Abe the Wizard 45 เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

Now you are reading Abe the Wizard Chapter 45 เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

AtW ตอนที่ 45 เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

 

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย

 

อาเบลรู้สึกว่ามีอะไรบางสิ่งบางอย่างกำลังกัดขาของเขาอยู่ ในขณะที่อาเบลกำลังมองไปที่พื้นดินอาเบลก็มองเห็นลมทมิฬกำลังใช้ฟันของมันแทะขากางเกงของอาเบลอยู่อย่างสนุกสนาน อาเบลที่เห็นลมทมิฬเป็นแบบนั้นก็ได้อุ้มลูกหมาป่าตัวนี้ขึ้นมาด้วยความนุ่มนวล ตอนนี้ลมทมิฬยังคงเป็นลูกหมาป่าตัวจิ๋วในสายตาของอาเบล ถึงแม้ว่ามันจะยังเด็กอยู่แต่เงินที่ใช้สำหรับเลี้ยงดูลมทมิฬนั้นมากพอๆ กับเงินที่ใช้เลี้ยงม้าโตเต็มวัยเลย

 

หลังจากถูกรบกวนโดยลมทมิฬแล้วอาเบลก็ไม่ได้มีแรงบันดาลใจในการฝึกใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นอีกต่อไป ไม่นานนักอาเบลก็เดินตรงกลับไปที่เตียงของเขา ในตอนนี้ลมทมิฬยังอยากที่จะเล่นต่อ มันจึงดิ้นไม่หยุดอยู่ในอ้อมแขนของอาเบล ดูเหมือนว่าลมทมิฬจะไม่สามารถไปไหนได้จนกว่าอาเบลจะนอนหลับสนิท

 

ในบ่ายวันถัดมาอาเบลได้รู้สึกคันที่ใบหน้าของตัวเองก่อนที่จะลืมตาตื่นขึ้นมา ลมทมิฬได้ใช้ลิ้นของมันเลียใบหน้าของอาเบลอยู่นั่นเอง เมื่ออาเบลลืมตาตื่นขึ้นลมทมิฬก็เห่าใส่อาเบลเพื่อเป็นการทักทาย อาเบลรู้สึกได้ว่าตอนนี้ลมทมิฬกำลังมองหาอาหารอยู่ โดยปกติแล้วคนรับใช้ในปราสาทจะมาให้อาหารลมทมิฬในทุกๆ เช้า แต่วันนี้อาเบลยังคงนอนอยู่ในห้อง ดังนั้นแล้วคนรับใช้ทั้งหลายจึงไม่กล้าที่จะรบกวนอาเบลนั่นเอง

 

มีสาวใช้คนหนึ่งเข้ามาทันทีหลังจากที่อาเบลได้สั่นกระดิ่งเรียกบนเตียง โดยปกติแล้วอาเบลจะไม่ค่อยให้เหล่าบริวารรับใช้เข้ามายุ่งวุ่นวายกับเขามากนัก นอกจากอาเบลต้องการเวลาส่วนตัวแล้วเหล่าบริวารรับใช้ทั้งหลายต่างก็มีงานที่ต้องทำมากมายอยู่แล้ว ถ้าหากอาเบลได้ไปอยู่ในบ้านของครอบครัวอื่นแล้ว เขาจะต้องมีสาวใช้ที่อายุยังน้อยและน่ารักเป็นของตัวเองอย่างแน่นอน

 

หลังจากที่อาเบลได้ไหว้วานให้สาวใช้คนนั้นดูแลลมทมิฬอาเบลก็ล้างมือก่อนที่จะตามหาพ่อบ้านลินด์เซ่ต่อไป

 

“มีอะไรให้รับใช้ครับนายน้อย?” พ่อบ้านลินด์เซ่พูดทักทายอาเบลพร้อมกับโค้งคำนับ

 

“ผมอยากให้คุณหาอะไรบางอย่างให้กับผมหน่อย” อาเบลพูดในขณะที่หยิบเงินออกมา 2000 เหรียญ “ผมอยากให้คุณช่วยหาซื้อรถม้าที่ดีที่สุดให้ผมหน่อย”

 

พ่อบ้านลินด์เซ่กำลังดูสับสนอยู่หลายวินาที ในปราสาทแฮรี่ตอนนี้ไม่ได้ขาดแคลนรถม้าแต่อย่างใด ในตอนนี้มีรถม้าอยู่ในปราสาททั้งหมด 2 คันด้วยกันโดยรถม้าหนึ่งในนั้นเป็นรถม้าสำรองสำหรับอัศวินมาแชลนั่นเอง “ถ้าหากนายน้อยต้องการแล้วละก็ตอนนี้พวกเรายังมีรถม้าที่ยังไม่ได้ใช้งานอยู่นะครับ” พ่อบ้านลินด์เซ่ตอบกลับ

 

อาเบลที่ได้ฟังอธิบายต่อไป “นั่นคงไม่เหมาะสำหรับงานชิ้นใหม่ที่ผมกำลังทำอยู่ ผมต้องรีบทำรถม้าสุดหรูหราให้ได้เร็วที่สุด ผมอยากที่จะทำรถม้าคันใหม่ให้เสร็จภายใน 10 วัน คุณคงรู้ใช่ไหมว่าผมหมายถึงอะไร”

 

“สิบวันอย่างงั้นหรอ? โอเค ได้เลยครับท่าน ผมจะให้คนเตรียมพร้อมเอง”

 

ในขณะที่พ่อบ้านลินด์เซ่ตอบกลับอาเบลเขาก็ยิ้มให้กับอาเบลคล้ายกับจะบอกกับอาเบลว่าเขาเข้าใจสิ่งที่อาเบลต้องการดี

“ผมจะหาคนที่ไปซื้อรถม้าที่ดีที่สุดให้กับนายน้อยเอง แน่นอนว่าผมจะให้เขาไปส่งรถม้าให้กับโรงตีเหล็กอย่างเงียบที่สุดด้วย”

 

“ขอบคุณมากครับคุณลินด์เซ่” อาเบลพูดขอบคุณพ่อบ้านลินด์เซ่ ตอนนี้อาเบลต้องการที่จะทำของขวัญวันเกิดให้กับอัศวินมาแชลนั่นเอง

 

หลังจากที่ได้แยกจากกับพ่อบ้านลินด์เซ่แล้ว อาเบลก็ได้ยืดเอวของเขาก่อนที่จะชกอากาศไปอีกหลายครั้ง ตอนนี้อาเบลได้ฟื้นฟูพลังลมปราณให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ตราบใดที่อาเบลไม่ได้ใช้พลังลมปราณในการต่อสู้ร่างกายของอาเบลก็ยังคงอยู่ในสภาพที่ดีเช่นนี้ ด้วยเรี่ยวแรงที่ยังมีเหลืออยู่มากอาเบลตัดสินใจที่จะทำตามไอเดียของเขาก่อนหน้านี้ อาเบลตัดสินใจที่จะสร้างสุดยอดดาบเวทย์น้ำแข็ง

 

อาเบลรีบไปที่โรงตีเหล็กของปราสาทแฮรี่ทันที อาเบลทักทายทุกๆ คนรวมไปถึงอาจารย์เบธแฮม อาเบลไม่รอช้าเขารีบเข้าไปในห้องตีเหล็กส่วนตัวพร้อมกับแบบวาดพิมพ์เขียวของตัวเองในทันที

 

 

ประตูห้องตีเหล็กส่วนตัวของอาเบลได้ถูกปิดลง นับตั้งแต่อาเบลเป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กก็ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาภายในห้องของอาเบลโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต อาจารย์เบธแฮมเองก็ไม่กล้าเข้ามาเช่นกัน ตอนนี้อาเบลเป็นบุคคลที่ทุกคนนั้นเคารพนับถือกันหมด ทุกคนยอมให้พื้นที่ส่วนตัวสำหรับอาเบลในการทำงานเพื่อแลกมากับคำแนะนำในการทำงานของปรมาจารย์ช่างตีเหล็กอย่างอาเบล

จริงๆ แล้วอาจารย์เบธแฮมต้องการที่จะคุยกับอาเบลในวันนี้ ตั้งแต่ที่อาจารย์เบธแฮมเห็นอัศวินมาแชลสะภายดาบใหญ่ทั้งสองข้างไว้ด้านหลังเมื่อเช้านี้เขาก็รู้ได้ทันทีว่าอาเบลได้ทำผลงานชิ้นเอกออกมาอีกอย่างแน่นอน เท่าที่เบธแฮมรู้จักกับอัศวินมาแชลมา เขารู้ดีว่าถ้าหากดาบของอัศวินมาแชลไม่ได้ดีจริงอัศวินมาแชลก็คงไม่พกดาบทั้งสองเล่มให้หนักเช่นนี้ ดูเหมือนว่าดาบที่อัศวินมาแชลพกไปเป็นเล่มที่สองนั้นจะต้องมีพลังอะไรบางอย่างสำหรับการอวดผู้อื่นอย่างแน่นอน

 

อาจารย์เบธแฮมนั้นมีคำถามอีกมากมายที่อยากจะถามอาเบล แต่เมื่อเห็นอาเบลรีบตรงมาทักทายก่อนที่จะกลับไปในห้องตีเหล็กของเขา เบธแฮมก็ตัดสินใจที่จะไม่ถามอีกต่อไป ตอนนี้เขาอยากให้อดีตลูกศิษย์อย่างอาเบลนั้นจดจ่ออยู่กับงานต่อไป ถ้าอาเบลยังคงทำงานด้วยความตั้งใจแน่นอนว่าเขาจะต้องอยู่ในจุดสูงสุดของยอดช่างฝีมืออย่างแน่นอน

 

ในอดีตมักจะมีข่าวลือที่ว่า เมื่อใดก็ตามที่มีใครบางคนได้กลายเป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กไป เมื่อถึงตอนนั้นคนๆ นั้นจะผลิตผลงานที่เต็มไปด้วยคุณภาพออกำมามากมายในช่วยเวลานั้น ปรากฎการณ์นี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ปรากฎการณ์ระเบิดพลังแห่งการสั่งสม” ด้วยปรากฎการณ์นี้เองจะทำให้มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ถูกผลิตออกมาในช่วงเวลาติดๆ กัน

 

ในตอนนี้บางทีอาเบลอาจจะอยู่ “ปรากฎการณ์ระเบิดพลังแห่งการสั่งสม” ก็เป็นได้ นี้คือสิ่งที่เบธแฮมพอจะคิดออกนั่นเอง โดยปกติแล้วช่วงเวลานี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก ด้วยเหตุนี้เองเบธแฮมจึงไม่อยากที่จะไปขัดขวางปรมาจารย์ช่างตีเหล็กหนุ่มคนนี้

 

ตอนนี้อาเบลได้ทำดาบแห่งร้อยทักษะน้อยลงกว่าเดิมมาก ดาบที่อาเบลได้สร้างขึ้นในตอนนี้ส่วนมากจะเป็นดาบที่มีรูสำหรับเอาไว้ใส่อัญมณีเวทย์มนตร์ อาเบลทำดาบแบบนี้ออกมาโดยที่ไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าจะใส่รูนหรืออัญมณีอะไรลงไปในดาบเล่มนั้น

 

อาเบลหยิบหมึกสำหรับการเขียนรูนน้ำแข็งขึ้นมา 3 ขวดก่อนที่จะใส่ลงไปในฮอร์ราดริกคิวบ์ หลังจากเสร็จสิ้นการผสมอาเบลก้ได้หมึกระดับกลางสำหรับการเขียนรูนน้ำแข็งนั่นเอง ตอนนี้หมึกระดับกลางขวดนั้นกำลังส่องแสงประกายสีน้ำเงินออกมา

 

หลังตจากที่เตรียมพร้อมทุกอย่างเสร็จแล้วอาเบลก็ได้จุ่มพู่กันของเขาลงไปในหมึกขวดใหม่ทันที อาเบลได้วาดรูนน้ำแข็งลงไปในดาบเล่มหนึ่ง โชคดีที่พลังแห่งความมุ่งมั่นของอาเบลไม่ได้หมดลงไปกลางคันในระหว่างที่เขียนรูนขึ้น หลังจากนั้นขั้นตอนอื่นๆ ก็ง่ายสำหรับอาเบลแล้ว หลังจากที่พักตัวซักพักอาเบลก็สามารถที่จะฟื้นฟูพลังแห่งความมุ่งมั่นกลับมาได้

หลังจากที่พักไปครู่หนึ่งอาเบลก็ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการตรวจสอบว่าพลังแห่งความมุ่งมั่นของเขาตอนนี้ยังเหลืออยู่ไหม เห็นได้ชัดว่าความสามารถในการใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นของอาเบลนั้นเพิ่มสูงขึ้นมาแล้ว ถ้าหากอาเบลไม่ฝึกเขียนรูนก่อนหน้านี้อาเบลก็คงจะไม่สามารถสัมผัสได้เลยว่าพลังของเขานั้นเหลือเท่าไหร่

 

หลังจากตรวจสอบทุกอย่างจนแน่ใจแล้วว่าตอนนี้ไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ กับอาเบล อาเบลก็ได้หยิบอัญมณีที่สีฟ้าที่สมบูรณ์แบบที่สุดออกมาจากฮอร์ราดริกคิวบ์ของเขา จากนั้นอาเบลก็ได้ปรับรูปทรงของอัญมณีให้พอดีกับรูที่จะใส่ด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ที่เขามี ในขณะที่อาเบลปรับแต่งเสร็จแล้วอาเบลจะต้องใส่อัญมณีด้วยความระมัดระวังต่อไป

 

ตอนนี้พลังแห่งความมุ่งมั่นของอาเบลนั้นกลับมาพร้อมสำหรับการใช้งานแล้ว อาเบลได้ชักนำพลังจากรูนและอัญมณีสีฟ้าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้อาเบลต้องชักนำด้วยความระมัดระวังมากกว่าเดิม อัญมณีสีฟ้าที่อาเบลใช้ในครั้งนี้สมบูรณ์แบบกว่าครั้งไหนๆ ที่เขาเคยทำ

 

ยิ่งอาเบลใส่พลังแห่งความมุ่งมั่นของเขาไปมากเท่าไรพลังงานที่อาเบลจะชักนำได้ก็จะไหลเวียนได้เร็วมากยิ่งขึ้น แต่การชักนำพลังโดยขาดความระมัดระวังนั้นอาจจะทำให้ผลงานที่อาเบลทำนั้นพังทลายไปได้

 

เมื่อการชักนำพลังของอาเบลใกล้ที่จะเสร็จสมบูรณ์แสงสีฟ้าจากอัญมณีเองก็ได้เริ่มกระพริบขึ้นมาจากด้านใน พลังอันเยือกเย็นของอัญมณีเองกำลังไหลเข้าสู่จิตสำนึกของอาเบล ในตอนนี้พลังอันเยือกเย็นได้ไหลเข้ามาสู่อาเบลโดยตรงแล้ว อาเบลรู้สึกว่าพลังแห่งความมุ่งมั่นของเขากำลังถูกรบกวนอยู่ อาเบลจะต้องลืมความรู้สึกที่เกิดขึ้นไปก่อน เพราะถ้าอาเบลยังคงปล่อยให้พลังอันเยือกเย็นเข้าแทรกพลงแห่งความมุ่งมั่นของเขา พลังแห่งความมุ่งมั่นจะหายไปนั่นเอง และในขณะเดียวกันอาเบลก็ยังคงต้องชักนำพลังต่อไป

 

ตอนนี้ที่มือของอาเบลกำลังเต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลออกมาจำนวนมาก ตอนนี้อาเบลกำลังรู้สึกกังวลใจมากขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วของพลังแห่งความมุ่งมั่นที่อาเบลใช้ชักนำพลังนั้นได้เพิ่มมากขึ้นถึง 2 เท่าแล้ว พลังอันเยือกเย็นที่คอยก่อกวนอาเบลนั้นไม่สามารถที่จะหยุดความเร็วของอาเบลได้เลย

 

อาเบลได้ใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นในการชักนำพลังต่อไปเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้อาเบลก็ไม่ได้สัมผัสได้ถึงความผันผวนเลย สุดท้ายแล้วอาเบลก็ชำนำพลังจนเสร็จนสิ้น

 

หลังจากเสร็จสิ้นการชักนำพลังแสงสีฟ้าก็เปล่งประกายขึ้นอีกครั้ง ในตอนแรกที่อาเบลคิดว่าสามารถสร้างดาบเล่มนี้สำเร็จแล้วแต่ตอนนี้อาเบลกลับได้ยินเสียงแตกของดาบจากหลายๆ จุดพร้อมกัน ดูเหมือนว่าพลังแห่งความหนาวเย็นจะมีมากเกินกว่าที่ดาบจะรับได้

 

ในตอนที่อาเบลได้ยินเสียงดาบแตกออก อาเบลไม่รอช้าเขารีบโยนดาบเวทย์น้ำแข็งลงไปในฮอร์ราดริกคิวบ์ทันที ในตอนนี้อาเบลไม่ได้ต้องการที่จะหลอมรวมอะไรแต่อย่างใด อาเบลแค่ต้องการให้คิวบ์ที่เขามีนั้นหยุดเวลาเอาไว้ก่อน

 

ตอนนี้เหงื่อได้ไหลออกมาจากใบหน้าของอาเบลอย่างไม่หยุดยั้ง อาเบลจะต้องเดิมพันกับชีวิตนับตั้งแต่สร้างดาบเล่มนี้ ถ้าหากเป็นอัญมณีธรรมดาแล้วละก็แรงระเบิดของดาบที่ถูกสร้างอย่างล้มเหลวนั้นจะต้องทำให้อาเบลหมดสติไปอย่างแน่นอน แต่อัญมณีที่อาเบลใช้สร้างดาบในตอนนี้เป็นอัญมณีสีฟ้าที่สมบูรณ์แบบที่สุด (อัญมณีสีฟ้าที่ได้จากการผสมอัญมณีเลียนแบบ 9 ชิ้นด้วยกัน) แน่นอนว่าพลังระเบิดของมันจะต้องรุนแรงกว่าดาบที่อาเบลเคยสร้างอย่างแน่นอน

 

โล่ห์ชนิดไหนกันที่จะสามารถป้องกันแรงระเบิดของไดนาไมต์ได้ แล้วกำแพงล่ะ? ยิ่งอาเบลคิดมากเท่าไหร่โอกาสที่อาเบลจะสามารถเอาชีวิตรอดได้ก็น้อยลงถ้าหากอาเบลมัวแต่คิดมากและรอดาบระเบิด

 

ดาบที่อาเบลใช้นั้นเป็นดาบแห่งร้อยทักษะ แน่นอนว่าดาบแห่งร้อยทักษะมีความสามารถในการต้านทานแรงต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม อาเบลรู้ดีว่าดาบแห่งร้อยทักษะที่เขาสร้างนั้นแข็งแกร่งไม่พอที่จะรับผลกระทบจากอัญมณีสีฟ้าที่สมบูรณ์แบบ อาเบลควรจะเก็บดาบเล่มนี้ไว้ในคิวบ์ของเขาต่อไปดีไหม? ถ้าหากอาเบลตัดสินใจที่จะเอาดาบเล่มนี้ออกมาในอีก 3 วินาทีอาเบลจะต้องปกป้องร่างกายของตัวเองให้ทันนั่นเอง

 

ในเวลา 3 วินาทีนั้นไม่ได้สั้น แต่ก็ไม่ได้ยาวนานเช่นเดียวกัน อาเบลเคยคิดมาว่าการขุดหลุมยักษ์ก่อนหน้านี้อาจจะเป็นวิธีที่ใช้ได้ แต่อาเบลก็ล้มเลิกความคิดนั้นไป ถ้าหากแรงระเบิดมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า แน่นอนว่าทั้งดินและหินที่อยู่ในบริเวณนั้นจะต้องลอยขึ้นมาจากแรงระเบิดอย่างแน่นอน ดินและหินพวกนั้นเองคงจะทำลายใบหน้าและร่างกายของอาเบลไปด้วย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด