนี้ทําให้ตัวเขานั้นนึกถึงตัวเองที่สามารถสร้างดาบแห่งร้อยทักษะและสามารถเขียนรูนได้ในครั้งแรก ความรู้สึกที่สามารถฝึกฝนจนสําเร็จได้มันชัดเจนสําหรับอาเบลมาก ดูเหมือนว่าตอนนี้อาเบลจะมีสถานะแห่งการหยั่งรู้แบบชั่วพริบตา

สถานะการหยั่งรู้แบบชั่วพริบตานั้นเป็นสถานะแห่งความคาดหวัง โดยเมื่อเข้าสู่สถานะนี้ได้ผู้ที่เข้าถึงนั้นจะไม่สามารถวางแผนอะไรได้อีกต่อไป และนอกจากนี้เองยังทําให้ผู้ที่เข้าถึงสามารถปลดปล่อยการตอบสนองตามสัญชาตญาณโดยที่คนอื่นๆนั้น ไม่สามารถที่จะเข้าใจได้อีกด้วย

อาเบลหยิบ “เทคนิคการทําสมาธิเบื้องต้นของเหล่าจอมเวทย์” ออกมาอีกครั้งตอนนี้หัวใจของเขากําลังเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อตัวเขานั้นกําลังเปรียบเทียบขั้น ตอนการฝึกกับการฝึกของตัวเอง
หลังจากนึกถึงการฝึกออกทั้งหมดอาเบลก็เริ่มสะบัดพู่กันขึ้นมาอีกครั้งในแบบเดิมตอนนี้เขาได้ใช้นิ้วของเขาเคลื่อนไหวไปตาม “เทคนิคการทําสมาธิเบื้องต้นของเหล่าจอมเวทย์” จนท้ายที่สุดแล้วอาเบลก็สามารถทําจนเสร็จได้ ตอนนี้เขาสามารถทําตามขั้นตอนการฝึกได้เหมือนกันทุกประการแล้ว

อาเบลได้เผลอหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งใจ ดูเหมือนว่าการฝึกฝนภายในฝันของเขานั้นจะไม่มีปัญหาในแบบที่คิดไว้ ตอนนี้อาเบลได้กลายเป็นจอมเวทย์ฝึกหัดระดับ 1 ไปเป็นที่เรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปที่อาเบลจะต้องฝึกฝนนั้นคือการเติมเต็มมานานั่นเอง ขั้นตอนนี้ใช้เวลานานกว่าขั้นตอนที่แล้วมาก โดยปกติแล้วการที่จะเติมเต็มมานาให้มีประสิทธิภาพนั้นเหล่าจอมเวทย์ทั้งหลายจะต้องใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นของตัวเองในการดูดซับมานาแหล่าจอมเวทย์ทั้งหลายจะต้องดูดซับมานามาจนเปลี่ยนมานาให้กลายเป็นวัตถุทางกายภาพได้เมื่อทําได้ดังนั้นแล้วการฝึกฝนในขั้นตอนนี้ก็จะเสร็จสมบูรณ์

เมื่ออาเบลจะเริ่มฝึกขั้นต่อไปทันใดนั้นเองตัวเขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดูเหมือนว่าแซมจะกลับมาแล้วนั่นเอง “อาเบล เกิดอะไรขึ้นกับนายกัน ทําไมวันนี้นายไม่ได้ทําความสะอาดอย่างงั้นหรอ?”

ถ้าฟังจากน้ําเสียงแล้วอาเบลรู้ได้ทันทีว่าแซมนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะตาหนิอะไรเขาดูเหมือนว่าแซมจะกังวลเฉยๆ

“ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ” อาเบลไม่ได้อธิบายอะไรให้กับแซมฟังตรงๆ อาเบลได้เดินไปที่ห้องแซมในทันที

“อาเบล!” เสียงเรียกของจอมเวทย์แซมได้ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้อาเบลได้เดินออกจากห้องของเขาไปแล้ว เขาจึงไม่ได้ยินเสียงแล้วนั่นเอง

ก๊อก ก๊อก… “เข้ามาสิ” จอมเวทย์แซมได้พูดขึ้น

อาเบลเปิดประตูห้องและเข้ามาอย่างรวดเร็ว คําพูดแรกที่แซมได้พูดกับอา เบลในวันนี้ทําให้ตัวอาเบลนั้นรู้สึกผิด “คุณแซม ผมขอโทษครับ พอดีผมนอนดึกไปหน่อย ตอนนี้ผมจะเริ่มทําความสะอาดแล้ว”

“รอก่อน!” แซมได้หยุดอาเบลไว้ ตอนนี้สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ ตัวเขากลืนน้ําลายก่อนที่จะพูดด้วยน้ําเสียงอ่อนโยนออกมา “นายฝึกฝน “เทคนิคการทําสมาธิเบื้องต้นของเหล่าจอมเวทย์” เมื่อวานนี้อย่างงั้นหรอ?”

เมื่อวานนี้เองอาเบลเพิ่งจะฝึกเขียนรูนจนตัวเขานั้นกลายเป็นจอมเวทย์ฝึกหัดระดับ 1 ไปตอนนี้ยังคงมีคลื่นของพลังเวทย์มนตร์หลงเหลืออยู่บนร่างกายของตัวเขาเองแซมที่เข้าใจดีว่าการฝึกสมาธิในแบบของนักเวทย์เป็นยังไง ดังนั้นแล้วตัวเขาจึงสัมผัสได้ว่าอาเบลนั้นไม่เหมือนเดิม

“ใช่แล้วครับคุณแซม” อาเบลได้หยุดพักครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อไป “การจะฝึกสมาธิในแบบของจอมเวทย์ได้เป็นอะไรที่ยากมากผมใช้เวลาเกือบทั้งคืนกว่าที่จะจดจํารูปแบบในการฝึกฝนได้ และหลังจากนั้นผมก็ได้ฝึกฝนสมาธิภายในใจตลอดทั้งคืน”

“แล้วนายเติมเต็มมานาได้ไหม?” แซมได้ถามอาเบลด้วยท่าทีที่สบายๆ

แซมรู้ดีว่าตอนนี้อาเบลสามารถฝึกเขียนรุนในรูปแบบของการฝึกสมาธิได้สําเร็จแล้ว แต่ถึงจะทําสําเร็จได้ก็ไม่ได้หมายความว่าคนคนนั้นจะกลายเป็นจอมเวทย์ฝึกหัดระดับ 1 ได้ มีผู้ศึกษาการใช้เวทย์มนตร์ที่สามารถเขียนรูนได้อย่างสมบูรณ์แบบจํานวนมาก แต่ตราบใดที่พวกเขานั้นยังคงทําข้อผิดพลาดแม้แต่เพียงเล็กน้อย พวกเขาเหล่านั้นก็จะไม่สามารถเติมเต็มมานาได้นั่นเอง ดังนั้นแล้วพวกเขาจะต้องทิ้งรูปแบบการฝึกฝนนั้นไปและเริ่มฝึกฝนใหม่ตั้งแต่ต้น

แซมรู้อยู่แล้วว่าอาเบลนั้นเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ ดังนั้นแล้วไม่ว่ารูปแบบที่อาเบลได้ฝึกฝนนั้นจะถูกต้องไหม แต่ภายในคืนเดียวนั้นเขาก็สามารถฝึกฝนจนได้ ความจริงในเรื่องนี้ได้ยืนยันแล้วว่าอาเบลไม่ใช่เด็กที่มีพรสวรรค์ธรรมดาๆซะแล้ว

ตอนนี้หัวใจของแซมได้ถูกสิ่งที่เรียกว่าความสุขเติมเต็มไปเป็นที่เรียบร้อย เดิมที่ แล้วเหล่าจอมเวทย์นั้นไม่ใช่หมาป่าเดียวดายเสมอไปถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีอายุที่ยาวนานกว่าคนธรรมดาทั่วไปก็ตามที แต่บ่อยครั้งแล้วจอมเวทย์ทั้งหลายก็เลือกที่จะเป็นเพื่อนกับคนธรรมดาทั่วไปด้วยเหตุนี้เองจึงทําให้เหล่าจอมเวทย์ทุกคนนั้นรักเพื่อนผองเป็นอย่างมากพวกเขาจะเชื่อใจและถือความเป็นมิตรเหล่านั้นเอาไว้เป็นเหมือนกับเกียรติอันสูงสุด

ตอนนี้อาเบลคงจะมีความสามารถมากพอที่จะเป็นจอทเวทย์ระดับ 6 ได้ แซมมันใจในเรื่องนี้ดีนี่คือเหตุผลที่ทําให้แซมอยากที่จะสร้างสัมพันธ์อันดีกับอาเบลให้ได้มากที่สุด

“คุณแซม ผมจะลองฝึกอีกที่ในตอนที่ผมทําความสะอาดเสร็จ” อาเบลรู้สึกสับสนเล็กน้อยว่าทําไมแซมถึงดูรีบร้อนอะไรแบบนี้ตอนนี้สิ่งที่อาเบลทําได้นั่นก็คือการทําความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ต่อไป

แซมได้ยื่นมือออกไปเพื่อที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของเขา “นายไม่ต้องกังวลถึงเรื่องทําความสะอาดหรอกลองตอนนี้เลยสิ ฉันอยากจะเห็นด้วยตาของตัวเองว่านายสามารถเติมเต็มมานาได้ไหม”

“ได้เลยครับคุณแซม”

อาเบลนั่งลงบนพื้นก่อนที่จะเริ่มดูดซับมานาในอากาศด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่นในทันที ภายในหอคอยเวทย์มนตร์นั้นมีมานาอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ดังนั้นแล้วนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่ยากสําหรับอาเบลเลย อาเบลได้เริ่มนํามานาที่รวบรวมได้สะบัดมือไปในอากาศรูป แบบการสะบัดมือของอาเบลนั้นเป็นรูปแบบ พลังแห่งความมุ่งมั่นของเขาค่อยๆ ที่จะดูดซับมานาอย่างช้าๆ อย่างต่อเนื่องและปลดปล่อยพลังออกมาไปในอากาศในเวลาเดียวกัน

แม้ว่ารูปแบบที่อาเบลได้ทํานั้นจะไม่ได้ดูใหญ่อะไรแต่มันก็เต็มไปด้วบพลังงาน และโค้งจํานวนมากนับไม่ถ้วน ถ้าหากจะดูจริงๆ แล้วละก็รูปแบบที่อาเบลได้สร้างขึ้นนั้นดูยาวมาก อาเบลได้ใช้เวลาไปกว่า 2 ชั่วโมงกว่าที่จะสะบัดมือตามรูปแบบที่เขาทําได้จนเสร็จ โดยทุกๆ วินาทีในการทําสมาธินั้นอาเบลได้ใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นในการเติมเต็มตลอดเวลา

หลังจากที่ดูอาเบลแสดงการฝึกฝนทั้งหมดแซมก็ไม่ได้พูดอธิบายอะไรให้กับอา เบลได้ฟังอีกตอนนี้ร่างกายของอาเบลได้เต็มไปด้วยแสงสีฟ้า แสงสีฟ้านี้เองเป็นตัวบ่งบอกชั้นดีว่าอาเบลนั้นสามารถฝึกฝนได้สําเร็จ ตั้งแต่ที่แซมเกิดมาตัวเขานั้นไม่เคยเห็นอัจฉริยะกับตามาก่อน แต่ตอนนี้ตัวเขาได้เห็นอัจฉริยะแห่งโลกจอมเวทย์ด้วยตาของตัวเขาเองแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด